ตอนที่ 1948 : การเปิดเผยที่ไม่ตั้งใจ
“พี่หยานชุน งั้นไปกันเถอะ ไปพบกับองค์หญิงไทอันและองค์ชายห้ากัน” ตาของเจี้ยนเฉินเป็นประกายขึ้นมาเมื่อได้ยินคำอธิบายเกี่ยวกับทั้งคู่ สุดท้ายเขาก็รีบยิ่งกว่าหยานชุนซะอีก
เขามักจะอยู่กับสหายและครอบครัวเขาในภาคใต้ แต่ตอนนี้เขากลับไปไม่ได้เพราะเขาโดนขังไว้ในภาคเหนืออยู่ เมื่อองค์หญิงไทอันและองค์ชายห้าซึ่งมีสถานะที่ยอดเยี่ยมในจักรวรรดิซีมาหาเขา เจี้ยนเฉินก็เริ่มมีความหวังที่จะกลับออกไปจากภาคเหนือขึ้นมาบ้าง
ด้วยการนำทางของหยานชุน เจี้ยนเฉินก็ได้เข้าไปในห้องโถงหลังแห่งหนึ่งที่อยู่ใจกลางพระราชวัง
เจี้ยนเฉินเห็นผู้ชายและผู้หญิงนั่งอยู่ในห้องโถงทันทีที่เข้าไป พวกนั้นยังเด็กและพูดคุยกับจักรพรรดิอย่างเป็นกันเอง
ผู้หญิงนั้นสวยพอจะเทียบได้กับดวงจันทร์ภายนอกได้ นางดูสูงส่งซึ่งทำให้นางดูราวกับมาจากสวรรค์
ชายหนุ่มเองก็ดูเป็นคนดี ตาของเขาเป็นประกายตอนที่พูด เขาแผ่ความสง่าออกมารวมไปถึงความเด็ดเดี่ยว เขาเหมือนกับผู้คุ้มกฎ
เขาครอบครองพลังแห่งการมีอยู่ของผู้ปกครอง ราวกับมังกรที่แท้จริง
“ไม่แปลกเลยว่าทำไมจักรพรรดิซีถึงได้ชื่นชอบองค์ชายห้าอย่างมาก ถ้าองค์ชายห้าได้เป็นจักรพรรดิ เขาคงเป็นจักรพรรดิที่ยอดเยี่ยมได้” เจี้ยนเฉินมองดูทั้งสองคน ไม่ต้องมีใครแนะนำเขาก็รู้ว่าทั้งสองคงเป็นองค์หญิงและองค์ชายจากจักรวรรดิซี
เจี้ยนเฉินประทับใจองค์ชายห้าตั้งแต่แรกเห็น
ตลอดหลายปีมานี้ เจี้ยนเฉินได้เห็นองค์ชายมาหลายคน แต่มันก็ยากที่จะหาใครเหมือนกับองค์ชายห้าได้ ผลก็คือเขาอดไม่ได้ที่จะจดจำองค์ชายห้าเอาไว้
จักรพรรดิลุกขึ้นยืนและพยักหน้าให้กับเจี้ยนเฉินพร้อมรอยยิ้ม หลังจากนั้นเขาก็แนะนำองค์ชายและองค์หญิงให้ “ องค์ชายห้า องค์หญิงไทอัน ผู้นี้คือเจี้ยนเฉินจากภาคใต้ “
องค์หญิงไทอันและองค์ชายห้าได้ลุกขึ้นยืนเมื่อได้ยินแบบนั้น พวกเขาป้องมือให้กับเจี้ยนเฉิน
“ฮ่าฮ่า พวกผู้เยาว์ควรพูดคุยกันเอง ข้าจะไปจัดการเรื่องอื่นต่อ” จักรพรรดิพูดขึ้นอย่างสุภาพก่อนจะออกไปพร้อมกับหยานชุน
ในพริบตาก็มีแค่เจี้ยนเฉิน, องค์หญิงไทอัน และองค์ชายห้าอยู่ในห้อง
“เจี้ยนเฉิน ไม่จำเป็นต้องเรียกข้าว่าองค์ชายห้า มันทำให้ข้ารู้สึกอึดอัด ชื่อข้าคือซีเฮ่า เจ้าเรียกชื่อข้าได้เลย” องค์ชายห้ายิ้ม หลังจากนั้นเขาก็มองไปที่องค์หญิงไทอันข้างกายก่อนจะพูดขึ้น “ สำหรับองค์หญิงข้าง ๆ ข้าแล้ว นางชื่อชางหยุนชุยเซียน นอกจากจะเป็นองค์หญิงไทอันของจักรวรรดิซีของเราแล้ว นางยังเป็นลูกสาวที่รักของตระกูลชางหยุนด้วย”
“เจ้าเรียกข้าว่าชุยเซียนก็ได้” องค์หญิงไทอันยิ้มออกมาและพยักหน้าให้กับเจี้ยนเฉิน
หลังจากที่ได้เจอกับองค์หญิงและองค์ชายคนอื่นมาตลอดหลายัวน เจี้ยนเฉินก็พอเข้าใจได้ถึงความแข็งแกร่งของที่ราบเมฆาได้
เป็นธรรมดาที่เจี้ยนเฉินจะรู้เกี่ยวกับตระกูลชางหยุน แม้ว่าตระกูลชางหยุนจะไม่ได้อยู่ในจักรวรรดิซี แต่พวกเขาก็เป็นตระกูลที่โด่งดังในภาคเหนือ มีหลายอาณาจักรและองค์กรใหญ่ที่ต้องเคารพพวกเขา
นี่เพราะจักรพรรดินีของจักรวรรดิซีในตอนนี้มาจากตระกูลชางหยุน
หลังจากนั้นเจี้ยนเฉินกับองค์ชายห้าก็ได้พูดคุยกันอย่างเป็นกันเอง ชัดแล้วว่าซีเฮ่าต้องการจะผูกมิตรกับเจี้ยนเฉิน ดังนั้นเขาจึงไม่ถือตัวในฐานะองค์ชายและทำเหมือนสหายทั่วไป
องค์ชายห้ามีความอดทนอย่างมาก แม้ว่าเขาจะต้องการผูกมิตรกับเจี้ยนเฉิน แต่เขาก็ไม่ได้พูดมันออกมาแม้แต่คำเดียว
ตอนที่พูดคุยกันนั้น ชุยเซียนก็ได้คอยพูดเสริมอยู่ตลอด นางได้ถามคำถามเจี้ยนเฉินเกี่ยวกับการบ่มเพาะ นางได้แสดงความเคารพและชื่นชมต่อเจี้ยนเฉินทั้งจากน้ำเสียงและสีหน้า
“ซีเฮ่า ชุยเซียน ข้าจะพูดตามตรง ข้ามีเรื่องสำคัญที่ต้องให้ข้ากลับไปยังภาคใต้ให้เร็วที่สุด แต่ภาคเหนือตอนนี้ถูก จักรพรรดิซีผนึกเอาไว้ ข้าจึงสงสัยว่าพวกเจ้าจะมีวิธีช่วยข้าให้กลับไปยังภาคใต้ได้หรือไม่” เจี้ยนเฉินบอกเป้าหมายของเขาหลังจากที่พูดคุยกันมาหลายชั่วยาม
ซีเฮ่าและชุยเซียนขมวดคิ้วเมื่อได้ยินแบบนั้น หลังจากคิดได้ไม่นาน ซีเฮ่าก็ได้พูดขึ้นมาว่า “เจี้ยนเฉิน เรื่องนี้ค่อนข้างยุ่งยาก ถ้าเป็นเวลาอื่น ข้าคงให้เจ้าใช้ค่ายกลของจักรวรรดิเราไปแล้ว แม้ว่าค่ายกลเคลื่อนย้ายภาคของจักรวรรดิซีจะไม่อาจใช้งานได้ แต่ข้าก็เชื่อว่าข้ายืมค่ายกลเคลื่อนย้ายจากจักรวรรดิและองค์กรอื่นได้ด้วยชื่อเสียงที่ข้ามีแต่ตอนนี้ ลุงไซหยุน ได้ผนึกค่ายกลเคลื่อนย้ายทั้งหมดในภาคเหนือเอาไว้ โดยพื้นฐานแล้วไม่มีใครขัดคำสั่งของเขา ด้วยชื่อเสียงที่เขามีตอนนี้ มันเป็นไปไม่ได้ที่อาณาจักรอื่นจะกล้าพอให้เราใช้ค่ายกลของพวกเขาและแม้แต่ในจักรวรรดิของเราก็ด้วย เจ้าคงใช้ได้หากท่านลุงหรืออดีตจักรพรรดิอนุญาต”
องค์ชายห้ายิ้มออกมา “เจี้ยนเฉิน อย่าคิดพึ่งกับการที่ข้าเป็นองค์ชายของจักรวรรดิซีเลย แม้แต่การเข้าพบอดีตจักรพรรดิ ข้าก็ทำไม่ได้ สำหรับลุงไซหยุนแล้ว ตอนนี้เขากำลังติดพันกับบรรพชนนิกายแยกสวรรค์อยู่ และด้วยอารมณ์ของเขาแล้ว เขาน่าจะสู้กับนิกายแยกสวรรค์ ข้าคงทำให้เขาไม่พอใจหากไปพบเขาตอนนี้”
“ค่ายกลเคลื่อนย้ายของตระกูลชางหยุนของเราก็ปิดอยู่ เจี้ยนเฉิน เราอาจจะช่วยเจ้าในเรื่องนี้ไม่ได้” องค์หญิงไทอันพูดขึ้น
เจี้ยนเฉินทำท่าผิดหวังขึ้นมาทันทีและพูดขึ้น “จักรพรรดิซีโหดร้ายเกินไป เขากันไม่ให้ใครไล่ล่าเขาในอดีต เขาจับผู้พิทักษ์จักรพรรดิไปแล้วและตอนนี้ก็กำลังจะจัดการกับนิกายแยกสวรรค์ นิกายระดับสูงของจักรวรรดิซี ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป คงแย่สำหรับจักรวรรดิซี ยิ่งกว่านั้นการแก้แค้นนี้ก็ทำให้คนมากมายติดอยู่ที่นี่ซึ่งทำให้พวกเขาไม่อาจจะออกไปไหนได้” เจี้ยนเฉินรู้สึกหมดหนทาง
“ใช่ ท่านลุงเปลี่ยนไปอย่างมากหลังจากที่ขึ้นเป็นจักรพรรดิ เขาไม่เหมือนกับแต่ก่อน น่าเสียดายที่ไม่มีใครกล่อมเขาได้ในตอนนี้ แม้แต่อดีตจักรพรรดิก็ไม่อาจจะทำอะไรได้” องค์ชายห้าพูดด้วยท่าทีหมดหนทาง เขาแสดงสีหน้ากังวลออกมา ในราชวงศ์ของจักรวรรดิซีตอนนี้ มีแค่พวกขอบเขตตั้งต้นเหลืออยู่เพียงไม่กี่คนหลังจากที่โดนซีไซหยุนฆ่า ตอนนี้ทั้งราชวงศ์เต็มไปด้วยความกังวลและอึดอัดใจ
องค์หญิงถอนหายใจออกมาและพูดขึ้นด้วยท่าทีสลด “จริง ๆ แล้วเจ้าโทษท่านลุงไม่ได้ ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะกรรม ถ้าไม่ใช่เพราะการไล่ล่าก่อนหน้านี้จนทำให้ป้านั้นเสียลูกสาวไป ท่านลุงคงไม่เป็นแบบนี้”
“อะไรนะ ? เสียลูกสาวไปรึ ? ” องค์ชายห้าตะลึง แม้แต่เจี้ยนเฉินเองก็แปลกใจและมองไปที่องค์หญิงไทอัน ตอนนั้นเององค์หญิงก็ได้สติกลับมา นางรู้ตัวว่าหลุดปากไป ดังนั้นนางจึงรีบเอามือปิดปากไว้แน่นด้วยความตกใจ