ตอนที่ 301 ซวางเจรียว (ความวุ่นวายคู่)
“ เรื่องยุ่งยากอะไร ? “ สีหน้าของเยี่ยจงมิได้มีความเปลี่ยนแปลงมากนัก เพียงแต่จดจ้องจูเยียนไปอย่างรุนแรง
จูเยียนครุ่นคิดขึ้น หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ได้กล่าวต่อ “ ตามที่ข้าทราบ ผู้มีชื่อเสียงของแต่ละฝ่าย กู่กว่อ เพื่อที่จะได้ครอบครองวาสนาเพียงสายเดียว ต่างก็ได้ใช้ออกมาด้วยฝีมือที่แตกต่างกัน ตามข่าวสารที่พอจะเชื่อถือได้ เมื่อวันก่อนปีศาจไร้ขอบเขตที่อยู่ท่ามกลางสมรภูมิฮวงกู่ เขาในตอนนี้ก็ได้รับชิ้นส่วนเทพที่อยู่กับยอดอัจฉริยะแห่งเผ่าพันธุ์หนึ่งไป เข้าสู่สมรภูมิฮวงกู่เพื่อแย่งชิงวาสนานี้ นอกจากในที่นี้แล้ว ยังมีฝีมือส่วนหนึ่งของผู้คนส่วนหนึ่ง ยกตัวอย่างเช่นเส้นลมปราณของตระกูลถัง ในครั้งนี้ตระกูลถังได้รับสมบัติล้ำค่า ทั้งยังหยาดน้ำเซียนสุริยาเข้ามาในที่แห่งนี้ กล่าวกันว่าถ้าหากองค์ชายสิบสามสามารถเสาะหาสถานที่อันเหมาะสมได้แล้วละก็ ก็จะสามารถใช้หยาดน้ำเซียนสุริยาหลอมรวมเข้ากับร่างกาย ทั่งยังสามารถเข้าสู่ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายได้ …… นี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ข้าพอจะทราบได้ก็เท่านั้น ข้านั้นไม่อาจที่จะทราบว่าถึงพลังฝีมือ ไม่อาจที่จะทราบได้ว่ายังต้องถึงมากมายแค่ไหน ……. “
“ หยาดน้ำเซียนสุริยาของสกุลถัง ? “ เยี่ยจงขมวดคิ้ว สีหน้าเกิดความสงสัยขึ้นหลายส่วน เส้นลมปราณของตระกูลถังกล่าวกันว่าได้มาจากเผ่าพันธุ์วิหคทองคำ ทั้งน่าเกรงขามและแข็งแกร่ง อีกทั้งหยาดน้ำเซียนสุริยากล่าวกันยาเป็นส่วนหนึ่งที่หล่อหลอมมาจากท่ามกลางสุริยาบริสุทธิ์ ขอเพียงสามารถรับเข้าไปได้ แน่นอนว่ายังสามารถที่จะทำให้ร่างกายเข้าสู่ขอบเขตไม่สูญสลายได้ ในช่วงเวลาเช่นนี้สามารถกล่าวได้ว่าเป็นถึงหนึ่งในสมบัติที่พอจะทำให้เข้าสู่ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายได้ คิดไม่ถึงว่าองค์ชายสิบสามผู้นั้นยังถึงกับนำพาเข้ามาด้วย
“ ไม่แปลกใจเลยที่ในครั้งนี้เขามิได้มาขัดขวางข้า “ เยี่ยจงกล่าวออกมาเสียงเบา “ ยังมีอย่างอื่นอีกหรือไม่ ? “
“ ยังมี ! “ จูเยียนกล่าวต่อ “ กล่าวกันว่าบุคคลที่เล่าขานกันผู้นั้น สมควรที่จะเข้าสู้ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายแล้ว เขาก็ได้มุ่งหน้ามาเพื่อวาสนาเพียงสายเดียว อีกทั้ง เกี่ยวกับเรื่องนี้เขาอย่างน้อยก็คงจะมีความเข้าใจมากกว่าข้าอยู่บ้าง ถ้าหากเกิดเรื่องเหนือความคาดหมายขึ้น ความสำเร็จที่จะได้รับวาสนาเพียงสายเดียวในครั้งนี้ก็คงจะเป็นบุคคลผู้นั้นแล้ว “
“ พวกเจ้าเอาแต่พูดว่าบุคคลผู้นั้น บุคคลผู้นั้น แต่ว่าก็น่าเสียดายนัก ข้าถึงแม้จะได้สังหารสามขุนศึกของเขาไปแล้วก็ตาม แต่ว่าก็ยังไม่อาจที่จะทราบได้ว่าเขาที่แท้เป็นใคร เจ้าสามารถบอกต่อข้าได้หรือไม่ ? “ เยี่ยจงกำลังตกอยู่ในความคิด ก็ได้ค่อยๆที่จะเอ่ยออกมา
จูเยียนลังเลขึ้นมา หลังจากนั้นมันก็ได้มองไปทางด้านของเยี่ยจง ถอนหายใจแล้วกล่าวออกมา “ ท่านที่แท้ไม่ทราบถึงความแข็งแกร่งของคนผู้นั้น ไม่แปลกใจเลยที่ท่านถือกับหาญกล้าที่จะลงมือกับขุนศึกทั้งสามของของ “
“ คำพูดไร้สาระของเจ้าก็มีไม่น้อยเลยนะ “ เยี่ยจงขมวดคิ้วขึ้น
จูเยียนสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างช้าๆ จากนั้นก็กล่าวต่ออย่างรวดเร็ว “ กล่าวกับว่าคนผู้นั้นมีที่มาที่จากดินแดนลี้ลับแห่งอื่น แข็งแกร่งและลี้ลับอย่างมาก อีกทั้งยังปฏิเสธไม่ได้เลยว่า มีความเป็นไปได้อย่างมากที่เขาจะมาจากดินแดนซานเชียนเซินเจี่ย แต่ว่าถ้าหากรวมกับสิ่งของที่อยู่ในตัวของเขา เกรงว่านอกตัวเขาเองแล้ว ก็ไม่มีใครทราบได้ …….. มีแต่เพียงเรื่องที่คนอย่างพวกเราเหล่านี้ทราบ ก็คือคนผู้นี้แข็งแกร่งเต็มสิบส่วน ไม่อาจที่จะรับกระบวนท่าได้อย่างง่ายดายอย่างแน่นอน “
เยี่ยจงไร้คำจะกล่าว การสนทนาเช่นนี้ก็เหมือนกับไม่ได้กล่าวอันใด เหมือนกับคำพูไร้สาระ เขาจ้องมองไปที่จูเยียนอย่างเย็นชา การพูดคุยเฉกเช่นนี้ ไม่อาจที่จะแลกกับชีวิตของเขานี้ได้
จูเยียนครุ่นคิดขึ้น หลังจากนั้นไม่นาน ก็ค่อยกล่าวออกมาต่อ “ ยังมีคำเล่าลือว่า วาสนาเพียงสายเดียวนั้น อยู่ภายในตำแหน่งใจกลางสุดของหอคอยการต่อสู้ภายในสมรภูมิฮวงกู่ และการเปิดขึ้นมาของหอคอยประลองนี้ จำเป็นที่ต้องใช้โลหิตอันบริสุทธิ์ทั้งร่างของยอดฝีมือขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลาย ดังนั้น สิ่งที่ท่านต้องระวังเอาไว้ก็คือตนเอง ถ้าหากเจ้ายังไม่เข้าสู่พลังขั้นก่อเกิดระดับที่เก้าก็แล้วไป ถ้าหากว่าไปถึงระดับพลังนั้นได้จริง อย่างน้อยๆก็คงจะต้องมีคนมาหาเจ้าถึงที่อยู่แน่นอน “
“ คนผู้นั้นงั้นหรือ ? “ เยี่ยจงขมวดคิ้ว
“ ไม่ทราบเหมือนกัน ความจริงแล้วมีอยู่อีกหลายเรื่อง ที่ข้าเองก็ยังไม่ทราบ เพียงแต่ว่าการแย่งชิงวาสนาเพียงสายเดียวถือได้ว่าอันตรายอย่างยิ่งยวด เมื่อเทียบกับที่นี้ ไม่ว่าจะเป็นเขตหวงห้ามใดของฮวงกู่นี้ ต่างก็เป็นเพียงของเด็กเล่นก็มิปาน “ จูเยียนเอ่ยขึ้นมาอย่างตั้งอกตั้งใจ จากนั้นมันก็หยักไหล่ไปมา “ สิ่งที่ข้าสามารถบอกต่อเจ้าได้ ก็มีเพียงแค่นี้เท่านั้น ถ้าหากเจ้ายังคิดที่แย่งชิงเส้นลมปราณเทพของเผ่าข้า ข้าก็ได้แต่เพียงสละชีวิตแล้ว “
เยี่ยจงละสายตาจากจูเยียน หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ได้ลุกขึ้นยืน หันกายตนเองเดินจากไป มุ่งหน้าไปอีกทางด้านหนึ่งของการต่อสู้แย่งชิงภายในสมรภูมิฮวงกู่
ตามความเป็นจริงแล้ว เมื่อมีเสี่ยวหลุนอยู่ข้างกายคอยเตือนสติ เยี่ยจงก็ยิ่งทวีความเข้าใจมากขึ้น เรื่องที่จูเยียนกล่าวออกมาในตอนนี้ เป็นจริงทั้งหมดสิบส่วน เพียงแต่ว่าถ้าหากกล่าวตามวิธีการพูดของเขา วาสนาเพียงสายเดียวนี้ก็ยากเกินเอื้อมจริงๆ ทั้งยังต้องทำการเปิดหอคอยการประลอง ยังจำเป็นที่จะต้องใช้โลหิตบริสุทธิ์ทั้งร่างกายของยอดฝีมือขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลาย ในข้อนี้เรียกได้ว่าอยู่เหนือความคาดหมายอยู่หลายส่วนจริงๆ
“ เสี่ยวหลุน เจ้าอยู่ภายในสมรภูมิฮวงกู่นี้มาตั้งนานแล้ว เกี่ยวกับโอกาสในการได้รับวาสนาเพียงสายเดียวนี้ เจ้าทราบอะไรบ้างไหม ? “ เยี่ยจงทางหนึ่งเดิน ทางหนึ่งก็ได้เอ่ยขึ้นมาเสียงแผ่วเบา
“ ข้าก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ก่อนที่ข้าจะเข้ามายังสมรภูมิฮวงกู่นี้ได้ไม่นาน ก็ได้พบกับตาเฒ่าอยู่หลายคน จนท้ายที่สุดก็ได้เปลี่ยนข้าจนกลายมาเป็นสภาพเช่นนี้ สี่ส่วนห้าชิ้น “ เสี่ยวหลุนถอนหายใจออกมา “ ทว่า ตาเฒ่าหลายคนนั้นก็คล้ายกับมาเพื่อวาสนาเพียงสายเดียวนั้นเช่นเดียวกัน ดูเหมือนว่าประวัติความเป็นมาของสมรภูมิฮวงกู่นี้จะไม่ธรรมดาแล้วละ “
“ ทว่าไม่ว่าจะกล่าวอย่างไร กับพลังขอบเขตของเจ้าในตอนนี้ การแย่งชิงวาสนาเพียงสายเดียวก็ถือได้ว่ามีความสำเร็จอยู่ไม่น้อย กล่าวกันว่าท่ามกลางวาสนาเพียงสายเดียวนี้ สมควรที่จะเป็นวัตถุที่มีความสำคัญอย่างมากของสมรภูมิฮวงกู่นี้ ทั้งยังไม่อาจที่จะผิดพลาดไปได้ “ หลังจากนั้นสักพัก เสี่ยวหลึนก็ได้เอ่ยปากขึ้นมาเสียงเบา เพื่อที่จะเตือนความข้อนี้ให้แก่เยี่ยจง
“ วาสนาเพียงสายเดียว “ เยี่ยจงครุ่นคิด ภายในห้วงสมองก็ได้ปรากฏฉากต่างๆที่อยู่ภายในสมรภูมิฮวงกู่ ทั้งยังมีปีศาจไร้ขอบเขตนั้นอีก ที่มาเพื่อตามหาวาสนาเพียงสายเดียวโดยเฉพาะ ถ้าเป็นไปอย่างที่คาดคิด วาสนาเพียงสายเดียวนี้มีความล้ำค่าอยู่ในขั้นใดกัน อีกทั้งถ้าหากเป็นไปตามคำพูดของจูเยียน วาสนาเพียงสายเดียวเป็นสิ่งที่คล้ายดั่งสิ่งที่อยู่ภายในซานเชียนต้าเต้านั้นแล้วละก็ เช่นนั้นในด้านระดับความล้ำค่า ก็ยิ่งอยู่นอกเหนือความคาดหมายเกินไปแล้ว
“ ทว่า ถึงกับต้องใช้โลหิตบริสุทธิ์ทั้งร่างของยอดฝีมือขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายในการเปิดหอคอยประลองนั้น เรียกได้ว่าคงจะยุ่งยากเอาการอยู่ คงจะมิอาจที่จะใช้โลหิตบริสุทธิ์ของตนเองในการเปิดขึ้นมาหรอกนะ ? “ เยี่ยจงขมวดคิ้ว ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ยุ่งยากเลยทีเดียว
“ ยังไงก็ช่าง พวกเราก็จะใช้โลหิตบริสุทธิ์ของเจ้าเด็กน้อยเทพเทพเซียนเซียนอะไรนั้นก็พอแล้วมิใช่หรือ ในเมื่อในตอนนี้อย่างน้อยเขาก็มีความสนใจมาที่เจ้า แล้วยังมีองค์ชายสิบสามนั้นอีก ถ้าหากเขาหล่อหลอมหยาดน้ำเทพสุริยาเข้าสู่ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายไปแล้วละก็ เช่นนั้นโลหิตบริสุทธิ์ของเขาก็ถือได้ว่าเป็นตัวเลือกที่ไม่เลว อีกทั้งปู่หลุนผู้นี้ในตอนนี้ยังแข็งแกร่งไร้ที่เปรียบ สามารถที่จะช่วยเจ้าในการฆ่าสังหารพวกเขาได้อยู่แล้ว “ เสี่ยวหลุนส่งเสียงดังชิชะออกมา น้ำเสียงเต็มไปด้วยความโอ่อวด ความเปิดจริงในตอนนี้นั้นอยู่นอกเหนือความคาดคิดของเยี่ยจงไปนับพันลี้ มันเมื่อได้รับประโยชน์ที่มากมาย ก็ไม่ทราบเป็นเพราะว่าได้กลืนกินสมบัติเซียนไปมากมายถึงเพียงไรแล้ว
“ ไปดูกันเถอะ หอคอยประลอง วาสนาเพียงสายเดียว น่าสนใจอยู่บ้าง ……. “ เยี่ยจงอมยิ้ม จากนั้นเขาก็ได้มุ่งหน้าไปยังทิศทางที่ถูกต้อง ก้าวออกไปอย่างช้าๆ ถึงแม้ว่าวาสนาเพียงสายเดียวนี้แท้จริงแล้วเป็นอันใดกันแน่ เช่นนั้นก็ยิ่งไม่อาจที่จะผิดพลาดไปได้ คงต้องลองเข้าช่วงชิงดูสักหน่อยแล้ว
……
ณ ทะเลสาบน้ำแข็งวิญญาณ(ฮั่นหลิงฮู่) ตั้งอยู่ในจุดเหนือสุดของทะเลสาบฮู่ไป่ของสมรภูมิฮวงกู่ ในทุกๆข้างแรมของทุกปีจะสายลมหนาวเย็นโชยพัดเข้ามายังทะเลสาบฮู่ไป่ หนาวเหน็บสุดเปรียบปาน อย่าว่าแต่ผู้ที่มาจากนอกแดน ต่อให้เป็นสิ่งมีชีวิตท่ามกลางสมรภูมิฮวงกู่เหล่านี้ ก็ยังไม่ยินยอมที่จะเฉียดเข้าใกล้ยังสถานที่แห่งนี้ นั้นก็เพราะด้วยอุณภูมิที่ติดลบ หากว่าไม่มีพลังฝีมือพิเศษอันใดเข้ามายังสถานที่แห่งนี้แล้วละก็ เช่นนั้นก็เหมือนกับการหาสถานที่ในการฝังร่างของตนเอง
ในตอนนี้ ท่ามกลางหุบเขาน้ำแข็งที่อยู่ใจกลางของทะเลสาบฮู่ไป่ บริเวณใจกลางหุบเขา ก็ได้มีลานพิธีสีทองอยู่แห่งหนึ่ง ท่ามกลางลานพิธีแห่งนี้ ก็ได้มีก้อนหิมะหมุนวนกลิ้งเข้าออกไปมา แล้วก็ได้มีร่างอัคคีของชายหนุ่มผู้หนึ่งกำลังนั่งสมาธิอยู่บนลานพิธีแห่งนี้ สีหน้าไร้ซึ่งความเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย ราวกับว่าก้อนหิมะทั้งหมดนี้ไม่ได้มีความแตกต่างจากสายธารธรรมดาแม้แต่น้อย ไม่อาจที่จะทำอันตรายใดๆแก่เขาได้ทั้งสิ้น
หน้าตาของชายหนุ่มที่มีความห้าวหาญ บนศีรษะก็ได้มีประกายสีทองลอยไปมา บนร่างกายก็ได้มีบรรยากาศอันทรงคุณค่าหมุนเวียนอยู่อย่างเต็มเปี่ยม มองปราดเดียวก็ดูออกว่าเป็นชนชั้นระดับราชาแน่นอน อีกทั้งด้วยใบหน้าที่ทั้งห้าวหาญดั่งวีรบุรุษ ทั้งยังมีดวงตาถึงสามดวง ดวงตาปราณเทพแต่กำเนิด ดวงตาปราณเทพในตอนนี้ก็ได้ลืมตาขึ้นมา สาดประกายเจิดจ้าไร้ขอบเขต สาดส่องไปยังทุกอนุของผืนหิมะ
เห็นได้ชัดว่า คนผู้นี้มิใช่ใครอื่น แท้จริงแล้วก็คือองค์ชายสิบสามแห่งหุบเขาตระกูลถังนั้นเอง
ในขณะนี้ ประกายแสงสีทองสายหนึ่งก็ได้ก่อรวมขึ้นกระจายออกมาอยู่ทั่วทั้งร่างกายขององค์ชายสิบสาม มุ่งหน้าไปยังจุดสูงสุดของขอบฟ้า ผิวหนังบนร่างกายเขาในตอนนี้ก็ได้กลายเป็นสีทองอร่าม ก่อเกิดเสียงดังสั่นไหวไม่หยุดยั้ง
“ ตูม “
ในตอนนี้ ดวงตาทั้งสองดวงของเขาก็ได้ค่อยๆที่จะเปิดขึ้นมา วินาทีนั้น ความน่าหวาดกลัวสายหนึ่งก็ได้แผ่กระจายเคลื่อนไหวออกมา จนทำให้ทั่วทั้งภูเขาน้ำแข็งเกิดเสียงแตกหักดังขึ้น ในเวลาเดียวกัน ก้อนหิมะเหล่านั้นก็ได้กลายเป็นประกายแสงสีทองเข้าสู่ภายในร่างกาย หายวับไปจนไม่หลงเหลือ
องค์ชายสิบสามในตอนนี้ แข็งแกร่งและลี้ลับ ดุจดั่งพระอาทิตย์ที่อยู่ท่ามกลางท้องนภาลัยก็มิปาน ทั้งยังเป็นประกายไม่ขาดหาย
“ ยินดีกับนายท่านด้วย ภายในสมรภูมิฮวงกู่ในตอนนี้ สามารถเสาะหาสถานที่เฉกเช่นนี้ได้ ทั้งยังหล่อหลอมหยาดน้ำเทพสุริยาของเผ่าเรา เข้าสู่ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลาย ! ในวันข้างหน้าของนายท่านย่อมต้องกลายเป็นราชาที่ทางปราดเปรื่องอย่างแน่นอน ทั้งยังครอบครองทั่วทั้งดินแดนซีฮวง ปกครองเผ่าพันธุ์นับพันหมื่นในดินแดน “ เงาร่างสายหนึ่งที่อยู่ทางด้านข้างก็ได้เสือกออกมา ใบหน้าเผยให้เห็นถึงรอยยิ้ม คนผู้นี้เป็นชายวัยกลางคน มีพลังรังสีอันแข็งแกร่ง เห็นได้ชัดว่าคงจะต้องเป็นหนึ่งในราชันแห่งหุบเขาตระกูลถังที่เข้ามายังสถานที่แห่งนี้
“ ขอบคุณที่เผ่าท่านอาที่ให้การสนับสนุน “ องค์ชายสิบสามยื่นมือออกมาอย่างช้าๆ สัมผัสได้ว่าภายในร่างกายของตนเองได้มีความเปลี่ยนแล้ว เขาก็ได้หันหน้าทำการคารวะชายวัยกลางคนผู้นั้น ครุ่นคิดแล้วกล่าวออกมา
“ เพียงแต่ว่าพึ่งจะเข้าสู่ขั้นก่อเกิดระดับที่เก้า ก็สามารถฝืนเข้าสู่ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายได้ ท่านยังบอกเองว่า บุคคลลี้ลับผู้นั้น ข้าในตอนนี้เมื่อเผชิญหน้ากับเขา แม้ว่าชัยชนะจะไม่มากนัก …….. เพียงแต่ว่า ต่อให้ไม่ได้ชัย ข้าก็ใช่ว่าจะพ่ายแพ้ได้ ! “ องค์ชายสิบสามกล่าวออกมาเสียงดังกังวาน ถึงแม้ว่าคำพูดจะดูหดหู่ แต่ว่าในเวลาเดียวกันก็ถือได้ว่ามีความเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งนี้ เห็นได้ชัดว่า ด้วยพลังฝีมือของตนเองนี้ ย่อมมีความเชื่อมั่นอยู่อย่างเต็มอก
“ ถ้าหากเป็นเช่นนี้ก็ดี กระนั้นคิดที่จะเปิดด่านหอคอยสนามประลอง ครอบครองวาสนาเพียงสายเดียว ก็มีแต่ต้องใช้โลหิตของยอดฝีมือขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายทั้งร่างเป็นเครื่องเซ่น เผ่าพันธุ์ข้าย่อมต้องไม่กลายเป็นหินที่ให้ผู้อื่นคอยเหยียบขึ้นมาแน่ ต่อให้เป็นบุคคลลี้ลับผู้นั้น ก็ต้องพ่ายแพ้ภายใต้น้ำมือของเผ่าข้านี้ “ ชายวัยกลางยิ้มน้อยๆขึ้นมา
“ ใช่แล้ว ว่าแต่มีข่าวของราชันเยี่ยจงนั้นหรือไม่ ? “ องค์ชายสิบสามไม่ได้พูดถึงเรื่องเกี่ยวกับคำถามเหล่านี้อีกต่อไป เพียงแต่คิดถึงเรื่องอีกเรื่องหนึ่ง เอ่ยขึ้นมาเสียงแผ่วเบา
“ ความจริงแล้วมีข่าวสารเกี่ยวกับเขาอยู่ “ ชายวัยกลางคนแสดงสีหน้าแปลกใจ “ จากข่าวสารที่พวกเราได้รับมา เยี่ยจงได้ถึงยอดฝีมือนับไม่ถ้วนไล่ล่า กระนั้นก็ยังทะลวงพลัง เข้าสู่ขอบเขตขั้นที่เก้า ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลาย แต่ว่า ในตอนนี้เขากลับหายสาบสูญไป ไม่มีใครทราบว่าเขาไปยังสถานที่ใด ดังนั้นในช่วงเวลานี้ย่อมไม่อาจทราบได้ว่าเป็นจริงหรือเท็จ
“ ที่แท้หัวใจพสุธาก็ได้ถูกเข้าหล่อหลอมจนสำเร็จไปแล้ว ที่แท้ข้าก็ดูแคลนเขาแล้วจริงๆ ! “ สีหน้าขององค์ชายสิบสามเคลื่อนไหวช้าๆ หลังจากนั้นก็ได้เอ่ยปากกล่าวขึ้นมา
“ จะว่าไป คนผู้นี้มีที่มาไปเมื่อเทียบกับบุคคลลี้ลับผู้นั้นถือได้ว่าธรรมดากว่ามาก อีกทั้ง คิดที่จะเปิดด่านหอคอยประลอง เริ่มลงมือจากเขาก่อน ถือได้ว่าเป็นตัวเลือกที่ดีอยู่ไม่น้อย “ ชายวัยกลางคนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็ได้กล่าวเสียงเบา กระนั้นบุคคลลี้ลับผู้นั้น เขาก็ยังถือว่าหวาดเกรงอย่างไร้ที่เปรียบ หากว่าต้องมาเผชิญหน้ากับเขา ยังคงหลีกเลี่ยงแต่เนิ่นๆจึงถือว่าดีที่สุด
องค์ชายสิบสามครุ่นคิด จากนั้นก็เข้าสู่ห้วงแห่งความคิดคำนึง
.
.
.
.
กลุ่มลับ ติดต่อได้หลังไมค์ครับ กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น เข้ากลุ่ม 4/5/6/7/8 ราคา 450
กลุ่ม4 https://goo.gl/ESwaou ตอนที่ 291-370
กลุ่ม5 https://goo.gl/ekcF7V ตอนที่ 371-450
กลุ่ม6 https://goo.gl/4rqw89 ตอนที่ 451-530
กลุ่ม7 https://goo.gl/qrQ7GA ตอนที่ 531-610
กลุ่ม8 https://goo.gl/Uzqf2x ตอนที่ 611-690 ล่าสุด672 Update 20/06/18
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ
https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/
