ตอนที่ 1592 : การกลับมา (1)
โถงศักดิ์สิทธิ์ซึ่งกันทางเข้าอุโมงค์อยู่ลอยขึ้นมาบนอากาศโดยโอวหยางหยิงเว่ย, เฉียงซ่ง และผู้อาวุโสจากต่างโลก ตอนนั้นอุโมงค์ก็เปิดออกหลังจากที่ถูกกันมาถึง 20 ปี
เสียงระเบิดดังก้องไปทั่วห้องโถงจนทำให้ทั้งโถงนั้นสั่นไหวอย่างรุนแรง ทุกคนในโถงต่างก็รู้ว่าโถงนี้กระเด็นขึ้นมาบนฟ้า
หลายคนหน้าซีดไปพร้อมกับความคิดที่ว่างเปล่า พวกเขาต่างก็พากันสิ้นหวัง เมื่อไม่มีโถงคอยปกป้องพวกเขา ไม่ใช่แค่เจอกับจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมไม่กี่คน มันจะมีจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมอีกหลายสิบคนและเซียนจักรพรรดินับไม่ถ้วน
พวกเขาไม่มีโอกาสที่จะชนะได้เลยเมื่อมีความต่างด้านความแข็งแกร่งเช่นนี้
“ไปสู้กันเถอะ แม้ว่าเราจะตายแต่มันก็ดีกว่าที่จะตายในบ้านเกิด….”
” ข้าจะไปสู้กับพวกคนต่างโลก มันก็แค่ตายไม่ใช่หรือไง ? เราจะต้องกลัวอะไร ? ใครกันที่ไม่ตายบ้างในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ? เราอยู่มาหลาพันปีแล้วและเราก็จะรอดหากยังมีคนอื่นรอดไปได้ต่อ…”
“ถูกแล้ว จะต้องมากลัวอะไรกับอีแค่ความตาย ? แม้ว่าเราจะไม่ตายตอนนี้แต่เราจะจากไปเมื่อแก่เฒ่า มันคงมีวันนั้นในไม่ช้า ดังนั้นจึงไม่มีอะไรต้องมากลัว…”
หลายคนพูดขึ้นมาดังก้องไปทั่วห้องโถง พวกเขาต่างก็เด็ดเดี่ยวไม่กลัวความตายเลยแม้แต่น้อย มันไม่มีความเศร้าสลดเลยแม้แต่น้อย
บรรยากาศอันกดดันในห้องโถงสลายไปด้วยเสียงของพวกเขา หลายคนได้รับผลจากคำพูดเหล่านี้และทำให้ห้องโถงนั้นเต็มไปด้วยบรรยากาศที่ฮึกเหิม
แม้ว่าจะมีคนที่กลัวแต่มีคนที่ไม่กลัวมากกว่า ตอนนั้นหลายคนได้รวบรวมความกล้าที่จะสู้จนตัวตาย พวกรู้ว่าความพยายามของพวกเขาคงไร้ค่า แต่พวกเขาไม่อายที่จะพบกับผลลัพธ์เช่นนั้น
“ฮ่าฮ่า เจี้ยนเฉิน โผล่หัวออกมาซะ ข้าอยากเห็นว่าเจ้าจะเอาชนะเรายังไง…”
“เจี้ยนเฉิน เจ้าต้องชดใช้กับการทำให้ข้าอับอายเมื่อ 20 ปีก่อนพร้อมกับดอกเบี้ย มันทำให้ชื่อของข้าต้องแปดเปื้อนไปตลอดชีวิต ไม่ใช่แค่ข้าจะฆ่าเจ้า แต่ข้าจะฆ่าทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเจ้าด้วย จากนั้นข้าจึงจะได้กอบกู้ชื่อเสียงของตัวเอง….”
เสียงดังราวกับสายฟ้าสองเสียงดังขึ้นมาจากอุโมงค์ เสียงนั้นเปลี่ยนเป็นคลื่นเสียงที่น่ากลัวแผ่ไปทุกทิศทางและแผ่ไปทั่วทุกสิ่ง เสียงนั้นทำให้น้ำในแม่น้ำปะทุขึ้นมา แม้แต่ส่วนที่ห่างไกลออกไปหลายหมื่นกิโลเมตรก็ยังเปลี่ยนเป็นผุยผงเพราะคลื่นเสียงนี้
ถ้าไม่ใช่ความจริงที่ว่ามันยากจะมีคนอยู่รอบ ๆ งั้นคลื่นเสียงนี้ก็คงทให้คนตายนับไม่ถ้วนไปแล้ว เสียงของขั้นแลกเปลี่ยนทั้งสองนั้นทรงพลังจนแม้แต่เซียนคุ้มกฎก็ยังได้รับบาดเจ็บ จอมยุทธที่อ่อนแอนั้นพบว่าวิญญาณของตัวเองโดนฉีกเป็นชิ้น ๆ
สองร่างปรากฏขึ้นมาที่ทางเข้าอุโมงค์ พวกนั้นดูชัดเจนขึ้นมาเมื่อก้าวเข้ามายังทวีปเทียนหยวน พวกนั้นได้แผ่ความกดดันที่ทำให้โลกสั่นไหวออกมา
สองคนนี้คือโอวหยางหยิงเว่ยและเฉียงซ่ง หลังจากผ่านมา 20 ปี ทั้งสองคนก็ขึ้นเป็นขั้นแลกเปลี่ยน ความแข็งแกร่งทำให้ทั้งสองมั่นใจ ในสายตาของทั้งสองคนมันไม่มีใครในทวีปเทียนหยวนที่คู่ควรจะเป็นคู่มือของพวกเขา แม้แต่เจี้ยนเฉินก็ไม่คู่ควร
พวกเขามองหาเจี้ยนเฉินเพื่อล้างหนี้แค้นสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อ 20 ปีก่อน และเพราะกระบี่ของเจี้ยนเฉินคือสิ่งที่พวกเขาหมายตา
ในเวลาเดียวกันคนนับไม่ถ้วนก็พากันแห่ออกมาจากห้องโถงศักดิ์สิทธิ์ด้วยความเด็ดเดี่ยว พวกเขาพุ่งไปทางอุโมงค์พร้อมกับความต้องการที่จะสู้ไม่เกรงกลัวความตาย ไม่ใช่แค่เซียนสวรรค์แต่ยังมีเซียนผู้คุมกฎ, เซียนราชาและเซียนจักรพรรดิด้วย
“มดเหล่านี้ต้องการดิ้นรนอย่างไร้ค่า” โอวหยางหยิงเว่ยเย้ยหยัน เขาใช้มือขวาเป็นกระบี่พุ่งออกไปในอากาศ ทันตใดนั้นปราณกระบี่กว้างหลายสิบเมตรก็พุ่งไปยังเหล่าจอมยุทธเหล่านั้นด้วยพลังอันน่ากลัว
“ความลึกลับของสงคราม ผ่าสวรรค์ ! ” ในเวลาเดียวกันแสงสีทองก็ปะทุขึ้นมาจากพื้น มันราวกับดวงอาทิตย์ขนาดย่อมส่องแสงไม่รู้จบออกมาให้กับสิ่งรอบข้าง
เถี่ยต้าพุ่งออกมาจากกลุ่มผู้คนพร้อมกับขวาน พลังของเขาปะทุพร้อมกับจิตที่หลอมรวมเข้ากับขวานสีทองของเขา เขาฟาดขวานลงมา ขวานเขาปะทะกับปราณกระบี่ของโอวหยางหยิงเว่ยด้วยพลังอันน่ากลัว
เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ขึ้น โลกมืดมนลงเพราะการปะทะนี้ รูกว้างหลายสิบกิโลเมตาปรากฏขึ้นมาบนท้องฟ้าดูดเอาทุกอย่างรอบข้างทำให้โลกนั้นดูมืดมนลงไป มิติในเขตนั้นสั่นไหวอย่างรุนแรงเพราะการโจมตีของทั้งสองคน
ในเวลาเดียวกันก็มีพลังงานอัดลงที่พื้นทำให้ทวีปที่เปราะบางนี้เกิดแผ่นดินไหวขึ้นมา พื้นดินสั่นไหวพร้อมกับภูเขาที่แตกออก หลุมไร้ก้นกว้างหลายพันกิโลเมตรปรากฏขึ้นมารอบอุโมงค์
ใบหน้าของเถี่ยต้าเปลี่ยนไปหลังจากที่รับการโจมตีนี้ เขาอดไม่ได้ที่จะต้องถอยกลับมา ในอีกด้านแล้ว โอวหยางหยิงเว่ยกลับยังยืนอยู่ที่จุดเดิมราวกับภูเขาที่ไม่ไหวติง ตอนที่พลังงานพุ่งเข้าตัวเขา มันได้แยกเป็นสองส่วนเพราะพลังที่มองไม่เห็นก่อนจะอ้อมตัวเขาไป
“แข็งแกร่ง ขั้นแลกเปลี่ยนนี่ยอดเยี่ยมจริง ๆ ! ” – เถี่ยต้าคิด เขาเสียเปรียบ เขาใช้พลังไปเต็มที่แล้ว แต่โอวหยางหยิงเว่ยนั้นยังไม่ได้ใช้กระบี่ของตัวเองเลย แค่เพียงปราณกระบี่จากนิ้วก็เทียบเท่าหรือทรงพลังกว่าเถี่ยต้าแล้ว
ตอนที่เถี่ยต้าออกมาจากสุสานของเอ่อหยิน เขามีพลังที่รับมือกับโอวหยางหยิงเว่ยเมื่อ 20 ปีก่อนได้ เขายังอยู่ในโถงศักดิ์สิทธิ์กว่า 17 ปี ดังนั้นแทนที่จะเพิ่มพลังขึ้นมา เขากลับใช้พลังทั้งหมดของเขาไป ชัดเจนแล้วว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของโอวหยางหยิงเว่ย ในตอนนี้เมื่ออีกฝ่ายขึ้นเป็นขั้นแลกเปลี่ยนแล้ว
“ความแข็งแกร่งของเจ้าน่าประทับใจ มันไม่ได้อ่อนแอกว่าข้าเมื่อ 20 ปีก่อน แต่ตอนนี้ข้าฆ่าเจ้าได้ง่ายดุจพลิกฝ่ามือ” โอวหยางหยิงเว่ยพูดขึ้นมาอย่างเย็นชา เขามองไปที่เถี่ยต้าเหมือนกับมองคนตาย กระบี่เล่มหนึ่งปราฏขึ้นมาในมือพร้อมกับพลังของเขาที่เปลี่ยนแปลงไปหลอมรวมเข้ากับกระบี่ ร่างกายของเขาส่องแสงออกมาแล้วพุ่งเข้าหาเถี่ยต้า เขาเคลื่อนที่ได้เร็วจนน่าเหลือเชื่อ
ฮุสตัน, เทพเจ้าแห่งท้องทะเล, เสี่ยวจิน, เสี่ยวหลิง, พยัคฆ์ปีกเทวะ, เฟิงเซียวเทียน, หยางลี่ และกุยไฮ่ยี่เต่า ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเถี่ยต้า พวกเขาร่วมมือกันเพื่อรีบมือกับโอวหยางหยิงเว่ย
แต่ความแข็งแกร่งของโอวหยางหยิงเว่ยกับกระบี่ของเขานั้นน่าเหลือเชื่อ แม้ว่าจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมทั้งหมดจะร่วมมือกันแต่ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของโอวหยางหยิงเว่ย กระบี่ของโอวหยางหยิงเว่ยปะทะกับพวกเขาจนทำให้ทุกคนกระเด็นกลับไปพร้อมกระอักเลือด มีแค่เถี่ยต้าที่ไม่กระอักเลือดออกมา แผลน่ากลัวจากกระบี่ปรากฏขึ้นที่ตัวเสี่ยวจิน, เฟิงเซียวเทียน, หยางลี่ และกุยไฮ่ยี่เต่า
มันทำให้ทุกคนตกตะลึง โอวหยางหยิงเว่ยนั้นแข็งแกร่งเกินไป การร่วมมือจากจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิม 9 คนกลับไม่เพียงพอจะทนรับการโจมตีเพียงครั้งเดียวจากโอวหยางหยิงเว่ยได้
“เจี้ยนเฉินอยู่ไหน ? ทำไมข้าถึงไม่เห็นเขา ? เขาไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหนกัน ? ” โอวหยางหยิงเว่ยมองไปยังจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมจากทวีปเทียนหยวนและคิ้วขมวดทันทีแต่ไม่นานเขาก็ยิ้มออกมาอย่างเย็นชา “เพราะเจี้ยนเฉินไม่อยู่ที่นี่ ข้าจะฆ่าพวกเจ้าก่อนแล้วค่อยตามหาเขา” ความอาฆาตปรากฏขึ้นมาในตาของโอวหยางหยิงเว่ย เขาแทงกระบี่ออกไปเพื่อโจมตีเหล่าจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิม
แต่ตอนที่เขาแทงออกมา มิติตรงหน้าจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมกลับเปิดออกโดยไม่มีสัญญาณมาก่อน มีมือหนึ่งพร้อมกับนิ้วเรียวยาวยื่นออกมา นิ้วชี้และนิ้วกลางของมือนั้นก่อตัวเป็นกระบี่และปล่อยปราณกระบี่ออกไป ปราณกระบี่พุ่งเข้าใส่โอวหยางหยิงเว่ยด้วยความเร็วที่มากกว่าการโจมตีของอีกฝ่ายหลายเท่า
ปราณกระบี่นั้นไม่ได้ใหญ่ มันกว้างแค่ 1 เมตร มันไม่สามารถเปรียบเทียบกับของโอวหยางหยิงเว่ยทั้งด้านขนาดและพลัง
แต่สีหน้าของโอวหยางหยิงเว่ยกลับเปลี่ยนไปตอนที่ปราณกระบี่นั้นปรากฏขึ้นมา