ตอนที่ 1597 : ค่ายกลสังหารเทพ
เจี้ยนเฉินคาดไว้นานแล้ว สีหน้าของเขาไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้ต่อน้อยและพลังบรรพกาลก็เข้าสู่ขั้นคุ้มคลั่งทันที มันอัดแน่นในปราณกระบี่ที่มือขวาของเขาจนมีขนาดเท่ากับกระบี่ทั่วไปแต่มีพลังทำลายล้างแผ่ออกมา ในเวลาเดียวกันปราณกระบี่ที่อัดแน่นจากเส้นทางกระบี่เช่นเดียวกัน มันหลอมรวมกับพลังบรรพกาลและสร้างพลังทำลายล้างขึ้นมา มันคือพลังบรรพกาลขั้น 8 และความเข้าใจความสำเร็จส่วนใหญ่ของกำเนิดกระบี่ แค่พลังของตัวมันเองก็น่าตกใจแล้ว การที่มันหลอมรวมเข้าด้วยกันทำให้การโจมตีนี้น่ากลัวยิ่งขึ้นไปอีก
ตอนที่เจี้ยนเฉินแทงออกไป ทั้งโลกนั้นสั่นไหว มิติด้านบนภูเขาโลกแตกกระจายพร้อมกับพลังลึกลับที่แผ่ไปโดยรอบนั้นได้สลายไป สายฟ้าโดยรอบสลายก่อนที่มันจะหนีจากการโจมตีของเจี้ยนเฉิน
การโจมตีของเจี้ยนเฉินนั้นเกินกว่าขั้นแลกเปลี่ยนช่วงกลางและขึ้นถึงช่วงปลาย ในเวลาเดียวกันการโจมตีนี้ก็มีพลังของกฎจากเส้นทางกระบี่ ดังนั้นมันจึงโดดเด่นเมื่อเทียบกับการโจมตีของขั้นแลกเปลี่ยนช่วงปลายคนอื่น
ปราณกระบี่ได้ปะทะกับเสาพลังงานที่สร้างขึ้นโดยจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมกว่า 40 คนและระเบิดออก การโจมตีนี้น่ากลัวอย่างมากจนทำให้มิติแตกสลาย สันเขาทั้งลูกสั่นไหวอย่างรุนแรงพร้อมกับมีหินนับไม่ถ้วนตกลงมา สันเขาที่พวกเขาสู้กันนั้นไม่ใช่แค่สันเขาเก่าทั่วไป สันเขาแห่งนี้คือภูเขาโลกที่แข็งแกร่งซึ่งไม่เคยได้รับความเสียหายจากการโจมตีนี้
แต่สันเขานี้กลับเกิดปฏิกิริยาตอบโต้ไปทั่วทั้งโลก ตอนที่สันเขาแห่งนี้สั่นไหว ทั้งโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งก็พบกับแผ่นดินไหวครั้งใหญ่จนทำให้ภูเขาทั่วโลกนั้นถล่มลงมา พื้นดินเองก็แตกออกเช่นกัน
ภูเขาโลกนั้นคือหัวใจของโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้ง การรบกวนหัวใจจะส่งผลโดยตรงกับส่วนที่เหลือของโลก
เสาพลังงานจากจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมได้สลายไปพร้อมกับพลังอันน่ากลัว ทุกคนต่างก็เซกลับมาเมื่อพลังงานกวาดมาที่พวกเขาจนทำให้พวกเขาหน้าซีดและกระอักเลือดออกมาที่มุมปาก ผมยาว ๆ ของเจี้ยนเฉินลอยไปตามอากาศ เขาพุ่งออกมาจากอุโมงค์พร้อมกับทนรับพลังอันน่ากลัว ปราณกระบี่ในมือเขาไม่ได้สลายไปแต่แสงในตัวมันนั้นหม่นลง
จอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมทุกคนต่างก็มองไปที่เจี้ยนเฉินซึ่งไร้อาการบาดเจ็บพร้อมหัวใจที่เต้นรัว แม้แต่โอวหยาง หยิงเว่ย, เฉียงซ่งและผู้อาวุโสอีก 5 คนก็ไม่อาจทำใจเย็นต่อได้ ยังไงซะจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมของโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งก็ร่วมมือกันในครั้งนี้ พลังที่แสดงออกมานั้นอาจเข้าถึงหรือสูงกว่าขั้นแลกเปลี่ยนช่วงปลายแต่การโจมตีนี้กลับไม่อาจสร้างรอยขีดข่วนให้กับเจี้ยนเฉินได้เลย พวกเขายากที่จะเชื่อสายตาตัวเอง
ทันใดนั้น เจี้ยนเฉิน ก็หายตัวไปจากจุดที่เขายืนอยู่ เขาพุ่งไปหาโอวหยางหยิงเว่ยราวกับภาพพร่ามัว ตาของเขาดูเย็นชาพร้อมกับความอาฆาตที่แผ่ออกมาซึ่งยากที่จะควบคุมได้ แรงกดดันโดยรอบอยู่ ๆ ก็เพิ่มสูงขึ้น
โอวหยางหยิงเว่ยทำให้เสี่ยวหลิงและเสี่ยวจินบาดเจ็บบนทวีปเทียนหยวน เขาทำให้เถี่ยต้าและเสือขาวบาดเจ็บ พี่น้องของเจี้ยนเฉินได้รับบาดเจ็บหนักเพราะอีกฝ่าย และครั้งนี้จอมยุทธทั้งหมดในทวีปเทียนหยวนก็จะถูกอีกฝ่ายฆ่าหากเจี้ยนเฉินกลับมาไม่ทันเวลา ผลก็คือความอาฆาตที่เจี้ยนเฉินมีต่อโอวหยางหยิงเว่ยนั้นสูงเสียดฟ้า
“เข้าประจำที่ค่ายกลสังหารเทพ ! ”
ตอนที่เจี้ยนเฉินพุ่งเข้ามาหาโอวหยางหยิงเว่ย เฉียงซ่งก็ได้ตะโกนออกมา เสียงของเขาเร็วกว่าการที่เจี้ยนเฉินพุ่งเข้ามาหาโอวหยางหยิงเว่ยเล็กน้อย
เจี้ยนเฉินพุ่งผ่านโอวหยางหยิงเว่ยไป ร่างกายเขาพร่ามัว เขาส่งปราณกระบี่ในมือเข้าใส่หัวของโอวหยางหยิงเว่ย ปราณกระบี่ได้ผ่านหัวโอวหยางหยิงเว่ยไปโดยไร้อุปสรรค มันไม่ได้ทำให้เลือดกระเด็นออกมา ร่างของโอวหยางหยิงเว่ยจางหายไปต่อหน้าเจี้ยนเฉิน หายไปอย่างสมบูรณ์ จอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมของโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งเองก็หายไปด้วย เจี้ยนเฉินไม่ได้ยืนอยู่ในโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งอีกแล้วแต่กลับเป็นมิติว่างเปล่า
“ค่ายกลมิติ” เจี้ยนเฉินแปลกใจ เขามองไปรอบ ๆ อย่างไร้อารมณ์ โลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งนั้นมีการสืบทอดที่น่าประทับใจมากยิ่งกว่าที่ทวีปเทียนหยวนมี พวกนี้ถึงกับมีค่ายกลที่ใช้ได้โดยจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิม
ตอนนั้นปราณกระบี่ที่ทรงพลังได้พุ่งออกมาจากที่ไหนไม่รู้พุ่งเข้าหาเจี้ยนเฉินพร้อมกับพลังทำลายล้าง
พลังที่อยู่ในปราณกระบี่นี้ขึ้นถึงขั้นแลกเปลี่ยนช่วงกลางใกล้ช่วงปลาย
ยิ่งกว่านั้นมันไม่ใช่แค่เล่มเดียว หลังจากที่มันปรากฏตัวขึ้นมา มิติรอบข้างก็บิดเบี้ยวอย่างรุนแรงและมันก็มีอันที่สอง, สาม, สี่ปรากฏขึ้นมาจนกระทั่งมี 9 เล่ม ปราณกระบี่แต่ละเล่มนั้นแผ่พลังทำลายล้างที่เท่ากับปราณกระบี่เล่มแรกออกมา
ปราณกระบี่ทั้ง 9 เล่มอยู่โดยรอบ ขังเจี้ยนเฉินเอาไว้ จิตกระบี่แผ่ออกมาครอบคลุมมิติรอบตัวเขา จู่ ๆ ปราณกระบี่ทั้งเก้าก็เปล่งแสงก่อนจะยิงเข้าใส่เจี้ยนเฉินราวกับว่าพวกมันสามารถทำลายทุกอย่างได้
“พลังนี้อ่อนแอกว่าขั้นแลกเปลี่ยนช่วงปลายเล็กน้อย ร่างบรรพกาลของข้าอยู่ที่ขั้น 8 เทียบเท่ากับขั้นแลกเปลี่ยนช่วงต้น หากข้าเพิ่มเส้นทางกระบี่เข้าไป มันก็ยากที่ขั้นแลกเปลี่ยนช่วงปลายจะเป็นคู่มือของข้าได้” เจี้ยนเฉิน พึมพำอย่างสบายใจ สายตาเขาแสดงความสนใจออกมา วิญญาณของเขาเข้าถึงขั้นแลกเปลี่ยนช่วงปลายแล้ว ดังนั้นมิติที่ไม่สมบูรณ์นี้จึงชัดแล้วว่าไม่อาจจะขังเขาไว้ได้ เขาได้ขยายวิญญาณออกไปภายนอกและเห็นค่ายกลอย่างชัดเจน มันสร้างขึ้นโดยแผนค่ายกลโบราณ โอวหยางหยิงเว่ยและคนอื่น ๆ ได้ใช้แผนค่ายกลนี้เพื่อสร้างค่ายกลขึ้นมา
ตอนที่ปราณกระบี่ทั้งเก้ายิงออกมา จอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมทุกคนที่เข้าค่ายกลนี้ต่างก็หน้าซีด ตอนนั้นพลังงานดั้งเดิมหนึ่งในสามส่วนในตัวพวกเขาได้ถูกใช้ไปกับค่ายกลนี้
ค่ายกลสังหารเทพได้รับมาจากจิตวิญญาณราชันย์หลังจากที่ทะลวงผ่านผนึกในส่วนลึกของโถงจิตวิญญาณลับซึ่งเขาได้ส่งต่อมาให้กับพวกนี้ ถ้าพวกเขาใช้พลังจนถึงขีดสุด พวกเขาก็สามารถฆ่าเทพได้แต่พวกเขายังไม่เข้าใจมันอย่างถ่องแท้ และด้วยขีดจำกัดด้านความแข็งแกร่งเป็นเหตุผลว่าทำไมการใช้พลังงานจึงมาก พวกเขาโจมตีได้เพียงแค่ 3 ครั้งและหลังจากนั้นพวกเขาก็จะหมดพลัง
” ข้าไม่เชื่อว่า เจี้ยนเฉิน จะรอดมาได้ แม้ว่าค่ายกลสังหารเทพนี้ยากที่จะนำมาใช้ แต่มันก็สามารถทำให้ขั้นแลกเปลี่ยนช่วงปลายบาดเจ็บได้ มันเป็นไปได้ที่จะฆ่าพวกเขา” โอวหยางหยิงเว่ยพูดขึ้นอย่างเย็นชา ทันทีที่เขาคิดว่าเจี้ยนเฉินจัดการกับจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมก่อนหน้านี้ยังไง เขาก็กลัวขึ้นมาในใจ
โอวหยางหยิงเว่ยไม่เคยคิดว่าความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉินนั้นจะเพิ่มขึ้นถึงจุดที่เขาได้แต่มองดูหลังจากที่ผ่านมา 20 ปี
” เราใช้การโจมตีได้เพียง 3 ครั้ง หากเราฆ่าเขาไม่ได้หลังจากการโจมตี 3 ครั้งนี้ เราคงได้แต่พึ่งจิตวิญญาณราชันย์ ข้าสงสัยว่าจิตวิญญาณราชันย์จะได้รับข้อความของเราหรือยัง” เฉียงซ่งพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงตึงเครียด