เทพปีศาจผงาดฟ้า – ตอนที่ 126

ตอนที่ 126 ศึกษา

 

“เอาล่ะ… ได้เวลาฝึกฝนวรยุทธใหม่ที่ได้รับมาแล้ว!” หลงเฉินนั่งลงบนเตียงพร้อมกับเอ่ยด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

 

“มีตั้งสามวิชาให้ศึกษาเช่นนี้ ข้าจักเริ่มฝึกฝนวรยุทธใดก่อนดี? ดาบสายฟ้าซึ่งเป็นวรยุทธสําหรับจู่โจม หรือราชันย์ปฐพีซึ่งเป็นวรยุทธเคลื่อนไหวที่มีประโยชน์ไม่น้อย และท้ายสุด.. กายาราชันย์ปีศาจ?” หลงเฉินพึมพํากับตัวเองเบาๆ

 

“ข้ายังต้องหาเวลาทบทวนและทําความเข้าใจกับกฎแห่งห้วงมิติให้มากขึ้นด้วยเช่นกัน คงจักมิสามารถปล่อยเมล็ดแห่งกฏไว้ตลอดไปเช่นนี้ได้” หลงเฉินเอ่ยขึ้นคล้ายพูดกับตนเอง

 

“เจ้าควรต้องเรียนรู้กฏอื่นๆเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน หาใช่ศึกษาเพียงแค่กฏแห่งห้วงมิติเช่นนี้” ซุนปรากฏตวขึ้นภายในห้องพร้อมกับเอ่ยบอกหลงเฉิน

 

“เยี่ยม.. ข้ากําลังเก็บตัวฝึกฝนวิชา แต่เจ้ากลับอยู่ด้วยนี่นะ?!!” หลงเฉินพึมพําเสียงเบา แต่สีหน้าบ่งบอกถึงความหงุดหงิด

 

“ซุน.. ไหนๆเจ้าก็ปรากฏตัวแล้ว บอกข้าทีว่าเจ้าพอจะรู้หรือไม่ว่า ข้าจักหาลูกแก้วลูกต่อไปได้จากที่ใดกัน?” หลงเฉินเอ่ยถามต่อทันที

 

“ข้ามิรู้น” ซุนตอบกลับทันทีเช่นกัน

 

“เฮ้อ เช่นนั้นก็บอกข้ามาเท่าที่เจ้ารู้” หลงเฉินเอ่ยบอกน้ำเสียงหงุดหงิด

 

“เจ้าสามารถศึกษากฏต่างๆ ได้โดยมิต้องมีลูกแก้วได้เช่นกัน…” ซุนหัวเราะคิกคักขณะที่เอ่ยตอบ

 

“ข้ามิมีเวลาว่างมากมายถึงเพียงนั้น ข้ายังมีหลายสิ่งหลายอย่างมากมายที่ต้องทํารออยู่” หลงเฉินเอ่ยตอบ

 

“เช่นนั้นก็แล้วแต่เจ้า เจ้าต้องตัดสินใจเอง ข้ามสามารถเข้าไปก้าวก่ายการตัดสินใจของเจ้าได้!” ซูนตอบกลับ

 

“จริงสิ! ข้าเพิ่งนึกได้ว่ามีบางสิ่งบางอย่างต้องการถามเจ้า” หลงเฉินร้องอุทานออกมาเสียงดังเมื่อนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

 

“เจ้าต้องการถามอะไรข้างั้นรึ?” ซุนเอ่ยถามพร้อมกับจ้องมองหลงเฉินด้วยสีหน้าแววตาสนอกสนใจยิ่ง

 

“ก็เรื่องที่เหตุใดคนอื่นๆ จึงมิสามารถมองเห็นขั้นพลังบ่มเพาะของข้าน่ะสิ มันจักเป็นเช่นนี้ตลอดไปหรือไม่?” หลงเฉินเอ่ยถามซุนพร้อมกับจ้องมองนาง

 

“อ่อ เรื่องนี้เองหรอก มันเป็นเช่นนั้นนับตั้งแต่ที่เจ้าได้รับโลหิตของท่านอาจารย์เข้าไปในร่าง ในโลกใบนี้นี้มีมีผู้ใดควรค่าพอที่จะได้เห็นขั้นพลังบ่มเพาะของผู้สืบสายโลหิต” ซุนเอ่ยตอบด้วยสีหน้าท่าทางภาคภูมิใจ

 

“เอ่อ.. ซุน.. เจ้าพอมีหนทางใดที่จักทําให้ผู้อื่นเห็นขั้นพลังบ่มเพาะลวงๆของข้าได้หรือไม่? ข้ามิต้องการไปไหนมาไหนด้วยความรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ ผู้คนมักจ้องมองข้าเมื่อพวกเขามิอาจมองเห็นขั้นพลังบ่มเพาะของข้าได้ ข้ามิรู้ว่าหากเป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ มันจักนําพาหายนะที่คาดไม่ถึงอันใดมาให้ข้าบ้าง?” หลงเฉินเปิดเผยความกังวลใจของตนให้ซุนฟัง

 

“อ่อ.. เจ้ากังวลใจเรื่องนี้เองหรอก? ข้าเองก็พอมีหนทางบ้าง เทียนเฉินเป็นผู้ค้นพบวิธีนี้ด้วยตนเอง ตัวเขาเองก็เผชิญกับปัญหาในลักษณะเดียวกันกับเจ้า ขั้นพลังบ่มเพาะของเขาได้ถูกปิดซ่อนไว้เช่นกัน ซึ่งเขาเองก็มพอใจ แต่หาใช่เพราะเหตุผลเดียวกับของเจ้าไม่.. ตรงกันข้าม เทียนเฉินต้องการให้ผู้คนเห็นขั้นพลังบ่มเพาะที่แท้จริงของเขา เขาบอกกับข้าเสมอว่าเขามิต้องการให้เหล่ามดปลวกเข้ามาวุ่นวายกับเขาเพียงเพราะมิรู้จักประมาณตัวเอง แล้ววันหนึ่ง เทียนเฉินก็ค้นพบในสิ่งที่ตนเองต้องการ มันคือวรยุทธที่ทําให้เขาสามารถเปิดเผยขั้นพลังบ่มเพาะของตนเองได้ แต่เขาก็มิเคยเปิดเผยขั้นพลังลวงๆเลย” ซุนอธิบายให้หลงเฉินฟังอย่างละเอียด

 

“ยอดเยี่ยม!! เจ้าพอจะถ่ายทอดวิชานี้ให้กับข้าได้หรือไม่?” หลงเฉินเอ่ยถามด้วยความตื่นเต้นดีใจ

 

“ข้าสอนให้เจ้าก็ได้ แต่ข้าจะได้รับสิ่งใดเป็นการตอบแทนงั้นรึ? ข้าได้ช่วยเจ้าสร้างพันธะสัญญากับไข่อสูรไปโดยไม่ต้องการสิ่งตอบแทนมาก่อนหน้าแล้ว” ซุนยิ้มกว้างในขณะที่เอ่ยถามหลงเฉิน

 

“เจ้าจักได้รับจุมพิตที่ดูดดื่มจากข้าเป็นการตอบแทน..” หลงเฉินหยอกเย้าซุน

 

“อี้ ผู้ใดต้องการสิ่งนั้นกัน?” ซุนทําสีหน้าและน้ำเสียงหงุดหงิด

 

“หญิงสาวมากมายที่ต้องการ แต่หากเจ้ามิต้องการจุมพิตของข้า แล้วเจ้าต้องการสิ่งใดเล่า?” หลงเฉินเอ่ยถามพร้อมกับหัวเราะร่วน

 

“คําสัญญา!” ซุนจ้องมองหลงเฉินพร้อมกับเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง

 

“คําสัญญาเรื่องอะไร?” หลงเฉินเอ่ยถามด้วยสีหน้างุนงง

 

“คําสัญญาว่าเจ้าจักต้องช่วยเหลือข้าในยามที่ข้าต้องการ!” ซุนเอ่ยตอบหลงเฉินทันที

 

“หากข้าอยู่ในฐานะที่จักช่วยเจ้าได้ ต่อให้ต้องเอาชีวิตเข้าเสี่ยงข้าก็ยินดี เจ้ามั่นใจได้เ” หลงเฉินเอ่ยตอบซุน

 

“ถ้าเช่นนั้น ข้าจักนับว่าเจ้ายอมรับเงื่อนไข และให้คํามั่นสัญญากับข้าแล้ว!” ซุนเอ่ยตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

 

“เปิดญาณหยั่งรู้ของเจ้าให้กับข้า ข้าจักทําการถ่ายทอดวิชานี้ให้กับเจ้า” ซุนร้องบอกหลงเฉิน

 

“ตกลง!”

 

หลงเฉินเปิดญาณหยั่งรู้ของตนเองออก และอนุญาตให้ซุนเข้าถึงญาณหยั่งรู้ของตนเองได้ ในไม่ช้า เขาก็ได้รับความรู้ใหม่เข้ามาภายในจิตใจ

 

หลงเฉินเริ่มทําการศึกษาความรู้ใหม่นี้ทันที และเวลาที่ผ่านไปถึงหนึ่งชั่วยามโดยที่เขาแทบไม่รู้ตัว..

 

“โอ้ว.. วิชานี้มีชื่อว่า “อําพรางสวรรค์” แต่ละขั้นตอนมีรายละเอียดค่อนข้างมากมาย อีกทั้งยังดูซับซ้อนมิอาจเข้าใจได้ง่ายๆ ดูท่าข้าคงต้องใช้เวลานานกว่าที่จะทําความเข้าใจกับมันได้” หลงเฉินเอ่ยยิ้มๆ

 

“ในเมื่อเจ้าได้ศึกษารายละเอียดทั้งหมดของวิชานี้แล้ว เจ้าคงรู้แล้วสินะว่ามันสามารถช่วยให้เจ้าเปิดเผยขั้นพลังลวงๆได้ แต่ถึงอย่างนั้น วิชานี้ก็ยังมีขีดจํากัดอยู่” ซุนเอ่ยขึ้นพร้อมกับทําสีหน้าครุ่นคิด

 

“ข้าพอเข้าใจ.. ข้าจักสามารถเผยขั้นพลังลวงได้ในขอบเขตที่ต่ำกว่า หรือสูงกว่าหนึ่งอาณาจักรจากขั้นพลังที่แท้จริงของตนเท่านั้น!” หลงเฉินจ้องมองซุนพร้อมกับเอ่ยตอบ

 

“ถูกต้อง! หากเจ้าอยู่ในอาณาจักรผสานวิญญาณขั้นสอง เจ้าจักสามารถทําให้ผู้อื่นเห็นว่าเจ้าอยู่ในอาณาจักรปรับกายาขั้นสอง หรืออาณาจักรแก่นปราณทองคําขั้นสองก็ได้ อยู่ที่ความต้องการของเจ้า” ซุนอธิบายยิ้มๆ

 

“เพียงแค่นี้ก็นับว่าดีมากพอแล้ว! ข้าเพียงแค่ต้องการให้ผู้อื่นเห็นขั้นพลังของข้า เพียงแค่นี้ก็นับว่าเป็นประโยชน์กับข้าในวันข้างหน้ามากทีเดียว” หลงเฉินเอ่ยตอบยิ้มๆ

 

“เอาล่ะ เจ้าปล่อยให้ข้าอยู่ตามลําพังได้แล้ว? ข้าต้องการทําความเข้าใจกับวิชานี้ให้ได้โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทําได้ และจะได้เริ่มทําความเข้าใจกับวิชา ดาบสายฟ้า ราชันย์ปฐพี และกายาราชันย์ปีศาจต่อ” หลงเฉินหลับตาและเริ่มทําศึกษาทําความเข้าใจทันที

 

“ฮึ่ม..” ซุนทําเสียงขึ้นจมูกอย่างไม่พอใจในขณะที่หายตัวไป

 

หลงเฉินนั่งอยู่ในท่าเดิมตลอดทั้งวัน และพยายามที่จะศึกษาที่เข้าใจวิชาอําพรางสวรรค์ และฝึกฝนจนกระทั่งท้องของเขาเริ่มร้อง

 

“ดูท่าร่างกายมนุษย์มิอาจควบคุมด้วยจิตใจได้สินะ…”

 

หลงเฉินพึมพําพร้อมกับยิ้มกว้างอยู่บใบหน้า เขาลุกขึ้นยืนและเดินตรงไปที่ประตู เมื่อเปิดประตูออกไปก็พบบ่าวรับใช้ผู้หนึ่งยืนอยู่หน้าประตูห้อง

 

“ให้คนนําอาหารมาให้ข้าได้แล้ว” หลงเฉินร้องสั่งและปิดประตูห้องลง

 

ไม่นานนัก เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น หลงเฉินเปิดประตูออกมา และพบซวี่กําลังยืนอยู่ด้านนอกพร้อมถาดอาหารในมือ

 

เมื่อประตูเปิดออก ซวีจึงก้าวเดินเข้าไปด้านใน และวางถาดอาหารลงบนโต๊ะ นางยืนมองหลงเฉินรับประทานอาหารจนหมด จากนั้นจึงเก็บถาดที่มีจานอาหารว่างเปล่าเดินออกไป นางมิได้เอ่ยถามใดๆเพราะเกรงจะเป็นการรบกวนจิตใจของหลงเฉิน

 

หลงเฉินจ้องมองซวี่ที่เดินออกไป เขาพยายามที่จะไม่พูดไม่จาสิ่งใดกับผู้ใดทั้งสิ้น หลังจากปิดประตูลง หลงเฉินก็กลับเข้าไปในห้องนอน และเริ่มศึกษาทําความเข้าใจกับวิชาอําพรางสวรรค์อีกครั้ง

 

หลงเฉินใช้เวลานานกว่าหนึ่งชั่วยาม ก่อนที่จะสามารถเข้าใจรายละเอียดทั้งหมดของวิชาอําพรางสวรรค์นี้ได้

 

“ยอดเยี่ยม!! ในที่สุดก็สําเร็จไปหนึ่งวิชา ต่อไปก็.. กายาราชันย์ปีศาจ!” หลงเฉินเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง

 

เทพปีศาจผงาดฟ้า

เทพปีศาจผงาดฟ้า

เทพปีศาจผงาดฟ้า
Score 7.8
Status: Ongoing Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง เทพปีศาจผงาดฟ้าเทพปีศาจผงาดฟ้า เขาฟื้นสติตื่นขึ้นมาในร่างและผืนพิภพแห่งใหม่ หลังจากที่ล่วงลับตายจากไปในโลกก่อนหน้า หลงเฉินเริ่มออกเดินทางครั้งใหม่ในผืนพิภพที่เต็มไปด้วยเทพเซียนและมารปีศาจ สิ่งมีชีวิตลึกลับมากมายหลายหลาก และมนุษย์ที่สามารถบ่มเพาะพลังจนขึ้นกลายเป็นยอดฝีมือผู้ไร้เทียมทาน พร้อมผงาดขึ้นสู่จุดสูงสุดแห่งผืนพิภพทั้งมวล หนทางเบื้องหน้าของเขามิได้เรียบง่ายอย่างที่คิด จำต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมายเกินคณานับ สังหารทุกคนที่เข้าขัดขวาง ยอดผู้ฝึกยุทธ์พเนจรท่องโลกาท้ายุทธภพสุดขอบฟ้า จนกลายเป็นที่รู้จักในนามเทพปีศาจแห่งจักรวาล ปกครองความเป็นและความตาย แม้กระทั้งสรวงสวรรค์ยังต้องก้มกราบต่อหน้าเขา!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset