เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 270 การปะทะของผู้แข็งแกร่ง

ตอนที่ 270 การปะทะของผู้แข็งแกร่ง

 

 

 

“ เชอะ “

 

หวินจงเทียนร้องเชอะอย่างเย็นชาขึ้นมากะทันหัน ร่างกายก็ได้กลายเป็นเพียงเงาที่ไหลเวียนไปมาสายหนึ่ง ภายใต้ประกายเพลิงที่ครอบคลุมอยู่ทั่วทั้งฟ้า ราวกับเป็นชายหนุ่มที่เดินออกมาจากแดนเทพ ที่มีนกยวนยางพัดผ่านอยู่นับหมื่นลี้ ร่างกายของเขาพุ่งผ่านออกมา ใช้ออกด้วยพลังดัชนีชี้ไปทางด้านบริเวณที่เยี่ยจงอยู่เข้าไป

 

“ กร๊อบ “

 

แววตาของเยี่ยจงปรากฏความเย็นชาขึ้นมา เขาไม่มีความคิดแม้แต่จะถอยออก กระบี่ดำในมือขวาก็ได้กวาดปะทะไปทางเตาเพลิงเผาไหม้ มือซ้ายใช้ออกด้วยพลังดัชนี พลังดัชนีพุ่งออกไปตามลม เข้าปะทะกับพลังดัชนีที่หวินจงเทียนใช้ออกมาเฉกเช่นเดียวกัน

 

ทันใดนั้นเอง ดัชนีคมกล้าทั้งสองสายก็ได้เข้าปะทะกัน ราวกับเกิดพลังอัสนีฟาดลงบนพื้นก็มิปาน วินาทีนั้นก็เสียงปะทะกันก็ดังขึ้น จนทำให้ประกายปราณ

 

“ ชิ “

 

ร่างกายของหวินจงเทียนราวกับเคลื่อนไหวผิดทาง ลอยถอยกลับไปยังจุดเดิม ภายในดวงตาของเขาปรากฏความประหลาดใจขึ้นมา จ้องเขม็งไปทางเยี่ยจง เผยให้เห็นถึงกำลังนึกเรื่องอะไรบางอย่าง

 

“ พลังขั้นก่อเกิดระดับที่แปด ขอบเขตชั้นฟ้า ? “ เขาทั้งเคร่งเครียดและสงสัยขึ้นมาหลายส่วน เห็นได้ชัดว่าพลังฝีมือของเยี่ยจง กับข่าวลือที่เขาได้รับมาก่อนหน้าแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เพียงแค่ระยะเวลาเพียงสั้นๆ เขาถึงกับสามารถมาถึงขั้นนี้ได้เชียวงั้นหรือ

 

เกิดความตกใจขึ้นภายในใจของเยี่ยจง หนึ่งในซวางม่อแห่งสำนักเสวียนหวิน ถูกเรียกขานกันว่าเป็นศิษย์พี่ใหญ่แห่งสำนักเสวียนหวินทั้งยังไม่ธรรมดา พลังกายเนื้อบนร่างกายเรียกได้ว่าไม่ต่างจากตนเองมากนัก หรือจะกล่าวได้ว่า เขาก็เป็นยอดฝีมือที่มีพลังอยู่ในขั้นก่อเกิดระดับที่แปดขอบเขตชั้นฟ้า หากไม่ใช่เป็นเพราะตนเองก่อนหน้านี้ช่วงชิงสมบัติมังกรโลหิตแท้มาได้แล้วละก็ การต่อสู้กันในครั้งนี้มีความเป็นไปได้ที่จะต้องพ่ายภายใต้น้ำมือของเขาแล้ว ซวางม่อแห่งสำนักเสวียนหวิน ก็ช่างแข็งแกร่งและน่ากลัวอย่างไร้ที่เปรียบ

 

“ ซวางม่อแห่งสำนักเสวียนหวิน ก็ดีแค่ชื่อเท่านั้น เมื่อเทียบกับเจ้าแล้ว จื่อลู่นั้นก็เป็นเหมือนดั่งพวกไร้ประโยชน์ก็มิปาน “ เยี่ยจงลืมตาขึ้นมา น้ำเสียงนั้นได้มีความนับถืออยู่หลายส่วน

 

“ มีแต่เพียงสังหารเจ้า ไม่เช่นนั้น จะมีชื่อเสียงนั้นไว้ทำอะไรกัน ยิ่งไปกว่านั้น ข้านั้นไม่เหมือนกับศิษย์น้องจื่อลู่ เพียงแค่นางไม่ต้องการที่จะฆ่าเจ้าก็เท่านั้น “ หวินจงเทียนตั้งใจขึ้นมา จากนั้นเขาก็ได้ก้าวออกไปสู่ท่ามกลางอากาศ บนร่างกายก็ได้รวมรั้งไว้ด้วยประกายแสงสีม่วงสายหนึ่งพุ่งขึ้นสู่ฟ้า แผ่พุ่งกระจายความแข็งแกร่งออกไป เห็นได้ชัดว่า เขาคิดที่จะใช้ไพ่ตายออกมา เพื่อสังหารเยี่ยจงแล้ว

 

ความรู้สึกที่สัมผัสได้ชนิดนี้ ทางด้านสีหน้าของยอดฝีมือฝ่ายหวินจงเทียนต่างก็เปลี่ยนไป ถอยออกไปอย่างรวดเร็ว อัจฉริยะแห่งรัฐต้าโจวเหล่านั้นแต่ละคนต่างก็คืบคลานลุกขึ้นมาอย่างลำบาก ถอยออกไปอย่างรวดเร็ว นั้นก็เพราะว่าพวกเขาทราบดีว่า หากว่าถูกการโจมตีดั่งพายุของหวินจงเทียนเข้าแล้วละก็ เช่นนั้นสถานการณ์ต่อไปก็คงจะไม่อาจที่จะรอดไปได้

 

และในตอนนี้สีหน้าของของยอดฝีมือที่อยู่รอบบริเวณเหล่านี้ต่างก็เปลี่ยนไปถอยอย่างรวดเร็ว จากพลังบนร่างของหวินจงเทียน พวกเขาสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่รังสีฆ่าฟันอันน่าหวาดกลัวชนิดหนึ่ง หากว่ารังสีฆ่าฟันชนิดนี้ตกทอดไปบนร่างแล้วละก็ เช่นนั้นสถานการณ์ต่อไปของพวกเขาย่อมต้องไม่ดีอย่างแน่นอน ยังคงถอยออกไปจะดีกว่า

 

นัยน์ตาของเยี่ยจงก็ไปปรากฏความเคร่งเครียดขึ้นมา เขานำยาปราณชิ้นหนึ่งออกมารักษา เลือดในกายเริ่มที่จะเดือดขึ้นมา พลังกระบี่หกสุสานของเขาก็ได้ถูกควบคุมจนถึงขีดสุด จากนั้นโลหิตภายในกายก็ได้ไหลเวียนเข้าสู่กระบี่ดำที่อยู่ในมือ

 

“ ก๊ง “

 

ความโกรธแค้นที่เหมือนกับสะท้านฟ้าสะเทือนดินชนิดหนึ่งทำให้เยี่ยจงได้สติขึ้นมาในตอนนี้ ทันใดนั้นราวกับมังกรมารตัวหนึ่งกำลังพุ่งออกไปก็มิปาน เริ่มที่จะปั้นป่วนขึ้นมา

 

ทันใดนั้นเอง ร่างกายเกือบครึ่งของเยี่ยจงก็ได้เกิดความเจ็บปวดขึ้นมาอย่างไร้ที่เปรียบ ในตอนนี้เขาได้ใช้พลังทั้งหมดเพื่อที่จะควบคุมกระบี่ดำเล่มนี้ แต่ว่าการฝืนควบคุมกระบี่เช่นนี้ อาการชาด้านบนร่างกายของเขากลับยิ่งทวีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ในตอนนี้ เขาได้สูญเสียความรู้สึกไปครึ่งร่างแล้ว ราวกับว่ากระบี่เล่มนี้กำลังควบคุมเขาอยู่ แต่ไม่ใช่เพราะเขาควบคุมกระบี่ก็มิปาน

 

เพียงแต่ว่า ในเวลาเช่นนี้เยี่ยจงจำเป็นที่จะต้องทำเช่นนี้ นั่นก็เพราะว่าหวินจงเทียนนั้นถือได้ว่าไม่ธรรมดา ถ้าต้องการสังหารเขาจริง ก็จำเป็นที่จะต้องจ่ายค่าตอบแทนที่แน่นอนออกไป

 

“ ถี่ “

 

ทันใดนั้นเอง ราวกับมีมังกรมารออกมาจากการฟาดฟันของกระบี่ขึ้นมาในทันที ฟาดฟันมุ่งหน้าหมายสังหารไปทางด้านหวินจงเทียน ทันใดนั้นเอง ราวกับถูกทำลายจากท่ามกลางอากาศก็มิปาน คำนึกคิดของความแค้นที่ยากจะอธิบายออกมาได้ปกคลุมขึ้นไปทั่วทั้งฟ้าดิน จนทำให้ผู้ที่สัมผัสต้องร่างกายสั่นเทาขึ้นมา

 

“ เหอะ “

 

หวินจงเทียนส่งเสียงดังขึ้น ภายในดวงตาก็ได้สาดประกายคมกล้าออกมา ร่างกายของเขาก็ได้กระจายประกายสีม่วงออกมาจนพยุงร่างของเขาลอยขึ้นมาพุ่งขึ้นในทันที และจากนั้นร่างกายก็ได้ทอดลงบนเตาเผาไหม้เฟินหวิน เท้าเหยียบลงบนเตาเผาไหม้เฟินหวิน มุ่งหน้าเข้ากดดันไปทางด้านล่าง เพื่อต้านทานกระบี่นี้ของเยี่ยจง

 

“ ฮูม “

 

การปะทะของทั้งสองท่ามกลางอากาศนั้นเฉกเช่นกับหินขนาดใหญ่สองก้อนพุ่งเข้าชนก็มิปาน ทั้งยังใช้ออกด้วยพลังความสามารถออกไปในทันที พลังความเคลื่อนไหวเหล่านี้ก็ได้ทำให้ทั่วทั้งผืนดินต้องปรากฏรอยแตกร้าวขึ้นมามากมายนับไม่ถ้วน เหมือนดั่งมังกรคู่พุ่งขึ้นมา หมุนวนไม่หยุด

 

ยอดฝีมือนับไม่ถ้วนต่างก็อ้าปากตาค้าง ต่างก็ว่ากันว่ายอดฝีมือในพลังขั้นก่อเกิดนั้นไม่อาจที่จะสามารถใช้ออกมาด้วยพลังปราณ อย่างมากก็ทำได้เพียงแค่หยิบยืมพลังมาจากสมบัติปราณมาใช้ เพื่อที่จะใช้ด้วยการโจมตีที่น่าหวาดกลัวออกไป

 

แต่ว่าราวกับรู้สึกได้ว่าทั้งสองคนนั้นได้อยู่เกินกว่านั้นไปแล้วหลายส่วน พลังภายในของพวกเขาในตอนนี้ถึงแม้จะยังไม่ได้ระเบิดพลังลมปราณออกมาแม้แต่น้อย แต่ว่าจากการใช้ออกของการควบคุมพลังปราณเช่นนี้ก็ถือได้ว่าไม่ธรรมดา ต่อให้เป็นยอดฝีมือขั้นก่อฟ้าขอบเขตปราณหมุนรอบเมื่อได้พบพวกเขา อย่างน้อยก็ต้องถอยไปแล้วสามก้าว

 

การโจมตีก็ได้สิ้นสุดลง หลังจากนั้น พลังที่ลอยอยู่ท่ามกลางอากาศจำนวนมากก็ได้หายไป ร่างกายของหวินจงเทียนก็ได้ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง ทว่าเท้าของเขาในตอนนี้ยังเหยียบอยู่บนเตาเผาไหม้เฟินหวิน เกิดความพ่ายแพ้ขึ้นเล็กน้อย ได้แต่เพียงจ้องมองไปทางด้านเยี่ยจงด้วยสีหน้าที่เย็นชา ทั้งยังปรากฏรังสีสังหารขึ้นบนใบหน้า

 

“ ไม่ยอมรับก็ไม่ได้ เจ้าแข็งแกร่งมาก กระบี่ดำในมือเข้าถือได้ว่าเกินกว่าที่ข้าคาดเดาเอาไว้ เกรงว่าจะเป็นสิ่งมาจากยุคก่อนประวัติศาสตร์ แต่ว่า ก็ยังดูไม่ได้อยู่ดี วันนี้ข้าจำเป็นที่จะต้องเอาชีวิตของเจ้า เพื่อนำไปเซ่นไหว้ศิษย์พี่น้องแห่งสำนักเสวียนหวินทีตายไปเกือบร้อยคน “ หวินจงเทียนจ้องมองไปที่เยี่ยจง กล่าวออกมาด้วยเสียงที่เย็นชา

 

“สำนักเสวียนหวินของพวกเจ้าอย่างน้อยก็มีคนเกือบร้อยคนที่ตายใต้น้ำมือของข้า เจ้ามีอะไรมายืนยันได้ว่าเจ้าจะไม่ใช่คนต่อไปได้ รอจนหลังจากที่ข้าสับเจ้าแล้ว ข้าก็จะไปเสาะหาภายในสมรภูมิฮวงกู่นี้ จัดการสังหารคนของสำนักเสวียนหวินของเจ้าไม่ให้เหลือแม้แต่คนเดียว “ เยี่ยจงตอบกลับไปอย่างเย็นชา

 

“ ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ ? “

 

เมื่อได้ยินการพูดคุยของทั้งสอง มียอดฝีมือไม่น้อยที่ค่อยๆกระจ่างกับสิ่งที่เกิดขึ้น คิดไม่ถึงว่าบุญคุณความแค้นของสองยอดอัจฉริยะนี้จะดำเนินมาจนถึงขั้นนี้ได้ ? ไม่แปลกใจเลยในตอนที่พวกเขาลงมือต่อกันนับตั้งแต่เริ่ม ก็ไม่ได้มีการยั้งมือไว้แม้แต่น้อย ไม่ว่าจะมองเช่นไร การต่อสู้ในวันนี้ก็ต้องมีคนใดคนหนึ่งที่จะต้องตาย

 

“ นายไม่มีโอกาสใดๆอีกแล้ว “ หวินจงเทียนหัวเราะอย่างเย็นชา ทันใดนั้นเอง ก็ได้พบว่าเขาสะบัดมือขวาคราหนึ่ง ประกายคมกล้าสีม่วงสายหนึ่งก็ไปปรากฏขึ้นมายบริเวณใจกลางฝ่ามือของเขา ราวกับเป็นดั่งเปลวเพลิงสีม่วงก็มิปาน เริ่มที่จะเผาไหม้ขึ้นมาอย่างช้าๆ

 

“ นี้คือ ? พัดจื่อหวิน ? “ มียอดฝีมือตื่นตกใจขึ้นมา จดจำวัตถุชิ้นนี้ที่อยู่ในมือของหวินจงเทียนได้

 

“ นี้ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในสมบัติเซียนที่ได้ปรากฏขึ้นมาในดินแดนซีฮวงของเราในสมัยก่อน คิดไม่ถึงว่าจะถึงกับตกอยู่ในมือของหวินจงเทียน “

 

“ หวินจงเทียนผู้นี้ ที่แท้ยังถึงกับมีไพ่ตายเช่นนี้อยู่อีก ไม่แปลกใจเลยที่เขายังมีความมั่นใจถึงขนาดนี้ “

 

ผู้คนมากมายต่างก็แตกตื่นอย่างไร้ที่เปรียบ คิดไม่ถึงว่าแม้แต่สมบัติเซียนระดับสูงจะปรากฏขึ้นมา ควรรู้ไว้ว่า ต่อให้เป็นสมบัติเซียนที่เกิดขึ้นในสุสานกระบี่ โดยส่วนมากแล้วต่างก็เป็นสมบัติเซียนระดับล่าง อีกทั้งสมบัติเซียนระดับกลางยิ่งน้อยเข้าไปใหญ่ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงระดับสูงเลย เรียกได้ว่ายังไม่เคยได้ยินมาว่ามีผู้ใดเคยได้มา แต่ว่าหวินจงเทียนผู้นี้ถึงกับใช้ออกมาด้วยสมบัติเซียนระดับสูง จึงทำให้ผู้คนตกใจเช่นนี้ได้

 

“ สมบัติเซียนระดับสูง ? “ ดวงตาของเยี่ยจงทอแววเคร่งเครียดขึ้น เมื่อเทียบกับธนูเงาเมฆาเพลิงที่เขาแย่งชิงมาได้ยังถือว่าแข็งแกร่งกว่ามาก อย่าได้กล่าวถึงสมบัติเซียนระดับล่างเลย น้ำเต้าเซียนจื่อจิงนั้นถึงแม้จะร้ายกาจอยู่หน่อย แต่ว่าก็ยังไม่พ้นจากการเป็นได้แค่สมบัติเซียนระดับล่างเท่านั้น ต่อให้เป็นง้าวไท่หยางขององค์ชายสิบสามแห่งตระกูลถัง คาดว่าก็ยังเป็นได้เพียงแค่สมบัติปราณระดับกลางเท่านั้น สมบัติเซียนระดับสูงหลายคำนี้ กล่าวอย่างง่ายดายก็คือความน่ากลัวนั้นเอง

 

หลังจากที่ได้จ้องมองไปทางด้านของพัดจื่อหวิน เยี่ยจงก็ได้หัวเราะอย่างเย็นชาขึ้นกะทันหัน พูดออกมาเสียงแผ่วเบา “ เสี่ยวหลุน เจ้ามีความสนใจต่อสิ่งนี้หรือไม่ ? “

 

“ มี “ เสียงของเสี่ยวหลุนสั่นไหวขึ้นมา หากว่าสามารถที่จะกลืนกินพัดจื่อหวินนี้แล้วละก็ ตัวมันคงจะได้รับประโยชน์เป็นอย่างมาก

 

“ ข้ารู้ว่าเจ้าสามารถที่จะทำให้ข้ากำจัดเงาร่างของกระบี่ดำนี้ได้ ในตอนนี้เจ้าช่วยข้ากำจัดกระบี่ เมื่อข้าจัดการกับเจ้าเด็กน้อยผู้นี้ได้ หลังจากที่ฆ่าเขาแล้ว ไม่เพียงแต่พัดจื่อหวิน เตาหลอมจื่อหวินอะไรนั้นก็เป็นของเจ้า “ เยี่ยจงร้องเชอะอย่างเย็นชา ถึงแม้จะไม่ใช่ทางเลือกที่ดี นั้นก็เพราะว่าเขาก็รู้ดี ถ้าไม่มีผลประโยชน์แล้วละก็ เสี่ยวหลุนก็คงจะไม่เคลื่อนไหวแน่

 

“ เจ้าพูดอะไรต้องทำตามนั้นด้วยละ “ เสี่ยวหลุนลังเลขึ้นมา “ หากว่าข้าในตอนนี้ลงมือด้วยพลังทั้งหมด แน่นอนว่าจะสามารถทำให้เจ้ากำจัดรังสีความแค้นของกระบี่ดำได้ แต่ว่าข้าก็ต้องสูญเสียพลังอย่างมาก หากว่าไม่ได้รับการฟื้นฟูได้ทันเวลา ไม่แน่ว่าข้าอาจจะต้องกลับไปหลับใหลอีกก็เป็นได้ “

 

“ ข้าบอกมาก่อนแล้ว สิ่งของทั้งหมดที่อยู่บนตัวของเขา ต่างก็เป็นของเจ้า “ เยี่ยจงตอบกลับไป

 

“ ได้ “ เสี่ยวหลุนไม่ลังเลอีก เพียงใช้ออกมาด้วยประกายแสงสว่างจ้าปกคลุมอยู่รอบตัวเยี่ยจง วินาทีนั้น ร่างกายของเยี่ยจงก็ได้ฟื้นคืนความรู้สึกคืนมา เขาก็ได้ค่อยๆยกกระบี่ดำในมือขึ้นมา บนใบหน้าปรากฏเค้าความเยือกเย็นขึ้น

 

“ สังหาร “

 

“ ตายซะ “

 

และในเวลาเดียวกันนี้ ท่ามกลางอากาศ พัดจื่อหวินในมือของหวินจงเทียน ก็ได้กวาดออกไปกะทันหัน วินาทีนั้น ก็ได้พบกับประกายเพลิงสีม่วงโพยพุ่งออกมาเป็นสาย มุ่งหน้าหมุนวนเข้าไปทางด้านบริเวณที่เยี่ยจงอยู่ ทั่วทั้งฟ้าในตอนนี้ก็ได้โชยกลิ่นเหม็นบางอย่างออกมาอย่างไร้ที่เปรียบ เห็นได้ชัดว่า สิ่งที่อยู่ภายในของประกายเพลิงสีม่วงนี้ถือได้ว่าน่ากลัวอย่างยิ่ง สามารถเผาผลาญหมื่นสรรพสิ่งได้

 

“ หลีกไปซะ “

 

ในตอนนี้ เยี่ยจงไม่จำเป็นที่จะต้องพูดอะไรมากมาย เขาก้าวเท้าออกไปหนึ่งก้าว ชิ้นส่วนมายาปรากฏขึ้นมา จนยกเขาขึ้นสูงลอยไปท่ามกลางอากาศ ในเวลาเดียวกันพลังของกระบี่ดำก็ได้พุ่งขึ้นสูงเสียดฟ้า วินาทีนั้น ประกายกระบี่คมกล้าสายนี้ ก็ได้ทอดลงไปทำลายทะเลเพลิงสีม่วง มุ่งหน้าเข้าสังหารหวินจงเทียน

 

“ ตายไปซะ “

 

หวินจงเทียนร้องออกมา เขาในตอนนี้ก็ได้ควบคุมเตาจื่อหวินกดทับลงไป ต้านทานคมกระบี่ที่ฟันเข้ามาของเยี่ยจง และทางด้านของเขาเองก็ได้กวาดพัดจื่อหวินออก มุ่งหน้ากวาดเข้าไปทางด้านที่เยี่ยจงอยู่อย่างรุนแรง วินาทีนั้น เปรียบเสมือนหุบเขาเปลวเพลิงก็มิปาน ประกายเพลิงนับไม่ถ้วนได้เข้าหาสังหารเยี่ยจง

 

การโจมตีของทั้งสองฝ่ายได้ปะทะเข้าด้วยกันในทันที จนก่อเกิดพลังสะเทือนไปทั้งแผ่นฟ้า ประกายคมกล้ารับไม่ถ้วนในตอนนี้แม้จะสูงไม่เทียบฟ้า แต่ก็พอที่จะทำให้ผู้คนไม่อาจที่จะลืมตาขึ้นมาได้

 

หลังจากนี้สักพัก ประกายคมกล้าก็ได้หายไป ร่างกายของทั้งสองก็เคลื่อนไหวอยู่บนท่ามกลางอากาศในเวลาเดียวกัน แล้วก็ถอยออกไปอย่างรวดเร็ว

 

“ บรึม “

 

เงาร่างสายหนึ่งได้ตกลงมา ทั่วทั้งร่างกลายเป็นสีดำ จากนั้นก็ลุกขึ้นมาอย่างทุลักทุเล แล้วก็ได้กระอักโลหิตออกมาคำหนึ่ง ที่แท้ก็คือเยี่ยจงนั้นเอง

 

“ ตึง “

 

เงาร่างอีกทางด้านหนึ่งก็ได้ตกลงสู่พื้นในเวลาเดียวกัน ในตอนนี้เสื้อผ้าบนร่างกายต่างก็ฉีกขาด บริเวณหน้าอกก็ได้เกิดรอยแผลลึกให้เห็น โลหิตสีแดงไหลรินออกมาไม่หยุด เห็นได้ชัดว่า ก็ได้รับบาดเจ็บอยู่หลายส่วน

 

“ ที่แท้เป็นผู้ใดชนะกันแน่ ? “

 

เมื่อได้เหม่อมองฉากเบื้องหน้าที่เหมือนกับพ่ายแพ้ทั้งสองฝ่าย ยอดฝีมือไม่น้อยต่างก็ไม่อาจที่จะละสายตา ยากที่จะมองออกได้ว่าผลลัพธ์เป็นเช่นไร

.

.

.

.

กลุ่มลับ ติดต่อได้หลังไมค์ครับ กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น เข้ากลุ่ม 3/4/5/6/7 ราคา 400
กลุ่ม3 https://goo.gl/dV1p9e ตอนที่ 210-290
กลุ่ม4 https://goo.gl/ESwaou ตอนที่ 291-370
กลุ่ม5 https://goo.gl/ekcF7V ตอนที่ 371-450
กลุ่ม6 https://goo.gl/4rqw89 ตอนที่ 451-530
กลุ่ม7 https://goo.gl/qrQ7GA ตอนที่ 531-610 ล่าสุดตอนที่ 600

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset