เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 271 การปะทะของมนต์ตราเทพ

ตอนที่ 271 การปะทะของมนต์ตราเทพ

 

 

“ เจ้าแข็งแกร่ง แข็งแกร่งมากจริงๆ “

 

เยี่ยจงปาดโลหิตที่ไหลออกมาจากมุมปาก กล่าวออกมาเสียงเบา ต่อให้เป็นการปะทะกันกับองค์ชายสิบสามแห่งตระกูลถังเมื่อตอนที่อยู่ในทะเลมายาโลหิต เขาก็ยังไม่ได้รับบาดเจ็บมากจนถึงขั้นนี้ แต่ว่าก็คิดไม่ถึงว่าในวันนี้ในตอนที่ได้ปะทะกันกับหวินจงเทียน กลับได้รับบาดเจ็บสาหัส หากไม่ใช่เป็นเพราะว่าพลังฝีมือของเยี่ยจงในตอนนี้อยู่ในขอบเขตชั้นฟ้า การปะทะกันเมื่อครู่นี้ ไม่แน่ว่าเขาจะต้องทอดร่างลงไปแล้ว

 

หวินจงเทียนใช้มือกดลงไปยังบริเวณหน้าอกของตัวเอง สีหน้าของเขาปั้นยากถึงสิบส่วนเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะกล่าวเช่นไร สมบัติเซียนทั้งสองชิ้นเขาต่างก็ได้ใช้ออกมาแล้ว หนึ่งในนั้นยังถือได้ว่าเป็นสมบัติเซียนระดับสูงที่เล่าขานกัน อีกยังต้องใช้ด้วยทักษะยุทธ์ขั้นเซียนระดับสูงในการควบคุม เพราะอะไรยังไม่อาจที่จะสามารถป้องกันการโจมตีคมกระบี่ของเยี่ยจงได้กัน ?

 

อีกทั้ง จากภายในท่ามกลางคมกระบี่นี้ เขายังสัมผัสได้ถึงพลังความแค้นและคำสาปที่ยิ่งใหญ่ชนิดหนึ่ง หากไม่ใช่เป็นเพราะเขามีจิตใจที่แน่วแน่ ร่างกายที่แข็งแกร่งแล้วละก็ ไม่แน่ว่าภายในกระบวนท่าก่อนหน้า เขาก็คงต้องถูกสังหารไปแล้ว

 

เยี่ยจงผู้นี้ น่ากลัวขนาดนี้จริงงั้นหรือ ?

 

ในขณะนั้นเอง ภายในใจของหวินจงเทียนก็ได้ปรากฏรังสีฆ่าฟันอย่างเข้มข้น เขาที่เป็นถึงศิษย์พี่ใหญ่แห่งสำนำเสวียนหวิน หนึ่งในซวางม่อ ได้รับการฝึกฝนมานับไม่ถ้วน มีอาจารย์นับไม่ถ้วนคอยชี้แนะ จึงจะสามารถก้าวมาจนถึงทุกวันนี้ได้ แต่ว่าอีกฝ่ายเล่า ? เท่าที่ทราบจากข่าวที่ได้รับมา ทว่าก็มาจากตระกูลเล็กๆแห่งหนึ่ง สำนักเล็กๆแห่งหนึ่ง ในรัฐเล็กแห่งหนึ่ง แต่ว่าคนผู้นี้กลับสามารถก้าวมาจนถึงขั้นนี้ได้ยังไง ? เรียกได้ว่าต่างจากตัวเองโดยสิ้นเชิง

 

ความเป็นจริงยากที่จะคาดเดา บุคคลเช่นนี้ถ้าหากยังปล่อยให้เติบโตขึ้นต่อไปแล้วละก็ จากนี้เป็นต้นไปจะถึงขั้นไหน บุคคลเช่นนี้ หากว่าไม่สังหารแล้วละก็ จะต้องเป็นคู่ต่อสู้ที่ทำให้เขากินไม่ได้นอนไม่หลับอย่างแน่นอน

 

“ ฆ่า “

 

รังสีสังหารแผ่กระจายออกมา หวินจงเทียนในตอนนี้เรียกได้ว่าไม่สนใจอาการบาดเจ็บของตนเอง เขาก้าวเท้าออกไปอีกหนึ่งก้าว ร่างกายพุ่งขึ้นสู่ฟ้า เตาเผาไหม้เฟินหวินและพัดจื่อหวินก็ได้นำออกมาไว้บนมือพร้อมกัน ใช้พลังทั้งหมดเพื่อควบคุม หมายมั่นจะสังหารเยี่ยจงให้จงได้

 

เยี่ยจงหัวเราะเย็นชา ในตอนนี้เขาก็ได้ก้าวออกไปหนึ่งก้าว ควบคุมกำลังภายในวิชากระบี่หกสุสาน พลังกระบี่ตราประทับก็ได้ซ้อนทับลงบนกระบี่ดำ จากนั้นก็ได้ใช้กระบี่เข้าสังหารออกไป

 

และในขณะนั้น เยี่ยจงก็ไม่ได้สนใจผู้อื่นอีก แล้วก็ได้ใช้พลังทั้งหมดเพื่อควบคุมกระบี่นี้ นั้นก็เพราะว่าอีกฝ่ายต้องการที่จะแลกชีวิต หากว่าตนเองแบ่งใจไปสนใจอย่างอื่นแม้สักนิดแล้วละก็ สถานการณ์ต่อไปท้ายที่สุดคงจะยากที่จะทนทานรับได้

 

“ ครึม “

 

พริบแค่ชั่วพริบตาเดียว สมบัติเซียนทั้งสามชิ้นก็ได้ระเบิดออกมา รังสีความแค้นสีดำและประกายเพลิงผลาญนับไม่ถ้วนเข้าปะทะกัน เกิดความร้อนขึ้นท่ามกลางอากาศ จนทำให้ทั่วทั้งบริเวณกลายเป็นเหียดแห่งไปทั้งสาย

 

เยี่ยจงพ่นโลหิตออกมาคำโต แต่ว่าก็ยังเคลื่อนไหวของมือยิ่งมาก็ยิ่งเร็วยิ่งขึ้น คมกระบี่หมุนรอบเป็นสาย ราวกับคลื่นนับพันที่ถาถมก็มิปาน ปะทะเข้าสังหารออกไปไม่หยุด

 

และหวินจงเทียนนั้นในตอนนี้ก็ได้ปรากฏบาดแผลขึ้นบนร่างกายเป็นสาย แต่ว่าความเคลื่อนไหวของมือของเขาไม่ได้ช้าลงเลย เขาควบคุมสมบัติเซียนอันยิ่งใหญ่ทั้งสองไม่หยุด คิดที่จะสังหารเยี่ยจงลงในสถานที่แห่งนี้

 

นี้จึงถือได้ว่าเป็นการต่อสู้ครั้งใหญ่อย่างแท้จริง การต่อสู้ได้ดำเนินมาจนถึงขั้นนี้ ทั้งสองฝ่ายต่างก็เกิดความบ้าคลั่งขึ้นหลายส่วน ทุกครั้งที่ได้เข้าปะทะ ก็สามารถที่จะทำให้อีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บได้ในเวลาเดียวกัน ตนเองก็ได้ถูกโจมตีเช่นเดียวกัน กระอักโลหิตออกมาคำโต แต่ว่าทั้งสองฝ่ายก็ยังกัดฟันเพื่อลงมือ ไม่มีความคิดที่จะถอยเลยแม้แต่น้อย นั้นก็เพราะว่าถ้าหากถอยออกไปในตอนนี้แล้วละก็ ตนเองจะต้องตายอย่างแน่นอน

 

“ ตายซะ “

 

แล้วก็เป็นอีกครั้งที่ปะทะกัน เยี่ยจงใช้ออกมาด้วยกระบี่ดำที่อยู่ในมือ จากนั้นก็ได้โยนออกไป มุ่งหน้าเข้าไปท่ามกลางอากาศเข้าหาเตาเผาไหม้เฟินหวินอย่างรวดเร็ว

 

“ มาได้ดี “ หวินจงเทียนส่งเสียงดังชิ ในเวลาเดียวกันเขาก็ได้ควบคุมสมบัติเซียนทั้งสองชิ้น เพื่อที่จะทำลายกระบี่ดำของเยี่ยจง และในเวลาเดียวกัน ก็ได้หันกายไปรอบหนึ่ง มุ่งหน้าไปบริเวณอีกทางด้านหนึ่งเข้าไป คิดที่จะใช้กำลังพลังกล้ามเนื้อเพื่อสังหารเยี่ยจง

 

เยี่ยจงก็ได้ร้องเชอะอย่างเย็นชาออกมาเช่นเดียวกัน เขาไม่ได้สนใจสมบัติเซียนที่ปะทะกันอยู่ท่ามกลางอากาศ นั้นก็เพราะว่ากระบี่ดำนั้นมีความน่ากลัวอย่างที่สุด ในตอนนี้เขาไร้หนทางที่จะควบคุมเอาไว้ได้ เขาไม่เชื่อว่า สมบัติเซียนสองชิ้นที่ไม่มีคนคอยควบคุมจะทำอันใดเขาได้ ร่างกายของหวินจงเทียนก็ได้กระเด็นไปในเวลาเดียวกัน เขาก็ได้ขยับร่างกายคราหนึ่ง มุ่งหน้าเข้าปะทะออกไปทางด้านหน้า พลิกสองมือฟาดออก เพื่อต้านทานการโจมตีของหวินจงเทียน

 

“ ตูม “

 

หวินจงเทียนสะบัดฝ่ามือออก จากนั้นก็ได้มีฝ่ามือขนาดใหญ่สายหนึ่งมุ่งหน้าฆ่าฟันออกไป ให้ความกลิ่นอายที่ก่อรวมเข้าไปถึงกระดูก จนทำให้ผู้คนเกิดอาการตกใจ

 

เยี่ยจงฟาดฝ่ามือทั้งสองข้างออกไป บริเวณใจกลางฝ่ามือก็ได้ปรากฏพลังกระบี่ตราประทับ กลายเป็นประกายคมกล้าสีดำสายหนึ่งสังหารออกไป หยุดยั้งพลังฝ่ามือขนาดใหญ่เอาไว้ แล้วก็ได้มีเสียงระเบิดดังขึ้นท่ามกลางอากาศ

 

“ ฆ่า “

 

หนึ่งกระบวนท่าสูญเปล่า หวินจงเทียนพลิกมือทั้งสองเล็กน้อย วินาทีนั้น พลังเมฆาทั้งสองสายที่อยู่ท่ามกลางอากาศก็ได้กลายเป็นคมกระบี่ขนาดใหญ่ มุ่งหน้าเข้าสังหารไปทางด้านของเยี่ยจงออกไป นี้ถือได้ว่าเป็นทักษะเซียนสายหนึ่ง มีพลังทำลายที่น่าหวาดกลัว

 

“ ฝ่ามือมังกรสีรุ้ง “

 

เยี่ยจงฟาดออกไปหนึ่งฝ่ามือ บริเวณทางด้านหลัง ก็ได้ปรากฏพลังเซียนสีรุ้งขึ้น มุ่งหน้าเข้าปะทะกับการโจมตีที่อยู่ทางด้านหน้า ต้านรับการโจมตีอันน่ากลัวของหวินจงเทียนเอาไว้

 

การปะทะของทักษะเซียนในครั้งนี้ยิ่งทวีความน่ากลัวมากยิ่งขึ้น ในทันทีที่ทักษะเซียนของทั้งสองคนปะทะกัน ร่างกายของทั้งสองฝ่ายก็ได้ขยับอีกครั้ง มุ่งถอยหลังออกไปทางด้านหลัง จากนั้นก็ได้กระอักโลหิตออกมาในเวลาเดียวกัน

 

เป็นการต่อสู้ที่ถือได้ว่าเสมอกัน

 

ยอดฝีมือรอบด้านที่เห็นฉากเบื้องหน้านี้ต่างก็ได้กรอกตาไปมาอย่างบ้าคลั่ง การปะทะของสุดยอดอัจฉริยะทั้งสองคนในดินแดนซีฮวงถือว่าหาดูได้ยาก เรียกได้ว่าถ้าหากในหมู่พวกเขาคนใดคนหนึ่งมาลองประลองด้วยแล้วละก็ เกรงว่าอย่างมากก็ไม่เกินสิบกระบวนท่า ก็ต้องถอยรนออกไป ไม่ก็ต้องทอดกายลง แต่ว่าเด็กน้อยทั้งสองกลับยอดเยี่ยมยิ่ง ถึงกับสามารถมีความน่ากลัวได้ในระดับนี้ ทำให้ผู้คนยากที่จะเชื่อได้ลง สู้กันจนถึงตอนนี้ ยังไม่สามารถที่จะปรากฏผลแพ้ชนะออกมาได้

 

“ ดูเหมือนว่า ข้าจะดูแคลนสำนักเสวียนหวินไปแล้ว ไม่ใช่เพราะสำนักเสวียนหวินอ่อนแอ แต่เป็นเพราะคนของสำนักเสวียนหวินก่อนหน้าต่างก็อ่อนแอจนเกินไป ถึงกระนั้นเขาจะเป็นอันดับหนึ่งแห่งสำนัก น่าหวาดกลัวยิ่งนัก “ เยี่ยจงทางหนึ่งพ่นโลหิตออกมา ทางหนึ่งมองไปทางด้านหวินจงเทียน ด้วยสีหน้าหนักแน่น

 

“ เจ้าเด็กน้อยผู้นี้ มาจากรัฐเล็กๆอันอ่อนแอแห่งหนึ่งจริงอย่างนั้นหรือ ? เป็นไปได้ยังไงกัน ? “ หวินจงเทียนก็ได้กระอักโลหิตออกมาเช่นเดียวกัน บนใบหน้าแสดงถึงความยากที่จะเชื่อ ความแข็งแกร่งของเยี่ยจงได้อยู่นอกเหนือความคาดคิดของเขาจนเกินไป ไม่เพียงแต่สภาวะร่างกายจะแข็งแกร่ง สมบัติเซียนในมือก็ยังถือได้ว่าแข็งแกร่งอย่างมาก ทักษะยุทธ์ก็แข็งแกร่งไร้ที่เปรียบ ไม่ว่าจะมองอย่างไร ก็เหมือนกับมาจากสำนักใหญ่ที่มีชื่อเสียง ย่อมมิอาจที่จะเป็นเหมือนดังผู้มีพรสวรรค์ทั่วไป ความจริงหวินจงเทียนยังคิดว่า ตนเองไม่ลงมือก็คงเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าต้องการที่จะสังหารเยี่ยจงแล้วละก็ สมควรที่จะไม่เป็นปัญหาใหญ่ แต่ว่าในตอนนี้เขาจึงค่อยได้เข้าใจขึ้นมาหลายส่วน ถ้าต้องการสังหารเยี่ยจง จึงถือได้ว่าเป็นปัญหาที่ใหญ่ยิ่ง

 

“ ช่างเถอะ ความจริงคิดที่จะใช้ในสถานที่สุดท้ายอยู่แล้ว เจ้าสามารถตายภายใต้กระบวนท่านี้ได้ เจ้าก็สมควรที่จะยินดีแล้ว “

 

ดวงตาของหวินจงเทียนปรากฏความประหลาดใจขึ้น ทันใดนั้นเอง ก็ได้พบว่าทั้งคู่ของเขาได้กลายเป็นสีม่วงราวกับเผาผลาญได้ทุกสิ่งก็มิปาน ภายใต้แสงที่ทอความศักดิ์สิทธิ์ ก็ได้มุ่งหน้าเข้าปกคลุมบริเวณที่เยี่ยจงอยู่เข้าไป

 

“ ประกายสะท้อนศักดิ์สิทธิ์ “

 

“ ตูม “

 

ในขณะนั้นเอง สายตาของหวินจงเทียนก็กลายเป็นดั่งพระอาทิตย์ขนาดใหญ่สองดวงก็มิปาน สาดทอเป็นประกายลงมา หมายที่จะทำให้เยี่ยจงกลายเป็นผง

 

“ อะไรกัน ? กระบวนท่านี้ไม่ใช่ทักษะเซียนของสำนักเสวียนหวินหรือ หวินจงเทียนผู้นี้แท้จริงแล้วมีที่มาเช่นไรกัน ? “

 

มียอดฝีมือเกิดอาการตกใจขึ้น พวกเขาสัมผัสได้ถึงรังสีสังหารอันแข็งแกร่งชนิดนี้ของกระบวนท่านี้ จนทำให้ดวงตาทั้งคู่ของพวกเขาต้องเจ็บปวด

 

เยี่ยจงสีหน้าเปลี่ยนไป ภายใต้ประกายแสงคมกล้าสายนี้ เขารู้สึกได้ถึงกลิ่นอายประหลาดชนิดหนึ่ง กลิ่นอายนี้ไม่เหมือนกับเป็นทักษะยุทธ์ขั้นเซียน กลับดูคล้ายกับมนต์ตราเทพ

 

“ มนต์ตราเทพ ที่แท้ก็คือมนต์ตราเทพ “

 

เยี่ยจงสูดลมหายใจเข้า แม้แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่า หวินจงเทียนยังถึงกับสามารถควบคุมใช้ออกด้วยกระบวนท่าของวิชามนต์ตราเทพ หากไม่ใช่เพราะอยู่ในช่วงเวลานี้แล้ว เขาก็ไม่อยากที่จะใช้ออกมาเช่นกัน

 

ทันใดนั้นเอง เยี่ยจงก็ได้ถอยกายลอยขึ้น สองมือวาดเป็นวง วินาทีนั้นรังสีโลหิตก็ได้แผ่กระจายออกมา ในเวลาเดียวกันเขาก็ได้พลิกทั้งสองมือขึ้นเป็นสัญลักษณ์ มือหนึ่งไปที่ฟ้า มือหนึ่งชี้ไปที่ดิน ให้บรรยากาศที่โบราณและลี้ลับชนิดหนึ่ง ในเวลาเดียวกันร่างกายของเยี่ยจงก็ได้พุ่งออก อีกทั้งในเวลาเดียวกันนี้ ฝ่ามือที่ดูโบราณยิ่งอย่างหนึ่งก็ได้ปรากฏขึ้นมาทางด้านหลังของเยี่ยจง ค่อยๆมุ่งเข้ากดดันเข้าไปทางด้านหน้าออกไป

 

“ ชิ “

 

และในเวลาเดียวกันนี้ ประกายคมกล้าเหล่านั้นก็ได้เข้าปกคลุมไปบนร่างของเยี่ยจง วินาทีนั้น ก็ได้มีเสียงดังจนแสบแก้วหูลอดออกมา มนต์ตราเทพทั้งสองสายได้เข้าปะทะกันในตอนนี้ ต่างก็ถือได้ว่าหาดูได้ยากอย่างไร้ที่เปรียบ

 

ถึงกระนั้นด้วยพลังฝีมือของเยี่ยจงและหวินจงเทียน ต่างก็ไม่อาจที่จะใช้มนต์ตราเทพด้วยพลังที่แท้จริงหนึ่งในร้อยส่วนได้ด้วยซ้ำไป แต่ว่าถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ ก็ทำให้ก่อเกิดพลังอันน่ากลัวอย่างไร้ที่เปรียบ

 

หากว่าเปลี่ยนเป็นคนอื่นอีกคน อีกฝ่ายที่ก็ใช้ออกมาด้วยกระบวนท่าสังหาร ก็มีเพียงแต่ตายเพียงทางเดียว แต่ว่าทั้งสองฝ่ายในตอนนี้กลับต่างก็ใช้ออกมาด้วยมนต์ตราเทพเข้าปะทะ ในเวลานี้ยากที่แบ่งว่าใครได้เปรียบเสียเปรียบ

 

“ มนต์ตราเทพ “

 

หวินจงเทียนขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน บนใบหน้าปรากฏสีหน้าทั้งโกรธจัดและอาฆาตออกมา เขาทราบได้อย่างดีว่า ตนเองได้ใช้ออกมาด้วยทักษะมนต์ตราเทพ อีกทั้งเยี่ยจงยังถึงกับต้านรับการโจมตีของตนเองได้ เช่นนั้นก็บ่งบอกได้ว่า ฝ่ามือในตอนนี้ของเขาก็อยู่ในระดับมนต์ตราเทพเช่นเดียวกัน

 

ไม่ว่าจะเป็นมนต์ตราเทพใดๆก็ถือได้ว่าหาได้ยากยิ่ง มีที่มาที่ยิ่งใหญ่ อีกทั้ง ที่ทำให้หวินจงเทียนโกรธแค้นมากที่สุดก็คือ วิชามนต์ตราเทพที่เยี่ยจงใช้ออกมานั้นให้บรรยากาศที่ยิ่งใหญ่ยิ่ง คาดว่าคงจะอยู่ในระดับที่สูงกว่าของตนเองอย่างแน่นอน

 

“ ชิ “

 

ในที่สุด ประกายคมกล้าก็ได้หายไป ดวงตาของหวินจงเทียนกลับคืนสู่ความปกติ แต่ราวกับมีดวงอาทิตย์อยู่สองดวงภายในส่วนลึกไหลเวียนอยู่ภายในดวงตาของเขาก็มิปาน ราวกับสามารถใช้พลังเทพออกมาได้ตลอดเวลา

 

“ ถ้าเจ้าลงมือพอแล้วละก็ ในครั้งนี้ก็ถึงคราวของข้าแล้วสินะ ? “ เยี่ยจงก็ได้จ้องมองไปทางด้านหวินจงเทียนเช่นเดียวกัน อีกทั้งในมือเขาก็ได้สร้างตราประทับขึ้นมา พุ่งฟาดเข้าไปทางด้านหวินจงเทียน

 

“ ตูม “

 

พลังตราผนึกนภาประทับพสุธาอันน่าหวาดกลัวชนิดหนึ่งก็ได้กดดันสังหารออกมา ราวกับหมายมั่นที่จะทำให้ร่างกายของหวินจงเทียนไม่อาจหลบเมื่ออยู่กลางอากาศ ปะทะเข้าสังหารเข้าไปในทันที

 

สีหน้าของหวินจงเทียนทอแววเย็นชาขึ้น ดวงตาก็ได้ทอประกายดุจดั่งพระอาทิตย์ขึ้นมาอีกครั้ง ประกายคมกล้าทั้งสองสายในครั้งนี้มีลักษณะเป็นประกายกระบี่สีทอง พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว ทั้งยังน่ากลัวสุดเปรียบปาน

 

นี้เป็นดั่งการเปลี่ยนแปลงชนิดหนึ่งเพื่อใช้ออกของทักษะมนต์ตราเทพ ทั้งยังถือได้ว่าเป็นพลังฝีมือในการสังหารที่น่าหวาดกลัวชนิดหนึ่ง ทำให้ผู้คนหวาดกลัวได้เต็มสิบส่วน

 

เยี่ยจงสะบัดตราประทับมือออกไป จากนั้นก็มีมือหนึ่งชี้ไปที่นภามือหนึ่งชี้ไปที่พสุธา พลังอันมหาศาลของเทพจากตราผนึกนภาอันโบราณในตอนนี้ ก็ได้ปิดกั้นกระบวนท่าสังหารของประกายกระบี่ทั้งสองเล่มในทันที

 

“ เคร่ง “

 

ด้านบนประกายกระบี่ ก็ได้ปรากฏรอบแตกออกเป็นสาย ท้ายที่สุดประกายสีทองก็ได้แผ่กระจายออกไป จนกลายเป็นฝุ่นผงหายไป

 

แต่ว่าในเวลาเดียวกันนี้ ตราผนึกที่อยู่ทางด้านหลังของเยี่ยจงก็ได้เริ่มที่จะเปลี่ยนเป็นเจิดจ้าขึ้น จากนั้นก็ได้ค่อยๆหายไปท่ามกลางอากาศ

 

“ โครม “

 

สีหน้าของทั้งสองคนขาวซีดในเวลาเดียวกัน กระอักโลหิตออกมาอย่างรุนแรงคำหนึ่ง การควบคุมวิชามนต์ตราเทพถือว่ามีข้อจำกัดที่สูง จำเป็นที่จะต้องพึ่งพาพลังเซียนบริสุทธิ์ในการรวม จึงจะสามารถใช้ออกมาด้วยพลังอันมหาศาลของมนต์ตราเทพได้ แต่ว่า

 

ในขณะนั้นเอง ทั้งสองแขนของเยี่ยจงก็ได้ปรากฏโลหิตไหลรินออกมา ฝ่ามือราวกับแตกเป็นเสี่ยงๆ และดวงตาทั้งคู่ของหวินจงเทียนก็ได้มีโลหิตไหลหลั่งออกมาเป็นทาง ราวกับสูญเสียดวงตาไปแล้ว

.

.

.

.

กลุ่มลับ ติดต่อได้หลังไมค์ครับ กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น เข้ากลุ่ม 3/4/5/6/7/8 ราคา 400
กลุ่ม3 https://goo.gl/dV1p9e ตอนที่ 210-290
กลุ่ม4 https://goo.gl/ESwaou ตอนที่ 291-370
กลุ่ม5 https://goo.gl/ekcF7V ตอนที่ 371-450
กลุ่ม6 https://goo.gl/4rqw89 ตอนที่ 451-530
กลุ่ม7 https://goo.gl/qrQ7GA ตอนที่ 531-610

กลุ่ม8 https://goo.gl/Uzqf2x ตอนที่ 611-690 ล่าสุด613

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset