ตอนที่ 144 ม้วนคัมภีร์เสมือนเซียน
“ เหอะเหอะ ทุกท่าน ยินดีต้อนรับที่มาเข้าร่วมชุมนุมการค้าหวูจี้ของข้าในครั้งนี้ด้วย ผู้คนที่ได้อยู่ภายในที่แห่งนี้ต่างก็เป็นผู้อุปถัมภ์มาตั้งแต่ครั้งก่อนนี้ ดังนั้นทุกท่านคงจะทราบกันดีว่า ชุมนุมการค้าหวูจี้ของข้านี้ถือได้ว่าจะมีการจัดงานน้อยครั้งนัก ภายในหนึ่งปีก็ยากที่จะมีซักครั้ง แต่ว่าในทุกครั้งที่มีการจัดงานชุมนุมการค้าขึ้น ก็ต้องมีการปรากฏของสิ่งของล้ำค่า สมควรที่จะไม่ทำให้ทุกท่านผิดหวังอย่างแน่นอน “ หลังจากที่หญิงสาวได้อวยพรให้ทุกสี่ด้านแล้ว ก็ค่อยยิ้มขึ้นมาคำหนึ่ง “ และในครั้งนี้เพื่อเป็นการอวยพรการก่อตั้งราชวงศ์ของรัฐต้าโจวเรา พวกเราชุมนุมการค้าหวูจี้นำสิ่งของมีค่าจำนวนมากมาจากรัฐอื่นมาให้ทุกท่านได้ชม ดังนั้น ในครั้งนี้ขอให้ทุกท่านโปรดคว้าโอกาสในครั้งนี้เอาไว้ นั้นก็เพราะว่าสิ่งของที่จะนำออกมาขายในตอนนี้นั้น ในวันหน้าคงมิอาจที่จะปรากฏได้อีกครั้งแล้ว โอกาสในครั้งนี้มีแค่ครั้งเดียว หากว่าทุกท่านชื่นชมแล้ว ก็อย่าได้พลาดเป็นอันขาด “
“ ต่อจากนี้ มาเริ่มต้นการขายของชิ้นที่หนึ่งกันเลย “
มิได้มีวาจาไร้สาระมากมายนัก หญิงสาวทรงเสน่ห์หลังจากที่ยิ้มแล้ว ก็ได้โบกมือออกมาคราหนึ่ง วินาทีนั้นก็ได้พบกับบริกรหญิงนำม้วนคัมภีร์สีทองม้วนหนึ่งขึ้นมาสู่ด้านบนแท่นการค้า และด้านบนของม้วนคัมภีร์ชิ้นนี้ ก็ได้มีทอประกายอย่างประหลาดเจิดจ้าดั่งแม่น้ำขุนเขา
เยี่ยจงความจริงที่มิได้มีกระจิตกระใจที่จะสนใจก็ได้ถูกดึงดูดไปอย่างลี้ลับในทันที นั้นก็เพราะว่า สิ่งของชิ้นแรกที่ได้ปรากฏออกมา ที่แท้ก็เป็นม้วนคัมภีร์เสมือนเซียนงั้นหรือ ?
ม้วนคัมภีร์เสมือนเซียนทั้งมวลนี้ เป็นระดับชั้นที่อยู่ในระหว่างคัมภีร์ทักษะยุทธ์ขั้นวิญญาณระดับสูงและคัมภีร์ทักษะยุทธ์ขั้นเซียนระดับล่าง แม้ในด้านพลังคงจะเทียบไม่ได้กับคัมภีร์ยุทธ์ขั้นเซียนระดับล่างก็ตาม อีกทั้งขอบเขตของการฝึกฝนก็มิได้ยุ่งยากเฉกเช่นม้วนคัมภีร์ยุทธ์ระดับเซียนที่แท้จริง นั้นก็เพราะว่า ภายในสถานที่เช่นรัฐต้าโจวหวังเฉาเช่นนี้ ทักษะเสมือนเซียนนั้นจึงถือได้ว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
เพียงแต่ว่าสิ่งของเช่นนี้น้อยครั้งนักที่จะปรากฏขึ้นมาในรัฐต้าโวหวังเฉา มีบางคนคาดเดาไว้ว่า มีเพียงราชวงศ์ต้าโจวและลัทธิแห่งดวงดาว จึงจะมีทักษะเสมือนเซียนเช่นนี้ แต่ว่าก็ยังมิมีผู้ใดที่เคยเห็นมาก่อนไม่ ดังนั้นจึงเป็นได้เพียงข่าวลือเท่านั้น
แต่ว่า คัมภีร์ยุทธ์เสมือนเซียนที่แม้จริงในวันนี้ ถึงกับมาปรากฏในการชุมนุมยุทธ์นี้ด้วยงั้นหรือ ?
ในขณะนั้นเอง ท่ามกลางสถานที่แห่งนี้ก็ได้มีเสียงดังด้วยความตื่นตะลึงนับไม่ถ้วนหลั่งไหลออกมา แรงกระตุ้นของทักษะเสมือนเซียนนี้ เป็นเหมือนดั่งความลี้ลับตามข่าวลือก็มิปาน สมควรที่จะมิมีผู้ใดจดจำผิดพลาดไปได้
“ เหอะเหอะ คิดว่าทุกท่านคงจะได้ยินได้ฟังกันมาแล้ว ว่าในครั้งนี้ชุมนุมการค้าของค้าได้มีม้วนคัมภีร์ยุทธ์ขั้นเสมือนเซียนอยู่ชิ้นหนึ่ง ข้าคาดหวังไว้ว่าทุกท่านในสถานที่แห่งนี้ต่างก็คงมีความสนใจ เพื่อเป็นการสรรเสริญต่อราชวงศ์โจวเรา ของชิ้นนี้ ก็เป็นของชิ้นแรกในการค้าในครั้งนี้แล้ว “ หญิงสาวบนแท่นยิ้มออกมา “ แต่ว่าวัตถุชิ้นนี้ถึงแม้จะเป็นทักษะยุทธ์เสมือนเซียน แต่ว่าก็ต้องขอกล่าวต่อทุกท่านก่อนไว้ว่า การปิดผนึกม้วนคัมภีร์ทักษะยุทธ์เสมือนเซียนนี้มีความลี้ลับอย่างถึงที่สุด หากว่าแข็งขืนปลดผนึกจนเสียหายแล้วละก็ คงจะทำให้ตัวทักษะยุทธ์มีความเสียหาย และข้าชุมนุมการค้าหวูจี้นั้นก็ใช้ฝีมือในการปลดผนึกทุกทางแล้วแต่ก็ยังไร้หนทางในการปลดผนึก จากที่ดูในตอนนี้แล้วละก็ วัตถุชิ้นนี้คงจะไร้วาสนากับชุมนุมการค้าหวูจี้เรา …….. ดังนั้น ในวันนี้จึงนำสิ่งของชิ้นนี้มาออกขาย หวังว่าคงจะสามารถตกอยู่ในมือของผู้มีวาสนา เพื่อทำให้ทักษะยุทธ์นี้เปล่งประกายขึ้นมาอีกครั้ง “
“ อะไรกัน ? คัมภีร์ยุทธ์เสมือนเซียน แต่ว่ากลับถูกปิดผนึกไว้ ? อีกทั้งยังเป็นการปิดผนึกที่แม้แต่ชุมนุมการค้ายังปลดมิได้ เช่นนั้นจะจัดการเช่นไรกัน ? “ มีคนที่เอ่ยถามออกมาอย่างตื่นตกใจ บรรยากาศภายในสถานที่นี้ในตอนนี้ได้เงียบสงบลงอยู่หลายส่วน ผู้คนไม่น้อยนัยน์ตาถึงกับปรากฏความยากที่จะเชื่อ แต่ว่าพวกเขาก็ยังตัดสินใจอย่างแน่วแน่ ต่อให้ตนเองได้ของสิ่นี้ไปก็มิได้มีประโยชน์อันใด แม้แต่ชุมนุมการค้าหวูจี้ก็ยังไร้หนทางในการปลดผนึกได้ ผู้คนธรรมดาไหนจะสามารถจัดการได้กัน ?
“ ในตอนนี้กลับถูกปิดผนึกจนปลดมิได้ ที่แท้ของชิ้นนี้เป็นคัมภีร์ยุทธ์เสมือนเซียนจริงงั้นหรือ ? ถ้าหากว่าเป็นจริงดั่งที่กล่าวมาแล้วละก็ ไม่ว่าจะต้องจ่ายออกไปเท่าไร ข้าก็ต้องเอามาให้ได้ “ เสียงของเด็กสาวผู้หนึ่งดังกังวานขึ้นมาท่ามกลางสถานที่แห่งนี้ ภายในเสียงนี้ก็ได้เต็มเปี่ยมไปด้วยความเชื่อมั่นในตัวเองชนิดหนึ่ง ทำให้มีผู้คนไม่น้อยที่สีหน้าเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมขึ้นมา
“ หากว่าคัมภีร์ยุทธ์เสมือนเซียนนี้ได้ถูกปิดผนึกไว้ก็ตาม แต่ต่อให้นำออกไปได้ก็ใช่ว่าจะมีประโยชน์อันใด แต่ว่าของเช่นนี้ถ้าอยู่ในการครอบครองของตนเอง ก็ยังดีกว่าตกอยู่ในมือของผู้อื่นอยู่ดี มิใช่หรือ ? “ เสียงอันเย็นเยียบเสียงหนึ่งดังออกมาจากทางด้านหนึ่งออกมา มีสายตาไม่น้อยที่ได้มองไปท่ามกลางสถานที่แห่งนี้รอบหนึ่ง ค่อยทราบว่าผู้ที่เอ่ยขึ้นมาทั้งสองคนนั้นเป็นถึงแขกผู้ทรงเกียรติที่อยู่ภายในห้องชุด
เมื่อเกิดการแย่งชิงของเหล่าบุคคลใหญ่โตแล้ว คงยากที่จะมีผู้ใดตัดสินใจจะถอยออกไปได้ ต่อมาภายในสถานที่นี้ก็ได้เปลี่ยนเป็นเงียบสงบขึ้นมา
เยี่ยจงในตอนนี้ก็ได้จ้องเขม็งอย่างสงสัยต่อม้วนคัมภีร์ทักษะยุทธ์นั้น แต่ว่าภายใต้สายตาของเขา ก็นึกขึ้นมาได้ในทันที ม้วนคัมภีร์นี้เป็นม้วนคัมภีร์เสมือนเซียนอย่างมิต้องสงสัย อีกทั้ง ม้วนคัมภีร์นี้ยังให้ความรู้สึกที่คุ้นเคยชนิดหนึ่งอย่างประหลาด
วัตถุชิ้นนี้ ดูเหมือนว่าไม่ว่าอย่างไรก็ต้องเอามาตรวจสอบดูให้ได้แล้ว
ท่ามกลางคำถามที่มีอยู่ หญิงสาวผู้นั้นถึงแม้จะมิได้อธิบายอะไรมากนัก นางเพียงแต่หยักไหล่ไปมาอย่างช่วยไม่ได้แล้วกล่าว “ หากว่าทุกท่านในที่นี้มีความสนใจแล้วละก็ เช่นนั้นก็เริ่มตั้งราคากันได้เลย หากว่าของชิ้นนี้ได้ถูกเปิดผนึกได้จนสามารถที่จะฝึกปรือทักษะยุทธ์เสมือนเซียนนี้ได้แล้ว ไม่แน่ว่าคงจะไม่สามารถปรากฏขึ้นมาในสถานที่แห่งนี้ได้ มิใช่หรือ ? “
ถึงแม้หญิงสาวจะมิได้อธิบายอันใดมากนัก แต่ว่าฟังจากน้ำเสียงของนาง ผู้คนไม่น้อยก็อดที่จะพยักหนักไปมาอย่างเห็นด้วยมิได้ เฉกเช่นที่นางได้กล่าวออกมาก็มิปาน หากว่ามิใช่เพราะเหตุผลถูกผนึกเอาไว้แล้วละก็ ไม่แน่ว่าชุมนุมการค้าหวูจี้ยังจะเสียดายที่นำวัตถุชิ้นมาวางขาย
และม้วนคัมภีร์เสมือนเซียนม้วนนี้จะถูกผนึกเอาไว้ก็ตาม แต่ราคาก็จัดได้ว่าสูงอยู่ทีเดียว แต่ว่าในทางกลับกันความยากที่จะได้ครอบครองก็ถือได้ว่าลดน้อยลง ถ้าหากว่าสามารถครอบครองได้ละก็ ไม่แน่ว่าบางทีอาจจะมีวาสนาพัดผ่านเข้ามา ปลดผนึกนี้ได้เล่า ?
ดังนั้นในตอนนี้ ยอดฝีมือไม่น้อยที่ความจริงจะล้มเลิกความตั้งใจแล้ว ภายในดวงตาก็เกิดแรงกระตุ้นขึ้นมา
“ หนึ่งพันหินวิญญาณขั้นสูง “
หลังจากที่ท่ามกลางการชุมนุมนิ่งเงียบขึ้นมา ก็ได้ยินเสียงคนประกาศราคาขึ้นเบาๆ
“ ข้าให้หนึ่งพันห้าร้อยหินวิญญาณขั้นสูง “
“ ข้าให้สามพัน “
ถึงแม้จะเป็นแค่ม้วนคัมภีร์ที่ยังไม่ปลดผนึก แต่ว่าตอนนี้ก็มีผู้คนมากมายต่างก็ให้คนสนใจ ต่อมาก็มีผู้คนเสนอราคาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
เยี่ยจงเหม่อมองไปยังฉากเบื้องหน้าแต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากกล่าวออกมา สิ่งของที่นำออกมาขายเช่นนี้ ในช่วงแรกถือได้ว่าเป็นอะไรที่น่าเบื่อยิ่งนัก เขาถึงแม้จะต้องการของชิ้นนี้ให้ได้ก็ตาม เช่นนั้นก็ต้องใช้คำพูดเดียวในการให้ได้มา และมิใช่การกล่าววาจาไร้สาระกับผู้อื่น
“ ข้ามีความสนใจต่อม้วนคัมภีร์ยุทธ์นี้เป็นอย่างมาก ข้าให้ราคาหนึ่งหมื่นหินวิญญาณขั้นสูง “ หญิงสาวที่มีความมั่นใจผู้นั้นที่พึ่งเอ่ยออกมาเมื่อครู่ได้ส่งเสียงออกมา ทันใดนั้นราคาที่เสนอออกมาก็ได้ดีดตัวขึ้นสูงใหม่ในทีเดียว ยอดฝีมืออีกฝ่ายที่มีความสนใจเหล่านั้นต่างก็นิ่งเงียบลง จากนั้นแต่ละคนก็ได้แต่มองหน้ากัน ต่างก็ยอมแพ้ในลักษณะนี้
เด็กน้อยที่สามารถถึงกับเสนอราคาถึงหนึ่งหมื่นหินวิญญาณขั้นสูงเช่นนี้ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ดูเหมือนเป็นผู้ที่มีกำลังทรัพย์อย่างมาก ยอดฝีมือปกติธรรมดาที่อยู่ด้านล่างเหล่านั้น ยังคงไม่มีวิธีที่จะเสนอราคาสู้กับนางได้เลย
“ หนึ่งหมื่นหนึ่งพันหินวิญญาณขั้นสูง “ หลังจากที่การชุมนุมเกิดความลังเลขึ้น เมื่อครู่ก็ได้มีเสียงอันเย็นเยียบค่อยๆดังขึ้นมา
“ สองหมื่นหินวิญญาณขั้นสูง “ เด็กสาวได้ออกเสียงทอดออกไป
“ สองหมื่นหนึ่งพันหินวิญญาณขั้นสูง “ เสียงเย็นเยียบนั้นก็ได้ดังขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
“……”
“ หนึ่งแสนหินวิญญาณขั้นสูง “ ชั่วเวลาเพียงแค่หนึ่งกาน้ำชายังไม่ทันจะเดือด ราคาก็ได้กระโดดขึ้นสูงจนเกินกว่าที่จะคาดเดาเอาไว้ได้แล้ว และเด็กสาวผู้นั้นหลังจากที่ได้ส่งเสียงประกาศราคาแล้ว ผู้คนไม่น้อยต่างก็สามารถฟังออกได้ว่า นางได้ขบเคี้ยวเขี้ยวฟันกล่าวออกมา
“ หนึ่งแสนหนึ่งพันหินวิญญาณขั้นสูง “ เสียงเย็นเยียบนั้นได้ถูกกล่าวออกมาอย่างไม่เร็วไม่ช้าจนเกินไป ทำให้ผู้คนไม่น้อยทั่วทั้งสนามต้องกรอกตาไปมา เห็นได้ชัดว่าเจ้าของเสียงเมื่อครู่นี้คงจะที่อยากจะมีปัญหากับสาวน้อยผู้นี้อย่างแน่นอน
“ เปรี้ยง “
เสียงดังโครมครามดังลอดออกมาจากห้องชุดของแขกผู้มีเกียรติ เห็นได้ชัดว่าได้มีคนกำลังทำลายข้าวของขึ้นมา หลังจากนั้น หญิงสาวที่ส่งเสียงออกมาเมื่อครู่นี้ ก็ได้เปลี่ยนเป็นเดือดดานขึ้นมา “ โจวฉีซือ เจ้าคิดที่จะอยากมีปัญหากับข้ามากนักหรืออย่างไรกัน ? “
“ อะไรกัน ? โจวฉีซือ ? นายน้อยจ้านหวังโจวฉีซือ ? “
หลังจากที่เงียบงัน ผู้คนไม่น้อยท่ามกลางสถานที่แห่งนี้ก็ได้กรอกตาด้วยความตื่นตกใจ นั้นก็เพราะว่าคนผู้นี้เป็นหนึ่งในคนที่มีชื่อเสียงภายในรัฐต้าโจวหวังเฉา คิดไม่ถึงว่าถึงกับจะมีปัญหากับเด็กสาวผู้นี้
“ ข้ามีความสนใจต่อม้วนคัมภีร์ทักษะยุทธ์ชิ้นนั้น แม่นางเหร่ยหากว่าสามารถถอยออกไปแล้วละก็ ผู้น้อยจะขอบคุณเป็นอย่างมาก “ จ้านหวังน้อยโจวฉีซือได้กล่าวเสียงเยียบเย็นออกมา แต่ว่าก็มิได้มีความคิดที่จะถอยเลยแม้แต่น้อย
“ เจ้า “
แม่นางเหร่ยผู้นั้นหัวเราะอย่างเย็นชาเสียงหนึ่ง หลังจากนั้นนางก็ได้ร้องเชอะเสียงหนึ่ง และจากนั้นก็ได้ยินเสียงบางอย่างลอยออกมา กระบี่ยาวสีฟ้าเย็นเยียบด้ามหนึ่งได้ออกมาจากหน้าต่างภายในห้องชุดแห่งหนึ่ง จนไปถึงยังแท่นชุมนุมการค้า
“ ศาสตราวุธขั้นวิญญาณระดับสูงของข้าชิ้นนี้เป็นสิ่งที่ข้าจะจ่ายออกมาในครั้งนี้ สมควรที่จะมีราคาค่างวดอยู่ที่สองแสนหินวิญญาณระดับสูงละมั้ง ? “
หลังจากที่หญิงสาวที่แท่นชุมนุมการค้าได้เดินเข้าใกล้แล้วมองไปคราหนึ่ง จากนั้นก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่พร้อมกับพยักหน้าไปมาแล้วกล่าว “ พอ แน่นอนว่าเพียงพอ หากว่าไม่มีผู้ใดที่เสนอราคาที่สูงกว่าแล้วละก็ เช่นนี้วัตถุนี้ก็ได้เป็นของแม่นางเหร่ยแล้ว “
“ เชอะ “
“ แม่นางเหร่ยผู้นั้นได้หัวเราะเสียงเย็นชาคราหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าได้พุ่งเจตนาอย่างประหลาดเข้าไปยังจ้านหวังโจวฉีซือน้อยผู้นี้นี้
ทว่าในครั้งนี้โจวฉีซือผู้นี้กลับเกิดความลังเลขึ้นมา แต่ก็มิกล่าวอ้างใดๆต่อ เห็นได้ชัดว่า แม่นางเหร่ยดึงราคาวัตถุชิ้นนี้สูงขึ้นจนถึงสองแสนหินวิญญาณขั้นสูง จึงนับได้ว่าเกินกว่าที่เขาจะเรียกออกมาได้อีก
และภายในห้องชุดก็มือผู้คนที่กำลังส่ายหัวพร้อมทั้งยิ้มออกมาอย่างขมขื่นขึ้นมา พวกเขาโดยส่วนมากก็พอที่จะเดาได้ว่า แม่นางเหร่ยผู้นี้สมควรที่จะมาจากตระกูลเหร่ยแห่งหนึ่งในห้าตระกูลใหญ่
“ สองแสนหินวิญญาณสะสมสา
ภายในห้องชุด เยี่ยจงก็ต้องกรอกตาไปมาคราหนึ่ง ถึงแม้ว่าในครั้งนี้เขาจะได้พกพาหินวิญญาณมาก็นับได้ว่าไม่น้อยก็ตามที แต่ว่าก็ยังต้องตกใจกับมูลค่าที่แม่นางเหร่ยผู้นี้เสนอมาเมื่อสักครู่ เพื่อม้วนคัมภีร์เสมือนเซียนที่ไม่ทราบจะสามารถปลดผนึกได้หรือไม่เพียงม้วนเดียว นางถึงกับลงมืออย่างดุดัน
แต่ว่า เยี่ยจงจำเป็นที่จะเอาม้วนคัมภีร์เสมือนเซียนนี้มาให้ได้เช่นกัน หลังจากที่เขาส่ายศีรษะไปมาแล้ว ทันใดนั้นก็ได้กล่าวเสียงดังกังวาน “ ข้าให้สองแสนห้าหมื่นหินวิญญาณขั้นสูง “
“ อะไรกัน “
บริเวณท่ามกลางสนาม เสียงของความตกตะลึงถูกก่อตัวจนสั่นไหวขึ้นมา จนกระทั่งแม้แต่หญิงสาวที่อยู่ทางด้านแท่นชุมนุมการค้าก็อดไม่ได้ที่จะมองไปทางด้านบริเวณของห้องที่เยี่ยจงคราหนึ่ง
ควรทราบว่า เมื่อครู่ที่โจวฉีซือและแม่นางเหร่ยทั้งสองคนได้แย่งชิงจนถึงระดับขั้นนั้นแล้ว สิ่งของคงต้องตกอยู่มือของหนึ่งในสองคนนั้นอย่างแน่นอน แต่ว่าช่วงเวลานี้ก็คิดไม่ถึงว่าในครั้งนี้ ถึงกับมีคนที่กล้าแทรกมือเข้ามาด้วย ?
และทางด้านห้องชุดอื่นและท่ามกลางภายในงานชั้นที่หนึ่งต่างก็จ้องมองเข้าไป ทันใดนั้นก็ได้เกิดการรวมตัวของสายตามองเข้าไปที่ห้องที่เยี่ยจงอยู่ บรรยากาศท่ามกลางภายในสนาม ความเงียบก็ได้ถูกก่อตัวขึ้นในช่วงเวลานี้
“ เป็นไรไป ? มิใช่เป็นการประมูลหรอกงั้นหรือ ? หรือว่าเมื่อเห็นและต้องการสิ่งของก็มิอาจที่จะเสนอราคางั้นหรือ ? “ ภายในห้องชุด ราวกับว่าเยี่ยจงมิได้สัมผัสได้ถึงบรรยากาศอันแปลกประหลาดนี้ก็มิปาน กลับส่งเสียงดังกังวานออกมา
หลังจากที่เงียบงัน หลังจากที่หญิงสาวที่อยู่ที่แท่นชุมนุมการค้าก็เกิดความวอกแวกขึ้นมา พยักหน้าแล้วตอบกลับ “ แขกผู้มีเกียรติท่านนี้ที่กล่าวเช่นนี้ พวกเราชุมนุมการค้ามีกฎอยู่ว่าจะให้ของแก่ผู้ที่ให้ราคาสูงที่สุด ดังนั้นแม่นางเหร่ย หากว่าท่านไม่เสนอราคาที่สูงกว่านี้แล้วละก็ เจ้าของที่จะได้คงต้องเปลี่ยนคนไปแล้ว
.
.
.
.