เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 307 ยอดของหอคอยสงคราม

ตอนที่ 307 ยอดของหอคอยสงคราม

 

 

เวลาค่อยๆไหลผ่านไปอย่างช้าๆ องค์ชายสิบสามก็ได้มายืนอยู่บนยอดของหอคอยสงครามอยู่นาน ผู้คนทั้งหมดต่างก็กำลังรอคอย แต่กลับยังไม่พบเยี่ยจงปรากฏตัวขึ้น ทำให้ไม่มีอะไรจะกล่าวออกมา

 

แสงอาทิตย์จากทั่วทั้งฟ้า ก็ได้ลับฟ้าลงอย่างช้าๆ ไม่นานนักก็ได้มีดวงจันทร์เต็มดวงขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ช่วงนี้ก็ได้สาดเป็นประกายแสงดุจดั่งหยกออกมา

 

ในตอนนี้ กลุ่มคนต่างก็เริ่มเคลื่อนไหว เรื่องราวมาจนถึงขั้นนี้ คงมิใช่ว่าเยี่ยจงคงจะถูกกดดันจนเตรียมที่จะไม่ปรากฏตัวหรอกนะ ? ถ้าหากเป็นเช่นนี้แล้วละก็ ก็เหมือนกับเป็นการหลอกลวงผู้คนทั้งหมดในสถานที่แห่งนี้แล้ว

 

แน่นอนว่า ในเวลานี้ก็ได้มีคนคิดขึ้นมาได้ว่า ถึงแม้จะเป็นคำพูดท้าให้มาประลองขององค์ชายสิบสาม แต่ว่าคนอย่างเยี่ยจงกลับมิได้มีการตอบรับแต่อย่างไร เขาไม่มาก็ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ธรรมดา ไม่แน่ว่าเยี่ยจงยังคงเก็บตัวฝึกฝนอยู่ในสถานที่ใดแห่งหนึ่ง อีกทั้งยังเข้าสู่สถานที่อันลี้ลับที่ยากจะเสาะหาได้พบ ? เช่นนี้ความข้อนี้ก็มีความเป็นไปได้สูง

 

เมื่อคิดมาจนถึงตรงนี้ กลุ่มผู้กล้าต่างไม่รู้จะกล่าวอันใดออกมาหลายส่วน นั้นก็เพราะว่าพวกเขาพบว่า ยากที่จะยืนยันได้อย่างแน่ชัดว่าเยี่ยจงจะมาหรือไม่ ราวกับเด็กน้อยผู้นี้ถูกข้าวสารปกคลุมจนมิอาจทราบเรื่องราวต่างๆก็มิปาน ทั้งยังยากที่จะทราบได้ ทั้งยังเหมือนกับผู้คนอยู่ในสภาพที่ก่ำกึ่งไม่ทราบจะทำเช่นไร

 

“ ตูม “

 

ทันใดนั้น กลุ่มผู้คนก็ต่างแตกฮือออก ยอดฝีมือกลุ่มใหญ่ทางด้านหนึ่งก็ได้หลีกออกมาเป็นทาง จากนั้นผู้คนทั้งหมดต่างก็ทอดตามองไปยังทางด้านนั้น แล้วก็พบว่า ปรากฏเด็กหนุ่มอายุราวสิบเจ็ดสิบแปดปีผู้คนก้าวเดินออกมาอย่างช้าๆ เขาสวมไว้ด้วยชุดคลุมสีขาว ผมเผ้าลอยกระจายไปตามสายลม โดดเด่นอย่างถึงที่สุด ความแข็งแกร่งเช่นนี้ เรียกได้ว่าแตกต่างจากรังสีแห่งราชันขององค์ชายสิบสามอย่างสิ้นเชิง แต่ว่าก็สามารถที่จะตกเป็นที่สนใจของเหล่าผู้คนได้ทั้งหมด

 

“ เยี่ยจง เจ้าในที่สุดก็มาแล้ว ข้ายังคิดว่าเจ้าจำมาได้ยินคำเชื่อเชิญจากข้าเสียแล้ว “ บนหอคอยสงคราม องค์ชายสิบสามก็จ้องมองไปที่เยี่ยจง ชายเสื้อโบยพัดไปมา ภายในดวงตาก็ได้ปรากฏสีหน้าแปลกใจ เห็นได้ชัดว่า เขามิได้มีการดูถูกเยี่ยจงเลย

 

“ ในเมื่อเป็นองค์ชายสิบสามขอนัดพบ ย่อมต้องมาอย่างแน่นอน ทว่าเจ้าต้องการที่จะสู้กันเช่นนี้จริงหรือ ในเมื่อก็หลายครั้งแล้ว เจ้ายังไม่มีสักครั้งที่จะได้ประโยชน์จากข้าได้ “ เยี่ยจงหยักไหล่ไปมา กล่าวออกมาด้วยเสียงดังกังวาน

 

สีหน้าขององค์ชายสิบสามก็ได้ครุ่นคิดขึ้นช้าๆ เป็นดั่งที่เยี่ยจงกล่าวมา ตลอดการพบเจอของทั้งสองคน ก็ได้ประมือกันหลายครั้งแล้ว แต่ว่ากลับไม่อาจที่จะแบ่งผลแพ้ชนะออกมาได้ อีกทั้งเมื่อคิดดูดีดีแล้วละก็ องค์ชายสิบสามอย่างน้อยยังถือได้ว่าเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบอยู่เล็กน้อยด้วย เพียงแต่ว่า ในตอนนี้เยี่ยจงกลับพูดเรื่องนี้ขึ้นมา คล้ายกับกำลังตกเป็นเบี้ยล่างของเยี่ยจงก็มิปาน

 

เพียงแต่ว่า ถึงแม้ว่าองค์ชายสิบสามจะมีใช่ชนชั้นสามัญ เพียงแค่ชั่วลมหายใจเดียว สีหน้าของเขาก็ได้กลับคืนสู่ความปกติ เขาจ้องมองไปที่เยี่ยจง จากนั้นก็แสดงท่าทางคล้ายดั่งกำลังเชื่อเชิญอยู่ออกมา “ ค่ำคืนที่จันทร์เต็มดวง บนยอดหอคอยสงคราม เชิญ “

 

“ ข้าก็อยากจะสู้กับเจ้ามากอยู่ ทว่าข้าขึ้นไปไม่ได้ เอาอย่างนี้ เจ้ามาลงแทนไหม ? “ เยี่ยจงไม่ขยับเคลื่อนไหว เขาหัวเราะไปมาแล้วก็กล่าว

 

ผู้คนมากมายแทบจะทรุดลง จนเกือบที่เข่าจะแตะลงพื้น เยี่ยจงผู้นี้ถึงกับบอกว่าเขาจะไม่ขึ้นไป กำลังเล่นตลกอันใดกัน

 

“ หากว่าไม่กล้าขึ้นมา ท่านเยี่ยจงก็รีบพูดออกมา ข้ายังสามารถที่จะสู้กับเจ้าไม่ได้งั้นหรือ “ องค์ชายสิบสามทอสีหน้าครุ่นคิด เขาพบว่าตนเองนับตั้งแต่พบเยี่ยจงปรากฏตัวขึ้นมา ตนเองก็เอาแต่ปะทะคารมกับเขามาตลอด เช่นนี้ย่อมไม่ดีอย่างยิ่ง

 

“ นี้ เจ้าหนูสามตา เจ้าพูดเช่นนี้ก็ไม่ถูกนะ “ เยี่ยจงจดจ้องมองไปที่องค์ชายสิบสาม ด้วยสีหน้าที่เย้ยหยันอยู่หลายส่วน “ เจ้าคิดที่จะนัดประลองกับข้าอย่างไม่มีสาเหตุ ข้าสามารถมาได้นี้ก็เรียกได้ว่าเห็นแก่หน้าเจ้าหนูสามตาเจ้าแล้วนะ สุดท้ายเจ้ายังกำหนดเวลาเอาไว้ อีกทั้งยังกำหนดจุดประลอง ? ข้าจะบอกให้นะ ถ้าเจ้าไม่กล้าที่จะลงมา ก็รีบกล่าวออกมาก็ได้แล้ว ยังจะคิดว่าข้ากำลังล้อเจ้าเล่นอยู่หรือยังไง ? “

 

เมื่อถูกเยี่ยจงเรียกเจ้าหนูสามตาคำแล้วคำเล่า สีหน้าขององค์ชายสิบสามก็ได้เปลี่ยนเป็นปั้นยากขึ้นมาหลายส่วนในทันที โดยเฉพาะเป็นความรู้สึกที่ปะทะคารมกับเขาเช่นนี้ ทำให้เขารู้สึกอัดอั้นเต็มสิบส่วน

 

ท่ามกลางความคิดเห็นที่กล่าวขึ้นมา ถ้าหากว่าเยี่ยจงไม่ขึ้นไปสู่ยอดหอคอยสงคราม เช่นนั้นการประลองของทั้งสองคนก็จะเปลี่ยนจนกลายเป็นความต้องการประลองเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น ทั้งยังไม่มีความหมายอื่นอีก และองค์ชายสิบสามนัดประลองกับเยี่ยจงในตอนนี้ ความจริงแล้วก็ได้เตรียมที่จะใช้โลหิตบริสุทธิ์ของเยี่ยจงเพื่อเปิดหอคอยสงคราม ในตอนนี้เยี่ยจงกลับไม่คิดที่จะขึ้นสู่หอคอย เขาก็ย่อมไปอาจที่จะลงไป

 

ในตอนนี้ องค์ชายสิบสามก็มิได้กล่าวอันใดอีก เขาเพียงจ้องมองเยี่ยจงอย่างเย็นชา ภายในดวงตาก็ได้มีรังสีฆ่าฟันปะทุขึ้นมา

 

“ นี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร ? เยี่ยจงถึงกับไม่ยินยอมที่จะขึ้นไปประลองอย่างงั้นหรือ ? “

 

“ ทว่าก็เรียกได้ว่าปกติอย่างยิ่ง ตนเองส่งคำท้าประลองออกไป จนถึงบัดนี้ก็มีแค่ตัวเขาเองที่พูดอยู่ มีเรื่องอะไรที่ราบรื่นกัน ถ้าเช่นนี้แล้วละก็ ทั่วทั้งฟ้าดินก็คงจะอยู่ฝ่ายเขาแล้วงั้นหรือ ? “

 

มีคนวิพากษ์วิจารณ์ออกมาเสียงเบา เกี่ยวกับฉากเบื้องหน้าอันประหลาดเช่นนี้ พวกเขาต่างก็อดที่จะหยุดคิดขึ้นมาไม่ได้

 

“ พวกเจ้าอายุยังน้อยกัน หรือว่าพวกเจ้าจะดูไม่ออก นับตั้งแต่ที่เยี่ยจงปรากฏตัวขึ้นมา ทั้งสองฝ่ายก็ได้เริ่มต่อสู้กันแล้วมิใช่หรือ ? เพียงแต่ว่านับตั้งแต่เขาปรากฏตัวขึ้นมาจนถึงตอนนี้ บรรยากาศขององค์ชายสิบสามก็ได้ถูกทำให้วุ่นวายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าองค์ชายสิบสามเองก็คงจะคิดไม่ถึง ว่ายี่ยจงถึงกับไม่ใช้ออกมาด้วยไพ่ตามปกติออกมา ? “ ชายชราผมดกขาวผู้หนึ่งก็ได้ปรบมาไปมา ยิ้มน้อยๆเอ่ยปากตอบขึ้นมา

 

“ อะไรกัน ? การต่อสู้ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วงั้นหรือ ? “ มีคนเกิดความงุนงง เห็นได้ชัดว่ามองไม่ออกในข้อนี้

 

“ แน่นอนว่าได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ระหว่างการพูดคุยของทั้งสองคนถึงแม้ว่าจะดูปกติธรรมดา แต่ว่าความจริงแล้วในขณะนี้ สติของทั้งสองฝ่ายในตอนนี้ พลังปราณก็ได้เข้าปะทะกันแล้ว หากผู้ใดกระทบถูกพลังของอีกฝ่ายเข้าแล้วละก็ อย่างน้อยการสู้ต่อจากนี้คงจะต้องเสียท่าให้เล็กน้อยแล้ว …… หากว่าเยี่ยจงปรากฏขึ้นมาแล้วขึ้นสู่หอคอยแล้วละก็ เช่นนั้นก็ถือได้ว่าองค์ชายสิบสามเป็นต่อ จ้องมองเขาขึ้นสู่หอคอย เช่นนั้นด้วยสถานการณ์เช่นนี้ ด้วยขุมพลังของเยี่ยจงคงจะต้องถูกลดทอนไปขั้นหนึ่ง …… แต่ว่าสถานการณ์ในตอนนี้กลับเปลี่ยนไป เพียงแค่กระบวนท่าเล็กๆ ก็ได้ทำให้ความมั่นใจขององค์ชายสิบสามผู้นั้นเกิดความเสียหายขึ้นมาภายในพลังไปนับไม่ถ้วนแล้ว เยี่ยจงผู้นี้ ไม่เพียงแต่มีพรสวรรค์ที่สูงล้ำ ความฉลาดเฉลียวก็ไม่ธรรมดาเลย “ ชายวัยกลางคนอีกทางด้านหนึ่งก็ได้ยิ้มน้อยๆเอ่ยขึ้น เขาดูไปแล้วธรรมดาอย่างยิ่ง แต่ด้านพลังที่แผ่ถือได้ว่าน่าตกใจเต็มสิบส่วน คำพูดที่กล่าวออกมา ยังเต็มไปด้วยความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้า

 

“ ผู้อาวุโสทั้งสองท่าน ในเมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้แล้ว พวกเขาจะสู้กันขึ้นมาหรือไม่ ? “ มีคนอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามขึ้นมา

 

“ ในเมื่อเยี่ยจงก็ได้ปรากฏตัวขึ้นมาแล้ว เช่นนั้นการต่อสู้ของทั้งสองนี้ ย่อมต้องยากที่จะคาดเดาได้แล้ว “ ชายชราฝืนยิ้มแล้วตอบ

 

“ ทั้งสองท่านคิดว่า การต่อสู้นี้แท้จริงแล้วผู้ใดจะเป็นฝ่ายที่ชนะได้กัน แล้วผลสุดท้ายจะมีผลลัพธ์ออกมาเช่นไรกัน ? “

 

“ หากว่าก่อนหน้าที่เยี่ยจงจะปรากฏตัวขึ้นมา ข้าจะคิดว่าองค์ชายสิบสามผู้นั้นจะต้องมีแววชนะถึงแปดส่วน แต่ว่าหลังจากที่เยี่ยจงปรากฏขึ้นมาแล้วข้าก็พบว่า ในข้อนี้ข้าได้มองผิดไป ผลแพ้ชนะระหว่างทั้งสองคน สมควรที่จะเป็นห้าต่อห้าส่วนแล้วกระมั่ง ? “ ชายวัยกลางคนขมวดคิ้ว วินาทีนั้นก็ได้เผยรอยยิ้มออกมาสายหนึ่ง “ แต่ว่าเช่นนี้จึงเรียกได้ว่ามีความหมาย การประลองที่ทราบผลแพ้ชนะแต่แรกจะมีความหมายอันใด …….. ทุกคนก็อย่าได้รีบไป รอดูกันไปเถอะ “

 

หลังจากที่เงียบงัน ผู้คนรอบบริเวณต่างก็เงียบสงบลง ครุ่นคิดจ้องมองไปยังบริเวณท่ามกลางสนาม และในเวลาเดียวกัน ทางด้านอื่นๆก็ได้เงียบสงบลง เห็นได้ชัดว่า แต่ละบริเวณก็มีผู้ที่สามารถมองออก การประลองของทั้งสองคนได้เริ่มขึ้นมาแล้ว อีกทั้งนับตั้งแต่เริ่ม คล้ายดั่งความภาคภูมิและเกียรติยศขององค์ชายสิบสามก็ได้ถูกทำลายลงไปไม่น้อย

 

“ เยี่ยจง เจ้าที่แท้เกรงกลัวหุบเขาตระกูลถังเราอย่างงั้นหรือ ? แม้แต่เข้ามายังเวทีประลองก็ยังไม่กล้าเลย ช่างเป็นสวะโดยแท้ “ ท่ามกลางหมู่หุบเขาตระกูลถัง ก็ได้มียอดฝีมือเอ่ยขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าเป็นซือสูผู้ที่พลาดท่าให้แก่เยี่ยจงมาก่อน

 

เยี่ยจงกึ่งยิ้มกึ่งไม่ยิ้มมองไปที่เขาคราหนึ่ง ทันใดนั้นราวกับคิดอันใดขึ้นมาได้ก็มิปาน พยักหน้าแล้วตอบกลับไป “ ใช่แล้ว ในเมื่อพวกเจ้าหุบเขาตระกูลถังต้องการที่จะให้ข้าขึ้นไปยังเวทีประลอง ข้าขึ้นไปก็ได้แล้ว ทว่าพลังฝีมือข้านั้นต่ำต้อยเกินไป ไม่อาจขึ้นไปได้สูงเช่นนั้น เอาอย่างนี้ พวกเจ้าเหล่าขุมกำลังตระกูลถังก็สร้างกำแพงมนุษย์ขึ้นมา ให้ข้าปีนป่ายขึ้นไปเป็นเช่นไร ? “

 

“ เจ้า “

 

ซือสูสีหน้าแข็งทื่อ เตรียมที่จะก้าวเดินออกไปหนึ่งก้าวพร้อมลงมือ

 

เยี่ยจงกลับอมยิ้มไม่พูดไม่จา ทั้งยังมองไปทางด้านของเขาด้วยสายตาที่ชมเชย

 

“ ซือสู …….. “

 

ด้านบนของหอคอยสงคราม องค์ชายสิบสามก็ได้ส่งเสียงเบาๆออกมา หยุดมิให้ซือสูลงมือ จากนั้นเขาก็ได้ขยับกายเคลื่อนไหว คล้ายดั่งเทพสงครามก็มิปาน ค่อยๆลงมายังจนถึงบนพื้นอย่างช้าๆ

 

“ ในที่สุดก็กล้าที่จะลงมาแล้วงั้นหรือ ? “ เยี่ยจงอมยิ้ม

 

“ เยี่ยจง หากว่าเจ้าคิดที่จะประลองกับข้าในครั้งนี้จริงแล้วละก็ ข้าก็จะเล่นเป็นเพื่อนด้วยละกัน “ องค์ชายสิบสามทอสีหน้าเย็นชา เขาทราบว่าตนเองถ้าหากยังปะทะคารมกับเยี่ยจงต่อไปแล้วละก็ เช่นนั้นอย่างน้อยก็คงต้องพ่ายทั้งที่ยังไม่ทันประลอง

 

“ ช่างเถอะ ในเมื่อเจ้ามีความในใจเช่นนี้แล้วละก็ พวกเราก็ขึ้นไปสู้กันเถอะ “ เมื่อพบว่าองค์ชายสิบสามได้ลงมาแล้ว เยี่ยจงก็ได้ยิ้มขึ้นที่มุมปากอย่างกะทันหัน จากนั้นเขาก็ก้าวเท้าเหยียบลงบนพื้นคราหนึ่ง แล้วก็ได้ยินเสียงดัง”ตูม”ขึ้นมา บนพื้นก็ได้เกิดรอยแตกร้าวขึ้นมาขนาดใหญ่ อีกทั้งร่างกายก็ได้ทะยานขึ้นฟ้าไปในทันที จนในที่สุดก็ได้มาจนถึงยอดหอคอยสงคราม

 

“ เจ้าว่าข้าเป็นคนดีถึงขนาดไหน เจ้าบอกว่าจะประลองกันบนยอดหอคอยสงคราม ข้าก็ขึ้นมาบนหอคอยสงครามแล้ว “ เยี่ยจงทอดมองลงไปยังสีหน้าที่ปั้นยากอย่างยิ่งในตอนนี้ขององค์ชายสิบสาม ทั้งยังกล่าวออกมาอย่างไม่สนใจ

 

องค์ชายสิบสามสีหน้าเย็นเยียบอย่างมาก ทุกๆความเคลื่อนไหวของเยี่ยจงได้อยู่นอกเหนือความคาดหมายของเขาโดยทั้งสิ้น แทบจะเรียกได้ว่ามิได้เป็นเยี่ยจงอย่างที่เขาคิดเอาไว้ มาจนถึงขั้นนี้ เขาก็คงไม่มีวิธีอื่นอีก ได้แต่เพียงสงบลงก้าวเดินออกไป แล้วก็ย่างกรายขึ้นสู่อากาศอีกครั้ง

 

“ ท่าเท้าท่องผสานนิ “ ดวงตาเยี่ยจงสาดเป็นประกาย องค์ชายสิบสามผู้นี้ถึงยอดอัจฉริยะแห่งหุบเขาตระกูลถัง ทักษะยุทธ์ทั้งหมดของเขาถือได้ว่ามีความสำเร็จอยู่ไม่น้อย หากมิใช่ว่าตนเองมีความรู้อันน้อยนิดแล้วละก็ คาดว่าในวันนี้ยังไม่ทันเริ่มประลอง ก็คงต้องทอดร่างลงไปก่อนแล้ว

 

“ ตูม “

 

ในที่สุด ร่างกายขององค์ชายสิบสามก็ได้ปรากฏขึ้นมาบนยอดหอคอยสงครามอีกครั้ง เขาทอสีหน้าเย็นเยือกอย่างถึงขีดสุด เพียงแต่จ้องมองไปที่เยี่ยจงอย่างเย็นชา ภายในดวงตาก็มีรังสีฆ่าฟันเดือดขึ้นมา

 

เพียงแต่ว่า หลังจากที่จ้องมองไปที่เยี่ยจงอย่างสงสัยเช่นนี้ สีหน้าขององค์ชายสิบสามก็ได้กลับคืนสู่ความสงบลงอีกครั้งในที่สุด

 

“ เป็นไรไป ? คืนพระจันทร์เต็มดวงได้มาถึงแล้ว ตอนนี้ก็ได้ขึ้นไปยังยอดหอคอยสงครามแล้ว ทำไมยังไม่เริ่มสู้กันอีก ? “ เยี่ยจงหยักไหล่ไปมา ยิ้มเล็กยิ้มน้อยเหม่อมองไปทางด้านองค์ชายสิบสามแล้วกล่าวออกมา

 

องค์ชายสิบสามมองไปที่ด้านของเยี่ยจงคราหนึ่งอย่างลึกซึ้ง จากนั้นเขาก็ค่อยก้าวเท้าย่างกรายเข้าสู่เวทีประลองอย่างช้าๆ

 

บนยอดหอคอยสงคราม ความจริงแล้วถือได้ว่าเป็นเวทีประลองที่มีความใหญ่อย่างไร้ที่เปรียบ กล่าวได้ว่าเป็นเวทีสู้รบก็คงมิผิด สถานที่แห่งนี้มีความเก่าแก่อย่างลี้ลับ เต็มเปี่ยมไปด้วยบรรยากาศที่ซ่อนเร้น เมื่อยืนอยู่บนยอดหอคอยสงคราม ก็สามารถที่จะมองไปยังทั่วทั้งพื้นที่อันกว้างขวาง จวบจนถึงสุดขอบเขตแดน

 

แต่ว่า องค์ชายสิบสามในตอนนี้เพียงแค่ก้าวเท้าออกไปเบาๆ ทั่วทั้งยอดหอคอยสงครามนี้ก็คล้ายดั่งกลายเป็นประกายแสงสีทองขึ้นมาก็มิปาน ยิ่งไปกว่านั้นเส้นทางเก่าแก่ทั่วทั้งสนามประลองในตอนนี้ก็ได้ทอแสงออกมาเป็นประกาย

 

“ ในที่สุด การรบราขององค์ชายสิบสามในครั้งนี้ หากว่าผู้ใดพ่ายแพ้ตายไป โลหิตบริสุทธิ์ทั้งร่างก็จะถูกดูดไปจนสิ้น กลายเป็นสิ่งที่ใช้ไว้เปิดทางเข้าสู่หอคอยสงคราม เพียงแต่ว่า เมื่อมองไปที่สีหน้าของเยี่ยจงในตอนนี้ อย่างน้อยเขาก็ทราบถึงข้อนี้ การกระทำเมื่อครู่นี้ ก็เพื่อที่จะสร้างความโกรธขององค์ชายสิบสามนั้นเอง ? “ มีคนพูดบ่นกับตัวเอง ต่อมาก็ไม่มีผู้ใดกล้าดูแคลนการประลองที่ยอดหอคอยของทั้งสองคนอีกแล้ว “

.

.

.

.

กลุ่มลับ ติดต่อได้หลังไมค์ครับ กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น เข้ากลุ่ม 4/5/6/7/8 ราคา 450
กลุ่ม4 https://goo.gl/ESwaou ตอนที่ 291-370
กลุ่ม5 https://goo.gl/ekcF7V ตอนที่ 371-450
กลุ่ม6 https://goo.gl/4rqw89 ตอนที่ 451-530
กลุ่ม7 https://goo.gl/qrQ7GA ตอนที่ 531-610

กลุ่ม8 https://goo.gl/Uzqf2x ตอนที่ 611-690 ล่าสุด687 Update 26/06/18

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset