เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 266 ต่อสู้อย่างโดดเดี่ยว

ตอนที่ 266 ต่อสู้อย่างโดดเดี่ยว

 

 

“ ตูม “

 

ภายใต้ของคมหมัดพันชั่ง เยี่ยจงที่ยืนรับแค่เพียงมือเดียว ใจกลางฝ่ามือก็ได้ก่อรวมไว้ด้วยพลังกระบี่ตราประทับถึงชั้นที่สิบแปด ราวกับการก่อรวมของประทับสีทมิฬขึ้นมาทางด้านใจกลางฝ่ามือของเยี่ยจง สะบัดเข้าชนกับคมหมัดพันชั่งเต็มๆ

 

“ โครม “

 

ฝ่าเท้าของเยี่ยจงในตอนนี้ก็ได้เหยียบลงจนพื้นดินแตกออก จนทำให้พื้นหินอันเก่าแก่เกิดการแตกกระจายขึ้นมา แต่ว่าเขาก็ไม่ได้เป็นห่วงกับการต้านรับพลังของคมหมัดพันชั่งแม้แต่น้อย

 

“ เผ่ามนุษย์ ข้ายอมรับว่าเจ้าแข็งแกร่งมาก ทว่าข้าเจ้าจะสามารถปะทะกันนานแค่ไหนกัน “ มนุษย์ยักษ์สองหัวหัวเราะอย่างเย็นชา ร่างกายของเขาขยับคราหนึ่ง ก็ได้ย่างกรายเหยียบลงบนท่ามกลางอากาศ ใช้มือทั้งสองข้างตบออกไปในทุกฝ่ามือที่ได้ก็ได้ใช้ออกด้วยคมหมัดพันชั่ง จนทำให้เกิดพลังหมุนวนอันน่าหวาดกลัวกดทับเข้าไปยังฝ่ายตรงข้าม

 

ความเคลื่อนไหวนี้น่าหวาดกลัวเต็มสิบส่วน เต็มเปี่ยมไปด้วยเรี่ยวแรงของพลังอันแข็งแกร่ง เรี่ยวแรงอันน่าหวาดกลัวนั้นได้ทำให้เท้าทั้งสองข้างของเยี่ยจงยุบลงไปเข้ากับพื้นดิน เศษหินทั่วทั้งสี่ด้านในตอนนี้ก็ได้กลายเป็นผง แต่ว่าถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ เยี่ยจงก็มิได้เกิดอันตรายใดๆ หรือมีอันตรายแม้แต่น้อย

 

“ ข้าก็ไม่เชื่อว่าเจ้าจะสามารถต้านทานข้าต่อไปได้ “ มนุษย์ยักษ์สองหัวเมื่อพบว่าเป็นเช่นนี้ สีหน้าของเขาก็ยิ่งปั้นยากยิ่งขึ้น ทันใดนั้นเอง สัญลักษณ์บนมือของเขาก็ได้เปลี่ยนไป พลังคมหมัดพันชั่งก็ได้ปรากฏคล้ายดั่งขุนเขาลูกหนึ่งกดทับลงไป มุ่งหน้าเข้าสังหารอีกฝ่ายในทันที

 

ในครั้งนี้ ได้ก่อเกิดพลังความน่ากลัวดุจดั่งพลังของขุนเขาทั้งสองลูก จนทำให้พื้นดินที่เยี่ยจงเหยียบอยู่แตกกระจายไปในทันที จนปรากฏรอยแตกร้าวขนาดใหญ่ขึ้นมา

 

“ เจ้าหนูที่มีสมองสองก้อน ข้าบอกไปแล้วว่า เจ้าไม่ไหว “

 

เยี่ยจงปรากฏโลหิตขึ้นทั่วร่าง สูดหายใจเข้ายาวๆ ทันใดนั้นเอง ใจกลางฝ่ามือของเขาก็ได้ปะทุขึ้นมาด้วยพลังกระบี่ตราประทับออกมา ก่อรวมไปด้วยพลังอันมหาศาลพุ่งออกไปในตอนนี้

 

“ ตูมตูมตูม “

 

หลังจากที่ได้ฟาดฝ่ามือนี้ออกไป เยี่ยจงก็ได้ใช้ออกด้วยทั้งสองมือฟาดออกไปไม่หยุด ทุกครั้งที่ได้กระทบลงไปก็ได้ใช้ออกด้วยพลังกระบี่ตราประทับ พลังกระบี่ตราประทับทุกสายก็ได้กดทับกลับไปยังบริเวณเดียวกันกับที่มีพลังคมหมัดพันชั่ง

 

“ กึงกึงกึง “

 

คมหมัดพันชั่งราวกับหินผาขนาดใหญ่กระเด็นกระดอนไปมาก็มิปาน ทั้งยังมีเสียงดังออกมาไม่หยุด แล้วก็ได้เกิดรอยร้าวขึ้นมาทางด้านของหินขนาดใหญ่ รอยแตกร้าวไหลเวียนออกไปไม่หยุด กระจายออกไป จนท้ายที่สุดก็ได้เกิดเสียงดังตูมออกมา จนในที่สุดเยี่ยจงก็ได้ทุบตีจนระเบิดออก กลายเป็นเพียงประกายแสงที่ค่อยๆเลือนหายไปท่ามกลางอากาศ

 

“ โครม “

 

ระหว่างการผสานใจนั้น มนุษย์ยักษ์สองหัวก็ได้กระอักโลหิตออกมา ร่างกายที่เป็นดั่งหินผาก็ได้กระเด็นกระแทกเข้ากับพื้นดินออกไป ใช้เวลาอยู่นานกว่าจะลุกขึ้นมาได้

 

“ เจ้ายังคงไม่ไหวจริงๆ “ เยี่ยจงตีค่าขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งยังไม่ให้เกียรติเลยแม้แต่น้อย มองออกไปด้วยสายตาเย็นชา

 

แต่ว่าภายในสายที่เย็นชาเช่นนี้ก็ได้ทำให้มนุษย์ยักษ์สองหัวสีหน้าปั้นยากขึ้นมาเต็มสิบส่วน

 

“ ซวบ “

 

เสียงนั้นได้ดังขึ้นมาในทันที หุบเขาสุสานกระบี่ที่ความจริงในตอนนี้มียอดฝีมืออัจฉริยะตามเข้ามา สถานที่เป็นเหมือนดั่งสนามอันเก่าแก่ทางด้านนอกก็เต็มไปด้วยการจับตามองเข้ามา ในตอนนี้ก็ได้พบเห็นเยี่ยจงกำลังทุบตีจนมนุษย์ยักษ์สองหัวกระอักโลหิตออกมา สีหน้าของแต่ละคนก็ได้เกิดความตกใจขึ้นมาอย่างไม่ธรรมดา

 

“ ข้าจะสับเจ้าเป็นหมื่นชิ้น “

 

มนุษย์ยักษ์สองหัวตะโกนขึ้นมา ในตอนนี้ดวงตาทั้งสี่ของทั้งสองหัวก็ได้เปลี่ยนเป็นสีแดงซ่าน ท่ามกลางการมองดูของผู้คนมากมาย มนุษย์ยักษ์กลับต้องพ่ายให้แก่เยี่ยจง จนทำให้เขาในตอนนี้แทบคลั่งขึ้นมาหลายส่วน

 

“ กึงกึงกึง “

 

มนุษย์ยักษ์สองหัวโกรธเคียงจนร่างกายทอประกายขึ้นมา เห็นได้ชัดว่า เขาในตอนนี้ได้ควบคุมพลังปราณมาจนถึงขีดสุด ในเวลาเดียวกันก็ได้ใช้ออกมาด้วยพลังทั้งหมดในฝ่ามือเดียว สะบัดลงไป คิดที่จะบดบี้เยี่ยจงให้ตาย

 

“ ไม่รู้จักประมาณตัวเอง “

 

เยี่ยจงถอนลมหายใจ มือขวาก็ได้รวมรั้งพลังเอาไว้อย่างเข้มข้น ประจวบเหมาะกับที่ได้จับไปยังนิ้วมือข้างหนึ่งของมนุษย์ยักษ์สองหัว จากนั้นก็หันกายคราหนึ่ง เยี่ยจงก็ได้ลากดึงมนุษย์ยักษ์สองหัวทั้งร่างราวกับสุนัขที่ตายแล้วตัวหนึ่ง ถูไถกระแทกเข้ากับพื้นดินอย่างรุนแรง วินาทีนั้น ก็ได้มีก้อนหินลอยกระจายวุ่นวาย

 

ยอดฝีมือรอบด้านที่จับตามองอยู่ต่างก็อ้าปากตาค้าง กระบวนท่านี้ของเยี่ยจงก็ชั่งดึงดูดสายตาที่กรอกไปมาดั่งลูกหนัง ขนาดร่างกายของทั้งสองฝ่ายแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่ว่ามนุษย์ยักษ์สองหัวกลับถูกเยี่ยจงกระทำเช่นนี้ได้ยังไงกัน ? หากว่าไม่เห็นด้วยตาตนเอง คงยากที่จะเชื่อได้ลง

 

มนุษย์ยักษ์สองหัวร่ำไห้ออกมา ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ ราวกับกำลังจะเป็นบ้าก็มิปาน แต่ว่าสายตาของเยี่ยจงกลับยิ่งเย็นชาขึ้น มือกลับเคลื่อนไหวไม่หยุด คว้าจับไปนิ้วของมนุษย์ยักษ์สองหัวฟัดออกซ้ายทีขวาที

 

“ กึงกึงกึง “

 

ร่างกายของมนุษย์ยักษ์สองหัวในตอนนี้ขอนไม้ขนาดใหญ่ก็มิปาน ถูกเยี่ยจงฟาดออกไปครั้งแล้วครั้งแล้ว จากนั้นก็ได้ถูกโยนออกไปอย่างรุนแรงกองอยู่บนพื้น ทุกครั้งที่ได้โยนออกไป ก็จะเกิดเรื่องดังขึ้นมาสนั่นหวั่นไหว จนทำให้พื้นดินเกิดการสั่นสะเทือนขึ้นมาจนก่อเกิดรอยแตกร้าวขึ้นมานับสิบเมตร

 

“ กึง “

 

จนครั้งสุดท้ายที่กระแทกลงพื้น หัวข้างหนึ่งของมนุษย์ยักษ์สองหัวก็ได้บิดเบี้ยวขึ้น ทางด้านอีกหัวหนึ่งก็ได้กระอักโลหิตออกมาหนักๆ จนพ่นก้อนเนื้อออกมา เห็นได้ชัดว่าได้ถูกเยี่ยจงทำร้ายจนบาดเจ็บจนถึงภายในแล้ว

 

ผู้คนทั้งหมดต่างก็อยู่ในอาการตะลึงลาน ความจริงพวกเขายังคิดว่า ต่อให้เยี่ยจงสามารถที่จะสังหารมนุษย์ยักษ์สองหัวได้ อย่างน้อยก็ต้องใช้ออกมาด้วยไพ่ตายของตนเอง แต่ก็คิดไม่ถึงว่าจะสามารถเอาชนะมนุษย์ยักษ์ที่เปี่ยมไปด้วยพลังด้วยกำลังกายเช่นนี้ได้ พลังร่างกายของเยี่ยจงผู้นี้ แท้จริงแล้วมีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับใดกัน ? ยากที่จะคาดเดาออกมาได้จริงๆ

 

“ หยุดเขาเอาไว้ “

 

บริเวณทางด้านของอีกฝ่าย ยอดฝีมือสิบกว่าคนก็ได้สั่นไหวนัยน์ตาไปมา เป้าหมายในครั้งนี้ของพวกเขาก็คือสังหารเยี่ยจง ไม่อาจที่จะเอาแต่มองดูเยี่ยจงทุบตีจนมนุษย์ยักษ์สองหัวตายลงเช่นนี้ได้

 

ทันใดนั้นเอง ยอดฝีมือสี่ห้าคนก็ได้พุ่งออกไปในเวลาเดียวกัน มีทั้งเผ่ามนุษย์ มีทั้งสิ่งมีชีวิตเขาหลิงซาน แต่ละคนต่างก็ได้ใช้ออกด้วยสมบัติปราณออกมา ใช้ด้วยทักษะยุทธ์สังหารออกมา หมายมั่นที่จะหยุดยั้งเยี่ยจงเอาไว้

 

“ กร๊อบ “

 

เยี่ยจงก้าวเท้าออกไป เขาก็ได้เหยียบลงไปที่คอนั้นพอดี เมื่อได้ยินเสียงแตกหักดังขึ้นมา ยอดฝีมืออีกฝ่ายที่ยังไม่ได้พุ่งออกไป มนุษย์ยักษ์สองหัวก็จะตายมิตายอยู่แล้ว

 

เยี่ยจงร้องเชอะออกมาอย่างเย็นชา เขากวาดเท้าออกไป ก็ได้เกิดพลังมหาศาลขึ้นมา ร่างกายของมนุษย์ยักษ์สองหัวก็ได้กระเด็นออกไปในทันทีดุจดั่งเขาน้อยๆลูกหนึ่งกระเด็นออกไป เพื่อที่จะขัดขวางสมบัติปราณและทักษะยุทธ์ที่เข้ามาทางด้านของเยี่ยจง

 

“ กึงกึงกึง “

 

ยอดฝีมือเหล่านี้ยังไม่ทันจะได้รั้งมือเอาไว้ ก็ได้แต่มองดูสมบัติปราณและทักษะยุทธ์ของตนเองกระแทกเข้ากับมนุษย์ยักษ์สองหัว ต่อให้มนุษย์ยักษ์สองหัวเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีร่างกายที่เรียกได้ว่าแข็งแกร่ง แต่ว่าในตอนนี้เขาก็เหลือลมหายใจเพียงเฮือกสุดท้ายแล้ว เมื่อถูกยอดฝีมือมากมายโจมตีเข้ามาพร้อมกัน ร่างกายก็ได้แตกกระจายออกไป จนกลายเป็นสองซีก ทันใดนั้นก็ได้มีโลหิตสดๆกระจายออกมา

 

“ แม้แต่พวกเดียวกันก็ไม่ละเว้น ที่แท้ก็มีฝีมือดุร้ายนัก “

 

เยี่ยจงหัวเราะเย็นชา จากนั้นเขาก็ได้พลิกมือคราหนึ่ง นำธนูเงาเมฆาเพลิงออกมา ในช่วงเวลาที่ยอดฝีมือหลายคนยังมีปฏิกิริยากลับมาไม่ทัน ก็ได้ดึงสายธนูออก วินาทีนั้น ก็ได้ก่อคมธรโพยพุ่งออกไป

 

ในตอนที่ยอดฝีมือทั้งหลายถูกทำลายจนร่างกายแตกออก ก็แทบจะเรียกได้ว่ามีปฏิกิริยากลับมาไม่ทัน ก็ได้มีนกตัวหนึ่งสะบัดปีกออกมา สะบัดกลับไปอย่างรุนแรง ที่หลงเหลืออยู่หลายคนต่างก็ล้มลุกคุกคลานถอยออกไป แทบจะไม่มีหนทางที่จะต้านทานธนูเงาเมฆาเพลิงที่ใช้ออกด้วยเงาอสูรได้เลย

 

“ ธนูเงาเมฆาเพลิง ? “

 

อินทรีย์ทองสุริยะในตอนนี้ก็ได้ทอสีหน้าประหลาดออกมา จ้องมองไปที่ด้านของเยี่ยจง ดุจดั่งพบพานภูติผีก็มิปาน

 

“ เจ้าถึงกับสังหารเทียนจุ่ยหนึ่งในยอดนักรบอันดับหนึ่งเผ่าปีกของท่านผู้นั้น ทั้งยังได้นำเอาธนูเงาเมฆาเพลิงที่เป็นสมบัติของเผ่าปีกเอาไว้งั้นหรือ ? “ อินทรีย์ทองสุริยะจ้องมองไปที่เยี่ยจง สีหน้าเต็มไปด้วยยากที่จะเชื่อออกมาอีกแบบหนึ่ง

 

“ ก็บอกต่อเจ้าก็แล้วกัน แล้วยังมีชายหนุ่มที่มีเขามีมากับเขา และชายหนุ่มที่มีสี่แขนต่างก็ตายตกภายใต้น้ำมือของข้า แต่ว่าเป็นเช่นนี้แล้วจะเป็นไรไป ? “ เยี่ยจงมองไปทางด้านอินทรีย์ทองสุริยะอย่างเย็นชา ดวงตาปรากฏความเหยียดหยามขึ้น “ คิดที่จะลงมือเพื่อพวกเขางั้นหรือ ? เยี่ยมมาก ข้าจะส่งเจ้าให้ไปพบกับพวกเขาเอง “

 

“ เยี่ยจง เจ้าชั่งบังอาจสุนัขบัดซบของแท้เลย ดูเหมือนว่าถ้าสังหารเจ้าไปแล้วละก็ ยังถือได้ว่าเป็นการศึกน้ำใจกับท่านผู้นั้นอีกด้วย เจ้าชั่งมีราคาค่างวดนัก “ ภายในดวงตาและสีหน้าของอินทรีย์ทองสุริยะก็ได้เปลี่ยนเป็นหนักแน่นขึ้นมา มันจ้องมองไปที่เยี่ยจง แล้วก็ได้เกิดรังสีสังหารขึ้นมาอย่างเข้มข้น

 

“ กล่าวออกมาตั้งมากมาย พวกเจ้าไม่ใช่ลูกน้อยคนเด็กน้อยผู้นั้นหรอกหรือ ? “ เยี่ยจงขมวดคิ้ว เขาความจริงนึกว่าผู้คนเหล่านี้สมควรที่จะเป็นเหล่าลูกน้องของบุคคลผู้นั้น ในตอนนี้ดูเหมือน คงจะไม่ใช่ซะแล้ว

 

“ เจ้าอย่าได้พูดจาไร้สาระมากไป “ อินทรีย์ทองสุริยะ จากนั้นร่างกายของมันก็ได้สั่นไหวในทันที แล้วก็ได้ก่อเกิดประกายแสงสีทองสาดทอออกมาเป็นสาย กระจายออกมุ่งไปทั่วทั้งรอบด้าน จนในที่สุดก็ได้เข้าไปใกล้ยังข้างกายเยี่ยจง จากนั้นก็ได้กวาดกรงเล็บออกไป

 

เห็นได้ชัดว่า เขาเกรงกลัวว่าเยี่ยจงจะใช้ออกมาด้วยธนูเงาเมฆาเพลิงในมือ คิดที่จะเข้าต่อสู้ระยะประชิดกับเยี่ยจง

 

“ กึง “

 

กรงเล็บอินทรีย์ได้ถูกใช้ออก จนทำให้เยี่ยจงกระโดดถอยออกไป วินาทีนั้น ราวกับมีเสียงของเหล็กทองกระทบกันดังออกมา เกิดประกายแสงสีทองกระจายออกไปทั่วทั้งสี่ทิศแปดด้านอย่างวุ่นวาย ก้อนหินบนพื้นก็ได้กระเด็นออกไปรอบด้าน จนทำให้ผู้คนเกิดความตกใจขึ้นมา

 

“ ดูเหมือนว่ามันจะพบกับความวาสนาใหม่แล้วสินะ “ เยี่ยจงทอสายตาเย็นเยียบ พลังฝีมือของอินทรีย์ทองสุริยะเมื่อเทียบกับครั้งก่อนเห็นได้ชัดว่ายังสูงส่งกว่าครั้งก่อนขั้นหนึ่ง ดูเหมือนว่าหากไม่เป็นเช่นนี้ ในตอนนี้มันก็ไม่กล้าที่จะปรากฏออกมาเบื้องหน้าตนเองแล้ว

 

“ ฆ่า “

 

อินทรีย์ทองสุริยะไม่ได้สนใจสายตาที่มองเข้ามาของเยี่ยจง เพียงแต่อ้าปากออกมา พ่นไฟสีแดงเพลิงหลั่งไหลออกมา มุ่งหน้าหมุนวนไปโดยรอบบริเวณที่เยี่ยจงอยู่ เยี่ยจงส่งเสียงดังชิเย็นชาออกมา ใช้ทั้งสองมือคว้าจับออกไปทางด้านหน้า วินาทีนั้นก็ได้สะบัดเปลวเพลิงในอากาศจนกระจายออกไป จนแบ่งเป็นทั้งสองด้าน

 

“ กึก “

 

เปลวเพลิงได้ตกลงไปสู่พื้นดิน ทันใดนั้นแม้แต่ก้อนหินก็ได้กลายเป็นหินเพลิงสีแดงซ่าน เห็นได้ชัดว่า เปลวเพลิงสายนี้ได้ก่อเกิดพลังอันน่าหวาดกลัวไว้ไม่น้อย หากว่ากระทบถูกร่างกาย สถานการณ์ต่อไปคงยากจะคาดเดา

 

“ ตูม “

 

เมื่อพบว่าเยี่ยจงได้แหวกเปลวเพลิงของตนเองออก อินทรีย์ทองสุริยะก็ได้กวาดปีกนกสีทองข้างหนึ่งออกไป ดุจดั่งกวาดออกมาด้วยประกายแสงสายหนึ่งก็มิปาน คิดที่จะทำให้เยี่ยจงขาดเป็นสองท่อนทั้งแบบนั้น

 

เยี่ยจงกวาดนิ้วออกไปคราหนึ่ง พลังดัชนีก็ได้พุ่งเข้าไปทางด้านปีกของอินทรีย์ทองสุริยะ จากนั้นร่างกายก็ได้ถอยออกไปดุจดั่งประกายสายฟ้า จากนั้นปีกสีทองก็ได้ตัดผ่าสังหารไปถูกหินก้อนหนึ่ง วินาทีนั้น ก็ได้พบเห็นหินก้อนนั้นก็ถูกผ่าเป็นสองซีก อีกทั้งยังเป็นรอยผ่าที่เรียบอย่างยิ่ง เห็นได้ชัดว่า ปีกบนร่างกายของอินทรีย์ทองสุริยะเป็นเหมือนดั่งอาวุธที่มีความคมกล้าก็มิปาน ทั้งยังสามารถใช้ออกมาด้วยพลังมีมหาศาล น่าหวาดกลัว ยากที่จะต่อกรได้

 

เมื่อเห็นว่าเยี่ยจงได้ทำลายกระบวนท่านี้ของตนเองได้ สีหน้าของเขาก็ได้เย็นชากว่าเดิม ทันใดนั้นเอง ร่างกายของก็ได้ลอยขึ้นสู่ท่ามกลางอากาศ วินาทีนั้นก็ได้ก่อกเกิดสายลมพายุหมุนวนขึ้น มุ่งหน้าเข้าปะทะและสังหารออกไป เป็นการโจมตีที่น่ากลัวอย่างสุดเปรียบปาน

 

“ นี้มันอินทรีทองสุริยะ แข็งแกร่งมาก “

 

ยอดฝีมือทั่วสี่ทิศต่างก็สูดหายใจเข้า ต่างก็มองไปร่างกายที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดของอินทรีทองสุริยะ ที่เรียกได้ว่ามีความแข็งแกร่งอย่างมากเต็มสิบส่วน วันนี้พบเห็นการลงมือเช่นนี้ จึงได้ทราบว่าถึงระยะห่างความแข็งแกร่งของแต่ละเผ่าพันธุ์ แม้แต่เยี่ยจงที่เป็นถึงยอดฝีมือยอดอัจฉริยะแห่งยุค ในตอนนี้ก็ยังถูกมันกดดัน เพียงพอที่จะเรียกได้ว่าแข็งแกร่งแล้ว

 

“ เจ้านกขนทองตัวนี้น่ากลัวเกินไปแล้ว เยี่ยจงไม่เป็นไรนะ “ องค์รักษ์เสื้อแพรลั่วเฉิงก็ได้กุมไปที่หน้าอกแล้วกล่าวออกมา สีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมา

 

“ ถึงแม้ว่ามันจะแข็งแกร่งอย่างมากก็จริง แต่ว่าอย่าได้ลืมไปว่า เมื่อวันก่อนที่เยี่ยจงอยู่ที่งานพิธีฉลองวันครบรอบ แม้แต่เจ้าสำนักเสวียนหวินและผู้อาวุโสของสำนักต่างก็ถูกเขาสังหารไป กับอีกแค่นกตัวใหญ่ตัวหนึ่งถือเป็นตัวอะไร “ คุณชายสี่ทิศกงซุนจวิ้นด่าทอออกมา แต่ว่าในคำพูดของเขาก็ได้ทำให้สีหน้าของยอดฝีมืออีกฝ่ายทอประกายเย็นชาออกมา

.

.

.

.

กลุ่มลับ ติดต่อได้หลังไมค์ครับ กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น เข้ากลุ่ม 3/4/5/6/7 ราคา 400
กลุ่ม3 https://goo.gl/dV1p9e ตอนที่ 210-290
กลุ่ม4 https://goo.gl/ESwaou ตอนที่ 291-370
กลุ่ม5 https://goo.gl/ekcF7V ตอนที่ 371-450
กลุ่ม6 https://goo.gl/4rqw89 ตอนที่ 451-530
กลุ่ม7 https://goo.gl/qrQ7GA ตอนที่ 531-610 ล่าสุดตอนที่ 600

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset