ตอนที่ 60 อะไรอยู่ในไข่
“ผู้ใดกัน?” เท็นช่าเอ่ยถามขึ้นทันทีเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น
“ข้าเองท่านพ่อ! ข้ามาแจ้งข่าวว่าท่านหลงเฉินกลับมาแล้ว และเวลานี้กำลังนั่งรอท่านอยู่ที่ห้องโถงใหญ่” เทอร่าร้องตอบกลับไป
“อะไรนะ???”
เท็นช่าและซูผุดลุกขึ้นยืนทันทีและร้องตะโกนออกไปพร้อมๆกัน ทั้งคู่มีสีหน้าตกอกตกใจไม่น้อยเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“เหตุใดเขาจึงกลับมาเร็วนัก? หรือเขาเปลี่ยนใจที่จะไม่ร่ำเรียนกับลูกแก้วของเผ่าเราแล้ว? ไม่แน่ว่าเขาอาจสนใจลูกแก้วของเผ่าแบนชีก็เป็นได้!”
เท็นช่าพึมพำออกมาเมื่อนึกขึ้นได้ว่า ตนเองบอกสิ่งใดกับหลงเฉินไปบ้างก่อนที่จะจากมา..
“เอาเถิด.. จักด้วยเหตุผลใดก็ตามที นับเป็นเรื่องดีที่เขามิต้องการอยู่ที่เผ่าของเราต่อ เรามีโอกาสที่จะส่งเขาออกนอกเผ่าแล้ว!” ซูตอบกลับทันที
“นั่นสินะ! นับว่าเทพเจ้าอยู่เคียงข้างพวกเราแล้ว..” เท็นช่าเอ่ยออกมาด้วยสีหน้าดีอกดีใจ และรีบเดินออกจากห้องไปพร้อมกับซูทันที
“ท่านหลงเฉิน.. ยินดีต้อนรับอีกครั้ง ว่าแต่เหตุใดท่านจึงกลับมาเร็วนักเล่า? ข้ายังคิดว่าท่านจักต้องอยู่ที่นั่นนานกว่านี้”” เท็นช่าเอ่ยทักทายหลงเฉินทันทีที่เดินเข้าไปในห้อง
“ข้าอยากจะขอให้เจ้าช่วยพาข้าไปที่เผ่าแบนชี..” หลงเฉินจ้องมองชายทั้งสอง และตอบกลับไปตรงๆอย่างมิอ้อมค้อม
“ด้วยความยินดี!! ข้าจักรีบไปจัดเตรียมการเดินทางให้ตามที่ท่านต้องการเดี๋ยวนี้” เท็นช่าตอบกลับหลงเฉินด้วยสีหน้าดีอกดีใจอย่างเปิดเผย
“เจ้าดูดีอกดีใจอย่างออกหน้าออกตาเช่นนี้ ข้าเป็นแขกที่แย่มากเลยงั้นรึ?” หลงเฉินเห็นสีหน้าท่าทางที่มีความสุขอย่างออกหน้าออกตาของเท็นช่าเช่นนั้น จึงอดที่จะเอ่ยถามออกไปไม่ได้..
“หาใช่เช่นนั้นไม่.. ท่านเป็นแขกที่มีเกียรติที่สุดของเผ่าเราอย่างที่มิมีผู้ใดเปรียบได้!” เท็นช่าตอบกลับอย่างรวดเร็ว
“ช่างเถิด!! ว่าแต่จากที่นี่ไปเผ่าแบนชีใช้เวลาเดินทางนานเท่าใดงั้นรึ?” หลงเฉินเปลี่ยนเรื่องด้วยการเอ่ยถามถึงการเดินทางในครั้งนี้
“หากเดินเท้าก็จักใช้เวลาราวยี่สิบกว่าวัน แต่หากเดินทางโดยม้าก็จักใช้เวลาเพียงแค่สองวันเท่านั้น!” ซูเอ่ยตอบก่อนที่เท็นช่าจะทันได้กล่าวอันใด
“ข้ามิเคยพบเจ้ามาก่อน เจ้าคือผู้ใดงั้นรึ?” หลงเฉินเอ่ยถามออกไปด้วยความสงสัย
“คิดไม่ถึงว่าข้าจักมีวาสนาได้พบกับท่านปรมาจารย์หลงเฉิน ข้าน้อยนามว่าซู เป็นรองหัวหน้าเผ่าเอลเฟีย” ซูตอบกลับด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“อ่อ.. ข้าเองก็ได้ยินชื่อเสียงของเจ้ามาก่อนเช่นกัน! รองหัวหน้าเผ่าเอลเฟียผู้แข็งแกร่งที่สุดเป็นอันดับสองของเผ่านี้ ในที่สุดข้าก็พบเจ้าเสียที!” หลงเฉินตอบกลับด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเช่นกัน
“ที่เผ่าของเจ้ามีม้าด้วยรึ? ในดินแดนที่มีแต่ทะเลทรายเช่นนี้ ม้าจักมีประโยชน์อันใด? ม้าวิ่งในทะเลทรายได้ด้วยรึ? แต่เมื่อครั้งที่ข้าพบกับเทอร่าคราแรก เขาก็เดินทางด้วยเท้าหาได้มีขี่ม้าไม่ เพราะเหตุใดกัน?”
“เฮ้อ.. พูดไปก็รังแต่จะอับอาย บุตรชายของข้าผู้นี้กลับมิรู้วิธีขี่ม้าเอลเฟีย ข้าพยายามสอนเขาอยู่หลายครั้งหลายครา แต่เขาก็ยังมิสามารถทำได้ เมื่อใดที่ต้องเดินทางโดยม้าเขาก็มักซ้อนท้ายข้าไปเสมอ..” เท็นช่าตอบกลับด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน
“ม้าเอลเฟียสามารถวิ่งในทะเลทรายได้ แต่อาจมิได้รวดเร็วมากนัก อีกทั้งระหว่างเผ่าแบนชีกับเผ่าเราก็มิได้มีทะเลทรายกางกั้น จึงสามารถเดินทางไปมาโดยม้าได้อย่างสะดวกรวดเร็ว” เท็นช่าอธิบายให้หลงเฉินฟังต่อ
“ถ้าเช่นนั้นก็ดี.. ข้าจักเดินทางไปที่นั่นโดยม้า แต่ข้ามิรู้เส้นทาง.. จักพอมีผู้ใดติดตามข้าไปได้บ้าง?” หลงเฉินเอ่ยถามเท็นช่า
“หากให้เจ้าลูกโง่ของข้าพร้อมผู้อารักขาไปกับท่าน เห็นทีจะมิเป็นการสมเกียรติของท่านนัก ท่านคิดเห็นเช่นใดหากข้า หรือท่านซูจักไปส่งท่านด้วยตัวเอง?” เท็นช่าเอ่ยถาม
“เจ้ามิต้องทำถึงเพียงนั้นก็ได้.. พวกเจ้าทั้งสองควรอยู่ดูแลงานที่เผ่า ข้าเชื่อว่าพวกเจ้าสองคนคงจะมีงานล้นมือ ข้าจะไปกับผู้อารักขาบางส่วนเท่านั้น” หลงเฉินเอ่ยตอบ
“ทำเช่นนั้นมิได้! เผ่าอื่นจักคิดเช่นใดหากรู้ว่า พวกเราปล่อยให้ผู้มีพระคุณออกเดินทางไปเพียงลำพังกับผู้อารักขา โดยมิมีคนสำคัญของเผ่าติดตามไปด้วยเช่นนี้?”
“ท่านปรมาจารย์หลงเฉิน หากท่านมิต้องการให้พวกข้าสองคนติดตามท่านไปด้วย ก็ให้ลูกสาวของข้ากับเทอร่าติดตามไปพร้อมกับนักรบที่เก่งที่สุดของเผ่าเราเถิด..”
ซูเอ่ยขัดขึ้นพร้อมกับยื่นข้อเสนอให้กับหลงเฉิน..
“อืมม.. เป็นข้อเสนอที่ดีไม่น้อยทีเดียว” เท็นช่าเอ่ยออกมาพร้อมกับหันไปยิ้มให้หลงเฉินขณะที่เอ่ยถาม
“มิทราบว่าท่านคิดเห็นเช่นใดบ้าง? ท่านต้องการที่จะเดินทางไปพร้อมกับท่านซู หรือว่าเทอร่ากับเซี่ย ท่านมีทางเลือกเพียงแค่สองทางเท่านั้น..”
“เอ่อ.. หากข้ามิอาจปฏิเสธได้ ก็ขอเลือกให้เทอร่าไปกับข้าก็แล้วกัน!” หลงเฉินคร้านที่จะโน้มน้าวเกลี้ยกล่อม จึงเลือกให้เทอร่าเดินทางไปพร้อมกับตน
“ตกลงตามนั้น!” เท็นช่ากล่าวยิ้มๆ
“พวกเราจักรีบไปเตรียมการให้ ว่าแต่ท่านต้องการจะออกเดินทางเมื่อใด?” ซูเอ่ยถามหลงเฉิน
“วันนี้คงจะมิทันการแล้ว ข้าเองก็ต้องใช้เวลาตระเตรียมเช่นกัน ข้าจักค้างที่นี่อีกคืนแล้วพรุ่งนี้จึงค่อยออกเดินทาง..” หลงเฉินตอบกลับไป
“ตกลง! เอาล่ะ.. ข้าไม่รบกวนเวลาอันมีค่าของท่านแล้ว ทุกอย่างจะถูกจัดเตรียมไว้พร้อมทันทีที่ท่านลืมตาตื่นขึ้นมา” เท็นช่าบอกกับหลงเฉิน แล้วจึงหันไปสั่งเทอร่าว่า
“เทอร่า.. เจ้าไปส่งท่านเฉินกลับห้องแทนข้าที!”
จากนั้นหลงเฉินก็ได้เดินตามเทอร่าออกไปจากห้องโถง..
…….
“นับว่าเป็นโชคดีอย่างมหาศาลของเผ่าเราที่เขาเป็นผู้เอ่ยปากขอจากไปเอง!!”
หลังจากที่หลงเฉินเดินจากไปไม่กี่อึดใจ เท็นช่าก็ถึงกับถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เขายิ้มกว้างพร้อมกระซิบบอกซูเสียงเบา
“คงจะเป็นความต้องการของบรรพบุรุษเผ่า ที่ต้องการเห็นเผ่าเอลเฟียกลายเป็นเผ่าที่แข็งแกร่งที่สุด!! ฮ่าๆๆ” ซูกระซิบตอบพร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข
……
“เจ้าเคยไปเผ่าแบนชีมาบ้างหรือไม่?” หลงเฉินเอ่ยถามเทอร่าขณะที่เดินตามเขาออกไป
“เคย.. เมื่อครั้งที่ยังเด็กข้าเคยไปที่นั่นครั้งหนึ่งพร้อมกับท่านพ่อ แต่ก็ผ่านมานานมากแล้ว คิดไม่ถึงว่าจักมีโอกาสได้ไปที่นั่นอีกครั้ง คงต้องเป็นการเดินทางที่สนุกสนานมากทีเดียว!” เทอร่าเอ่ยตอบพร้อมหันกลับไปมองหลงเฉินที่เดินตามมา
“เจ้าเล่าเรื่องในเผ่าแบนชีให้ข้าฟังคร่าวๆจะได้หรือไม่?” หลงเฉินร้องบอก
“ได้สิ.. ที่นั่นเป็นสถานที่ที่น่าสนใจอย่างมากเท่าที่ข้าเคยพบเห็นมาเลยทีเดียว ข้าบอกท่านได้เพียงเท่านี้ อีกไม่นานท่านก็จักได้เห็นเองกับตา” เทอร่าเอ่ยตอบยิ้มๆ
‘แค่คำว่าน่าสนใจนี่นะ.. เฮ้อ..’ หลงเฉินได้แต่บ่นพึมพำอยู่ในใจ
“นี่เป็นห้องนอนที่ดีที่สุดในคฤหาสน์หลังนี้ คืนนี้ท่านพักที่นี่ก็แล้วกัน จักมีสาวใช้ยืนอยู่หน้าประตูห้องคอยรับใช้ท่านอยู่ตลอดทั้งคืน หากท่านต้องการสิ่งใดก็เรียกหานางได้ทันที”
เทอร่าหยุดอยู่หน้าห้องนอนพร้อมกับยกมือขึ้นชี้ไปทางสาวใช้ที่ยืนอยู่ด้านข้า..
“ขอบใจเจ้ายิ่งนัก เอาล่ะ.. ไว้พบกันใหม่พรุ่งนี้!” หลงเฉินเอ่ยอำลาพร้อมกับเดินเข้าไปในห้องและปิดประตูทันที
หลงเฉินเดินตรงไปนั่งที่เตียงพร้อมกับเปิดสัมผัสเทวะออกสำรวจไปรอบๆ เมื่อไม่พบสิ่งใดที่ผิดปกติ เขาจึงนำไข่ปริศนาออกมาจากแหวนบรรจุ
“ซุน.. เจ้าเคยอยู่กับเทียนเฉินมาก่อนย่อมต้องรู้ว่าภายในไข่ใบนี้คือตัวอะไร?”
หลงเฉินเอ่ยถามขึ้น…