ตอนที่ 290 สายตาที่มองมาของผู้คน
หนึ่งก้าว หนึ่งก้าว แล้วก็อีกหนึ่งก้าว
เยี่ยจงก็ได้ค่อยๆก้าวเข้าไปยังทางด้านทางเข้าของสุสานกระบี่ เขาไม่กล้าที่จะเคลื่อนไหวเร็วเกินไป ทางหนึ่งถอยทางหนึ่งก็ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของร่างกายอย่างระมัดระวัง ในตอนนี้เขาเพียงแค่ต้องการที่จะเข้าไปยังท่ามกลางของสุสานกระบี่ เสาะหาสถานที่อันเงียบสงบในการทะลวงขอบเขต เพื่อที่จะมิให้เกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้น
“ เจ้าพวกขยะ หลังจากที่เยี่ยจงสำเร็จแล้ว พวกเจ้าคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้จะสิ้นสุดเพียงแค่นี้งั้นหรือ ? พวกเจ้าไม่ลงมือ วันข้างหน้าก็อย่าได้นึกเสียใจเล่า “ หญิงสาวเผ่าหวินฮู่ทอสีหน้าดุร้าย เกิดความหวาดกลัวขึ้นมาภายในจิตใจของนาง หากว่าเยี่ยจงสำเร็จการทะลวงเข้าสู่อีกขอบเขตแล้วละก็ ผลลัพธ์ที่จะตามมาก็ไม่อยากที่จะคิดเลย อย่างน้อย เรื่องราวที่เกิดขึ้นภายในวันนี้ คงไม่อาจที่จะปล่อยไปเช่นนี้ได้อย่างแน่นอน
“ ก๊ง “
ทันใดนั้นเอง นางก็ได้กัดฟันชักกระบี่ยาวออกมาเล่มหนึ่ง จากนั้นร่างกายก็ได้ขยับขึ้นมา เหยียบขึ้นไปบนกระบี่ยาวเล่มนี้ วินาทีที่ได้เคลื่อนไหว รังสีกระบี่ก็ได้แผ่ออกมาเป็นสาย มุ่งหน้าเข้าปะทะสังหารยังบริเวณที่เยี่ยจงอยู่เข้าไป
“ เจ้ายังไม่รู้จักจบจริงๆสินะ “ เยี่ยจงราวกับตรวจสอบได้ เขาไม่ได้หันหน้ากลับไป เพียงแต่ฟาดฝ่ามืออกไปคราหนึ่ง ต้านทานรังสีกระบี่เอาไว้
“ ข้าไม่อาจที่จะให้เจ้าจากไปได้ “ หญิงสาวเผ่าหวินฮู่กัดฟัน พลิกสองมือเป็นสัญลักษณ์เปลี่ยนแปลงไปมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ได้ดีดนิ้วครั้งหนึ่ง เกิดพลังทำลายออกมาไม่ขาดสาย
“ เจ้า “
เยี่ยจงหันกายกลับมาอย่างรุนแรง ภายในดวงตาก็ได้ปรากฏรังสีฆ่าฟัน เขาไม่คิดที่จะอยู่ในที่แห่งนี้ต่อไป แต่ว่าหญิงสาวเผ่าหวินฮู่กลับตามรังควานเขาไม่หยุด หมายที่จะขัดขวางการทะลวงเข้าสู่อีกขอบเขตของเขา จนทำให้เขาบังเกิดรังสีฆ่าฟันออกมา
“ ถ้าต้องการจะตายข้าก็จะสนองให้เจ้า “ เสียงเย็นชาดังขึ้นมา เยี่ยจงสะบัดมือขวาออกไป วินาทีนั้น พลังกระบี่ตราประทับก็ได้ถูกทับซ้อนกันออกมา คล้ายดั่งคมกระบี่ออกมาเป็นสายก็มิปาน ในตอนนี้ก็ได้มุ่งหน้าเข้าสังหารไปยังหญิงสาวเผ่าหวินฮู่ที่ทะยานเข้ามาด้วยพลังทั้งร่างกาย
“ ซวบ “
รังสีกระบี่พุ่งขึ้นฟ้า ร่างกายของหญิงสาวเผ่าหวินฮู่ก็ได้สั่นเทาไปมาอยู่ท่ามกลางอากาศ หลังจากนั้น ก็ได้มีโลหิตไหลออกมาจากบริเวณทางหน้าอกของนาง ร่างกายโอนเอนไปมาอย่างช้าๆ แล้วก็ได้ทิ้งร่างลงบนพื้นดิน
“ อะไรกัน ? “
เสียงสั่นเครือขึ้นท่ามกลางสนาม มีผู้คนนับไม่ถ้วนสูดลมหายใจเข้าออกด้วยความตกใจ ความจริงพวกเขายังคิดที่จะให้เยี่ยจงสังหารหญิงสาวเผ่าหวินฮู่แล้วค่อยเปิดศึกขึ้นมา แต่ก็คิดไม่ถึงว่าจะจบลงได้อย่างสะอาดหมดจดเช่นนี้
“ เปรี้ยง “
ทันใดนั้นเอง บริเวณใจกลางหน้าอกของเยี่ยจงก็ได้ขยับอย่างช้าๆ ประกายแสงสีทองสายหนึ่งก็ได้แตกออก ประกายแสงสีทองก็ได้ปรากฏขึ้นมา เพียงแต่ว่าเยี่ยจงเพียงแค่ขมวดคิ้ว พลังลมปราณภายวิชากระบี่หกสุสานก็ได้กดทับภายในร่างกาย
ในตอนนี้ภายในร่างกายของเขาก็ได้เกิดความรู้สึกซ้ำซ้อนขึ้นมา ถ้าหากสามารถที่จะไม่ลงมือแล้วละก็ ยังคงไม่ลงมือเสียจะดีกว่า เสาะหาสถานที่อันเงียบสงบเพื่อฝึกปรือจึงถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้
“ สถานการณ์ของเขา คาดว่าคงจะไม่ดีนัก “
“ เข้าสู่ขั้นก่อเกิดระดับที่เก้า ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลาย ความจริงยากกว่าขึ้นสวรรค์เสียอีก อีกทั้งเขายังถึงกับต้องแบ่งพลังเพื่อที่จะรักษาชีวิตจากผู้คนที่หมายจะสังหารเขา สถานการณ์ย่อมไม่ดีมากนัก “
“ หากว่าเขาไม่มีวิธีพอที่จะควบคุมการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกายแล้วละก็ ไม่แน่ว่าโอกาสในครั้งนี้อาจจะต้องสูญไป อีกทั้งอาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาต้องตายก็เป็นได้ “
ยอดฝีมือมากมายรอบข้างต่างก็ทอสายตาจริงจังไร้ที่เปรียบ ตนที่เรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะแห่งเผ่าพันธุ์ สายตาของผู้คนเหล่านี้ย่อมต้องอยู่เหนือกว่าคนอื่นๆอย่างแน่นอน ในตอนนี้ ก็ได้มีสายตาของคนไม่น้อยสาดประกายไปมา หากเมื่อครู่กล่าวว่าพวกเขายังไม่คิดที่จะลงมือแล้วละก็ แต่ว่าเมื่อมองเห็นการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายของเยี่ยจง ก็ได้มีผู้คนไม่น้อยเริ่มที่จะเปลี่ยนใจขึ้นมา
“ ตูม “
ในช่วงกะทันหันนั้นเอง ใจกลางสายตาก็ได้มีพลังอันแข็งกล้าไร้ที่เปรียบกวาดออกมา มุ่งหน้าเข้าหมายปะทะไปยังทางด้านของเยี่ยจง เยี่ยจงขมวดคิ้วแล้วก็ฟาดมือสวนกลับไป การโจมตีทั้งสองสายก็ได้พุ่งเข้าชนกัน ดุจดั่งดาวตกเข้าชนกันก็มิปาน สาดเป็นประกายไม่เลือนลาง
“ ในที่สุดก็ได้มีคนที่อดที่จะไม่ลงมือได้แล้ว “
ภายในความคิดของผู้คนในกลุ่มนี้ ทุกผู้คนต่างก็มีการตัดสินใจเป็นของตัวเอง
“ ตูม “
เงาร่างกายหนึ่งก็ได้เดินออกมา ทั่วทั้งร่างกาปกคลุมไปด้วยขนสีโลหิต แต่ว่าขนตรงบริเวณส่วนหัวกลับเป็นสีขาวราวหิมะ แต่ทว่าดวงตาทั้งคู่นั้น ก็ราวกับเป็นดั่งพระจันทร์สีเลือดก็มิปาน เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแรงกดดัน เห็นได้ชัดว่า อีกฝ่ายถือโอกาสลงมือในช่วงเวลาที่คับขันที่สุด เพื่อที่จะหยุดยั้งการจากไปของเยี่ยจง
“ อะไรกัน ? นี้คือจูเยียนงั้นหรือ ? ”
“ เผ่าพันธุ์สัตว์ปีศาจดึกดำบรรพ จูเยียน เล่าขานกันว่าเป็นเผ่าพันธุ์แห่งการสังหาร เมื่อมีการปรากฏตัวขึ้น ก็จะดึงดูดมรสุมเข้ามา ยิ่งพบเจอก็ยิ่งแข็งแกร่ง “
“ จูเยียน มันยังถือได้ว่าแข็งแกร่งกว่ายอดอัจฉริยะแห่งเผ่าพันธุ์หวินฉู่เมื่อครู่นี้อีก ต่อให้เผ่าหวินฮู่แข็งแกร่งกว่านี้ แต่ทว่าเป็นเพียงหนึ่งในสี่เผ่าพันธุ์ที่มีเส้นลมปราณโบราณอยู่เท่านั้น แต่ว่าจูเยียนนั้นกลับไม่เหมือนกัน ที่เป็นถึงสัตว์ปีศาจโบราณอันโหดเหี้ยม น่ากลัวสุดเปรียบปาน
สีหน้ายอดอัจฉริยะมากมายต่างก็เคร่งเครียดขึ้นมา จูเยียนตนนี้มีความแข็งแกร่งอย่างมากแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นทั้งทางร่างกายหรือทักษะยุทธ์ อย่างน้อยก็พียงพอที่จะต่อกรกับเยี่ยจงในตอนนี้ได้ ไม่เช่นนั้นมันมีหรือที่จะกล้าเดินออกมา
“ เป็นเจ้า “ เยี่ยจงขมวดคิ้ว จูเยียนตนนี้ก็คือตัวที่เคยปะทะกันก่อนหน้านี้ที่แอ่งชำระกระบี่ คิดไม่ถึงว่ามันถึงกับลงมือด้วยตนเองในตอนนี้
“ เยี่ยจง เจ้าข้าต่างก็ทราบดี การก้าวย่างเข้าสู่ขอบเขตนี้เรียกได้ว่ายากเสียยิ่งกว่ายาก ข้าแม้จะไม่คิดที่จะขัดขวางการเข้าสู่ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายของเจ้า ทำลายความสำเร็จของผู้คน เพียงแค่เจ้าส่งมอบหัวใจพสุธาออกมาชิ้นหนึ่งในตอนนี้ ข้าไม่เพียงแต่จะหันกายจากไป อีกทั้งยังคุ้มครองไม่ให้ผู้ใดไล่ตามเจ้า “ สีหน้าของจูเยียนทอแววเย็นชาขึ้นมา ร่างกายก่อเกิดรังสีความโหดร้ายขึ้นมา คำพูดของเขาแม้จะดุดัน เสียงที่ดังขึ้นมาดังก้องราวกับเสียงของระฆัง
“ ข้าบอกไปตั้งแต่แรกแล้ว ของสิ่งนั้นได้ถูกข้าหล่อหลอมไปแล้ว “ เยี่ยจงหันกาย คร้านที่จะอธิบายมากมายกับจูเยียน เขาจำเป็นที่จะต้องเข้าไปยังสุสานกระบี่โดยเร็ว เพื่อเสาะหาสถานที่อันสงบฝึกปรือ
“ ในเมื่อให้ความช่วยเหลือก็ไม่ยอมรับ ก็อย่าได้มาโทษว่าข้า จะโทษก็โทษที่เราเจ้าแท้จริงแล้วไม่มีไมตรีต่อกันก็แล้วกัน “ จูเยียนเย็นชาขึ้นมา จากนั้นก็ได้ยกมือขึ้นข้างหนึ่ง วินาทีนั้นก็ได้พบกับประกายแสงสีโลหิตสายหนึ่งแผ่กระจายออกมาจากใจกลางฝ่ามือของเขา จนกลายเป็นสีโลหิตทั้งฝ่ามือ มุ่งหน้าเข้าสังหารไปทางด้านของเยี่ยจงเข้าไป
“ เหอะเหอะ พี่จูเยียน ในเมื่อคิดที่จะลงมือแล้วละก็ ทำไมไม่ให้ข้าเข้าร่วมด้วยเล่า ในเมื่อในมือของเขามีหัวใจพสุธาถึงสามชิ้น ก็เพียงพอที่จะแบ่งให้เราท่านแล้ว “ เสียงหัวเราะเสียงหนึ่งดังลอดขึ้นมา เสียงนั้นคล้ายดั่งทารกน้อยอายุหกเจ็ดขวบก็มิปาน แต่ว่ากลับมีพลังหยินอยู่อย่างเต็มเปี่ยม จนทำให้ผู้คนที่ได้ยินขนลุกขนพอง
“ ตูม “
พลังขาวดำสายหนึ่งก็ได้กลายเป็นประกายแสงขึ้นมาอยู่ในทางด้านหนึ่งในเวลาเดียวกัน สอดคล้องเข้ากับการโจมตีของจูเยียน มุ่งหน้าเข้าสังหารเยี่ยจงเข้าไป
“ ซูม “
เยี่ยจงขมวดคิ้ว พลิกทั้งสองมือฟาดออกไป จนปรากฏประกายแสงสีทองขึ้นมา ขวางรั้งพลังประกายแสงสีขาวดำเอาไว้ ในเวลาเดียวกันเยี่ยจงก็ได้กวาดเท้าออกไปราวกับหางของสัตว์ประหวาด ปะทะกับพลังฝ่ามือสีเลือด ต้านทานการโจมตีอันน่ากลัวเอาไว้
“ ครืดครืดครืด “
ทั้งสามคนแบ่งกันรุกผลัดกันรับ เยี่ยจงถอยกายไปทางด้านหลังอย่างรวดเร็ว ทุกฝ่าเท้าที่ทอดลงก็ได้ทิ้งไว้ด้วยรอยเท้าขนาดใหญ่เอาไว้ จากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้น ทอสีหน้าปั้นยากขึ้นมาหลายส่วน
เกิดการตกใจขึ้นมาภายในกลุ่ม พวกเขาจ้องมองไปยังยอดฝีมือที่ลงมือเป็นคนที่สองนั้น แล้วก็ได้พบว่าเป็นทารกเผ่ามนุษย์ที่มาอายุเจ็ดแปดขวบ แต่ว่าบนร่างกายของมันกลับมีพลังอันโหดเหี้ยมปกคลุมเอาไว้อยู่ ทั้งยังทำให้เกิดบรรยากาศอันน่ากลัวขึ้นมาชนิดหนึ่ง
“ นกฮวางเชวียน “ไม่ทราบว่าเป็นผู้ใดที่ส่งเสียงดังขึ้นมา เผยสถานะของคนผู้นี้ออกมา ในขณะนั้นเอง ก็ได้มียอดฝีมือไม่น้อยต่างก็ได้ขมวดคิ้วขึ้นมา ถอยหลังไปหลายก้าว นั้นก็เพราะว่าถึงแม้จะมิใช่เผ่าพันธุ์ที่มีร่างกายที่แข็งแกร่งที่สุด แต่ว่าพวกมันก็ถือได้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตในแดนเทพ อีกทั้งยังมีทักษะยุทธ์ที่เรียกได้ว่าพิศดาลเป็นอย่างยิ่ง บุคคลโดยทั่วไปยากที่จะต้านทานกระบวนท่าของเผ่าพันธุ์กลุ่มนี้ได้
“ ราชันเยี่ยจงผู้นี้ ในครั้งนี้เกรงว่าคงจะเจอความยุ่งยากซะแล้ว ทั้งจูเยียน ทั้งนกฮวางเชวียน ไม่ว่าจะเป็นผู้ใดต่างก็มิใช่ชนชั้นดั่งยอดอัจฉริยะเผ่าหวินฮู่จะเทียบเคียงได้ “ มีคนกล่าวออกมาเสียงเบา ส่ายหัวแล้วถอนหายใจออกมา นี้คงจะต้องกลายเป็นสักขีพยานในการเสียชีวิตของเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่เข้าสู่ขอบเขตเทพเซียนได้อย่างงั้นหรือ ?
เยี่ยจงทอสีหน้าเย็นชาขึ้นมากว่าเดิม เขาจ้องมองไปยังบุคคลที่ลงมือทั้งสองคน จากนั้นก็ได้หันกายไปอีกครั้ง มุ่งหน้าถอยไปยังทางด้านหุบเขากระบี่ ในตอนนี้ถ้าหากยังมัวแต่พัวพันกับทั้งสองคนแล้วละก็ ไม่แน่ว่าอาจจะต้องพลาดโอกาสที่ยากจะพบเจอนับพันชาติได้
“ ทิ้งหัวใจพสุธาเอาไว้ ไม่เช่นนั้นแล้วละก็ เจ้าก็จากไปไม่ได้ ชั่วชีวิตนี้ก็อย่าได้หมายคิดจะเข้าสู่ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายได้ “ จูเยียนพุ่งกายออกไป ร่างกายของมันที่มีขนาดใหญ่โต แต่ว่าในด้านความเร็วกลับไม่ได้น้อยกว่าขนาดตัวเลยแม้แต่น้อย ทันทีที่มาถึงยังด้านหน้าทางเข้าของสุสานกระบี่ ก็ได้ขวางรั้งเส้นทางที่เยี่ยจงจะไปเอาไว้
“ พี่เยี่ยจง ท่านว่า ในมือของท่านมีหัวใจพสุธาถึงสามชิ้น ในตอนนี้พวกเราก็มาแบ่งกันคนละหนึ่งชิ้น นี้มิใช่เป็นเรื่องที่สมบูรณ์แบบหรอกหรือ ? “ นกฮวางเชวียนที่อยู่ในร่างกายทารกน้อยเงยหน้ามองไปที่เยี่ยยจง ภายในปากของมันที่มีประกายสีขาวดำกลายเป็นพลังเพลิงผลาญพร้อมที่จะออกมากับคำพูด แลดูประหลาดไร้ที่เปรียบ
เยี่ยจงรีดเร่งพลังลมปราณกระบี่หกสุสานไปทั่วทั้งร่างกาย ในเวลาเดียวกันก็ได้นำกระบี่ดำออกมาจากแหวนจักรวาล ทอสีหน้าเย็นชาอย่างถึงที่สุด
“ ดูเหมือนว่า ข้อเสนอของพวกเราเจ้าจะไม่ยอมรับสินะ ช่างมันเถอะ ในเมื่อเจ้าก็เป็นลูกผู้ชาย ถ้าหากดูดกลืนไปแล้วละก็ ข้าก็มีโอกาสที่จะเข้าสู่ขั้นก่อเกิดระดับที่เก้า โดยการดูดกลืนเจ้าลงไปก็ไม่ถือเป็นเรื่องยากอันใด “ นกฮวางเชวียนถอนหายใจออกมา ทอแววดุร้ายขึ้นที่มุมปาก เปลวเพลิงขาวดำทั้งสองกลายเป็นดั่งเงาวิหคสายหนึ่ง มุ่งหน้าเข้าสังหารไปทางด้านหน้า
จูเยียนก็ได้หัวเราะเย็นชาขึ้นมาเช่นเดียวกัน กวาดพลองสีโลหิตในมือออกไป ทั้งยังมีพลังกดดันอันน่าหวาดกลัวชนิดหนึ่งมุ่งหน้าเข้าไปยังทางด้านของเยี่ยจง
“ พวกเจ้าต้องการที่จะท้าทายให้ข้าต่อสู้ขั้นแตกหักอย่างงั้นหรือ ? “ เยี่ยจงทอแววเย็นชาขึ้น แล้วก็ได้มีพลังแรงกดดันออกมาจากร่างกายในเวลาเดียวกัน กระบี่ดำในมือก็ได้ปล่อยคมกระบี่ออกมา มุ่งหน้าเข้าสังหารไปทางด้านฝ่ายตรงข้าม วินาทีนั้นก็ได้มีพลังความแค้นพุ่งขึ้นสู่ฟ้า คมกระบี่ถูกกวาดออกปานพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวไม่หยุด
“ ตูม “
วินาทีนั้น การโจมตีของทั้งสามคนก็ได้เข้าปะทะกันอีกครั้ง เพียงแต่ว่าทั้งสองคนนี้มีพลังที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก มีอยู่หลายส่วนที่อยู่นอกเหนือความคาดเหมาย ร่างกายของเยี่ยจงก็ได้ถูกกระแทกจนกระเด็นถอยไปทางด้านหลังอยู่หลายก้าว แล้วก็ได้มีโลหิตสีทองไหลออกมาจากมุมปาก ลมปราณเลือดลมภายในร่างก็ได้พลิกไหวไปมา
“ เสี่ยวหลุน ช่วยข้า “ เยี่ยจงกล่าวขึ้นมาด้วยเสียงที่แผ่วเบาภายในห้วงสมอง ในตอนนี้เรียกได้ว่าอยู่ในวิกฤตอันตรายอย่างเต็มเปี่ยม อาจจะตายตกลงได้ทุกเมื่อ
“ ข้าช่วยได้อย่างมากก็เพียงแค่ครั้งเดียว นำพาเจ้าจากไป แต่ว่าก็ใช่ว่าจะพอที่จะสลัดเด็กน้อยสองคนนี้หลุดได้ นั้นก็เพราะว่าพวกเขานั้นต่างก็ถือได้ว่ามีไพ่ตายของตนเอง ยากที่จะต่อกรได้ “ เสี่ยวหลุนส่งเสียงออกมาภายในจิตสำนึก มันก็ลำบากใจยิ่ง ถ้าหากกว่าก่อนหน้านี้มิใช่เป็นเพราะช่วยเหลือเยี่ยจงหลอมหยาดน้ำจนสูญเสียพลังไปมากแล้วละก็ ในตอนนี้มันก็คงจะสามารถนำพาเยี่ยจงหนีจากไปได้
“ หากว่าข้าพ่ายแพ้ เจ้ายังจะลงมืออีก ข้ายังไงก็ไม่อาจที่จะเชื่อได้ลงหรอก “ เยี่ยจงเงียบงันแล้วก็กรอกตาไปมา แต่ว่าภายในดวงตาก็ได้ปรากฏรังสีความโหดเหี้ยมขึ้นมา ถึงแม้ว่าเด็กน้อยเหล่านี้จะไม่ให้ตนเองมีโอกาส เช่นนั้นคงมีความเป็นไปได้ที่ตนเองจะต้องพลาดพลั้งภายใต้การต่อสู้นี้เป็นอย่างมาก
“ เป็นพวกเจ้าท้าข้าเองนะ “ เยี่ยจงร้องขึ้นมาเสียงเย็นชา แล้วก็ได้ฟาดฟันกระบี่ดำในมือออก ในเวลาเดียวกันร่างกายก็ได้ยืนอยู่กับที่ไม่เคลื่อนไหว พลังลมปราณกระบี่หกสุสานก็ได้ไหลเวียนไปทั่วอย่างรวดเร็ว เห็นได้ชัดว่าต้องการที่จะทะลวงเข้าสู่ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายให้เร็วที่สุด
“ อะไร เยี่ยจงผู้นี้เป็นบ้าแล้วหรือเปล่า เขาต่อให้จะตายอยู่แล้วก็ยังไม่ยอมส่งมอบหัวใจพสุธามาอีก เพียงแต่เลือกที่จะเอาชีวิตเข้าแลกงั้นหรือ ? “
“ การต่อสู้ขึ้นอย่างกะทันหัน บรรลุเข้าสู่ขั้นก่อเกิดระดับที่เก้า ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลาย ต่อให้เป็นตำนานที่เหมือนไม่เคยมีอยู่จริง หากว่าเขาทำได้สำเร็จจริงแล้วละก็ เช่นนั้นก็คงได้แต่โทษว่าสวรรค์เกิดความลำเอียงแล้วกระมั่ง ? “
ยอดฝีมือมากมายต่างก็เกิดอาการตกใจ ยากที่จะเชื่อได้ลง
.
.
.
.
กลุ่มลับ ติดต่อได้หลังไมค์ครับ กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น เข้ากลุ่ม 4/5/6/7/8 ราคา 450
กลุ่ม3 https://goo.gl/dV1p9e ตอนที่ 210-290
กลุ่ม4 https://goo.gl/ESwaou ตอนที่ 291-370
กลุ่ม5 https://goo.gl/ekcF7V ตอนที่ 371-450
กลุ่ม6 https://goo.gl/4rqw89 ตอนที่ 451-530
กลุ่ม7 https://goo.gl/qrQ7GA ตอนที่ 531-610
กลุ่ม8 https://goo.gl/Uzqf2x ตอนที่ 611-690 ล่าสุด641
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ
https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/