ตอนที่ 1873: บรรพชนครอบครัวโม่ตาย
เจี้ยนเฉินไม่สนใจบรรพชนครอบครัวโม่และมุ่งโจมตีไปที่ค่ายกล เขารู้ว่ามันเป็นเรื่องยากมากที่จะสังหารบรรพชนครอบครัวโม่โดยไม่ทำลายค่ายกล
ปราณกระบี่ทองคำที่ก่อตัวอยู่เหนือศีรษะของเจี้ยนเฉินอย่างต่อเนื่อง แต่ละสายเต็มไปด้วยพลังงานทำลายล้างที่น่ากลัว
ในช่วงเวลาสั้น ๆ เจี้ยนเฉินใช้กระบี่ต้าหลัวหลายครั้งทำให้ค่ายกลสั่นไหวอย่างต่อเนื่อง
ก่อนที่จะไฟของค่ายกลจะโจมตีเจี้ยนเฉิน กระบี่ต้าหลัวก็ทำลายมันได้อย่างง่ายๆ
เจี้ยนเฉินไม่เพียงจะมีความแข็งแกร่งที่ท่วมท้น เขายังเข้าใจวิธีการจัดการของค่ายกลและรับมือการโจมตีของบรรพชนครอบครัวโม่ได้อย่างสงบและเยือกเย็น
ตูม ! ตูม ! ตูม ! ตูม !
มีเสียงระเบิดดังภายในค่ายกล ภายใต้การโจมตีที่รุนแรงของเจี้ยนเฉิน สภาพของค่ายกลที่ทรงพลังซึ่งนำมาดักขั้นเหนือเทพช่วงปลายได้ยิ่งอ่อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ พื้นที่ค่ายกลเริ่มบิดเบี้ยวอย่างรุนแรง ในทางกลับกันแสงจากด้านนอกเริ่มเข้ามาในโลกของแสงสีแดง
นี่คือแสงจากโลกภายนอก พลังที่น่ากลัวของการโจมตีเต็มกำลังของเจี้ยนเฉินเกือบจะฝ่าออกจากค่ายกลกับดัก
เขาทำสำเร็จโดยไม่มีสะดุดจากการโจมตีของบรรพชนครอบครัวโม่
ไม่อย่างนั้น เจี้ยนเฉินคงใช้เวลาไม่นานขนาดนี้เพื่อที่จะทะลวงค่ายกลหากว่าเขาพุ่งความสนใจไปที่ค่ายกลเพียงอย่างเดียว
“ค่ายกลถูกทำลาย ? เป็นไปได้อย่างไร ? แม้ว่าจะเป็นการยากมากที่จะสังหารขั้นเหนือเทพช่วง
ปลายด้วยพลังของค่ายกลเพียงอย่างเดียว แต่ก็สามารถขังมันไว้ได้ 2-3 ปี เมื่อรวมกับข้าที่ซ่อนตัวจากสายตาและคอยโจมตี มันไม่ควรจะเกิดปัญหาในการจัดการขั้นเหนือเทพช่วงปลายใด ๆ ”
“เจี้ยนเฉินไม่เพียงต้องการรับมือกับการโจมตีจากค่ายกลเท่านั้น แต่เขายังต้องจัดการกับการลอบโจมตีอยู่ตลอดเวลา ข้าไม่อาจละมือได้เลย เขายังมีพลังพิเศษที่จะทำลายค่ายกลนี้ได้อย่างไร….”
“ชัดเจนว่าเจี้ยนเฉินเป็นเพียงขั้นเหนือเทพช่วงต้นก่อนหน้านี้ และระดับการบ่มเพาะของเขายังอยู่ในขั้นเทพเท่านั้น เพียงไม่กี่สิบปีเขาทรงพลังเช่นนี้ได้อย่างไร….”
บรรพชนครอบครัวโม่รู้สึกตกใจอย่างมาก เขาไม่อยากจะเชื่อ เขาพยายามที่จะเชื่อว่าพละกำลังของคนผู้หนึ่งจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ได้อย่างไร ในเวลาเพียงไม่กี่สิบปี
นอกจากนี้ เขายังใช้เวลามากกว่า 10,000 ปีจากขั้นเหนือเทพช่วงต้นมายังขั้นเหนือเทพช่วงกลาง
“ไม่ เจี้ยนเฉินต้องตาย หากเขาไม่ตาย ข้าจะไม่มีวันได้อยู่อย่างสงบแม้ว่าข้าจะมีเกราะก็ตาม” บรรพชนครอบครัวโม่คิดอย่างถี่ถ้วนแล้ว เพื่อชุดเกราะ เขายินดีที่จะเอาชีวิตไปแขวนไว้บนเส้นด้าย
ซ่อนอยู่ในค่ายกล เขาขยับแขนอย่างช้า ๆ เขาใช้ทักษะการต่อสู้ระดับเที่ยงแท้ กลิ่นอายของปีศาจขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นทันที ดวงตาสีแดงราวกับเลือดและมันทำให้รู้สึกหนาวสั่น
“เทพปีศาจร้ายกลืนสวรรค์ ! ”
บรรพชนครอบครัวโม่ตะโกนออกมา ปีศาจร้ายที่ราวกับจะออกมาแค่ในความฝันก็ปรากฏตัวทันทีและอ้าปากของมัน
ทันใดนั้นเกิดแรงดูดอย่างมหาศาลจากปากของปีศาจร้ายตัวนี้ มันดูเหมือนว่าจะสามารถกลืนกินโลกและกลืนร่างเจี้ยนเฉินเข้าไปได้
ร่างกายาของเจี้ยนเฉินแข็งแกร่งทันที ภายใต้อิทธิพลจากการดูด ร่างกายของเขาค่อย ๆ เคลื่อนไปทางปากของปีศาจร้ายราวกับหลุมดำ
“อสนีบาต ! ”
สายตาของเจี้ยนเฉินเย็นชา เขาไม่ได้ถอยหลังให้พ้นจากการดูด เขากลับทำท่าผนึกด้วยมือข้างหนึ่งและเปลี่ยนเป็นสายฟ้า เขาพุ่งเข้าหาไปที่ปากด้วยความเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ
พริบตา เจี้ยนเฉินพุ่งเข้าไปในปากของปีศาจร้ายที่มาจากความฝัน เขาฉีกภาพของปีศาจร้ายนั้นและทะลุออกทางหลังหัวของปีศาจร้าย ท้ายที่สุดเขาก็ปะทะกับค่ายกล
ปีศาจร้ายและการดูดอย่างรุนแรงก็หายไปเช่นกัน
ปราณกระบี่สีเงินได้ฟันไปที่หัวของปีศาจร้าย มันพุ่งเข้ามาและเติบโตมากขึ้นและมีพลังมากขึ้นและทำให้มันค่อย ๆ จางหายและกลับเข้าไปอยู่ในความฝัน ท้ายที่สุดปีศาจร้ายก็ระเบิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ปราณกระบี่ก็กระจัดกระจายไปทั่วทุดทิศทุกทางพร้อมกับปีศาจร้าย
มันเป็นช่วงเวลาที่เจี้ยนเฉินกระแทกเข้ากับค่ายกลราวกับสายฟ้าฟาด กล่าวได้ว่าค่ายกลได้แตกสลายจากการโจมตีครั้งก่อนของเจี้ยนเฉิน ตอนนี้พลังงานจากการระเบิดของปีศาจร้ายพร้อมกับการโจมตีขณะใช้อสนีบาต ในที่สุดมันก็ถึงขีดจำกัด ค่ายกลเริ่มพังทลายลงในขณะนั้น
ตอนนี้ค่ายกลก็พังทลายและสภาพแวดล้อมรอบ ๆ ก็หายไป อย่างไรก็ตามภูเขาที่อยู่ห่างไกลก็เกิดความวุ่นวาย ภูเขาหลายลูกทรุดตัวลงและพื้นดินก็มีรอยแตก
บรรพชนครอบครัวโม่กำลังบินอยู่ใกล้เจี้ยนเฉิน เขาจ้องไปที่เจี้ยนเฉินอย่างมึนงง เขาไม่คิดเลยว่าค่ายกลสังหารเทพปฐพีซึ่งเขาใช้ทรัพยากรจำนวนมากซื้อมาจะพังลงหลังจากถูกเจี้ยนเฉินทำลายอย่างง่ายดาย
ค่ายกลที่ทรงพลังที่สามารถขังขั้นเหนือเทพช่วงปลายไว้ได้หลายปี
สายตาของเจี้ยนเฉินจ้องไปที่บรรพชนครอบครัวโม่ จิตสังหารของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างมากและเขาก็ใช้มือทำท่าผนึก เขาใช้กระบี่ต้าหลัวฟันไปที่หัวของบรรพชนครอบครัวโม่อย่างไม่ลังเล
“เจี้ยนเฉิน เจ้าไม่อาจทำอะไรข้าได้ ! “บรรพชนครอบครัวโม่ตะโกนออกมา กลิ่นอายปีศาจที่ทรงพลังไหลออกมาจากร่างกายของเขา กฏของโลกส่งเสียงกรีดร้องขณะที่เขาฟันกลับมาอย่างแรงที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ไม่ได้รับการช่วยเหลือจากค่ายกล มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะต่อกรกับเจี้ยนเฉิน ไม่เพียงแต่การฟันเต็มที่ของเขาจะไม่อาจป้องกันกระบี่ต้าหลัวได้ กระบี่ต้าหลัวยังโจมตีไปที่หัวของเขาโดยตรง
ปัง !
ร่างบรรพชนกระเด็นออกไปไกล
แม้ว่าเขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บเพราะได้รับการป้องกันจากวัตถุเทพ แต่เขาก็ยังวิงเวียนศีรษะและเขาก็เห็นดาวระยิบระดับจากพลังที่ท่วมท้นนี้
เจี้ยนเฉินไล่ตามเขา เขาฟันอย่างแรงที่สุดเท่าที่จะทำได้ด้วยกระบี่สายรุ้ง พร้อมกับทำท่าผนึกอีกมือของเขา เขาใช้กระบี่ต้าหลัวอีกครั้งเพื่อโจมตีที่หัวของบรรพชน
บรรพชนครอบครัวโฒ่เข้าใจเรื่องเกราะเป็นอย่างดีเหมือนกับอยู่ในมือของเขามาหลายปี ถึงแม้ว่าพลังต่าง ๆ จะไม่อาจทะลวงเกราะได้ แต่เกราะที่ทรงพลังขนาดนี้ก็ยังมีแรงกระแทกไหลเข้ามาสู่ร่างกายของเขาภายในเกราะ
ชุดเกราะคลุมไปทั่วทุกตารางนิ้วของตัวบรรพชน แม้แต่ดวงตาของเขาก็ได้รับปกป้องด้วยชั้นบาง ๆ ดังนั้นเจี้ยนเฉินจึงทำได้เพียงส่งพลังของเขาผ่านตัวเกราะเพื่อฆ่าบรรพชนได้เท่านั้น
ตูม ! ตูม !
บรรพชนรู้สึกว่าหัวของเขาราวกับถูกแยกออกจากกันหลังจากที่อดทนรับการโจมตีครั้งที่สองของเจี้ยนเฉิน วิสัยทัศน์ของเขามืดลงขณะที่เขารู้สึกว่ากะโหลกของเขากำลังแตกเป็นเสี่ยง ๆ
พลังที่ผ่านมาทางเกราะนั้นทรงพลังมากเกินไป เขาสามารถทนได้อีกแค่ 1-2 ครั้ง แต่ถ้าเขาต้องทนมันตลอด หัวของเขาอาจจะเละโดยไม่ต้องคิดถึงหนังหนา ๆ ของเขาเลย
การโจมตีของเจี้ยนเฉินนั้นรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เขาใช้กระบี่ต้าหลัว ทักษะกระบี่ไทยี่และอสนีบาตอย่างต่อเนื่องโจมตีไปเข้าที่หัวของบรรพชน
บรรพชนสูญเสียความสามารถในการต่อสู้ไปโดยสิ้นเชิง เขาเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของชุดเกราะที่จะทำให้เขาอยู่รอดต่อไป
“โอ้ ไม่ ชุดเกราะไม่ได้ทรงพลังเท่าที่ข้าจินตนาการเอาไว้ ถ้าสิ่งนี้ยังคงดำเนินการต่อไป หัวของข้าจะต้องแหลกเหลวจากการโจมตีของเจี้ยนเฉินอย่างแน่นอน ข้าสู้ต่อไปไม่ไหวแล้ว ข้าต้องหนี ! ” บรรพชนคิดอย่างรวดเร็วและตัดสินใจในไม่ช้า เขาหยิบป้ายอาคมส่งตัวออกมาอย่างรวดเร็วจากแหวนมิติและเปิดการใช้งาน
อย่างไรก็ตามป้ายอาคมก็ถูกแบ่งครึ่งโดยปราณกระบี่ของเจี้ยนเฉินพร้อมกับลบความหวังที่จะหนีออกจากของบรรพชน
หลังจากนั้นเจี้ยนเฉินกำมือซ้ายของเขา เขาใช้ความแข็งแกร่งจากพลังบรรพกาลอย่างเต็มที่และทุบไปที่หัวของบรรพชน กำปั้นของเขาราวกับค้อนเหล็กที่เต็มไปด้วยพลังบรรพกาล
กำปั้นนั้นไม่ธรรมดา หัวของบรรพชนที่อยู่ภายในเริ่มแตกเล็กน้อย มีเลือดไหลออกมาจากส่วนต่าง ๆ ของเขา มันเป็นภาพที่น่ากลัวมาก
“หยุด เจี้ยนเฉิน ข้าจะคืนเกราะให้กับเจ้า ปล่อยข้าไป” บรรพชนครอบครัวโม่ร่ำร้อง เขาเริ่มที่จะอ้อนวอนขอชีวิต ไม่มีโอกาสที่เขาจะหนี เขาไม่มีเวลาที่จะใช้ป้ายอาคมเคลื่อนย้ายแผ่นอื่น ๆ และเขาก็อยู่ใกล้เจี้ยนเฉินเป็นอย่างมาก ตอนนี้วิญญาณของเขาได้รับความบาดเจ็บและเขายังต้องบาดเจ็บสาหัสอย่างนี้ไปอีกนาน
อย่างไรก็ตาม เจี้ยนเฉินไม่สนใจคำอ้อนวอนของเขา เขาใช้การโจมตีอย่างเต็มที่ไปยังหัวของเขา ท้ายที่สุดเลือดก็พุ่งออกมาจากทุกทิศทุกทางที่บริเวณหัวของบรรพชนอย่างแรงพร้อมกับชิ้นเนื้อภายในตัวเกราะ มันเป็นความตายที่น่าสยดสยองอย่างมาก