ตอนที่ 71 อาณาจักรปราณโลหิต
หลังจากการดูดซับเอาพลังชี่เข้าไปอย่างบ้าคลั่งของหลงเฉินได้สิ้นสุดลง เขาก็ล้มตัวลงนอนกับพื้นด้วยความเหน็ดเหนื่อยยิ่งในทันที หลงเฉินแทบทนต่อไปอีกไม่ได้หลังผ่านไปห้าวัน เขาได้แต่คิดว่าหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไปอีกเพียงแค่หนึ่งวัน เขาคงมิอาจรับไหวเป็นแน่ แต่นับว่าโชคดีที่ปรากฏการณ์นี้ได้หยุดลงทันเวลา..
หลังจากพักผ่อนไปราวครึ่งชั่วยาม หลงเฉินจึงค่อยๆลากสังขารที่เหนื่อยล้าอย่างมากของตนไปที่เตียง และนอนหลับไปอย่างยาวนานตลอดทั้งวัน แต่เมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่าซุนกำลังนั่งอยู่ข้างเตียงของตน
“ได้เวลาตื่นนอนแล้ว! ข้าขอแสดงความยินดีกับเจ้าด้วย ในที่สุดเจ้าก็สามารถเข้าสู่อาณาจักรแก่นปราณทองคำได้แล้ว เอ.. หรือข้าควรจะเรียกว่าอาณาจักรแก่นปราณโลหิตดี” ซุนกล่าวกับหลงเฉินด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
หลงเฉินใช้ญาณหยั่งรู้สำรวจเข้าไปภายในห้วงผู้ฝึกยุทธของตน เพื่อดูความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นหลังจากที่ได้ทะลวงอาณาจักรสำเร็จ เขาพบว่าภายในห้วงผู้ฝึกยุทธของตนนั้น มีจุดวงกลมสีแดงคล้ายโลหิตกำลังหมุนอยู่ตรงกลาง มันดูคล้ายกับดวงอาทิตย์สีแดงโลหิตที่กำลังส่องสว่างไปทั่วทั้งห้วงผู้ฝึกยุทธของเขา
ส่วนจิตวิญญาณผู้ฝึกยุทธของเขานั้นยืนอยู่เบื้องล่างแก่นปราณสีแดง ดวงตาทั้งสองข้างยังคงปิดอยู่เช่นเคย แต่หลงเฉินสังเกตเห็นว่าจิตวิญญาณผู้ฝึกยุทธของเขานั้นมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่จะสามารถทะลวงอาณาจักรได้นั้น จิตวิญญาณผู้ฝึกยุทธของเขาดูคล้ายกับเด็กผู้ชายอายุสิบสองปีที่เขาเข้ามาอยู่ในร่าง แต่เวลานี้.. แม้รูปลักษณ์จะยังคงเหมือนเดิม แต่เห็นได้ชัดว่าสูงขึ้นและมีอายุมากขึ้น ก่อนหน้านี้ดูคล้ายเด็ก แต่ตอนนี้กลับดูเป็นหนุ่มขึ้นแล้ว
ชุดเกราะที่จิตวิญญาณผู้ฝึกยุทธของเขาสวมใส่ก็เปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน จากเดิมที่เป็นชุดสีทองอร่าม เวลานี้ได้เปลี่ยนเป็นสีแดงทั้งหมด อีกทั้งได้เริ่มมีลวดลายต่างๆปรากฏขึ้นแล้ว หลงเฉินสังเกตเห็นว่าลวดลายบนชุดเกราะนั้นดูคล้ายคลึงกับลวดลายบนผนังเจดีย์สืบสายเลือดของเขา สถานที่ที่เขาเข้ามาทำการทดสอบในครั้งนี้
ส่วนดาบในมือของจิตวิญญาณผู้ฝึกยุทธเองนั้น แม้จะดูเหมือนเดิมมาก แต่ก็มองเห็นว่ามันมีความคมและรัศมีที่ดุดันมากขึ้น
หลงเฉินย้อนกลับไปสังเกตดูแก่นสีแดงอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่ก็ต้องตกใจอย่างมากเมื่อพบว่ามีเส้นสีดำสามเส้นพาดอยู่อย่างเห็นได้ชัด เขาถอนญาณหยั่งรู้ออกมาทันที และเริ่มถามซุนอย่างกระหายใคร่รู้
“ซุน.. ข้าเห็นเส้นวิญญาณสามเส้นพาดอยู่บนแก่นปราณโลหิตของตนเอง!! นี่ข้าสามารถเข้าสู่อาณาจักรแก่นปราณทองคำขั้นที่สามได้ในคราวเดียวเลยงั้นรึ?!!”
หลงเฉินเอ่ยถามซูด้วยสีหน้าตกอกตกใจยิ่ง..
หลงเฉินรู้ว่าในอาณาจักรแก่นปราณทองคำนั้น จะมีเส้นวิญญาณปรากฏขึ้น หากปรากฏขึ้นหนึ่งเส้นย่อมหมายความว่าสามารถเข้าขั้นที่หนึ่งของอาณาจักรแก่นปราณทองคำได้แล้ว และหากมีเส้นวิญญาณปรากฏถึงเก้าเส้น ย่อมหมายความว่าเข้าสู่ขั้นที่เก้าได้แล้วนั่นเอง..
แม้ว่าแก่นปราณของเขาจะมิได้เป็นสีทอง แต่เป็นสีแดงโลหิตนั้น เขาก็อดที่จะตกใจไม่ได้เมื่อพบเห็นเส้นวิญญาณปรากฏขึ้นพร้อมกันถึงสามเส้นเช่นนี้!
“ถูกต้อง!! เวลานี้เจ้าเข้าสู่อาณาจักรแก่นปราณทองคำขั้นสามได้แล้ว! เจ้าดูดซับเอาพลังชี่ในห้วงอากาศโดยรอบเข้าไปจนเหือดแห้งเช่นนี้ หากมิสามารถทะลวงเข้าสู่อาณาจักรแก่นปราณทองคำขั้นสามได้ ก็คงต้องนับว่าเจ้าไร้พรสวรรค์ยิ่งนัก และคงจักเป็นเพียงแค่เศษขยะชิ้นหนึ่งเท่านั้น..’
ซุนเอ่ยตอบหลงเฉินพร้อมกับหัวเราะคิกคัก..
“ช่างน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก!! ข้ามิเคยได้ยินมาก่อนว่า มีผู้ใดสามารถทะลวงเข้าสู่อาณาจักรแก่นปราณทองคำได้ในวัยเพียงแค่สิบสองปีเท่านั้น หากให้ผู้คนในจักรวรรดิของข้ารู้ พวกเขาจักมิคิดว่าเรื่องมหัศจรรย์ได้ปรากฏขึ้นแล้วหรอกรึ?” หลงเฉินกล่าวตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“เอ่อ.. ความจริงแล้ว..”
ซุนทำท่าทางคล้ายต้องการจะบอกกล่าวบางสิ่งบางอย่าง แต่แล้วก็เลือกที่จะหยุดอยู่เพียงเท่านั้น..
“ความจริงอะไรรึ?!” หลงเฉินเอ่ยถามขึ้นด้วยความอยากรู้
“เอิ่ม.. มิมีอะไร!” ซุนตัดบท
“เฮ้อ.. ข้าสามารถเข้าสู่อาณาจักรแก่นปราณทองคำได้แล้ว แต่กลับมิมีวรยุทธใดที่จะสามารถประมือกับศัตรูในอาณาจักรเดียวกันนี้ได้เลย นอกเสียจากเพลงดาบยอดเซียนเจ็ดกระบวนเท่านั้น..”
“ซุน.. นี่เจ้ามิมีวิชาวรยุทธต่อสู้ใดที่จะถ่ายทอดให้ข้าเลยรึ? ข้าเชื่อว่าพื้นที่ภายในแหวนบรรจุของเทียนเฉินวงนี้ จักต้องมีวรยุทธล้ำเลิศเก็บซ่อนไว้อยู่เป็นแน่ เจ้าพอจะให้ข้าแอบดูสักหน่อยจักได้หรือไม่?”
หลงเฉินกล่าววาจาเจ้าเล่ห์..
“อืมม.. เจ้ากล่าวได้ดีมาก! แน่นอนว่าย่อมต้องมีวรยุทธต่อสู้ที่ล้ำเลิศมากมายอยู่ในนั้น แต่.. ข้ามิสามารถให้เจ้าเข้าสู่พื้นที่บรรจุของเทียนเฉินได้!!” ซุนปฏิเสธทันที
“สำหรับเรื่องวรยุทธต่อสู้นั้น.. ข้าเองก็พอมีความรู้อยู่บ้าง แต่ยังมิสามารถถ่ายทอดให้เจ้าได้ในเวลานี้ แต่หลังจากที่เจ้าสามารถผ่านด่านทดสอบนี้ไปได้ เจ้าก็จักได้รับวรยุทธต่อสู้เป็นรางวัลมากมาย ที่สำคัญกว่านั้น.. ข้ามิอาจถ่ายทอดวรยุทธต่อสู้ให้กับเจ้าด้วยตัวเอง เพราะนั่นจะนับเป็นการที่ข้าเข้าไปช่วยเหลือเจ้า และนับเป็นการทำผิดกฏของเจดีย์สืบสายโลหิตนี้”
ซุนอธิบายให้หลงเฉินฟังยืดยาวด้วยน้ำเสียงจริงจัง..
“เช่นนั้นแล้วย่อมหมายความว่า ข้าจักได้เรียนรู้วรยุทธต่อสู้ใหม่ๆ หลังจากผ่านการทดสอบแล้วเท่านั้นสินะ?” หลงเฉินเอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้าผิดหวัง
“อภัยให้ข้าด้วย.. แต่ข้ามิอาจช่วยเจ้าได้จริงๆ!” ซุนเอ่ยตอบ
“มิเป็นไร.. อย่างไรข้าก็ยังมีวรยุทธต่อสู้ที่เคยฝึกฝนมา แม้ว่ามันจักมิใช่วิชาที่แข็งแกร่งมากนัก แต่ด้วยพลังบ่มเพาะในอาณาจักรแก่นปราณทองคำนี้ อย่างน้อยข้าก็ต้องสามารถใช้มันได้ดีกว่าเดิม” หลงเฉินเอ่ยตอบพร้อมกับคิดไปในทางบวก
ซุนได้แต่ยิ้มเมื่อได้ฟังคำตอบของหลงเฉิน..
“เอาล่ะ.. ได้เวลาเริ่มภารกิจของเราแล้ว!” หลงเฉินจ้องมองซูพร้อมกับเอ่ยขึ้น
“หน้ากากนี่มีระยะเวลาเพียงแค่สิบนาทีเท่านั้น ภายในช่วงเวลาที่จำกัดนี้ข้าจักต้องขโมยลูกแก้วนั่นออกมาให้ได้.. แต่เดี๋ยวก่อน.. ข้าเพิ่งนึกได้ว่าเวลาจักเพิ่มขึ้นตามอาณาจักรที่สูงขึ้น! ในเมื่อตอนนี้ข้าสามารถเข้าสู่อาณาจักรแก่นปราณทองคำได้แล้ว ระเวลาก็น่าจักต้องเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า นี่ข้าเกือบจะลืมเรื่องสำคัญนี้ไปเลย..”
หลงเฉินบ่นพึมพำกับตัวเองเมื่อจู่ๆ ข้อมูลสำคัญก็ผุดขึ้นมาในหัวของเขาได้ทันเวลา!
“เอาล่ะ.. ในเมื่อข้ามีเวลาเพิ่มมากขึ้นเช่นนี้ ข้าก็มิจำเป็นต้องเสียงอะไรมากมายอีก! เดิมทีข้าคิดว่าคงต้องพยายามแอบเข้าไปให้ใกล้กับสถานที่เก็บลูกแก้วในรัศมีหนึ่งร้อยเมตรเสียก่อน จึงค่อยสวมหน้ากาก แต่ในเมื่อข้ามีเวลามากขึ้นเช่นนี้ ข้าก็สามารถสวมหน้ากากในรัศมีที่ไกลขึ้นกว่านั้นได้ อย่าน้อยก็ให้ห่างจากบริเวณที่มีผู้อารักขาให้มากที่สุด” หลงเฉินกล่าวด้วยสีหน้าดีอกดีใจ
หลงเฉินลุกขึ้นจากเตียงและเริ่มเปลี่ยนเสือผ้าทันที หลังจากที่เตรียมตัวพร้อมแล้ว เขาก็ออกจากห้องไป และกล่าวกับสาวใช้ที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องว่า
“เจ้ามิต้องตามข้ามา อยู่เฝ้าที่นี่ล่ะ ข้าจักไปเดินเล่นภายในเรือนรับรอง อีกประเดี๋ยวก็จะกลับมา เจ้าจักได้มิต้องเดินตามข้ากลับไปกลับมาให้เสียเวลา ข้าไปเพียงแค่เดี๋ยวเดียวเท่านั้น” หลงเฉินเอ่ยบอก
“แต่…” สาวใช้พยายามที่จะปฏิเสธ
“มิมีแต่.. เหตุใดเจ้าจึงไม่ไปพักผ่อนบ้างเล่าในระหว่างที่ข้าไปเดินเล่นนี้? เจ้ายืนอยู่แบบนี้มาตั้งนานแล้วไม่เหนื่อยบ้างหรืออย่างไร? ไปพักในห้องนอนของข้าก็ได้ เตียงของข้านอนสบายมากทีเดียว หากข้าต้องการสิ่งใดจักไปปลุกเจ้าเมื่อกลับมา..” หลงรีบเอ่ยขัดขึ้นในทันที
“แต่การเข้าไปในห้องของอาคันตุกะในขณะที่เขาไม่อยู่ เป็นการขัดต่อกฏระเบียบ!!” สาวใช้รีบปฏิเสธอย่างอ่อนน้อม
“หากมีคนเคาะประตู เจ้าก็อย่าเปิดสิ เช่นนี้จักมีผู้ใดรู้เล่า? ข้าไปเดี๋ยวเดียวก็กลับมาแล้ว..”
หลงเฉินเอ่ยตอบพร้อมกับใช้ฝ่ามือดันแผ่นหลังของสาวใช้ และผลักนางเข้าไปในห้องอย่างนุ่มนวล..
ทันทีที่ฝ่ามือของหลงเฉินสัมผัสเข้ากับแผ่นหลังของตน สาวใช้รู้สึกราวกับว่าภายในร่างมีพายุพวยพุ่งขึ้น และใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นแดงก่ำ นางหยุดคิดและเข้าไปในห้องของหลงเฉินอย่างมิอาจขัดขืนได้
หลงเฉินจึงรีบเดินจากไปทันที..