ตอนที่ 1880: ดอกไม้หัวใจศิลาสมุด
เพียงสะบัดมือ เจี้ยนเฉินก็เอาแกนอสูร 3 แกนออกมาจากแหวนมิติ
แกนอสูรทั้งสามมีขนาดเท่ากันกับแกนจากต้นไม้ พวกมันภายนอกดูไม่แตกต่างจากแกนต้นไม้มากนัก พวกมันยังเขียวขจีและมีพิษที่ทรงพลัง
นี่คือแกนอสูรที่มีพลังเท่ากับขั้นเหนือเทพ พวกมันยังเป็นแกนอสูรที่มีพลังมากที่สุดที่เจียนเฉินเคยเห็นในชีวิตของเขา
อย่างไรก็ตามเจี้ยนเฉินไม่อาจทำอะไรได้ เมื่อเขาจ้องมองไปที่แกนอสูรทั้งสาม เขาถึงขั้นพูดอะไรไม่ออก
หลังจากไปถึงขั้น 10 ของร่างบรรพกาล เขาได้กินโสมทองคำจากแหวนมิติของราชาเทพต้วนมู่ เช่นเดียวกับสมบัติสวรรค์ระดับสูงและยังเป็นยาพลังงานดั้งเดิมขั้นเทพหมื่นปี สิ่งของเหล่านี้ทำให้ตันเถียนของเขาเติบโต ตอนนี้เขาใกล้จะอยู่ขั้นที่ 11 แล้ว
บางทีเขาอาจจะต้องการปรับแต่งแกนอสูรขั้นเหนือเทพทั้งสามเพื่อที่จะให้ทะลวงสำเร็จ
แม้ว่าแกนอสูรทั้งสามนั้นยังไม่เพียงพอ เขายังมีแกนต้นไม้อีก 3 แกน มันจะไม่เป็นปัญหาสำหรับเขาที่จะทะลวงไปยังขั้นที่ 11
อย่างไรก็ตามส่วนที่ทำให้เจี้ยนเฉินรู้สึกอับจนหนทางอย่างมาก นั่นก็คือแกนอสูรและแกนต้นไม้ต่างก็มีพิษที่ทรงพลังอย่างยิ่ง มันอยู่ห่างเกินว่าที่พลังบรรพกาลของเขาจะสามารถปรับแต่งได้
ด้วยเหตุนี้แม้ว่าเขาจะมีทรัพยากรที่ทำให้เขาทะลวงร่างบรรพกาลไปถึงขั้นที่ 11 แต่เขาก็ไม่อาจทำได้ มันทำให้เขารู้สึกย้อนแย้งอย่างมาก
“ข้าจำเป็นต้องอยู่ในขั้นเหนือเทพเพื่อที่จะปรับแต่งพิษในแกนต้นไม้และแกนอสูร” เจี้ยนเฉินถอนหายใจเบา ๆ และปล่อยวาง ก่อนที่จะเดินทางต่อไป
เป้าหมายหลักของเขาในการมาที่นี่ภูเขาหยินเจ็ดทลายนั้น เขาไม่ได้มาเพื่อหาแกนต้นไม้หรือแกนอสูร เขามาที่นี่เพื่อเอาสมบัติสวรรค์ที่สามารถรักษาวิญญาณ
ระหว่างทางเขาพบสมบัติสวรรค์ไม่กี่อย่างที่เติบโตที่นี่ แต่น่าเสียดายที่พวกมันทั้งหมดปนเปื้อนจากหมอกพิษ ทำให้พวกมันกลายพันธุ์และพิษก็รุนแรงมาก พวกมันร้ายแรงเกินกว่าจะกินได้
เจี้ยนเฉินไม่พบสมบัติสวรรค์ใด ๆ ที่มีประโยชน์ในการรักษาวิญญาณ
หลังจากเดินทางไปอีก 10 กิโลเมตร ดวงตาของเจี้ยนเฉินก็หรี่ลง เมื่อเห็นดอกไม้สีขาวห่างจากเขาไป 100 เมตร มันมีขนาดเท่าฝ่ามือ มันถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีขาวศักดิ์สิทธิ์ แม้ว่าหมอกพิษจะล้อมรอบมันแต่ก็ยังไม่อาจเจาะเข้าไปในแสงของดอกไม้สีขาวได้ทำให้มันเติบโตได้แม้ว่าจะมีหมอกพิษล้อมรอบตัวมัน
“นั่นมันดอกไม้หัวใจศิลาสมุด”ดวงตาของเจี้ยนเฉินเบิกกว้างและตื่นเต้นอย่างมาก
ดอกไม้หัวใจศิลาสมุดเป็นสมบัติสวรรค์ที่สามารถรักษาวิญญาณได้ มันมีระดับใกล้เคียงกับบัวดึงวิญญาณ ซึ่งมีระดับสูงมากและเป็นสมบัติสวรรค์ที่หายาก
ในเวลานี้มีเสียงคำรามของสัตว์อสูร พื้นดินสั่นสะเทือนอย่างแรงราวกับสัตว์วิเศษมีความสูง 6 เมตรพุ่งจากระยะไกล ดูเหมือนว่าจะเป็นหมูป่าตัวอ้วนแต่มันก็มีปีกอยู่ข้างหลังคู่หนึ่ง เนื่องจากมันมีขนาดใหญ่มาก ปีกเล็ก ๆ ของมันจึงไม่อาจพามันบินขึ้นไปได้
อย่างไรก็ตามจากการปรากฏตัวของมัน มันทรงพลังอย่างมากจนภาพลักษณ์ของมันทำให้ทั้งภูเขา แม้แต่เจี้ยนเฉินก็ขมวดคิ้ว
“สัตว์อสูรขั้นเหนือเทพช่วงปลาย ! ” เจี้ยนเฉินยืนนิ่งราวกับก้อนหิน นี่คือการคงอยู่ที่ทรงพลังที่สุดที่เขาพบในภูเขา แต่เขาก็ไม่มีอาการหวาดกลัวใด ๆ
สัตว์อสูรพิษวิ่งเข้ามาจากระยะไกล มันใช้ร่างอ้วน ๆ ของมันขวางดอกไม้ ขณะที่จ้องมองเจี้ยนเฉินอย่างคึกคนอง มันอ้าปากใหญ่ ๆ ของมันพร้อมกับคำราม
ในเวลาเดียวกันมันก็พ่นพิษสีเขียวออกมาจากปาก พิษพุ่งออกมาราวกับลูกศรตรงมายังเจี้ยนเฉิน
“กระบี่ต้าหลัว ! ”
ในเวลาเดียวกันเจี้ยนเฉินก็ตะโกนออกมา เขาใช้กระบี่ต้าหลัวเพื่อที่จะพยายามจบการต่อสู้ให้เร็วที่สุด
ปราณกระบี่สีทองทะลวงพิษของหมู่ป่าราวกับมีดร้อนผ่าเนยและกระแทกเข้ากับหัวที่ใหญ่โตของมัน
ทันทีที่พิษกระจายออกไป มีรอยลึกปรากฏบนหัวใหญ่ ๆ ของสัตว์อสูร ร่างกายที่ใหญ่โตของมันถอยหลังและกระแทกพื้นอย่างแรงพร้อมกับทำให้พื้นดินสั่นไหว
เจี้ยนเฉินปกป้องตัวเองด้วยแสงสีขาวจากกฏของกระบี่ เขาก้าวเข้ามาพร้อมกับกระบี่สายรุ้งและเดินผ่านระยะหลายร้อยเมตรจนมาถึงที่ดอกไม้หัวใจศิลาสมุดอยู่ เขาเด็ดมันออกมาตรง ๆ และเก็บมันอย่างระมัดระวัง
หมูป่ากลายเป็นดุร้ายมากยิ่งขึ้นเมื่อเห็นเจี้ยนเฉินเก็บดอกไม้ มันคำรามเสียงดังและดวงตาของมันก็แดงก่ำ มันพุ่งเข้าหาเจี้ยนเฉินอย่างดุร้าย ร่างกายของมันทะลวงต้นไม้บนภูเขาอย่างไม่สนใจ ทำให้ต้นไม้ขนาดใหญ่ทั้งหลายล้มระเนระนาดพร้อมกับฝุ่นฟุ้งไปทั่ว
ในเวลาเดียวกันปีกที่อยู่ด้านหลังของมันก็ปล่อยพลังงานที่ทรงพลัง มันราวกับดาบคู่ พวกมันพุ่งเข้าหาเจี้ยนเฉินด้วยความเร็วสูงราวกับประกายไฟ
เจี้ยนเฉินยังคงไร้อารมณ์และดวงตาเย็นชา เขาฟันมันกลับไปด้วยกระบี่สายรุ้ง ปราณกระบี่ที่สว่างไสวแว่บแสงสีขาวออกมา ทำให้ป่าทั้งหมดสว่างจ้าไปทั่วทั้งป่า
ตูม !
ปราณกระบี่ปะทะกับดาบที่มาจากปีกของสัตว์อสูร มีเสียงดังกึกก้องจากการปะทะกันของพลังงานและเกิดพายุน้อย ๆ ขึ้นรอบ ๆ มันทำให้ฝุ่นดินและพืชบางส่วนพร้อมกับหมอกพิษรอบ ๆ ปั่นป่วน
หลังจากการโจมตี เจี้ยนเฉินยังคงอยู่ที่เดิม เขายืนราวกับภูเขา กระบี่ของเขาเกิดประกายแสงที่แหลมคมบดบังตัวเขาอย่างสมบูรณ์ อย่างไรก็ตามสัตว์อสูรพิษขนาดใหญ่คำรามเสียงดัง มันเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
ปีกทั้งสองของมันถูกตัด เลือดสีเขียวอาบย้อมตัวทั่วร่างกาย ขณะที่มันเจ็บปวดอย่างมาก
พรวด !
ในเวลานี้เจี้ยนเฉินได้แทงกระบี่สายรุ้งออกไป เกิดแสงแว่บเข้าไปที่หัวของสัตว์อสูรและกำจัดวิญญาณของมันออกไป
ร่างที่ใหญ่โตของสัตว์อสูรล้มลงทันทีที่สูญเสียวิญญาณ แม้แต่แกนอสูรก็ถูกทำลายโดยเจี้ยนเฉิน
กระบี่สายรุ้งหายไปจากมือของเจี้ยนเฉิน เขามองเข้าไปในแหวนมิติของเขาเพื่อดูดอกไม้ที่เขาพึ่งเก็บและมีรอยยิ้มจาง ๆ เขากล่าวว่า “ท้ายที่สุดข้าก็ได้พบสมบัติสวรรค์ที่สามารถฟื้นฟูวิญญาณได้ ข้าสงสัยว่าดอกหัวใจศิลาสมุดเพียงดอกเดียวจะเพียงพอที่จะปลุกไคยะได้หรือไม่ ? ”
“ข้าน่าจะหาเส้นทางที่ปลอดภัยมากกว่านี้”
เจี้ยนเฉินวิเคราะห์กับตัวเอง เขามีความมั่นใจว่าตราบใดที่เขาไม่ได้เข้าไปในส่วนลึกของภูเขา สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ก็ไม่ได้เป็นภัยคุกคามเขาด้วยความแข็งแกร่งของเขา
ทันใดนั้นกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ก็ลอยมา เจี้ยนเฉินสูดลมหายใจเข้าเพียงครั้งเดียว เขาก็รู้สึกว่าวิญญาณสั่นอย่างรุนแรง เขารู้สึกเหมือนว่าวิญญาณทั้งหมดของเขาสูญเสียแรงรั้งเอาไว้ ช่วงเวลาที่เขาอยู่บนภูเขาได้รับการเติมเต็มในช่วงเวลาเดียวกัน ในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกว่าวิญญาณของเขานั้นแข็งแกร่งและมีพลังมากยิ่งกว่าเมื่อก่อน
แน่นอนว่านี่เป็นเพียงแค่ภาพลวงตาที่เกิดจากกลิ่นหอม
แม้ว่าจะเป็นอย่างนั้น เจี้ยนเฉินก็ยังคงรวบรวมความสนใจของเขา มีแสงวาบผ่านดวงตาของเขา วิญญาณของเขามีพลังมากกว่าแต่ก่อน เพียงแค่สูดดมครั้งเดียวก็ทำให้เขารู้สึกเช่นนั้นได้ เขาตัดสินใจว่าสมบัติสวรรค์ที่ส่งกลิ่นหอมนี้ต้องอยู่ในระดับที่น่ากลัว
“นี่ควรจะเป็นสมบัติสวรรค์ที่รักษาวิญญาณ แม้ว่าข้าจะไม่เห็นมัน แต่ข้ารู้ได้จากกลิ่นของมัน มันเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างมากที่จะถึงระดับอมตะ 9 มันอยู่ในระดับสูงกว่าเมื่อเทียบกับบัวดึงวิญญาณหรือดอกไม้หัวใจศิลาสมุด” เพียงดมครั้งเดียวก็ทำให้เจี้ยนเฉินมอมเมา เขามองไปยังทิศทางที่กลิ่นหอมลอยออกมาจากหมอกพิษที่แน่นหนา