ตอนที่ 1949 : จักรพรรดิซีมีลูก
“ชุยเซียน เจ้าว่าไงนะ ? ท่านลุงได้เสียลูกสาวไปตอนที่ถูกไล่ล่าในอดีตงั้นหรือ ? ทำไมข้าถึงไม่เคยได้ยินพูดถึงมาก่อน เขามีลูกสาวด้วยรึ ? ” องค์ชายห้ามองไปที่องค์หญิงไทอันด้วยความสงสัย
จักรพรรดิซีไม่ได้มีลูก ทุกคนรู้เรื่องนี้ ! องค์ชายห้าสับสนเมื่อองค์หญิงไทอันบอกว่าเขามีลูกสาว !
“มะ…มัน….อย่าถามข้าเรื่องนี้อีกเลยได้หรือไม่ ? ถ้าท่านป้ารู้ว่าข้าเปิดเผยเรื่องนี้ นางคงไม่มีทางยกโทษให้ข้าแน่” องค์หญิงไทอันค่อนข้างลนลาน นางแสดงความกังวลออกมาบนใบหน้า นางรู้ดีว่านางทำผิดพลาดมากแค่ไหนกับการเปิดเผยความลับนี้
เจี้ยนเฉินและองค์ชายห้ารู้ว่าเรื่องนี้มันหนักหนาเพียงใดหากดูจากสีหน้าที่หวาดกลัวขององค์หญิงไทอัน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ถามเรื่องนี้ต่อ แต่พวกเขาเป็นคนฉลาด พวกเขาได้ข้อสรุปหลายอย่างจากรายละเอียดเล็กน้อยพวกนี้
“เจี้ยนเฉิน ซีเฮ่า อย่าบอกคนอื่นเรื่องนี้ได้หรือไม่ ? นี่คือหนึ่งในความลับที่ยิ่งใหญ่ของอาณาจักร มันมีไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้” องค์หญิงไทอันไม่อาจจะใจเย็นดังเดิมได้ สีหน้าของนางดูลนลานพร้อมกับที่นางได้อ้อนวอนเจี้ยนเฉิน และซีเฮ่า
“ไม่ต้องกังวลไป ชุยเซียน เราจะไม่บอกใครเรื่องนี้ ใช่หรือไม่ เจี้ยนเฉิน ? ” องค์ชายห้าสาบาน
เจี้ยนเฉินพยักหน้ารับปากว่าจะไม่เปิดเผยเรื่องนี้
องค์หญิงไทอันไม่ได้มีอารมณ์จะอยู่ต่ออีกต่อไปหลังจากที่เกิดเรื่องนี้ขึ้น นางได้ลาเจี้ยนเฉินและรีบกลับออกไปด้วยความอึดอัดใจ
องค์ชายห้าฉลาดอย่างมาก เขารู้ว่าโอกาสที่จะได้ผูกมิตรกับคนแบบเจี้ยนเฉินนั้นแทบไม่มีอยู่เลย ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าที่จะมัวไร้สาระในเรื่องอื่นอยู่ เขาแค่ต้องการผูกมิตรกับเจี้ยนเฉิน
ถ้าพวกเขาเป็นสหายกันได้ ทุกอย่างก็จะง่ายดายกว่าเดิม !
เจี้ยนเฉินได้พาองค์ชายและองค์หญิงออกมาจากพระราชวังก่อนที่จะกลับไปยังที่พักของตน ในหัวเขาขบคิดเรื่องที่จักรพรรดิซีมีลูกสาว
“ข้าไม่คิดว่าจักรพรรดิซีจะแก้แค้นเพื่อลูกสาวด้วยการฆ่าพวกขอบเขตตั้งต้นไปมากมายแบบนี้ ความแค้นเคืองนี้จะจบลงตอนไหนกัน ข้าจะได้กลับไปยังภาคใต้เสียที ? ” เจี้ยนเฉินคิด เขานั่งอยู่ในที่พักของตนพร้อมกับรู้สึกกังวล แต่ร่างกายของเจี้ยนเฉินกลับสะดุ้งขึ้นมา ความคิดที่น่าเหลือเชื่อโผล่มาในหัวเขา เขาคิดและวิเคราะห์มันทันที
“ตอนนี้โดยพื้นฐานแล้วไม่มีใครในจักรวรรดิซีที่รู้ว่าจักรพรรดิซีกับจักรพรรดินีนั้นมีลูก แม้แต่ผู้พิทักษ์จักรพรรดิก็ไม่รู้เรื่องนี้ งั้นแน่นอนว่าจักรพรรดินีคงไม่ได้เสียลูกไปในจักรวรรดิซี ไม่งั้นแล้วคงเป็นไปไม่ได้ที่จะปกปิดเรื่องนี้เอาไว้ มันคงเป็นที่พูดถึงกันมานานแล้ว ผลก็คือการตั้งท้องของนางคงเกิดขึ้นตอนที่พวกเขาโดนไล่ล่า มันผ่านมากว่าสองพันปีนับตั้งแต่นั้น….”
“เมื่อสองพันปีก่อน หัวหน้าตระกูลโม่ได้เก็บเด็กทารกได้และนางก็มีปิ่นหยกที่เขียนไว้ว่า ‘ซีหยู’ กับตัวนางไม่มีอย่างอื่นเลย ข้าเคยเห็นปิ่นนั่น มันทำขึ้นจากโลหะที่แข็งและโดดเด่นอย่างมาก แม้แต่ข้าก็ไม่อาจจะสร้างความเสียหายให้มันได้ในอดีต ผลก็คือคนที่สลักตัวหนังสือไว้ที่ปิ่นนั้นได้ต้องแข็งแกร่งอย่างมากแน่ ๆ หากเทียบเวลา,แซ่และเพศกันแล้ว งั้นไม่ใช่ว่าซีหยูเป็น….”
ทันใดนั้นเจี้ยนเฉินก็แปลกใจขึ้นมาเมื่อคิดถึงจุดนั้น เขารู้สึกว่ามันน่าเหลือเชื่อ
หลังจากที่ลังเลได้ไม่นาน เจี้ยนเฉินก็หันไปมองทางที่องค์หญิงไทอันและองค์ชายห้าซึ่งกลับกันไป เขาไล่ตามทั้งคู่ไปด้วยความเร็วทั้งหมดที่ตัวเองมี
ด้านนอกเมืองหลวงมีรถม้าที่มีสัตว์อสูร 9 ตัวพุ่งตัดผ่านอากาศเข้ามา
ทหารหลายสิบคนที่มีพลังแข็งแกร่งยืนอยู่ข้างรถม้านั้น หัวหน้าพวกนั้นคือราชาเทพ
องค์หญิงไทอันและองค์ชายห้าเข้าไปนั่งด้านใน
“ชุยเซียน เจ้าบอกรายละเอียดข้าทีได้หรือไม่ ? ท่านลุงมีลูกสาวตอนไหนกัน ? ทำไมข้าไม่รู้เรื่องนี้ ? ” องค์ชายห้าถามขึ้นมาด้วยความสงสัย
รถม้าที่หรูหรานี้เป็นสมบัติที่มีการป้องกันที่สูงส่ง มันครอบคลุมไปด้วยค่ายกล ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะแอบฟังเนื้อหาที่พูดคุยกันด้านใน
“ข้าต้องเริ่มจากตอนที่ท่านลุงและท่านป้าโดนไล่ล่า ตอนนั้นท่านป้าพบว่าตัวเองตั้งท้อง หลังจากที่ให้กำเนิดแล้วป้าก็ได้ตัดสินใจที่จะทิ้งลูกไปเพราะนางไม่มีทางเลือกและไม่อาจจะปกป้องลูกของนางได้ นางหวังว่ามันจะทำให้ลูกของนางมีชีวิตต่อไป” องค์หญิงไทอันพูดขึ้นมาช้า ๆ
“อย่างนั้นรึ ? ข้าคิดไม่ถึงว่าข้า ซีเฮ่า จะมีน้องสาวอยู่ด้วย เกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น ? เกิดอะไรขึ้นกับน้องสาวของข้า ? มีข่าวอะไรรึไม่ ? ” องค์ชายห้าแปลกใจก่อนจะถามออกมาด้วยความกังวล
องค์หญิงไทอันส่ายหน้า สีหน้านางหม่นลง “การไล่ล่าบังคับให้ท่านลุงและท่านป้าต้องตกที่นั่งลำบาก พวกเขาต้องหนีไปทั่วที่ราบเมฆาซึ่งพวกเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสจนเกือบจะตายกันมาหลายครั้ง สถานการณ์มันอันตรายซะจนพวกเขาไม่รู้ว่าพวกเขาได้ทิ้งลูกของตนไว้ที่ไหน พวกเขาไม่รู้ว่านางเป็นยังไงบ้าง หลังจากที่ท่านลุงได้เป็นจักรพรรดิ เขาก็ได้โจมตีคนมากมายเพื่อทำการแก้แค้น ดังนั้นพวกนั้นจึงไม่มีทางป่าวประกาศเรื่องเด็กได้ พวกเขากลัวว่าศัตรูของพวกเขาจะหาลูกสาวเขาพบก่อน ผลก็คือพวกเขราได้แต่ส่งลูกน้องที่เชื่อใจไปตรวจสอบทั่วที่ราบเมฆาแบบลับ ๆ แต่มันก็ผ่านมานานหลายปีแล้วแต่ก็ยังไม่มีข่าวคราวอันใด “
องค์หญิงไทอันมองไปที่ซีเฮ่าหลังจากที่พูดมาถึงจุดนี้ จากนั้นนางก็ได้พูดต่อ “ซีเฮ่า เจ้าเข้าใจความสำคัญของเรื่องนี้หรือไม่ ? เจ้าไม่อาจจะบอกใครเรื่องนี้ได้”
ซีเฮ่าพยักหน้า “ชุยเซียน ข้าเข้าใจ ข้าไม่คิดว่าจะมีความลับในเรื่องนี้ที่ว่าทำไมท่านลุงถึงได้เปลี่ยนไปมากแบบนี้และกลายเป็นคนไร้ความเมตตา ตอนนี้ข้าไม่รู้สึกว่าท่านลุงทำเกินไปเลยแม้แต่น้อย”
ตอนนั้นมันก็มีเสียงทหารดังขึ้นมาจากด้านนอก “องค์ชายห้า องค์หญิงไทอัน เจี้ยนเฉินกำลังวิ่งมา เขาบอกว่าเขาต้องการจะพบองค์หญิงไทอันเพราะเรื่องสำคัญบางอย่าง “
“เจี้ยนเฉินวิ่งมารึ ? เขาต้องการอะไร ? ”
ทั้งสองคนต่างก็พากันสงสัยขึ้นมา
ไม่นานรถม้าก็หยุดและทั้งสองก็ได้ลงมาจากรถม้า พวกเขาลอยอยู่ในอากาศและมองไปที่เจี้ยนเฉินที่กำลังวิ่งเข้ามาหา
เจี้ยนเฉินป้องมือให้องค์ชายห้าก่อนจะบอกกับองค์หญิง “องค์หญิงไทอัน เราไปข้าง ๆ เพื่อพูดคุยบางอย่างกันได้หรือไม่ ? ”
องค์หญิงพยักหน้าก่อนจะบินออกไปพร้อมกับเจี้ยนเฉิน
องค์ชายห้ายืนกอดอกมองทั้งคู่ด้วยความสงสัย เขาพึมพำกับตัวเอง “แปลกจริง ๆ เจี้ยนเฉินกลับมาหาเชียนซุยทำไมกัน ? ”
ไกลออกไป เจี้ยนเฉินได้สร้างโล่พลังเพื่อกันเสียงก่อนจะเอากล่องออกมาจากแหวนมิติ เขาได้พูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “องค์หญิงไทอัน มันมีบางอย่างที่ข้าอยากขอให้เจ้าทำให้ข้าที โปรดส่งกล่องนี้ให้กับจักรพรรดิซีหรือไม่ก็จักรพรรดินีด้วย”
องค์หญิงรับกล่องมาด้วยความสงสัย นางตรวจสอบมันก่อนจะถามด้วยความสับสน “เจี้ยนเฉิน นี่อะไรกัน ? ”
“ถือว่าเป็นของขวัญสำหรับจักรพรรดินีและจักรพรรดิจากข้า พวกเขาอาจจะชอบมัน แต่เจ้าต้องให้จักรพรรดินีหรือจักรพรรดิดูมันด้วยตัวเองว่ามีอะไรอยู่ด้านใน” เจี้ยนเฉินพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึมราวกับว่าเขาบอกบางอย่างที่สำคัญอยู่
“ได้ ข้าจะเอามันไปมอบให้กับท่านลุงและท่านป้าด้วยตัวเอง” องค์หญิงพูดขึ้นก่อนจะกลับไปยังรถม้าแล้วกลับไปพร้อมกับองค์ชายห้า
เจี้ยนเฉินยังไม่ได้กลับไป เขาลอยอยู่บนท้องฟ้าและมองตามจนกระทั่งรถม้าหายไป เขาคิดกับตัวเอง “แม้ว่าข้าจะสร้างปิ่นนั่นแต่ทั้งหน้าตาและรอยสลักก็เหมือนกับที่ข้าเคยเห็นจากซีหยู นอกจากความจริงแล้วว่าวัสดุนี้ไม่ได้พิเศษอะไร ถ้าซีหยูนั้นคือลูกสาวของจักรพรรดิซีที่หายไปจริง ๆ งั้นพวกนั้นคงจำได้ทันทีที่เห็นปิ่นของข้า ถ้าไม่ใช่ ข้าก็ไม่ได้เสียหายอะไร มันไม่ใช่การคุกคามจักรพรรดิและจักรพรรดินีสักหน่อย”