ตอนที่ 1877: ในมิติ
“มันแตกต่าง นั้นเป็นเพราะเราไม่ได้มีเหรียญผลึก ดังนั้นเราจึงต้องใช้เหรียญผลึกแต่ละอันเพื่อประโยชน์สูงสุด เป็นธรรมดาที่เราจำเป็นต้องทำลายมันและใช้มันอย่างจำกัด แต่ตอนนี้มันแตกต่างกัน เราไม่ได้ขาดเหรียญผลึก ดังนั้นจึงไม่ต้องทำกับพวกเขาเหมือนเมื่อก่อน” เจี้ยนเฉินยิ้ม เขาชำเลืองมองไปที่ซ่างกวนมู่เอ๋อและพูดต่อว่า “ที่สำคัญ นี่คือฮูหยินสุดที่รักของข้า ข้าจะให้นางใช้เหรียญผลึกระดับสูง แม้ว่ามันจะสิ้นเปลืองมันก็ไม่เกินไปแม้แต่น้อย”
เฉินเจี้ยนมองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยความประหลาดใจ เขาทำตัวเหมือนเพิ่งรู้จักเจี้ยนเฉินและพูดว่า “เจี้ยนเฉิน ข้าไม่รู้เลยว่าหลายปีมานี้เจ้าให้ความสำคัญกับผู้หญิงมากกว่าสหาย เจ้าซ่อนมันเอาไว้ตลอด”
ทุกคนต่างหัวเราะออกมาเมื่อพวกเขาได้ยินอย่างนั้น ซ่างกวนมู่เอ๋อเอียงอายเล็กน้อยแต่ก็รู้สึกถึงความอบอุ่น
“ข้าสงสัยว่าเสี่ยวเป่าตอนนี้กำลังไปได้ดีในทวีปเทียนหยวนหรือไม่ จากความแข็งแกร่งของเขาคงไม่มีใครในโลกเบื้องล่างที่สามารถล่วงเกินเขาได้” ซ่างกวนมู่เอ๋อไม่อาจทำอะไรได้ นางคิดถึงซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนซึ่งยังอยู่ในทวีปเทียนหยวน มีเสี้ยวความทรงจำปรากฏในดวงตาของนาง
เจี้ยนเฉินสามารถมองเห็นความคิดของซ่างกวนมู่เอ๋อได้ เจี้ยนเฉินมาอยู่ด้านข้างนางและจับมืออันขาวเรียวของนางและพูดเบา ๆ ว่า “มู่เอ๋อ ตอนนี้ข้าสามารถวางค่ายกลเคลื่อนย้ายที่สามารถข้ามอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ได้ ข้าเชื่อว่าอีกไม่นานข้าจะสามารถสร้างค่ายกลเคลื่อนยายทางไกลระหว่างโลกได้ มันขึ้นอยู่กับเวลาก่อนที่เราจะกลับไป”
ซ่างกวนมู่เอ๋อจับมือของเจี้ยนเฉินเบา ๆ และพยักหน้าเล็กน้อย นางคาดหวังว่าจะได้กลับบ้าน
ไม่เพียงแค่ลูกชายของนาง ซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนที่อยู่บนทวีปเทียนหยวน แต่พ่อของนาง เฮาหวู่ ก็อยู่ที่นั่นเช่นกัน
“ข้าหวังว่าท่านพ่อของข้าจะยังอยู่จนถึงวันที่ข้ากลับ อย่างไรก็ตามตอนนี้พลังงานดั้งเดิมกำลังถดถอยในทวีปเทียนหยวนและตอนนี้โลกนั้นก็ได้เชื่อมต่อกับโลกเซียนที่ถูกทิ้ง การทะลวงขั้นเป็นขอบเขตดั้งเดิมคงจะไม่เป็นเป็นหาสำหรับท่านพ่อของข้า” ซ่างกวนมู่เอ๋อคิดกับตัวเอง อคติที่นางมีต่อบิดาของนางค่อย ๆ จางหายไปแล้ว
เจี้ยนเฉินหยิบสิ่งของสองสามอย่างที่เป็นประโยชน์จากแหวนมิติของบรรพชนครอบครัวโม่ ทุกอย่างที่เขาได้จากครอบครัวโม่ เขาได้แบ่งมันให้กับคนอื่นหรือเก็บไว้ในคลังตระกูลเทียนหยวน
หลังจากแบ่งทุกอย่าง เจี้ยนเฉินได้รวมคนจากโลกเบื้องล่างอีกครั้งก่อนที่จะกลับเข้าไปยังห้องลับส่วนตัวของเขา
ห้องลับถูกขุดลึกลงไปใต้ดิน ไข่มุกส่องสว่างเท่ากำปั้นอยู่บนผนังและเพดานรอบ ๆ พร้อมกับให้แสงอุ่น ๆ ตลอดเวลา
เจี้ยนเฉินนั่งอยู่ในห้องลับ เขานำวัตถุเซียนของบรรพชนครอบครัวโม่ออกมา
ในเวลาต่อมาเจี้ยนเฉินก็หายตัวจากห้องลับไป เหลือเพียงวัตถุเซียนขนาดเท่ากำปั้นอยู่ในห้องด้านนอก
เจี้ยนเฉินปรากฏตัวในวัตถุมิติอย่างเงียบ ๆ ก่อนที่เขาจะนั่ง มีขั้นเทพกว่า 20 คนของครอบครัวโม่ พวกเขาใช้ความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำลายผนึกของเจี้ยนเฉิน พวกเขาทุกคนชุ่มไปด้วยเลือดและหน้าซีด พวกเขาอ่อนแรงอย่างมาก
มีขวดหยกเปล่าสองสามใบที่ใช้เก็บยารักษาทิ้งอย่างไม่เป็นระเบียบ
“หยุดเปลืองแรงได้แล้ว ข้าพกวัตถุมิติติดตัวแม้ว่าเจ้าจะทำลายผนึกมันก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง นั่นเป็นเพราะข้าจะรู้ได้ทันทีที่เจ้าทำลายผนึกข้าได้” เจี้ยนเฉินพูดอย่างเสียงดังฟังชัดขณะที่เอามือไพล่หลัง
เห็นได้ชัดว่าเหล่าขั้นเทพไม่รู้ถึงการมาของเจี้ยนเฉิน ร่างกายของเขาก็สั่นสะท้านเมื่อเจี้ยนเฉินพูดออกมาและดวงตาของพวกเขาก็ตวัดมองไปยังเจี้ยนเฉินที่พูด
อย่างไรก็ตามพวกเขาทั้งหมดมองเจี้ยนเฉินอย่างอาฆาตและไม่พอใจอย่างมาก
“ผู้นำตระกูลเทียนหยวน แม้ว่าเจ้าจะตกหลุมพรางบรรพชน แต่เจ้าก็ฆ่าเขาไปแล้ว เรา ผู้อาวุโสครอบครัวโม่ ไม่เคยยั่วยุหรือทำให้คนในตระกูลเทียนหยวนโกรธเคือง ทำไมเจ้าต้องฆ่าพวกเราทั้งหมด ? ” ขั้นเทพจากครอบครัวโม่พูดออกมา เขาจ้องมองไปที่เจี้ยนเฉินอย่างใกล้ชิด เขาไม่เคยรู้สึกเกลียดใครเท่ากับคนผู้นี้มาก่อน
“พวกเจ้าหลายคนคาดเดาเหตุผลนั้นได้อยู้แล้ว แต่พวกเจ้าไม่ยอมเชื่อ ถูกต้อง ข้าต้องการฆ่าพวกเขาเพื่อล้างแค้นให้กับหญิงสาวมนุษย์ การลบครอบครัวโม่ของเจ้าทำให้ช่วยชีวิตหญิงสาวมนุษย์จำนวนมาก” เจี้ยนเฉินพูดอย่างเฉยเมย สายตาของเขาเย็นชาและไม่มีความเห็นอกเห็นใจหรือสงสารขั้นเทพของครอบครัวโม่เลยแม้แต่น้อย
“ฮ่าฮ่าฮ่า มนุษย์ธรรมดาเป็นแค่มด นี่เจ้าจะฆ่าขั้นเทพจำนวนมากเพราะมดจริง ๆ ? ผู้นำตระกูลเทียนหยวน ข้าไม่รู้ว่าจะพูดว่าวิธีของเจ้าเป็นวีรบุรุษหรือคนโง่กันแน่ ถ้าข้าเป็นเจ้า ข้าจะพยายามปราบบรรพชนเพื่อให้เขาเป็นคนรับใช้เจ้าและเพิ่มความแข็งแกร่งกับตระกูลของเจ้า” ชายชราหัวเราะขณะที่จ้องมองมาที่เจี้ยนเฉินอย่างสนใจ
สีหน้าของเจี้ยนเฉินยังคงเหมือนเดิม เขาส่ายหัวเบา ๆ และพูดว่า “ข้าไม่ต้องการสังหารผู้บริสุทธิ์” ในขณะที่เขาพูดมีด้ายสีทองปรากฏอยู่ในมือของเขาอย่างเงียบ เพียงความคิด ด้ายสีทองได้มัดเทพทั้งหมดและลากพวกเขาไปยังที่อื่น
อีกด้านหนึ่งของวัตถุมิติของวัตถุเซียน มีหมู่บ้านเล็ก ๆ ทุกคนเป็นผู้หญิงมนุษย์ที่ถูกจับโดยครอบครัวโม่อาศัยอยู่ที่นั่น ในดินแดนที่แยกออกไป
ทุกคนที่อาศัยอยู่ที่นั่นก็ตกตะลึงเมื่อเจี้ยนเฉินมาถึงหมู่บ้านเล็ก ๆ นี้ มีขั้นเทพ 20 คนถูกมัดด้วยไหมบรรพกาล หญิงสาวตั้งครรภ์หลายคนโผล่ออกมาพร้อมกับท้องที่โต พวกนางจ้องมองไปที่เจี้ยนเฉินและคนอื่น ๆ ด้วยความอยากรู้
ผู้หญิงเหล่านี้เกิดในช่วงเวลาหยิน วันหยิน เดือนหยิน ไม่มีใครแก่เลย เด็กที่สุดมีอายุน้อยกว่าสิบปี เห็นได้ชัดว่าพึ่งถูกนำเข้ามาไม่นานนี้
สำหรับผู้ชายที่มีเพียงสองในสิบส่วนของที่นี่ เป้าหมายของพวกเขาชัดเจน
“เจ้าเป็นใคร ? “ในเวลานี้มีผู้ชายแข็งแกร่งยืนอยู่ข้างหน้า เขาจ้องมองเจี้ยนเฉินและคนอื่น ๆ อย่างระมัดระวัง
เจี้ยนเฉินได้อธิบายถึงสถานการณ์กับทุกคนที่ติดอยู่ที่นี่
เมื่อหญิงสาวรู้ว่ามีเพียงความตายที่รอพวกนางอยู่หลังจากที่ถูกบังคับมาที่นี่ พวกนางก็เงียบลง มีความเศร้าโศกเต็มดวงตาของพวกนาง
มีบางคนถูกส่งมาที่นี่หลังจากที่พวกเขาโตเป็นผู้ใหญ่ ดังนั้นพวกเขาจึงรู้เรื่องราวด้านนอก
นอกจากนี้ยังมีบางคนถูกนำมาที่นี่ขณะที่ยังเป็นทารก พวกเขาไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับโลกภายนอกเลยและพวกเขาไม่เคยเห็นด้วยตาของพวกมันเอง
“ข้าคิดว่าเมื่อข้าให้กำเนิดลูก ข้าจะสามารถออกจากที่นี่และกลับบ้านได้ ข้าไม่คิดเลยว่าความเป็นจริงจะโหดเหี้ยมขนาดนี้เหลือเกิน…” หญิงสาวคนหนึ่งร้องไห้อย่างสะอึกสะอื้น
“อย่ากังวล ข้าทำลายครอบครัวโม่แล้ว คนเหล่านี้ล้วนเป็นผู้อาวุโสของครอบครัวโม่ หากเจ้าต้องการแก้แค้น นี่คือโอกาสของเจ้า”เจี้ยนเฉินหยิบกระบี่สายรุ้งออกมาและโยนไปเบื้องหน้าหญิงสาว มันปักอยู่ด้านหน้าของนาง
กระบี่สายรุ้งไม่ส่องประกายแสงเลย ทำให้มันดูเหมือนกับกระบี่ธรรมดา