เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 128 ความแข็งแกร่งของโอสถระเบิดพลัง

ตอนที่ 128 ความแข็งแกร่งของโอสถระเบิดพลัง

 

 

 

 

“ หรือว่า จะทำให้ทุกท่านผิดหวังแล้ว ถึงแม้ข้าจะไม่ต้องการให้ผลที่ออกมาเป็นเช่นนี้ แต่ว่าจากที่ดูแล้วละก็ อย่างน้อยก็มิใช่ตอนนี้ — “

 

เยี่ยจงประสานมือทั้งสองข้าง จากนั้นก็ได้ใช้นิ้วไคว่เข้าหากัน ตราประทับก็ได้เปลี่ยนแปลงไปมาอย่างรวดเร็ว พลังลมปราณหลิงโจวเทียนก็ได้ไหลเวียนออกมา ปรับสมดุลพลังความน่าหวาดกลัวของฤทธิ์โอสถระเบิดพลังอย่างไม่หยุดยั้ง

 

“ เพล้ง เพล้ง เพล้ง “

 

ราวกับถูกค้อนใหญ่ทุบลงไปคราหนึ่ง บนร่างกายของเยี่ยจงราวกับถูกพุ่งชนอย่างรุนแรงก็มิปาน เสียงทุบทองทุบเหล็กกล้าดังออกมาจากภายในร่างกายของเยี่ยจง ร่างกายและเนื้อหนังความจริงที่เพียงรองรับได้แค่พลังขั้นก่อเกิดระดับที่หกเท่านั้นกลับต้องรองรับพลังอันน่าหวาดกลัวอย่างมหาศาล ในตอนนี้อดที่จะสงสารเยี่ยจงมิได้ เพียงแต่ว่าต่อให้เป็นเช่นนี้ ผิวพรรณของเยี่ยจงในตอนนี้ก็ได้กลายเป็นสีแดงเข้ม เห็นได้ชัดว่า พลังที่ถูกอัดแน่นไปด้วยความน่าหวาดกลัวเช่นนั้น ได้รวมตัวกันเข้าสู่ภายในร่างกายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

จากนั้นเยี่ยจงก็ได้แปรสัญญาลักษณ์บนมือ พลังภายในที่อยู่ภายในร่างของเขาเหล่านี้ได้ถูกฝืนใจขับเคลื่อนขึ้นมา ในขณะที่เขายังไหลเวียนพลังภายในไม่หยุดยั้ง และทุกครั้งที่ได้ไหลเวียน ก็ได้ทำให้ผิวพรรณ เนื้อหนัง กระดูก เส้นเอ็นของเขาเกิดเสียงดัง “ ตึก ตึก “ ออกมา

 

แต่ว่าต่อให้เป็นเช่นนั้นก็ตาม ความสามารถเหล่านี้ก็มิได้ทำให้เลือดเนื้อของเขาสลายลงไปได้ แต่ว่าก็ยังทำให้เกิดรอยจากพลังหมัดอยู่เล็กน้อยออกมาได้

 

ควรทราบว่า วิชาที่เยี่ยจงฝึกปรือมานั้นเป็นพลังวิชาเพลงกระบี่หกสุสาน ความจริงแล้วก็เป็นถึงวิชาลมปราณโบราณ อีกทั้งยังเป็นวิชาชั้นเซียนที่มีถึงทั้งหมดหกขั้นด้วยกัน ความน่ากลัวของพลังยากที่จะคาดเดาไว้เอาได้ แม้แต่เยี่ยจงเองก็ยังไม่ทราบอย่างแน่ชัด ว่าวิชาเพลงกระบี่หกสุสานจัดอยู่ในระดับใดของวิชาลมปราณระดับเซียน

 

แต่ว่าในข้อนี้ก็ใช่ว่าจะสามารถหยุดยั้งพลังที่อยู่ในตัวมันได้ อย่างน้อย หากมองสถานการณ์เบื้องหน้าสายตาแล้ว โอสถระเบิดพลังทั้งหกชิ้นนี้มีระดับพลังที่น่ากลัวอย่างมหาศาลในเวลาเดียวกัน นอกเสียจากจะใช้วิชาเพลงกระบี่หกสุสานในการไหลเวียนแล้ว พลังมหาศาลเหล่านี้เยี่ยจงคงจะใช้ได้เพียงแค่ชั่วครู่เท่านั้น

 

และพลังที่อันแน่นอยู่ภายในโอสถระเบิดพลังทั้งหกชิ้น ก็ได้ทำให้พลังของเยี่ยจงในเวลานี้เริ่มที่จะปะทุขึ้นมาเกินกว่าที่พวกเขาจะคาดคิดเอาไว้ได้ อย่างน้อย ภายในช่วงเวลานี้ เยี่ยจงก็นับได้ว่ามีพลังที่เรียกได้ว่าเทียบเท่ากับพลังของเสวี่ยเสวียนแล้ว

 

แน่นอนว่า พลังเช่นนี้มีความแตกต่างที่พลังที่ได้มาจากการฝึกปรือตามปกติ คล้ายกับการระเบิดออกมาเพียงเสี้ยววินาทีก็มิปาน เพียงแต่ว่า ตอนนี้ก็ถือได้ว่าเยี่ยจงได้ใช้ไพ่ตายที่แข็งแกร่งที่สุดของตนเองมีออกมาแล้ว หากว่าเขาไม่ทำเช่นนี้แล้วละก็ เกรงว่าต่อให้เขาใช้ไพ่ตายที่มีออกมา ก็ใช่ว่าจะมีพลังฝีมือที่สามารถรับกระบวนท่าของเสวี่ยเสวียนได้เกินสิบกระบวนท่า

 

“ เป็น …… เป็นไปได้อย่างไรกัน ? “

 

ในตอนนี้สิ่งที่เสวี่ยเสวียนและพวกเห็นไม่เพียงแต่จะกลืนกินโอสถระเบิดพลังหกชิ้นโดยที่ร่างไม่แตกระเบิดแล้ว อีกทั้งพลังฝีมือของเยี่ยจงยังเพิ่มขึ้นมากมายหลายเท่า สีหน้าของพวกเขาก็ได้เปลี่ยนแปลงเป็นเย็นเยียบในทันที ในเวลาเดียวกัน ภายความเยียบเย็นชนิดนี้ ภายในก็ได้อัดแน่นไปด้วยความไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เห็นชนิดหนึ่ง แน่นอนว่าพวกเขาก็คาดไม่ถึง ว่าเยี่ยจงทำเช่นไรกันถึงได้กดดันกำลังภายในและหลอมรวมพลังอันมหาศาลจนเรียกได้ว่าน่าหวาดกลัวเช่นนี้เอาไว้ได้

 

ต่อให้เพียงแค่สามารถกดดันพลังเอาไว้ได้ในเวลาเดียวกัน แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ก็ตาม ก็นับได้ว่าเป็นพลังฝีมือที่น่าหวาดกลัวแล้ว

 

“ เยี่ยม ! วิชาลมปราณที่ดีแขวงหนึ่ง ! เยี่ยจง ข้าเข้าใจแล้ว วิชาลมราณที่เจ้าฝึกปรือ น่าจะเป็นวิชาในชั้นระดับวิญญาณชั้นสูง ไม่ สมควรที่จะเป็นวิชาในระดับเซียนสินะ ? ฮ่าฮ่าฮ่า ถึงแม้จะไม่ทราบว่าเจ้าไปเอาของพวกนี้มาจากที่ใด แต่ว่า ครั้งนี้คงจะได้รับสมบัติเกินกว่าที่คาดเดาเอาไว้แล้ว “

 

หลังจากที่ได้ตื่นตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เสวี่ยเสวียนราวกับคิดบางอย่างออกอย่างกะทันหัน ในที่สุดเขาก็เข้าใจ เหตุใดเยี่ยจงที่มีพลังเพียงแค่ขั้นก่อเกิดระดับที่หก ถึงกับสามารถมีพลังฝีมือเฉกเช่นนี้ได้ นอกเสียจากว่าเยี่ยจงจะมีวิชาลมปราณขั้นเซียนแล้ว ยังมีอันใดอธิบายได้อีก ?

 

เมื่อได้ยินคำพูดที่เสวี่ยเสวียนกล่าวออกมา ยอดฝีมือแห่งรัฐเสวี่ยหยวนหวังเฉาอีกทางด้านหนึ่งนัยน์ตาของแต่ละคนก็ได้เปลี่ยนแปลงเป็นเร้าร้อนขึ้นมาอย่างไร้ที่เปรียบ ภายในพลังฝึกปรือทั้งเก้าชั้นนี้ วิชาลมปราณถือได้ว่าเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด เพียงแค่คัมภีร์ล้างไขกระดูกก่อฟ้า ก็สามารถที่จะเรียกได้ว่าเป็นตำนานของรัฐต้าโจวหวังเฉาก็ว่าได้ นี้ก็เป็นตัวบ่งบอกความสำคัญของวิชาพลังลมปราณ

 

และภายในทั้งสามรัฐใหญ่ รวมไปถึงทั่วทั้งแดนดินซีฮวง อย่างน้อยเท่าที่เสวี่ยเสวียนเคยพบเจอมาก่อน ก็ยังไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามีขุมกำลังไหนที่มีได้ครอบครองวิชาพลังลมปราณระดับเซียนไปได้ ดังนั้นตามความคิดเห็นของพวกเขาแล้วละก็ หากว่าสามารถได้ครอบครองวิชาลมปราณที่เยี่ยจงฝึกปรือมา ก็คงจะมีค่าไม่ได้น้อยไปกว่าจารึกเสวี่ยหยวนเลยแม้แต่น้อย

 

“ เยี่ยจง มอบวิชาลมปราณระดับเซียนให้แก่ข้าอย่างว่าง่ายเสียเถอะ ข้ายังสามารถหลงเหลือร่างของเจ้าให้ครบสามสิบสองชิ้นได้ “ หลังจากที่ครุ่นคิด ภายในดวงตาของเสวี่ยเสวียน ก็ได้เกิดความเยือกเย็นและไอสังหารแผ่ออกมา “ เช่นนั้นแล้วละก็ รอจนเจ้าตกอยู่มือของข้าแล้ว ข้าจะใช้วิธีการของรัฐเสวี่ยหยวนหวังเฉา ทำการล้างสมองของเจ้า จนทำให้ได้ครอบครองเคล็ดวิชาแห่งเซียน “

 

“ ไร้เดียงสา “ เยี่ยจงหัวเราะอย่างเย็นชาเสียงหนึ่ง ผสานทั้งสองมือเข้าด้วยกัน เลือดเนื้อก็ได้ทอประกายออกมาสายหนึ่งราวกับพลังภายในถูกก่อขึ้นมาก็มิปาน ในวินาทีนี้ เยี่ยจงก็เหมือนดั่งมีพลังอยู่ในขั้นก่อเกิดระดับที่แปด พลังแห่งซานทงเทียนทง

 

“ เช่นนั้น ก็ตายไปเสียเถอะ “

 

เสวี่ยเสวียนนัยน์ตาเย็นชา ทันใดนั้นเขาก็ได้พบว่าร่างของเขาขยับคราหนึ่ง ก็ได้เปลี่ยนเป็นประกายเงาสีเลือดสายหนึ่ง

 

สีหน้าของเยี่ยจงเย็นเยียบ เพียงแต่เดินออกไปหนึ่งก้าว กระบี่คงหมิงในมือซ้ายก็ได้ทอแสงออกไปด้านบริเวณทางด้านหน้าทันที

 

“ ฉึก ฉึก ฉึก “

 

การเคลื่อนไหวของเยี่ยจงในครั้งนี้เอง ประกายกระบี่ของคมกระบี่ตัดผ่านอากาศเข้าไป ส่งเสียงที่ฟังดูแล้วลำบากออกมาสายหนึ่ง พลังมหาศาลเช่นนี้ มิใช่พลังที่ยอดฝีมือตามปกติระดับขั้นก่อเกิดระดับที่เจ็ดโดยทั่วไปจะสามารถใช้ออกมาได้

 

“ ติ้ง “

 

ทันใดนั้น ทันทีที่ประกายกระบี่สาดส่องเข้ามา พลังหมัดที่มาตามสายลมแผ่เป็นประกายโลหิตก็ได้ตัดผ่าเข้ามาโดยตรง ท้ายที่สุดก็ได้เกิดความเคลื่อนไหวที่รุนแรงขึ้นมา เข้าพุ่งชนกับประกายกระบี่ที่อยู่ด้านตรงข้ามเข้าไป

 

เสียงที่ดังขึ้นราวกับเสียงของอสนีบาตก็มิปาน การโจมตีของทั้งสองคนในตอนนี้ได้เข้าปะทะกันแผ่ปกคลุมออกมา พลังการเคลื่อนไหวของการปะทุอย่างบ้าคลั่งเป็นระลอกขึ้นมาอีกคราก็มิปาน พุ่งออกไปยังทั้งสี่ทิศแปดด้าน พายุทรายในทะเลทรายในตอนนี้ได้เปลี่ยนไปราวกับเป็นมังกรทรายตวัดไปทั่วทั้งสี่ทิศแปดด้านออกไป เหล่าโขดหินปีศาจที่ได้ถูกแรงลมพัดไปตั้งแต่แรกก็ได้เกิดระเบิดขึ้นมาเป็นสายในทันที กระจายเกลื่อนกรานไม่หยุดยั้ง

 

“ ติ้ง “

 

ในทันทีหลังจากที่ได้กระทบกัน เงาร่างทั้งสองสายต่างก็ได้ดีดตัวออกด้วยพลังอันมหาศาลในเวลาเดียวกัน ในสภาพเช่นนี้เอง ถึงแม้จะมองไม่ออกถึงผลสูงต่ำจากการปะทะกัน

 

การหยิบยืมพลังอันมหาศาลของโอสะระเบิดพลังทั้งหกชิ้น เยี่ยจงในตอนนี้ ก็สามารถที่จะยืนต่อหน้าเสวี่ยเสวียนได้แล้ว

 

“ พลังขั้นก่อเกิดระดับที่แปด ซานกวานเทียนทง ร้ายกาจถึงเพียงนี้ “

 

เยี่ยจงค่อยๆถอนลมหายใจออกมาคำหนึ่ง ความรู้สึกเจ็บปวดแผ่ขึ้นไปทั่วทั้งร่างกาย ทำให้ประสาทสัมผัสทั้งห้าของเขาแหลมคมขึ้นมา ทั้งนั้น ยิ่งทำให้เขาสามารถเพิ่มขีดจำกัดของร่างกายได้ ความน่ากลัวของขั้นก่อเกิดระดับที่แปด จากข้อนี้ เขาเมื่อก่อนหน้านี้ที่มิได้ผ่านเส้นทางสายนี้ นั่นก็เพราะเขาในเมื่อก่อน นั้นมิได้ทะลวงเข้าสู่ขั้นก่อเกิดระดับที่แปด เพียงแต่ทะลวงเข้าสู่พลังยุทธ์ขั้นก่อฟ้าเลย

 

และหลังจากที่ได้รับขบวนท่านี้แล้ว เยี่ยจงก็เข้าใจสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดในทันที หากมิใช่ตนเองในตอนนี้ได้กลืนกินโอสถระเบิดพลังทั้งหกเม็ดแล้วละก็ เช่นนั้นถ้าคิดที่จะเผชิญหน้ากับเสวี่ยเสวียนแล้วละก็ เขาอย่างมากก็รับมือได้เพียงสามกระบวนท่า

 

“ ตอนนี้จะมารู้สึกผ่อนคลาย เจ้าก็ยังนับได้ว่าเร็วไปหน่อยนะ หากเจ้าคิดว่าจะพึ่งพาความแข็งแกร่งที่เพิ่มเข้ามาจากภายนอกเข้ามาต่อกรกับข้าแล้วแล้วก็ เช่นนั้นข้าก็บอกต่อเจ้าเลยแล้วกัน เจ้าก็ช่างไร้เดียงสาเกินไปแล้ว “

 

เสวี่ยเสวียนยิ้มอย่างเย็นชาคำหนึ่ง จากนั้นเขาก็สะบัดมือคราหนึ่ง วินาทีนั้น หอกยาวทอประกายสีโลหิตด้ามหนึ่งก็ได้ปรากฏอยู่บนฝ่ามือของเค้า หอกยาวได้ส่งเสียงร้องดังฮูมฮูมขึ้นมา แผ่พุ่งพลังวิญญาณออกมาเป็นสาย เห็นได้ชัดว่า ศาสตราวุธชิ้นนี้มีพลังแฝงที่ไม่ธรรมดาเลย อีกทั้งในระดับเช่นนี้ สมควรที่จะจัดอยู่ในศาสตราวุธประเภทวิญญาณระดับสูงอีกด้วย

 

“ จิ จิ จิ “

 

หอกยาวสีโลหิตในมือ ทันทีที่ร่างกายของเสวี่ยเสวียนพุ่งหายวาบออกไป หอกยาวในมือถูกกวาดออกอย่างบ้าคลั่ง วินาทีที่เงาหอกเสือกแทง ราวกับพายุฝนฟ้าคะนองกดทับเข้าไปที่ทั่วร่างกาวของเยี่ยจง

 

“ ซวบ “

 

ทันใดนั้น หอกยาวประกายโลหิตในมือของเสวี่ยเสวียนยังไม่ทันมี่จะได้โจมตีถึงร่างกายของเยี่ยจง เยี่ยจงก็ได้ก้าวเท้าย่างกรายออกไปในทันที ทันทีที่ร่างกายได้หันไปทางด้านข้าง ทันใดนั้นต่อมาก็ได้ปรากฏตัวอยู่บริเวณทางด้านหลังหนึ่งในเจ็ดของยอดฝีมือแห่งรัฐเสวี่ยหยวนหวังเฉา

 

“ อา “

 

เสียงร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวดได้ดังขึ้นมาในเวลาเดียวกัน กระบี่ในมือเยี่ยจงได้สาดประกายออกไป กระบี่ได้ตัดผ่ายอดฝีมือผู้นี้จนกลายเป็นสองท่อน ร่างของศพได้ร่วงหล่นลงสู่พื้นดินเบื้องหน้า

 

“ ซวบ “

 

หลังจากที่เยี่ยจงได้ใช้หนึ่งกระบี่สังหารหนึ่งผู้คนไปแล้ว ก็ได้แสยะยิ้มมองไปที่เสวี่ยเสวียนคราหนึ่ง และจากนั้นร่างกายก็ได้พุ่งเข้าไปยังยอดฝีมือที่มีพลังขั้นก่อเกิดระดับที่เจ็ดแห่งรัฐเสวี่ยหยวนหวังเฉาผู้หนึ่งอีกคน

 

เห็นได้ชัด เยี่ยจงในตอนนี้มิได้คิดที่จะแตกหักกับเสวี่ยเสวียนต่อไปแต่อย่างไร เพียงแต่พึ่งพาพลังฝีมือที่ปะทุขึ้นมาในตอนนี้ เพื่อที่จะทำการไล่ฆ่าสังหารเหล่ายอดฝีมือของรัฐเสวี่ยหยวนหวังเฉาที่มีพลังอยู่ในขั้นก่อเกิดระดับที่เจ็ด เพื่อที่ตนเองจะสามารถใช้พลังได้อย่างมีประโยชน์ที่สุด

 

ถ้าหากว่าจะต้องลงมือต่อเสวี่ยเสวียนแล้วละก็ คิดที่จะมราบผลแพ้ชนะในวินาทีแรกนั้นถือได้ว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย และในสถานการณ์เช่นนี้ หากว่ามีเหล่ายอดฝีมือแห่งรัฐเสวี่ยหยวนหวังเฉาสอดมือเข้ามาแล้วละก็ ตอนต่อไปของเยี่ยจงคงจะยากที่จะต้านรับไว้ได้

 

ดังนั้นในตอนนี้ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้แล้ว เยี่ยจงก็มิอาจที่จะเกรงใจได้แม้เพียงเล็กน้อย และได้แต่เพียงเตรียมตัวที่จะจัดการกับยอดฝีมือจำนวนมากแห่งรัฐเสวี่ยหยวนหวังเฉาก่อนแล้วค่อยว่ากัน

 

“ ตูม “

 

หนึ่งกระบี่เชือดหนึ่งคนหลังจากที่ยังมิได้มีการตอบสนองกลับมาของยอดฝีมือแห่งรัฐเสวี่ยหยวนหวังเฉาก็ถูกตัดขาดจากเอวในทันที ร่างกายเยี่ยจงค่อยขยับเคลื่อนไหวอีกครั้ง มุ่งหน้าไปยังบริเวณของคนที่สามอยู่เข้าไป

 

และในตอนที่ยอดฝีมือคนที่สามแห่งรัฐเสวี่ยหยวนหวังเฉาถูกเยี่ยจงจ้องสังหารเข้ามา เขาก็ได้มีปฏิกิริยากลับมา แต่ว่าบุคคลเช่นนี้กลับดุดันอย่างถึงที่สุด ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เขากลับมิได้ถอยหนีไปแต่อย่างไร กลับพลิกดาบในมือตั้งขึ้น ร้องเสียงเฮ้อออกมาคำหนึ่ง ดาบก็ได้พุ่งเข้าฟันไปยังบริเวณที่เยี่ยจงอยู่

 

“ เปรี้ยง “

 

ประกายกระบี่สีเทาได้พุ่งออกมาเสียงดังหวือ เข้าฟาดฟันไปยังดาบที่ส่องประกาย ตรงเข้าไปอย่างดุดันบริเวณหัวของยอดฝีมือที่มีพลังขั้นก่อเกิดระดับที่เจ็ด วินาทีนั้น ทั่วทั้งหัวก็ได้แตกราวกับเป็นดั่งแตงโมก็มิปาน แตกระเบิดออกในทันที

 

เพียงแต่ว่าภายใต้ช่วงเวลาที่ผ่านไปเพียงลัดนิ้วมือเดียว โลหิตคลุ้งกระจายราวกับฝนไปทั่วท้องฟ้า เสวี่ยเสวียนได้นำพายอดฝีมือแห่งรัฐเสวี่ยหยวนหวังเฉาที่มีพลังขั้นก่อเกิดระดับที่เจ็ดทั้งหมดหกคน ตอนนี้กลับหลงเหลือเพียงสามคน ในขณะนี้ ที่หลงเหลืออีกเพียงแค่สามคน ใบหน้าก็ได้ปกคลุมไปด้วยความตื่นตกใจยากที่จะเชื่อในสิ่งที่เห็นได้ ในตอนนี้ พวกเขาแทบจะไม่มีแม้แต่ความกล้าที่จะลงมือต่อเยี่ยจงอีกต่อไปแล้ว

 

“ ไอ้สารเลว วันนี้ข้าจะสับเจ้าให้เป็นหมื่นๆชิ้น “

 

เสวี่ยเสวียนเหม่อมองไปยังท่ามกลางเหล่าลูกน้องของตนเองทั้งสามคนที่ถูกเยี่ยจงสังหารไป นัยน์ตาเป็นประกายสีแดงเพลิง ยอดฝีมือขั้นก่อเกิดระดับที่เจ็ดเพียงแค่คนเดียว ก็นับได้ว่าเป็นขุมกำลังชนิดหนึ่ง ที่เรียกได้ว่ามีพลังการต่อสู้ที่มากมาย นับได้ว่าเป็นการสูญเสียอย่างมหาศาล และในตอนนี้ เยี่ยจงก็ได้ฆ่าสังหารไปแล้วถึงสามคน มีหรือที่จะทำให้เขาไม่โกรธได้ ?

.

.

.

.

 

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset