ตอนที่ 273 ทางเลือกและความลับ
ในช่วงเวลาที่ไหลเวียนผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่ทราบว่าเป็นความกลัวที่มีต่อพลังฝีมือของเยี่ยจง หรือว่าจะเป็นความกลัวที่มีต่อเหล่าผู้มีพรสวรรค์จากรัฐต้าโจว จนถึงตอนนี้ ยอดฝีมือที่อยู่ในบริเวณที่ห่างไกลได้มองดูอีกสักพักแล้วจึงได้ค่อยๆถอยไปอย่างช้าๆ ถึงแม้ว่าในตัวเยี่ยจงจะมีสมบัติล้ำค่าอยู่หลายชิ้น แต่ว่าคนเหล่านี้ต่างก็ไม่กล้าลงมือ นั่นก็เพราะว่าจำต้องจ่ายค่าชดเชยออกไปด้วย แม้แต่ชีวิตของตนเองมีความเป็นไปได้
หลังจากผ่านพ้นไปเจ็ดวัน เยี่ยจงก็ได้ลืมตาตื่นขึ้นมาจากการนั่งสมาธิ ในครั้งนี้เค้าสูญเสียพลังไปมาก บนร่างกายได้รับบาดเจ็บอย่างหนักเต็มสิบส่วน ยังดีที่ก่อนหน้านี้องค์หญิงสี่ยังได้เก็บยาปรานเอาไว้ไม่น้อย ไม่เช่นนั้นแล้วละก็ หากต้องการฟื้นฟูพลังในครั้งนี้ คงจะต้องสูญเสียเวลาไปไม่น้อย
“ ขอบคุณทุกท่านที่ให้การคุ้มกัน “ เยี่ยจงลืมตาขึ้นมา จากนั้นก็ผสานมือคำนับเหล่าผู้มีพรสวรรค์แห่งรัฐต้าโจว ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้ทุกคนจะมีบุญคุณความแค้นอยู่หลายส่วน แต่ว่าในครั้งนี้เหล่าผู้มีพรสวรรค์กลับไม่เกรงกลัวอันตรายเพื่อปกป้องตนเอง สิ่งนี้ก็ได้ทำให้เยี่ยจงรู้สึกซาบซึ้ง
“ พี่เยี่ยจงก็ไม่ต้องมากพิธีไป ท่านเพื่อที่จะช่วยพวกเรา จึงได้เสี่ยงชีวิตเพื่อฆ่าสังหารหวินจงเทียน ทั้งยังได้รับบัตรเจ็บตามร่างกาย การที่พวกเราคุ้มกันท่าน ถือได้ว่าเป็นที่สมควร “ จ้านหวังน้อยโจวชี ถอนหายใจออกมาคำหนึ่ง เขาเหม่อมองเยี่ยจง ด้วยสีหน้าที่ประหลาดยิ่ง
หากว่าเป็นก่อนหน้านี้ เขาก็เพียงคิดว่าเยี่ยจงอยากมากก็เป็นเช่นเดียวกันกับตนเองก็มิปาน ที่เป็นอัจฉริยะแห่งรัฐต้าโจว แต่ว่าในตอนนี้เขาก็ได้เข้าใจขึ้นมา เขากับเยี่ยจงนั้นไม่เหมือนกันอย่างแน่นอน พวกเขาเหล่านี้ยังถือได้ว่าเป็นคนของรัฐหนึ่ง เมื่อมีทางตระกูลออกหน้าและเตรียมการให้ แต่ว่าเยี่ยจงกลับอยู่สูงยิ่งไปกว่านั้น ที่เรียกได้ว่าเข้าสู่ในอีกขอบเขตหนึ่ง เกรงว่า ทั่วทั้งดินแดนซีฮวงหลังจากนี้ คนที่จะเทียบกับเขาได้ในวัยเดียวกันคงเรียกได้ว่าหาได้ยากยิ่ง
ในบริเวณที่ห่างไกล ก็ได้มีเงาร่างสายหนึ่งปรากฏตัวขึ้นมา ผ่านวับเข้ามาปานสายฟ้าแลบสายลมกรรโชก ย่างกรายเข้าสู่พื้นที่แห่งนี้
“ เยี่ยจง น้องหก พวกเจ้าไม่เป็นไรนะ ข้าถูก …….. “ ที่แท้ผู้ที่มาก็คือองค์หญิงหกนั้นเอง สีหน้าของนางในตอนนี้เต็มไปด้วยความเป็นห่วง ไม่เพียงแต่พุ่งผ่านกลุ่มผู้คนเข้ามา นางก็ต้องอ้าปากค้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งทันทีเมื่อพบเห็นซากศพของหวินจงเทียน ภายในดวงตาก็ได้ปรากฏแววตาตื่นตกใจขึ้น
หวินจงเทียนที่เรียกได้ว่าเป็นซวางม่อแห่งสำนักเสวียนหวิน มีชื่อเสียงเกรียงไกรในดินแดนซีฮวง ถือได้ว่าเป็ยอดอัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งดินแดนซีฮวง แต่ว่าบุคคลเช่นนี้ ถึงกับถูกสังหารแล้วงั้นหรือ ? เรียกได้ว่าอยู่เหนือความคาดหมายเกินไปแล้ว อีกทั้ง นอกเสียจากหวินจงเทียนแล้ว ยอดฝีมืออื่นๆที่ตายไป ยังมีทั้งมนุษย์ยักษ์สองหัว อินทรีย์ทองสุริยาที่ต่างก็ถือได้ว่าแข็งแกร่งสุดเปรียบปาน แม้แต่ตระกูลใดตระกูลหนึ่งก็ใช่ว่าจะสามารถมีบุคคลเช่นนี้ได้แม้คนเดียว แต่ว่าการมีอยู่เหล่านี้ในตอนนี้กลับตายตกภายใต้น้ำมือของเยี่ยจง ทั้งยังไม่มีผู้ใดมาเก็บศพ เห็นได้ชัดว่าตายได้อย่างหมดจดอย่างไร้ที่เปรียบ
“ เรื่องเหล่านี้ต่างก็เป็นเจ้ากระทำอย่างงั้นหรือ ? เจ้าสังหารงั้นหรือ ? “ องค์หญิงสี่เหม่อมองเยี่ยจง บนใบหน้าเล็กๆได้เต็มเปี่ยมไปด้วยความสงสัย ถึงแม้ว่านางจะทราบถึงพลังฝีมือของเยี่ยจง แต่ก็ยากที่จะเชื่อได้ลง
“ จะว่าอย่างนั้นก็ได้ “ เยี่ยจงตอบกลับ หลังจากที่เขามองไปที่ศพเหล่านั้นแล้ว จึงได้แสดงความคิดเห็นออกมา “ ทุกท่าน ในครั้งนี้ก็ขอบคุณพวกท่านที่คุ้มครองข้า ร่างกายของเด็กน้อยเหล่านี้สมควรที่จะมีสมบัติอยู่ไม่น้อย พวกเจ้าก็เอาไปแบ่งกันเถอะ “
“ นี้เกรงว่าคงจะไม่ดีหรอกนะ ? “ องค์หญิงหกกล่าวเสียงแผ่วเบา
“ ไม่มีอันใดไม่ดีหรอก ในมือข้าตอนนี้ก็ใช่ว่าจะมีสมบัติอันใด ถือว่าเป็นน้ำใจเล็กน้อยที่มอบให้แก่พวกเจ้าก็แล้วกัน “ เยี่ยจงพยักหน้า “ ทว่าหลังจากที่เอาสิ่งของไปแล้ว พวกเจ้าก็ต้องรีบถอยไปโดยเร็ว เสาะหาสถานที่ปลอดภัยในการพักฟื้น รอคอยจนสมรภูมิฮวงกู่สิ้นสุดลง “
ถีงแม้ว่าเยี่ยจงจะไม่ได้กล่าวอธิบายอะไร แต่ว่าก็เหมือนการบอกบางอย่างออกมา พวกเขากลุ่มนี้ ? เหล่าผู้มีพรสวรรค์อันธรรมดาเหล่านี้หากว่ายังเดินทางเพื่อเข้าสู่การแย่งชิงต่อไปแล้วละก็ เกรงว่าผลลัพธ์คงไม่ยากที่จะคาดเดา
เหล่าผู้มีพรสวรรค์ต่างก็เข้าใจในข้อนี้ หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่นาน คนเหล่านี้ก็รีบเข้าไปเก็บสิ่งของ จากนั้นก็ได้มุ่งหน้าไปทางด้านของเยี่ยจงและองค์หญิงสี่
ในครั้งนี้ เยี่ยจงและองค์หญิงสี่ต่างก็ไม่ได้ค่อยปกป้องและส่งกลับไป นั้นก็เพราะว่าหลังจากที่ได้ต่อสู้กันในศึกกับหวินจงเทียนแล้ว คาดว่าคงจะไม่มีผู้ใดที่หาญกล้าที่จะปองร้ายต่อกลุ่มผู้มีพรสวรรค์รัฐต้าโจวเหล่านี้แล้ว อีกทั้งพวกเขาต่างก็ถือได้ว่าได้รับผลประโยชน์ไปไม่น้อย ขอเพียงสามารถมีชีวิตต่อไปได้ ย่อมต้องเป็นประโยชน์ต่อรัฐต้าโจวอย่างยิ่ง
“ ต่อจากนี้เจ้าเตรียมที่จะทำอย่างไร ? หวินจงเทียนแห่งสำนักเสวียนหวินในตอนนี้ก็ได้ถูกเจ้าสังหารไปแล้ว ข่าวลือก็ได้แพร่สะพัดออกไป ยอดฝีมืแห่งสำนักเสวียนหวินเหล่านั้นอย่างน้อยก็เกิดความกลัว คงจะต้องเสาะหาสถานที่ปลอดภัยในการหลบซ่อน ถ้าต้องการที่จะเสาะหาพวกเขาออกมาแล้วละก็ เกรงว่าคงะยากขึ้นอยู่หลายส่วย “ องค์หญิงสี่มองไปที่เยี่ยจง เอ่ยปากขึ้นมาเสียงแผ่วเบา
“ กล่าวตามก่อนหน้านี้ เหล่าเด็กน้อยสำนักเสวียนหวินคงจะมีความกลัวไม่เพียงพอ แต่ว่าถ้าหากว่าพวกเขาไม่รู้จักกลัวตายแล้วละก็ ข้าก็ไม่มีปัญหาในการสิ้นเปลื้องเรี่ยวแรงอันน้อยนิด เพื่อที่จะจัดการกับพวกเขา “ เยี่ยจงเอ่ยขึ้นมาเสียงแผ่วเบา
หลังจากที่ได้เกิดความลังเลขึ้น เขาจึงได้กล่าวออกมาต่อ “ ในครั้งนี้ข้าได้ขึ้นไปยังยอดเขาของสุสานกระบี่ กลับยังไม่ได้พบเจอกับบุคคลผู้นั้น เจ้าที่มาจากลัทธิเหวินซื่อเซินเจรียว พอจะทราบถึงเรื่องที่เกี่ยวกับคนผู้นั้นหรือไม่ ? “
สีหน้าขององค์หญิงสี่เกิดความเปลี่ยนแปลง เธอที่มาจากลัทธิเหวินซื่อเซินเจรียว ถือเป็นเบื้องหลังที่ไม่ธรรมดา หลายวันมานี้ก็ได้รับข่าวสารส่วนหนึ่ง ก็คือบุคคลลึกลับผู้นี้ มีเพียงขึ้นสู่ยอดเขาสุสานกระบี่เพื่อที่จะไปนำสิ่งของอย่างหนึ่งออกมา จากนั้นก็ได้จากไป
ข่าวสารที่ได้รับมานี้ถ้ากล่าวกันตามเหตุและผล ถือได้ว่ายังน่าตื่นตะลึงมากไปกว่าที่เยี่ยจงได้สังหารหวินจงเทียนเสียอีก นั้นก็เพราะว่า มีแต่เพียงยอดฝีมือที่อยู่ในจุดสูงสุดเท่านั้นถึงจะทราบความน่ากลัวของบุคคลผู้นี้ นั้นก็เพราะว่ามีผู้คนไม่น้อยที่ได้พลาดท่าภายใต้น้ำมือของเขาไปมากมายยิ่ง
หลังจากที่ได้ครุ่นคิดอยู่นาน องค์หญิงสี่ก็ได้ถอนหายใจออกมากะทันหัน กล่าว “ เกี่ยวกับคนผู้นั้น เท่าที่ข้าทราบว่าก็ไม่เยอะมาก แต่ว่ามีข่าวสารที่พอจะเชื่อถือได้อยู่ คนผู้นี้สมควรเป็นผู้ที่มาจากดินแดนซ่างเจี่ย(ดินแดนเบื้องบน) อีกทั้งยังถือได้ว่าเป็นคนที่เก่งกาจอย่างยิ่งในดินแดนแห่งนั้น อีกทั้งในครั้งนี้มายังดินแดนซีฮวง อย่างน้อยก็มาเพื่อที่จะได้แย่งชิงวาสนาเพียงสายเดียวของสมรภูมิฮวงกู่ “
“ ซ่างเจี่ย ? ซานเชียนเซินเจี่ยงั้นหรือ ? “ เยี่ยจงเกิดความคิดขึ้นมา กล่าวออกมาด้วยเสียงแผ่วเบา
“ เจ้ารู้จักดินแดนซานเชียนเซินเจี่ยงั้นหรือ ? “ องค์หญิงสี่จ้องมองเยี่ยจง ด้วยสีหน้าประหลาด นามของซานเชียนเซินเจี่ยนี้ ผู้คนโดยส่วนมากถ้าไม่มีคุณสมบัติพอก็จะไม่ทราบ แต่ว่าเยี่ยจงยังถึงกลับสามารถกล่าวออกมาได้ นี้ก็เพียงพอที่จะบ่งบอกแล้วว่าเยี่ยจงมีที่มาไม่ธรรมดา
เยี่ยจงไม่ได้กล่าวอันใด ทั้งยังไม่ได้อธิบายอะไร เพียงแต่จ้องมององค์หญิงสี่
“ หากว่าเจ้าทราบถึงซานเชียนเซินเจี่ย ก็ถือว่าดียิ่ง กล่าวกันว่าในดินแดนซานเชียนเซินเจี่ยตามความจริง ถือได้ว่าเป็นแหล่งแห่งวิทยายุทธ์ และอีกทางด้าน พวกเราก็ขนานนามกันว่าดินแดนซ่างเจี่ย และคนผู้นั้น มีความเป็นไปอย่างมากที่จะมาจากดินแดนซ่างเจี่ย นั่นก็เพราะว่าในดินแดนซีฮวง ยังไม่เคยมีข่าวสารของบุคคลผู้นี้ เขาเป็นเหมือนดั่งเด็กหนุ่มที่ได้เข้าสู่เส้นทางเทพยุทธ์แล้วก็มิปาน ทั้งลี้ลับและแข็งแกร่ง ภายใต้ในรุ่นเดียวกันนี้ เกรงว่าคงจะยากที่จะเป็นศัตรูด้วยได้ “ องค์หญิงสี่ถอนหายใจ ทอสีหน้าประหลาด “ เยี่ยจง ยิ่งช่วงนี้ชื่อเสียงของเจ้าขจรขจาย แข็งแกร่งเต็มสิบส่วน แต่ว่าเจ้าก็ระวังเขาเอาไว้ นั้นก็เพราะว่าคนผู้นี้ชื่นชอบผู้มีพรสวรรค์ ทั้งยังชื่นชอบเก็บผู้มีพรสวรรค์มาเพื่อใช้งาน ก่อนหน้านี้ก็ได้มีเทียนจุ่ยแห่งเผ่าปีกที่เป็นหนึ่งในสามยอดอัจฉริยะแห่งเผ่าพันธุ์ถูกเขารับเอาไว้ กลายเป็นกองกำลังที่ยากต่อกร เจ้าต้องระวังเขาเอาไว้ให้มากไว้ “
“ สามยอดยุทธ์อย่างงั้นหรือ ? “ เยี่ยจงแสดงสีหน้าประหลาดจับไปที่จมูกขอบตนอง “ ถ้าหากเป็นเด็กน้อยเผ่าปีก เผ่ามีเขาและเผ่าสี่แขนทั้งสามคนนั้นแล้วละก็ ต้องขออภัยด้วย พวกเขาได้ถูกข้าจัดการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “
ร่างกายขององค์หญิงสี่สั่นเทาขึ้น นางมองไปที่เยี่ยจงด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ ไม่ทราบว่าจะกล่าวอะไรดี หลังจากนั้นเธอก็ได้ส่งเสียงเบาๆออกมา “ ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้วละก็ เจ้าก็ดูแลตัวเองให้ดีละ ในเมื่อเจ้าสังหารผู้ติดตามไปแล้ว เช่นนั้นเขาในตอนนี้ย่อมต้องทราบเรื่องแล้ว ทว่าสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือแย่งชิงวาสนาเพียงสายเดียว เขาคงยังไม่มีเวลาในการที่จะมาสนใจเจ้า แต่ว่าเจ้าก็ต้องระวัง นั้นก็เพราะว่ามีคนไม่น้อยที่คิดจะเข้าไปสู่เส้นทางที่พวกเขาไม่อาจเข้าไปได้ ในตอนนี้ก็ต้องระวังการตัดสินใจของเด็กน้อยเหล่านั้นเอาไว้ให้ดี
“ เพียงเพื่อที่จะกอดน่องขาของคนผู้นั้น ยังถึงกลับมาหาเรื่องข้าเลยอย่างงั้นหรือ ? “ สีหน้าเยี่ยจงทอแววสงสัย สีหน้าไร้คำจะกล่าว กล่าวกันว่าคนผู้นั้นมีพลังที่ถือได้ว่าลี้ลับ เก่งกาจขนาดนั้นเชียว
“ อย่าได้ดูถูกคนผู้นั้นไป การที่เขาสามารถข้ามแดนมาได้ อีกทั้งยังด้วยวัยเพียงแค่นี้ ก็เพียงพอที่จะบอกกล่าวถึงความแข็งแกร่งของเขาได้แล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยปะทะกับบุคคลอย่างองค์ชายสิบสามแห่งตระกูลถัง แต่ว่าจากคำเล่าลือ คนเหล่านี้ทราบว่าตนเองมิใช่คู่ต่อสู้ ตลอดมานี้จึงได้หลบหนีไม่พบเจอ ไม่เช่นนั้นแล้วละก็ ยอดอัจฉริยะเหล่านี้ก็คงจะพ่ายแพ้ภายใต้น้ำมือของเขาแล้ว เจ้าต้องระวังเอาไว้ให้ดี ต้องจับตาดูเอาไว้นะ “ องค์หญิงสี่ระมัดระวังรอบข้าง เห็นได้ชัดว่าเธอก็ได้เกิดความเกรงกลัวต่อคนผู้นี้อย่างไร้ที่เปรียบ
หลังจากที่เยี่ยจงครุ่นคิดชั่วครู่ ก็ได้แต่เพียงส่ายหน้าไปมา ถ้าหากว่าสิ่งที่องค์หญิงกล่าวออกมาเป็นความจริง คนผู้นี้มีความแข็งแกร่งเช่นนั้นแล้วละก็ เช่นนั้นเขาอย่างน้อยก็ต้องเข้าสู่ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายแล้ว ที่ยังเหลืออีกเพียงก้าวเดียวเท่านั้น
และหากว่าเขาฝึกปรือไปจนถึงขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายได้สำเร็จ มีความเป็นไปได้ที่จะไม่เข้าไปแย่งชิงวาสนาสายเดียวนี้ นั้นก็เพราะว่า นั้นไม่ได้เรียกว่าการแย่งชิงแล้ว แต่เป็นการมาจัดการกับยอดฝีมือมากมายนี้ มีอยู่หลายส่วนที่อยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์ของสมรภูมิฮวงกู่นี้
หากว่าคนผู้นั้นยังอยู่ในขั้นก่อเกิดระดับที่แปดขอบเขตชั้นฟ้า เช่นนั้นเมื่อต่อให้พบเจอกับตนเอง ก็ใช่ว่าจะไม่อาจไม่สามารถต่อกรกันได้
เพียงแต่ว่าเรื่องราวเหล่านี้ก็บอกได้ยาก นอกเสียจากพบพาน ไม่เช่นนั้นเยี่ยจงในตอนนี้ก็ยากที่จะยืนยันผลแพ้ชนะได้ ได้แต่เพียง คงได้แต่ก้าวไปทีละก้าวจัดการไปทีละก้าว
“ เอาละ ไม่พูดถึงพวกนี้แล้ว ต่อจากนี้ข้าเตรียมที่จะไปแอ่งชำระกระบี่ กล่าวกันว่าองค์ชายสิบสามก็ได้ไปยังสถานที่แห่งนั้นเพื่อที่จะชำระง้าวไท่หยางของตระกูลของพวกเขา “ เยี่ยจงครุ่นคิดอยู่นาน จึงได้กล่าวออกมา
องค์หญิงสี่สีหน้าเปลี่ยนไป หลังจากนั้น เธอก็ตอบกลับเสียงแผ่วเบา “ เป็นผู้ใดบอกต่อเจ้ากันว่าองค์ชายสิบสามไปยังสถานที่แห่งนั้นกัน ? “
“ ถังกู่หมิงหยี่ เป็นอะไรงั้นหรือ ? สถานที่แห่งนั้นมีความยุ่งยากอย่างงั้นหรือ ? “ เยี่ยจงขมวดคิ้ว นั้นก็เพราะว่าสีหน้าในตอนนี้ขององค์หญิงสี่ได้ปั้นยากอย่างถึงที่สุด
องค์หญิงสี่เผยให้เห็นสีหน้าที่เคร่งเครียดออกมา หลังจากนั้นไม่นาน รางก็ได้ถอนหายใจออกมาคำหนึ่งแล้วตอบ “ สถานที่แห่งนั้นไม่ใช่ยุ่งยาก แต่ยุ่งยากอย่างถึงที่สุด ถึงแม้ว่ามันจะอยู่ภายในสุสานกระบี่ แต่ว่าก็เรียกได้ว่าเป็นแผ่นดินที่อยู่ในแผ่นดิน หลายปีมานี้ มีผู้คนมากมายนับไม่ถ้วนคิดที่จะเข้าไปภายในแอ่งชำระกระบี่ แต่ว่าที่เข้าไปนั้นถือได้ว่ามีอยู่มากออกมาได้น้อย จากข่าวสารเหล่านี้ ท่ามกลางแอ่งชำระกระบี่ เรียกได้ว่าลี้ลับโบราณส่วนหนึ่ง อีกทั้งยังต้องพึ่งพาโชคชะตา ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่วาสนาเพียงสายเดียวที่เล่าลือกัน แต่ก็เรียกได้ว่ายากที่จะครอบครองได้ “
“ ที่ด้านนั้นที่แท้มีอันใดกัน ? “ เยี่ยจงขมวดคิ้ว เอ่ยขึ้นมาอย่างสงสัย
“ หัวใจพสุธา “ องค์หญิงสี่หลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่ จึงค่อยเอ่ยตอบขึ้นมาเสียงแผ่วเบา “ กล่าวกันว่าส่วนลึกของแอ่งชำระกระบี่มีหัวใจพสุธาอยู่ คิดว่าเจ้าก็ต้องทราบอยู่ไม่น้อย หัวใจพสุธานั้นเป็นสิ่งที่มีส่วนช่วยเหลือในการฝึกปรือเข้าสู่ขั้นก่อเกิดระดับที่เก้าขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลาย มีผลไม่ต่างจากหยดน้ำก่อฟ้า ไม่ว่าผู้ใดที่เดินในเส้นทางสายยุทธ์นี้ ต่างก็ให้ความสำคัญแก่วัตถุชิ้นนี้อย่างไร้ที่เปรียบ “
“ หัวใจพสุธา “ เยี่ยจงตาทอเป็นประกาย สีหน้าเปลี่ยนเป็นประหลาดขึ้นมา หากเป็นไปตามที่เสี่ยวหลินกล่าวมา ขอเพียงสามารถเสาะหาหัวใจพสุธาได้ มันก็จะสามารถทำให้ใช้สมบัติมังกรโลหิตบริสุทธิ์ได้ หยดน้ำก่อฟ้า หัวใจพสุธาหลอมจนกลายเป็นหยดน้ำเซียน เพื่อที่จะให้ตนเองเข้าสู่ขั้นก่อเกิดระดับที่เก้า ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลาย
.
.
.
.
กลุ่มลับ ติดต่อได้หลังไมค์ครับ กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น เข้ากลุ่ม 3/4/5/6/7/8 ราคา 400
กลุ่ม3 https://goo.gl/dV1p9e ตอนที่ 210-290
กลุ่ม4 https://goo.gl/ESwaou ตอนที่ 291-370
กลุ่ม5 https://goo.gl/ekcF7V ตอนที่ 371-450
กลุ่ม6 https://goo.gl/4rqw89 ตอนที่ 451-530
กลุ่ม7 https://goo.gl/qrQ7GA ตอนที่ 531-610
กลุ่ม8 https://goo.gl/Uzqf2x ตอนที่ 611-690 ล่าสุด613
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ
https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/