ตอนที่ 360 ท่ามกลางคำเล่าลือ
เยี่ยจงจ้องมองไปยังเด็กสาวชุดขาวที่อยู่เบื้องหน้าอย่างเย็นชา จากนั้นก็ขมวดคิ้วขึ้น แล้วจึงได้เอ่ยขึ้นมาเสียงด้วยน้ำเสียงราบเรียบ”ยังมิได้ขอคำชี้แนะจากเจ้าเลย”
“คนผู้นี้เป็นหญิงศักดิ์สิทธิ์ของลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาว ม่อมู่ซื่อ”หลิงเยว่เอ่ยขึ้นมาเสียแผ่วเบา บ่งบอกเปิดเผยสถานนะของคนผู้ที่ออกมา
“หญิงศักดิ์สิทธิ์ของลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาว”ขณะนั้นเยี่ยจงก็ได้มองไปที่ม่อมู่ซื่อ สีหน้าไม่ได้เปลี่ยนไปมากมายนัก ราวกับว่าสถานะของอีกฝ่ายมิได้มีความหมายต่อเขาก็มิปาน
หลังจากนั้น เขาก็ได้กล่าวออกมาอย่างเย็นชา”เขาทำร้ายศิษย์ของลัทธิแห่งดวงดาวข้า ข้าทำร้ายเขา ยุติธรรมอย่างถึงที่สุดแล้ว”
หลังจากที่เงียบงัน ม่อมู่ซื่อยังคงอย่างเงียบงันไม่กล่าววาจา นางทราบแต่แรกแล้วว่าเยี่ยจงมีชื่อเสียงยิ่งใหญ่ ทราบดีว่าเขาเป็นยอดฝีมือสุดยอดรุ่นเยาว์แห่งเผ่าพันธุ์ แต่ก็คิดไม่ถึงว่าการกระทำของเขาถึงกับมีความกล้าหาญได้ถึงเพียงนี้ มิได้เห็นลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาวอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย
หลังจากในขณะที่มองดูเยี่ยจงอย่างเงียบเชียบ ม่อมู่ซื่อก็ได้ทอประกายสายตาคมกล้าออกมา ในที่สุดนนางก็อดที่จะยิ้มแล้วพยักหน้ามิได้ กล่าวออกมาอย่างเย็นชา”เรื่องในวันนี้ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ยังไงซะก็เป็นเพียงการแลกเปลี่ยนฝีมือ ขอเพียงไม่เกิดเรื่องถึงขั้นเสียชีวิต ยังไงก็คงเป็นเรื่องที่พอจะยิ้มรับได้”
“ถ้าเช่นนั้นขอคงต้องขอขอบคุณในน้ำใจของหญิงศักดิ์สิทธิ์แล้ว”เยี่ยจงพยักหน้า จากนั้นก็ได้หันกายหมายจะจากไป
ม่อมู่ซื่อยังคงเงียบงันที่ไม่แม้แต่ส่งเสียงอันมา นี้มันคนอะไรกัน ตนเองให้เกียรติถึงเพียงนั้น แต่ว่าในตอนนี้เขาเมื่อกล่าวจบก็เพียงหันจากหมายจากไป เห็นได้ชัดว่านั้นเป็นความโอหังที่เกิดจากการจงใจแสดงออกมาของตัวเขา ม่อมู่ซื่อถึงแม้จะทราบเช่นนั้น ด้วยคุณสมบัติของตนเอง ที่สามารถดึงดูดผู้ที่มีฝีมือแข็งแกร่งมากมายมาได้ไม่น้อย รวมไปทั้งสถานะที่มากเกินกว่า ที่จะเป็นหญิงศักดิ์สิทธิ์ของลัทธิแห่งหนึ่ง ในขณะที่เดินมาถึงจุดๆนี้ อัจฉริยะเหล่านั้นต่างก็กลายเป็นประกายเดือนดาราไปมากมายแล้ว ? เยี่ยจงผู้นี้กลับกล้าทำถึงเพียงนี้ ที่เห็นตนเองเป็นเหมือนดั่งหญ้าข้างทาง แม้แต่จะเหลียวแลยังไม่มีอยู่ในความคิดเสียด้วยซ้ำ
“ศิษย์พี่หญิง”ศิษย์ของลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาวมากมายมองไปที่ท่าทีของเยี่ยจง ต่างก็มีสีหน้าไม่ยอมรับ เยี่ยจงผู้นี้เรียกได้ว่าโอหังจนเกินไป ถึงกับไม่เห็นพวกเขาคนของลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาวทั้งหมดอยู่ในสายตาเลยอย่างนั้นหรือ
“ศิษย์น้องเยี่ยจง……”เสียงสูดลมหายใจดังขึ้นอย่างรุนแรง ม่อมู่ซื่อกวาดสายตาอันโกรธเคืองขึ้นมาเป็นสายอยู่เล็กน้อย นางจ้องมองไปทางเงาร่างที่กำลังจะจากไปของเยี่ยจง เอ่ยขึ้นมาอย่างเย็นชา
เยี่ยจงขมวดคิ้วไปมา จากนั้นก็ได้ค่อยๆหันกายกลับมา เขาย่อมเข้าใจเป็นอย่างดี ว่าการกระทำของจ่งหลี่เยียหลายวันมานี้ ถือเป็นการบีบคั้นให้ตนเองปรากฏตัวออกมา ในตอนนี้ตนเองก็ได้ถูกบีบคั้นให้ปรากฏตัวออกมาแล้ว เขาก็อย่างจะทราบเหมือนกันว่า คนของลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาวเหล่านี้ที่แท้ต้องการที่จะทำอะไร ถึงได้มุ่งเป้ามาที่ตนเอง หรือว่าจะมุ่งเป้ามาที่คัมภีร์กฎแห่งสวรรค์กันแน่
เมื่อพบว่าเยี่ยจงไม่พูดไม่จา ม่อมู่ซื่อก็รู้สึกกระอักกระอวนอย่างถึงที่สุด มีอย่างที่ไหนกันที่นางจะต้องมาแสดงออกเช่นนี้กับเพศตรงข้ามเช่นนี้ ? ทว่านางก็ยังคงมิใช่บุคคลธรรมดา เพียงพริบตาเดียวสีหน้าก็ได้คืนกลับมาเป็นปกติ ยิ้มอย่างมีเสน่ห์ไปทางด้านของเยี่ยจงแล้วกล่าว”ความเคลื่อนไหวที่สมรภูมิฮวงกู่ในครั้งนี้ ข้าถึงแม้จะมิได้เข้าร่วมด้วย แต่ว่าศิษย์น้องเยี่ยจงก็ยังสามารถทำให้เกิดเสียงเล่าลือที่หนาหู วันนี้เมื่อได้พบพาน ยังมิสู้ให้พวกเราได้ขอประลองแลกเปลี่ยนฝีมือกันสักรอบจะได้หรือไม่ ?”
เยี่ยจงยิ้มแล้วตอบกลับไปอย่างเย็นชา”หญิงศักดิ์สิทธิ์กล่าวมาตั้งนาน ยังคงมิใช่เพราะต้องการที่จะลงมือ พวกเจ้าทั้งศิษย์พี่ศิษย์น้องต่างก็ไร้ยางอายเสียจริง ถ้าจะลงมือแล้วละก็ เจ้าเข้ามาก็พอแล้ว เพียงแต่ว่า ถ้าถูกข้าจัดการจนพิการข้าก็ไม่อาจที่จะรับผิดชอบได้หรอกนะ”
“เจ้า——”
ศิษย์ของลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาวมากมายขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน เด็กน้อยผู้นี้ก็บังอาจเกินไปแล้ว แทบจะไม่เห็นพวกเขาทั้งหมดอยู่ในสายตาเสียด้วยซ้ำ ช่างน่ารังเกียจเสียจริง เพียงแต่ว่าคนเหล่านี้กลับคิดไม่ถึงว่า ก่อนหน้านี้ที่ศิษย์ ลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาวของพวกเขาได้แสดงท่าทีเช่นนี้ต่อศิษย์ของลัทธิแห่งดวงดาว กลับต้องมาคืนสนองเช่นนี้ไปเสียได้
“ข้าได้เป็นถึงขั้นราชันแล้ว หากว่าต้องมาลงมือต่อเจ้า เห็นทีจะไม่ยุติธรรม ยิ่งไปกว่านั้นในเมื่อเป็นการประลองในเชิงแลกเปลี่ยน ยังไงเสียก็ต้องกล่าวถึงขอบเขตระดับเดียวกัน ใช่หรือไม่ ?”ม่อมู่ซื่อหัวเราะออกมาน้อยๆ ทำท่าปฏิเสธเยี่ยจงอย่างเย้ายวน
“อยู่ในขั้นราชันแล้วงั้นหรือ ? พลังยุทธ์ขั้นก่อฟ้าขอบเขตปราณ ?”เยี่ยจงมองเข้าไปอย่างละเอียด เป็นครั้งแรกที่สายตาที่มองมาที่ม่อมู่ซื่อเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดขึ้นมาอย่างไร้ที่เปรียบ ม่อมู่ซื่อผู้นี้มีอายุเพียงแค่ยี่สิบกว่าเท่านั้น ทั้งยังอายุมากกว่าเยี่ยจงไม่กี่ปี แต่ก็คิดไม่ถึงว่านางจะอยู่ในระดับราชันแล้ว แน่นอนว่าเพียงพอที่จะทำให้เกิดความหวาดหวั่นขึ้นมาได้
แต่ว่า หลังจากนั้นเอง สีหน้าของเยี่ยจงก็ได้กลับคืนเป็นปกติ เขามีความเชื่อมั่นอยู่อย่างหนึ่ง หากว่าถ้ามีอายุเท่ากันแล้วละก็ การฝึกปรือของตนเองแน่นอนว่าคงจะต้องไม่อ่อนโทรมเกินไปกว่าม่อมู่ซื่อผู้นี้แน่
“พี่ ในเมื่อเจ้าเด็กน้อยเหล่านี้ของลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาวไม่กลัวตาย ท่านก็ลงมือเถอะ ในเมื่อศิษย์ของสำนักพวกเราถูกทำร้ายไปมากมาย จะได้ล้างอายไปในครั้งเดียวเลย”บริเวณทางด้านหลัง เยี่ยจงก็ได้กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงชิชิชะชะ
เยี่ยจงหันหน้ากลับมามองที่เยี่ยจงคราหนึ่ง แล้วก็ได้มองไปทางด้านของศิษย์คนอื่นๆอีก ท้ายที่สุดก็ได้แต่เพียงหยักไหล่ไปมา หันหน้ากลับมาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา”ดูเหมือนว่าพวกเจ้าลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาวในหลายวันมานี้จะกลายเป็นที่เกลียดชังของพวกเราลัทธิแห่งดวงดาวไปเสียแล้วสินะ ช่างมันเถอะ ในเมื่อพวกเจ้าในความต้องการเช่นนี้แล้วละก็ พวกเราก็มาประลองแลกเปลี่ยนฝีมือกันก็แล้วกัน ? พวกเจ้าเตรียมที่จะเข้ามาพร้อมกัน หรือจะเข้ามาทีละคนกัน ?”
ประลองแลกเปลี่ยนฝีมือนี้ เยี่ยจงได้กล่าวออกมาอย่างหนักแน่น ทำให้ศิษย์ของลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาวเหล่านั้นแต่ละคนเกิดอาการคันตามไรฟัน ชิงชังคำพูดนี้ที่เขากล่าวออกมาอย่างถึงที่สุด
ม่อมู่ซื่อยังคงเงียบงันไม่กล่าวอันใด เล่าลือกันว่าสุดยอดรุ่นเยาว์แห่งเผ่ามนุษย์ผู้นี้ ถือได้ว่าเป็นที่สุดแห่งดินแดนแล้ว ดุจดั่งมหาเทพราชันกลับมาจุติก็มิปาน สามารถกล่าวได้ว่าที่ท่าทางที่เกินกว่าคนธรรมดา ทั้งยังองอาจสุดเปรียบปาน แต่ก็คิดไม่ถึงว่าในตอนนี้กลับไม่น่าเชื่อถือได้ถึงเพียงนี้
“ในเมื่อเป็นการประลองแลกเปลี่ยนฝีมือ แน่นอนว่าต้องเข้าไปทีละคน พวกเจ้าจดจำเอาไว้ ทุกๆคนมาจากต้นกำเนิดเดียวกัน ห้าร้อยปีก่อนถือได้ว่าเป็นคนสำนักเดียวกันอยู่แล้ว ตอนลงมือสมควรรู้จักหนักเบาละ”ม่อมู่ซื่อยิ้มขึ้นมาน้อยๆแล้วกล่าวออกมา ไม่ทราบว่าต้องการที่จะเตือนสติผู้ใดกันแน่
เยี่ยจงคร้านที่จะขยับปาก จึงมิได้กล่าวอันใดออกมา
“ข้าก่อนก็แล้วกันวันนี้ข้าจะข้ารับการสั่งสอนสักครา กับสุดยอดรุ่นเยาว์ที่เล่าลือกัน ที่แท้มีความน่าหวาดกลัวอยู่ในระดับใดกันแน่”ศิษย์ของลัทธิแห่งดวงดาวที่มีนิสัยใจร้อนก็ได้ก้าวเดินออกมา ความเร็วของเขาเร็วยิ่ง เพียงแค่ก้าวออกไปเพียงก้าวเดียว ก็ได้มาถึงยังบริเวณด้านหน้าของเยี่ยจง ขาขวาของเขาในตอนนี้กลายเป็นดุจดั่งสัตว์มังกรก้าวเท้า มุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ร่วงหล่นลงสู่พื้นดิน มุ่งหน้าเข้าไปบริเวณทางด้านที่เยี่ยจงอยู่เข้าไป
“ทักษะเซียนของเผ่ามังกรบรรพกาลงั้นหรือ?”เยี่ยจงตื่นตะลึงอย่างสงสัย คิดไม่ถึงว่าลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาวนี้ถึงกลับมาความสามารถึงเพียงนี้ ถึงกลับมีทักษะเซียนระดับล่างได้ แต่ว่าเพียงแค่ศิษย์ที่ดูธรรมดาๆเพียงคนหนึ่งถึงกลับลงมือใช้ออกด้วยทักษะเซียนระดับล่างได้ เห็นได้ชัดว่าสิ่งที่อยู่ภายใต้ลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาวได้ อีกทั้งทักษะเซียนและลัทธิแห่งดวงดาวนี้น่าจะมีความสัมพันธ์กันอยู่ อย่างเห็นได้ชัด
“ตูม——”
เยี่ยจงมองเข้าไปใน ในช่วงเวลาที่ภายใต้ท่าเท้าที่ดูไปแล้วใหญ่โตได้ย่างกรายเข้ามายังร่างกายของเขา เขาก็ได้กรีดนิ้วขวาออกไป มุ่งหน้าออกไปบริเวณทางด้านหน้า
“โครม——”
เยี่ยจงในตอนนี้มิได้ใช้ออกด้วยทักษะปราณหรือทักษะเซียนแต่อย่างไร เพียงแต่ใช้ออกด้วยพลังปราณห่อหุ้มพลังที่ออกมาจากดัชนีเท่านั้น วินาทีนั้นก็ได้มีตัวอักขระพวยพุ่งออกมา ชักนำพลังในการโจมตีออกมา
แล้วก็ได้มีเสียงๆหนึ่งดังขึ้นมา ด้านบนของเท้าขนาดใหญ่นั้นก็ได้เกิดรอยแตกร้าวขึ้นมานับไม่ถ้วน แล้วก็ได้เกิดการระเบิดแตกออกมาดุจดั่งประกายสายฝน ความน่าหวาดกลัวของกระบวนท่านี้ ยังเป็นเพียงกระบวนท่าที่เยี่ยจงใช้ออกมาอย่างง่ายๆเท่านั้นเอง
ผู้คนมากมายต่างก็เกิดอาการหวาดหวั่นขึ้นมา ไม่ว่าคนของลัทธิแห่งดวงดาว หรือว่าจะเป็นคนของลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาว ในตอนนี้ต่างก็ต้องกรอกตาไปมาอย่างวุ่นวาย คนที่ลงมือแข็งแกร่งอย่างไร้ที่เปรียบ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าการโจมตีของเขากลับถูกเยี่ยจงใช้เพียงกระบวนท่าหยุดเอาไว้ได้ นี้เป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ว่าเยี่ยจงมีความแข็งแกร่งที่ไม่ธรรมดาถึงในระดับใด
“ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลาย ที่แท้ก็แข็งแกร่งถึงขนาดนี้”มีคนเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ภายในคำพูดยังแฝงไว้ด้วยความอิจฉา
“เยี่ยมมาก”
ศิษย์ของลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาวที่ลงมือก็ได้มีสีหน้าปั้นยากขึ้นมา เขาคิดไม่ถึงว่าเยี่ยจงจะถึงกับแข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้ ต่อมาก็ได้ยกทั้งสองแขนขึ้น วินาทีนั้น ก็ได้พบกับดวงดาราขนาดใหญ่พุ่งลอยลงมา เขาฟาดฝ่ามือเข้าไปหนึ่งฝ่ามือ ก็ได้เข้าปะทะกับการโจมตีที่พุ่งเข้ามาจากทางด้านหน้า
“มังกรทลายอากาศ”
ผู้คนมากมายต่างก็ตกใจขึ้นมา ตามการก้าวเดินของเงามังกรขนาดใหญ่นี้ ทุกๆการย่างก้าวของมัน บริเวณพื้นดินก็ได้ถูกเผ่าผลาญไปตามๆกัน จนปรากฏรอยเท้าขนาดใหญ่เอาไว้ จมลึกลงไปหลายจัง นี้เพียงพอที่จะบอกได้ถึงความแข็งแกร่งของกระบวนท่านี้ได้
เยี่ยจงก็ได้พยักหน้าตอบรับ กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา”ทักษะเซียนระดับกลาง ยังถือได้ว่าใช้ได้อยู่ เพียงแต่ว่า พลังทำลายถึงแม้จะแข็งแกร่ง แต่ว่ายังมีความเปลี่ยนแปลงไม่เพียงพอ”
เขากำลังอธิบายทักษะเซียนของลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาวนี้ ในเวลาเดียวกันก็ได้โบกมือขึ้นคราหนึ่ง มุ่งหน้าฟาดออกไปบริเวณทางด้านหน้า
“ตูม——”
ตามความเคลื่อนไหวของเขา บริเวณทางด้านหลังของเขาก็ได้ปรากฏพลังแสงสีรุ้งแห่งเซียนขึ้นมา ในเวลาเดียวกันเขาก็ได้ยกมือขวาขึ้น กวาดสังหารออกไปบริเวณทางด้านหน้า มุ่งหน้าเข้าไปปะทะเข้าไปยังเงามังกรร่างนั้น
“ฮูม——”
ทักษะเซียนทั้งสองสายได้เข้าปะทะกัน วินาทีนั้น ก็ได้ก่อเกิดหมู่ดาราขนาดใหญ่พุ่งเข้าปะทะกัน พื้นดินในตอนนี้ก็ได้เกิดรอยแตกร้าวขึ้น ดั่งร่องรอยของมังกรปรากฏขึ้นมาในตอนนี้ ปกคลุมอยู่ทั่วทั้งผืนฟ้า ก่อเกิดพลังขนาดใหญ่
เยี่ยจงฟาดฝ่ามือออกไปทางด้านหลัง แล้วก็ได้จ้องมองไปยังฉากเบื้องหน้า แต่ก็มิได้เคลื่อนไหวมากนัก
แต่ว่า ศิษย์ของลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาวมากมายในตอนนี้ก็ได้มีสีหน้าเปลี่ยนไป นั้นก็เพราะพลังการสังหารภายใต้ประกายสีรุ้งนี้ ดวงดาราขนาดใหญ่นั้นก็ได้ปรากฏรอยแตกร้าวขึ้นมาเป็นสาย ไม่นานนักก็ได้เกิดเสียงแตกระเบิดขึ้นมาดังกังวาน
“ฮูม——”
ศิษย์ของลัทธิแห่งดวงดาวที่ลงมือผู้นั้นก็ได้กวาดร่างกายออกไปอย่างดุร้าย ฝ่าเท้าของเขาได้เหยียบลงพื้นถอยห่างออกไปนับร้อยลี้ จากนั้นก็ได้เงยหน้ามองไปที่เยี่ยจง สีหน้าเย็นเยียบอย่างถึงที่สุด”สุดยอดรุ่นเยาว์ ถึงแม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ หากว่าเจ้าคิดที่จะจัดการกับข้า ยังคงไม่พอหรอกนะ”
หลังจากที่สิ้นเสียง ศิษย์ของลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาวก็ได้พลิกมือทั้งสองข้างฟาดออกไป รอยตราบนฝ่ามือของเขาก็ได้เกิดการเปลี่ยนแปลง แล้วก็ได้พบกับเงาร่างมังกรขนาดเล็กๆปรากฏขึ้นอยู่บริเวณทางด้านหน้าของเขา เงาร่างมังกรเหล่านี้ก็ได้กลายเป็นตัวอักขระขึ้น จนกลายเป็นฝ่ามือขนาดใหญ่ ฟาดออกไปทั่วทั้งบริเวณ
“โครม——”
ในครั้งนี้ ด้านบนของพื้นก็ได้เกิดรอยแตกร้าวขนาดใหญ่ขึ้นมา รอยตราสายนี้ดุจดั่งกลายกับสามารถทลายศิลาขนาดใหญ่เท่าภูเขาได้ก็มิปาน มีพลังทำลายมากมายเหลือคนา พลังการฝึกปรืออันแข็งแกร่งก็ได้ปรากฏขึ้นอยู่บนศิษย์ของลัทธิแห่งดวงดาวผู้นี้
“ถึงแม้ว่าจะแข็งแกร่งยิ่งกว่า แต่ว่าความเปลี่ยนแปลงยังมีอยู่น้อยเกินไป ทั้งความเร็วและพลังยังต้องมีระดับที่ผสานเข้ากันได้ จึงจะสามารถแสดงพลังออกมาได้อย่างสูงสุด เจ้ามาผิดทางแล้ว”เยี่ยจงชี้แนะข้อบ่งพร่องของศิษย์ของลัทธิแห่งดวงดาวผู้นี้ จากนั้นก็ได้ถอนหายใจสายหน้าไปมา ถึงแม้ว่าเขาจะชี้แนะข้อผิดพลาดของอีกฝ่าย แต่ว่าเขาก็ยังทราบดี บุคคลเช่นนี้ถือได้ว่าเป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริง อีกทั้งด้วยลักษณะของบุคคลเช่นนี้ ทั่วทั้งลัทธิแห่งดวงดาวก็มีเพียงแค่ไม่กี่คน นี้ก็แสดงให้เห็นถึงระดับความห่างไกลของความแข็งแกร่ง
“เจ้ามีคุณสมบัติใดพบที่จะมาชี้แนะวิชาของลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาวข้า”ศิษย์ลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาระเบิดความโกรธขึ้นมา ภายในการโจมตีก็ได้ปรากฏรังสีฆ่าฟันขึ้น
“นี้ก็คือคุณสมบัติของข้า”
เยี่ยจงยิ้มน้อยๆออกมา จากนั้นเขาก็ได้ใช้ออกด้วยพลังดัชนี พลังกระบี่ตราประทับซ้อนทับชั้นที่สี่สิบเก้าก็ได้เพิ่มเข้าไป จนก่อเกิดพลังกระบี่คมกล้าดำทมิฬสายหนึ่งพุ่งขึ้นมา
“เชอะ——”
เสียงร้องนี้ดังขึ้นมาแผ่วเบา การโจมตีขนาดใหญ่ของศิษย์ลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาวก็ได้แตกกระจายออก และร่างกายของเขาก็ได้สั่นไหวไปมาอยู่กับที่ ไม่กล้าที่จะขยับเคลื่อนไหวอีก นั้นก็เพราะว่า พลังคมกระบี่เมื่อครู่นี้ถึงจะเฉียดเฉือนจมูกของเขาไป จนทำให้แววตาเกิดฝืดขึ้นมา เขาทราบได้อย่างกระจ่าง หากว่าเยี่ยจงไม่ยั่งไมตรีเอาไว้ กระบวนท่าเมื่อครู่นี้ เขาคงจะต้องตายตกไปอย่างแน่นอนแล้ว
“ต้องมาพ่ายแพ้เช่นนี้พลังฝีมือที่เล่าลือกันนั้น มิได้ผิดเพี้ยนแม้แต่น้อยเลยงั้นหรือ?”ผู้คนมากมายต่างก็ตกใจ พวกเขาต่างก็เคยได้ยินคำเล่าลือของเยี่ยจงมา แต่ก็คิดไม่ถึงว่าเยี่ยจงถึงกลับแข็งแกร่งได้ถึงเพียงนี้ ถึงกับสามารถลงมือจนทำให้ศิษย์ของลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาวพ่ายแพ้ลงได้ คงจะต้องไม่ง่ายดายอย่างที่เล่าลือกันก็มิปานเช่นนั้นแน่
.
.
.
.
กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่นพิเศษ เข้ากลุ่ม 4/5/6/7/8/9/10/11 ราคา 500
VIP4 https://goo.gl/ESwaou
VIP5 https://goo.gl/ekcF7V
VIP6 https://goo.gl/4rqw89
VIP7 https://goo.gl/qrQ7GA
VIP8 https://goo.gl/Uzqf2x
VIP9 https://goo.gl/1jPZtn
VIP10 https://goo.gl/L8awva
VIP11 https://goo.gl/rojEiG
ช่องทางการโอนเงิน https://goo.gl/MnYB81
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ
https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/