เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 268 ไพ่ตายของแต่ละฝ่าย

ตอนที่ 268 ไพ่ตายของแต่ละฝ่าย

 

 

“ เยี่ยจง เจ้าได้ทำให้ข้าโกรธแค้นจนถึงก้นบึ้งเลยนะ “ อินทรีย์ทองสุริยาก็ได้ทอสีหน้าปั้นยาก มันก็ได้อ้าปากส่งเสียงขึ้นมาอย่างกะทันหัน พ่นหมอกคมกล้าออกมากลุ่มหนึ่ง ความคมกล้านั้นทอออกมาจนเป็นประกาย ทั้งยังรอยรวมกันขึ้นมา แสบตาเป็นอย่างยิ่ง

 

นี้เป็นขวดน้ำเต้าเล็กๆขวดหนึ่ง คาดว่ามีความใหญ่เพียงหนึ่งฝ่ามือของเผ่ามนุษย์เท่านั้น ทั้งยังมีลักษณะเป็นสีเหลืองทอง ให้ความรู้สึกที่ดูแล้วมีเสน่ห์ชนิดหนึ่ง

 

เมื่อตอนที่อินทรีย์ทองสุริยาได้ใช้ออกมา วินาทีนั้นก็ได้พบว่าขวดน้ำเต้าหมุนวนไปมา บริเวณปากจุก วินาทีนั้นได้ปล่อยประเป็นประกายออกมานับหมื่น เป็นดั่งสุราที่สาดออกมาเป็นประกาย จนปกคลุมอยู่ทางด้านล่าง เก็บกวาดทุกสิ่งที่อย่างไป

 

“ ฮูม “

 

เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียว หมอกเหล่านี้ก็ได้ถูกแรงดึงดูดบางอย่างดูดเข้าไป ถูกดูดจนหายวาบไปอย่างไม่หลงเหลือ

 

“ นี้คือ น้ำเต้าเซียนจื่อจิงที่เล่าขานกันงั้นหรือ ? “ เยี่ยจงสีหน้าเปลี่ยนไป จดจำออกว่าเป็นสมบัติที่เป็นดั่งเตาหลอมที่มีชื่อ ร่างกายของเขาถอยไปด้านหลังด้วยตนเอง หากว่าเป็นสมบัติสังหารนั้น เขาในตอนนี้คงจะมิอาจที่จะต่อกรได้แล้ว

 

“ นี้ไม่ใช่น้ำเต้าเซียนจื่อจิง เพียงแต่เป็นแค่สมบัติที่ถูกสร้างขึ้นโดยการเลียนแบบในภายหลังก็เท่านั้นเอง ทว่าถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น ก็ยังถือได้ว่ามีความน่ากลัวอยู่ เจ้าต้องระวังเอาไว้ให้ดี “ เสียงของเสี่ยวหลุนดังออกมา ทั้งยังมีความเคร่งเครียดขึ้นหลายส่วน

 

เมื่อพบว่าเยี่ยจงกำลังถอยไป อินทรีย์ทองสุริยาก็ได้ปรากฏขึ้นท่ามกลางอากาศ มันจ้องเยี่ยจงเขม็ง กล่าวเสียงเย็นชา “ เยี่ยจง เจ้าตอนนี้ก็ควรจะทราบแล้วว่า พวกเจ้าเผ่ามนุษย์ก็ช่างไร้พลังทั้งยังอ่อนแอแล้วสินะ ? หากว่าข้าคิดที่จะสังหารเจ้า ก็เป็นแค่เพียงเรื่องในพริบตาเดียวเท่านั้น เมื่อครู่ข้าได้ให้โอกาสเจ้าไปแล้ว แต่ว่าเจ้ากลับไม่ยอมรับมัน ดังนั้น ตอนนี้เจ้าก็ตายไปเสียเถอะ “

 

เสียงอันเย็นชาได้ดังขึ้นมา จากนั้นอินทรีย์ทองสุริยาก็ได้ควบคุมน้ำเต้าเซียนจื่อจิง หมายที่จัดฉากการสังหารขึ้นมา

 

“ ซูม “

 

เสียงๆหนึ่งได้ดังกระทบโสตประสาทออกมา ในตอนนี้ ก็ได้ก่อเกิดพลังอันแข็งแกร่งขึ้นมกลุ่มหนึ่ง วินาทีนั้นเอง น้ำเต้าเซียนจื่อจิงก็ได้สาดประกายไม่หยุดยั้ง เริ่มที่จะกลืนทุกสรรพสิ่งเข้าไป อีกฝ่ายไม่ว่าจะมีจำนวนมากหรือเป็นหินใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง ต่างก็ได้ถูกน้ำเต้าเซียนจื่อจิงดูดเข้าไป แม้แต่ตัวเยี่ยจงเองก็ยังต้องมีสีหน้าปั้นยากขึ้นมาเมื่อเห็นการดูดกลืนเช่นนี้ สายตาที่มองเข้าไปราวกับจะถูกน้ำเต้าเซียนจื่อจิงดูดเข้าไปก็มิปาน

 

องค์หญิงหก จ้านหวังน้อยและคนอื่นๆต่างก็สีหน้าเปลี่ยนไป หากว่าเยี่ยจงต้องมาแพ้ในตอนนี้แล้วละก็ เช่นนั้นก็ไม่ต้องอธิบายแล้ว สถานการณ์ต่อไปของพวกเขาโดยส่วนมากแล้วก็พอที่จะทราบได้

 

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับฝ่ายตรงข้าม ยอดฝีมือเหล่านี้ต่างก็เผยรอยยิ้มของความสุขและโหดร้ายออกมา พวกเขาทราบดีว่าเยี่ยจงยากที่จะต่อกรได้ แต่ว่า ก็คิดไม่ถึงว่าอินทรีย์ทองสุริยาจะมีสมบัติสังหารเช่นนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นคนเช่นไรก็ไม่อาจที่จะดูแคลนไปได้

 

“ คงไม่อาจยั้งไว้ไมตรีได้อีกแล้ว “

 

ท่ามกลางอากาศ เยี่ยจงก็ได้เข้ามาจนถึงท่ามกลางของน้ำเต้าเซียนจื่อจิง แต่ว่าในวินาทีนั้น เขาก็ได้เก็บธนูเงาเมฆาเพลิงเอาไว้ พลิกสองมือเปลี่ยนแปลงไปมา มือข้างหนึ่งชี้ขึ้นนภามือข้างหนึ่งชี้ไปที่พสุธา พลังคลุมนภาประทับพสุธาสายหนึ่งก็ได้แผ่กระจายออกมาในทันที

 

“ ชิ “

 

แต่ว่าเพียงแค่ทันใดนั้น เยี่ยจงที่ยังไม่ทันจะได้ก่อรูปสร้างตราผนึกนภาได้สำเร็จ ก็ต้องหายไปในทันที จนทำให้เขาเกิดความเคร่งเครียดขึ้นมาเล็กน้อย

 

“ น้ำเต้าเซียนจื่อจิงนี้ของข้าเพื่อที่จะต่อกรกับกระบวนท่านี้ของเจ้าจึงได้หยิบยืมมาเชียวนะ ตายซะเถอะ “ อินทรีย์ทองสุริยาหัวเราะเย็นชา “ เจ้าในตอนนี้ จะหยิบยืมควบคุมพลังปราณฟ้าดินอันแข็งแกร่งชนิดนี้ได้ไปถึงไหนกัน ? อ่อนหัดจริง “

 

“ เจ้านกขนทอง ข้าดูแคลนเจ้าเกินไปแล้วจริงๆ “ สีหน้าเยี่ยจงเปลี่ยนไปมา ในที่สุด เขาก็ได้ขยับแขนขวา กระบี่ดำเล่มหนึ่งก็ได้ปรากฏขึ้นมาบนใจกลางฝ่ามือ จากนั้นเขาก็ได้ใช้แขนฟันกวาดออกคราหนึ่ง วินาทีนั้นเอง ก็ได้พบว่าได้ยินเสียงของภูติผีร้ำร้องทอดดังออกมานับไม่ถ้วน พลังความแค้นฆ่าฟันกลุ่มหนึ่งก็ได้พุ่งขึ้นออกไป ทั้งยังได้ทำให้สีของฟ้าดินเปลี่ยนไปอีกแบบหนึ่ง

 

“ ตูม “

 

น้ำเต้าเซียนจื่อจิงก็ได้แผ่ประกายคมกล้าในตอนนี้ออกมาปะทะกับการโจมตีจนหายไป

 

ร่างกายของเยี่ยจงในตอนนี้ก็ได้ขยับอยู่ท่ามกลางอากาศ ในขณะที่ลงมาด้านบนพื้นดิน เขาก็ได้ยกกระบี่ดำในมือขึ้นมา ในตอนนี้ก็ได้มีประกายสีดำกระจายออกมานับไม่ถ้วน ในเวลาเดียวกันก็ราวกับก่อขึ้นเป็นรูปร่างก็มิปาน แต่ก็ไม่มีผู้ใดที่พอจะสามารถพบเห็นร่ากายที่แท้จริงนี้ได้อย่างชัดเจน

 

“ นี้ก็คือกระบี่เล่มที่เจ้าได้รับมาจากสุสานกระบี่อย่างงั้นหรือ ? “ อินทรีย์ทองสุริยาเกิดความสงสัยขึ้นเล็กน้อย ข่าวลือที่เยี่ยจงได้รับกระบี่ที่เสียหายไปมันก็ได้รับมาตั้งแต่แรกแล้ว หากว่าไม่ใช่เป็นเช่นนี้ พวกเขากลุ่มนี้ก็คงจะไม่ทราบได้ว่าเยี่ยจงอยู่ในสถานที่แห่งนี้ แต่ว่า ตามคำบอกเล่านั้นกระบี่เล่มนี้กลับไม่ได้มีความแข็งแกร่งเช่นนี้นิ

 

เยี่ยจงหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา แขนซ้ายก็ได้ค่อยๆขยับไปมาอย่างช้าๆ กระบี่ดำเล่มนี้ในช่วงเวลาที่เขาทำพิธีผสานใจก็ตรวจพบได้ว่า ด้านในนั้นได้ปกคลุมไว้ด้วยพลังที่ความแค้นสะเทือนฟ้าสะท้านดินได้ แล้วก็ไม่ทราบได้ว่ากระบี่ดำนี้ที่แท้ได้สังหารสิ่งใดไปมากน้อยเท่าไร จึงจะสามารถหลงเหลือพลังความแค้นขนาดนี้เอาไว้ได้ ดังนั้น เยี่ยจงไม่เพียงแต่แข็งขืนทำพิธีผสานใจกับกระบี่ดำเล่มนี้ เพื่อที่จะให้ตนเองสามารถควบคุมได้เท่านั้น แต่ก็คิดไม่ถึงว่า ในขณะที่กำลังควบคุมกระบี่เล่มนี้ ถึงกับมีพลังต่อสู้เช่นนี้ออกมาได้ เพียงแต่ว่า พลังทำลายเมื่อครู่ของกระบี่เล่มนี้แม้จะยิ่งใหญ่ แต่ว่าบนแขนของเยี่ยจงในตอนนี้กลับสั่นเทาไปมา ท่ามกลางห้วงสมองของเขา ในตอนนี้ยังคงถูกความเครียดแค้นนับไม่ถ้วนรุมเร้าเขาอยู่ คิดที่จะลากดึงเขาเข้าสู่ความมืดมิด จนกลายเป็นเพียงซากศพเดินได้ที่รู้จักแต่เพียงการฆ่าฟันเท่านั้น ยังดีที่เยี่ยจงมีจิตใจที่มุ่งมั่น ในตอนนี้เขากัดฟันเอาไว้อย่างเอาเป็นเอาตาย เพื่อที่จะคุมสติเอาไว้ให้กระจ่างอยู่ตลอด

 

“ ทว่า เช่นนี้แล้วจะเป็นไร ? “

 

อินทรีย์ทองสุริยาเพียงแต่สงสัยขึ้น ทันใดนั้นเอง มันก็ได้สยายปีกออก ในเวลาเดียวกันก็ได้ควบคุมขนกระบี่ทั้งสิบเก้าเล่มและน้ำเต้าเซียนจื่อจิง มุ่งหน้าเข้าไปทางด้านของเยี่ยจง เยี่ยจงเรียกได้ว่าน่ากลัวจนเกินไป หากว่าไม่สังหารแต่เนิ่นๆ มันก็จงจะหลับอย่างไม่เป็นสุข และวันนี้ก็ถือได้ว่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะสังหารเขา หากว่าวันนี้ผิดพลาดไป การที่จะหาโอกาสเช่นนี้ในวันหน้า คงจะเป็นไปได้ยาก

 

สีหน้าเยี่ยจงเย็นชาขึ้น ในตอนนี้สายตาของเขาก็ได้ปรากฏเส้นโลหิตออกมาเป็นประกาย กระบี่ดำในมือราวกับถูกกวาดออกมาราวกับมังกรมารก็มิปาน วินาทีนั้น คมกระบี่ก็ได้ก่อรวมความชิงชังพุ่งขึ้นฟ้า จนกลายเป็นวังวนสีดำมุ่งหน้าออกไปทั่วทั้งสี่ทิศ

 

“ เคร่งเคร่งเคร่ง “

 

เสียงนั้นดังออกมาไม่ขาดสาย เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียว ขนกระบี่ทั้งสิบเก้าเล่มนั้นก็ได้ถูกทำลายลงในเวลาเดียวกัน สูญสิ้นพลังปราณในที่สุด

 

“ โครม “

 

ท่ามกลางอากาศ ร่างกายของอินทรีย์ทองสุริยาก็ได้สั่นไหวไปมา กระอักโลหิตออกมาคำหนึ่ง สีหน้าของมันแสดงออกถึงยากที่เชื่อได้ ค่ายกลกระบี่นี้ของตนเองเรียกได้ว่าน่ากลัวอย่างถึงขีดสุด เพราะอะไรเยี่ยจงถึงกับทำลายมันลงได้อย่างง่ายดาย กระบี่ดำเล่มนี้ในมือของเขา ที่แท้มีที่มาอย่างไรกันแน่ ?

 

บริเวณของอีกฝ่าย เยี่ยจงใช้เพียงกระบี่เดียวก็ทำลายขนกระบี่ทั้งสิบเก้าเล่มลงได้ ทันใดนั้นเอง เขาก็ได้ย่างกรายออกมา ร่างกายพุ่งขึ้นไปบนฟ้าทันที ราวกับมีปีกงอกออกมาทางด้านหลังก็มิปาน คมกระบี่ตัดผ่าดุจดั่งสายรุ้ง มั่งหน้าฟาดฟันไปทางด้านของอินทรีย์ทองสุริยา

 

“ ตายซะ “

 

อินทรีย์ทองสุริยาทราบว่าหากว่ามันถอยไปในตอนนี้ สถานการณ์ต่อไปคงมีเพียงคำว่าตาย มันในตอนนี้ก็ได้ใช้ออกด้วยน้ำเต้าเซียนจื่อจิงอย่างบ้าคลั่ง ในเวลาเดียวกันก็ได้พ่นพลังปราณกระบี่เจ็ดสายรุ้งออกมาจากในปาก ท่ามกลางในตอนที่ลอยอยู่บนอากาศนี้ คิดหมายที่จะฆ่าสังหารเยี่ยจงในทันที

 

นี้เป็นถึงสมบัติเซียนอีกชิ้น ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีจิตของกระบี่ หากว่าเผยออกมาได้ ต่อให้เป็นยอดฝีมือขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายก็ยังต้องได้รับบาดเจ็บ

 

ยอดฝีมือมากมายที่มองดูอยู่รอบด้านต่างก็จ้องมองจนตาเป็นมัน อินทรีย์ทองสุริยานี้ที่แท้ขุดสุสานบรรพบุรุษของผู้ใดมา ถึงกลับมีสมบัติเซียนมากมายถึงเพียงนี้ ควรทราบว่า การเข้ามายังสุสานกระบี่ในครั้งนี้ มีผู้คนไม่น้อยที่แม้แต่เงาของสมบัติเซียนก็ยังไม่เคยพบเห็น แต่ว่าอินทรีย์ทองสุริยากลับมีอยู่มากมายถึงเพียงนี้ จนทำให้ผู้คนต่างก็เกิดความอิจฉาขึ้นมา

 

“ เคร่ง “

 

ท่ามกลางอากาศ เยี่ยจงก็ได้รวมรั้งกระบี่ยาวหมุนไปรอบหนึ่ง คมกระบี่ก็ได้ต้านทานประกายแสงที่ออกมาจากน้ำเต้าเซียนจื่อจิง กระบี่ดำตัดมันออกไป วินาทีนั้นก็ได้ยินเสียง”ตูม”ดังขึ้น ปราณกระบี่เจ็ดสายรุ้งก็ได้สั่นไหวช้าๆ แล้วก็ได้ระเบิดออกจนกลายเป็นเพียงประกายท่ามกลางอากาศ

 

“ โครม “

 

ผู้คนมากมายที่มองดูอยู่ด้านล่างก็แทบกระอักโลหิตออกมา แค้นใจแทบตาย

 

“ นั้นเป็นถึงสมบัติเซียนเลยนะ เยี่ยจงนั้นยังถึงกับลงมือไปแล้วจริงๆ “

 

“ นั้นต่างก็ถือได้ว่าเป็นสมบัติเซียนประจำรัฐประจำสำนักได้เลยนะ ถึงกับถูกเด็กน้อยผู้นี้ทำลายลงแล้ว “

 

ผู้คนไม่น้อยต่างก็เท้าไม่ติดพื้น สิ่งของเหล่านี้ถ้าหากปรากฏอยู่ต่อหน้าของพวกเขา พวกเขาไม่ว่ายังไงก็ไม่อาจที่จะทำลายได้ลง เยี่ยจงผู้นี้กลับยอดเยี่ยมจริง การลงมือไม่แม้แต่หลงเหลือไมตรีเอาไว้ แล้วก็ไม่คิดว่าผู้คนโดยรอบที่มองอยู่จะรู้สึกเช่นไร

 

“ เสียของ เสียของแล้ว นี้มันต่างก็เป็นของดีเลยนะ “

 

และในเวลาเดียวกัน เสี่ยวหลุนก็ได้ส่งเสียงเข้ามาภายในห้วงสมองของเยี่ยจง สิ่งเหล่านี้เมื่อมันเห็นแล้วก็เกิดอาการน้ำลายส่อขึ้น แต่ว่าคนใหญ่คนโตกลับทำลายมันลงไปอย่างไม่เกรงใจเลย จนทำให้มันแทบจะเป็นบ้าขึ้นมา

 

“ โครม “

 

ท่ามกลางอากาศ อินทรีย์ทองสุริยาก็ได้กระอักโลหิตออกมาอีกคำ สมบัติเซียนนี้ได้ผสานไปพร้อมกับจิตสำนึกของมัน เมื่อได้รับความเสียหายอย่างหนึ่งไป มันก็จะได้รับความเสียหายอันหนักหน่วงด้วยเช่นกัน ในเวลาเดียวกันก็ได้ทำให้จิตใจของมันสั่นไหวไปมา

 

เมื่อได้รับการโจมตีติดต่อกันถึงสองครา ก็ได้ทำให้อินทรีย์ทองสุริยาสูญเสียความสามารถในการตอบสนองไปในทันที

 

“ ตูม “

 

ท่ามกลางอากาศ ร่างกายของเยี่ยจงก็ได้เคลื่อนไหวอีกครั้ง ในตอนที่อินทรีย์ทองสุริยายังตอบสนองกลับมาไม่ทัน กระบี่ดำในมือก็ได้เพิ่มพลังขึ้นสู่อีกขั้น มุ่งหน้าเข้าฟาดฟันไปทางด้านหน้า

 

“ ซวบ “

 

อินทรีย์ทองสุริยาร้องออกมาอย่างเจ็บปวด เสื้อคลุมศึกบนตัวของมันในตอนนี้ก็ได้แตกกระจายออก มีบาดแผลอยู่เต็มร่าง ในเวลาเดียวกันเยี่ยจงก็ได้ใช้กระบี่ตัดผ่าไปที่ปีกข้างหนึ่งของมัน จนทำให้ร่างกายที่อยู่ท่ามกลางอากาศต้องร่วงลงสู่พื้น

 

“ ถี่ “

 

ท่ามกลางอากาศ น้ำเต้าเซียนจื่อจิงในตอนนี้ก็ได้สูญเสียการควบคุม เยี่ยจงยื่นมือออกไป แรงดึงดูดขนาดใหญ่สายหนึ่งก็ได้หมุนวนออกมา ในตอนที่ผู้คนนับไม่ถ้วนต่างก็อ้าปากตาค้าง ก็ได้ดูดซึมเข้าไปยังภายในใจกลางฝ่ามือ จากนั้นก็ได้เอามาอยู่ในมือ

 

“ เปรี้ยง “

 

“ เยี่ยจง เจ้าที่น่าตาย “ อินทรีย์ทองสุริยาที่ฟุบลงอยู่บนพื้นดิน มันก็ได้คลุกคลานพยายามลุกขึ้นมา ทั่วทั้งร่างกายก็ได้เต็มด้วยคราบโลหิต สูญเสียพลังที่จะต่อสู้ไปตั้งแต่แรกแล้ว เมื่อพบว่าเยี่ยจงเก็บจิตเซียนผสานสมบัติเซียนชิ้นสุดท้ายไป มันก็ได้กระอักโลหิตออกมาอีกครั้ง ร่างกายสั่นไหวขึ้นมา

 

“ ตูม “

 

ในขณะที่เยี่ยจงกำลังจะลงมือสังหาร ในช่วงกะทันหัน ก็ได้มีประกายแสงคมกริบสายหนึ่งพุ่งขึ้นฟ้า ครู่เดียวก็ได้ทำให้ทั่วทั้งสี่ด้านเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังกดดันอันน่าหวาดกลัวชนิดหนึ่ง ทั่วทั้งพื้นดินต่างก็ได้สั่นไหวขึ้นมา

 

บริเวณทางด้านฝ่ายตรงข้าม กลุ่มชายหนุ่มเผ่ามนุษย์ในที่สุดก็ได้เคลื่อนไหว เขาเพียงแค่ก้าวเดินออกไปหนึ่งก้าว ร่างกายก็ได้แผ่หมุนวนบรรยากาศอันน่ากลัวขึ้นมา ในตอนนี้ราวกับว่าชายหนุ่มผู้นี้ราวกับเทพสงครามก็มิปาน เป็นที่จับตามองของทุกผู้คน

 

“ พวกเจ้าลงมือพร้อมกัน เข้าไปสังหารเขาซะ “ เขากวาดสายตาอันดุดันไปยังอินทรีย์ทองสุริยาที่ได้รับบาดเจ็บหนักคราหนึ่ง จากนั้นก็ได้มองไปทางด้านเยี่ยจง เอ่ยขึ้นมาอย่างเย็นชา

 

“ แต่ว่า เขา กระบี่ดำในมือของเขา ที่แท้ก็คือ —— ” ยอดฝีมือที่หลงเหลืออยู่ในตอนนี้ต่างก็ขนลุกขึ้นมา ร่างกายสั่นเทาด้วยความกลัว พวกเขาต่างก็นับได้ว่าเป็นอัจฉริยะประจำสำนัก ในตอนนี้ได้ร่วมมือกับต่อกรกับเยี่ยจง สมควรที่จะไม่มีไม่มีอุปสรรค แต่ว่าเมื่อเห็นอาการบาดเจ็บของอินทรีย์ทองสุริยา ก็ได้ทำให้ร่างกายของพวกเขาสั่นเทาด้วยความกลัวไม่หยุด

 

เยี่ยจงผู้นี้ก็ถือได้ว่าน่ากลัวจนเกินไปแล้ว เรียกได้ว่าไม่อาจที่จะใช้เหตุผลของคนธรรมดามาวัดได้ ภายในดินแดนซีฮวงกลับมียอดอัจฉริยะเช่นนี้ พวกเขาไม่มีคุณสมบัติพอที่จะต่อกรเลยแม้แต่น้อย

 

“ ช่างมัน พวกเจ้ารีบลงมือ เขา ใช้กระบี่เล่มนั้นไม่ได้แล้ว “ ชายหนุ่มเผ่ามนุษย์เอ่ยขึ้นด้วยเสียงเย็นเยียบ จ้องมองไปที่เยี่ยจง ด้วยสายตาที่แปลกประหลาด

.

.

.

.

กลุ่มลับ ติดต่อได้หลังไมค์ครับ กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น เข้ากลุ่ม 3/4/5/6/7 ราคา 400
กลุ่ม3 https://goo.gl/dV1p9e ตอนที่ 210-290
กลุ่ม4 https://goo.gl/ESwaou ตอนที่ 291-370
กลุ่ม5 https://goo.gl/ekcF7V ตอนที่ 371-450
กลุ่ม6 https://goo.gl/4rqw89 ตอนที่ 451-530
กลุ่ม7 https://goo.gl/qrQ7GA ตอนที่ 531-610 ล่าสุดตอนที่ 600

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset