ตอนที่ 130 ไฟปรารถนา
“เอิ่ม… แล้วเรื่องเงินทองเล่า เจ้าจักทําเช่นใด? เจ้าจําเป็นต้องมีเงินทองติดตัวไปให้มาก การเดินทางในครั้งนี้จักได้เป็นไปอย่างสะดวกราบรื่น” ซุนนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาได้ จึงรีบร้องบอกหลงเฉินทันที
“เรื่องนั้นเจ้ามิต้องกังวลใจไป ข้ามีเงินทองมากมาย อีกทั้งเวลานี้ก็เข้าสู่อาณาจักรแก่นปราณทองคําแล้ว จึงสามารถล่าสัตว์อสูรแก่นปราณทองคําเพื่อนําไปขายให้กับพ่อค้าที่รับซื้อได้ อสูรแก่นปราณทองคําเป็นที่ต้องการของผู้คน เพราะมันมีประโยชน์ในด้านการหลอมกลั่นโอสถยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นโลหิตแก่นปีศาจ หรือส่วนอื่นๆตามร่างกายพวกมัน ล้วนแล้วแต่สามารถขายได้ในราคาสูงยิ่งนัก และนั่นก็น่าจะเพียงพอให้พวกเรามีเงินทองใช้สอยตลอดการเดินทาง”
ทันทีที่หลงเฉินได้รับรู้ในปัญหาในเรื่องนี้ เขาก็สามารถบอกเล่าแผนการให้ซุนฟังได้เป็นฉากๆ
“แล้วพวกเราจักเริ่มออกเดินทางเมื่อใด?” ซุนเอ่ยถามด้วยสีหน้าและแววตาตื่นเต้น
“พรุ่งนี้! วันนี้ข้ารู้สึกเหน็ดเหนื่อยยิ่งนัก คืนนี้จึงตั้งใจจักนอนหลับพักผ่อนเสียก่อน อีกทั้งจะได้มีเวลาจัดเตรียมข้าวของที่จําเป็นจากจวนไป และเมื่อพร้อมก็สามารถออกเดินทางได้ทันที ราตรีสวัสดิ์แม่นางคนสวย พบกันใหม่พรุ่งนี้” หลงเฉินเอ่ยบอกซุนพร้อมกับหลับตาลงทันที
หลงเฉินหลับไปในทันที และปล่อยให้ซุนอยู่ตามลําพัง
“ห์ ช่างเถิด อย่างน้อยครั้งนี้เจ้าก็ยังเห็นว่าข้างดงาม ปกติเจ้ามักจะเอ่ยปากชมว่าข้าน่ารักน่าเอ็นดู และปฏิบัติต่อข้าราวกับเด็กน้อย” ซุนพึมพําในขณะที่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่ร่างของหลงเฉินก่อนจะหายตัวไป
ผ่านไปหลายชั่วยามจนกระทั่งรุ่งอรุณใหม่มาเยือนอีกครา ทันทีที่หลงเฉินตื่นขึ้นมา เขาก็ลุกจากเตียงเดินตรงไปที่ตู้เก็บอาภรณ์ของตน หลังจากเลือกอาภรณ์ใหม่เอี่ยมมาได้แล้ว จึงนําไปวางไว้บนเตียง ก่อนจะเปลื้องอาภรณ์ชุดเก่าออก และเดินออกจากห้องนอนไป
“โอ้ เมื่อคืนข้าลืมลงกลอนประตูงั้นรึ? คราวหลังคงต้องระมัดระวังให้มากกว่านี้”
หลงเฉินพิมพ์ออกมา แต่ในระหว่างนั้นก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขาจึงรีบเดินกลับไปที่ตู้ และหยิบผ้าผืนหนึ่งมาพันรอบเอวปกปิดส่วนสําคัญของตนไว้
จากนั้นหลงเฉินจึงเปิดประตูห้องนอนและก้าวเดินออกไป แต่เมื่อเดินผ่านห้องนั่งเล่นซึ่งอยู่ติดกับห้องอาบน้ํา เขาก็พบซวี่และเม่ยกําลังฟุบหลับอยู่บนโต๊ะ
“พวกนางสองคนมาคอยข้าอยู่ที่นี้หรอก”
หลงเฉินจ้องมองสาวใช้ทั้งสองพร้อมกับก้าวเท้าเข้าไปหานิ้วมือของเขาลูบไล้แก้มของพวกนางทั้งสองอย่างอ่อนโยน แต่แล้วหลงเฉินกลับรู้สึกว่า หากเขามีรีบออกไปจากที่นี้โดยเร็ว เขาจักต้องเผชิญกับปัญหาเป็นแน่ เขาคงจะมิสามารถควบคุมตนเองไว้ได้อีก นั่นเพราะเวลานี้เขาสัมผัสได้ว่า เปลวเพลิงกําลังเริ่มที่เผาผลาญภายในกายของเขาอีกคราแล้ว หลงเฉินรีบดึงมือออกจากแก้มของหญิงสาวทั้งสองทันที แต่เมื่อเขากําลังจะหันหลังเดินจากไปนั้น เม่ยกับซวี่ก็ตื่นขึ้นมาเห็นหลงเฉิน เข้าพอดี
“นายน้อย! ท่านดีขึ้นแล้วหรือ?”
หญิงสาวทั้งสองเอ่ยถามขึ้นพร้อมกัน ในขณะที่ทั้งคู่ต่างก็รีบลุกขึ้นและเดินตรงเข้าไปหาหลงเฉิน หลงเฉินอดที่จะจ้องมองเรือนร่างที่สวมใส่อาภรณ์รัดรึ่งเน้นให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งสวยงามของหญิงสาวทั้งสองมิได้
“พวกเจ้าสองคนพยายามอยู่ให้ห่างจากข้าเอาไว้จะดีที่สุด การควบคุมไฟปรารถนาในกายนั้นเป็นเรื่องที่ยากยิ่งนัก!” หลงเฉินเอ่ยบอกสาวใช้ทั้งสองพร้อมกับเบนสายตาออกจากเรือนร่างของพวกนางได้อย่างยากลําบากยากเย็น
“ไฟปรารถนาอันใดรึ? นายน้อยกล่าวถึงเรื่องอะไรกัน?” ซวี่เอ่ยถามพร้อมกับจ้องมองหลงเฉิน
“ไฟปรารถนาที่พร้อมจะแผดเผาทําลายพวกเจ้าทั้งสองคนที่นี่ และเดี๋ยวนี้อย่างไรเล่า!” หลงเฉินร้องตะโกนออกมาเสียงดังพอที่จะให้หญิงสาวทั้งสองได้ยินอย่างชัดเจน
“จะ.. จริงรึ?!” ซวี่ร้องอุทานออกมาด้วยสีหน้าตกอกตกใจ
“นะ… นายน้อยเห็นว่าข้าน่าสนใจงั้นรึ?” ซวี่เอ่ยถามพร้อมกับก้มหน้าลง
“ถูกต้อง.. เจ้าน่าดึงดูด เรือนร่างของเจ้าช่างเย้ายวนยิ่งนัก ใบหน้าที่แสนงดงาม เนินอกนุ่มนิ่มใหญ่โตนั้นก็ช่างยั่วยวน ทําให้ข้ายากที่จักควบคุมตนเองไว้ได้ ฉะนั้น รีบออกไปจากที่นี่โดยเร็ว!” หลงเฉินเอ่ยบอกซี่ด้วยน้ําเสียงที่สั่นสะท้าน บ่งบอกว่าเขาแทบจะทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
“ข้ามไปนายน้อย! ข้ามิอยากไป! หากท่านปรารถนาในตัวข้า ต้องการทําลายข้า ข้าเองก็ยินยอมให้นายน้อยทําลายเช่นกัน ข้าข้าเองก็ต้องการเป็นผู้หญิงของนายน้อย แม้จักเพียงแค่หนึ่งวันก็ตาม” เม่ยเอ่ยขึ้นด้วยน้ําเสียงที่สั่นสะท้าน และเต็มไปด้วยอารมณ์พลุ่งพล่าน นางวิ่งตรงเข้าไปหาหลงเฉินพร้อมกับโอบกอดร่างของเขาไว้แน่น ก่อนที่ซวี่จะทันได้เอ่ยอันใดออกไปเสีย
หลงเฉินหมดความอดทนที่จะควบคุมตนเองต่อไป เขายกมือขึ้นโอบกอดเรือนร่างที่ร้อนรุ่มของเม่ยพร้อมกับจ้องลึกลงไปในดวงตาของนาง เวลานี้ใบหน้าของคนทั้งคู่อยู่ห่างกันเพียงแค่หนึ่งนี้วมือเท่านั้น หลงเฉินสัมผัสได้ถึงลมหายใจถี่ของเม่ย เขาโน้มใบหน้าของตนเองลงไป แนบริมฝีปากของตนลงบนริมฝีปากของนางเพื่อลิ้มรสหวานของริมฝีปากคู่นั้น ระหว่างที่จุมพิตเม่ยนั้น หลงเฉินก็ได้เลือนฝ่ามือที่อยู่บนแผ่นหลังลงไปที่ก้นทั้งสองของนางพร้อมกับบีบเบาๆ
เม่ยมิอาจทานทนต่อความรู้สึกที่เกิดขึ้นได้ นางเผยอริมฝีปากออกพร้อมกับร้องครางออกมา หลงเฉินฉวยโอกาสนี้ฉกลิ้นของตนเข้าไปในปากของเม่ย และเริ่มใช้ลิ้นของตนชอนไชเล่นกับลิ้นของนาง เม่ยรู้สึกร่างกายอ่อนปวกเปียกกับความพออกพอใจในรสจุมพิตของหลงเฉิน และยินยอมพร้อมใจไปกับจุมพิตดูดดื่มของเขา
“นี่ นี่”
ซวี่ยืนมองหลงเฉินจุมพิตและลูบไล้บั้นท้ายของเม่ยด้วยสีหน้าตกอกตกใจ นางมิรู้ว่าควรต้องทําเช่นใด และมิรู้ว่าตนเองกําลังฝันไป หรือมันคือความจริงกันแน่ แต่ที่นางรู้คือ… นางต้องการไปอยู่ตรงนั้นแทนเม่ย นางปรารถนาให้หลงเฉินทํากับนางเช่นเดียวที่กําลังทํากับเม่ย
ฝ่ามือทั้งสองของหลงเฉินที่ลูบไล้ก้นของเม่ยอยู่นั้น เวลานี้ได้เคลื่อนมาอยู่ที่เนินอกทั้งสองของนาง และกําลังลูบไล้ไปมา หลังจากจุมพิตอยู่ครู่หนึ่ง หลงเฉินจึงได้ถอนริมฝีปากของตนออกจากริมฝีปากของเม่ย จากนั้นจึงเอื้อมมือซ้อนร่างของนางขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน ประหนึ่งว่านางคือเจ้าหญิง ก่อนจะค่อยๆก้าวเดินเข้าไปในห้องนอน
“นะ นายน้อย ข้า ข้าก็ต้องการเช่นกัน”
ซวี่ต้องอาศัยความพยายามยิ่งนักในการที่จะเอ่ยออกไป เมื่อเห็นหลงเฉินกําลังอุ้มร่างของเม่ยเข้าไปในห้องนอนเช่นนั้น หลงเฉินหยุดชะงักและหันกลับมามองซวี่พร้อมกับรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ของตน เขาเดินตรงเข้าไปหาซวีโดยมีร่างของเม่ยที่นอนขดอยู่ในอ้อมแขน
“ข้าเองก็กําลังรอให้เจ้าเอ่ยออกมา…”
หลงเฉินเดินเข้าไปใกล้ซวพร้อมกับกระซิบเสียงเบา จากนั้นจึงได้โน้มใบหน้าลงไปพร้อมกับแนบริมฝีปากของตนลงไปบนแก้มของซวี่ และเพียงแค่นั้นก็ทําให้ซวี่ถึงกับขนลุกขนชันและสั่นสะท้านไปทั้งร่าง เมื่อได้สัมผัสกับลมหายใจของหลงเฉิน หัวใจของซวี่ก็ถึงกับเต้นถี่ขึ้นทันที
“เจ้าต้องการให้ข้าหยุดเพียงแค่นี้หรือไม่?”
หลงเฉินกระซิบถามซวพร้อมกับจ้องลึกลงไปในดวงตาของนาง แต่ก่อนที่นางจะทันได้ตอบอัน ใดกลับมา ริมฝีปากของหลงเฉินก็แนบปิดริมฝีปากของซวีไว้ทันที หลังจากจุมพิตซวีไปไม่กี่อึดใจ เขาก็ถอนริมฝีปากของตนเองออกจากริมฝีปากของนาง แต่ยังคงเว้นระยะห่างของใบหน้าไว้เพียง แค่หนึ่งนิ้วมือเท่านั้น ขณะเดียวกันก็จ้องลึกลงไปในดวงตาของนางโดยมิได้ทําอะไร
แต่มินานนัก กลับเป็นซวี่ที่เป็นฝ่ายทําลายระยะห่างของใบหน้า และนางเป็นฝ่ายจุมพิตเขาก่อน หลงเฉินอัศจรรย์ใจยิ่งนักเมื่อพบว่าซวี่กลับน่าหลงใหลมากกว่าเม่ย ปลายลิ้นของทั้งคู่ต่างซุกไซ้ลิ้มรสหวานของกันและกัน และหลงเฉินก็ชื่นชอบจุมพิตของซวี่นัก
“เข้าไปในห้องนอนกันดีกว่า”
หลังจากจุมพิตกันอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดหลงเฉินก็ถอนริมฝีปากออกมา และเอ่ยกับซี่ที่กําลังหายใจถี่
หลงเฉินเดินเข้าไปในห้องนอน โดยมีซวี่เดินตามเข้ามาอย่างว่าง่าย