เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 261 ศึกใหญ่กับสุดยอดอัจฉริยะเผ่าปีก

ตอนที่  261  ศึกใหญ่กับสุดยอดอัจฉริยะเผ่าปีก

ท่ามกลางบริเวณสถานที่แห่งนี้ ในตอนนี้สีหน้าชายหนุ่มเผ่าปีกก็ได้เปลี่ยนไปช้าๆ อีกฝ่ายที่สามารถรับศรดอกแรกของตนก็ว่ายังช่างมันเถอะ ถึงกับสามารถรับดอกที่สองนี้ได้ อีกทั้งในตอนนี้จากที่มองไปยังไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย เห็นได้ชัดว่าไม่ธรรมดาอย่างถึงที่สุด ไม่ธรรมดาเป็นอย่างยิ่ง ในข้อนี้ทำให้เขาเกิดความสงสัยขึ้นเต็มสิบส่วน นั้นก็เพราะว่าตนเองมาจนถึงบริเวณนี้ เขายังไม่พบกับผู้ที่รับศรทั้งสองดอกของเขาได้โดยที่ไม่บาดเจ็บแต่อย่างไรมาก่อน

“ เจ้ายอดมาก แจ้งนามออกมาเถอะ ? “ ชายหนุ่มเผ่าปีกเคร่งเครียดขึ้น ลังเลที่จะเอ่ยขึ้นมา

“ กับคนที่จะตายอยู่แล้ว ไม่จำเป็นที่จะต้องรู้เรื่องพวกนี้หรอก หากว่าเจ้ายังมีลวดลายอะไรอีก ก็รีบใช้ออกมาซะ หากว่ามัวแต่ชักช้า ก็จะไม่มีโอกาสอีกแล้ว “ เยี่ยจงเย็นชาเป็นอย่างยิ่ง ภายใต้น้ำเสียงชนิดนี้ยังเต็มไปด้วยรังสีสังหารที่หนาวเย็นไปจนถึงกระดูก ดุจดั่งความฤดูเหมันต์ก็มิปาน ทำให้ผู้คนหนาวสั่นไปทั้งกายได้

ชายหนุ่มเผ่าปีกในตอนนี้ก็ได้เกิดความสงสัยขึ้น สีหน้าเต็มไปด้วยความแปลกใจ อีกฝ่ายที่สามารถรับกระบวนท่าของตนเองได้ถึงสองครา ถือได้ว่าไม่ธรรมดาเป็นอย่างยิ่ง ทั้งยังเรียกได้ว่ามีความสามารถเทียบฟ้า กระทั่งเขาเองก็ยังสัมผัสได้ พลังฝีมือของทั้งสองคนสมควรที่จะไม่ต่างกันมากนัก แต่ว่าเมื่อเพิ่มด้วยพลังของทางร่างกายของอีกฝ่ายนับได้ว่าไม่ธรรมดากว่า

“ ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน ต่อจากนี้ยังมีอีกหลายศรที่จะให้เจ้าได้ลิ้มรสอย่างช้าๆ ข้าก็อยากเห็นเหมือนกันว่า เจ้าจะสามารถต้านทานได้ถึงเวลาไหนกัน “ ชายหนุ่มเผ่าปีกกลับคืนสู่ความเยือกเย็น แต่ว่าดวงตาของเขากลับเปลี่ยนเป็นดั่งปีศาจร้ายขึ้นมา

“ ฮูม “

ธนูได้ถูกง้างขึ้นอีกครั้ง ในครั้งนี้ มนุษย์เผ่าปีกก็ได้ร้องดังขึ้นมา แล้วก็ได้มีแรงกดดันอันแข็งแกร่งกระจายออกมาขึ้นมาสายหนึ่ง ภายในร่างกายของเขาก็ได้เดือดขึ้นมา เห็นได้ชัดว่า ศรสายนี้ เขาได้ใช้ออกด้วยพลังที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก

ถึงแม้กระนั้น ชายหนุ่มเผ่าปีกก็ไม่ได้ต่างจากเยี่ยจงมากนัก แต่ว่าศรดอกนี้กับสองดอกก่อนหน้านี้นั้นไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง ปะทุพลังทำลายเพิ่มขึ้น ทั้งยังนำพาพลังอันน่ากลัวออกมาอย่างมาก

เยี่ยจงเพียงขยับคราหนึ่ง เขาย่อมสามารถที่จะสัมผัสได้ถึงรังสีสังหารอันน่ากลัวที่รวมไว้อยู่ในกระบวนท่านี้ ทันใดนั้นต่อมา ใจกลางฝ่ามือของเขาก็ได้หมุนเวียนพลังกระบี่ตราประทับขึ้นมา และพลังแห่งความตายก็ได้กระจายออกมาจากพลังกระบี่ตราประทับออกมาเป็นสาย จนทำให้ทั่วทั้งร่างกายของเยี่ยจงดุจดั่งมีประกายอันมืดมืดขึ้นมาก็มิปาน

ในขณะนั้นเอง พลังกระบี่ตราประทับก็ได้ถึงเยี่ยจงควบคุมจนถึงจุดสูงสุด ทักษะยุทธ์ที่เรียกได้ว่ามาจากดินแดนซานเชียนเซินเจี่ยนี้ ในตอนนี้ถึงกับสามารถมีพลังที่มากถึงเพียงนี้เชียวงั้นหรือ ?

“ นี้มัน ……….. “

ชายหนุ่มเผ่าปีกตกใจขึ้นมา พลังฝีมือของอีกฝ่ายที่ใช้ออกมา ได้อยู่เกินกว่าความคาดหมายของเขาไปแล้ว เพียงการใช้ออกด้วยกระบวนท่าของทักษะยุทธ์ชนิดเดียวกัน ถึงกับมีการเปลี่ยนแปลงนับพันหมื่น ในตอนนี้กระบวนท่านี้กลับปกคลุมไปด้วยสิ่งที่พอจะทำให้ผู้คนขนลุกขึ้นมาได้ชนิดหนึ่ง

เด็กน้อยเบื้องหน้าสายตาผู้นี้ ที่แท้เป็นผู้ใดกัน ?

“ ถี่ “

ทันใดนั้นต่อมา ชายหนุ่มเผ่าปีกก็ไม่ทราบว่าจะเอาเยี่ยจงลงไปได้ยังไงต่อไป คมศรในมือของเขาที่ถูกใช้ออกไป วินาทีนั้นที่ได้มุ่งหน้าเข้าสังหารไปทางด้านของเยี่ยจง ดุจดั่งมังกรโกระเกรี้ยวก็มิปาน พลิกทะเลสาบกลับมหาสมุทร ผ่านพ้นดวงเดือนไป

“ ซูม “

เยี่ยจงฟาดฝ่ามือออกไป พลังกระบี่ตราประทับก็ได้ปรากฏออกมาในตอนนี้ ฟาดลงไปยังทางด้านหน้าของคมศรสายนี้ที่ได้พุ่งเข้ามา จนคมศรได้ร่วงลงมาบริเวณทางด้านข้างของร่างกาย จากนั้นก็ได้แตกออกเป็นชิ้นๆ เข้าปะทะจนระเบิดออก จนปลายเป็นฝุ่นผง

บริเวรท่ามกลางอากาศ ชายหนุ่มเผ่าปีกร่างกายก็ได้สั่นไหวไปมา ตึกตึกตึกถอยไปทางด้านหลังหลายก้าว สีหน้าปรากฏความยากที่จะเชื่อออกมา เยี่ยจงถึงกลับยังสามารถที่จะต้านศรดอกที่สามของเขาเอาไว้ได้งั้นหรือ ?

“ อะไรกัน ? “

“ นี้มันเป็นไปได้ยังไง ? “

“ ถึงกับสามารถที่จะต้านศรสามดอกติดต่อกันได้อย่างงั้นหรือ ? “

บริเวณตีนเขา สีหน้าของสิ่งมีชีวิตอันแข็งแกร่งทั้งหมดก็ได้เปลี่ยนไป พวกเขามองเห็นได้อย่างชัดเจน แล้วก็ได้มีคมศรแตกกระจายออก เห็นได้ชัด เยี่ยจงในตอนนี้ได้ต้านรับไว้แล้วสามกระบวนท่า ความแข็งแกร่งของเยี่ยจงผู้นี้ ราวกับเกินกว่าที่จะคาดเดาเอาไว้ได้แล้ว ถือได้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก

“ ซวบ “

บริเวณไหล่เขา ร่างกายของเยี่ยจงก็ได้ขยับขึ้นมาทันที ในตอนนที่ก็ได้พุ่งออกไป มาจนถึงทางด้านหน้าของชายหนุ่มเผ่าปีก

“ เจ้าสู้จนเพลินเกินไปแล้ว ในตอนนี้ ได้เวลาของข้าแล้วหรือยัง ? “

คำพูดอันเย็นชาได้ถูกกล่าวออกมา ทันใดนั้นเอง บริเวณใจกลางฝ่ามือของเยี่ยจงในตอนนี้ก็ได้ก่อรวมพลังกระบี่ตราประทับขึ้นเข้าไปยังบริเวณปลายนิ้ว เขาได้ใช้ออกด้วยพลังดัชนี วินาทีนั้น ดุจดั่งคมกระบี่สายหนึ่งก็ได้พุ่งเข้าสังหารออกไปทางด้านหน้า ตัดผ่าออกมาท่ามกลางอากาศ ราวกับสามารถทะลวงออกจากร่างกายได้

ชายหนุ่มเผ่าปีกมีปฏิกิริยากลับมาทันที เขาถือได้ว่าเป็นยอดอัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งเผ่าปีก พลังฝีมือเรียกได้ว่าน่าหวาดกลัว ความเคลื่อนไหวนั้นเกิดขึ้นเพียงชั่วพริบตา แต่ว่าเขาก็ยังเคลื่อนไหวช้าไปส่วนหนึ่ง คมกระบี่สายนี้ก็ได้พุ่งเฉียดผ่านใบหน้าของเขา หลงเหลือบาดแผลอันน่าเกลียดเอาไว้

ความเคลื่อนไหวถูกก่อขึ้นเต็มท้องฟ้า บาดแผลบนใบหน้าของชายหนุ่มเผ่าปีกก็ได้มีโลหิตไหลรินออกมา จนทำให้ใบหน้าอันหล่อเหล่าแต่เดิมของเขา ในตอนนี้กลับต้องเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดอย่างไร้ที่เปรียบ

“ เจ้าเยี่ยมมาก ถึงกับทำให้ข้าบาดเจ็บได้ “ชายหนุ่มเผ่าปีกสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก จนกระทั่ง เขาได้ยื่นมือไปกดที่ปากแผล ดวงตาขยับไปมาไม่หยุด เขามีความภูมิใจในตัวเองเป็นอย่างมาก กระนั้นก็ยังถูกเยี่ยจงทำร้ายจนบาดเจ็บ ผลลัพธ์เช่นนี้ ได้ทำให้เขารู้สึกอัดอันยิ่งนัก

“ ทว่า ถึงกับกล้าที่จะทำร้ายข้า เจ้าก็ตายให้ข้าเสียเถอะ “

ทันใดนั้นต่อมา เขาก็ได้โกรธขึ้นมา วินาทีนั้นปีกทางด้านหลังของเขาก็ได้ขยับขึ้น ประกายอัสนีสีเงินก็ได้แผ่กระจายออกมาเป็นสาย จนกลายเป็นประกายสายฟ้าแผ่ออกมา คิดหมายที่จะสังหารเยี่ยจงไปในทันที

“ เปรี้ยง “

พลังกระบี่ตราประทับในมือของเยี่ยจงได้ถูกใช้ออกขึ้นมาอีกครั้ง ร่างกายก็ได้หยิบยืมพลังสภาวะใช้ออก ในครั้งนี้ กระบี่ตราประทับกลับเกิดการแตกกระจายขึ้นมา สาดประกายหายไปพร้อมกับพลังสีเงินท่ามกลางอากาศ เสียงดังสนั่นหวั่นไหว

“ เจ้า ไม่ไหวเลย “

เยี่ยจงจ้องมองไปที่ชายหนุ่มเผ่าปีก หัวเราะออกมาเสียงดัง รอยยิ้มได้เต็มเปี่ยมไปด้วยสีหน้าเย้ยหยัน

สีหน้าชายหนุ่มเผ่าปีกเปลี่ยนไป เขาไม่เพียงแต่ถูกเยี่ยจงดูถูก อีกทั้งยังถูกอีกฝ่ายทำร้ายบาดเจ็บ ได้รับการเย้ยหยันติดต่อกัน นี้เพียงพอที่จะทำให้จิตใจของเขาระเบิดความโกรธออกมา ความอัปยศชนิดนี้ นับตั้งแต่เดินมายังเส้นทางสายนี้ เรียกได้ว่ายังไม่เคยได้ลิ้มรสมาก่อน

“ โฮ่ “

บริเวณทางด้านหลังชายหนุ่มเผ่าปีก ก็ได้มีเงาร่างของฮูเจรียวปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง อีกทั้งยังมีแรงลมก่อตัวขึ้นบนร่างกายของเขา ดุจดั่งเทพมังกรจุติบนร่างก็มิปาน

และในช่วงเวลาเดียวกัน ชายหนุ่มเผ่าปีกก็ได้ง้างคันศรขึ้น ทั่วทั้งร่างกายบังเกิดเสียงดังขึ้นฮูมฮูม เห็นได้ชัดว่า ความเคลื่อนไหวของเขาในครั้งนี้ต้องใช้ออกด้วยพลังที่มากมายมหาศาลขนาดไหน ก่อนหน้านี้เขาสามารถที่จะสังหารฝ่ายตรงข้ามได้อย่างง่ายดาย คิดไม่ถึงว่ากลับต้องมาพลาดท่าครั้งใหญ่ได้

ดังนั้น ในครั้งนี้เขาจำเป็นที่จะต้องใช้ออกมาด้วยพลังทั้งหมด

“ ถี่ “

เสียงดังขึ้นสนั่น ทันทีที่คันศรของธนูถูกปล่อยออก คมศรที่ปกคลุมไปด้วยประกายสีทองสายหนึ่งก็ได้พุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว คมศรดอกนี้ทั้งยาวทั้งมีจำนวนมาก ดุจด่าสายรุ้งยาวก็มิปาน

สีหน้าของเยี่ยจงเคร่งเครียดขึ้นถึงขีดสุด พลังกระบี่หกสุสานได้ไหลเวียนไปมาอย่างรวดเร็ว จนเปล่งพลังออกมาอย่างไร้ขีดจำกัด ในเวลาเดียวกัน เงาร่างมังกรขนาดใหญ่สายหนึ่งบริเวณทางด้านหลัง ม้วนตัวเป็นเกลียวอย่างช้าๆ จนกลายเป็นดุจดั่งเทพเซียน

ในตอนนี้ ร่างกายของเยี่ยจงก็ได้แผ่บรรยากาศอันเก่าแก่ออกมา เมื่อเทียบกับบรรยากาศของชายหนุ่มเผ่าปีกยิ่งเพิ่มพูนความลี้ลับและความผันแปรขึ้น ทำให้ผู้คนต้องตกใจ

“ ซูม “

ในขณะที่พลังได้รวมรั้งมาจนถึงขีดสุด เยี่ยจงก็ได้ฟาดฝ่ามือออกไป พลังเซียนสีรุ้งสายหนึ่งก็ได้พุ่งออกไปจากทางด้านหลังของเขา ทั้งยังถือได้ว่าแข็งแกร่งอย่างประหลาดเต็มสิบส่วน นี้ก็คือฝ่ามือมังกรสีรุ้ง ที่มาจากสำนักมายาโลหิต น่ากลัวไร้ที่เปรียบ แข็งแกร่งและลี้ลับอย่างมาก

“ เคร่ง “

อีกทั้งในเวลาเดียวกัน สายรุ้งสีทองก็ได้พุ่งเข้าปะทะกันเข้ามา กับพลังเซียนสีรุ้งเข้าด้วยกัน วินาทีนั้น ประกายคมกล้าเจ็ดสี่ก็ได้สาดเป็นประกายออกมา จนทำให้ทั่วทั้งไหล่เขาเต็มเปี่ยมไปด้วยสีสัน

“ โครม “

หลังจากนั้นสักพัก พลังเซียนสีรุ่งก็ได้สั่นไหวไปมาอย่างกะทันหัน แล้วก็ได้แตกกระจายในทันที จนกลายเป็นเพียงประกายแสง

“ ถี่ “

พลังสีทองสายนี้มีความคมกล้าดุจดั่งกระบี่เข้าทำลายพลังเซียนเจ็ดสีอย่างวุ่นวาย มุ่งหน้าตรงไปทางด้านของเยี่ยจงหมายจะปิดบัญชีในครั้งเดียว รังสีฆ่าฟันก่อขึ้นอยู่เต็มท้องฟ้า

สีหน้าของเยี่ยจงเปลี่ยนไป ศรนี้ถึงกับมีความแข็งแกร่งจนถึงขั้นนี้เลยอย่างงั้นหรือ ถึงกับสามารถที่จะให้ตนเองใช้ออกด้วยพลังมังกรสีรุ้งออกมาได้ ควรทราบว่า สิ่งนี้ถือได้ว่าเป็นถึงทักษะยุทธ์ระดับเซียนอย่างแท้จริง ทั้งแข็งแกร่งและลี้ลับ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ถูกใช้ออกด้วยพลังทั้งหมดก็ตาม แต่ว่าก็ย่อมเพียงพอที่จะต้านทานคนผู้นี้เอาไว้ได้แล้ว

ทันใดนั้นต่อมา เยี่ยจงไม่อาจที่จะไม่เปลี่ยนสัญลักษณ์บนมืออีกครั้ง มือหนึ่งชี้ไปที่นภา มือหนึ่งชี้ไปที่พสุธา พลังอันแข็งแกร่งกลุ่มหนึ่งก็ได้แผ่กระจายออกมาจากฝ่ามือของเขา ผนึกนภาประทับพสุธา

ความจริงแล้วถ้าไม่ถึงช่วงยามคับขันจริง เยี่ยจงก็ไม่คิดที่จะใช้ออกมาด้วยไม้ตายก้นหีบเช่นนี้ แต่ว่าก็คิดไม่ถึงว่าในตอนนี้ถึงกับได้ถูกใช้ออกมาแล้ว เพียงพอที่จะบ่งบอกว่าชายหนุ่มเผ่าปีกนี้มีความแข็งแกร่งมากมายขนาดไหน

“ เชอะ “

คมศรสีทองนั้นในตอนนี้ก็ไดร่วงหล่นลงไปจนหลงเหลือเพียงแต่ก้านก็มิปาน ศรนี้ความจริงแล้วเรียกได้ว่ามีความเร็วดุจดั่งสายฟ้าแลบ ระดับความเร็วในตอนนี้ก็ได้เปลี่ยนเป็นเชื่องช้าลงไปเรื่อยๆ และจากนั้นประกายแสงก็ได้มอดลงเรื่อยๆ จนท้ายที่สุดก็ได้แตกกระจายออกไป

พลังสายสีทองราวกับพบเจอกับมรสุมหมุนวนขึ้นมาในทันที ถูกกลืนกินไปท่ามกลางฟ้าดิน

“ นี้มันเรื่องอะไรกัน ? “ชายหนุ่มเผ่าปีกไร้นามตื่นตระหนก ในครั้งนี้เขาไม่ได้ยั้งมือเอาไว้ ใช้ออกด้วยพลังฝีมือในการสังหารอย่างแท้จริง แต่ว่ากลับต้องพ่ายให้คนบุคคลไร้นามอย่างงั้นหรือ ?

“ ซวบ “

และในเวลาเดียวกัน เยี่ยจงก็ได้ขยับร่างกายคราหนึ่ง แล้วก็ได้ปรากฏที่บริเวณเบื้องหน้าของชายหนุ่มเผ่าปีก ใช้ออกมาด้วยพลังอันน่าหวาดกลัว ด้วยความเร็วในระดับสูงสุด ในเวลาเดียวกันก็ได้ใช้ออกด้วยพลังของดัชนีเพื่อปะทะเข้าหมายสังหารออกไปไม่หยุดยั้ง ไม่ให้โอกาสชายหนุ่มเผ่าปีกได้ใช้ออกด้วยคันธนู

สายตาอของชายหนุ่มเผ่าปีกทอประกายเย็นเยียบ เขาทราบว่าเยี่ยจงนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก อีกทั้งตนเองยังมิใช่คู่ต่อสู้ของเยี่ยจง แต่ว่าด้วยความเป็นสุดยอดอัจฉริยะนั้นไม่อาจที่จะทำให้เขาถอยออกไปได้ในตอนนี้ อีกทั้งยังใช้มือทั้งสองข้างประทับออกไป จนกลายเป็นพลังฝ่ามือขนาดใหญ่ข้างหนึ่ง เป็นดุจดั่งเมฆหมอกสีทองก็มิปาน มุ่งหน้าเข้าสังหารไปทางด้านของเยี่ยจงออกไป เห็นได้ชัดว่า เขาคิดไว้ว่า ต่อให้ไม่ต้องใช้ออกด้วยธนูด้ามนี้ เขาก็พอที่จะสามารถกดดันเยี่ยจงได้

“ ซูม “

เยี่ยจงฟาดฝ่ามือออกไป พึ่งพาแต่เพียงพลังของเลือดเนื้อทั้งหมด ฟาดเข้าไปทางด้านของตราประทับฝ่ามือขนาดใหญ่เข้าไปเต็มๆ จากนั้นก็ได้ขยับกายหายวาบไป มุ่งหน้าสังหารเข้าไปทางด้านของชายหนุ่มเผ่าปีก

“ ขอบเขตชั้นฟ้า ? “

เป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มเผ่าปีกสีหน้าเปลี่ยนไป ในที่สุดเขาก็ได้เข้าใจถึงพลังฝีมือของเยี่ยจง ทันใดนั้นเอง ปีกทั้งคู่ทางด้านหลังของเขาก็ได้ขยับไปมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ได้ถอยออกไปทางด้านหลัง กวาดขนอัสนีออกไปเป็นสาย เข้าปะทะกับเยี่ยจง

สีหน้าของเยี่ยจงยังคงไม่เปลี่ยนแปลง รวมรั้งพลังเอาไว้ที่นิ้วมือข้างขวา แล้วก็ใช้ออกดุจดั้งกระบี่อันคมกล้า จนทำให้ขนอัสนีเหล่านี้ไม่อาจที่จะเข้ามาใกล้ร่างได้ แล้วก็ได้แตกกระจายขึ้นมาท่ามกลางอากาศ

วินาที ทั่วทั้งฉากเบื้องหน้าก็ได้ก่อเกิดประกายอัสนีทอดลงมาอย่างโกรธเกรี้ยว เห็นได้ชัดถึงความน่าหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด

ชายหนุ่มที่อยู่ในขั้นก่อเกิดทั้งสองคนได้เข้าปะทะกัน ปรากฏออกมาดุจดั่งหลุดมาจากภาพวาด น่ากลัวไร้ที่เปรียบ ดุจดั่งการประลองยุทธ์ของยอดฝีมือเทพยุทธ์ก็มิปาน เพียงพอที่จะทำให้ผู้คนแตกตื่นขึ้นมาได้แล้ว

ทว่าหากในตอนนี้กลับเป็นเพียงยอดฝีมือขั้นก่อฟ้าปกติธรรมดาทั้งสองคนเข้าปะทะกัน อย่างน้อยก็ต้องมีแต่ตายมากกว่ารอดแล้ว นั้นก็เพราะว่าทั้งสองคนมีความแข็งแกร่งอย่างเพียงพอ

บริเวณตีนเขา มนุษย์ยักษ์สองหัว หมาป่าทมิฬ นกฮวางเชวียน แรดสวรรค์ มนุษย์ไร้ความตาย สัตว์ประหลาดคายหมิง เป็นต้นต่างก็ได้จ้องเขม็งไปที่ฉากเบื้องหน้าอย่างอ้าปากตาค้าง ด้วยพลังสายตาของพวกเขา ย่อมที่จะสามารถทราบถึงสิ่งที่เกิดขึ้นมาได้อย่างชัดเจน เมื่อพบว่าเยี่ยจงสามารถที่จะรับกระบวนท่าโจมตีของชายหนุ่มเผ่าปีก อีกทั้งยังสามารถกดดันมาจนถึงขั้นนี้ได้ สีหน้าของแต่ละคนต่างก็ไม่ทราบจะอยู่ในลักษณะใดดี ทั้งยังยากที่จะเชื่อได้ลง
.
.
.
.
กลุ่มลับ ติดต่อได้หลังไมค์ครับ กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น เข้ากลุ่ม 3/4/5/6/7 ราคา 400
กลุ่ม3 https://goo.gl/dV1p9e ตอนที่ 210-290
กลุ่ม4 https://goo.gl/ESwaou ตอนที่ 291-370
กลุ่ม5 https://goo.gl/ekcF7V ตอนที่ 371-450
กลุ่ม6 https://goo.gl/4rqw89 ตอนที่ 451-530
กลุ่ม7 https://goo.gl/qrQ7GA ตอนที่ 531-610 ล่าสุดตอนที่ 595
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ
https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset