เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 366 วันล้มสลายของสำนัก(บทที่สาม)

ตอนที่ 366 วันล้มสลายของสำนัก(บทที่สาม)

 

 

“ ตูม—— ”

 

ราชาปีศาจลิ่วเอ่อหัวเราะขึ้นมาอย่างเย็นชา เขาส่งเสียงดังเทียบฟ้าออกมายาวนาน วินาทีนั้น ก็ได้พบกับกรงเล็บสีทองคว้าจับไปยังท่ามกลางออกไปท่ามกลางอากาศ ทางด้านบนราวกับพันเอาไว้ด้วยเดือนดาวเป็นชั้นๆก็มิปาน มุ่งหน้ากวาดเข้าไปยังบริเวณที่อันหงเจินอยู่

 

“ ไสหัวไป—— ”

 

อันหงเจินฟาดฝ่ามือเข้าไปหนึ่งฝ่ามือ จนก่อเกิดประกายดาวสีโลหิตออกมา อักขระมากมายนับไม่ถ้วนในตอนนี้ก็ได้ลอยวนเวียนไปมา กลายเป็นสายฝนโลหิต ในเวลาเดียวกัน ดาวขนาดใหญ่ก็ได้ถูกซ้อนกันเป็นชั้นดุจดั่งดวงอาทิตย์ก็มิปาน ก่อรวมเอาไว้ด้วยพลังรังสีสังหารอันน่าหวาดกลัวมากมายนับไม่ถ้วน มุ่งหน้าพวยพุ่งออกไปทางด้านหน้า

 

“ ซวบ—— ”

 

ปีกคู่ทางด้านหลังของราชาเผ่าปีก ดุจดั่งได้ปกคลุมเอาไว้อยู่ทั่วทั้งท้องฟ้าก็มิปาน ฉากท้องนภาอันกว่างใหญ่ไพศาลวินาทีนั้นก็ได้มุ่งหน้าเข้าปกคลุมออกไปทางด้านหน้า จนเกิดเสียงดังของสนั่นจนน่าหวาดกลัว เขาและราชาปีศาจลิ่วเอ่อได้ลงมือในเวลาเดียวกัน หมายจะต้านทานการโจมตีของอันหงเจินเอาไว้

 

“ โครม—— ”

 

บนพื้นดินอันกว้างใหญ่ ในตอนนี้ก็ได้เกิดรอยแตกขึ้น แม้แต่ก้อนศิลาก็ได้ลอยขึ้นมาไปตามอากาศ แผ่กระจายพวยพุ่งออกไปบริเวณทางด้านหน้า จากนั้นก็ร่วงหล่นลง ต่อมาก็ได้เกิดเสียงร้องดังขึ้นมา ยอดฝีมือที่พลังอ่อนกว่าก็ได้ร่างแตกกระจายออก ไม่ว่าจะเป็นยอดฝีมือปกติหรือว่าจะในระดับราชัน ร่างกายก็ได้กระเด็นกระจายไปในทันที

 

การลงมือของระดับมหาราชัน พลังทำลายนั้นสะเทือนฟ้าสะท้านดิน ถึงกับสามารถทลายสภาพความว่างเปล่าได้ กระเด็นออกดุจดั่งลูกศร หากว่าลงมือออกไปอย่างไม่ระมัดระวัง อาจจะสามารถกลายก่อให้เกิดสายธารนับหมื่นจนกลายเป็นมหาสมุทรโลหิตผืนหนึ่งได้ เกิดการสูญเสียอย่างนับไม่ถ้วน

 

“ ถอย—— ”

 

ตอนนี้ พื้นที่ที่คนทั้งสองฝ่ายลงมือกันอยู่ ในตอนนี้ต่างก็แตกกระจายถอยออกไป พวกเขาไม่หาญกล้าพอที่จะหยุดอยู่ท่ามกลางอากาศ และก็มีจำนวนไม่น้อยที่ได้ทอดตัวลงกับพื้น แล้วจึงค่อยได้ใช้พลังทั้งหมดหลบหนีการต่อสู่ที่เกิดขึ้นท่ามกลางอากาศในเวลาเดียวกัน ทางหนึ่งหลบหนีทางงหนึ่งเข้าปะทะสังหารฝ่ายตรงข้าม

 

การสังหารที่เกิดขึ้นในสถานที่แห่งนี้เรียกได้ว่าโหดร้ายอย่างถึงที่สุด การปะทะของทั้งสองฝ่ายไม่ว่าจะอยู่ในที่แห่งใด ต่อให้ท้ายที่สุดได้รับชัยชนะ แน่นอนว่าต้องเป็นชัยชนะที่อนาจที่สุด ไม่มีผลลัพธ์อื่นได้อีกแน่นอน

 

“ ฮ่าฮ่าฮ่า ตายตายตาย ! ข้าจะให้พวกเจ้าตายไปให้หมด ! ” มีผู้อาวุโสลัทธิแห่งดวงดาวหลายคนที่ได้หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง พวกเขาได้ระเบิดพลังภายในร่างกายออกมา แต่ละคนดุจดั่งคล้ายก็จะร่างแตกกระจายออกก็มิปาน พุ่งเข้าหายอดฝีมือมากมายของฝ่ายตรงข้าม ในสภาพความวุ่นวายที่เกิดขึ้นนี้ พวกเขาก็ได้ทำให้ยอดฝีมือของฝ่ายตรงข้ามตายตกไปด้วยกันเป็นจำนวนมาก จนทำให้ทั่วทั้งพื้นเปี่ยมไปด้วยโลหิตหลั่งไหลดั่งมหาสมุทร

 

“ ฮูม—— ”

 

ฉากที่เกิดขึ้นบนท้องฟ้า การต่อสู้พึ่งจะเริ่มต้นขึ้น ก็ได้เข้ามาจนถึงยังจุดที่ดุเดือดที่สุดแล้ว

 

อันหงเจินฟาดฝ่ามือที่เต็มไปด้วยดาราสีเลือดขนาดใหญ่เข้าต้านทานการผสานมือของราชาปีศาจลิ่วเอ่อและราชาเผ่าปีก

 

บรรพบุรุษวิหคทองก็ได้ส่งเสียงเย็นชาขึ้นมา ทั่วทั้งร่างกายราวกับเต้นระบำไหลเวียนไปมา แล้วก็ได้พบเห็นประกายลำแสงสีทองนับสิบสายมุ่งหน้าเข้าสังหารออกไปทางด้านหน้าดุจดั่งกระบี่เซียนก็มิปาน หมายที่จะฆ่าสังหารอันหงเจินให้ได้

 

เลือดลมภายในร่างของอันหงเจินก็ได้เพิ่มสูงขึ้น กระดูกทั่วทั้งร่างกายก็ได้เกิดเสียงดังขึ้นมา เห็นได้ชัดว่า เขาถึงแม้จะสามารถสลายพลังจากทั้งสองด้านได้ แต่ว่าต่อให้เป็นเช่นนี้ เขาก็ยังทอสีหน้าเย็นชาฟาดมือขวาออกไปยังท่ามกลางอากาศติดต่อกัน ทุกครั้งที่ได้ฟาดออกไป ก็จะพบกับพลังแสงสีทองระเบิดออกมา รอคอยจนเขาได้ใช้ออกด้วยพลังดัชนีในครั้งสุดท้าย ก็ได้ก่อเกิดเสียงของระเบิดดังขึ้นมาไม่หยุดหย่อน จนทำให้ผู้คนจ้องมองจนตาค้าง

 

“ บรึม—— ”

 

อันหงเจินกระอักโลหิตออกมาคำโต ปกคลุมไปไปด้วยโลหิตที่ทอแสงไปทั่วทั้งร่าง สีหน้าของเขาขาวซีดดุจดั่งกระดาษ

 

บรรพบุรุษวิหคทองก็ได้ร่างกายสั่นเทาขึ้นมา สีหน้าปั้นยากอย่างถึงที่สุด เห็นได้ชัดว่าก็คิดไม่ถึงว่า อันหงเจินจะหยิบยืมพลังอัญเชิญวิญญาณบรรพบุรุษจนถึงขึ้นมีระดับความแข็งแกร่งได้จนถึงขนาดนี้ ถึงแม้จะเป็นการฝืนพลังเพื่อเข้าสู่ระดับมหาราชัน ก็ยังคงสามารถสร้างพลังในการต่อสู้ออกมาได้อย่างน่าตกใจ

 

“ มาอีก ! ”

 

อันหงเจินย้มอย่างเย็นชา แขนทั้งสองข้างก็ได้ยกขึ้นมาในเวลาเดียวกัน แล้วก็พบว่าบริเวณทางด้านหลังของเขาได้ประกายธารดาราสีโลหิตขึ้นมา ดาราโลหิตสีแต่ละเม็ดที่ด้านในได้มีสีแดงเพลิงขึ้นมา ทั้งยังสาดเป็นประกายคมกล้าออกมา

 

“ นี้คือวิชาต้องห้าม เมื่อครั้งสมัยก่อนได้สัญญาเอาไว้ว่า ไม่อาจที่จะใช้ออกมาได้ ทุกท่าน ยังคงลงมือพร้อมกันอีกหรือ อย่าได้เอาแต่ดูแคลนลัทธิแห่งดวงดาว พวกเขาเมื่อก่อนหน้านี้ก็ถือได้ว่าอยู่ในระดับขั้นแดนลับแลเหมือนกัน มีตำนานที่ยาวนานอยู่ไม่น้อย ! ” บรรพบุรุษวิหคทองหัวเราะอย่างเย็นชา ภายในน้ำเสียงแฝงเอาไว้ด้วยความเคร่งเครียดชนิดหนึ่ง

 

หลังจากที่เงียบงัน ยอดฝีมือระดับมหาราชันผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสี่คนก็ได้ฆ่าสังหารออกไปในเวลาเดียวกัน ท่ามลกางอากาศ ก็ได้มีปีกสีทองลอยขึ้นมาเป็นชั้นๆ มีขนาดใหญ่เพียงพอที่จะปกคลุมไปทั่วทั้งท้องนภา แล้วก็ได้มีเงาของมังกรอสรพิษไหลเวียนไปมา ท่ามกลางฝ่ามือสีทองที่ได้ฟาดออกมา ก็ได้ก่อเกิดความวุ่นวายขึ้นมาอย่างถึงที่สุด

 

และสีหน้าอันหงเจินก็ได้ทอความเย็นชาออกมา เขาพลิกทั้งสองมือติดต่อกัน ดาราสีโลหิตทางด้านหลังท่ามกลางท้องฟ้า ก็ได้สาดจนเป็นประกาย ปะทุโลหิตอันคมกล้าขึ้น วินาทีนั้นก็ได้พวยพุ่งออกไป ดุจดั่งกลุ่มฝนดาวตกก็มิปาน มุ่งหน้าเข้าปะทะสังหารออกไปทางด้านหน้า

 

“ ซูมซูมซูมซูม—— ”

 

ความหวาดกลัวของการเข้าปะทะยังคงดำเนินต่อไป ราวกับว่าเกิดการแตกแยกของท้องนภาขึ้นก็มิปาน

 

ท่ามกลางการปะทะของสถานการณ์เช่นนี้ อันหงเจินถึงกับช่วงชิงเป็นฝ่ายที่ได้เปรียบได้อยู่ในขณะนี้ ยากที่จะทำให้ผู้คนเชื่อได้ เพียงแต่ว่า เขาในตอนนี้ยังคงเป็นการหยิบยืมพลังที่มิใช่พลังของตนเองทั้งหมด ทุกๆครั้งที่ได้ปะทะกัน สีหน้าของเขาจะยิ่งขาวซีดขึ้นส่วนหนึ่ง ในเวลาเดียวกันร่างกายก็ได้ปรากฏเส้นโลหิตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ราวกับว่าร่างกายของเขาสามารถแตกกระจายได้ทุกเวลาเลยก็มิปาน แต่ว่าเขาก็ยังคงลงมือออกไปโดยที่ไม่หยุด พลิกทั้งสองมือติดต่อกัน พลังธารดาราโลหิตก็ได้ไหลเวียนไปมา จนทำให้ทั่วทั้งผืนฟ้าปกคลุมไว้ด้วยโลหิต

 

“ บุกเข้าไป—— ”

 

ด้านบนพื้นดิน บริเวณโดยรอบนับพันลี้ของลัทธิแห่งดวงดาวก็ได้มีคราบโลหิตอยู่นับไม่ถ้วน ศิษย์ของลัทธิแห่งดวงดาวทั้งหมดก็ได้กระจายกำลังออกไปนับสิบสาย มุ่งหน้าออกไปทั่วทั้งสี่ทิศแปดด้าน

 

แต่ว่าเหล่ายอดฝีมือของแต่ละขุมกำลังในตอนนี้ต่างก็ได้กัดฟันต้านทานเอาไว้ ใช้ทักษะยุทธ์เข้าปะทะ สมบัติปราณเข้าปะทะออกไป จนสามารถพบได้ว่ามีเงาร่างอยู่ไม่น้อยที่ร่างได้แตกกระจายจนกลายเป็นเพียงโลหิตอยู่ที่ไหลรินอยู่บนพื้น

 

การต่อสู้นี้ได้มาจนถึงขั้นที่น่าหวาดหวั่นอย่างถึงที่สุด ทั้งฝ่ายศัตรูทั้งฝ่ายเรา ต่างก็สามารถตายตกได้ในทุกเวลา

 

“ ศิษย์ทุกคน จะต้องฆ่าสังหารออกไปให้จงได้ ! ”

 

ศิษย์ของลัทธิแห่งดวงดาวนับร้อยในที่แห่งนี้ ก็ได้รับคำสั่งของผู้อาวุโสทั้งหลาย เพียงแต่ว่าบริเวณทางด้านหน้า ได้มียอดฝีมือชนชั้นราชันของเผ่าปีกรอยคอยอยู่แล้ว เพื่อที่จะทำการขัดขวางทางหนีของพวกเขา

 

“ พวกเจ้าไปอีกทางด้าน ! ”

 

ผู้อาวุโสทั้งสองตนก็ได้ทะยานออกไปในเวลาเดียวกัน ร่างกายของพวกเขาก็ได้ทอประกายแสงโลหิตจนถึงขีดสุด แต่ก็ยังเทียบไม่ได้กับพลังของยอดฝีมือเผ่าปีกที่อยู่เบื้องหน้า ในที่สุดร่างกายก็ได้แตกกระจายออก แผ่ปกคลุมความน่ากลัวออกไปทั่วทั้งสี่ด้าน

 

“ ผู้อาวุโส ! ” ศิษย์กลุ่มหนึ่งของลัทธิแห่งดวงดาวต่างก็ได้ร่ำร้องออกมา แต่ว่าพวกเขาก็ยังคงขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน มุ่งหน้าออกไปอีกทางด้านหนึ่งอย่างรวดเร็วออกไป

 

มีผู้อาวุโสผู้หนึ่งที่ยังคงหลงเหลือลมหายใจสุดท้ายอยู่ เขาก็ได้ระเบิดพลังบนร่างกายขึ้น มุ่งหน้าเข้าสังหารออกไปอีกทางด้าน จนสามารถสังหารยอดฝีมือเผ่าปีกไปได้จำนวนมาก

 

เพียงแต่ว่า ยอดฝีมือเผ่าปีกระดับชั้นราชันผู้นั้น ก็ถือได้ว่าเป็นผู้อาวุโสที่ไร้พ่าย ทันใดนั้นก็ได้ตายตกลงไปในทันทีเขาได้พลีชีพของตนเอง ในครั้งนี้ยิ่งทวีสายลมความน่าหวาดกลัวแผ่กระจายออกไป จนทำให้ยอดฝีมือเผ่าปีกเหล่านั้ต่างก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก แต่ก็ยังไม่ทันจะได้หลบหนี ร่างกายก็ได้แตกกระจายออกไปจนกลายเป็นเพียงเลือดเนื้อแหลกเหลว

 

“ นี้คือ ลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาว ! ? ”

 

อีกทางด้านหนึ่ง เจ้าตำหนักเฮ่อตงของตำหนักหลักก็ได้นำพากลุ่มลูกศิษย์ฆ่าสังหารออกไป แต่ว่าทันใดนั้นเองสีหน้าของเขาก็ได้แปรเปลี่ยนไป บนใบหน้าเผยแววตาอันดุร้ายขึ้นมา

 

กลุ่มคนที่อยู่ทางด้านหน้าทั้งสองคนก็ได้เข้ามาใกล้เบื้องหน้าลัทธิแห่งดวงดาวแท้จริงแล้วก็คือผู้อาวุโสของลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาว ตอนนี้พวกเขาก็ได้ทอสีหน้าเย็นชาขึ้นมา ยกมือคารวะไปทางด้านของเฮ่อตง

 

“ แม้แต่พวกเจ้าก็มาแล้วงั้นหรือ ? ยอดมาก ! ” เฮ่อตงหัวเราะอย่างเย็นชา แล้วก็ได้ตระเตรียมพร้อมจะลงมือ

 

“ พวกเจ้าไปเถอะ ” แต่ว่า ผู้อาวุโสทั้งสองคนของลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาวกลับมิได้ลงมือออกมา เพียงแต่ถอยออกไปทางด้านข้าง แต่ว่าสีหน้าของพวกเขายังคงทอแววเย็นเยียบออกมา ทั้งยังเป็นความรู้สึกที่ประหลาดชนิดหนึ่ง “ ผู้สืบทอดของพวกเจ้า วันนี้จะต้องตายลงอย่างแน่นอน แต่ว่าตำนานเก่าโบราณแห่งดวงดาวย่อมมิอาจจะให้ตกไปอยู่ในมือของคนภายนอก พวกเราลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาวจึงได้เดินทางเพื่อนำไปเก็บเอาไว้ เพื่อที่จะมิให้ตกไปอยู่ในมือของศัตรู ลัทธิแห่งดวงดาวพวกเจ้าหากว่ามีคนสามารถหลบหนีออกไปในครั้งนี้ได้ วันข้างหน้ายังสามารถขอเชิญตำหนักเก่าโบราณแห่งดวงดาวจากลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาวข้ากลับไปได้……เพียงแต่ว่า นั้นก็ยังคงดูความสามารถของพวกเจ้าอยู่ดี ! ”

 

หลังจากที่สิ้นเสียง ยอดฝีมือเหล่านี้ของลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาวก็ได้หัวเราะอย่างเย็นชาถอยออกไปทางด้านหลังสีหน้าของแต่ละคนยังคงอยู่ในอารมณ์เฉกเช่นดังเดิม

 

“ ตำหนักเก่าโบราณแห่งดวงดาว ” ทันใดนั้นเฮ่อตงก็ได้หันหน้ากลับมา เหม่อมองไปทางด้านองเมืองหมื่นดาราแต่ว่าเขาก็ยังคงมิได้กล่าวอันใดออกมา เพียงแต่โบกมือขึ้น นำพากลุ่มลูกศิษย์ฆ่าสังหารออกไปอย่างรวดเร็ว

 

การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ไม่นานนัก ก็ได้ล่วงเลยไปแล้วสองสามชั่วยาม ยอดฝีมือของทั้งสองฝ่ายก็ได้ตายตกลงไปเป็นสาย ไม่อาจที่จะสามารถต่อสู้เช่นนี้ได้อีก แต่ว่าต่อให้ตกอยู่ภายใต้สถานการ์เช่นนี้ แต่ก็ยังคงทางหนีถอยหนี ทางหนึ่งฆ่าสังหรณ์ออกไป

 

“ ตูม—— ”

 

ทันใดนั้นเอง ทักษะยุทธ์ของลัทธิแห่งดวงดาวก็ได้แตกกระจายออก มียอดฝีมือที่ได้ฆ่าสังหารมาจนถึงที่แห่งนี้ วินาทีนั้นเอง ก็ได้มีพลังหลายสายลอยเข้ามา จากนั้นทุกสิ่งทุกอย่างก็ได้กลายเป็นเพียงฝุ่นผง

 

ผู้อาวุโสและเจ้าตำหนักของลัทธิแห่งดวงดาวไม่น้อยที่ความจริงยังมิได้หลบหนี ต่างก็ได้หันกลับไปในทันที ภายในดวงตาของแต่ละคนก็ได้เต็มเปี่ยมไปด้วยโลหิต นี้คือการตำนานแก่นแท้ของลัทธิแห่งดวงดาวที่ยังเหลืออยู่ ในวันนี้กลับต้องสูญสลายไปอย่างงั้นหรือ !

 

หากว่าต้องถูกผู้อื่นแย่งชิงไป ยังไงก็ยังพอมีโอกาสแย่งชิงกลับมา แต่ว่าถึงกลับถูกทำลายลง !

 

“ เจ้าพวกไร้ประโยชน์ มีแต่พวกทักษะยุทธ์ธรรมดา ไม่เห็นจะมีทักษะเซียนกับมนต์ตราเทพเลย ส่วนมากต่างก็คงจะต้องอยู่กับชนชั้นสูงของลัทธิแห่งแล้ว แน่นอนว่าต้องฆ่ามันให้หมดสิ้น ! ” นี้ก็คือทรราชวานรทองคำตนหนึ่ง ในมือของเขาถือเอาไว้ด้วยพลองเงินขนาดใหญ่ด้ามหนึ่ง กวาดแกว่งออกไปทั่ว

 

“ ตูม—— ”

 

หลังจากที่สิ้นเสียงลง เขาก็ได้เลือกเส้นทางเอาไว้แล้ว ร่างกายก็ได้มุ่งฆ่าสังหารออกไป

 

“ หุบเขาหมื่นปีศาจ พวกเจ้ากระทำเกินไปแล้ว ! ”

 

เจ้าตำหนักเฮ่อตงก็ได้โกรธขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง เขาความจริงคิดที่จะนำพาศิษย์หลบหนีให้สำเร็จ แต่ว่าภายในดวงตาเมื่อได้พบเห็นตำหนักทักษะยุทธ์ถูกทำลายลง อีกฝ่ายของกล่าวอีกว่าจะสังหารชนชั้นสูงของลัทธิแห่งดวงดาวทั้งหมด จนทำให้เขาต้องระเบิดโทสะออกมา

 

“ พวกเจ้าถอยไปก่อน ! ”

 

หลังจากที่สิ้นเสียง ร่างกายของเฮ่อตงก็ได้ฆ่าสังหารออกไปท่ามกลางอากาศ ในมือของเขาถือไว้ด้วยขวานโลหิตด้ามหนึ่ง มุ่งหน้าฆ่าสังหารออกไปทางด้านหลังที่ทรราชวานรอยู่เข้าไป

 

“ เปรี้ยง—— ”

 

ขวานโลหิตและพลองเงินก็ได้เข้าปะทะกันท่ามกลางอากาศ วินาทีนั้นก็ได้เกิดเสียงดังสนั่นขึ้นมา และในเวลาเดียวกันนี้ ก็ได้มียอดฝีมือชนชั้นราชันสองคนออกมาจากจากอีกทางด้านหนึ่ง หมายจะฆ่าสังหารเจ้าตำหนักเฮ่อตงลง

 

“ เจ้าพวกขยะ ยังถึงกับต้องกุมรุมเข้ามาอีกงั้นหรือ ? ”

 

เจ้าตำหนักเฮ่อตงจากโกรธแค้นกลับกลายเป็นยิ้มเยาะออกมา เขาพลิกทั้งสองมือฟาดออกไปติดต่อกัน วินาทีนั้นขวานโลหิตก็ได้กวาดออกไปทั่วทั้งสี่ด้าน เข้าปะทะต่อสู้กับยอดฝีมือระดับราชันทั้งสามคน

 

“ ฉึก—— ”

 

ทันใดนั้นเอง เขาก็ได้กระอักโลหิตออกมาคำโต ร่างกายเกิดเสียงดังกร๊อบแกร๊บขึ้น แล้วก็ได้ปรากฏคราบโลหิตออกมาเป็นสาย ตลอดทั่วทั้งร่างกายราวกับจะแตกระเบิดก็มิปาน

 

ยอดฝีมือระดับราชันทั้งสามคนในขณะนี้แต่ละคนก็ได้มีสีหน้าที่แปรเปลี่ยนไปอย่างมาก จากนั้นก็ได้ถอยหลังไปอย่างบ้าคลั่ง

 

“ ซวบ—— ”

 

โลหิตคำนั้นทันใดนั้นก็ได้กลายเป็นสายฝนโลหิตออกมาสายหนึ่ง ทุกๆหยดของสายฝนก็ได้กลายเป็นดุจดั่งคมดาบก็มิปาน มุ่งหน้าแผ่กระจายเข้าปะทะสังหารไปทั่วทั้งสี่ทิศแปดด้าน

 

“ ไม่—— ” ยอดฝีมือระดับราชันผู้หนึ่งก็ได้ตะโกนออกมา ความเร็วของเขาได้เชื่องช้าลงไปหลายส่วน ทันใดนั้นก็ได้ถูกเสือกแทงไปนับไม่ถ้วน จนกระทั่งตายตกลงไปในที่สุด

 

“ เจ้าเด็กน้อยของลัทธิแห่งดวงดาวเหล่านี้ แต่ละคนต่างก็บ้าคลั่งกันไปแล้ว ต่างก็บ้าคลั่งไปแล้ว ! ” ทรราชวานร่ำร้องออกมาอย่างเจ็บปวด เขาถึงกับเพิ่มระดับความเร็วขึ้น แต่ว่าครึ่งของร่างกายก็ยังโดนกระบวนท่านี้ จนทำให้เขาเจ็บปวดจนร่ำร้องออกมา แต่ว่าเดิมทีมีนิสัยดุร้ายอยู่แล้ว เมื่อถึงเวลานี้เขากลับไม่คิดถอยต่อไป เพียงแต่กลับมาฆ่าสังหารอีกครั้ง

 

ยอดฝีมือระดับราชันอีกทางด้านหนึ่งก็ได้มีสีหน้าเปลี่ยนแปลงไปอย่างรุนแรงก็ได้ถอยออกไปในบริเวณที่ไกลแล้ว จากนั้นก็ได้กระอักโลหิตออกมา นั้นก็เพราะว่าที่หว่างคิ้วของเขาในตอนนี้ก็มีรูกลวงเกิดขึ้นมา จนเกือบที่จะตายตกลงไปในทันที

 

“ สามารถนำทรราชวานรไปเป็นเพื่อนได้ ยอดเยี่ยมมาก ! ”

 

เจ้าตำหนักเฮ่อตงหัวเราะอย่างเย็นชา ร่างกายของเขาตอนนี้ก็ได้แตกสลายลง แต่ว่าทั้งสองมือกลับยังชี้ออกไป วินาทีนั้น ก็ได้ก่อเกิดธารโลหิตก่อรวมกันขึ้น จนกลายเป็นดุจดั่งเงาสีแดงเพลิงขึ้นมา มุ่งหน้าเข้าไปยังบริเวณที่ทรราชวานรอยู่เข้าไป

.

.

.

.

กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่นพิเศษ เข้ากลุ่ม 4/5/6/7/8/9/10/11 ราคา 500

VIP4 https://goo.gl/ESwaou

VIP5 https://goo.gl/ekcF7V

VIP6 https://goo.gl/4rqw89

VIP7 https://goo.gl/qrQ7GA

VIP8 https://goo.gl/Uzqf2x

VIP9 https://goo.gl/1jPZtn

VIP10 https://goo.gl/L8awva

VIP11 https://goo.gl/rojEiG

ช่องทางการโอนเงิน https://goo.gl/MnYB81

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset