ตอนที่ 86 ขอแสดงความยินดี
‘ห้วงมิติ.. จุดเริ่มต้นและจุดจบของจักรวาล หนึ่งในพลังอำนาจลึกลับที่มีอยู่ และคอยขับเคลื่อนทุกสรรพสิ่งบนโลกใบนี้อย่างลี้ลับ..’
ระหว่างที่หลงเฉินใช้เวลาอยู่ในห้วงมิติไร้สิ้นสุดนี้ มีดวงดารานับพันล้านดวงปรากฏขึ้น แต่ละดวงล้วนแล้วแต่มีความงดงามในแบบของมันเอง
เวลาในห้วงมิติไร้สิ้นสุดผ่านไปเนิ่นนาน หลงเฉินเองก็ใช้เวลาอยู่ด้านในทำความเข้าใจห้วงมิติอยู่เนิ่นนานเช่นกัน รอยร้าวที่ปรากฏขึ้นเป็นครั้งคราวนั้น ช่วยสร้างความเข้าใจให้กับหลงเฉินทีละเล็กทีละน้อย ดาราดวงใหม่ปรากฏในขณะที่ดวงเก่าเลือนหายไปจากการดำรงอยู่ วงจรแห่งการทำลายล้างและสร้างขึ้นใหม่เกิดขึ้นวนเวียนอย่างต่อเนื่อง โดยมีหลงเฉินเป็นจุดศูนย์กลาง เขาเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นรอบตัว และสัมผัสได้ถึงความลี้ลับของห้วงมิตินี้
ยิ่งหลงเฉินใช้เวลาอยู่ในห้วงมิตินี้นานเท่าใด ความเข้าใจของเขาก็ยิ่งเพิ่มพูนขึ้น และยิ่งความเข้าใจในเรื่องห้วงมิติของหลงเฉินเพิ่มมากขึ้นเท่าใด รอยแยกภายในห้วงมิติก็ยิ่งทวีหนาแน่นเพิ่มขึ้นเช่นกัน
เวลาล่วงเลยไปนานเพียงใดมิอาจรู้ได้ เวลานี้ทั่วทั้งห้วงมิติก็ได้เต็มไปด้วยรอยแยกมากมาย โดยมีหลงเฉินอยู่ตรงกลางของรอยแยกทั้งหมด และห้วงมิติก็ได้ห่อหุ้มร่างของเขาไว้โดยรอบ หลงเฉินลืมตาขึ้นจ้องมองรอยแยกภายในห้วงมิติที่กระพริบอยู่ตรงหน้า เขาลืมสิ้นจุดประสงค์และเวลา มิแน่ใจด้วยซ้ำว่าภายในห้วงมิติแห่งนี้มีเรื่องของเวลาอยู่หรือไม่? มิรู้ว่าในห้วงมิติแห่งนี้เวลาได้เดินไปทุกขณะเหมือนด้านนอกหรือไม่? หรือหยุดนิ่งไปเลยกันแน่? ภายในห้วงมิตินี้จักมีเวลาหรือไม่นั้นหลงเฉินเองก็มิอาจรู้ได้ เขามีหน้าที่เพียงแค่ทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเท่านั้น..
ในโลกทดสอบนั้น หลงเฉินยังคงนั่งลืมตานิ่ง ร่างของเขายังคงนั่งอยู่ในอารามของเผ่าเอลเฟีย แต่เหตุการณ์มิปกติกลับเข้ามาแทนที สีดวงตาของหลงเฉินได้เปลี่ยนไป และเวลานี้ภายในห้วงมิติไร้สิ้นสุดนั้น ดวงดารานับพันล้านดวง และรอยแยกมากมายนับไม่ถ้วนก็ได้ปรากฏสู่สายตาของเขา
ในขณะที่รอยแยกมากมายได้ปรากฏขึ้นในห้วงมิติ ภายในโลกทดสอบด้านนอกนั้น ก็เริ่มมีรอยแยกปรากฏขึ้นบนลูกแก้วกฏแห่งห้วงมิติที่ฝ่ามือของหลงเฉินวางแนบชิดอยู่เช่นกัน ภายในห้วงมิตินี้ ความมั่นคงได้ผันแปรไปตามความเข้าใจกฏแห่งห้วงมิติของหลงเฉินที่เพิ่มขึ้น และความเข้าใจนี้ก็สอดคล้องกับรอยแยกที่ปรากฏขึ้นบนลูกแก้วกฏแห่งห้วงมิติเช่นกัน
ยิ่งหลงเฉินอยู่ภายในห้วงมิตินานมากเพียงใด ความมั่นคงภายในห้วงมิติก็ยิ่งลดลงมากขึ้นเรื่อยๆ หลงเฉินมิรู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกับตนเอง และเกิดสิ่งใดขึ้นหลังจากที่ความเข้าใจในกฏแห่งห้วงมิติของเขาได้พัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด หลงเฉินเพียงแค่จดจ่ออยู่กับห้วงมิติที่แตกร้าวอยู่ตรงหน้า เขาลืมสิ้นทุกอย่างรอบตัว และทันทีที่หลงเฉินเข้าใจทุกอย่างกระจ่างแจ้ง ห้วงมิติทั้งหมดก็พลันทลายลง
หลงเฉินรวบรวมสติและพบว่าตนเองได้กลับมานั่งอยู่ภายในอารามเช่นเดิม ลูกแก้วกฏแห่งห้วงมิติที่วางอยู่ตรงหน้าเวลานี้ ได้แตกละเอียดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยอยู่ตรงหน้า มันดูราวกับหินธรรมดาๆ ซึ่งแตกต่างจากก่อนหน้านี้มาก หลงเฉินมิอาจสัมผัสได้ถึงความพิเศษใดๆอีก
เขาหันมองไปรอบกาย และพบว่าซุนกำลังนั่งอยู่ข้างกายเขา พร้อมกับจ้องมองมาที่ร่างของตน..
“เจ้าหนู.. เจ้าทำให้ข้านึกอัศจรรย์ใจยิ่งนัก ยินดีด้วยที่เจ้าบรรลุกฏแห่งห้วงมิติได้แล้ว!” ซุนเอ่ยขึ้นพร้อมกับยิ้มกว้าง
“โอ้.. นี่เวลาผ่านไปเนิ่นนานเพียงใดแล้วรึ?” หลงเฉินจ้องมองซูพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า
“ข้าเองก็มิมั่นใจนักว่า นับตั้งแต่ที่จิตวิญญาณของเจ้าเข้าสู่สภาวะที่ถูกปิดกั้นนั้น เจ้าเห็นสิ่งใดบ้าง? แต่นับตั้งแต่ที่เจ้าศึกษากฏแห่งห้วงมิติ แต่ภายนอกนั้นผ่านไปเพียงแค่สองสามวันเท่านั้น..” ซุนเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าท่าทางที่ไม่มั่นใจ
“เพียงแค่สองสามวันงั้นรึ? ไฉนก่อนหน้าเจ้าจึงบอกกับข้าว่า ข้าจักต้องใช้เวลานับร้อยปีในการเรียนรู้กฏพิเศษระดับสูงสุดอย่างไรเล่า?” หลงเฉินเอ่ยถามด้วยสีหน้างุนงง
“ข้าเพียงแค่คาดเดา แม้ว่าครั้งที่เทียนเฉินศึกษากับลูกแก้วนั้นข้าจักอยู่กับเขาด้วย แต่เมื่อจิตวิญญาณของเขาถูกขังอยู่ตั้งแต่เริ่มศึกษาลูกแก้วแล้ว ข้ากับเขาก็ขาดการติดต่อกันเหมือนเช่นเจ้าเมื่อครู่ ข้าจึงมิเคยรู้ว่าภายในนั้นเรียนรู้อะไรบ้าง..” ซุนเอ่ยตอบพร้อมกับจ้องมองหลงเฉิน
“เทียนเฉินเองก็มิเคยบอกเล่าให้ข้าฟังเช่นกันว่าเขาพบเจอกับสิ่งใดบ้าง? ข้าเองก็มิรู้ว่าเพราะเหตุใดเจ้าจึงสามารถบรรลุได้รวดเร็วเช่นนี้ เพราะมิพบเห็นว่าเจ้าเผชิญหน้ากับสิ่งใดมาบ้าง? เจ้าช่วยเล่าให้ข้าฟังทีว่า หลังจากที่เจ้าสัมผัสกับลูกแก้วกฏแห่งห้วงมิติแล้วเกิดอะไรขึ้นบ้าง..” ซุนจ้องลึกลงไปในดวงตาของหลงเฉินขณะเอ่ยถาม
หลงเฉินจ้องมองซูอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ ระลึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้า..
“ข้าเองก็มิรู้ว่าจะอธิบายให้เจ้าฟังเช่นไรดี.. ข้าพบว่าตนเองเข้าไปอยู่ในห้วงมิติที่ว่างเปล่าไร้สิ้นสุด ซึ่งมีแต่ดวงดาราและรอยแยกมากมาย ข้าเวียนวนอยู่ภายในและรู้สึกราวกับผ่านไปปีแล้วปีเล่า ระหว่างนั้นก็ได้พบเห็นดวงดารามากมายที่ถือกำเนิดขึ้นมาใหม่หลังจากที่ดวงเก่าถูกทำลายลง ข้ามิล่วงรู้วันเวลา มิรู้ว่าตนเองอยู่ในนั้นสิบปี ร้อยปี หรือว่าเป็นพันปีกันแน่ ข้าค่อยๆเริ่มเข้าในเรื่องห้วงมิติแต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่หลังจากนั้นก็มิรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ข้าลืมตามาอีกครั้งก็พบว่าตนเองกลับมาอยู่ที่นี่แล้ว และกำลังสนทนาอยู่กับเจ้าเวลานี้” หลงเฉินเล่าประสบการณ์ที่พอจะจดจำได้ให้ซุนฟัง
“น่าสนใจยิ่งนัก.. แม้แต่ข้าเองก็ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ตนเองคาดเดานั้นจักถูกต้องหรือไม่? ข้ารู้สึกว่าสถานที่ที่จิตวิญญาณของเจ้าถูกกักขังอยู่นั้น น่าจักเป็นสถานที่ซึ่งไร้กาลเวลา หรือหากจะมี.. เวลาก็เดินไปอย่างเชื่องช้ายิ่งนัก ราวกับว่าภายในนั้นเวลาถูกหยุดไว้ชั่วคราว นั่นคือทั้งหมดที่ข้าพอจักคาดเดาได้จากคำอธิบายของเจ้า เจ้าคงจักอยู่ภายในนั้นหลายปี แม้แต่ข้าเองยังมิคิดว่าเจ้าจักสามารถบรรลุกฏแห่งห้วงมิติได้..”
ซุนเอ่ยอบอกหลงเฉินพร้อมกับวางนิ้วลงบนริมฝีปากแดงฉ่ำของนาง พร้อมกับทำท่าครุ่นคิด..
“เหตุใดผู้อื่นจึงมิสามารถบรรลุกฏแห่งห้วงมิตินี้ได้อย่างง่ายดาย ในเมื่อพวกเขาก็มีเวลาอยู่ภายในนั้นมากมายเช่นกัน?” หลงเฉินเอ่ยถามออกมาด้วยความสงสัย
“ข้าเองมิคิดว่าจักมีผู้ใดได้เวลานานมากมายถึงเพียงนั้น ในเมื่อลูกแก้วและกฏภายในนั้น เจ้านายสูงสุดของข้าเป็นผู้สร้างขึ้นเอง และจักมีเพียงหนึ่งในผู้สืบสายโลหิตของเขาเท่านั้นที่จักได้รับประโยชน์สูงสุดจากมัน ข้าคิดว่ากฏแห่งห้วงมิติอาจจักให้เวลาเจ้าเป็นพิเศษก็เป็นได้ ในเมื่อเจ้าคือผู้สืบสายโลหิตของเขา” ซุนเอ่ยตอบพร้อมกับครุ่นคิดไปด้วย
“บรรพชนสูงสุดได้สร้างลูกแก้วนี้ไว้ในโลกจริงด้วยหรือไม่?” หลงเฉินเอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้าสงสัยยิ่ง