ตอนที่ 263 ท่านผู้นั้น หลุมฝังกระบี่
“ พี่เยี่ยจง พบกันอีกแล้ว เป็นวาสนาจริงๆ “
ทันใดนั้นเอง ก็ได้มีเสียงหัวเราะดังออกมา แล้วก็ได้พบเจอกับกลุ่มคนของหุบเขาหยินหยางที่นำโดยหมิงหยี่เดินออกมา เขาจ้องมองไปทางด้านของเยี่ยจงด้วยความสงสัย สีหน้าทอแววครุ่นคิดขึ้นมา ราวกับคิดอันใดไม่เข้าใจ เพราะอะไรกันทำไมเยี่ยจงถึงได้มาถึงยังสถานที่แห่งนี้ได้อย่างง่ายดาย
สีหน้าของเยี่ยจงกลับคืนสู่ความปกติ ราวกับไม่ทราบเรื่องราวใดๆก็มิปาน จากนั้นก็ได้ยิ้มไปทางด้านของหมิงหยี่ กล่าวเสียงแผ่วเบา “ ที่นี้มันเกิดอะไรขึ้นกัน ทำไมทุกๆคนถึงไม่ลงมือทำอะไรกันเลย ? “
“ ความจริงแล้วก็คิดที่จะลงมืออยู่ แต่ว่าเมื่อครู่ได้มีบุคคลอยู่คนหนึ่งเข้ามา จึงไม่มีใครที่กล้าจะลงมือก็เท่านั้น “ หมิงหยี่ฝืนยิ้มออกมา จากนั้นเขาก็ได้ทอสีหน้าสงสัยออกมา “ พี่เยี่ยจงในตอนที่ท่านขึ้นมายังเนินหน้าผานี้ ไม่ได้พบกับสามศึกยอดยุทธ์ของคนผู้นั้นเลยอย่างงั้นหรือ ? นั้นถือได้ว่าเป็นยอดอัจฉริยะแห่งยุคเลย ทั้งยังได้รับคำสั่งให้ขวางทางผู้ที่จะขึ้นมาบนเขาอีกด้วย “
เยี่ยจงในตอนนี้ก็ยืนยันได้แล้วว่า ท่านผู้นั้นในคำพูดของหมิงหยี่ สมควรที่จะเป็นนายน้อยอันลี้ลับของสามสุดยอดอัจฉริยะนั้น ทว่าสีหน้าของเขาก็ยังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมากมายนัก เพียงแต่หยักไหล่แล้วตอบกลับมา “ ในตอนที่ข้าขึ้นมา ก็ไม่เห็นจะมีใครมาขวางทางนะ คนผู้นั้นตอนนี้อยู่ที่ไหนกัน ? “
“ ตอนนี้ได้ไปแล้ว “ หมิงหยี่ฝืนยิ้มขึ้น “ เขาคงน่าจะมาเพื่อวัตถุบางชิ้นนั้นเท่านั้น ตอนนี้หลังจากที่ได้นำมันไปแล้วก็คงจะจากไปเลย ในตอนนี้ก็คงจะจากไปแล้วละ พี่เยี่ยจงมาช้าไปครู่เดียวเอง ไม่เช่นนั้นก็คงจะสามารถพบเห็นกับท่าทางลักษณะของคนผู้นั้น “
เยี่ยจงทอสีหน้าสงสัย สามารถทำให้ทำให้อัจฉริยะประเภทอย่างหมิงหยี่รู้สึกได้ถึงเพียงนี้ บุคคลท่ามกลางข่าวลือนั้น ที่แท้มีความน่าหวาดกลัวในระดับใดกันแน่
“ ตามที่ได้ยินมา คนผู้นั้นได้ฝึกฝนจนถึงขอบเขตร่างกายไม่สูญสลายแล้วอย่างงั้นหรือ ? “ หลังจากที่เยี่ยจงครุ่นคิด ก็ได้เอ่ยขึ้นมาถามออกไปเสียงเบา
“ คงจะเป็นเช่นนั้น ทว่าก็บอกได้ยาก แต่ว่าอย่างน้อยก็ต้องอยู่ในพลังขั้นก่อเกิดระดับที่แปดขอบเขตชั้นฟ้าแล้ว “ หมิงหยี่ยิ้มอย่างข่มขื่น “ ยังดีที่คนผู้นั้นได้จากไปแล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครทราบว่าที่แท้เขานำเอาสิ่งของใดจากไป แต่ว่าอย่างน้อยเขาก็ได้จากไปแล้ว “
“ เอาเถอะ ไม่พูดถึงเรื่องพวกนี้แล้ว ท่านเยี่ยจง สถานที่แห่งนี้เป็นเนินหน้าผา ทางด้านนั้นเป็นสุสานกระบี่ ในสถานที่แห่งนี้ต้องระวังเป็นพิเศษ อย่าได้ลงมือโดยสุ่มสี่สุ่มห้า ทั้งอย่าได้ไปทำลายสิ่งของทุกอย่าง ไม่เช่นนั้นแล้วละก็ สถานการณ์ต่อไปคงยากที่จะคาดคิดแล้ว “ หมิงหยี่กล่าวเตือนออกมาเสียงแผ่วเบา
เยี่ยจงเงียบงันแล้วพยักหน้าช้าๆ เขายังได้ตั้งข้อสงสัย หากนับตามลักษณะนิสัยของสามอัจฉริยะที่ขวางทางอยู่นั้น ทำไมถึงไม่ได้ลงมือต่อผู้คนมากมายที่ได้ขึ้นมายังเนินหน้าผาแห่งนี้กัน ที่แท้ก็เพราะว่าสถานที่แห่งนี้มีกฎเกณฑ์ที่เฉพาะเจาะจงเช่นนี้ ไม่อาจที่จะลงมืออย่างวู่วามได้
“ เอ่อ ที่ตรงนั้นก็คือพวกที่ไม่ได้ฟังคำแนะนำของคนอื่นๆ “ หมิงหยี่ชี้ออกไปทางด้านหนึ่ง แล้วก็ได้พบกับคราบโลหิตตรงด้านหน้าของสุสานกระบี่ สดใหม่อย่างยิ่ง อีกทั้งยังตายได้อย่างประหลาดอย่างมาก
และในเวลาเดียวกัน ก็ได้มียอดฝีมือไม่น้อยที่ความจริงยืนอยู่ในสถานที่แห่งนี้ ในตอนนี้ก็ได้เข้าไปใกล้ยังสุสานกระบี่ พวกเขาต่างก็ได้ยื่นมือออกไป แตะไปที่เศษซากของสุสานกระบี่ ราวกับกำลังสัมผัสอะไรบ้างอย่างอยู่
“ หากว่าท่ามกลางสุสานกระบี่มีสมบัติปราณที่มีวาสนาต่อกันแล้วละก็ เช่นนั้นขอเพียงแค่ใช้พิธีใจผสาน สมบัติปราณก็จะเป็นของท่านโดยทั้งสิ้น อีกทั้งผู้อื่นยังไม่อาจที่จะแย่งชิงไปได้ พี่เยี่ยจง การได้ครอบครองหนึ่งในสุสานกระบี่นี้ อย่างน้อยก็ถือเป็นสมบัติระดับเซียนแล้ว ขอได้อย่าได้ผิดพลาดไป “ เมื่อพบเห็นคนเหล่านี้เคลื่อนไหว หมิงหยี่ก็ได้อธิบายด้วยเสียงแผ่วเบา สีหน้าเต็มไปด้วยความหวังอยู่หลายส่วน
เยี่ยจงพยักหน้าเห็นด้วยอย่างช้าๆ กฎเกณฑ์ในที่แห่งนี้นั้นนับว่าประหลาด ทั้งยังเกินความคาดหมายอยู่หลายส่วน แต่ก็ถือได้ว่าสมเหตุสมผล เห็นได้ชัดว่า ยอดฝีมือไร้เทียมทานในสมัยก่อนคงไม่ต้องการที่จะให้สมบัติปราณของตนเองถูกผู้คนแย่งชิงไป ได้แต่เพียงคาดหวังที่จะให้พวกเขาอยู่ข้างกายกับคนที่มีวาสนาเท่านั้น
“ ชี่ “
ทันใดนั้นเอง ท่ามกลางกลุ่มสุสานกระบี่ แผ่นหินสุสานกระบี่แห่งหนึ่งก็ได้เปลี่ยนเป็นดุจดั่งก้อนหยกก็มิปาน มีความผ่องขาวใสกระจ่างพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า จากนั้นก็ได้พบว่าแผ่นหินได้แตกกระจาย ด้านในเผยให้เห็นสมบัติปราณชิ้นหนึ่ง
นั้นเป็นพัดเล่มหนึ่ง เนื้อกายของมันมีสีแดงเพลิงคล้ายแสงไฟ มีอักขระนับไม่ถ้วนบินวนเวียนอยู่รอบๆบริเวณด้านบนของมัน ให้บรรยากาศที่น่ากลัวไร้ที่เปรียบ
ในตอนนี้ หนึ่งในกลุ่มคนของเผ่ามนุษย์ก็ได้เดินออกมายืนอยู่ทางด้านหน้า เขายื่นมือคว้าจับไปที่พัดเล่มนั้น บนใบหน้าปรากฏสีหน้าประหลาดขึ้น
พัดเล่มนี้ได้แผ่บรรยากาศอันน่าหวาดกลัวสาดสะบัดออกมา ไม่ว่าจะมองเช่นไรก็ถือได้ว่าเป็นสมบัติเซียนอย่างแท้จริงเล่มหนึ่ง ถึงแม้ว่าตัวพัดเล่มนี้จะมีอยู่หลายส่วนที่เสียหาย แต่ว่าหากฟื้นฟูกลับคืนแล้วละก็ อย่างน้อยก็สามารถเพิ่มความสามารถในการต่อสู้ให้แก่ผู้คนได้ อีกทั้งการที่จะกลายเป็นสมบัติประจำตระกูลก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
“ เป็นเพียงแค่เผ่ามนุษย์ มีคุณสมบัติอะไรมาแย่งชิงสมบัติมีค่า ส่งมอบสิ่งของออกมา “ มียักษ์ตนหนึ่งตะโกนออกมาด้วยความไม่พอใจ เห็นได้ชัดว่ามันก็ต้องตาพัดเล่มนี้ จึงได้ร้องออกมาเสียงดัง ทะยานร่างออกไป
“ เปรี้ยง “
จากนั้น ในตอนที่มันพึ่งจะขยับร่างกาย ทันใดนั้นตลอดทั่วทั้งร่างกายก็ราวกับเปลี่ยนเป็นพองโตขึ้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นเสียง”เปรี้ยง”ก็ดังออกมา จนกลายเป็นเพียงโลหิตกลุ่มหนึ่งเท่านั้น
ยอดฝีมือมากมายต่างก็ได้สูดลมหายใจเข้าออกในทันที ผู้คนทั้งหมดต่างก็เก็บอาการความโลภที่อยู่ภายในจิตใจของตนเองเอาไว้ ดูเหมือนว่าเรื่องเล่าขานของเนินหน้าผาจะเป็นจริง คิดไม่ถึงว่าเมื่อมีคนคิดแข็งขืนจะลงมือแล้วละก็ ฉากต่อไปคงอดที่จะมองได้ยาก
ชายหนุ่มเผ่ามนุษย์ที่ได้พัดเล่มนั้นไปก็ได้กวาดสายตากลับมายังยอดฝีมือมากมาย เขาไม่ได้กล่าวอะไรมากมาย เพียงแต่นั่งลงทำสมาธิ เริ่มที่จะใช้พิธีผสานใจกับพัดที่อยู่ในมือเล่มนี้
“ พวกเราก็ไปแสวงหาโอกาสวาสนากันเถอะ สถานที่แห่งนี้มีสมบัติอยู่มากมาย ข้าไม่เชื่อหรอกว่าจะไม่มีส่วนของข้าด้วย “ มีคนแววตาลุกเป็นไฟ แล้วก็อดใจเอาไว้ไม่อยู่ เพียงแต่ได้เข้าไปใกล้ยังสุสานกระบี่อย่างระมัดระวัง ยื่นมือออกไปสัมผัส
“ เอาอย่างนี้พี่เยี่ยจงก็เชิญบ้างสิ หากว่าสามารถที่จะได้ครอบครองสมบัติเซียนมาอยู่ในมือ ครั้งหน้าที่เราท่านร่วมมือกันจัดการกับองค์ชายสิบสามนั้น ก็จะมีโอกาสสำเร็จมากขึ้นหลายส่วน “ บนสีหน้าของหมิงหยี่ปรากฏแววตาประหลาดขึ้น เขามองไปทางด้านของเยี่ยจงแล้วก็พยักหน้า จากนั้นตนเองก็ได้เดินนำเข้าไป
“ หากว่าสามารถที่จะกลืนกินสมบัติปราณจำนวนมากที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้ ข้าก็สมควรสามารถฟื้นฟูสู่ระดับพลังสูงสุดได้ “ เสียงอันกระหายของเสี่ยวหลุนก็ได้ดังขึ้นมาท่ามกลางห้วงสมองของเยี่ยจง แต่ว่าก็เห็นได้ชัดว่า เขาก็ทราบดีว่าเรื่องเช่นนี้ไม่อาจที่จะเป็นไปได้ ทำได้แต่เพียงเพ้อฝันเท่านั้น
“ เจ้ายังคงตั้งอกตั้งใจช่วยข้าเสาะหาหัวใจพสุธาก่อนเถอะ ในครั้งนี้ข้าได้ทำการสังหารสามขุนศึกของบุคคลลึกลับไป ช้าเร็วคงจะต้องได้พบกัน คงจะต้องยุ่งยากไม่ได้น้อย “ เยี่ยจงบ่นออกมา ทั้งยังครุ่นคิดขึ้นหลายส่วน
“ ถึงแม้ว่าข้าจะไม่ทราบว่าบุคคลอันแข็งแกร่งที่จะว่ามานั้นแท้จริงมีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับใด แต่ว่าในเมื่อในตอนนี้เข้ายังอยู่ที่สมรภูมิฮวงกู่ เช่นนั้นอย่างมากเขาก็ยังอยู่แค่ขั้นก่อเกิดระดับที่เก้าขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายเท่านั้น ไม่เป็นไรหรอก รอจนข้าเสาะหาหัวใจพสุธาได้แล้ว หลังจากที่ข้าจะสร้างยาหยดน้ำเซียนแล้ว เจ้าก็จะสามารถฝึกปรือเข้าสู่ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายได้ เมื่อถึงเวลาพวกเราก็จะไปหาเจ้าเด็กน้อยผู้นั้นด้วยตัวเอง บุคคลเช่นนั้น บนตัวคงจะต้องมีสมบัติอยู่ไม่น้อยจึงจะถูกต้อง “ เสี่ยวหลุนยังคงเยาะเย้ยไม่หยุด จากนั้นก็ได้ยุแยงเยี่ยจง เห็นได้ชัดว่าไม่ได้มีจิตใจที่ดีอันใด
“ เจ้าหนูอย่างนายนี้นะ “ เยี่ยจงไร้คำจะกล่าว จากนั้นก็ได้ส่ายศีรษะไปมา จากนั้นก็ได้ก้าวเข้าสู่ใจกลางของสุสานกระบี่
สุสานกระบี่เหล่านี้มีทั้งใหญ่เล็กไม่เหมือนกัน ทว่าต่างก็เป็นเพียงก้อนหินเพียงก้อนหนึ่งเท่านั้น บนตัวก้อนหินนั้นไม่ได้มีอะไรแกะสลักไว้เป็นพิเศษ มองไปแล้วก็เหมือนดั่งป่าหินธรรมดาก็มิปาน
เยี่ยจงได้เข้าใกล้ยังหินชิ้นหนึ่ง ยื่นมือแตะ แต่ว่ากลับไม่มีความรู้สึกพิเศษใดๆออกมา สัมผัสได้แต่เพียงความรู้สึกที่เย็นเยียบดั่งน้ำแข็งสายหนึ่ง
หลังจากนั้นสักพัก เยี่ยจงก็ได้แตะไปที่ก้อนหินอื่นอีกก้อนหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้มีสัมผัสใดๆ
เห็นได้ชัดว่า ก้อนหินเหล่านี้ถ้าไม่มีสัมผัสใดๆแล้วละก็ ก็เหมือนกับบ่งบอกว่าสมบัติปราณนี้ไม่ได้มีวาสนาต่อตนเอง
เยี่ยจงยังคงเสาะหาตลอดทาง แตะไปที่ก้อนหินเหล่านั้นอย่างไม่ใส่ใจ แต่ว่าก็เห็นได้ชัด วาสนาของสิ่งของเช่นนี้นั้นย่อมไม่อาจที่จะได้รับมาอย่างง่ายดาย ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ถึงแม้จะมีอยู่สองสามคนที่ได้รับสมบัติปราณไปแล้ว แล้วก็ได้เริ่มต้นพิธีผสานใจ ยิ่งผู้คนมากมายโดยส่วนมากแล้วต่างก็ยังไม่ได้รับแต่อย่างใด
แต่ว่า พูดออกไปก็น่าแปลกอยู่ นับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เนินหน้าผามียอดฝีมือมากมายเข้ามา แต่ว่าการที่จะสามารถได้รับสมบัติที่มีคุณภาพดี ใช่ว่าจะเกิดขึ้นอยู่เสมอไป ไม่เช่นนั้นแล้วสมบัติปราณที่ต่างก็ได้มานั้นเป็นระดับเซียนได้รับมาอย่างง่ายดายแล้วละก็ เช่นนั้นสมบัติเซียนก็คงจะมีอยู่มากมายอย่างล้นหลามแล้ว คงไม่ถือว่ามีค่าขนาดนี้หรอก
“ เอ่อ นี้มันสมบัติเซียนกำเนิดขึ้นนิ อีกทั้งยังไม่ได้ถูกผู้ใดสัมผัสเลย ? “
ทันใดนั้นก็ได้มีเสียงของคนดังขึ้นมา ทั้งยังเกิดความตกใจขึ้นหลายส่วน
เยี่ยจงยังคงนิ่งเงียบ แล้วก็ไม่ได้มุ่งหน้าเข้าไป เหมือนกับบุคคลอื่นๆ ที่ล้อมกันจ้องมองหินชิ้นนั้น
นี้ถือเป็นสุสานกระบี่ที่ถือได้ว่าเก่าแก่ที่สุด บนหินนั้นมีจุดดำกระจัดกระจาย ในตอนนี้ กลับไม่มีผู้ใดที่จะยื่นมือออกไปแตะต้อง แต่ว่าด้านบนของหินก้อนนี้กลับมีรอยแตกร้าวให้ปรากฏออกมาเป็นสาย และจากทันใดนั้นเอง ก็ได้พบกับประกายแสงสายหนึ่งพุ่งขึ้นสู่ฟ้าออกไป
ฉากเบื้องหน้าสายตาได้ดึงดูดและจูงใจผู้คนมากมายให้มองเข้ามา นอกจากผู้ที่ได้รับสมบัติเซียนที่กำลังทำพิธีผสานใจอยู่ คนอื่นๆต่างก็มุ่งหน้ากันเข้ามา คิดที่จะมองดูว่าเกิดอะไรขึ้นกัน
“ ฝุบ “
ทันใดนั้น ก็ได้มีประกายแสงสีดำเข้มข้นพุ่งขึ้นสู่ฟ้า หลังจากครั้งนี้ แผ่นหินก็ก็ได้กระจายออกไป เผยให้เห็นกระบี่ดำทมิฬเล่มหนึ่ง ปักอยู่บนบริเวณพื้นดิน
ทว่าในตอนที่มองดผุอย่างละเอียดแล้ว ก็ได้มีผู้คนไม่น้อยที่กรอกตาไปมา ทอสีหน้าประหลาดออกมา
นั้นก็เพราะว่ากระบี่ด้ามนี้เก่าแก่จนเกินไป ทั่วทั้งตัวปกคลุมไปด้วยเหล็ก เมื่อมองดูแล้วมีจุดด่างพร้อย ควรทราบว่า สมบัติปราณที่มีพลังอย่างแท้จริง คงไม่อาจที่จะเปลี่ยนเป็นเช่นนี้ได้
กระบี่เล่มนี้เห็นได้ชัดว่าได้สูญเสียพลังไปหมดแล้ว อีกทั้งยังทำลายสุสานด้วยตัวของมันเอง แล้วก็ไม่ทราบว่ามันต้องการที่จะเลือกคนเอง หรือว่าสุสานกระบี่นี้ไม่ต้องการที่จะเก็บมันไว้กันแน่
ทว่า หลังจากที่เยี่ยจงจ้องเขม็งไปที่กระบี่ด้ามนี้แล้ว ทันใดนั้นสีหน้าก็ได้ขยับเปลี่ยนไป บนตัวของกระบี่ด้ามนี้ เขากลับสัมผัสได้ถึงความรู้สึกอันประหลาดชนิดหนึ่ง ความรู้สึกเช่นนี้บอกไม่ได้ว่าเป็นความรู้สึกที่ประหลาด แต่ว่าราวกับเขาได้ตัดสินใจที่จะก้าวเดินออกไปด้านหน้าเอง
เมื่อพบเห็นเยี่ยจงก้าวเดินออกไป ในตอนนี้กลับไม่มีผู้ใดที่คิดจะขัดขวางเอไว้ นั้นก็เพราะว่ามีคนมากมายต่างก็มองออกว่า กระบี่เล่มนี้ความจริงแล้วไม่มีอะไรพิเศษเลย คาดว่าคงเป็นเพียงแค่เศษเหล็กเพียงชิ้นเดียวเท่านั้น
แต่ว่า ในสถานที่แห่งนี้นั้นมีกฎที่ประหลาดอยู่ หากว่าแตะถูกตัวกระบี่เล่มใดเล่มหนึ่งไปแล้วละก็ เช่นนั้นก็จะสูญเสียคุณสมบัติที่จะแสวงหาสมบัติต่อไป
“ พี่เยี่ยจง ช้าก่อน หากว่าท่านลงมือ เช่นนั้นสมบัติปราณชิ้นอื่นก็คงจะไม่มีวาสนากับท่านแล้ว “ หมิงหยี่กล่าวออกมาเสียงแผ่วเบาอยู่ทางด้านข้างเพื่อเตือนสติ เห็นได้ชัดว่า เกี่ยวกับอีกฝ่ายที่มีการร่วมมือกัน เขาก็คาดหวังที่จะให้เขายิ่งแข็งแกร่งยิ่งขึ้น เช่นนี้ทั้งสองฝ่ายในช่วงเวลาที่จะจัดการกับองค์ชายสิบสาม ก็จะเพิ่มโอกาสมากยิ่งขึ้น
เยี่ยจงเงียบงัน แล้วก็ได้ขยับร่างกายอย่างช้าๆ กฎเกณฑ์เช่นนี้เขาก็พึ่งจะทราบเอง พูดไปก็ง่าย หากว่าสิ่งที่ตนเองคาดเดาผิดพลาดไปแล้วละก็ นั้นก็เพราะว่าหากต้องการที่จะทดสอบกระบี่เล่มนี้ ในทางกลับกันเขาก็จะสูญเสียโอกาสในการสัมผัสสมบัติปราณชิ้นอื่นเช่นเดียวกัน
แล้วก็ได้ทอสีหน้าประหลาดมองไปที่กระบี่โบราณที่แตกร้าวแล้ว เยี่ยจงไม่ได้เคลื่อนไหวอยู่นาน เมื่อครู่ทันทีที่เขาสัมผัสได้ถึงของสิ่งนี้ ในตอนนี้ก็ได้ขาดไปแล้ว ราวกับว่าไม่เคยมีการปรากฏมาก่อน กระบี่เล่มนี้เป็นเหมือนกับกระบี่ธรรมดาด้ามหนึ่งก็มิปาน ไม่ได้มีอันใดพิเศษแต่อย่างไร
“ โครม “
หลังจากนั้นไม่นาน คงจะเป็นเพราะว่าไม่มีคนใดที่คิดจะลงมือเพื่อรับโอกาสนี้มาอยู่ในมือ กระบี่โบราณนั้นก็ได้สั่นเทาขึ้นกะทันหัน ค่อยๆที่จะกลืนลงไปภายในพื้นดิน หายไปในทันที ………..
.
.
.
.
กลุ่มลับ ติดต่อได้หลังไมค์ครับ กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น เข้ากลุ่ม 3/4/5/6/7 ราคา 400
กลุ่ม3 https://goo.gl/dV1p9e ตอนที่ 210-290
กลุ่ม4 https://goo.gl/ESwaou ตอนที่ 291-370
กลุ่ม5 https://goo.gl/ekcF7V ตอนที่ 371-450
กลุ่ม6 https://goo.gl/4rqw89 ตอนที่ 451-530
กลุ่ม7 https://goo.gl/qrQ7GA ตอนที่ 531-610 ล่าสุดตอนที่ 595
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ
https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/