ตอนที่ 147 ทรราชทมิฬ
“ วัตถุชิ้นนี้ที่แท้ใช้อย่างไรกัน ? “
เสียงของบุคคลลี้ลับผู้นั้นได้ดังไปทั่วทั้งชุมนุมการค้า ถามออกไปถึงเสียงภายในจิตใจของทุกผู้คน
“ หากว่าพวกเราชุมนุมการค้าทราบว่าที่แท้เป็นสิ่งใดแล้วละก็ ตอนนี้ก็ไม่ต้องนำออกมาประมูลในราคาที่ต่ำเช่นนี้แล้วละ แต่ว่าแน่นอนว่าของเหล่านี้สามารถยืนยันได้ ว่ามิใช่สิ่งของปกติธรรมดาอย่างแน่นอน อีกทั้งมันยังมีครึ่งหนึ่งของเกราะที่ก่อนหน้านี้ถูกสายอัสนีฟาดใส่ “ หญิงสาวทรงเสน่ห์ยิ้มออกมาพร้อมทั้งอธิบาย
การอธิบายเช่นนี้ก็มิได้แตกต่างจากการที่ไม่พูดอันใดเลยก็ว่าได้ และเกี่ยวกับสิ่งที่แม้แต่วิธีการใช้งานก็ยังไม่ทราบ กล่าวกันว่าวัตถุที่นำมาลงขายชิ้นสุดท้าย ก็มีผู้คนไม่น้อยที่ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
“ เช่นนั้นก็ขอให้ทุกท่านได้ลองมาสัมผัสด้วยตัวเอง ก็จะทราบได้ว่าวัตถุชิ้นนี้ไม่ธรรมดาอย่างไร “ หญิงสาวทรงเสน่ห์เรากับคาดการณ์เหตุการณ์ที่เป็นอยู่เบื้องหน้าเช่นนี้ได้ ต่อมานางก็ได้ยกวัตถุชิ้นนี้มาด้วยตนเอง แล้วเดินสายไปยังแต่ละห้องพักของแขกผู้มีเกียรติ
ไม่นานนัก วัตถุชิ้นนี้ก็ได้ถูกหญิงสาวทรงเสน่ห์ส่งมอบไปให้เยี่ยจงยังห้องพักรับรอง
ในช่วงเวลาที่ได้พบกับใบหน้าของเยี่ยจง หญิงสาวทรงเสน่ห์นางนี้ก็ถึงกับตะลึงขึ้นมา ทันใดนั้นนางก็ได้ค่อยๆยิ้มออกมา “ ที่แท้ก็เป็นนายท่านเยี่ยจงที่มาจากลัทธิแห่งดวงดาวสาขาใน ผู้น้อยมีตาหามีแววไม่ไม่ทราบแม้แต่เขาไทซานอยู่ตรงหน้า “
หลังจากที่เงียบงัน เยี่ยจงก็ได้มองไปยังหญิงสาวคราหนึ่งอย่างลึกซึ้ง เรื่องที่เขาได้เข้าสู่ลัทธิแห่งดวงดาวนั้นเป็นเรื่องเมื่อไม่นานนี้เอง นับเป็นเรื่องราวที่ขุมกำลังโดยส่วนมากในเมืองเยียจิงต่างก็ยังไม่ทราบได้ และหญิงสาวผู้นี้มองเพียงแค่ครั้งเดียวก็สามารถที่จะจดจำออกถึงสถานะของตนเองได้ด้วยงั้นหรือ ? ดูเหมือนขุมกำลังแห่งชุมนุมการค้าหวูจี้ ที่แท้ก็เกินกว่าความคาดหมายอยู่หลายส่วน
แต่ว่าเยี่ยจงก็เพียงแค่คาดคิดอยู่ภายในหัวเพียงแวบเดียว เขามิได้วิเคราะห์อันใดมากนัก เพียงแต่ยื่นมือออกไป นำตุ๊กตาสีดำรูปคนมาจากหญิงสาว
ทันทีที่ได้ตกอยู่ในมือ ความรู้สึกเย็นเยียบประหลาดก็ได้ทำให้ผ่านเข้ามายังใจกลางฝ่ามือของเขา ทำให้เยี่ยจงต้องขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาที่เคยพบเห็นสิ่งต่างๆมามากมายเกินกว่าผู้คนในที่นี้ไม่รู้กี่เท่า เมื่อตอนที่อยู่ในดินแดนซานเชียนเซินเจี่ยก็จดจำสมบัติแปลกประหลาดได้ไม่น้อย
ดังนั้น ทันทีที่ได้ตกอยู่ในมือ เยี่ยจงก็ได้ทราบถึงความไม่ธรรมดาของวัตถุชิ้นนี้ อีกทั้งเค้ายังตัดสินใจไว้อย่างแน่วแน่ว่า สิ่งที่มีรูปลักษณ์ดำทมิฬเช่นนี้ในตอนนี้ ต้องมิได้แย่อย่างที่ตาเห็นอย่างแน่นอน เพียงแต่รูปร่างของมันเป็นลักษณะนี้อยู่แล้ว สามารถที่จะทอประกายแพรวพราวด้วยตัวเอง
เมื่อมีความสามารถที่แบ่งประเภทของวัตถุเช่นนี้จากความทรงจำในดินแดนซานเชียนเซินเจี่ยได้แล้ว ทันใดนั้นเอง ร่างกายเยี่ยจงก็ได้ตื่นตัวขึ้นมาในทันที ภายในดวงตาก็ได้ปรากฏความยากที่จะเชื่อในสิ่งที่เห็นได้
หากว่าของชิ้นนี้ตนเองเดาได้ไม่ผิดแล้วละก็ เช่นนั้นก็เกรงว่าราคาของวัตถุชิ้นนี้คงยากที่จะคาดเดาเอาไว้ได้ อีกทั้ง หากสิ่งที่ตนเองเดาไว้เป็นความจริงแล้วละก็ วัตถุชิ้นนี้ต้องมิใช่ศาสตราวุธขั้นเซียนปรกติธรรมดาอย่างแน่นอน หรือชื่อสั้นๆที่เรียกขานกันอย่างง่ายๆก็คือสมบัติ ที่เกินเลยกว่าความเป็นศาตสตราวุธขั้นเซียนแล้ว
เพียงแต่ว่า วัตถุชิ้นนี้มีความเสียหายที่หนักเกินไปแล้ว แม้แต่เยี่ยจงเองก็ไม่อาจที่จะยืนยันได้ว่า วัตถุชิ้นนี้จะใช่อย่างที่ตนเองคาดคิดเอาไว้หรือไม่
แต่ว่าถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ วัตถุชิ้นนี้ก็ถือว่าคุ้มค่าถ้าสามารถที่จะครอบครองไว้ได้
หลังจากที่ได้มีการไตร่ตรองภายในใจแล้ว เยี่ยจงก็มิได้ส่งเสียงใดๆออกไปเพียงแต่ส่งมอบวัตถุชิ้นนี้คืนแก่หญิงสาวทรงเสน่ห์ เพียงแต่ได้เผยให้เห็นความรู้สึกอันน้อยนิดออกมาให้เห็น
ตลอดมานี้อารมณ์เช่นเมื่อครู่หญิงสาวทรงเสน่ห์ได้พบเห็นผ่านมามากแล้ว ต่อมาก็มิได้สัมผัสอะไรที่น่าสนใจมากนัก นางก็ได้โค้งกายลงอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ได้นำทรราชทมิฬไปยังห้องพักอื่นต่อไป
หลังจากที่เวลาผ่านไปช่วงสามก้านธูป ร่างของหญิงสาวทรงเสน่ห์ก็ได้ปรากฏอยู่ด้านบนแท่นชุมนุมการค้าอีกครั้ง ในตอนนี้นางก็ได้ยื่นมืออกไปจับที่สินค้า หัวเราะเบาๆแล้วกล่าว “ แขกผู้มีเกียตริทุกท่านในเมื่อได้พิสูจน์วัตถุชิ้นนี้เองแล้ว สมควรที่จะทราบว่าวัตถุชิ้นนี้มีความไม่ธรรมดาอยู่เช่นไร ดังนั้น หากว่ามีความสนใจแล้วละก็ ก็เริ่มเสนอราคาได้ “
“ ข้าให้หนึ่งหมื่นหินวิญญาณขั้นสูง “
หลังจากที่ทั่วทั้งบริเวณเกิดความเงียบงันขึ้น ในที่สุดก็มีคนทำลายความเงียบสงบ เอ่ยปากกล่าวออกมาเสียงเบา
ตามความเป็นจริงแล้ว นอกเสียจากเยี่ยจงแล้ว ผู้คนมากมายถึงแม้จะทราบว่าวัตถุชิ้นนี้ไม่ธรรมดา แต่ว่ามิอาจที่จะสามารถทำความเข้าใจว่าที่แท้นั้นคือสิ่งใด ตอนนี้ที่ได้เริ่มต้นเสนอราคาออกมาก็เพียงเพราะแค่เห็นแก่หน้าของชุมนุมการค้าเท่านั้นเอง
“ ข้าให้หนึ่งหมื่นสองพันหินวิญญาณขั้นสูงละกัน “
เมื่อมีคนเริ่มที่จะเสนอราคาออกมา ราคาของวัตถุชิ้นนี้ก็ได้เริ่มจะดีดตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ เพียงแต่ว่า บุคคลจำพวกจ้านหวังน้อยโจวฉีซือ บุคคลลึกลับ เหร่ยเหอทิงเป็นต้น กลับมิได้เอ่ยปากออกมาแม้สักคนเดียว เห็นได้ชัดว่าพวกเขายังคงคิดวิเคราะห์ราคาของวัตถุชิ้นนี้อยู่
“ ข้าให้หนึ่งแสนหินวิญญาณขั้นสูง ก่อนหน้านี้ข้าก็ได้กำไรไปไม่น้อยแล้ว ครั้งนี้ถือว่าข้าขาดทุนให้ก็แล้วกัน “ เสียงอันคุ้นเคยได้ดังออกมาปกคลุมไปทั่วทั้งสถานที่แห่งนี้ ผู้คนมากมายได้โยกย้ายสายตามองไปในทันที บรรจบกันอยู่ที่บริเวณห้องพักของเยี่ยจง
ในตอนที่เยี่ยจงได้เผยคำพูดและอารมณ์ที่ไม่ใส่ใจมากนัก ราวกับมีความต้องการที่จะตอบแทนชุมนุมการค้านี้ซักคราก็มิปาน
ในตอนนี้ คาดว่าผู้คนที่อยู่ภายในห้องพักอื่นทั้งหมดก็ได้ทอประกายนัยน์ตาขึ้นมาเล็กน้อย เยี่ยจงลงมือแม้ไม่นักมาก แต่ว่าในทุกครั้งที่เขาได้ลงมือก็มีเป้าหมายอยู่ที่ “เก็บตก” อยู่ตลอด เมื่อเทียบกับครั้งแรกที่ได้ลงมือเก็บทักษะยุทธ์เสมือนเซียนจากนั้นก็กุ๋ยชาง ต่างก็เป็นสิ่งที่มีความลี้ลับโดยทั้งสิ้น อีกทั้งยังมิใช่วัตถุสิ่งของที่สามารถใช้ได้เลยในทันที ตอนนี้เยี่ยจงได้เอ่ยปากขึ้นมาอีกครั้งเพื่อทรราชทมิฬ มีอยู่หลายคนที่สังเกตเห็นความข้อนี้อยู่
คนเหล่านี้นับได้ว่ามีความเข้าใจในวิธีการของเยี่ยจงอยู่หลายส่วน ราวกับว่าเขาที่ชื่นชอบ “การเก็บตก” อย่างที่สุด ถึงแม้ว่านี้จะมิใช่ลักษณะนิสัยที่ดีแต่อย่างไร แต่ขึ้นชื่อว่ายอดฝีมือ มีผู้ใดบางที่ไม่มีความชื่นชอบส่วนตัวแม้แต่น้อยกัน ?
ในตอนนี้ หลังจากที่ได้ครุ่นคิดแล้ว กลับไม่มีผู้ใดที่เอ่ยปากกล่าวออกมา
หลังจากที่หญิงสาวทรงเสน่ห์ทางด้านบนแท่นชุมนุมการค้าได้เงียบลง ก็ได้สูดลมหายใจเข้าไปคำหนึ่ง ในความเป็นจริงแล้ว วัตถุชิ้นนี้สามารถที่จะขายออกไปได้ในราคาที่ถึงหนึ่งแสนหินวิญญาณขั้นสูงก็นับได้ว่าเพียงพอจนนางเองก็ตกใจแล้ว ต่อมานางก็ได้ปรบมือเบาๆอยู่หลายครา ยิ้มออกมาแล้วกล่าว “ ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้วละก็ วัตถุชิ้นนี้ก็เป็นของแขกผู้ทรงเกียรติท่านนี้แล้ว ตอนนี้ก็ได้เวลาสิ้นสุดลง
“ ตูม “
ทันทีที่หญิงสาวกำลังเลิกม่านจบการประมูล ทันใดนั้นเอง ก็ได้มีเสียงดังสนั่นออกมาจากบริเวณทางเข้าของชุมนุมการค้า ในช่วงเวลาที่ร่างกายของทุกผู้คนกำลังหันไปอย่างตกใจนั้น ก็ได้พบกับประตูสีเงินอ่อนขนาดใหญ่ลอยออกมาชนกับผู้คน จนหยุดอยู่ที่บริเวณกลางห้องโถง
บริเวณทางเข้า ในตอนนี้ก็ได้มีคนกลุ่มหนึ่งก้าวยาวๆเดินเข้ามา คนที่เดินนำหน้านั้น ก็เป็นชายหนุ่มอายุประมาณสิบเจ็ดสิบแปดปี เครื่องแต่งกายสีม่วงทั่วทั้งตัว ทั้งยังมีความมั่นใจ
“ องค์ชายสาม ? “
ยอดฝีมือมากมายก็ได้ทอดตามองไปอย่างงงงันในเวลาเดียวกัน แม้แต่หญิงสาวทรงเสน่ห์บนแท่นในตอนนี้ก็ยังต้องขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นก็โบกมือคราหนึ่ง เพื่อให้เหล่าคนชุดดำที่เตรียมลงมือถอยออกไป
“ องค์ชายสาม ? พลังขอบเขตขั้นก่อฟ้าระดับความสำเร็จเล็ก ? “
เยี่ยจงก็ได้ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขากลับคิดไม่ถึงว่า จะมีการปรากฏตัวของหนึ่งในสามขององค์ชายแห่งราชวงศ์ต้าโจว กล่าวกันว่ามิใช่บุคคลธรรมดาแม้ซักคนเดียว ในช่วงเวลาหลายปีก่อน ก็ได้ถูกผู้ที่มีความสามารถที่ผ่านทางมายังรัฐต้าโจวหวังเฉารับไว้ แล้วนำพากลับไปฝึกฝน คิดไม่ถึงว่าบุคคลเช่นนี้ถึงกับมาปรากฏตัวที่แห่งนี้ได้ อีกทั้งเขาที่มีอายุเพียงสิบเจ็ดสิบแปดปี ถึงกับสามารถที่จะฝึกปรือได้จนถึงขั้นนี้ได้ แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่น่าหวาดหวั่นอย่างถึงที่สุด
และองค์ชายสามผู้นี้ก็มิได้มาเพียงคนเดียว บริเวณทางด้านหลังของเขา ก็ได้มีทหารที่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดในการต่อสู้ติดตามถึงสี่คน บนร่างของทหารหาญเหล่านี้ได้ส่งกลิ่นอายของพลังขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าเป็นยอดฝีมือที่ผ่านศึกมาไม่น้อย และนอกจากนั้น ยังมีหญิงสาวคลุมหน้าไว้ผู้หนึ่งเดินตามมาทางด้านหลัง
หญิงสาวสวมไว้ด้วยชุดกระโปรงสีขาว รูปร่างงดงามเป็นสัดส่วน ทำให้ผู้ที่มองดูเหมือนดั่งขึ้นสวรรค์ และบนร่างของนางก็ได้มีพลังที่ยากจะอธิบายชนิดหนึ่งแผ่ออกมา ราวกับว่าองค์ชายสามที่ในเวลานี้ยืนอยู่ด้านข้างของนาง เป็นเหมือนดั่งคนเดียวกันก็มิปาน
เพียงแค่มองจากระดับพลัง ก็สามารถที่จะทำให้ผู้คนทราบได้ สถานะของหญิงสาวผู้นี้ต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
“ หงส์เหลียน สิ่งของในมือของเจ้า ข้าต้องการแล้ว “ องค์ชายสามได้ยืนอยู่ท่ามกลางของสถานที่แห่งนี้ เขาไม่แม้แต่จะมองผู้ใดแม้แต่หางตา เพียงแต่เงยหน้ามองไปยังหญิงสาวทรงเสน่ห์บนแท่นการประมูลคราหนึ่ง เอ่ยปากเสียงดังกังวาน
“ นี้มัน —— ” แม้ผู้อื่นจะไม่ทราบสถานะของเยี่ยจง แต่ว่านางกลับทราบเป็นอย่างดี ในตอนนี้ผู้คนมากมายได้มองไปที่เด็กน้อยที่ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำผู้นี้ ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นถึงเยี่ยจงที่มีชื่อเสียงขจรขจายมากที่สุดในลัทธิแห่งดวงดาวในเวลานี้ แน่นอนว่านางก็ไม่ต้องการที่จะมีข้อบาดหมาง อีกผู้หนึ่งได้เป็นองค์ชายสามแห่งราชวงศ์ สถานะสูงเกินกว่าที่จะรับได้ ภายในสายตาของนาง ทั้งสองคนต่างก็เป็นผู้ที่ไม่สมควรที่จะมีข้อบาดหมางทั้งสิน ดังนั้น สถานการณ์เบื้องหน้าสายตาเช่นนี้ กลับเป็นช่วงเวลาที่ดูเหมือนจะเหมาะเจาะเกินไปอยู่หลายส่วนแล้ว
“ ที่แท้หรือว่าเขาเองก็จดจำออกว่าสิ่งนั้นคืออะไร ? “ ท่ามกลางห้องพัก เยี่ยจงได้ยืนขึ้น เดินทางบริเวณทางหน้าต่างมองผ่านลอดลูกประคำเข้าไป ขมวดคิ้วเล็กน้อย
ทันใดนั้นต่อมา เขาก็รู้สึกหนาวสั่นขึ้นมาทั่วทั้งตัวเล็กน้อย หันกลับไปมองอยู่คราหนึ่ง ก็พบเห็นหญิงสาวชุดขาวที่อยู่บริเวณด้านหลังขององค์ชายสาม ในตอนนี้ก็ได้เงยหน้าขึ้นมอง จ้องมองไปยังบริเวณที่เยี่ยจงยืนอยู่
“ มิใช่องค์ชายสามผู้นั้น เขายังไม่มีดวงตาที่คมกล้าอย่างเพียงพอ ที่พอจะทราบว่าวัตถุชิ้นนี้มีความเป็นมาเช่นไรน่าจะเป็นหญิงสาวผู้นั้น …….. “ เยี่ยจงขมวดคิ้ว สีหน้าปั้นยากขึ้นมาหายส่วน
เพียงมองไปที่ท่าทีขององค์ชายสามก็ทราบได้ หญิงสาวด้านหลังเขานับได้ว่ามาจากขุมกำลังใหญ่แห่งหนึ่ง อีกทั้ง ขุมกำลังเช่นนี้อย่างน้อยก็น่าจะอยู่ในหนึ่งในสามรัฐใหญ่ หากว่าเป็นเช่นนั้นแล้วละก็ วันนี้ตนเองต้องการที่ของสิ่งนี้ เกรงว่าคงจะมีความยุ่งยากอยู่หลายส่วน
เกิดความเงียบทั่วทั้งห้องโถง ผู้คนทั้งหมดก็ได้รอว่าหงส์เหลียนจะกล่าวอันใด แต่ทว่าแม้แต่หงส์เหลียนเองก็ยังมิอาจที่จะทันตั้งตัวได้ทัน ถึงแม้สิ่งของจะยังมิได้ส่งมอบไป อีกทั้งต่อให้ไม่ตรวจสอบความเป็นมาของทั้งสองฝ่าย ถ้านางขายสิ่งของให้แก่องค์ชายสามแล้วละก็ เกรงว่านับแต่นี้เป็นต้นไปชุมนุมการค้าต้องเป็นที่ครหาอย่างแน่นอน
“ องค์ชายสาม วัตถุชิ้นนี้ได้ถูกเคาะเป็นของผู้น้อยแล้ว นับตามกฎแล้วละก็ เกรงว่าท่านไม่อาจที่จะรับวัตถุชิ้นนี้ได้แล้ว “ หลังจากที่ได้ครุ่นคิด เสียงที่ดังออกไปทั่วทั้งห้องโถง
และเมื่อเจ้าของเสียงปรากฏตัว ก็ได้ทำให้หงส์เหลียนต้องสูดลมหายใจเข้ายาวๆคำหนึ่ง นางก็นับได้ว่ารอคอยคำพูดนี้อยู่แล้ว ต่อมาก็ยิ้มออกมาแล้วกล่าว “ องค์ชายสาม คงจะขออภัยเป็นอย่างยิ่ง เป็นดั่งที่แขกผู้มีเกียรติท่านนี้กล่าวไว้ องค์ชายสามท่านมาช้าไปเพียงครึ่งก้าว เจ้าของวัตถุชิ้นนี้ในตอนนี้เป็นแขกผู้มีเกียรติท่านนี้แล้ว เรื่องราวถือได้ว่ามิใช่ผู้น้อยจะสามารถตัดสินใจได้แล้ว “
“ งั้นหรือ ? “ องค์ชายสามพยักหน้าอย่างไม่ใส่ใจ หลังจากที่เขามองไปยังหญิงสาวทางด้านหลังคราหนึ่ง ทันใดนั้นเองก็ได้ใช้พลังดัชนีไปยังบริเวณห้องพักที่เยี่ยจงอยู่
“ ชิร์ “
สายลมพัดผ่านออกไปสายหนึ่ง เยี่ยจงที่อยู่บริเวณภายในห้องพักที่มีลูกประคำแตกหัก ทำให้เงาร่างของเยี่ยจงถูกเปิดเผยออกไปให้สายตาทุกคู่มองเห็น
“ บรึม “
เยี่ยจงพลิกมือขวาออกอย่างไม่ใส่ใจ ใช้มือคว้าออกไปยังสายลมอย่างแผ่วเบา วินาทีนั้นก็ได้ยินเสียงดังอย่างหนักหน่วงขึ้นมาสายหนึ่ง สายลมก็ถึงกับถูกฝ่ามือของเยี่ยจงบีบจนระเบิดออกมา
บริเวณท่ามกลางห้องโถง สายตานับไม่ถ้วนได้มองไปยังร่างของเยี่ยจงในทันที ในขณะนั้นเอง มีผู้คนไม่น้อยก็ได้พบเห็นหน้าตาของเยี่ยจง
“ องค์ชายสาม ท่านทำเช่นนี้หมายความว่าเช่นไร ? “ เยี่ยจงกอดอก จ้องมองไปอย่างดุดันที่องค์ชายสาม เอ่ยปากกล่าวออกมา
.
.
.
.