เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 292 ทะลวงขอบเขต

ตอนที่ 292 ทะลวงขอบเขต

 

 

กลุ่มผู้คนต่างก็ทอสีหน้าแปลกใจเต็มสิบส่วน ภายใต้การต่อสู้ของยอดอัจฉริยะแห่งยุคทั้งสองคนนี้ ถึงแม้ว่าภายในร่างกายของเยี่ยจงจะมิได้มอดไหม้ไป ในทางกลับกัน ภายในกายของเขาก็ได้เริ่มอยู่ในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดแล้ว ในตอนนี้ประกายสีทองก็ได้ปกคลุมไปทั่วทั้งร่างกาย จนสามารถเปลี่ยนแปลงการต่อสู้ที่เกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้ พัฒนาขึ้นไปจนถึงอีกระดับ จนถึงระดับขั้นก่อเกิดระดับที่เก้าในตำนานแล้ว

 

“ บรึม “

 

ร่างกายของจูเยียนก็ได้พุ่งหมายสังหารออกมา พลองโลหิตในมือก็ได้ถูกกวาดออกมาอีกครั้ง พลองโลหิตมีเพียงแต่รังสีสังหารที่พุ่งออกมา มุ่งหน้ากวาดเข้าไปทางด้านบริเวณที่เยี่ยจงอยู่ สีหน้าของมันปั้นยากขึ้นกว่าเดิม นั้นก็เพราะว่าถ้าหากยังต่อสู้เช่นนี้ต่อไปกับเยี่ยจง จนสำเร็จขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายแล้วละก็ เช่นนั้นสถานการณ์ต่อไปของเขาและนกฮวางเชวียนคงจะยากที่จะคาดเดาได้

 

และในเวลาเดียวกัน นกฮวางเชวียนในร่างทารกก็ได้อ้าปากกว้างขึ้นมา ก่อตัวรวมพลังขาวดำทั้งสองสายโพยพุ่งออกมา ต้านทานประกายสีทองที่อยู่บนร่างของเยี่ยจง หยุดยั้งเยี่ยจงก้าวเข้าสู่ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลาย

 

“ เปรี้ยง “

 

เยี่ยจงพลิกทั้งสองมือฟาดออกไป ต้านรับการโจมตีของจูเยียน กระอักโลหิตออกมาคำโต เผชิญหน้าอยู่กึ่งกลางของจูเยียนและนกฮวางเชวียน เขาไม่แม้แต่จะเกิดความหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย แต่ว่าในตอนนี้ด้วยการร่วมมือของทั้งสองคน ก็ได้ทำให้เขาย่างกรายเข้าสู่ความอันตรายอีกขั้น มีความเป็นไปได้ที่ต้องทอดร่างลงอีกด้วย

 

“ นกฮวางเชรียว เจ้าหาที่ตาย “

เยี่ยจงกระอักโลหิตออกมาคำโต พลิกสัญลักษณ์บนมือเปลี่ยนแปลงไปมา ตราผนึกนภาถูกใช้ขึ้นมาอีกครั้ง มุ่งหน้าเข้ากดดันสังหารไปทางด้านของนกฮวางเชวียน ในเวลาเดียวกันเยี่ยจงก็ได้ขยับร่างไปมา จนมาถึงข้างกายของจูเยียน เพื่อที่จะต่อสู้ระยะประชิดกับมัน นั้นก็เพราะว่าพลังของพลองโลหิตนั้นบ้าคลั่งจนเกิดไป

 

“ มอบหัวใจพสุธามา เจ้าก็ไปได้เลย “ จูเยียนส่งเสียงดังเฮอะอย่างเย็นชา พลิกทั้งสองมือจนเปล่งประกายขึ้นมาในเวลาเดียวกัน มุ่งหน้าฟาดเข้าไปทางด้านที่เยี่ยจงอยู่ หากว่าถูกการโจมตีนี้ คาดว่าคงจะทำให้เยี่ยจงได้รับบาดเจ็บหนักได้

 

เยี่ยจงยังคงสีหน้าเหมือนเดิม พลิกเปลี่ยนสัญลักษณ์บนมือ ทั้งสองมือก็ได้บีบใช้ออกด้วยทักษะกระบี่ออกไป จากนั้นเขาก็ได้โบกมือขึ้นคราหนึ่ง ปล่อยกระบี่ดำหลุดจากมืออกไปอีกทั้งให้ลอยออกไป คล้ายดั่งเยี่ยจงใช้กระบี่พุ่งออกไป

 

“ ฉัวะ “

 

โลหิตพุ่งฉีดขึ้นมา กระบี่นี้ของเยี่ยจงได้พุ่งเข้าไปยังบริเวณทรวงอกของจูเยียนเข้าไป หลงเหลือไว้แต่เพียงบาดแผลจากรอยกระบี่ แต่ว่าถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ ยอดอัจฉริยะมากมายต่างก็มองจนอ้าปากตาค้าง นั้นก็เพราะว่าเยี่ยจงในตอนนี้ไม่เพียงแต่ต้องคงสภาพภายในร่างกาย นั้นก็เพราะว่าต้องทำการป้องกันพลังอันมหาศาลที่อาจจะระเบิดออกมา ในเวลาเดียวกันยังต้องปะทะกับนกฮวางเชวียนและจูเยียนในเวลาเดียวกัน แต่ว่าด้วยสภาพการณ์เช่นนี้แล้ว กระนั้นเขาจะยังได้เปรียบอยู่อีกงั้นหรือ ?

 

จูเยียนงุนงงขึ้นมา กระบี่ดำที่ก่อรวมพลังความแค้นอันแข็งแกร่งจนทำให้ดวงตาของมันพร่ามัว จึงได้ตัดสินใจถอยกายไป นั้นก็เพราะว่าถ้าหากถูกแทงอีกหนึ่งกระบี่ มันจะคงไม่พ้นจากอาการบาดเจ็บหนัก

 

แต่ว่าหลังจากที่ได้ถอยไปแล้ว จูเยียนกลับต้องร่ำร้องขึ้นมาอย่างเจ็บปวด เขาพลิกทั้งสองมือเปลี่ยนแปลงไปมา ไอโลหิตก็ได้ก่อตัวขึ้นมาดั่งขุนเขา มุ่งหน้าเข้าปะทะไปทางด้านที่เยี่ยจงอยู่เข้าไป ยับยั้งการใช้กระบี่ดำในมือของเยี่ยจงเอาไว้

 

ขุนเขาลูกหนึ่งถูกฟาดออกไป จนทำให้ก่อเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว โลหิตภายในกายของจูเยียนในตอนนี้ก็ได้แปรปรวนขึ้นมา รังสีฆ่าฟันพุ่งขึ้นมาอย่างหนาแน่น กล้ามเนื้อบนร่างกายทุกตารางนิ้วต่างก็เริ่มที่จะปะทุพลังอันมหาศาลออกมา

 

“ ตูม “

 

เยี่ยจงใช้กระบี่ดำฟาดฟันออกไปอย่างรวดเร็ว จนตัดผ่าขุนเขาลูกใหญ่ออกเป็นชิ้นๆ กระบี่ดำในมือยังคงไม่หยุดนิ่ง ราวกับหลงลืมความเป็นความตาย

 

ในเวลาเดียวกันนี้ นกฮวางเชวียนสลัดหลุดจากพลังตราผนึกนภาได้ มันสะบัดหัวอย่างแรง พลังสีขาวดำก็ได้กลายเป็นมังกรเพลิงขึ้นมา ลอยพุ่งออกไปท่ามกลางอากาศ หมายจะจัดการเยี่ยจงให้ได้

 

มือซ้ายของเยี่ยจงรวมรั้งพลังฝ่ามือมังกรสีรุ้งเอาไว้ หยุดยั้งสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า ต้านทานมังกรเพลิงที่เข้ามา ในเวลาเดียวกันก็ได้กวาดกระบี่ดำออกไป คมกระบี่ดำก็ได้ถูกกวาดออกไปในเวลาเดียวกัน ร่างกายถอยออกไปอย่างรวดเร็ว

 

“ บรึม “

 

ในขณะที่ลงสู่พื้น เยี่ยจงก็ได้กระอักโลหิตออกมาอีกคำ สีหน้าปั้นยากเต็มสิบส่วน การต่อสู้ได้มาจนถึงขั้นนี้ ต่อให้จิตใจของเขายังยืนหยัดอยู่ได้ ในตอนนี้ก็ยังต้องเกิดอาการขนลุกขึ้นมาหลายส่วน นั้นก็เพราะว่าการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกายในตอนนี้ยิ่งมายิ่งประหลาดยิ่ง หากว่าไม่สงบใจลง อย่างน้อยก็คงจะวุ่นวายขึ้นมา แต่ว่าพลังฝีมือของเด็กน้อยทั้งสองคนเบื้องหน้าสายตานี้ก็ไม่เป็นรองเขาแม้แต่น้อย มีอยู่หลายครั้งที่ทำให้ตกอยู่ในอันตรายจนเกือบถูกสังหาร

 

“ หากว่าข้าไม่อาจก้าวเข้าสู่ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายได้ ไม่เพียงแต่ต้องฆ่าสังหารพวกเจ้า ทั้งยังจะทำให้เผ่าพันธุ์ของพวกเจ้า มอดไหม้จนไม่เหลือซาก “ เยี่ยจงกัดฟัน พลิกทั้งสองมือฟาดออกไป ในตอนนี้เขาก็ไม่สนใจทั้งสองคนอีกต่อไป เพียงแต่ควบคุมพลังลมปราณกระบี่หกสุสานอย่างบ้าคลั่ง คิดที่จะทะลวงผ่านด่านนี้ให้สำเร็จ

 

“ เปรี้ยง “

 

นกฮวางเชรียวอ้าปากจุดประกายแสงสีขาวกวาดออกมา ท่ามกลางดวงตาของมันไม่มีแต่ความรู้สึกแม้แต่น้อย เสียงดังขึ้นมาสนั่น ร่างกายของเยี่ยจงกระเด็นออกไป แต่ว่าเขาก็ได้แต่ขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน ยังคงตราสัญลักษณ์ในมือไม่เปลี่ยนแปลง หมายมั่นจะลงมือก่อน

 

“ โครม “

 

จูเยียนก็ได้โบกมือขึ้นมาอย่างรุนแรง จนก่อเกิดโลหิตสายหนึ่งจะกลายเป็นขวานโลหิตขนาดใหญ่ มุ่งหน้ากวาดเข้าไปบริเวณทางด้านของเยี่ยจง คิดหมายที่จะฆ่าสังหารเยี่ยจงอีกครั้ง

 

“ เปรี้ยง “

 

เยี่ยจงกระเด็นลอยออกไปอีกครั้ง เพียงแต่ว่าร่างกายอันแข็งแกร่งของเขา ในตอนนี้ขวานด้ามหนึ่งที่อยู่ทางด้านหลังก็ได้ฟาดฟันลงมา แต่ว่าด้วยความเร็วของร่างกาย จึงไม่ได้พลาดท่าอันใด

 

ทันทีที่ร่างกายลงสู่พื้น เยี่ยจงก็ได้ก้าวเท้าออกไป มุ่งหน้าถอยไปทางด้านหลังอย่างรวดเร็ว บริเวณทางเข้าของสุสานกระบี่ก็ได้ถูกทำลายจนเป็นชิ้นๆ แต่ว่าเขาก็ยังจำเป็นที่จะต้องถอย นั้นก็เพราะว่าถ้าหากว่าต้องพัวพันต่อไปในสถานที่แห่งนี้แล้วละก็ คงจะมีแต่ตายอย่างไม่ต้องสงสัย หากนับตามนิสัยของเยี่ยจง ย่อมไม่ถอยไปอย่างแน่นอน แต่ว่าเมื่อถูกทั้งสองคนบีบคั้นไล่ต้อนมาทีละก้าว ถือได้ว่าไม่อาจที่จะทำอันใดได้

 

“ อ่อนหัด ไม่ส่งมอบหัวใจพสุธาออกมา ก็อย่าได้หวังจะก้าวเข้าสู่ขอบเขตต่อไปได้ หรือว่าแต่จะมีชีวิตรอดต่อไปก็ยังยาก “ จูเยียนพูดออกมาอย่างเย็นชา ทั้งสองมือก็ได้ปรากฏขวานโลหิตในเวลาเดียวกัน ไล่ฆ่าสังหารเยี่ยจงต่อไป

 

เพียงแต่ว่า สีหน้าของจูเยียนในตอนนี้ยังคงทอสีหน้าอย่างเคร่งเครียด เส้นทางของขอบเขตต่อไป ตามตำนานของพลังขั้นก่อเกิดระดับที่เก้าขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลาย นอกเสียจากบุคคลลึกลับผู้นั้นแล้ว ท่ามกลางดินแดนซีฮวง ร้อยพันปียังไม่เคยได้ยินว่ามีผู้ใดสามารถก้าวไปถึงขอบเขตนั้นได้ ถ้าหากว่าเยี่ยจงสามารถก้าวเข้าสู่ขอบเขตนั้นได้แล้วละก็ มันย่อมต้องตายอย่างไร้ที่กลบฝังแน่นอน

 

ดังนั้น จูเยียนในตอนนี้ลงมือรวดเร็วกว่าเดิม จิตใจของเขายังไม่เป็นสุข เกรงกลัวจะถูกเยี่ยจงทำลาย

 

และในเวลาเดียวกันนี้เอง ร่างของนกฮวางเชวียนก็ได้ทะยานหมายสังหารเข้ามา ประกายคมกล้าขาวดำบนร่างกายก็ได้รายล้อมเอาไว้จนเป็นวงรี ดุจดั่งการรวมตัวของวันคืน พึ่งฆ่าสังหารออกไป

 

“ หนีไม่พ้นหรอก “ เยี่ยจงราวกับคาดเดาได้ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ได้ทันที สีหน้าปั้นยากขึ้นมา

 

“ หรือว่าจะลองดูกัน ดูดพลังของทั้งสองคน เพื่อทะลวงด่านอันแข็งแกร่งของข้า “

 

ทันใดนั้นเอง ความคิดประหลาดก็ได้บังเกิดขึ้นภายในใจของเยี่ยจง ในตอนนี้เขายังไม่ทันจะคิดคำนึงได้ ก็ได้ตัดสินใจที่จะอ้าทั้งสองมือออกไป พลังกระบี่ตราประทับก็ได้แบ่งซ้อนทับขึ้นเป็นชั้นๆออกไป ประทับอยู่ทั่วทั้งร่างรองรับพลังทำลายเอาไว้ ในเวลาเดียวกันเขาก็ได้พลิกทั้งสองมือออกไป ต้านรับการโจมตีของทั้งสองคน

 

“ ตูม “

 

การโจมตีของทั้งสองคนได้ทอดลงมายังใจบริเวณใจกลางฝ่ามือของเยี่ยจง เพียงแต่ว่าในครั้งนี้เขากลับไม่ได้ควบคุมพลังเข้าต้านทาน เพียงแต่ปล่อยวางการต้านรับลง ปล่อยให้พลังอันมหาศาลที่ปะทุออกมาอย่างบ้าคลั่งทั้งสองเข้ามาสู่ร่างกายในเวลาเดียวกัน

 

“ ตูม “

 

ในวินาทีนั้นเอง ประกายสีทองบนร่างกายของเยี่ยจงก็ได้ทวีความหนาแน่นขึ้น ดุจดั่งเทพเซียนจุติ

 

“ หาที่ตายซะแล้ว “

 

นกฮวางเชวียนและจูเยียนงุนงงขึ้นมาเล็กน้อย จากนั้นก็ได้ยิ้มขึ้นมาอย่างเย็นชา พวกเขาต่างก็ถือได้ว่าเป็นอัจฉริยะแห่งเผ่าพันธุ์ สายตาย่อมมีความคมกล้า ย่อมต้องมองออกมา เยี่ยจงคิดที่จะหยิบยืมพลังอันมหาศาลของพวกเขาเพื่อที่จะทะลวงเข้าสู่อีกขอบเขตในตำนาน

 

ทั้งสองคนต่างก็สบตามองกัน ในช่วงเวลาเดียวกันก็ได้ควบคุมพลังออกมาจากร่าง หมายที่จะฆ่าสังหารเยี่ยจงลงไป

 

“ มาได้ดี “

 

เยี่ยจงสัมผัสได้ถึงพลังที่พุ่งออกมาอย่างมหาศาล แต่ว่าเขาถึงแม้จะไม่มีพลังคุ้มกันร่างกาย ได้แต่ขับเคลื่อนพลังลมปราณกระบี่หกสุสานอย่างบ้าคลั่ง ประกายสีทองคมกล้าภายในร่างก็ได้พุ่งออกมาไม่หยุด คิดที่จะทะลวงเข้าสู่ขั้นก่อเกิดระดับที่เก้า ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลาย

 

“ ตูมตูมตูม “

 

ดุจดั่งภูเขาไฟปะทุขึ้นก็มิปาน พลังอันมหาศาลจำนวนมากนับไม่ถ้วนก็ได้ปะทุออกมาจากร่างกาย เกรงว่าจะเกิดผลพวงขึ้นมาแผ่กระจายออกไปทั่วทั้งสี่ทิศ พื้นดินเกิดการอ่อนตัวลงดุจดั่งเต้าหู้ก็มิปาน แตกกระจายไม่ขาดสาย กลุ่มผู้คนที่รายล้อมมองดูต่างก็หน้าเปลี่ยนสีขึ้นมา ถอยออกไปอย่างรวดเร็ว

 

ในขณะนี้เอง พื้นที่แห่งนี้ราวดับมีสุริยะทอดลงมาก็มิปาน น่าหวาดกลัวสุดเปรียบปาน

 

ทั่วทั้งร่างกายบนล่างของเยี่ยจงก็ได้เกิดเสียงดังขึ้นมา กระดูกภายในร่างของเขาราวกับจะระเบิดขึ้นมาไม่ขาดสาย แต่ว่าเพียงแค่ประกายสีทองคมกล้าก็ได้สาดออกมาด้วยพลังมหาศาล จนทำให้พุ่งขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว ทุกครั้งมีการพุ่งขึ้น โลหิตสีทองของเขาก็ยิ่งทวีความเข้มข้นขึ้นมาอีกขั้นหนึ่ง แต่ว่าทุกครั้งที่พุ่งขึ้นอีกระดับ ระดับความเจ็บปวดก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น

 

ร่างกายของเยี่ยจงสาดประกายดุจดั่งเปลวเพลิงสว่างขึ้นมา สาดประกายแวววับไม่ขาดสาย ราวกับสามารถข้ามขอบเขตได้ทุกชั่วขณะ อีกทั้งยังเหมือนดั่งต้องทอดร่างลงทุกชั่วขณะ

 

“ เจ้าเด็กน้อยผู้นี้ถึงกลับสามารถหยิบยืมพลังของนกฮวางเชวียนกับจูเยียนเพื่อทะลวงขีดจำกัดงั้นหรือ เขา ช่างบ้าบิ่นเกินไปแล้ว “

 

ในที่ห่างไกล หลังจากที่กลุ่มผู้คนต่างก็ตะลึงงงงัน จึงค่อยเข้าใจได้ว่าในตอนนี้แท้จริงแล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้น เยี่ยจงผู้นี้ก็ช่างร้ายกาจจนเกินไปแล้ว เมื่อทราบว่าไร้หนทางที่จะถอยภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เขาถึงกลับเลือกที่จะหยิบยืมพลังของทั้งสองคนที่เป็นศัตรูเพื่อที่จะทะลวงเข้าสู่อีกขอบเขตในตำนานเช่นนี้งั้นหรือ ? ที่แท้เขาก็ไม่ทราบว่า ภายใต้ระดับความอันตรายไร้ที่เปรียบเช่นนี้หรือยังไง ? หากว่าก้าวพลาดไปแม้แต่น้อยแล้วละก็ เกรงว่าแม้แต่เลือดเนื้อของเขาก็คงต้องแตกกระจายไปในทันที จนกลายเป็นเพียงโลหิตสายหนึ่งเท่านั้น จนสูงสุดกลับคืนสู่ความว่างเปล่า

 

สีหน้าของนกฮวางเชวียนและจูเยียนก็ได้เริ่มที่จะเปลี่ยนเป็นเย็นชาอย่างถึงที่สุด พวกเขาควบคุมพลังขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง ในเวลาเดียวกันก็ได้ปะทุพลังอันมหาศาลภายในร่างกาย หมายที่จะจัดให้เยี่ยจงให้ร่างแหลกลานทั้งเป็น

 

“ แค๊กแค๊ก “

 

เยี่ยจงสั่นเทาไปทั่วทั้งร่างกาย กระอักโลหิตออกมาคำโต โลหิตไลหรินออกมาจากบาดแผลสีดำบริเวณขา ในเวลาเดียวกันก็ได้ทะยานออกไป

 

“ ตูม “

 

จากนั้น ทันใดนั้นเอง ประกายสีทองที่อยู่บนร่างกายก็ได้ประทับอยู่ท่ามกลางเลือดเนื้อของเยี่ยจงทะยานขึ้นฟ้าออกไป กายเนื้อของเยี่ยจงก็ได้เพิ่มความแข็งกล้าขึ้นมาอีกขั้นอย่างรวดเร็ว

 

“ อะไรกัน ? “

 

“ แย่แล้ว “

 

นกฮวางเชวียนและจูเยียนที่ความจริงอยู่ในสีหน้าเย็นชาก็ได้เปลี่ยนสีหน้าไปขึ้นเป็นครั้งแรก พวกเขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า พลังภายในร่างกายได้เริ่มที่จะยากควบคุมแล้ว กระนั้นก็มิอาจที่จะให้เยี่ยจงทะลวงพลังภายในกายไม่หยุดได้ อีกทั้งด้วยแรงดึงดูดเช่นนี้ ถึงกับทำให้เลือดเนื้อในกายของเยี่ยจงกลายเป็นประกายสีทองคมกล้าขึ้นมา

 

แต่ว่า ในตอนนี้ต่อให้เกิดเปลี่ยนใจขึ้นมา นกฮวางเชวียนและจูเยียนในตอนนี้ไม่มีทางเลือกอีกต่อไปแล้ว ได้แต่เพียงเข้าแลกเพียงถ่ายเดียว สีหน้าเปลี่ยนเป็นสลดขึ้นมาเมื่อมองไปที่ฉากเบื้องหน้า

 

“ อะไรกัน ? หรือว่าเด็กน้อยผู้นี้จะทำให้สำเร็จให้ได้จริงอย่างงั้นหรือ ? “

 

“ ไม่อาจที่จะให้เขาทำสำเร็จได้ ถ้าหากว่าเขาเข้าสู่ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายได้จริง วันข้างหน้าย่อมต้องเป็นถึงชนชั้นราชาแห่งเผ่ามนุษย์แน่ ถือได้ว่ามีส่วนคุกคามพวกข้าได้อย่างมาก “

 

ไม่นานนัก ก็ได้มีกลุ่มยอดฝีมือทะยานออกมา ในตอนแรกนั้นพวกเขาได้ตัดสินใจที่จะแย่งชิงหัวใจพสุธาจากเยี่ยจง ในตอนนี้จึงมิอาจทีจะเอาแต่ลืมตามองดูเยี่ยจงทะลวงข้ามขอบเขตไปได้ ดังนั้นเพื่อจุดสูงสุดของเผ่าพันธุ์ พวกเขาจึงไม่อาจที่จะให้การคงอยู่อันน่าหวาดกลัวของเผ่าพันธุ์รอดไปได้ นั้นก็เพราะว่าการคงอยู่เช่นนี้ ไม่แน่ว่าอาจจะทำให้เผ่าพันธุ์มนุษย์กลายเป็นผู้นำในดินแดนซีฮวงนี้ เพื่ออนาคตที่อาจจะดับสูญนี้หายไป

.

.

.

.

 

กลุ่มลับ ติดต่อได้หลังไมค์ครับ กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น เข้ากลุ่ม 4/5/6/7/8 ราคา 450
กลุ่ม4 https://goo.gl/ESwaou ตอนที่ 291-370
กลุ่ม5 https://goo.gl/ekcF7V ตอนที่ 371-450
กลุ่ม6 https://goo.gl/4rqw89 ตอนที่ 451-530
กลุ่ม7 https://goo.gl/qrQ7GA ตอนที่ 531-610

กลุ่ม8 https://goo.gl/Uzqf2x ตอนที่ 611-690 ล่าสุด647 Update 09/06/18

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset