เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 237 ระดับเซียน

ตอนที่ 237 ระดับเซียน ?

 

 

เมื่อได้เหม่อมองไปยังฉากเบื้องหน้า เยี่ยจงก็ต้องขนลุกขนพองขึ้น

 

ไม่ว่าฉากเบื้องหน้านี้กำลังควบคุมสิ่งใดอยู่ก็ตาม หรือไม่ก็ นี้จะเป็นแค่การป้องกันอย่างหนึ่ง ค่ายกลแห่งหนึ่ง นั้นก็เพราะว่าการมาของตนเองได้กระตุ้นมันถูกใช้งานขึ้น แต่ว่า ไม่ว่าจะกล่าวจากสิ่งใดก็ตาม ทางด้านในได้มีร่วมไว้ด้วยพลังอันมหาศาล เพียงพอที่จะทำให้เยี่ยจงตายได้นับร้อยนับครั้งพันครั้งได้

 

เมื่อถึงช่วงเวลาเช่นนี้ จิตใจของเยี่ยจงราวกับกำลังแขวนอยู่บนเส้นด้าย นั้นก็เพราะว่า การเดิมพันเช่นนี้ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ตนเองที่เป็นเหมือนดั่งแมลงตัวหนึ่งจะสามารถมีชีวิตอยู่เช่นนี้ได้

 

หลังจากที่ได้หรี่ตามองไปยังเปลวเพลิงอยู่ได้สักพักจากทั่วสี่ทิศ สายตาของเยี่ยจงก็ได้ทอดมองไปยังบริเวณทางด้านล่าง

 

ร่างกายของเยี่ยจงก็ได้ปรากฏออกมาจากทางด้านหน้าเพียงครึ่งจัง ก็ได้มียังหลุมลึกขนาดใหญ่นี้ หรืออาจจะเรียกได้ว่าเป็นหลุมถ้ำก็ไม่ผิด

 

หลุมลึกนั้นเรียกได้ว่ามองไม่เห็นส่วนลึกได้เลย อีกทั้งยังมิอาจทราบได้ว่ามีส่วนลึกอยู่ในระดับใด รอบด้อนของหลุมลึก ก็ได้มีถนนติดอยู่กับหน้าผาของทางด้านบนบันได ทางด้านล่างจึงมีลักษณะในแบบเชิงลึกลงไป

 

ลักษณะของการสร้างของบันได ทุกๆระยะสายหนึ่งก็จะมีเชิงเทียนเล็กจัดวางอยู่ ด้านบนเชิงเทียนก็ได้มีไฟเย็นอันร้อนแรงทอเป็นประกาย บริเวณส่วนลึกที่มิอาจเห็นส่วนลึกได้ และภายในอีกด้านของบันไดนั้น ก็ได้มีซากศพกองรวมกันกระจัดกระจาย ซากศพเหล่านั้นโดยส่วนมากแล้วก็มีการผุกร่อนแล้ว แต่ว่าก็ยังทำให้เห็นได้ว่า ว่าเจ้าของซากศพเหล่านี้ก่อนหน้านี้มีพลังฝีมือที่โหดร้ายและแข็งแกร่งในระดับใด

 

“ นั้นคือ กระดูกหลู่หวู่(สัตว์อสูรคล้ายกับเสือ) ? แล้วก็ยังมีกระดูกของมารแท้จริง ——”

 

“ นั้นสมควรเป็นเผ่ามนุษย์ยักษ์สองหัว …….. “

 

สายตาของเยี่ยจงมองไปยังด้านบนที่อยู่นอกเหนือจากขั้นบันได ดวงตาก็ได้กรอกไปมาอย่างบ้าคลั่ง ถึงแม้ว่าเขาจะไม่อาจที่จะยืนยันซากกระดูกขนาดใหญ่ไร้ที่เปรียบก่อนหน้านี้ที่แท้มาได้อย่างไร ในตอนนี้ก็ได้แต่เพียงมองออกไปยังที่ห่างไกล แต่ว่ากลับมีแต่บรรยากาศที่มาจากซากกระดูกเหล่านี้ ถึงกับทำให้เยี่ยจงขนลุกขนพองขึ้นมาได้ แต่เขากลับสามารถยืนยันได้อย่างหนึ่ง ก็คือเจ้าของของซากระดูกเหล่านี้ ไม่แน่ว่าอาจจะมีความแข็งแกร่งเหนือกว่าตนเองเมื่อชาติก่อนหลายเท่า เช่นนั้นส่วนลึกของหลุมดำนี้ ที่แท้เป็นสถานที่อันใดกัน ?

 

สถานที่แห่งนี้ที่แท้มีความเกี่ยวข้องกับการล่มสลายของสำนักมายาโลหิตหรือไม่กัน ? ตนเองกลับไม่ทราบว่าแท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้น ที่แท้เกิดอะไรขึ้นมาสถานที่แห่งนี้ ?

 

ในช่วงเวลาที่เร่งรีบ เยี่ยจงก็ได้ค้นพบว่าเหมือนกับว่าสิ่งที่ของภายในดินแดนแห่งนี้ตนเองยังไม่อาจที่จะจับต้องอย่างวุ่นวายได้ นั้นก็เป็นเพราะว่ายังไม่มีคุณสมบัติที่เพียงพอที่จะจับต้องได้ ความรู้สึกเช่นนี้ได้ทำให้เยี่ยจงรู้สึกสับสนเป็นอย่างยิ่ง

 

เมื่อได้ก้าวเข้ามายังแท่นที่อยู่ตรงบันได และในบริเวณระยะห่างที่ห่างจากเยี่ยจงยังไม่ถึงหนึ่งจัง ทว่า เพียงแค่ระยะห่างเพียงสั้นๆ เยี่ยจงก็ได้เกิดความลังเลขึ้นจนไม่ได้ก้าวออกไป

 

“ อาจจะ มีแต่เพียงเข้าสู่ภายในท่ามกลางบันไดนี้ จึงจะสามารถได้รับตำนานใหญ่อันแข็งแกร่ง รวมทั้งอาจจะเป็นตำนานที่เป็นวาสนาเพียงสายเดียว แต่ว่า อาจจะ เมื่อได้ก้าวเข้าสู่วงล้อมขั้นบันได สถานการณ์ต่อไปข้าก็คงจะเป็นดั่งเหล่าสิ่งมีชีวิตอันแข็งกล้าเหล่านี้ก็มิปาน “ บนแผ่นหลังของเยี่ยจงได้มีเหงื่อไหลออกมาอย่างเย็นเยียบ จ้องมองไปยังสถานที่แห่งนี้อยู่นานแสนนาน

 

ถึงแม้จะไม่ทราบได้ว่าเพราะเหตุใดเขาถึงกับสามารถมายังสถานที่แห่งนี้ได้ แต่ว่าเยี่ยจงในตอนนี้ก็กลับยังแข็งขืนฝืนใจก้าวออกไปอีกครั้ง เพียงแต่หันหน้ากลับมา แล้วเดินถอยหลังเพื่อเข้าสู่สถานที่นี้

 

สถานที่แห่งนี้ได้รวมไว้ด้วยความลี้ลับอันยิ่งใหญ่ แน่นอนว่าระดับขอบเขตของเขาในตอนนี้เรียกได้ว่ายังไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะแตกต้องสิ่งใดๆ ในข้อนี้เยี่ยจงกลับสามารถยืนยันได้อย่างเต็มสิบส่วน

 

“ ก๊ง “

 

ทันใดนั้น ก็ได้เกิดประกายแสงคมกล้าขึ้น ในตอนนี้เยี่ยจงกลับได้นิ้วมือชี้ออกไป จากนั้น ก็ได้พบกับชิ้นส่วนสมบัติเซียนกระโดดลอยออกมาจากแหวนจักรวาลอย่างกะทันหัน และจากนั้นก็ได้ปรากฏอยู่บริเวณเบื้องหน้าของเยี่ยจง

 

“ นี้คือ …….. “

 

เมื่อได้เหม่อมองไปยังชิ้นส่วนสมบัติเซียนกระโดดลอยออกมาจากแหวนจักรวาลกะทันหันนี้ จิตใจของเยี่ยจงก็แทบที่จะกระดอนออกมา ตนเองมาถึงยังสถานที่แห่งนี้ อย่างมากก็คงเป็นเพราะว่าบนร่างกายมีชิ้นส่วนสมบัติเซียนที่มีความคล้ายกันอยู่ หากเป็นเช่นนั้นแล้วละก็ ต่อให้ตนเองฝึกปรือพลังกระบี่ตราประทับก็ตามที ก็คงไม่อาจที่จะเข้ามายังสถานที่เช่นนี้ได้

 

ในตอนนี้ ชิ้นส่วนสมบัติเซียนชิ้นนี้ที่ตลอดมานี้ไม่ได้แสดงอันใดออกมาแม้แต่น้อย ก็ได้เริ่มที่จะมีตัวอักขระโบราณที่เปี่ยมไปด้วยพลังอันเข้มข้นไหลเวียนอยู่ทั่วทั้งบริเวณขึ้นมา จากนั้นก็พบได้ว่ามันได้ค่อยๆที่จะทอความสวยสดงดงามไปยังแท่นตรงบันไดนั้นที่อยู่ทางด้านหน้า สาดประกายคมกล้าออกมาอย่างวุ่นวาย

 

ระหว่างนั้น ในตอนนี้ก็ได้ค่อยๆเคลื่อนไหวไปมา จากนั้นก็ได้พบว่ามีแสงที่ฟ้าเข้มสายหนึ่งปกคลุมอยู่บ่งชี้เหมือนกับบานประตูอยู่ครึ่งหนึ่งอย่างช้าๆปรากฏออกมายังทางด้านหน้าแท่นที่เป็นทางเข้านั้น

 

บานประตูครึ่งหนึ่งบานก็ได้บดบังหลุมลึกเอาไว้จนทั่ว จนทำให้บรรยากาศอันน่าหวาดกลัวภายในสถานที่แห่งนี้หายไปไม่เหลือแม้แต่น้อย และอักขระโบราณก็ยังไหลเวียนไปมาไม่หยุดยั้ง จนได้ก่อรวมรังสีฆ่าฟันอันน่าหวาดกลัวเอาไว้อยู่ภายใน

 

ชิ้นส่วนสมบัติเซียนก็ได้หยุดอยู่ตรงทางด้านหน้าของบานประตู จากนั้นก็มีตัวอักขระโบราณไหลเวียนเคลื่อนไหวไปมา แล้วก็มีเงาของสมบัติเซียนลักษณะกลมๆปรากฏขึ้นมา จนทำให้เยี่ยจงพบเห็นได้อย่างชัดเจน ชิ้นส่วนสมบัติเซียนที่ตนเองครอบครองอยู่ในตอนนี้ ก็เป็นได้เพียงแค่หนึ่งในหกส่วนที่ของสมบัติเซียนที่ยังไม่สมบูรณ์เท่านั้นเอง

 

“ ตูม “

 

เสียงปะทะดังขึ้นสนั่นหวั่นไหว ในตอนนี้ทั่วทั้งอารามใหญ่ก็ตกอยู่ภายใต้เสียงดังสนั่นนี้ ชิ้นส่วนสมบัติเซียนนั้นก็ได้ถอยกลับไปยังเบื้องหน้าของเยี่ยจงอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ได้แผ่แสงออกมาปกคลุมร่างของเยี่ยจงเอาไว้อย่างรวดเร็ว

 

“ ตูมตูมตูม “

 

ทันใดนั้นต่อมา ในระหว่างที่มีเสียงของการปะทะดังขึ้นมา ก็ได้มีประกายสายฟ้าออกมาผ่านทางด้านประตูบานนี้ ปกคลุมไปทั่วทั้งภายในอารามใหญ่

 

ประกายสายฟ้าเพียงแค่เป็นประกายเพียงแวบเดียว แต่ว่าเพียงแค่แวบเดียวนั้นเอง หินสีอ่อนทั่วทั้งสี่ทิศก็ได้แตกกระจายไปนับไม่ถ้วน เปลวไฟที่มีอยู่ก็ได้หายไปในทันที แม้แต่ตัวของอารามใหญ่เองก็ได้กลายเป็นเศษผง

 

หลุมลึกก็ได้ปรากฏอยู่บริเวณทางด้านหน้าของเยี่ยจงอีกครั้งและการมีอยู่ของพื้นที่เป็นถ้ำสีดำขนาดใหญ่นั้น ในตอนนี้ก็ได้ค่อยๆหายสาบสูญไป จนท้ายที่สุดก็ได้หายสาบสูญไปจากท่ามกลางสายตาของเยี่ยจงไปจนหมดสิ้น

 

ชิ้นส่วนสมบัติเซียนก็ได้สั่นไหวอยู่เล็กน้อย แล้วก็ได้ทอประกายแทงออกมา ทันใดนั้นก็ได้หายไปในทันทีภายใต้ถ้ำสีดำขนาดใหญ่ แล้วมันก็ได้สั่นไหวเล็กน้อยแล้วตกลงไปบนพื้น

 

ในตอนนี้เมื่อได้เหม่อมองไปยังส่วนลึกของหลุมลึกแห่งนี้ ราวกับว่าทั่วทั้งหน้าผาด้านบนที่มีความลี้ลับของอารามใหญ่แห่งนี้ก็ได้หายไป หลงเหลือไว้แต่เพียงแค่ถ้ำที่ว่างเปล่าอันมืดมิด เยี่ยจงเหม่อมองไปยังฉากเบื้องหน้า หลังจากที่เกิดความลังเล บริเวณแผ่นหลังบนร่างก็ได้มีเหงื่ออันเย็นเยียบไหลออกมา

 

ฉากเมื่อครู่นี้ได้ทำให้เขาเข้าใจได้ หากว่ามิใช่ในช่วงเวลาคับขันตนเองสามารถควบคุมความโลภเอาไว้ได้แล้วละก็ เช่นนั้นเขาในตอนนี้ ก็คงจะต้องมอดไหม้ไปทั้งเช่นนี้อย่างแน่นอน หายสาบสูญไปพร้อมกับผืนฟ้าดินในที่แห่งนี้

 

ความลี้ลับของตึกใหญ่นี้ ที่แท้มีการคงอยู่เช่นไรกันแน่ ? หลุมลึกใต้อารามใหญ่ ยังจะมีความลับอันใดกันแน่ ? แล้วยังชิ้นส่วนสมบัติเซียนที่ตนเองได้มาครอบครองนี้ ที่มีใช้ทำอะไรได้กัน ? และก็ยังความเกี่ยวข้องอันใดกับการล่มสลายของสำนักมายาโลหิตกัน ?

 

หลังจากผ่านไปได้สักพัก เยี่ยจงจึงค่อยได้สติกลับคืนมา เขาคุกเข่าลงไป คว้าออกไปยังจุดประกายแสงที่ได้หายไปในตอนนี้ จนกลายเป็นเหมือนดั่งเศษชิ้นส่วนของสมบัติปราณก็มิปาน มิได้มีเป็นชิ้นส่วนสมบัติเซียนที่มีอันให้พิเศษมากนัก ภายในใจกลางกลับมีความยุ่งเหยิงที่ดูแล้วผิดปกติ

 

หากว่าไม่ได้รับชิ้นส่วนสมบัติเซียนชิ้นนี้มาครอบครอง ไม่เช่นนั้นตนเองก็คงอาจจะไม่สามารถพบเจอกับความลี้ลับของอารามใหญ่และหลุมลึกอันลึกลับได้ อีกทั้งในช่วงเวลาที่สำคัญอย่างยิ่ง ชิ้นส่วนสมบัติเซียนนี้กลับปกป้องชีวิตนี้ของตนเองเอาไว้

 

เยี่ยจงนำชิ้นส่วนสมบัติเซียนออกมา หลังจากนั้น ก็ได้ผนึกโลหิตไหลเวียนเคลื่อนไหว รวมรั้งพลังปราณฟ้าดินภายในกายก็ได้รวมเข้าหากันอย่างรวดเร็ว เพียงแต่ว่าชิ้นส่วนสมบัติเซียนราวกับตายแล้วก็มิปาน ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ราวกับว่าตลอดมานี้ เป็นเพียงแค่ความฝันก็มิปาน

 

ทว่า ในขณะทันทีที่เยี่ยจงเตรียมที่จะปล่อยวาง ทันใดนั้นเอง อักขระทั่วทั้งชิ้นของชิ้นส่วนสมบัติเซียนนี้ก็ได้แผ่กระจายกันออกไป รวมไปทั้งบริเวณใจกลางฝ่ามือของเยี่ยจง

 

ในช่วงเวลาเดียวกัน หลุมลึกทั่วทั้งสี่ด้านก็ได้แผ่เสียงดังขึ้นมาเป็นสาย แล้วก็ได้กลบเสียงที่ดังสนั่นบริเวณสี่ทิศกลับไป เสียงเหล่านี้ราวกับเป็นทำลายอากาศอยู่ก็มิปาน จนทำให้ผู้คนเกิดความรู้สึกปวดศีรษะ

 

ทันใดนั้นต่อมา ตัวอักขระเหล่านี้ก็ได้แผ่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว รวมไปทั้งครอบคลุมอยู่ทั่วทั้งร่างกายของเยี่ยจง จนทำให้รังสีจากทั่วทั้งร่างของเขาในตอนนี้เกิดความเคลื่อนไหวอย่างบ้าคลั่งขึ้นมา

 

ไม่นานนัก อักขระเหล่านี้ก็ได้รวมตัวกันอย่างรวดเร็ว ท่ามกลาห้วงสมองของเยี่ยจงก็ราวกับได้ก่อเกิดเพลิงแผดเผาของวิหคเพลิงปกคลุมไปทั่วทั้งร่างกาย วิหคเพลิงราวกับมีขนาดเพียงแค่หนึ่งฝ่ามือ แต่ว่าก็ได้แผ่พุ่งพลังกดดันกระจายออกมาอย่างน่าหวาดกลัวสุดขีด

 

ทว่าไม่นานนัก วิหคเพลิงก็ได้หายไปอย่างช้าๆ หายไปในระหว่างท่ามกลางความนึกคิดของเยี่ยจง

 

“ นี้ มิใช่ทักษะยุทธ์ระดับปราณ แต่กลับเป็นพลังวิชาระดับเซียน ? “

 

เยี่ยจงตื่นตะตกใจ คิดไม่ถึงว่าภายในชิ้นส่วนของสมบัติเซียนชิ้นนี้ ถึงกลับปลดปล่อยพลังระดับเซียนชนิดนี้ได้ นี้ถือได้ว่าเป็นวัตถุที่ยอดฝีมือขั้นก่อฟ้าขอบเขตปราณหมุนรอบให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เมื่อเทียบกับทักษะยุทธ์แล้วไม่ทราบว่ามีความสำคัญกว่าไม่รู้กี่เท่า อีกทั้ง ภายใต้ความคิดของเยี่ยจง พลังวิชาระดับเซียนนี้เมื่อเทียบกับพลังวิชาระดับเซียนเมื่อชาติก่อนแล้ว เรียกได้ว่าว่ามีความแข็งแกร่งกว่าไม่รู้กี่เท่า

 

“ นอกเสียจาก ตำนานที่เล่าขานกันก็คือชิ้นส่วนแห่งความวุ่นวายชิ้นนี้ ? “ เยี่ยจงจ้องมองไปที่วัตถุในมือนี้ ด้วยสีหน้าสงสัย หากว่าเป็นเช่นนั้นจริงแล้วละก็ เกรงว่าคงจะต้องตามหาชิ้นส่วนสมบัติเซียนที่เหลืออีกทั้งหมดหกชิ้นให้ได้แล้ว ทว่าต่อให้เป็นอย่างที่เยี่ยจงคาดคิดไว้ก็ตาม คิดที่จะตามหาชิ้นส่วนสมบัติเซียนอีกทั้งห้าชิ้นใช่ว่าจะง่ายดายถึงขั้นใดกัน

 

ทว่า ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เยี่ยจงในตอนนี้ก็ได้มีการตัดสินใจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะมิได้ครอบครองคัมภีร์เซียนโลหิต แต่ว่า กับสาขาด้านที่แม้แต่ก่อนหน้านี้ก็ไม่รู้ว่าจะมีจุดจบเช่นไร แต่ว่าเมื่อเทียบกับพลังวิชาระดับเซียนอันแข็งแกร่งอย่างยิ่งเช่นนี้ ก็นับได้ว่าคุ้มค่าแล้ว

 

“ หรือไม่ก็ วันหน้าเมื่อมีพลังฝีมือเพียงพอแล้ว ก็ยังสามารถที่จะเข้ามาสถานที่ลี้ลับนี้อีกครั้ง ท่ามกลางหลุมลึกนั้นที่แท้มีอันใดกัน รังแต่จะทำให้ผู้คนสงสัย “

 

หลังจากที่ได้จ้งอมองไปยังหลุมลึกในขณะนั้น เยี่ยจงก็ได้ใช้ออกด้วยชิ้นส่วนมายา จากไปอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นเองเขาก็ทราบแล้วว่าสถานที่แห่งนี้ยังมีความลี้ลับอยู่อีกหลายส่วน ทว่าเขาก็เข้าใจเป็นอย่างดี กับพลังฝีมือของตนเอง ในตอนนี้สามารถที่จะอัญเชิญสมบัติเซียนชิ้นนี้ได้ ก็เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่โชคดีเป็นอย่างยิ่งแล้ว อีกทั้งสถานที่แห่งนี้ที่แท้มีความลับอันใด วันหน้ายังคงต้องมาทดสอบดูอีกครั้ง

 

“ ซวบ “

 

ไม่นานนัก ร่างกายของเยี่ยจงก็ได้ทะยานออกมาจากท่ามกลางส่วนลึก จนได้มาถึงยังวิหารแห่งสวรรค์อีกครั้ง ในตอนนี้ ท่ามกลางสนามราวกับว่ากำลังอยู่ช่วงเวลาสำคัญของการแย่งชิงแล้ว คัมภีร์เซียนโลหิตมีอยู่สี่ชิ้นได้ถูกผู้คนช่วงชิงไปแล้ว ในตอนนี้ยังมีอยู่อีกสองชิ้นที่ยังคงกระเด็นกระดอนไปมาอยู่ท่ามกลางสนาม

 

ในตอนนี้ ทั่วทั้งบริเวณวิหารแห่งสวรรค์ก็ได้เต็มไปด้วยคราบโลหิต ยังไม่มีผู้ใดที่ยินยอมที่จะปล่อยวางหยกโลหิตอีกสองชิ้นเลยแม้แต่คนเดียว ผู้มีพรสวรรค์ทั้งหมดต่างก็ยังคงกรูกันแย่งชิงกันอย่างบ้าคลั่ง

 

“ ซวบ “

 

หยกโลหิตชิ้นหนึ่งได้ลอยกระเด็นไปทางด้านของเยี่ยจง ทั้งยังให้รสชาติของความบังเอิญอีกหลายส่วน เยี่ยจงก็ได้ตัดสินใจที่จะยื่นมือออกไป แล้วหยกโลหิตชิ้นนี้ก็ได้ตกอยู่ในมือของเยี่ยจง เพียงแต่ว่าบนใบหน้าของเขากลับมิได้ปรากฏเค้าความยินดีเลย อีกทั้งยังกุมมือที่ถือไว้ด้วยหยกโลหิตไปมา ด้วยสีหน้าประหลาดใจ

 

“ แย่แล้ว ยังมีหยกโลหิตอีกชิ้นตกอยู่ในมือของเยี่ยจง “

 

ถึงแม้ว่าเยี่ยจงจะหายสาบสูญไปในระยะเวลาหนึ่ง แต่ว่า เขาเมื่อครู่ที่ได้ต่อสู้กับทั้งสี่ทิศอย่างดุเดือดจนบาดเจ็บอย่างเห็นได้ชัด เมื่อพบว่าหยกโลหิตอีกชิ้นตกอยู่ในมือเยี่ยจง ผู้คนไม่น้อยสีหน้าก็ได้เปลี่ยนไปเล็กน้อย คิดที่จะตามไปแย่งชิง แต่กลับไม่มีความกล้าพอ

 

เยี่ยจงกุมหยกโลหิตในมือไปมา หลังจากนั้น เขาก็ได้พลิกมือคราหนึ่งแล้วก็ได้เก็บหยกโลหิตเอาไว้ เมื่อให้เขากล่าวออกมา คัมภีร์เซียนโลหิตได้ถูกทำลายจนไม่สมบูรณ์นั้นไม่ถือได้ว่ามีความสำคัญ นั้นก็เพราะว่า หยกโลหิตอันธรรมดาชิ้นนี้ ไม่แน่ว่าอาจจะนำพาเขาไปเจอสมบัติอีกมากมายก็เป็นได้ เหมือนดั่งกับการนำทักษะยุทธ์มาแลกเปลี่ยนอะไรเช่นนั้น

 

คนผู้อื่นเมื่อพบเห็นความเคลื่อนไหวของเยี่ยจง ดวงตาของแต่ละคนก็ได้เคร่งเครียดขึ้น แต่ว่าในตอนนี้องค์ชายสิบสามแห่งหุบเขาตระกูลถัง หมิงหยี่แห่งหุบเขาหยินหยางและพรรคพวกแต่ละฝ่ายที่ได้รับไปชิ้นส่วนไปเป็นต้น ต่างก็มิได้ลงมือต่อ ในตอนนี้ก็มิได้มีผู้ใดกล้าพอที่จะลงมือกับเยี่ยจง ทั่วทั้งสนามแห่งนี้ ก็ได้เกิดความเงียบขึ้นมาในทันที

.

.

.

.

กลุ่มลับ ติดต่อได้หลังไมค์ครับ กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น เข้ากลุ่ม 3/4/5/6/7 ราคา 450
กลุ่ม3 https://goo.gl/dV1p9e ตอนที่ 210-290
กลุ่ม4 https://goo.gl/ESwaou ตอนที่ 291-370
กลุ่ม5 https://goo.gl/ekcF7V ตอนที่ 371-450
กลุ่ม6 https://goo.gl/4rqw89 ตอนที่ 451-530
กลุ่ม7 https://goo.gl/qrQ7GA ตอนที่ 531-610 ล่าสุดตอนที่ 550

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset