เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 235 คัมภีร์เซียนโลหิต

ตอนที่ 235 คัมภีร์เซียนโลหิต

 

 

สีหน้าของเยี่ยจงปั้นยากขึ้นมา เพียงแต่ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาจนถึงขั้นนี้ได้ ทั้งหมดทั้งสิ้นเรียกได้ว่าไม่หลงเหลือหนทางที่จะให้เขาถอนตัวได้แล้ว ต่อให้เขาส่งมอบคัมภีร์เซียนโลหิตออกไป ผู้คนเหล่านี้ก็ไม่แน่ว่าอาจจะสังหารเขาไปในทันที ในช่วงเวลาที่ไม่มีอันใดที่สมควรจะกล่าวออกไปแล้ว สิ่งสุดท้ายที่สมควรกระทำ ก็คือการเข่นฆ่าสังหารอีกฝ่าย ฝ่าฟันวงล้อมออกไป ทั้งยังไม่มีวิธีที่ดีไปกว่านี้อีกแล้ว

 

และในขณะนั้นเอง เยี่ยจงก็ได้ใช้ออกด้วยฝ่ามือมังกรสายรุ้งอย่างคลุ้มคลั่ง วินาทีนั้นก็ได้ปรากฏพลังเซียนสายรุ้งออกมา พุ่งออกไปกดดันทั่วทั้งสี่ด้าน ในเวลาเดียวกันหอกอัสนีในมือของเขาก็ได้ถูกซ้อนทับไปด้วยพลังกระบี่ตราประทับที่ปลายด้าม สังหารออกไปไม่หยุด

 

“ โครม “

 

มีคนผู้หนึ่งที่มาจากรัฐกู่กวอก็ได้ถูกหอกของเขาแทงไปยังบริเวณหัวใจ จากนั้นก็ได้ปรากฏโลหิตไหลรินออกมาในทันที ร่างกายสูญเสียการควบคุมล้มลงไปบนพื้น ร่างกายกลับคืนสู่ร่างเดิม กลายเป็นอสรพิษลำตัวยาวตัวหนึ่ง

 

“ อะไรกัน ? “

 

ผู้คนมากมายที่ล้อมโจมตีอยู่เมื่อมองดูแล้ว เยี่ยจงยังถึงกับสามารถฆ่าสังหารสิ่งมีชีวิตจากเขาหลิงซานได้เช่นนี้ ยอดฝีมือทั้งหมดต่างก็เกิดความตกใจ แต่ว่ายังคงลงมือเคลื่อนไหวไม่หยุดหย่อน

 

เยี่ยจงได้ฆ่าสังหารด้วยเพลิงโทสะออกไป เขาในตอนนี้ราวกับว่ามิจำเป็นที่จะต้องป้องกันแล้ว ฝ่ามือมังกรสายรุ้งและพลังกระบี่ตราประทับในตอนนี้ก็ได้ถูกใช้ออกไปอย่างต่อเนื่องด้วยความรุนแรงออกไป จนทำให้เขาใช้ออกด้วยพลังจนถึงขีดสุด น่ากลัวอย่างไร้ที่เปรียบ

 

“ เคร่ง “

 

องค์ชายสิบสามได้เข้าสังหารมาอีกทางด้านหนึ่ง ง้าวไท่หยางและหอกอัสนีได้จู่โจมหากันในทันที การโจมตีอันน่ากลัวได้ปะทุออกมา จากนั้นร่างกายของทั้งสองคนก็ได้ปะทะเข้าด้วยกัน ใช้ฝ่ามือเข้าปะทะกันท่ามกลางอากาศ วินาทีนั้น ก็ได้ก่อเกิดพลังสายลมคล้ายดั่งมหาสมุทรใหญ่โหมกระหน่ำเข้ามาอย่างน่าหวาดกลัว จนทำให้กลุ่มยอดฝีมือที่อยู่ทั่วทั้งสี่ทิศต้องกระอักโลหิตถอยออกไป สีหน้าปั้นยากออกมา

 

เยี่ยจงและองค์ชายสิบสามต่างก็อยู่ภายในบ่วงมายาโลหิตในตอนนี้ อีกทั้งยังถือได้ว่าเป็นกลุ่มคนที่อยู่ในจุดสูงสุด การปะทะของพวกเขาเรียกได้ว่าแข็งแกร่งอย่างถึงที่สุด อีกทั้งเหล่าผู้คนจากกู่กวอ สิ่งมีชีวิตจากไท่กู่หลิงซาน เหล่าศิษย์ของผู้มีชื่อเสียง ต่างก็มิใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา ดังนั้นเมื่อมาจนถึงตอนนี้ แต่ละคนต่างก็ได้กระอักโลหิตออกมา

 

“ เยี่ยจง ยังไม่มอบคัมภีร์เซียนโลหิตออกมาอีก เจ้าอยากหาที่ตายอย่างงั้นหรือ “ องค์ชายสิบสามตะโกนดังลั่น ทอสีหน้าเย็นชาออกมา

 

คัมภีร์เซียนโลหิตในตอนนี้ได้อยู่ในมือของเยี่ยจง แต่ก็มิได้เก็บเข้าไป จนทำให้ผู้คนทั้งหมดต่างก็ทอสายตาแดงซ่าน

 

ตามความจริง ไม่ว่าเยี่ยจงจะส่งมอบคัมภีร์เซียนโลหิตหรือไม่ แต่สิ่งที่ปรากฏให้เขาเห็น ก็คือคัมภีร์เซียนโลหิตมิอาจที่จะเก็บเข้าไปภายในแหวนจักรวาลได้

 

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับองค์ชายสิบสามเช่นนี้ เยี่ยจงก็ยิ้มอย่างเย็นชา จากนั้นก็ได้กวาดหอกอัสนีออกไป มุ่งหน้าไปหมุนวนไปทางด้านขององค์ชายสิบสามเข้าไป คิดหมายที่จะกดดันจนทำให้ถอนรนออกไป

 

องค์ชายสิบสามยังคงยิ้มอย่างเย็นชาติดต่อกัน ง้าวไท่หยางในมือก็ได้ปะทุเป็นประกายแสงออกมาอย่างไร้ขีดจำกัด พริบตาเดียวก็ได้ใช้ออกไปนับร้อยกระบวนท่าแล้ว อีกทั้งยังหยุดยั้งการโจมตีนับไม่ถ้วนของเยี่ยจงเอาไว้ได้

 

เรื่องที่เกิดขึ้นตลอดมานี้เรียกได้ว่าเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเกิดไปแล้ว การลงมือของเยี่ยจงและองค์ชายสิบสามทั้งสอง ได้ก่อเกิดจนเกิดคล้ายหินกระทบจนเกิดประกายไฟ ดั่งฝนดาวตกจากฟากฟ้า ยากที่จะพบพานได้ เพียงแต่ว่าเพียงชั่วเวลาพริบตาเดียว ก็ได้ทำให้ก่อเกิดแรงระเบิดจากคมหอกและง้าวแผ่ออกมา จนทำให้ผู้คนต่างแตกตื่นตกใจ

 

มีผู้คนจากกู่กวอคิดที่จะเข้าสู่การปะทะกันอันบ้าคลั่งนี้ ผลสุดท้ายก็ได้ถูกพลังการโจมตีจากทั้งสองคนกระแทกออก จนต้องกระอักโลหิตถอยออกมา

 

“ ตายซะ “

 

องค์ชายสิบสามร้องออกมา ง้าวไท่หยางภายในมือก็ได้ค่อยๆสั่นไหว หลังจากที่เยี่ยจงได้ใช้ออกมาด้วยร่างมหัศจรรย์หมื่นโบราณ ระดับพลังก็ได้ปะทุขึ้นออกมา หลังจากที่ได้เริ่มการปะทะกันครั้งสุดท้าย ก็ได้เกิดความตะหนกภายในจิตใจขององค์ชายสิบสาม เริ่มที่จะไม่มีความมั่นใจในตัวเองขึ้นมาหลายส่วน อีกทั้งยังถูกเยี่ยจงกดดันเอาไว้

 

“ ฆ่ามัน “

 

เยี่ยจงยิ้มอย่างเย็นชาติดต่อกัน แล้วก็ได้เริ่มที่จะตัดสินใจแล้วว่า จะจัดการกับผู้ที่ต่อกรได้ยากที่สุดอย่างองค์ชายสิบสามก่อน แล้วค่อยกล่าวถึงเรื่องอื่น

 

“ ลงมือพร้อมกัน “

 

บริเวณภายนอกวงล้อม เหล่ายอดฝีมือจากกู่กวอและสิ่งมีชีวิตจากเขาหลิงซานก็ได้สบตาจ้องมองกัน ทันใดนั้นเอง ผู้คนไม่น้อยต่างก็ก้าวออกไปในเวลาเดียวกัน แปรสัญลักษณ์ทั้งสองมือ ในครั้งนี้คนเหล่านี้ก็ได้มีความที่เป็นดั่ง “จิตใจเชื่อมโยงกัน” จนก่อเกิดทักษะยุทธ์ซ้อนทับขึ้นมาเป็นสาย จนกลายเป็นการโจมตีอันน่าหวาดกลัว พุ่งเข้าสังหารไปยังบริเวณที่เยี่ยจงอยู่เข้าไป

 

เห็นได้ชัดว่า ทั่วทั้งสนามในตอนนี้นอกเสียจากองค์ชายสิบสามที่พอจะต่อกรกับเยี่ยจงได้ คนเหล่านี้ต่างก็ไม่ต้องการที่จะเอาแต่มองดูองค์ชายสิบสามทอดร่างภายใต้น้ำมือของเยี่ยจง ไม่เช่นนั้นแล้วละก็ ไม่แน่ว่าเยี่ยจงอาจจะถอยจากไปสำเร็จก็เป็นได้

 

การร่วมมือกันจู่โจมกันของยอดฝีมือมากมาย จนทำให้ก่อเกิดความอิจฉาเยี่ยจงขึ้นมา เขาใช้เพียงหอกเดียวก็ได้ทำให้องค์ชายสิบสามถอยออกไป แล้วก็ได้หายวับไปทางด้านข้างอย่างรวดเร็ว การโจมตีที่น่าหวาดกลัวและแข็งแกร่งเช่นนี้ ต่อให้เป็นเยี่ยจงเองก็ไม่คิดที่จะเผชิญหน้าโดยตรง

 

“ ตูม “

 

บริเวณอีกทางด้านหนึ่ง หมิงหยี่ที่มิได้ลงมือตลอดมาก็ได้ก้าวออกมา ภายในมือได้ใช้ออกด้วยกระจกชิ้นหนึ่งแผ่พลังเพลิงผลาญออกมาเป็นสาย มุ่งหน้าโจมตีเข้าหาเยี่ยจง และครอบคลุมไปยังผู้คนมากมายนับไม่ถ้วนทั่วทั้งสนาม เห็นได้ชัดถึงการมาในครั้งนี้ของหมิงหยี่ คือต้องการที่จะฆ่าสังหารผู้คนทั้งหมด

 

สีหน้าเยี่ยจงเปลี่ยนไปเล็กน้อย หอกอัสนีในมือก็ได้พุ่งออกไปทางด้านหน้า ในเวลาเดียวกันก็ได้ใช้ออกเวยฝ่ามือมังกรสายรุ้ง จนกลายเป็นพลังเซียนเข้าต่อกรกับพลังเพลิงผลาญสายนี้

 

“ ตายซะ “

 

บริเวณทางด้านหลัง องค์ชายสิบสามก็ได้เปิดเนตรปราณฟ้าขึ้น จนก่อเกิดพลังการโจมตีอันน่าหวาดกลัวเข้าไปยังร่างของเยี่ยจง ความแข็งแกร่งของเยี่ยจงเรียกได้ว่ามีข้อจำกัด ในตอนนี้ไม่อาจที่จะหยุดยั้งการโจมตีทั้งหมดเอาไว้ได้ ได้แต่เพียงจ้องมองการโจมตีกระทบถูกร่างของตนเอง

 

“ เปรี้ยง “

 

เสียงดังขึ้นสนั่นหวั่นไหว ร่างกายของเยี่ยจงก็ได้ถูกซัดจนกระเด็นออก ลอยออกไปไกล เขากระอักโลหิตคำโต สีหน้าปั้นยากอย่างถึงที่สุด

 

“ ใช้โอกาสนี้จัดการเขาซะ “

 

แล้วก็ได้มีสิ่งมีชีวิตไท่กู่หลิงซานร้องดังขึ้นมา ความแข็งแกร่งของเยี่ยจงเรียกได้ว่าเกินความคาดหมายของทุกผู้คนไปแล้ว ในตอนนี้เมื่อเห็นว่าเยี่ยจงบาดเจ็บ จึงทำให้เขาเกิดความยินดีขึ้นมาเต็มสิบส่วน

 

“ ครืน “

 

เยี่ยจงก็ได้ยกหอกอัสนีขึ้นมา ทันใดนั้นก็ได้ใช้พลังกระบี่ตราประทับซ้อนทับกันจนถึงชั้นที่สิบแปด ในช่วงที่อยู่ในระดับชั้นพสุธา เขาซ้อนทับพลังกระบี่ตราประทับอย่างมากก็ชั้นที่สิบห้า แต่ว่าในตอนนี้ หลังจากที่ได้ใช้ร่างมหัศจรรย์หมื่นโบราณแล้ว เขาก็เหมือนดั่งมีพลังฝีมือขึ้นสู่ขั้นชั้นฟ้าได้แล้ว อีกทั้งการซ้อนทับพลังกระบี่ตราประทับยังถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ง่ายดายอยู่ไม่น้อย

 

เยี่ยจงใช้หอกนี้ที่เต็มไปด้วยพลังอันแข็งแกร่ง แล้วก็ได้พุ่งออกเข้าไปสังหารตัดผ่านไปยังใจกลางหัวใจสิ่งมีชีวิตของไท่กู่หลิงซานไป สิ่งมีชีวิตปราณแท้จริงนั้นก็ได้แสดงถึงใบหน้าที่ยากจะเชื่อ เห็นได้ชัดว่าไม่อาจที่จะเชื่อได้ลง ตนเองกลับต้องมาตายอยู่ภายในสถานที่ไม่ทราบที่มาที่ไปเช่นนี้ พลังการโจมตีของเยี่ยจงก็ได้เพิ่มขึ้นจนแข็งแกร่งขึ้นอีกขั้น ในช่วงเวลาที่เขาเองก็ยังมีการตอบสนองกลับมาได้ยาก

 

“ พวกเจ้ายังคิดที่จะสังหารข้าจริงอีกอย่างงั้นหรือ ? “ เยี่ยจงยกมือขึ้นปาดโลหิตที่ไหลออกมาจากมุมปาก เขาค่อยๆผ่อนลมหายใจลง ฝ่ามือมังกรสายรุ้งก็ได้กลายเป็นรังสีเซียนแผ่กระจายไม่หยุดยั้งอยู่ทางด้านหลัง จนก่อเกิดขุมพลังอันไร้ขีดจำกัด

 

ยอดฝีมือมากมายที่ล้อมโจมตีต่างก็ยังต้องตกใจ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ถึงกับยังถูกเขาฆ่าสังหารได้อีกถึงสองคนติดต่อกัน หนึ่งคือผู้มีพรสวรรค์แห่งตระกูลหนึ่ง หนึ่งคืออัจฉริยะแห่งรัฐหนึ่ง

 

เพียงแต่ว่า ในช่วงเวลานี้เอง แน่นอนว่าไม่อาจที่จะถอยออกไปได้ ไม่เช่นนั้น พวกเขาก็อาจจะต้องสูญเสียโอกาสในการได้รับคัมภีร์เซียนโลหิตไป

 

แล้วก็ได้ควักเอาโอสถปราณออกมา ไม่คิดแม้แต่จะมองสักคราก็ได้กลืนกินเข้าไปแล้ว แล้วเยี่ยจงเองก็ได้หัวเราะอย่างเย็นชาออกมา แล้วก็ได้เตรียมที่จะลงมือ เขาในตอนนี้ก็ได้เก็บหอกอัสนีเอาไว้ ใช้มือหนึ่งจับไว้ที่คัมภีร์เซียนโลหิต อีกมือหนึ่งก็ใช้ออกด้วยฝ่ามือมังกรสายรุ้ง มุ่งหน้าเข้าสังหารออกไปยังทั่วทั้งสี่ทิศแปดด้านในเวลาเดียวกัน

 

ในช่วงเวลาเดียวกันที่ได้ลงมือ เยี่ยจงก็ได้เปิดคัมภีร์เซียนโลหิตออก ก็มีความรู้สึกว่าคัมภีร์เซียนโลหิตมีความประหลาดรวมอยู่ด้วย นั้นก็เพราะว่าเวลาเช่นนี้เยี่ยจงก็เข้าใจดีว่า คัมภีร์เซียนโลหิตเล่มนี้แม้ท้ายที่สุดจะมิได้ตกอยู่ในมือของตนเอง ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ยินยอมที่จะเป็นเช่นนี้ต่อไป แต่ว่าในเมื่อได้มันได้ตกอยู่ในมือของตัวเอง หากไม่มองดูสักหลายครา ย่อมต้องผิดต่อตัวเองไม่น้อยเลยทีเดียว

 

“ เยี่ยจงเจ้าในเมื่อได้รับทักษะยุทธ์ของบ่วงมายาโลหิตไปแล้ว หากว่าเจ้ายังครอบครองคัมภีร์เซียนโลหิตมาแล้วละก็ ไม่แน่ว่าพวกเราต่อให้ตายในที่แห่งนี้ ก็ต้องหยุดเจ้าให้ได้ “

 

มีคนตะโกนออกมา ถึงแม้ว่าพวกเขาต่างก็ไม่เชื่อว่าคัมภีร์เซียนโลหิตจะสามารถครอบครองมาได้อย่างง่ายดาย แต่ว่า ยกตัวอย่างเช่นก่อนหน้านี้ ที่ได้ให้เยี่ยจงฝึกฝนฝ่ามือมังกรสายรุ้งได้ ไม่ว่ายังไงก็ตามก็มิอาจที่จะให้เกิดขึ้นได้อีก

 

“ ฆ่ามัน “

 

ยอดฝีมือคนอื่นๆต่างก็ตะโกนออกมา พุ่งออกหมายสังหารออกไปทีละคน ใช้ออกด้วยพลังฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุด เพื่อที่จะหยุดยั้งความเคลื่อนไหวของเยี่ยจง

 

“ ตูมตูมตูม “

 

ในช่วงเวลาที่ทั้งสองฝ่ายต่างก็ได้ใช้ออกด้วยพลังที่แท้จริง ทักษะยุทธ์อันน่ากลัวและพลังเซียนฝ่ามือมังกรสายรุ้งก็ได้ปะทะกันอย่างบ้าคลั่ง ในทุกการปะทะ ต่างก็ได้ทำให้ฟ้าดินสั่นไหว และองค์ชายสิบสามและหมิงหยี่ต่างก็ได้เข้าร่วมการต่อสู้ จนทำให้จำนวนผู้ที่ต่อสู้ยิ่งมายิ่งมากขึ้น

 

ในช่วงเวลาที่ประมือกัน เยี่ยจงก็ได้เปิดคัมภีร์เซียนโลหิตขึ้น เพียงแต่ว่าวินาทีนั้น ตลอดทั่วทั้งร่างก็ได้ชุ่มไปด้วยเหงื่อ ทันใดนั้น ราวกับว่าเขามองเห็นทะเลโลหิตนับไม่ถ้วน แล้วยังมีเหล่ามารร้ายนับไม่ถ้วนกลายเป็นพลังแห่งความตาย ขึ้นชื่อว่าเป็นสิบสุดยอดวิชามายานี้ กลับมิใช่เพียงแค่ชื่อเท่านั้น

 

ในช่วงเวลาทันใดนั้น สติของเยี่ยจงหายไป ยอดฝีมือที่ล้อมโจมตีอยู่เหล่านั้นก็ได้ใช้ออกด้วยพลังอันแข็งแกร่ง มีหรือที่จะมองไม่ออกว่าโอกาสได้มาถึงแล้ว ราวกับว่าทุกผู้คนต่างก็พร้อมใจกันลงมือในขณะนั้น พุ่งเข้าสังหารทางด้านหน้า

 

“ ครืน “

 

ในครั้งนี้ เยี่ยจงก็ไม่ทันที่จะหยุดยั้งได้ทัน ก็ได้ถูกการโจมตีนับสิบสายกระทบถูกร่างกายในเวลาเดียวกัน เขากระอักโลหิตออกมาคำโต ล้มลุกคุกคลานถอยไปทางด้านหลัง

 

แต่ว่าการโจมตีนี้ ก็ได้ทำให้เยี่ยจงได้สติกลับมาในทันที ราวกับว่าในขณะนั้น เขาก็ทราบแล้วว่า คัมภีร์เซียนโลหิตไม่เหมาะสมกับตัวเอง ไม่เช่นนั้นแล้วละก็ เมื่อครู่คงไม่ถึงกับสูญเสียสติได้

 

“ เยี่ยจง ส่งมอบสิ่งของออกมา “ องค์ชายสิบสามเข้ามาบริเวณทางด้านหน้าด้วยความเยือกเย็น กล่าวเสียงเย็นชาออกมา หมายมั่นที่จะกวาดโจมตีเยี่ยจงเข้าไป

 

“ ถ้าเจ้าต้องการ เช่นนั้นก็ให้เจ้า “ ราวกับอยู่นอกเหนือความคาดหมายของผู้คนทั้งหมด ในครั้งนี้ เยี่ยจงก็ได้โยนสิ่งของออกไปในทันที ในตอนที่ได้โยนคัมภีร์เซียนโลหิตออกไป ก็ได้พุ่งออกไปบริเวณทางด้านหน้า ใช้มันเพื่อที่จะได้รองรับการโจมตีขององค์ชายสิบสาม

 

ในตอนนี้ องค์ชายสิบสามก็ใช้โจมตีออกมา เรียกได้ว่าไม่อาจที่จะดึงรั้งกลับมาได้ทัน

 

“ ไม่ “

 

ยอดฝีมือนับไม่ถ้วนต่างก็ร่ำร้องออกมา พวกเขาคิดไม่ถึงว่าเยี่ยจงถึงกับมีความบ้าบิ่นจนถึงขั้นนี้ได้ ถึงกับเตรียมที่จะใช้คัมภีร์เซียนโลหิตฝ่าออกไป

 

“ ครืนบรึม “

 

ในช่วงเวลาที่เป็นไปไม่ได้นั้นเอง องค์ชายสิบสามก็ได้ดึงรั้งพลังกลับมาได้เกือบจะเก้าส่วน กระอักโลหิตออกมาคำหนึ่ง แต่ว่าถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ ง้าวไท่หยางของเขาก็ได้เกี่ยวเข้าไปด้านบนของยังคัมภีร์เซียนโลหิต

 

“ ติ้ง “

 

เสียงนั้นดังขึ้นมา คัมภีร์เซียนโลหิตก็ได้แตกจนกลายเป็นทั้งหมดหกส่วน ในเวลาเดียวกันทั่วทั้งสี่ทิศแปดด้านก็ได้มีเสียงตะโกนดังออกมา

 

ในขณะนั้นเอง ก็ไม่มีผู้ใดแม้แต่คนเดียวที่คิดจะใช้กำลังกับเยี่ยจงอีก และทันใดนั้นร่างกายของทุกผู้คนต่างก็แยกออกไป มุ่งหน้าเข้าไปยังบริเวณพื้นที่ที่มีเศษคัมภีร์เซียนโลหิตเหล่านั้นตกอยู่ ตลอดเส้นทางนี้ เมื่อครู่ที่ยังมียอดฝีมือร่วมมือกันอยู่ ในตอนนี้ต่างก็ได้ลงมือต่อกัน คิดหมายที่จะสังหารอีกฝ่ายให้ได้

 

เยี่ยจงปาดเลือดสดๆที่ไหลออกมาจากมุมปาก ในตอนนี้เขาก็ได้เยือกเย็นขึ้นมาเต็มสิบส่วน มิได้เข้าร่วมท่ามกลางการแย่งชิงคัมภีร์เซียนโลหิต กลับกันสายตาของเขากลับจ้องมองไปยังหอกดำทมิฬด้ามนั้น หมายมั่นว่าจะฉวยโอกาสในช่วงที่คนอื่นๆลังแย่งชิงคัมภีร์เซียนโลหิตกันอยู่ ช่วงชิงวัตถุชิ้นนี้มาอยู่ในมือ

 

แล้วก็ได้ก้าวออกไปหนึ่งก้าว ในช่วงที่กำลังเข้าใกล้หอกยาวทมิฬนั้นเอง แต่ว่าทันใดนั้นจิตใจของเยี่ยจงในตอนนี้ก็สัมผัสได้ถึงบางอย่าง สายตาก็ได้มองเข้าไปยังบริเวณทางด้านหลังของเก้าอี้ตัวนั้น

.

.

.

.

กลุ่มลับ ติดต่อได้หลังไมค์ครับ กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น เข้ากลุ่ม 3/4/5/6/7 ราคา 450
กลุ่ม3 https://goo.gl/dV1p9e ตอนที่ 210-290
กลุ่ม4 https://goo.gl/ESwaou ตอนที่ 291-370
กลุ่ม5 https://goo.gl/ekcF7V ตอนที่ 371-450
กลุ่ม6 https://goo.gl/4rqw89 ตอนที่ 451-530
กลุ่ม7 https://goo.gl/qrQ7GA ตอนที่ 531-610 ล่าสุดตอนที่ 550

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset