ตอนที่ 1708 : การเคลื่อนไหวของตระกูลลู่
เจี้ยนเฉินและเฉินเจี้ยนนั่งอยู่ในห้องโถงที่เจ็ดของตระกูลโม่ พกวเขาต่างก็กำลังตรวจสอบของที่ได้มาในครั้งนี้ พวกเขาโยนแหวนมิติหลายร้อยวงลงไปที่พื้น ข้าง ๆ นั้นมีเหรียญผลึกจำนวนมากที่ถูกแยกออกเป็น 3 กองตามระดับของมัน พวกมันกองกันเป็นภูเขาจนพลังงานดั้งเดิมแผ่ออกมาโดยรอบกองเหรียญผลึกเหล่านั้นจนกลายเป็นหมอกบาง ๆ
ตอนนั้นพลังงานดั้งเดิมหนาแน่นจนไม่จำเป็นต้องทำการดูดซับจากเหรียญผลึก แค่นั่งใกล้ ๆ กองเหรียญผลึกนั้นก็ทำให้คนบ่มเพาะด้วยความเร็วที่น่ากลัวได้
มันมีเหรียญผลึกระดับต่ำจำนวนมากและมีเหรียญผลึกระดับกลางหลายชิ้น มันถึงกับมีเหรียญผลึกระดับสูงหลายชิ้น ส่วนที่สะดุดตาที่สุดคือเหรียญผลึกระดับสูงขนาดเท่ากับหัวคนบนกองเหรียญผลึกกองหนึ่ง
เหรียญผลึกขนาดมาตรฐานนั้นคือขนาดเท่ากับลูกบาศก์ยาว, กว้างและสูง 1 ซม. หากตัดเหรียญผลึกขนาดเท่ากับนิ้วมือนี้ออกแล้ว มันจะได้เหรียญผลึกขนาดมาตรฐานหลายสิบหรือหลายร้อยชิ้น หากเปรียบเทียบเช่นนั้นแล้ว เหรียญผลึกขนาดเท่ากับหัวคนก็เท่ากับเหรียญผลึกขนาดมาตรฐานหลายพันชิ้น
เหรียญผลึกขั้นสูงหลายพันชิ้นเท่ากับเหรียญผลึกขั้นกลางหลายแสนชิ้นและเหรียญผลึกขั้นต่ำหลายสิบล้านชิ้น แค่เหรียญผลึกขนาดเท่ากับหัวอันเดียวก็ถือว่ามากมายสำหรับเจี้ยนเฉินและเฉินเจี้ยนแล้ว
เฉินเจี้ยนหยิบเหรียญผลึกขนาดเท่ากับหัวคนขึ้นมาลูบดู เขาเดาะลิ้นอย่างพอใจ “ข้าไม่คิดว่าเราจะได้กลับมามากมายเช่นนี้ แค่ชิ้นเดียวก็มากกว่าที่เจ้าได้มาจากครั้งที่แล้วอย่างมาก”
เจี้ยนเฉินหันไปมองเหรียญผลึกก้อนนั้นก่อนจะพยักหน้า “หากเจ้าใช้เหรียญผลึกระดับสูงในการบ่มเพาะ มันคงเสียเปล่าไปเล็กน้อย ข้ารู้สึกว่าเจ้ากำลังทำให้มันเสียเปล่า ในความเห็นข้าแล้ว เราน่าจะแลกมันกับเหรียญผลึกระดับต่ำ ด้วยระดับการบ่มเพาะของเราตอนนี้แล้ว เหรียญผลึกระดับนั้นเหมาะกับการบ่มเพาะของเราที่สุด “
ความต่างในด้านคุณค่าสระหว่างระดับของเหรียญผลึกนั้นมากกว่าร้อยเท่า แต่มันไม่ได้หมายความว่าพลังงานดั้งเดิมในเหรียญผลึกระดับกลางนั้นจะหนาแน่นกว่าในเหรียญผลึกระดับสูงร้อยเท่า อันที่จริงแล้วมันหนาแน่นกว่าแค่ไม่กี่เท่าตัวอย่างมากก็สิบเท่า มันแค่พลังงานดั้งเดิมในเหรียญผลึกระดับกลางนี้บริสุทธิ์กว่ามาก ซึ่งเหรียญผลึกพวกนี้จึงแพงกว่าแม้ว่าจะบริสุทธิ์กว่าเล็กน้อยก็ตาม นั่นเป็นเหตุผลว่าเหรียญผลึกแต่ละระดับนั้นจึงมีค่ามากว่าเหรียญผลึกระดับต่ำกว่าหนึ่งร้อยเท่า แม้ว่าพลังงานดั้งเดิมนั้นจะหนาแน่นกว่าไม่กี่เท่าก็ตาม
มันมีอีกเหตุผลนอกจากเรื่องนี้ ยิ่งระดับการบ่มเพาะสูงเท่าไหร่ มันก็ยิ่งต้องการเหรียญผลึกระดับสูงกว่าเดิมมากเท่านั้น หากราชาเทพต้องการใช้เหรียญผลึกในการบ่มเพาะ พวกเขาต้องใช้เหรียญผลึกระดับสูงหรือสูงสุดเป็นอย่างน้อย หากพวกเขาใช้เหรียญผลึกขั้นต่ำหรือกลาง มันก็แทบจะไม่ส่งผลใด ๆ มันไม่ได้เร็วไปกว่าการดูดซับพลังงานดั้งเดิมรอบตัว
ผลก็คือยิ่งเหรียญผลึกระดับสูงเท่าไหร่ มันยิ่งมีค่ามากเท่านั้น
“เราจะเก็บเหรียญผลึกระดับสูงไว้ก่อน เราตัดสินใจจะใช้มันหรือแลกมันกับเหรียญผลึกระดับต่ำได้ในอนาคต” เจี้ยนเฉินพูดขึ้นแต่ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็อึ้งและรีบหันกลับมา
ชายหัวล้านยืนอยู่ด้านหลัง เขาคือโม่หลิง
โม่หลิงมองผ่านกองเหรียญผลึกและต้องแปลกใจ เขาป้องมือและพูดขึ้นมา “น้องเจี้ยนเฉิน น้องเฉินเจี้ยน งานสำเร็จรึไม่ ? ”
เจี้ยนเฉินและเฉินเจี้ยนเข้าใจดีว่าโม่เหลิงพูดถึงเรื่องการฆ่าลู่เทียน บรรพชนตระกูลลู่
“ตระกูลในแคว้นตงอันรู้เรื่องเหมืองตระกูลลู่แล้ว มีขั้นเทพหลายคนได้ไปรวมตัวกันที่ตระกูลลู่ในตอนนี้ เราจึงไม่มีโอกาสจะลงมือ” เจี้ยนเฉินพูดขึ้น น้ำเสียงของเขาบ่งบอกถึงความเสียดาย
โม่หลิงเครียดขึ้นมาเขาเดินไปตรงหน้าเจี้ยนเฉินและนั่งลงที่พื้น เขาได้พูดขึ้นมา “มันแย่หากขั้นเทพหลายคนในแคว้นตงอันไปรวมตัวกันในตระกูลลู่ ด้วยความแข็งแกร่งของตระกูลลู่ตอนนี้แล้ว พวกเขาต้องยกเหมืองนั่นให้ แต่พวกเขาก็สามารถได้ผลประโยชน์ค่อนข้างมากจากตระกูลที่แข็งแกร่ง สิ่งที่ข้ากังวลมากที่สุดคือหากตระกูลลู่ให้พวกตระกูลเหล่านั้นมาจัดการกับเรา”
เจี้ยนเฉินและเฉินเจี้ยนเองก็เครียดเช่นกัน
หลังจากที่เงียบไป โม่หลิง ก็ส่ายหน้า “ข้าอาจจะคิดมากเกินไป สิ่งที่ตระกูลลู่ต้องการมากที่สุดตอนนี้คือหยก ราชาเทพตวนมู่ พวกนั้นขอให้ตระกูลที่แข็งแกร่งมาจัดการกับเราได้ แต่พวกนั้นเองก็กังวลว่าข่าวเรื่องหยกจะรั่วไหล เมื่อตระกูลอื่นรู้เรื่องหยกของราชาเทพ พวกนั้นอาจจะกลายเป็นศัตรูกับตระกูลลู่เช่นกัน ตระกูลลู่จะปกปิดเรื่องนี้เป็นความลับ ตระกูลลู่และตระกูลอันโดเสี่ยงจะถูกทำลาย ดังนั้นตระกูลลู่คงไม่เสี่ยงเช่นนั้นแน่”
“ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เรื่องสำคัญตอนนี้คือเพิ่มความแข็งแกร่งให้ได้มากที่สุด ตราบใดที่เราแข็งแกร่งพอ แม้แต่ตระกูลในแคว้นตงอันก็ไม่อาจจะทำอะไรเราได้” เจี้ยนเฉินพูดขึ้นมา
โม่หลิงไม่นานก็กลับไป ส่วนเจี้ยนเฉินและเฉินเจี้ยนต่างก็เข้าเก็บตัวหลังจากที่ทำการแยกระดับเหรียญผลึก เฉินเจี้ยนต้องการขึ้นถึงขั้นศักดิ์สิทธิ์ช่วงปลายให้ได้เร็วที่สุด ส่วนเจี้ยนเฉินนั้นต้องทำความเข้าใจกฎของกระบี่ต่อเพราะเขาไม่อาจจะพัฒนาร่างบรรพกาลของเขาตอนนี้ได้
วันต่อมาข่าวเหมืองเหรียญผลึกระดับสูงในเหมืองที่ภูเขาเมฆดำนั้นก็รั่วไหลไปยังโลกภายนอก มันทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นมาในแคว้นตงอัน ตระกูลที่แข็งแกร่งในแคว้นต่างก็ส่งขั้นเทพของตนมายังตระกูลลู่
ตระกูลลู่หมดหนทางกับสถานการณ์เช่นนี้ หกตระกูลที่ส่งตัวแทนมานั้นเป็นแค่ตระกูลขั้นต่ำหรือขั้นกลาง ตระกูลขั้นกลางยังคงใช้วิธีทั่วไปในการจัดการกับตระกูลลู่โดยเชิญตระกูลลู่ให้ร่วมมือกับพวกเขา ยังไงซะตอนนี้เหมืองเหรียญผลึกระดับสูงก็เป็นของตระกูลลู่ แต่เมื่อสามตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุดเข้ามาเกี่ยวข้อง ความเป็นเจ้าของของตระกูลลู่นี้ก็แทบจะมองข้ามไปได้
ตระกูลลู่ไม่ได้โกรธเรื่องนี้ พวกเขาคิดถึงผลลัพธ์นี้ไว้อยู่แล้ว ดังนั้นพวกเขาเองก็ได้เตรียมใจมาแล้วด้วย หลังจากที่สามตระกูลใหญ่ในแคว้นตงอันได้ยึดเหมืองไป ขั้นเทพที่รวมตัวกันในตระกูลลู่ก็ได้กลับไปยังเมืองหลัก พวกเขาได้ไปปรึกษาเรื่องเหมืองกันต่อ
แม้แต่ตอนที่สามตระกูลใหญ่ในแคว้นตงอันได้ร่วมมือกัน แต่พวกเขาก็ไม่อาจจะยึดเหมืองไปได้ เพราะมันมีตระกูลอื่นอีกสิบตระกูล ตอนที่ตระกูลที่อ่อนแอกว่าพวกเขาเล็กน้อยร่วมมือกัน พวกนั้นก็สามารถกดดันสามตระกูลใหญ่ได้
ยังไงซะพวกเขาก็สามารถกลายเป็นตระกูลที่แกร่งที่สุดได้เพราะพวกเขามีขั้นเทพช่วงปลายคนหนึ่ง พวกเขาไม่อาจจะคุกคามขั้นเทพคนอื่น ๆ ได้มากนัก
ในเวลาเดียวกันภูเขาเมฆดำนี้ก็ถูกยึดไปโดยพวกในแคว้นตงอัน สามตระกูลใหญ่ได้ส่งขั้นเทพทั้งหมดมาดูแลที่นี่ คนอื่น ๆ จากตระกูลลู่ต่างก็ต้องถอยกลับมา
ลู่เทียนนั่งปรึกษากับคนในตระกูลและคอยฟังรายงานจากผู้อาวุโส
“ตระกูลโม่หยิ่งทะนงขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขามาปล้นเหรียญผลึกของเราอีกครั้ง พวกนั้นคิดว่าพวกนั้นดูถูกเราได้เพราะเชิญขั้นเทพเข้าร่วมได้งั้นรึ ? ” ลู่เทียนพูดขึ้นมาอย่างหงุดหงิด ไม่ใช่แค่ตระกูลโม่ที่ขโมยสมบัติที่เป็นของตระกูลลู่ไป แต่พวกนั้นถึงกับปล้นเอาเหรียญผลึกที่พวกเขาขุดออกมา มันทำให้ทุกคนต่างก็หงุดหงิด
“ บรรพชน ร่วมมือกับตระกูลอันโดเถอะ ! ” หัวหน้าตระกูลพูดขึ้น
ลู่เทียน ที่นั่งอยู่บนที่นั่งหัวหน้าตระกูลไม่ได้แสดงสีหน้าใด ๆ ออกมาแต่ก็ยังแผ่รังสีอาฆาตออกมารอบตัว เขาพูดขึ้นมาอย่างอาฆาต “ด้วยการปรากฏตัวของเหมืองเหรียญผลึกระดับสูง ตระกูลที่แข็งแกร่งจึงหันมาสนใจที่แคว้นเรา เราไม่อาจจะยื้อการจัดการกับตระกูลโม่ไปได้อีก ไม่งั้นข้ากังวลว่าข้อมูลเรื่องหยกของราชาเทพตวนมู่นั้นจะรั่วไหลออกไป มันเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะจัดการกับตระกูลโม่ในตอนที่ตระกูลอื่นยังคงถกเถียงกันเรื่องเหมืองในเมืองหลักและไม่ได้หันมาสนใจเรา “
สีหน้าของลู่เทียนเครียดไปก่อนจะตะโกนออกมา “สั่งการให้ทุกคนให้เตรียมสู้ ติดต่อหัวหน้าตระกูลอันโดให้ส่งกองทัพไปที่ตระกูลโม่ “