เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 245 ราชัน ปะทะ ตราผนึกนภา

ตอนที่ 245 ราชัน ปะทะ ตราผนึกนภา

 

“ ฉึกฉับ “

 

ร่างกายจื่อลู่ล้มลง กระแทกเข้ากับพื้นดินอย่างรุนแรง ถึงแม้จะไม่ได้ถูกกระบี่ของเยี่ยจงสังหารเข้าโดยตรง แต่ว่านางในตอนนี้ก็ได้กระอักโลหิตออกมาคำโต กระดูกทั่วทั้งสรรพร่างบนล่างราวกับได้จะแตกร้าวก็มิปาน

 

ถึงแม้ว่ากายเนื้อของจื่อลู่จัดได้ว่าแข็งแกร่งอย่างยิ่ง นางที่มีพลังฝีมืออยู่ในขั้นก่อเกิดระดับที่แปด ซานกวานเทียนทงขอบเขตพสุธา (ไหนตอนแรกบอกขอบเขตปราณ คนแปลเริ่มงงตามละ) แต่ว่าถึงจะเป็นเช่นนั้น กายเนื้อของนางในตอนนี้ไม่ว่าอย่างไรถ้าให้เยี่ยจงวิจารณ์ ถึงแม้ว่าจะอยู่ในระดับพลังที่มากล้น เข้าใกล้ขอบเขตฟ้าอีกเพียงสายเดียวเท่านั้น

 

ภายในดวงตาของจื่อลู่ได้ปรากฏความยากที่จะเชื่อออกมาได้ ทั้งใบหน้าได้เต็มไปด้วยเค้าของความตื่นกลัว ระดับความแข็งแกร่งของกายเนื้อ นางเมื่อมองจากกับบุคคลในระดับองค์ชายสิบสามแห่งหุบเขาตระกูลถัง คิดไม่ถึงว่าเยี่ยจงผู้นี้ถึงกับเป็นอัจฉริยะในระดับนั้นเช่นเดียวกัน ถือได้ว่ามีความน่าหวาดกลัวอย่างมาก

 

“ ข้าอย่างจะรู้จริงๆว่า เมื่อครู่ที่เจ้าหยุดกระบี่ข้าเอาไว้ กระบี่นี้เจ้ารับเอาไว้ได้แล้วจะอย่างไร “ เยี่ยจงมองไปยังจื่อลู่ที่กระอักโลหิตออกมา ภายในดวงตาของเขาไม่มีแม้แต่ความสงสารแม้แต่น้อย มีก็แต่เพียงรังสีสังหารอันเข้มข้น ทันใดนั้นต่อมา เยี่ยจงก็ได้ขยับมือซ้ายคราหนึ่ง หอกอัสนีก็ได้ปรากฏขึ้นมา หอกอัสนีกระบี่คงหมิงก็ได้ออกมาขึ้นมาในทันที จนกลายเป็นการโจมตีที่หมายมุ่งสังหารออกไป เห็นได้ชัดว่าคิดจะสังหารจื่อลู่ในที่แห่งนี้ในทันที

 

“ ไป “

 

ในตอนนี้ เหล่าอัจฉริยะสำนักเสวียนหวินก็ได้เร่งจนมาถึง พวกเขาต่างก็รีบลงมือโดยใช้พลังทั้งหมดออกมา เพียงแต่ว่าเยี่ยจงในตอนนี้กับเยี่ยจงที่พวกเขาคิดเอาไว้นั้นไม่เหมือนกัน เพียงแค่การกวาดออกไปเพียงคราเดียว ก็ได้ทำให้พวกเขาไม่อาจทำอันใดได้

 

ฉากเบื้องหน้าได้ทำให้เหล่าอัจฉริยะธรรมดาเหล่านี้ถึงกับผงะ พวกเขาถือได้ว่าเป็นอัจฉริยะแห่งสำนัก มิเคยที่จะทำให้ทางสำนักเสวียนหวินผิดหวังมาก่อน อีกทั้งยังเป็นแนวหน้ามาโดยตลอด แต่ว่าพวกเขาถึงกับไม่สามารถที่จะต่อกรกับเด็กหนุ่มผู้นี้ได้แม้แต่น้อย สิ่งนี้ก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้คนตกใจได้ไม่ยากเลย

 

พวกเขาในตอนนี้ได้แต่เพียงเหม่อมองไปยังฉากเบื้องหน้าด้วยความคาดหวัง ภายในดวงตาก็ได้มีสีแดงฉานขึ้นมา ได้แต่เพียงแค่มองดูเยี่ยจงลงกระบี่นี้ออกไป ราวกับว่าสามารถที่จะเอาชีวิตของจื่อลู่ได้ในทันที

 

“ พวกเจ้ายังไม่ลงมืออีกหรือ “ ทันใดนั้น ก็ได้มีศิษย์สำนักเสวียนหวินตะโกนขึ้นฟ้า บนใบหน้าปรากฏความโกรธแค้นขึ้น

 

“ ก๊ง “

 

ในทันทีที่เสียงได้หยุดลง ความเคลื่อนไหวอันน่ากลัวสายหนึ่งก็ได้พุ่งออกมาจากท่ามกลางธารน้ำอย่างกะทันหัน วินาทีนั้น พลังปราณก็ได้พุ่งขึ้นมา สาดประกายเจิดจ้า ฝ่ามือที่ลอยมาจากฟ้าสายหนึ่งก็ได้พุ่งออกมา มุ่งหน้าเข้าสังหารบริเวณที่เยี่ยจงอยู่

 

“ อะไรกัน ? “

 

เยี่ยจงขยับกายคราหนึ่ง ความรู้สึกรับรู้ถึงอันตรายชนิดหนึ่งก็ได้ปรากฏขึ้นมาภายในใจของเขา จนทำให้เขาทราบได้อย่างชัดเจน หากว่าตนเองยังฝืนรับกระบวนท่านี้แล้วละก็ คงจะต้องได้รับบาดเจ็บหนักอย่างแน่นอน

 

“ ซวบ “

 

ทันใดนั้นเอง ร่างกายของเยี่ยจงก็ได้ขยับถอยหลังไปปานสายลมดุจสายฟ้าก็มิปาน กระบี่คงหมิงในมือก็ได้ซ้อนทับไปด้วยพลังกระบี่ตราประทับ จากนั้นก็ได้ฟันกระบี่สังหารออกไป ต้านรับการโจมตีที่เข้ามาอย่างกะทันหัน

 

ผู้มาย่อมต้องมีความน่ากลัว เพียงแค่ดูจากพลังที่อัดแน่นอยู่ในกระบวนท่านี้ ถือได้ว่าอยู่เหนือกว่าเหล่าอัจฉริยะธรรมดาของสำนักเสวียนหวินเหล่านั้น

 

“ ตูม “

 

การโจมตีของทั้งสองฝ่ายปะทะกันเข้าอย่างรุนแรง เยี่ยจงพลิกร่างอยู่ท่ามกลางอากาศ แล้วก็ได้หมายที่จะลงสู่พื้น

 

“ แย่แล้ว “

 

ทันทีที่ได้ลงสู่พื้น เยี่ยจงก็ได้กรอกตาไปมา หันศีรษะกลับไปอย่างดุร้าย นั้นก็เพราะว่าอีกทางด้านหนึ่ง ก็ได้มีความเคลื่อนไหวอันน่าหวาดกลัวพุ่งเข้ามาอีกสาย ทันทีที่มีการรวมรั้งพลังปราณเอาไว้ มุ่งหน้าเข้าสังหารไปยังบริเวณที่เยี่ยจงอยู่เข้าไป

 

การโจมตีสายนี้ได้อัดแน่นไปปด้วยความน่ากลัวไร้ขีดจำกัด หากว่ากระทบโดนตัวเยี่ยจง กับระดับความแข็งแกร่งของเขา เกรงว่าสถานการณ์ต่อมาคงจะกลายเป็นเพียงก้อนเนื้อแหลกเหลวก็เป็นได้

 

“ นี้มัน กลุ่มตราราชัน “

 

เยี่ยจงกวาดหอกอัสนีในมือซ้ายออกไป เพื่อต้านทานการโจมตีสายนี้เอาไว้ ทันใดนั้นร่างกายก็ได้กระเด็นออกไปจากพื้น จากนั้นสีหน้าของเขาก็ปั้นยากขึ้นมาหลายส่วน ถึงแม้ว่าเขาจะทราบอยู่ก่อนหน้า สำนักเสวียนหวินจะได้นำกลุ่มตราราชันเข้ามายังสมรภูมิฮวงกู่ แต่ก็คิดไม่ถึงว่ากลุ่มตราราชันของสำนักเสวียนหวินจะแข็งแกร่งไปกว่าผนึกตราราชันของรัฐเสวี่ยหยวนหวังเฉาอยู่หลายเท่า

 

“ ซวบซวบซวบ “

 

แล้วอีกทางด้านอีกสองทาง ในตอนนี้ก็ได้มีเงาร่างแต่ละสายออกมา และเงาร่างสองสายก่อนหน้าก็เข้าหากัน ล้อมรอบด้านเอาไว้ สีหน้าของพวกเขาเยือกเย็นอย่างที่สุด ทอดสายตามองไปที่ร่างของเยี่ยจงในตอนนี้ ไม่ได้แสดงความรู้สึกออกมามากมาย

 

ทันใดนั้นเอง ในช่วงเวลาที่ทั้งสี่คนได้เงยหน้าขึ้นมาพร้อมกัน ด้านหน้าร่างของทั้งสี่คนก็ได้ปรากฏหมอกหมึกออกมาจากแต่ละตน มุ่งหน้าเข้าสังหารบริเวณที่เยี่ยจงอยู่เข้าไป

 

เยี่ยจงหัวเราะอย่างเย็นชา พลิกสองมือเปลี่ยนไปมาในเวลาเดียวกัน ฝ่ามือมังกรสายรุ้งและพลังกระบี่ตราประทับก็ได้ถูกเขาใช้ออกมาในเวลาเดียวกัน จนกลายเป็นการโจมตีอันแข็งแกร่งพุ่งออกไปปะทะทางด้านซ้าย

 

ฝีมือของทั้งสี่คนถือได้ว่าน่ากลัวอย่างยิ่ง อีกทั้งการผสานมือก็ถือได้ว่ามีความแข็งแกร่งอย่างมาก เยี่ยจงในตอนนี้ต่อให้มีความเชื่อมั่นมากขึ้นอีก ก็ยังไม่คิดว่าด้วยพลังเพียงคนคนเดียว จะสามารถต่อกรกับทั้งสี่คนได้

 

ถึงแม้ว่า พวกเขาจะไม่ใช่อัจฉริยะรุ่นเยาว์ก็ตามที แต่ก็ถือได้ว่าเป็นยอดฝีมือรุ่นก่อนที่มีความน่ากลัวอย่างถึงขีดสุด อย่างน้อยเมื่อก่อนนี้ก็ยังถือได้ว่าเป็นบุคคลที่เดินในเส้นทางสายยุทธ์ที่เกินกว่าจะคาดเดาเอาไว้ได้ ไม่เช่นนี้คงไม่สามารถที่จะเป็นคู่ต่อสู้กับเยี่ยจงได้

 

กล่าวอย่างง่ายดาย ไม่ว่าคนใดในทั้งสี่คนนี้ คาดว่าต่างก็ถือได้ว่ามีพลังฝีมือที่เทียบเท่ากับองค์ชายสิบสามได้ก็มิปาน การผสานมือเพียงแค่คนสองคน แม้ในตอนนี้เยี่ยจงจะไม่หวาดเกรง แต่ว่าผสานมือกันถึงสี่คน แม้แต่เยี่ยจงเองก็ยังไม่อาจที่จะไม่ถอยได้

 

บริเวณทางด้านข้างลำธาร อัจฉริยะสำนักเสวียนหวินเหล่านั้นก็ได้รวมตัวกันจนถึงข้างกายของจื่อลู่ สีหน้าของพวกเขาได้ปรากฏความเย็นชาขึ้น เมื่อมีผู้อาวุโสของสำนักสายในหลายคนลงมือ เช่นนั้นก็สามารถที่จะควบคุมสถานการณ์ได้ ความจริงแล้วสำนักส่วนในก็ได้ถูกจัดเตรียมไว้เพื่อที่จะไว้ต่อกรกับบุคคลที่มีฝีมือเช่นเยี่ยจงอยู่แล้ว ต่อให้เยี่ยจงแข็งแกร่งยิ่งกว่านี้ ถูกขนาดนามว่าอัจฉริยะรุ่นเยาว์อันดับหนึ่ง ในตอนนี้ก็ยังจำต้องทอดร่างลง

 

“ เปรี้ยง “

 

เมื่อพบว่าเยี่ยจงทำลายอีกทางด้านหนึ่งได้ ทั้งสี่คนก็ได้ลงมือพร้อมกัน โจมตีดุจดั่งสายธารหมุนวนก็มิปาน มุ่งหน้าเข้าสังหารไปบริเวณทางด้านหน้าของเยี่ยจง

 

เสียงดังขึ้นสนั่นหวั่นไหว เยี่ยจงได้ใช้ฝ่ามือมังกรสีรุ่งและพลังกระบี่ตราประทับเพื่อปะทะเข้าทำลายในเวลาเดียวกัน จนทำให้ร่างกายกระเด็นออกไป จนต้องกระอักโลหิตออกมาคำหนึ่ง

 

“ เขาจบสิ้นแล้ว เขาตายแน่ “

 

มีศิษย์สำนักเสวียนหวินกระโดดขึ้นมา ทักษะเซียนของเยี่ยจงต่างก็ถูกทำลาย ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็จบสิ้นแล้ว

 

“ ตูม “

 

ราชันทั้งสี่ในตอนนี้ภายในดวงตาต่างก็ปะทุจิตสังหารออกมา พวกเขาได้ใช้ทักษะยุทธ์ออกมาในเวลาเดียวกัน วินาทีนั้น ฝ่ามือหมอกหมึกขนาดใหญ่ทั้งสี่ก็ได้พุ่งออกไป ทอประกายสว่างวาบขึ้นมาไม่หยุด มุ่งหมายที่จะจัดการสังหารเยี่ยจงในทันที

 

ภายในดวงตาของเยี่ยจงได้ปรากฏความหนาวเย็นขึ้นมา ทันใดนั้นเอง เขาก็ได้ผสานทั้งสองมือเข้าด้วยกันในทันที มือหนึ่งชี้ขึ้นบนฟ้า อีกมือชี้ไปที่พสุธา แรงกดดันไร้รูปอันน่ากลัวชนิดหนึ่งก็ได้แผ่กระจายออกไปในตอนนี้ จนทำให้ทั่วทั้งพื้นดินเกิดรอยแตกร้าวขึ้นมาเป็นสาย จนก่อเกิดเสียงดังขึ้นมา

 

แรงกดดันไร้รูปนี้ ถึงกับสามารถที่จะทำให้การโจมตีเข้าสังหารของทั้งราชันทั้งสี่ไร้ผลได้

 

ราชันทั้งสี่ต่างก็เกิดอาการตกใจขึ้นมา นี้คือทักษะยุทธ์อันใด ถึงกับมีความแข็งแกร่งจนถึงขั้นนี้ได้ ไม่ต้องกล่าวถึงการหยุดยั้งการโจมตีของพวกเขาได้ ถึงกับสามารถทำให้พวกเขาเกิดความหวาดเกรงชนิดหนึ่งขึ้นมาภายในจิตใจได้

 

ในตอนนี้ ต่อให้ทั้งราชันทั้งสี่ต่างก็ได้เตรียมใช้สมบัติเซียนออกมา ตลอดบริเวณทั้งร่างกายก็ได้ปะทุประกายแสงออกมาเป็นสาย เห็นได้ชัดว่าได้เตรียมที่จะใช้ออกด้วยทักษะยุทธ์ด้วยพลังทั้งมวล

 

“ ตูม “

 

สัญลักษณ์ประหลาดในมือของเยี่ยจงยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แต่ว่าสีหน้าของเขาในตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็นขาวซีด นี้เป็นครั้งที่เขาได้ใช้ออกด้วยตราผนึกนภาเข้าต่อสู้ แต่ว่า คิดไม่ถึงว่าจะสิ้นเปลืองพลังมากถึงเพียงนี้ ทั้งหมดนี้ได้เกิดความคาดคิดของเขาไปมากแล้ว ในตอนนี้ ตราผนึกนภาที่เยี่ยจงใช้ก็เป็นเพียงแค่พลังส่วนหนึ่งเท่านั้น พลังปราณแท้ภายในร่างก็ได้หลั่งไหลออกปานสายน้ำก็มิปาน

 

“ สถานการณ์ชักจะไม่ดีแล้ว “

 

ทันใดนั้นเยี่ยจงก็ได้นำชิ้นส่วนมายาออกมาอย่างกะทันหัน เท้าของเขาได้เหยียบอยู่บริเวณด้านบน ทันใดนั้นร่างกายก็ได้พุ่งขึ้นไปบนฟ้า มุ่งหน้าถอยออกไปยังที่ห่างไกล ด้วยความเร็วสูงสุด แล้วก็ได้รวบรั้งพลังตราผนึกนภาที่ออกมาเพียงครึ่งหนึ่งกลับคืนมา

 

“ ซวบ “

 

เมื่อพบว่าร่างกายของเยี่ยจงได้ถอยออกไปปานสายฟ้าแลบ อย่าว่าแต่ศิษย์สำนักเสวียนหวินเหล่านี้ แม้แต่ราชันทั้งสี่ในตอนนี้ก็ยังต้องงุนงง เห็นได้ชัดว่าพวกเขาคิดไม่ถึงว่าในสถานการณ์เช่นนี้เยี่ยจงยังลงมือหลบหนีได้อย่างสะอาดหมดจด ใช้เส้นทางหลบหนีไปได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้

 

แต่ว่าไม่นานนัก ราชันทั้งสี่ก็มีปฏิกิริยากลับคืนมา แต่ละคนชักสมบัติปราณออกมา ติดตามไปอย่างรวดเร็ว ไล่ฆ่าสังหารออกไป

 

ในครั้งนี้พวกเขาได้ลงแรงไปอย่างมาก จึงจะสามารถดึงดูดเยี่ยจงเข้ามาได้ ในเมื่อเกือบที่จะสังหารได้แล้ว ถ้าหากครั้งนี้ล้มเหลวแล้วละก็ หลังจากนี้เยี่ยจงมีการเตรียมพร้อม ความสำเร็จคงจะยากขึ้นอย่างมาก และพวกเขาก็ไม่คิดที่จะรอคอยระวังป้องกันเยี่ยจงกลับมาล้างแค้นในวันหน้าอีกด้วย

 

ท่ามกลางอากาศ ร่างกายของเยี่ยจงก็ได้พุ่งทะลวงออกไปทางด้านหน้า ในที่ห่างไกลก็สัมผัสได้ถึงราชันทั้งสี่กำลังไล่ล่าตนเองอยู่ ในส่วนนี้กลับทำให้เยี่ยจงจำต้องกัดฟันต่อไป

 

เขาลูบไปที่แหวนจักรวาลไปมา จากนั้นก็ไร้คำจะกล่าว ถ้าก่อนหน้านี้ไม่ใช่เป็นเพราะฝึกปรือตราผนึกนภา ใช้โอสถปราณยาปราณไปจนหมดจด ในตอนนี้เยี่ยจงยังถือว่ามีความหวังที่จะฟื้นฟูพลังกลับมาได้อย่างรวดเร็ว หันกลับไปเพื่อที่จะทำลายเด็กน้อยเหล่านี้ทีละคน

 

แต่ว่าตอนนี้ก็ไม่มีวิธีอื่น เยี่ยจงได้แต่เพียงกัดฟันแล้วกระโดดทะลวงออกในวินาทีนั้น

 

“ ตราผนึกนภา ตราผนึกนภา “

 

เยี่ยจงขมวดคิ้วเล็กน้อย ในตอนนี้การให้ร่างมหัศจรรย์หมื่นโบราณสูบโลหิตเข้าไปใหม่คงจะไม่ทันการณ์ และพลังฝีมือที่มีความแข็งแกร่งดั่งไพ่ตายก็มีเพียงแค่ตราผนึกนภา ในครั้งแรกที่ใช้ออกมายังต้องสูญเสียพลังไปอย่างมาก จนทำให้เยี่ยจงปวดศีรษะอย่างไร้ที่เปรียบ แต่ว่าในเวลาที่ถ้าหากไม่ใช้ออกด้วยตราผนึกนภา การที่จะสังหารอีกฝ่ายทั้งสี่คงจะยากเสียยิ่งกว่ายาก แต่ว่าเยี่ยจงก็ไม่ต้องการที่จะทำให้ตนเองต้องมาสูญเสียความสามารถในการต่อสู้ในสถานที่เช่นนี้ ไม่เช่นนั้นแล้ว หากว่าไม่ระวังเรือน้อยอาจจะพลิกคว้ำได้ เช่นนั้นต่อให้หลั่งน้ำตาก็คงช่วยอันใดไม่ได้แล้ว

 

“ มนต์ตราเทพความจริงแล้วเป็นเหมือนดั่งจิตใจ เหตุใดเจ้าจำต้องที่พยายามใช้มันออกมาให้ได้กัน หากนับตามความสามารถในตอนนี้ของเจ้า การต่อสู้อย่างระมัดระวังจึงถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ดียิ่งกว่าไม่ใช่หรอ ? “ เสียงนี้ได้ดังขึ้นมาทุ่มต่ำและเย็นชา อีกทั้งยังดังขึ้นมาภายในโสตประสาทของเยี่ยจงอย่างกะทันหัน ทั้งยังให้บรรยากาศอันหนาวเย็นชนิดหนึ่ง

 

“ คนอะไรกัน “

 

เยี่ยจงเกิดแตกตื่นขึ้นมา เสียงที่ดังขึ้นภายในโสตประสาทของตนเองอย่างกะทันหัน อีกทั้งน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับที่ทราบถึงความลี้ลับมนต์ตราเทพอันลี้ลับนี้ได้ เพียงแค่นี้ก็สามารถที่จะทำให้ผู้คนตกใจได้แล้ว

 

“ เป็นข้า “

 

หลังจากนั้น ภายในแหวนจักรวานของเยี่ยจงก็ได้ทอแสงแวววาบ เยี่ยจงจ้องมองไปด้วยอาการอ้าปากตาค้าง เศษชิ้นส่วนสมบัติเซียนที่ได้มาจากบ่วงมายาโลหิตก่อนหน้าก็ได้ปรากฏอยู่เบื้องหน้าเยี่ยจง ในตอนนี้มันได้ทอปฏิกิริยาประกายเซียนอันอ่อนแอออกมา พลังห้วงแห่งความนึกคิดก็ได้สาดเข้ามาดั่งห่าฝน

 

เยี่ยจงเกิดความงุนงง นี้ที่แท้เป็นสมบัติในระดับใดกัน คงมิใช่เป็นดั่งที่ตนเองคาดเดาเอาไว้ทั้งหมดก็มิปาน ถึงกับเป็นชิ้นส่วนแห่งความวุ่นวายในตำนานนั้นงั้นหรือ ? หากว่าเป็นเช่นนั้นจริง เช่นนั้นก็ใช่ว่าจะน่าหวาดกลัวจนเกินไป

 

“ เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงไป หากว่าข้าต้องการที่จะทำร้ายเจ้าแล้วละก็ เมื่อวันก่อนที่ใต้หลุมลึกนั้น ข้าก็คงจะไม่ลงมือช่วยเจ้าเอาไว้ “ ชิ้นส่วนเซียนเริ่มทวงบุญคุณ “ หากว่าเจ้าเชื่อข้า ในตอนนี้หันหลังหยุดลง กับจิตใจมนต์ตราเทพ อย่าได้ไปไล่ตามพลังความสามารถอันน่ากลัวของตราผนึกฟ้าเยี่ยงนั้น ถึงแม้ว่าในด้านพลังจะใช้ออกเพียงแค่หนึ่งส่วนหมื่นของทั้งหมด แต่ว่าเพียงแค่แมลงวันเพียงไม่กี่ตัว ยังถือว่าสามารถต่อกรได้ “

 

เยี่ยจงเกิดความงุนงง หลังจากนั้น เข้าก็ได้หันกายไปในทันที รั้งพลังหยุดอยู่ท่ามกลางอากาศ

.

.

.

.

กลุ่มลับ ติดต่อได้หลังไมค์ครับ กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น เข้ากลุ่ม 3/4/5/6/7 ราคา 450
กลุ่ม3 https://goo.gl/dV1p9e ตอนที่ 210-290
กลุ่ม4 https://goo.gl/ESwaou ตอนที่ 291-370
กลุ่ม5 https://goo.gl/ekcF7V ตอนที่ 371-450
กลุ่ม6 https://goo.gl/4rqw89 ตอนที่ 451-530
กลุ่ม7 https://goo.gl/qrQ7GA ตอนที่ 531-610 ล่าสุดตอนที่ 565

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset