เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 308 การต่อสู้ของขอบเขตไม่สูญสลาย

ตอนที่ 308 การต่อสู้ของขอบเขตไม่สูญสลาย

 

 

“ ชิ “

 

ท่ามกลางใจกลางสนาม แสงสีทองก็สาดเป็นประกายคมกล้าออกมา อีกทั้งดูเหมือนจะไม่มีวันมอดดับ แสบตาเป็นอย่างยิ่ง ในที่สุด แสงสีทองก็ได้ประทับลงบนหอคอยสงครามแห่งนี้ทั้งหมด ตัวอักขระก็ได้ลอยระบำในตอนนี้ คล้ายดั่งมีบทเพลงจากเสียงพิณดังลอดออกมา แปลกประหลาดอย่างถึงที่สุด จนทำให้ราวกับว่าหอคอยสงครามนี้ความจริงเป็นสีทองก็มิปาน

 

ไม่นานนัก ประกายสีทองก็ได้มอดดับลง หลงเหลือเพียงสีทองเอาไว้

 

เยี่ยจงขมวดคิ้วมองไปที่ฉากเบื้องหน้า ไม่ได้กล่าวอันใด

 

“ เขากำลังซึมซับจิตแห่งหอคอยสงครามอยู่ ดูเหมือนว่าการประลองของเจ้าและเขาในวันนี้ คงจะต้องปรากฏความเป็นตายอย่างแน่นอนแล้วละ “ เสียงของเสี่ยวหลุนก็ได้ดังขึ้นที่ข้างหูเยี่ยจง ทั้งยังความรู้สึกเหมือนถอนหายใจออกมาเล็กน้อย

 

“ จิตแห่งหอคอยสงคราม ? “ เยี่ยจงขมวดคิ้ว

 

“ จิตแห่งหอคอยสงครามนี้ น่าจะเป็นจิตแห่งผู้กล้าที่ก่อตัวรวมกันมาจากยอดฝีมือที่ได้ตายไปในหอคอยสงครามแห่งนี้มานับพันนับหมื่นปีที่ผ่านมานี้ มันเป็นสิ่งที่มีจิตใจเป็นของตนเอง ความจริงร่างที่แท้จริงก็คือหอคอยสงครามแห่งนี้ แข็งแกร่งไร้ที่เปรียบ เทียบได้ดั่งเช่นผนึกที่ปิดอยู่ของหอคอยสงคราม หากไม่แบ่งแยกความเป็นตาย พวกเจ้าทั้งสองคนก็จะไม่สามารถไปจากสถานที่แห่งนี้ได้ “ เสี่ยวหลุนอธิบายอย่างรวดเร็ว

 

เยี่ยจงพยักหน้าไปมา แต่ว่าเขาก็ไม่ได้ถอยออกไป เพียงแต่มีสีหน้าประหลาดใจจ้องมองไปทางด้านองค์ชายสิบสาม เขาต้องทำถึงขั้นนี้เลยอย่างงั้นหรือ ?

 

“ ตูม “

 

ท่ามกลางผืนฟ้านี้ ก็ได้มีประกายแสงสีทองคมกล้าสาดทอขึ้นมาอย่างกะทันหัน จนมาถึงยังบนหอคอยสงคราม วินาทีนั้น ก็สามารถพบเห็นประกายแสงสีทองก่อตัวขึ้นจนคล้ายดั่งกรงปรากฏขึ้นมายังบริเวณทั่วทั้งสี่ทิศแปดด้าน กลายเป็นเหมือนดั่งแหขนาดใหญ่ ครอบคลุมปิดล้อมหอคอยสงครามเอาไว้อยู่ตรงกลาง

 

“ ออกมาแล้ว นี้ก็คือกรงเป็นตายของหอคอยสงคราม “

 

มีคนที่ทราบถึงฉากเบื้องหน้า ทางด้านของอีกฝ่ายก็ได้เอ่ยขึ้นมาอย่างตื่นตกใจ

 

“ ฉี่ “

 

หลังจากที่ปรากฏกรงเปิดตายแห่งหอคอยสงครามขึ้นมาแล้ว ประกายแสงสีทองแต่ละเส้นก็ได้ลอยขึ้นรวมตัวกันท่ามกลางอากาศ ท้ายที่สุดก็ได้กลายเป็นประกายแสงเงาร่างมนุษย์สายหนึ่ง เขาที่ใบหน้าที่ไม่ชัดเจนนัก มองออกเพียงแค่รูปร่างโครงหน้าของเขา ทว่าในตอนนี้มันกลับจ้องมองลงมายังเยี่ยจงและองค์ชายสิบสามอย่างช้าๆ กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ ดุจดั่งเสียงระเบิดขึ้นมา “ พันปีที่ผ่านมา ในที่สุดก็ได้มีคนที่คิดจะเปิดทางเพื่อเข้าสู่หอคอยสงครามแล้ว เหล่าผู้เยาว์ เป็นพวกเจ้าที่อัญเชิญข้าให้ตื่นขึ้นมาจากการหลับใหลอย่างงั้นหรือ ? “

 

“ เจ้าไม่ต้องมองข้า เป็นเขากำลังหาเจ้า “ เยี่ยจงหยักไหล่ไปมา องค์ชายสิบสามยังไม่ทันที่จะกล่าวในข้อนี้ก็ได้ถูกทอดตีตราออกมาในทันที

 

องค์ชายสิบกรอกนัยน์ตาไปมา แต่ว่าเขาก็ทราบถึงความสำคัญในเวลานี้ จึงไม่ได้สนใจเยี่ยจง เพียงแต่พุ่งประกายแสงสีทองตัดอยู่บนร่างกายแล้วกล่าวออกมา “ ขอบคุณท่านจิตผู้กล้าผู้ยิ่งใหญ่ เป็นข้าเองที่ปลุกท่านขึ้นมาจากการหลับใหล เพื่อให้ท่านได้เป็นประจักษ์พยานในการต่อสู้ขอบขอบเขตกายเนื้อไม่สูญลายนี้ “

 

“ ยอดฝีมือขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายงั้นหรือ ? “ เงาร่างนั้นคล้ายดั่งยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย จากนั้นก็ตอบกลับเสียงดังกังวาน “ แล้วยังไง นานมากแล้วที่ไม่ได้เห็นการต่อสู้ครั้งใหญ่เช่นนี้ พวกเข้าทั้งสองรีบลงมือเถอะ ขอเพียงมีผลของความเป็นตาย ก็จะเป็นไปตามกฏของหอคอยสงคราม ข้าจะเปิดทางเข้าสู่ของหอคอยให้แก่อีกฝ่ายเอง “

 

หลังจากที่สิ้นเสียง เงาร่างนั้นก็ได้กอดอกขึ้น ค่อยๆที่จะถอยไปทางด้านหลัง ในเวลาเดียวกันก็ได้กล่าวออกมาต่อ “ กรงเป็นตายรอบสี่ทิศแห่งหอคอยสงคราม พวกเจ้าก็จะไร้หนทางที่จะจากไปได้ ในตอนนี้ก็ได้ถูกอัญเชิญออกมาแล้ว เช่นนั้น ก็เริ่มเถอะ “

 

เยี่ยจงเงยหน้าขึ้นมองไปที่จิตแห่งหอคอยสงครามคราหนึ่ง จากนั้นก็ชี้ออกไป ก็ได้มีสายลมสายหนึ่งปรากฏขึ้นมาบนกรงเป็นตายของหอคอยสงคราม แล้วก็ได้ยินเสียง”เคร่ง”ดังขึ้นมา กรงเป็นตายแห่งหอคอยสงครามนี้กลับไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน แต่ว่ากลับเป็นสายลมนั้นแตกกระจายเอง

 

เมื่อพบเห็นฉากเบื้องหน้า เยี่ยจงก็ยกมุมปากขึ้นมา ยังดีที่ในครั้งนี้ตนเองก็มีเป้าหมายอยู่ที่หอคอยสงครามนี้ อีกทั้งยังมาเพื่อวาสนาเพียงสายเดียวอีก ไม่เช่นนั้นแล้วละก็ คงจะต้องเสียเปรียบองค์ชายสิบสามผู้นี้ตายแล้ว

 

“ เยี่ยจง ช่วยไม่ได้แล้ว หอคอยสงครามได้เปิดกรงแห่งความเป็นตายแล้ว ไม่มีผลแพ้ชนะ ก็จะไม่มีผู้ใดที่สามารถออกไปจากสถานที่แห่งนี้ได้ “ องค์ชายสิบสามจ้องมองไปที่เยี่ยจง เอ่ยขึ้นมาอย่างเย็นชา

 

“ เจ้ามีความเชื่อมั่นเช่นนั้นเลยหรือ ที่ว่าข้าจะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน ? “ เยี่ยจงยิ้มขึ้น “ เรื่องนี้มันก็ไม่แน่ “

 

“ มีอยู่บางเรื่อง บอกไปก็ไม่ช่วยอะไร ? “ องค์ชายสิบสามยังคงเย็นชา หลังจากทันใดนั้นเอง เขาก็ได้ก้าวออกไปหนึ่งก้าว ทั่วทั้งร่างกายบนล่างก็ได้สาดประกายแสงสีทองปะทุขึ้นมา ร่างกายดุจดั่งดวงดาวที่ทอดลงมาในทันทีก็มิปาน

 

“ ตูม “

 

ในตอนนี้กันเยี่ยจงก็ได้พุ่งตัวออกไปในเวลาเดียวกัน วินาทีนั้นร่างกายของทั้งคนสายก็ได้ปะทะกันท่ามกลางอากาศ ก่อเกิดเสียงดังสนั่น ก่อเกิดสายลมอันนี้หวาดกลัวแผ่กระจายออกมา

 

ผ่านไปชั่วขณะ ท่ามกลางสนามก็ได้กลับคืนสู่ความสงบ เงาร่างทั้งสองสายดุจดั่งคล้ายเทียนไฟที่ทอแสงก็มิปานดีดตัวออกไป จนลงมาถึงมุมๆหนึ่งบนสนาม

 

ผู้คนทั้งหมดต่างก็มองไปที่การต่อสู้ ผู้คนไม่น้อยต่างก็มองออก เมื่อครู่ที่ได้เข้าปะทะกันครั้งแรกอย่างกะทันหันทั้งสองฝ่ายอย่างน้อยก็ได้ลงมือไปอย่างน้อยก็สิบกว่ากระบวนท่า หากว่าเปลี่ยนผู้ที่อยู่ท่ามกลางสนามเป็นบุคคลอื่นแล้วละก็ อย่างน้อยแม้แต่กระบวนท่าเดียวก็ยังรับไม่ได้ แต่ว่าการปะทะของทั้งสองในแต่ละกระบวนท่า กลับไม่อาจที่จะแบ่งความสูงต่ำได้

 

“ กายเนื้อกลายเป็นสีทอง ทั้งยังไม่สูญสลาย เยี่ยจง เจ้าในเมื่อมีทุกสิ่งที่ข้ามีทั้งหมดก็มิปาน หยิบยืมการช่วยเหลือของหัวใจพสุธาหลายชิ้น เข้าสู่ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายอย่างแท้จริง อีกทั้งยังมีความสำเร็จที่ไม่น้อย ข้าว่าข้าดูแคลนเจ้าไปหน่อยแล้ว “ องค์ชายสิบสามสาดทอประกายตา ทางด้านหลังศีรษะของเขาก็เหมือนดั่งมีดวงตะวันปรากฏขึ้นมา ราวกับกำลังหยุดบางอย่างเอาไว้อยู่

 

“ ที่แท้หยาดน้ำเซียนสุริยะของหุบเขาตระกูลถังก็ไม่ธรรมดา ผู้อื่นลำบากลำบนกว่าจะครอบครองสิ่งของมาได้ เมื่อกล่าวโดยพวกเจ้าแล้ว กลับดูง่ายดายเหลือคณา “ สายตาของเยี่ยจงหนักแน่นขึ้น เอ่ยขึ้นอย่างช้าๆ เมื่อครู่ที่ได้เข้าปะทะกันอย่างกะทันหัน เขาก็ได้เข้าใจขึ้นมาว่า องค์ชายสิบสามผู้นี้ที่แท้ก็ได้อยู่ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายแล้ว กล่าวได้ว่ามิได้มีความแตกต่างจากตนเอง

 

องค์ชายสิบสามไม่พูดไม่จา หลังจากที่เขาจ้องมองไปที่เยี่ยจงแล้ว ก้ได้ก้าวออกมาในทันที ดวงตะวันสีทองที่หลังศีรษะก็เริ่มเคลื่อนไหวต่ำลงมา จนก่อเกิดไอจิตอันร้อนแรงเข้าสู่ภายในร่างกายของเขาอย่างรวดเร็ว ทำให้ผิวหนังบนร่างกายทุกๆหนึ่งฟุต เส้นขนทุกเส้นต่างก็มีความเคลื่อนไหวของเปลวเพลิงที่มีเปลวไฟเป็นสีทอง

 

“ นี้น่าจะเป็นเคล็ดวิชาเซียนของหุบเขาตระกูลถัง วิชากายทิพย์วิหคทองคำ ? “ บริเวณทางด้านล่าง ก็ได้มีคนเอ่ยขึ้นมาเสียงแผ่วเบา เคล็ดวิชาของสำนักนี้ถือว่ามีชื่อเสียงเลื่องลืออย่างมากในดินแดนซีฮวงนี้ นั้นก็เพราะว่า อาณาเขตแห่งดินแดนซีฮวงนี้ มีทั้งเขาหลิงซาน กู่กวอ แดนลับแลที่สามารถเรียกได้ว่ามีทักษะยุทธ์ในระดับเซียน แต่ก็ใช่ว่าจะมีอยู่มาก

 

เยี่ยจงก็ได้ก้าวออกมาอย่างช้าๆเช่นเดียวกัน ตามความเคลื่อนไหวลงมาของเท้า ภายในร่างของเขาก็ได้มีพลังปราณกระบี่พุ่งออกมา ลอบฟาดฟันออกมาไม่หมดสิ้น ในขณะนี้ ทั่วทั้งสรรพร่างของเขาถูกใช้ออกดุจดั่งกระบี่สั่นก็มิปาน ให้ความรู้สึกที่บีบคั้นผู้คนชนิดหนึ่ง ทำให้ไม่อาจที่จะมองเห็นได้

 

“ ดูเหมือน วิชาที่เยี่ยจงผู้นี้ฝึกปรือ ที่แท้ก็เป็นถึงเคล็ดวิชายุทธ์ระดับเซียน อีกทั้งคาดว่าคงมีที่มาที่ไม่ธรรมดา “ มีคนเกิดอาการตกใจขึ้นจนต้องเอ่ยปากขึ้นมา องค์ชายสิบสามสามารถฝึกเคล็ดวิชาระดับเซียนได้ ภายใต้ความคาดเดาของผู้คน แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเยี่ยจงยังถึงกับมีไพ่ตายเช่นนี้อยู่ ไม่แปลกใจเลยที่เขายังคงมีความรวดเร็วเช่นนี้ได้อยู่อีก

 

บนร่างของทั้งสองคนก็ได้มีพลังอันมหาลัยขึ้นมา แล้วก็ได้พุ่งเข้าชนกันในสภาพเช่นนี้ ท้ายที่สุดที่ดูคล้ายกับยังคงเสมอกัน ในเวลานี้ก็ยากที่จะแสดงผลแพ้ชนะได้

 

“ ตูม “

 

สักครู่ บริเวณใจกล้าฝ่ามือขององค์ชายสิบสามก็ได้ปรากฏอักขระประหลาดขึ้นมาอย่างกะทันหัน เขาก็ฟาดฝ่ามือออกไป วินาทีนั้น ราวกับเป็นภูเขาไฟที่ทะลักออกมา ดั่งวิหคทองทะลวงดวงตะวันก็มิปาน บรรยากาศอันน่ากลัวสีม่วงกลุ่มหนึ่ง ก็ได้มุ่งหน้าเข้าปะทะไปทางด้านหน้า น่าหวาดกลัวอย่างไร้ที่เปรียบ

 

ในขณะนี้ พลังขององค์ชายสิบสามกลับเป็นที่น่าตกใจ ดุจดั่งชนชั้นจักรพรรดิราชาก็มิปาน จนทำให้ผู้คนทั้งหมดต้องสูดลมหายใจอย่างกระชั้นชิดขึ้นมาในทันที เมื่อสัมผัสได้ถึงความกลัวในชั่วระยะเวลาหนึ่ง

 

“ นี้คือทักษะยุทธ์อันใด ช่างน่ากลัวจริงๆ “

 

“ ตูม “

 

เกือบจะในเวลาเดียวกัน เยี่ยจงก็ได้ฟาดฝ่ามือออกไปคราหนึ่ง บีบบังคับสัญลักษณ์ที่มาหน้ามาทางด้านหน้าให้ถูกฟาดออกไป ทันใดนั้น เงาร่างบริเวณทางด้านหลัง ก็ได้มีพลังของเงามังกรสีรุ้ง จนท้ายที่สุดกลายเป็นดั่งวงแหวนหนึ่ง มุ่งหน้าเข้ากดดันไปทางด้านหน้า

 

“ เก้ง “

 

พลังการโจมตีอันน่ากลัวทั้งสองสายก็ได้พุ่งออกมาในเวลาเดียวกัน เข้าปะทะชนกันท่ามกลางอากาศ ทันใดนั้นประกายแสงคมกล้าสีทองก็กระจายตัวออก แยงตาจนไม่อาจที่จะลืมตามองได้

 

“ ฉี่ “

 

กระบวนท่าได้ระเบิดออก ทั่วฝ่ามือขององค์ชายสิบสามก็ได้กลายเป็นสีแดงเพลิง ร่างของเขาหายวาบไปราวกับภูตผีก็มิปาน แต่ว่าเพียงชั่วครู่เยี่ยจงก็ได้มาจนถึงบริเวณทางด้านหน้า ฟาดฝ่ามือลงไป

 

สีหน้าของเยี่ยจงยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ตราสัญลักษณ์กลางมือก็ได้เปลี่ยนไป แสงคมกล้าดำทมิฬก็ปรากฏขึ้นในเวลาเดียวกัน พร้อมทั้งออกไปจากดัชนี เล่งเป้าไปยังใจกลางฝ่ามือฝ่ายตรงข้าม ทั้งยังไม่ได้มีความคิดที่จะถอนเลยแม้แต่น้อย

 

ในวินาทีนั้นเอง ประกายสายฟ้านับไม่ถ้วนก็ได้ส่งเสียงดังจิกจิกขึ้นมา ดูไปแล้วทั้งสองคนคล้ายดั่งเป็นการปะทะที่เรียบง่าย แต่ว่าในขณะนั้นเอง ก็ได้ลงมือไปแล้วไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ปะทุประกายคมกล้าออกมาอย่างไร้ที่เปรียบ

 

ในขณะที่รอบข้างของพวกเขาว่างเปล่า สายลมแต่ละสายก็ได้ถูกฉีกกระชากในทันที ปรากฏตราผนึกเก่าแก่ขึ้นมาเป็นสาย น่าหวาดกลัวเต็มสิบส่วย หากเป็นเช่นนี้ต่อไปจะต้องไม่ทันระวังถูกทำลายลง เกรงว่าในสถานการณ์ต่อไปต่างก็มีความหวาดกลัวที่ยากจะทนได้

 

“ นี้มันไม่ใช่อัจฉริยะแห่งดินแดนแล้ว ความน่าหวาดของทั้งสองท่านต่างก็เรียกได้ว่าจัดเป็นสุดยอดของหมู่ผู้เยาว์แล้ว “

 

มียอดฝีมือส่งเสียงลมหายใจออกมาเบาๆ ภายในน้ำเสียงยังแฝงไว้ด้วยความจำยอมหลายส่วน เห็นได้ชัด นี้เป็นอีกขั้นพลังอันมหาศาลในระดับสูง พลังฝีมือน่าหวาดกลัว แต่ว่าในขณะนี้กลับมีแต่เสียงลมหายใจเช่นนี้ เห็นได้ชัด เขาเมื่อก่อนก็ได้,มาจนถึงขอบเขตนี้เช่นกัน

 

 

“ เป็นเพียงแค่เผ่ามนุษย์แต่กลับสามารถปรากฏสุดยอดผู้เยาว์ถึงสองคนเช่นนี้ได้ ช่างน่ากลัวอย่างแท้จริง ยังดีที่ทั้งสองสุดยอดผู้เยาว์ในวันนี้กลับต้องปรากฏผลความเป็นตาย หากว่ากล่าวในมุมมองเช่นข้า ผู้ใดถูกสังหารตายลง ต่างก็เป็นเรื่องที่ดี ”ยอดฝีมือวัยกลางคนของเผ่าปีกท่านหนึ่งเอ่ยปากขึ้นอย่างหนักแน่น เช่นนี้ก็เพียงพอที่จะเป็นสุดยอดผู้เยาว์รุ่นเดียวกันแห่งโชคชะตา เพียงแต่ไม่ใช่ปรากฏอยู่กลุ่มเผ่าพันธุ์และขุมกำลังของตนเอง จึงได้ไม่มีคนที่คาดหวังให้พวกเขามีชีวิตอยู่ต่อไป

 

บนยอดหอคอยสงคราม การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป เพียงแค่ชั่วเวลายังไม่ถึงหนึ่งถ้วยน้ำชาเดือด ดัชนีฝ่ามือของทั้งสองฝ่ายระหว่างนี้อย่างนี้ก็ได้เข้าปะทะไปเกือบพันครั้งแล้ว จนมาถึงตอนสุดท้าย ของทั้งสองดัชนีฝ่ามือภายในต่างก็ถูกใช้ออกด้วยพลังที่แท้จริง ทุกครั้งที่มีการเข้าปะทะกัน ต่างก็มีแสงอัสนีทอเป็นประกาย

 

“ ตูม “

 

แล้วก็ใช้ออกไปอีกหนึ่งฝ่ามือ ร่างกายขององค์ชายสิบสามก็ได้หยิบยืมแรงในการถอยหลังไปกะทันหัน เขาร่างกายหมุนตัวอยู่ท่ามกลางอากาศ ฝ่ามือหนึ่งกลับได้ทิ้งร่องรอยเอาไว้บนพื้น

 

“ ตูม “

 

 

ตามตามเคลื่อนไหวของเขา ทันใดนั้นฝ่ามือข้างหนึ่งก็กลายเป็นสีเพลิงแสงคมกล้ากลุ่ม เยี่ยจงยั้งเท้าจมลึกเข้าไป บนพื้น มุ่งหน้าคว้าจับเข้าไปที่เยี่ยจง

 

“ เปรี้ยง “

 

นาทีนั้นร่างของเยี่ยจง ก็ได้ทอแสงดำทมิฬจนกลายเป็นคล้ายหางของอสรพิษ กวาดออกไปอย่างรุนแรง จนได้ยินเสียงดังสนั่น ดุจดั่งพลองเหล็กกล้าขนาดใหญ่สองด้ามกระทบเข้าด้วยกันก็มิปาน ทั่วทั้งหอคอยสงครามในตอนนี้ก็ได้สั่นสะเทือนขึ้นมาอย่างช้าๆ

 

ควรทราบว่าหอคอยสงครามสร้างจากวัสดุพิเศษ ลี้ลับอย่างมาก ทั้งน่าจะมียอดฝีมือประมือกันเกือบร้อยได้ ต่างก็มิอาจที่จะสร้างรอยขีดข่วนได้แม้แต่น้อย แต่ว่าทั้งสองคนในตอนนี้เพียงแค่เข้าปะทะกันไม่กี่ครั้งกลับทำให้หอคอยสงครามสั่นสะเทือนได้ นี้เป็นการบ่งบอกถึงพลังความแข็งแกร่งของร่างกายของทั้งสองได้ว่าอยู่ในระดับใด

 

ผู้คนไม่น้อยต่างก็เกิดอาการตกใจ กรอกตาอย่างบ้าคลั่งขึ้นมา สุดยอดผู้เยาว์ทั้งสองคนถือได้ว่าอยู่แสดงพลังที่เหนือความคาดหมายออกมาไม่หยุดอย่างไม่จำกัด ในขณะนี้ ผู้คนทั้งหมดจึงค่อยเข้าใจ เพราะเหตุใดเยี่ยจงร้ายกาจจรดแดน นั้นก็เพราะว่า หลังจากเข้าสู่ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายแล้ว ที่มีพลังต่ำกว่าขั้นก่อเกิดขั้นที่เก้า ก็เป็นเพราะว่าแมงเม่าเท่านั้น

.

.

.

.

 

กลุ่มลับ ติดต่อได้หลังไมค์ครับ กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น เข้ากลุ่ม 4/5/6/7/8 ราคา 450
กลุ่ม4 https://goo.gl/ESwaou ตอนที่ 291-370
กลุ่ม5 https://goo.gl/ekcF7V ตอนที่ 371-450
กลุ่ม6 https://goo.gl/4rqw89 ตอนที่ 451-530
กลุ่ม7 https://goo.gl/qrQ7GA ตอนที่ 531-610

กลุ่ม8 https://goo.gl/Uzqf2x ตอนที่ 611-690 ล่าสุด687 Update 26/06/18

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset