เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 331 หอกฮวงเทียน

ตอนที่ 331 หอกฮวงเทียน

 

 

“ โครม —— ”

 

ในตอนนี้ท่ามกลางรอยแตกร้าวก็ได้มีเสียงดังลอดออกมา แล้วก็ได้พบเห็นหอกยาวสีฟ้าเล่มหนึ่งอยู่บริเวณพื้นที่ว่าง มุ่งหน้ากวาดเข้าไปยังบริเวณที่เยี่ยจงและโหยวเหลียนอยู่

 

เยี่ยจงขมวดคิ้ว ดีดนิ้วทางด้านขวาออกมาคราหนึ่ง ประจวบกับกระทบเข้ากับหอกแหลม

 

“ เคร้ง ——”

 

เสียงที่ดังขึ้นนี้ ร่างกายของเยี่ยจงและโหยวเหลียนทั้งสองคนก็ได้ถอยออกไปในเวลาเดียวกัน จากนั้นก็ได้พบเห็นเงาร่างสูงใหญ่ร่างหนึ่งปรากฏขึ้นมาบริเวณทางด้านหน้าของทั้งสองคน ผู้มานั้นมีอายุไม่มากนัก บนร่างกายสวมไว้ด้วยชุดสีเงินตัวหนึ่ง ในมือถือไว้ด้วยหอกยาวที่เปล่งประกายคมกล้าแวววับไปมา ดูสวยงามอย่างถึงที่สุด

 

“ ตำหนักอัสนีลี้ลับ เสวียนเฮ่า ”โหยวเหลียนขมวดคิ้ว เปิดเผยที่มาของคนผู้นี้

 

“ เป็นเจ้า ! ”

 

เยี่ยจงก็ได้เงียบงันขึ้นมาอย่างประหลาดใจ เกี่ยวกับนามบุคคลแปลกหน้า เสวียนเฮ่า เป็นผู้ที่มีฉายาว่าราชันอัสนี ที่รวมทั้งเป็นหนึ่งในสี่ของราชันเผ่ามนุษย์

 

ผู้ที่สี่ราชันในเผ่ามนุษย์ ก็คือหลังจากที่สมรภูมิฮวงกู่เปิดขึ้นมาได้ไม่นานนักก็ได้ถูกตั้งขึ้นมา แบ่งเป็นองค์ชายสิบสามแห่งตระกูลถัง ราชันบ้าคลั่งเยี่ยจง ราชันแห่งการลอบสังหารฝีมือดั่งภูตพรายที่อยู่เบื้องหน้าอย่างราชันอัสนีเสวียนเฮ่า。

 

แน่นอนว่า สี่ราชันในตอนนี้คงเหลือเพียงแค่สามคนเท่านั้น ที่ไม่สมดั่งนามที่ตั้งขึ้นมา

 

“ ยินดีที่ได้พบท่านเยี่ยจง หอกนี้ผู้น้อยมีความสนใจเป็นอย่างยิ่ง ไม่ทราบว่าพวกท่านพอจะถอยให้ก้าวหนึ่งได้หรือไม่ ”เสวียนเฮ่ามีท่าทีที่เป็นสง่า กล่าวออกมาพร้อมทั้งเพ่งมองไปที่หอกยาวสีฟ้าด้ามนี้

 

“ ถ้าหากข้ากล่าวว่าไม่ได้เล่า ? ”เยี่ยจงตอบกลับเสียงเย็นชา

 

“ เช่นนั้นท่านเยี่ยจง คุณหนูโหยวเหลียน คงได้แต่เพียงลวงเกินแล้ว ! ”

 

หลังจากที่สิ้นเสียง หอกยาวสีฟ้าในมือของเสวียนเฮ่าก็ได้ถูกตวัดขึ้นมาด้วยประกายแสงอันลึกล้ำและสวยงามขึ้นสายหนึ่ง ทั้งยังให้บรรยากาศที่อันตรายอย่างยิ่งชนิดหนึ่งมุ่งหน้ากวาดเข้าไปยังบริเวณทางด้านของเยี่ยจงและโหยวเหลียน

 

เยี่ยจงพลิกมือคราหนึ่ง กระบี่ดำก็ได้ปรากฏขึ้นมา มุ่งหน้าเข้าประจัญบานออกไปทางด้านหน้า สมบัติเทพในมือของทั้งสองคนก็ได้เข้าปะทะเข้าหากัน วินาทีนั้นก็ได้ยินเสียงอัสนีกระทบเข้ามาถึงใบหู จนทำให้ผู้คนต้องตกใจขึ้นมา

 

“ ฮ่าฮ่าฮ่า เรื่องน่าสนุกเช่นนี้ ทำไมถึงไม่รวมข้าเข้าไปด้วยละ ! ”

 

อีกทางด้านหนึ่ง ร่างกายของจื่อจุนเทียนก็ได้ทะยานออกมา บนร่างกายบนล่างก็ได้เปล่งประกายความน่ากลัวขึ้นมา เขาพลิกทั้งสองมือแปรรอยตราขึ้น แล้วก็ได้แผ่พุ่งลำแสงกวาดออกไปเป็นสาย ในเวลาเดียวกันขุนพลทั้งสี่ที่อยู่ทางด้านหลังของเขาก็ได้กุมไว้ด้วยสมบัติปราณแผ่พุ่งรังสีสังหารออกมา วินาทีนั้น รังสีสังหารก็ได้พุ่งขึ้นมา ทักษะเทพพวยพุ่งขึ้นมา น่าหวาดกลัวอย่างไร้ที่เปรียบ

 

จากนั้น นางเซียนชิงหญิงก็ได้กุมกระบี่สั่นขึ้นมา มุ่งหน้าฆ่าสังหารออกไปอีกทางด้านหนึ่ง ทว่านางกลับขวางรั้งการโจมตีของจื่อจุนเทียน เห็นได้ชัดว่า ไม่คิดที่จะให้เขาได้รับประโยชน์ใดๆทั้งสิ้น

 

“ ตูมตูมตูม——”

 

สุดยอดฝีมือกลุ่มหนึ่งที่ร่างกายสวมไว้ด้วยชุดสีดำก็ได้ฆ่าสังหารเข้ามา บนร่างกายของพวกเขาก็ได้แผ่พลังที่ดูเหมือนกับพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ เห็นได้ชัดว่าแต่ละคนต่างก็มีที่มาที่ไปสูงล้ำ แต่ว่าในเมื่อเข้ามาสู่การแย่งชิงเช่นนี้ พวกเขาก็ไม่อาจที่จะได้เปรียบแต่อย่างไร กระนั้นเรื่องที่เกี่ยวกับการเข้าแย่งชิงวาสนากับกลุ่มเด็กหนึ่งเช่นนี้ ไม่แน่ว่าคงจะต้องทำให้สูญเสียภาพพจน์อย่างแน่นอน

 

ยอดฝีมือเหล่านี้ก็ได้ปรากฏขึ้นมาทีละคน วินาทีนั้น ก็ได้เกิดการปะทุขึ้นมาจากทั่วทั้งผืนฟ้า เพราะว่าทุกๆคนในตอนนี้ต่างก็มองออกว่า หอกยาวที่อยู่ในสุสานกระบี่นั้นย่อมต้องมีพลังแห่งฟ้าอย่างถึงที่สุด หากว่าครอบครองมาได้ ไม่แน่ว่าอาจจะสามารถได้ชัยในสถานที่แห่งนี้ก็ได้

 

“ ตูมตูมตูม——”

 

ประกายแสงคมกล้าแต่สีก็ได้สาดไปมาท่ามกลางภายในอารามใหญ่ พุ่งชนเข้าปะทะกันไม่หยุด ทว่ากล่าวไปก็น่าแปลกอยู่ อารามเทพฮวงกู่นี้ที่ดูเหมือนทรุดโทรม แต่ว่าผู้คนมากมายขนาดนี้ลงมือปะทะกันพร้อมกัน กลับไม่อาจสร้างแม้แต่รอยขีดข่วนให้มันได้แม้แต่น้อย แม้แต่ริ้วรอยของคราบฝุ่นก็ไม่อาจที่จะเกาะขึ้นไปได้ เป็นที่น่าตื่นตกใจอย่างยิ่ง

 

“ ตูม——”

 

ทันใดนั้นเอง ตำแหน่งของหอกยาวเล่มนั้นที่อยู่ในสุสานกระบี่ก็ได้สั่นไหวไปมาอย่างช้าๆ แผ่พุ่งพลังประหลาดกระจายตัวออกมา จากนั้น ราวกับมีเสียงที่ดูเก่าแก่ดังขึ้นมา ปกคลุมอยู่ทั่วทั้งอารามใหญ่ดุจดั่งระเบิดกัมปนาทขึ้นมา

 

“ ข้าพเจ้าคือตัวของศาสตราวุธแห่งหอกฮวงเทียน ข้าพเจ้าที่เป็นอาวุธโลหิตสงครามแห่งซานเชียนเจี่ย ผ่านสวรรค์มาแล้วเก้าชั้น ! จะอย่างไรก็ตาม ชีวิตที่มีทั้งแข็งแกร่งและอ่อนแอ เป็นตายอยู่ที่ลิขิตสวรรค์ ข้าพเจ้าที่ผ่านสมรภูมิมานับร้อยอันอันตราย ก็ยังต้องพ่ายให้กับช่วงเวลาที่ผันผ่าน และในวันนี้ ข้าพเจ้ากลับกลายคืนสู่สามัญ ฮวงเทียนกลับสามารถมีร่างที่ผ่านพ้นจากโบราณกาล เพื่อที่จะกลายเป็นศาตราวุธสังหารผู้คน ! ”

 

“ หากมีคนรุ่นหลัง ไม่อาจที่จะไม่ลบล้างผืนฟ้าดั่งความฝัน ไม่เช่นนั้น ต้องสังหารโดยสิ้น ! ”

 

เสียงดังสนั่นตูมตามขึ้นมายังท่ามกลางอารามใหญ่ จนทำให้ผู้คนทั้งหมดต่างก็เกิดความตกใจขึ้นมา ราวกับหยุดมือลงในเวลาเดียวกัน แต่ละคนก็ได้เหม่อมองไปยังหอกฮวงเทียนด้วยสายตาที่เปลี่ยนจนประหลาดขึ้นมาหลายส่วน。

 

ยอดฝีมือสูงสุดผู้หนึ่งที่ไร้พ่ายนับร้อยครั้ง ท้ายที่สุดกลับต้องพ่ายให้แก่กาลเวลา ทิ้งกายตายลงไปเช่นนี้ ดุจดั่งสาวงามที่ช้าเร็วต้องโรยริน วีรบุรุษต้องอ่อนโทรม ให้ผู้คนต้องทุกระทมกับเหตุผลที่วุ่นวายแก้ไม่ได้

 

“ ก็แค่ยอดฝีมือแห่งโบราณกาลเพียงคนเดียวเท่านั้น ยังไงซะก็ได้ตายตกไปแล้ว ยังคงหวงแหนสิ่งของไปทำไมกัน หลงเหลือเอาไว้ให้เล่าขานจะไม่ดีกว่าหรือ ! ”

 

เด็กหนุ่มผมสีเงินผู้หนึ่งก็ได้ส่งเสียงร้องเชอะออกมาคำหนึ่งอย่างเย็นเยียบ ถึงแม้ว่าเขาจะมีพลังฝีมืออยู่เพียงแค่ขั้นก่อเกิดระดับที่แปดขอบเขตชั้นฟ้า แต่ว่าเขาในตอนนี้ก็มีความมั่นใจอย่างเต็มเปรี่ยม เพราะว่าเขาเป็นผู้ที่มาจากหนึ่งในเก่าแก่ ตอนนี้เค้าได้โบกมือขวาออก ประกายแสงจันทร์สีเงินสายหนึ่งก็ได้ปกคลุมอยู่บนร่างกายของเขาจนกลายเป็นชุดเกราะ ทำให้เขามีพลังเพิ่มขึ้นมาในทันที ราวกับเทียบเท่ากับขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลาย。

 

“ ตูม——”

 

ทันใดนั้นเอง เด็กหนุ่มผมเงินผู้นั้นก็ได้ปะทุสังหารออกไป คว้าจับออกไปยังบริเวณทางด้านของหอกฮวงเทียน

 

ในขณะนี้เอง ก็มีผู้คนไม่น้อยที่หมายจะเคลื่อนไหว แต่ว่าท้ายที่สุดยังคงอดกลั่นเอาไว้

 

“ ซวบ ——”

 

ด้านบนหอกฮวงเทียน ก็ได้มีพลังคมกล้าเทพสายหนึ่งสาดพุ่งออกมา แล้วก็ได้ยินเสียงดัง”เปรี้ยง”ดังขึ้นมา ร่างกายของเด็กหนุ่มผมเงินก็ได้ระเบิดจนกลายเป็นฝุ่นผงทันที ไม่หลงเหลือการคงอยู่แม้แต่เลือดเนื้อ。

 

“ เชอะ ——”

 

ผู้คนทั้งหมดต่างก็ได้เหม่อมองไปยังฉากเบื้องหน้า ต่างก็ต้องเกิดอาการตื่นตกใจขึ้นมา ยอดฝีมือสูงสุดท่านนี้เมื่อครั้งโบราณกาลคงจะต้องแข็งแกร่งและน่าหวาดกลัวอย่างมาก เพียงแต่ว่ากลับหลงเหลือการผนึกเอาไว้อยู่เล็กน้อยเท่านั้น จึงได้สามารถสังหารเด็กหนุ่มผู้มีพรสวรรค์เช่นนี้ได้อย่างง่ายดาย

 

ในตอนนี้ แม้แต่เยี่ยจงและจื่อจุนเทียนเป็นต้นต่างก็ตกอยู่ภายใต้ความนึกคิด จากนั้นพบว่าจนปัญญา รังสีที่ปรากฏขึ้นมาบนหอกฮวงเทียนนี้ เรียกได้ว่าอยู่นอกเหนือความสามารถโดยทั้งหมดของผู้ที่อยู่ภายในสมรภูมิฮวงกู่นี้ที่ยากจะสามารถทานรับเอาไว้ได้ หรือจะกล่าวได้ว่า หอกฮวงเทียนนี้มิได้ตกอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ของสมรภูมิฮวงกู่ อีกทั้งด้วยพลังฝีมือของเยี่ยจงและพวก ในตอนนี้ต่างก็ทราบแก่ใจกันดี ว่าต่อให้พวกเขาระมัดระวังตัว ทว่าเพียงแค่ลงมือ เช่นนั้นสภาพต่อไปก็คงจะไม่ต่างจากชายหนุ่มผมเงินผู้นั้นก็มิปาน

 

สภาพการณ์นี้ที่แต่ละคนก็ไร้หนทาง แต่ว่าก็ไม่อาจที่จะไม่ยอมรับได้

 

เพียงแต่ว่า ถ้าหากพลาดสิ่งของสมบัติโบราณแม้เพียงสักชิ้นเดียว เกรงว่าไม่ว่าเป็นผู้ใดก็คงจะไม่ยินยอม

 

“ แต่ ผู้ที่ได้เข้ามายังอารามในตอนนี้ ต่างก็ถือได้ว่าเป็นผู้ที่มีวาสนาเป็นอย่างมากที่จะได้สามารถส่งมอบตัวข้าให้ คิดดูให้ดีละคิดดูให้ดี ! ”

 

เสียงของระเบิดดังตูมตูมตามตามขึ้นมาอีกครั้ง เพียงแต่ว่าเสียงในครั้งนี้กลับทั้งอ่อนโทรมและอยู่ห่างออกไปอยู่หลายส่วน

 

หลังจากที่เงียบงัน ผู้คนมากมายต่างก็ไม่พูดไม่จากัน ยอดฝีมือสูงสุดโบราณผู้นี้แท้จริงแล้วก็ไม่มีความเมตตากรุณาเลย ประโยคนี้หากว่าพูดออกมาเร็วกว่านี้สักหน่อย เด็กชายผมเงินผู้นั้นก็คงจะไม่ต้องมาตายเช่นนี้ อีกทั้งยังเห็นได้ชัดว่า คือการจงใจของเขาเอง

 

“ ถี่ถี่ถี่ —— ”

 

เสียงที่ดังออกมา ภายในสุสานกระบี่พลังนภาเทพนับหมื่นพวยพุ่งออกมาอย่างกะทันหัน จากนั้นก็ว่าลำแสงที่ไหลเวียนพวยพุ่งออกมาจากภายในสุสานกระบี่ และทุกๆลำแสงก็ได้มีของสิ่งหนึ่งอยู่ภายใน มีทั้งศาตราวุธ มีทั้งเกราะ เห็นได้ชัดว่าน่าประหลาดอย่างไร้ที่เปรียบ

 

และลำแสงเหล่านี้มีด้วยกันทั้งหมดเก้าสาย สามารถทำให้ผู้คนมองออกว่า สิ่งของเหล่านี้ต่างก็มิได้มีความเสียหายแต่อย่างใดโดยทั้งสิ้น เห็นได้ชัด ต่างก็ถือได้ว่าเป็นของดี

 

“ ฆ่า ——”

 

พริบตานั้นเอง ผู้คนทั้งหมดต่างก็ดวงตาแดงก่ำ นี้เป็นถึงสิ่งที่ยอดฝีมือสูงสุดได้เหลือทิ้งเอาไว้ แต่ว่าจะได้มาครอบครองหรือไม่นั้น ก็คงจะดูความสามารถของฝ่ายตนเองแล้ว

 

“ ตูมตูมตูม——”

 

ในขณะนั้นเอง ผู้คนมากมายต่างก็ไม่มีความยินดีที่จะลงมือร่วมกัน เพียงแต่ทุกๆคนต่างก็ใช้ออกมาด้วยพลังทั้งหมดมุ่งหน้าไปยังวัตถุสิ่งนั้น แต่ว่าก็น่าเสียดาย สมบัติวัตถุเหล่านี้ต่างก็มีความแข็งแกร่งอย่างมาก ด้วยพลังความสามารถของผู้คนมากมายในตอนนี้ แม้แต่จะเข้าใกล้ก็ยังถูกพลังกดดันขนาดใหญ่กดทับเอาไว้

 

เห็นได้ชัด สมบัติวัตถุเหล่านี้ต่างก็มีพลังปราณในระดับที่แน่นอน อีกทั้งยังไม่ได้รับผลกระทบจากกฎเกณฑ์จากสถานที่แห่งนี้ หรือจะกล่าวได้ว่า ผู้คนมากมายไม่อาจที่จะแข็งขืนครอบครองสมบัติวัตถุเหล่านี้ มีแต่เพียงสามารถเชื่อมความสัมพันธ์ แน่นอนว่าการกระทำเช่นนี้ก็ยังถือได้มีอันตรายที่สูงยิ่ง ถ้าเกิดวิญญาณดับสูญไปอย่างไม่ระวัง คงจะหนักหนาเสียยิ่งกว่าตายอีก

 

เยี่ยจงลงมือไปสามครา แบ่งเป็นลงมืออยู่สามรูปแบบ แต่ว่ากลับรวดเร็วอย่างมาก สีหน้าของเขากลับรู้สึกอึดอัดลงสู่บนพื้นดิน ต่อให้เขาอยู่ในขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลาย แต่ว่าในเมื่อไม่อาจที่จะไล่จับสมบัติวัตถุนี้ได้ เพราะว่าความเคลื่นไหวของมันกลับถูกควบคุมได้อย่างนอกเหนือความคาดคิด

 

และภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ แม้แต่เยี่ยจงเองก็ยังไม่ยินยอมที่จะใช้เพียงสำนึกเทพในการเชื่อมต่อกับสมบัติวัตถุเหล่านี้ เพราะว่าถ้าเป็นเช่นนั้นก็ถือได้ว่ามีอันตรายที่มากจนเกินไป อาจจะตายตกลงได้ทุกเวลา

 

“ ตอนนี้จะทำยังไงกัน ? ”โหยวเหลียนก็ได้ลงมือไปอยู่หลายครั้ง แต่ว่าในกลับต้องพ่ายแพ้ในทุกครั้งไป นางขมวดคิ้วเรียวงามเหม่อมองไปยังฉากเบื้องหน้า ที่ดูแล้ววุ่นวายอย่างถึงที่สุด

 

“ ความลังเลจะนำไปสู่ปัญหา ” เยี่ยจงไตร่ตรอง “ ท่ามกลางอารามเทพฮวงกู่มีความสำคัญที่สุด ยิ่งเป็นมูลฐานธรรมะ รากฐานวิทยายุทธ์ อย่าได้ให้สิ่งอื่นใดนอกเหนือจากนี้ทำให้จิตใจเกิดความวุ่นวายได้ ! ”

 

“ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ แต่ว่าก็น่าเสียดายเกินไปแล้ว ! ”โหยวเหลียนถอนหายใจออกมา บุคคลอื่นๆต่างก็จ้องมองไปยังสมบัติวัตถุเหล่านี้ ไม่มีใครที่จะยินยอมจากไปเช่นนี้อย่างแน่นอน เพราะว่าสิ่งนั้นเป็นมูลฐานธรรมะ รากฐานวิทยายุทธ์ต่างก็ไม่มีผู้ใดทราบว่าคือสิ่งใด แต่ว่าสมบัติวัตถุเหล่านี้มีคุณค่าในตัวของมันเองอยู่แล้ว ถ้าหากสามารถได้รับแม้เพียงแค่ชิ้นเดียว ก็ถือได้ว่าได้รับผลพลอยได้ที่มากมายอย่างคาดไม่ถึง

 

“ ไป อย่าได้เสียเวลาอีกเลย ” เยี่ยจงขมวดคิ้ว จากนั้นก็โบกมือขึ้น ตัวเขาเองเป็นคนแรกที่ขบเคี้ยวเขี้ยวฟันล่าถอยไปทางด้านหลัง มุ่งหน้าออกไปทางด้านนอกของอารามใหญ่ ในขณะที่โหยวเหลียนกำลังอยู่ในความวุ่นวาย ก็ได้ติดตามไปอย่างรวดเร็ว

 

และในเวลาเดียวกัน จื่อจุนเทียน ชิงหญิงเป็นต้นที่มีจิตใจมั่นคงที่สุดในหมู่รุ่นเยาว์ แต่ละคนต่างก็ได้แต่ขบเคี้ยวเขี้ยวฟันล่าถอยออก แต่ว่าส่วนพวกที่ไม่ทราบว่าตนเองไม่อาจทำกระไรได้ก็ยังคงอยู่ในวงล้อมแห่งการแย่งชิง คงอยู่ในสถานที่แห่งนี้ คิดหาวิธีไม่ออก

 

“ ซวบ ——”

 

ร่างกายของเยี่ยจงและโหยวเหลียนทั้งสองก็ทะยานอย่างรวดเร็วอยู่ท่ามกลางอารามดุจดั่งประกายแสง ตลอดทางมานี้ ก็ได้มาอารามโอสถ รวมไปถึงอารามใหญ่ต่างๆอีกด้วย ช่วงเวลานับตั้งแต่เริ่ม เยี่ยจงทั้งสองยังคงเข้าไปอย่างระวังป้องกันอยู่เที่ยวหนึ่ง แต่ว่าพวกเขาก็ค้นพบบางอย่างจนไม่กล่าววาจาขึ้นมาหลายส่วน ไม่ว่าท่ามกลางอารามใหญ่จะเป็นอะไร สิ่งของต่างๆก็ได้ถูกยอดฝีมือสูงสุดทำการปิดผนึกเอาไว้ และด้วยพลังฝีมือของพวกเขาในตอนนี้ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำการปลดผนึกออกมาได้

 

เมื่อเข้ามายังหุบเขาสมบัตินี้แล้ว ไม่อาจที่จะไม่รู้สึกได้ว่าต้องกลับไปมือเปล่าได้ ทำให้เยี่ยจงและโหยวเหลียนทั้งก็แทบจะกระอักโลหิตออกมา

 

จนท้ายที่สุด พวกเขาพบว่าไม่ว่าจะเป็นอารามใหญ่ใดก็ได้แต่เพียงผ่านไปเท่านั้น ทั้งหมดไม่อาจที่จะสามารถเข้าไปได้ และเยี่ยจงก็ได้แต่พึ่งพาแผ่นป้ายกระดูกเพื่อรับสัมผัสกับการความเคลื่อนไหวอันเล็กน้อย จึงทำได้แต่เพียงกลัดกลุ้มเดินไปทางด้านหน้าไม่หยุด

 

“ โครม——”

 

หลังจากที่เป็นเช่นนี้ไปได้ราวครึ่งชั่วยาม ในที่สุดหมู่อารามหลักของอารามใหญ่เหล่านี้ก็ได้ปรากฏขึ้นมาบริเวณด้านหน้าของทั้งสองคน ทางด้านบนของอารามหลัก ก็ได้มีหมอกควันอักขระสีทองคำ ตลอดทั่วทั้งขนาดตัวตึกของอารามนั้นเทียบเท่าได้กับภูเขาสูงลูกหนึ่งก็มิปาน เต็มเปี่ยมไปด้วยรังสีที่ทั้งโบราณและลี้ลับ

 

“ ฮู——”

 

แผ่นป้ายกระดูกที่อยู่ภายในแหวนจักรวาลของเยี่ยจงก็ได้ส่งเสียงร้องออกมา กำลังเตือนสติเขา สถานที่แห่งนี้จึงเป็นบริเวณที่สำคัญที่สุดของอารามเทพฮวงกู่

.

.

.

.

กลุ่มลับ ติดต่อได้หลังไมค์ครับ กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น เข้ากลุ่ม 4/5/6/7/9 ราคา 550
กลุ่ม4 https://goo.gl/ESwaou ตอนที่ 291-370
กลุ่ม5 https://goo.gl/ekcF7V ตอนที่ 371-450
กลุ่ม6 https://goo.gl/4rqw89 ตอนที่ 451-530
กลุ่ม7 https://goo.gl/qrQ7GA ตอนที่ 531-610

กลุ่ม8 https://goo.gl/Uzqf2x ตอนที่ 611-690

กลุ่ม9 https://goo.gl/1jPZtn ตอนที่ 691-770 ล่าสุด745

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset