เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 265 ล่อเสือออกจากถ้ำ

ตอนที่ 265 ล่อเสือออกจากถ้ำ

 

 

เพียงเพราะยอดฝีมือเพียงไม่กี่คน ท่ามกลางผู้คนเหล่านั้นเยี่ยจงก็เคยพบมากันมาก่อน รวมไปทั้งอินทรีทองสุริยะที่ก่อนหน้านี้ถูกเยี่ยจงทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส มันในตอนนี้ก็ได้ทอประกายสายตาเย็นชาออกมา จ้องมองไปที่เยี่ยจง ส่วนมนุษย์ยักษ์สองหัว ที่เคยปะทะกับเยี่ยจงก่อนหน้า ที่ได้ถูกเยี่ยจงผลักดันจนถอยไปเพียงกระบวนท่าเดียว ทว่าในตอนนี้เขากลับจ้องมองไปทางด้านเยี่ยจง ไม่แม้แต่จะปิดบังรังสีสังหารแม้แต่น้อย

 

นอกจากสถานที่แห่งนี้ ยังมีกลุ่มชายฉกรรจ์อยู่กลุ่มหนึ่ง เขาจ้องมองไปทางด้านเยี่ยจง ภายในดวงตาปรากฏความต้องการฆ่าขึ้นมาราวกับมีความแค้นเทียบฟ้า

 

และที่ยืนอยู่ทางด้านหลังอีกหลายคน ต่างก็ถือได้ว่าเป็นยอดอัจฉริยะของเผ่าพันธุ์ ยอดฝีมือ พลังฝีมือของพวกเขาแน่นอนว่าต่างก็อยู่เหนือกว่าองค์หญิงหกอย่างแน่นอน ต่อให้ไม่จำเป็นที่จะต้องมีจำนวนมากก็ตาม แต่ว่าพวกเขาก็เพียงพอที่จะกดดันเหล่าอัจฉริยะแห่งรัฐต้าโจวได้ทั้งหมด

 

หลังจากนั้นก็ได้จ้องมองไปยังกลุ่มยอดฝีมือเหล่านี้ เยี่ยจงก็มิได้กล่าวอันใดออกมามากมาย เพียงแต่กวาดสายตามองไปที่องค์หญิงหกคราหนึ่ง ขมวดคิ้วแล้วกล่าวออกมา “ เป็นไปได้อย่างไร พวกเจ้าไม่ใช่ว่าได้ออกไปจากสุสานกระบี่ไปแล้วงั้นหรือ ? แล้วองค์หญิงสี่เล่า ? “

 

“ ในระหว่างทางมานี้ พี่สี่ได้ถูกคนดึงออกไป แต่พวกเราก็ได้ถูกช่วยเหลือมาจนถึงที่นี้ เยี่ยจง นี้เป็นหนึ่งในของแผนการของพวกเขา “ องค์หญิงหกเมื่อพบเห็นว่าเยี่ยจงมา สีหน้าอันขาวซีดของนางก็ได้ปรากฏสีเลือดออกมาเล็กน้อย จากนั้นทางด้านหลังร่างกายก็ได้ก่อเกิดประกายขึ้นมา กระอักโลหิตออกมาสายหนึ่ง

 

“ เจ้าวางใจเถอะ ดูแลพวกเขาให้ดี เรื่องนี้ปล่อยให้ข้าจัดการเอง “ เยี่ยจงจ้องมองไปด้วยสายตาที่เย็นชา เขาก่าวไปข้างหน้าหลายก้าว จ้องมองไปยังกลุ่มยอดฝีมือทางด้านหน้า ด้วยสีหน้าที่เย็นชา

 

“ เพียงแค่เข็มเล่มเดียว เจ้ากลับมาหาที่ตายอย่างง่ายดาย ช่างดีเสียเหลือเกิน เยี่ยจง ข้านับถือเจ้าจริงๆ “อินทรีทองสุริยะเอ่ยปากขึ้นมาเสียงดังกังวาน สีหน้าทอประกายเย้ยหยันออกมาชนิดหนึ่ง เป็นการดูถูกที่ไม่น้อยเลยแม้แต่ส่วนเดียว

 

“ เป็นอะไรไป ? เมื่อวันก่อนยังหนีได้เร็วดีนิ ถึงกับยังหลงเหลือชีวิตน้อยๆเอาไว้ได้ ในตอนนี้เจ้ากลับยังกล้าที่จะปรากฏตัวต่อหน้าข้าอีกงั้นหรือ ? “ เยี่ยจงมองไปที่อินทรีทองสุริยะ กล่าวออกมาอย่างสบาย

 

“ เจ้า “ สีหน้าของอินทรีทองสุริยะเปลี่ยนไป มันจ้องมองเยี่ยจงอยู่นาน ทันใดนั้นก็ได้หัวเราะออกมา “ เจ้ากล่าวออกมาได้มิผิด เมื่อวันก่อนข้าได้เก็บชีวิตน้อยๆนี้เอาไว้ได้ ดังนั้นข้าจึงได้เข้าใจ ต่อกรกับเจ้าเพียงคนเดียวคงจะไม่อาจที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของเจ้า ทว่าในตอนนี้กลับมีคนเสนอหน้ามา ต้องการที่จะร่วมมือกันสับเจ้าให้เป็นชิ้นๆ ข้าย่อมไม่อาจที่จะเกรงใจได้อยู่แล้ว “

 

“ งั้นหรือ ? ประจวบเหมาะเลยที่ข้ากำลังต้องการที่จะไปหาเจ้า ในเมื่อเจ้ามาหาถึงที่ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเสียเวลาอีก “ เยี่ยจงหัวเราะเย็นชา จนทำให้อินทรีทองสุริยะถอยหลังไปหลายก้าว

 

“ เจ้าละ ? “ เยี่ยจงมองไปทางด้านของมนุษย์ยักษ์สองหัว แล้วก็กล่าวออกมา

 

“ เผ่าพันธุ์มนุษย์พวกเจ้าถือได้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ารำคาญอย่างยิ่ง อีกทั้งเผ่าพันธุ์ของพวกเจ้ามักจะปรากฏยอดอัจฉริยะออกมา ยังคงสังหารแต่เนิ่นๆจะดีกว่า ดีกว่าวันหน้าต้องมาสร้างปัญหาต่อเผ่าพันธุ์ของข้า “ มนุษย์ยักษ์สองหัวเอ่ยขึ้นมาอย่างข้างๆคูๆ เห็นได้ชัดว่า มันก็เกิดความเกรงกลัวต่อเยี่ยจงอย่างไร้ที่เปรียบ

 

“ ถ้างั้นเจ้าเล่า ? ไม่บอกซักหน่อยหรือ สนทนากันหน่อยไหม ? เยี่ยจงทอดตามองไปทางด้านยังกลุ่มคนที่เป็นผู้นำ ทั้งยังมีน้ำเสียงเย้ยหยันหลายส่วน

 

“ เจ้าเพียงรู้แค่ว่า ข้าต้องการให้เจ้าตายก็พอแล้ว “ ยอดฝีมือผู้นั้นเย็นชาเต็มสิบส่วน เขายืนอยู่อีกทางด้านหนึ่งของสายตาเยี่ยจง บนร่างกายเต็มเปี่ยมไปด้วยรังสีสังหาร แต่ว่าเห็นได้ชัดว่าเป็นเขาเองที่เป็นผู้นำในครั้งนี้

 

เยี่ยจงเกิดความคิดขึ้นภายในใจ การที่คนผู้นี้สามารถควบคุมสิ่งมีชิวตและยอดฝีมือเหล่านี้ได้ เห็นได้ชัดว่าสถานะและพลังฝีมือย่อมต้องไม่ธรรมดาแน่นอน ตนเองคงจะต้องระวังเอาไว้ ไม่เช่นนั้นคงจะต้องพลาดพลั้งไปอย่างแน่นอน

 

“ ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ก็ไม่มีคำพูดอันใดให้กล่าวอีกต่อไปแล้ว ดีมาก ประจวบเหมาะที่ข้าต้องการที่จะให้ตายพอดีเลย “ ใบหน้าเยี่ยจงเย็นเยียบ ถึงแม้ว่าเขาและกลุ่มอัจฉริยะรัฐต้าโจวจะไม่ได้มีความสัมพันธ์กันมากมายนัก แต่ว่าอีกฝ่ายกลับใช้ความสัมพันธ์อันน้อยนิดของคนกลุ่มนี้เพื่อที่จะดึงตนเองออกมา จนทำให้เขาเกิดเพลิงแค้นขึ้นมาภายในใจ

 

“ พวกเจ้าเตรียมพร้อมที่จะเข้ามาพร้อมกัน หรือว่าจะผลัดการเข้าประลองกัน ? “

 

“ ต่อกรกับเจ้าเพียงคนเดียว ไม่จำเป็นที่จะต้องให้ขึ้นไปพร้อมกันหรอก ถึงแม้เจ้าจะแข็งแกร่งมาก แต่ว่าก็ยังคงเป็นเผ่ามนุษย์ “ มนุษย์ยักษ์สองหัวเป็นคนแรกที่ก้าวออกมา ในมือของเขาถือลากไว้ด้วยค้อนยักษ์อยู่ตามพื้น ทุกๆการย่างก้าว บนพื้นก็ได้ก่อเกิดเสียงและความเคลื่อนไหวดังออกมา เป็นที่น่ากลัวอยู่ยิ่ง

 

“ เยี่ยจง พลังกล้ามเนื้อของมนุษย์ยักษ์สองหัวนี้แข็งแกร่งยิ่ง ทั้งยังน่ากลัวอย่างที่สุด อย่าได้ปะทะกับเขาโดยตรงนะ “ บริเวณทางด้านหลัง จ้านหวังน้อยชีซือก็ได้ยิ้มออกมาอย่างสังเวช เอ่ยปากออกมา เขาก็ถือได้ว่าเป็นคนที่มีวาสนา ในตอนนี้ถึงกับมาถึงพลังยุทธ์ขั้นก่อเกิดขั้นที่แปด ขอบเขตพลังปราณแล้ว แต่ว่าเขาก็ยังต้องพ่ายแพ้ภายใต้น้ำมือของมนุษย์ยักษ์สองหัวนี้ จึงได้ทราบถึงความแข็งแกร่งของอีกฝ่าย

 

“ ตูม “

 

ไม่แม้แต่จะรอให้เยี่ยจงเอ่ยขึ้นมา มนุษย์ยักษ์สองหัวก็ได้เข้ามาใกล้ เขาสะบัดค้อนยักษ์ในมือออก ดุจดั่งดาวตกดวงหนึ่งเข้าปะทะไปทางด้านบริเวณที่เยี่ยจงอยู่ เห็นได้ชัดว่า มนุษย์ยักษ์สองหัวนี้คิดที่จะพึ่งพาพลังทางร่างกาย ฆ่าสังหารเยี่ยจงไปในทันที

 

ตามความเป็นจริง ร่างกายของเขานั้นถือได้ว่าสูงใหญ่อย่างถึงที่สุด เยี่ยจงที่อยู่ทางด้านหน้า ก็ไม่ต่างอันใดจากแมลงตัวเล็กๆตัวหนึ่ง อีกทั้งค้อนยักษ์ด้ามนี้ก็เทียบได้กับเยี่ยจงนับสิบคนได้ หากว่ากระทบเข้าบนร่างกาย เพียงแค่พริบตาเดียวก็สามารถทำให้กลายเป็นก้อนเนื้อแหลกเหลวได้แล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ค้อนยักษ์ด้ามนี้ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังนับพันช่าง เห็นได้ชัดว่าถือได้ว่าเป็นสมบัติปราณที่ไม่ธรรมดาชิ้นหนึ่งเลย

 

ในมือถือไว้ด้วยค้อนยักษ์ มนุษย์ยักษ์สองหัวก็มีความมั่นใจเพิ่มขึ้นมาก เขาเตรียมที่จะใช้กระบวนท่านี้ จัดการสังหารเยี่ยจงไปในทันที เพื่อที่จะล้างอายที่เกิดขึ้นเมื่อวันก่อน

 

สายตาที่จ้องเขม็งไปที่ค้อนยักษ์ที่พุ่งเข้ามาดุจดั่งดาวตก เยี่ยจงยังคงทอสีหน้าเย็นชา ยกมือขึ้นมา แล้วก็ได้นำชิ้นส่วนมายาออกมา ชิ้นส่วนมายาก็ได้สาดเป็นประกาย ทันใดนั้นก็ได้เข้าปะทะออกไปทางด้านหน้า

 

“ ตึง “

 

เสียงนั้นดังสนั่นหวั่นไหว ค้อนยักษ์ในมือของมนุษย์ยักษ์สองหัวก็ได้กระเด็นออกไป เขาคิดไม่ถึงว่าเยี่ยจงจะสามารถกระทำออกมาเช่นนี้ได้ ในช่วงเวลานี้กลับมีปฏิกิริยากลับมาไม่ทัน

 

ทันใดนั้นเอง เยี่ยจงก็ได้หายวับไป ใช้ออกมาด้วยความเร็วสูงสุด แล้วในมือก็ได้ถือไว้ด้วยกระบี่ด้ามหนึ่ง แล้วก็ชี้ออกไป คมกระบี่สายหนึ่งได้เข้าฟาดฟันมุ่งหน้าไปทางด้านของมนุษย์ยักษ์สองหัวเข้าไป

 

“ ปุ “

 

โลหิตสาดกระเซ็นไปทั่วสี่ทิศ มนุษย์ยักษ์สองหัวได้รับบาดเจ็บ แต่ว่ามันก็ยังเป็นถึงยอดอัจฉริยะของเผ่าพันธุ์ การตอบสนองจึงรวดเร็วยิ่ง ทันใดนั้นก็พุ่งออกไปท่ามกลางอากาศ หนีเอาชีวิตรอดออกมาจากกระบวนท่านี้ได้

 

เมื่อใช้ออกมาหนึ่งกระบวรท่า สีหน้าของเยี่ยจงก็ได้เย็นชา เปลี่ยนสัญลักษณ์ที่อยู่บนมือ ชิ้นส่วนมายาก็ได้ถูกใช้ออกมาอีกครั้ง ปรากฏขึ้นมาท่ามกลางอากาศ จนเผยให้เห็นร่างที่แท้จริง มุ่งหน้าเข้าสังหารออกไปทางด้านฝ่ายตรงข้าม

 

สีหน้าของมนุษย์ยักษ์สองหัวเปลี่ยนไป เขาคิดไม่ถึงว่าเยี่ยจงถึงกลับมีความแข็งแกร่งได้จนถึงขั้นนี้ ทันใดนั้นก็ได้ทำให้เขาดุร้ายขึ้นมาหลายส่วน

 

ในขณะนั้นเอง มนุษย์ยักษ์สองหัวก็ได้เก็บรั้งความโกรธเกรี้ยวที่ปรากฏออกมา มนุษย์เบื้องหน้าสายตาที่ก้าวมาจนถึงขั้นนี้ได้ ด้วยพลังฝีมือเช่นนี้อยู่ภายในสมรภูมิฮวงกู่นี้ ไม่ใช่พึ่งพาเพียงโชคแน่นอน แต่เป็นความสามารถของเขาเอง

 

“ ตูม “

 

ทันใดนั้นต่อมา มนุษย์ยักษ์สองหัวก็ได้ใช้มือตบออกไป จนร่างกายสั่นสะท้านแผ่กระจายพลังออกมา จนก่อเกิดเข็มขนาดใหญ่ปกคลุมอยู่บนร่างกายของเขา อีกทั้งกล้ามเนื้อโลหิตก็ได้เดือดขึ้นมา กล้ามเนื้อปูดขึ้นมา จนทำให้ร่างกายอันใหญ่โตหลั่งไหลปะทุเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง

 

“ ทักษะเสริมพลังกาย “

 

เยี่ยจงกล่าวออกมาเสียงเบา คิดไม่ถึงว่ามนุษย์ยักษ์สองหัวที่มีกล้ามเนื้ออันแข็งแกร่ง ถึงกับฝึกปรือทักษะเสริมพลังกาย ที่ทั้งแข็งแกร่งและน่ากลัว

 

“ ฮูม “

 

ในทันทีที่มนุษย์ยักษ์สองหัวได้ใช้ออกด้วยทักษะเสริมพลังกาย ชิ้นส่วนมายาก็ได้เข้ามาใกล้ยังบริเวณเหนือศีรษะ ในขณะนั้นเอง มนุษย์ยักษ์สองหัวก็ได้กวาดค้อนออกไป เข้ากระแทกกับชิ้นส่วนมายาเข้าเต็มๆ เมื่อได้ยินเสียงที่ดังออกมา ชิ้นส่วนมายาก็ถึงกับกระเด็นออกไป และบนร่างของมนุษย์ยักษ์สองหัวในตอนนี้ก็ได้ก่อเกิดความบ้าคลั่งพุ่งตัวออกไป เท้าข้างหนึ่งก้าวออกไปเพียงก้าวเดียวก็ก้าวออกไปนับร้อยลี้ อีกทั้งร่างกายยังเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังของความดุร้าย

 

“ เจ้า ไม่ไหวเลยนะ “ เยี่ยจงกล่าวออกมาเสียงเบา แต่มิใช่เพราะเยาะเย้ย แล้วก็มิใช่มั่นใจในตนเอง แต่เป็นการพูดออกมาถึงความเป็นจริง

 

“ โอว “

 

มนุษย์ยักษ์สองหัวปะทุความบ้าคลั่งออกมา ถึงกับถูกเผ่ามนุษย์เพียงคนเดียวว่าตนเองไม่ได้เรื่อง นี้เมื่อได้ถูกกล่าวออกมาจากเขา ถือได้ว่าเป็นการลบหลู่อย่างมาก ในครั้งนี้ มันก็ได้กวาดค้อนยักษ์ในมือออกไป การใช้ออกด้วยพลังกายนี้ ได้ก่อเกิดเป็นประกายออกมา จากนั้นร่างกายก็ได้พุ่งออกไปอีกครา ก็ได้พุ่งเข้าไปทางเบื้องหน้า คิดที่จะตบเยี่ยจงให้ตายคาฝ่ามือนี้

 

เห็นได้ชัดว่า มนุษย์ยักษ์สองหัวนี้ใช้การก้าวเพียงก้าวเดียว ทั้งตนเองยังมีความมั่นใจเป็นอย่างมากในระดับพลังของกล้ามเนื้อของตนเอง เขาหมายที่จะพึ่งพาเพียงพลังกล้ามเนื้อเพื่อบดขยี้เยี่ยจง นั้นก็เพราะว่าก่อนหน้านี้เขาได้ปะทะพลังกายกัน แต่กลับต้องพลาดพลั้งให้แก่เยี่ยจงคราหนึ่ง

 

“ เจ้าคิดที่จะเทียบพลังทางร่างกายอย่างงั้นหรือ ? ข้าจะเล่นเป็นเพื่อนเจ้าเอง “

 

เยี่ยจงทอประกายสีหน้าเย็นชา ในตอนนี้ เขาก็ได้ควบคุมวิชาพลังลมปราณกระบี่หกสุสานออกมาด้วยความรวดเร็ว จากนั้นก็ได้ก้าวเท้าออกไปทั้งสองข้าง ลอยคว้างอยู่บนอากาศ ในขณะนั้นเอง ทั่วทั้งร่างกายของเยี่ยจงก็กลายเป็นดุจดั่งกระบี่อันคมกล้าก็มิปาน เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังจิตแห่งกระบี่ชนิดหนึ่ง

 

“ สังหาร “

 

เยี่ยจงตะโกนออกมา เขาก็ได้ชี้ออกไป ตามความเคลื่อนไหวของเขา ประกายกระบี่สายหนึ่งก็ได้รวมรั่งอยู่บริเวณด้านหลังของเขา จากนั้นเขาก็ได้ใช้ออกไปดุจดั่งกระบวนท่าสังหารออกไป

 

“ ฮูม “

 

ทันใดนั้นเอง การโจมตีทั้งสองสายก็ได้เข้าปะทะกัน ทันใดนั้นพลังความน่ากลัวสายหนึ่งก็ได้เคลื่อนไหวออกมา เสียงดังสนั่นหวั่นไหวได้ดังลอดออกมา การปะทะในครั้งนี้ ดูเหมือนจะง่ายดาย หากว่าพลังของผู้ใดอ่อนโทรมจนเกินไป เกรงว่าคงจะต้องพ่ายแพ้ไปตั้งแต่แรก

 

มนุษย์ยักษ์สองหัวคำรามก้อง ฝ่ามือนี้กลับถูกทำลายลง สีหน้าบนใบหน้าทอประกายความดุร้ายขึ้นมา เขาใช้ออกมาทั้งสองมือในเวลาเดียวกัน หมายที่จะใช้เป็นการโจมตีออกไป ทั้งยังเต็มไปด้วยความน่ากลัว

 

เยี่ยจงหรี่ตามอง ฟาดทั้งสองมือออกไปอย่างรวดเร็ว คมหมัดสายหนึ่งของฝ่ามือก็ได้ประทับเข้าสังหารออกไปไม่หยุด เข้าปะทะกับคมหมัดของมนุษย์ยักษ์สองหัว ไม่มีความคิดที่จะถอยแม้แต่น้อย

 

“ เพล้งเพล้งเพล้ง “

 

การปะทะเกิดขึ้นเสียงดังสนั่นดุจดั่งเพลิงอัสนีแตกกระจายก็มิปาน เสียงนั้นดังขึ้นมาอย่างไม่ขาดสาย นับตั้งแต่เริ่ม ทั้งสองฝ่ายต่างก็ยังเก็บออมพลังไม่ได้ใช้ออกมาอย่างเต็มที่ชนิดหนึ่ง แต่ว่าหลังจากผ่านไปนับสิบหมัด มนุษย์ยักษ์สองหัวก็ได้เริ่มที่จะคำรามด้วยความโกรธ นั้นก็เพราะว่าคมหมัดของเยี่ยจงนั้นกลับดูแล้วลึกล้ำกว่าคมหมัดของเขามาก เข้าทำลายพลังเลือดเนื้อของเขา จนทำให้เกิดพลังความคมกล้าบางอย่างอันบ้าคลั่งปะทุขึ้นมาไหลผ่านเข้าสู่ร่างกายของเขา จนทำให้เกิดความเจ็บปวดไร้ที่เปรียบ และขนลุกขึ้นมาจนถึงกระดูก

 

“ นี้มันเป็นไปได้ยังไงกัน ? “มนุษย์ยักษ์สองหัวตัวสั่นเทาขึ้น ทั้งสองฝ่ายต่างก็ได้ใช้ออกมาด้วยทักษะยุทธ์ในการเข้าปะทะ แต่ว่าเด็กหนุ่มเผ่ามนุษย์ผู้นี้กลับสามารถต้านทานตนเองได้ ช่างน่าหวาดกลัวเสียเหลือเกิน

 

“ ข้าไม่เชื่อ “

 

มนุษย์ยักษ์สองหัวคำรามด้วยความโกรธ ร่างกายทอเป็นประกายความโกรธออกมา ในครั้งนี้ ถึงแม้ว่าร่างกายส่วนด้านหน้าจะกลายเป็นคล้ายดั่งขุนเขาทมิฬลูกหนึ่ง มุ่งหน้าเข้ากดทับไปทางด้านบริเวณที่เยี่ยจงอยู่เข้าไป

 

“ คมหมัดพันชั่ง “

 

“ เพล้งเพล้งเพล้ง “

 

การปะทะสังหารของทักษะยุทธ์ ในขณะนั้น ร่างกายของเยี่ยจงก็ได้ปะทุจนถอยออก นั้นก็เพราะว่าท่ามกลางทักษะยุทธ์สายนี้ เขารู้สึกได้ถึงบรรยากาศอันน่ากลัวชนิดหนึ่ง กระบวนท่านี้สมควรที่จะเป็นทักษะยุทธ์ระดับเซียน ทันทีที่ได้ใช้ออกมาด้วยคมหมัดพันชั่งก็ได้เปลี่ยนพลังเพิ่มขึ้นมาหลายเท่าตัว ทั้งยังกดลงมายังส่วนหัวของเยี่ยจง หมายที่จะหลบออกมาก็ยังถือได้ว่ายาก

 

“ เยี่ยจง ข้าจะสับเจ้าเป็นหมื่นชิ้น “

 

มนุษย์ยักษ์สองหัวคำรามด้วยความโกรธ ทันใดนั้นร่างกายก็ได้ใช้ออกมาด้วยคมหมัดพันชั่ง ใช้ออกมาด้วยคมหมัดพันชั่งด้วยร่างกายเลือดเนื้อบนร่างทั้งหมดของตน คิดหมายที่จัดการเยี่ยจงให้กลายเป็นเศษเนื้อในทันที

 

ตามความเป็นจริง กระบวรท่าของมนุษย์ยักษ์สองหัวถือได้ว่าแข็งแกร่งเต็มสิบส่วน อีกทั้งยังไม่ทราบว่าได้สังหารผู้คนมาแล้วมากน้อยเท่าไร มีความน่าหวาดกลัวอย่างมาก ในกระบวนท่าที่ใช้ออกนี้ ไม่ว่าจะเป็นคู่ต่อสู้ใดต่างก็ต้องตายในทันที

.

.

.

.

กลุ่มลับ ติดต่อได้หลังไมค์ครับ กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น เข้ากลุ่ม 3/4/5/6/7 ราคา 400
กลุ่ม3 https://goo.gl/dV1p9e ตอนที่ 210-290
กลุ่ม4 https://goo.gl/ESwaou ตอนที่ 291-370
กลุ่ม5 https://goo.gl/ekcF7V ตอนที่ 371-450
กลุ่ม6 https://goo.gl/4rqw89 ตอนที่ 451-530
กลุ่ม7 https://goo.gl/qrQ7GA ตอนที่ 531-610 ล่าสุดตอนที่ 590

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset