ตอนที่ 368 วันล้มสลายของสำนัก(บทที่ห้า)
เพียงแค่ลัทธิแห่งดวงดาวเพียงสำนักเดียว ขุมพลังเพียงหนึ่งเดียวที่ยังมิได้ตายตกลง กลับปรากฏสุดยอดฝีมือรุ่นเยาว์เช่นเยี่ยจงออกมาได้ และตอนนี้อันหงเจินก็มีพลังการต่อสู้ที่น่าตกใจ เพียงพอที่จะกล่าวได้ว่าพลังแฝงของขุมกำลังที่กำลังจะสิ้นสูญลงนี้ได้แล้ว
“ ตำหนักทักษะยุทธ์ของลัทธิแห่งดวงดาวได้ถูกทำลายลงแล้ว ด้านในมิได้ปรากฏสิ่งของมีค่าอันใด หากว่าจะมี อย่างน้อยก็คงจะอยู่บนร่างกายของอันหงเจินแล้ว ” บรรพบุรุษวิหคทองก็ได้หัวเราะออกมาเสียงเย็นชา เผยความข้อนี้ออกมา
“ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ สิ่งนี้ก็คงจะต้องเป็นของราชาเช่นข้าแล้ว ! ”
ร่างกายของราชาปีศาจลิ่วเอ่อก็ได้ทอประกายสีทองเดินออกมา ร่างกายของมันก็ได้ปกคลุมไปด้วยเส้นขนสีทองจนคล้ายดั่งวานร แต่ว่ากลับมีใบหูอยู่ถึงสามคู่ ที่แท้ก็คือวานรหกใบหูในตำนานนั้นเอง นี้คือหนึ่งในเผ่าพันธุ์อันแข็งแกร่งดุจดั่งพลังกลายเนื้อไม่สูญสลาย และราชาปีศาจลิ่วเอ่อก็เป็นราชาแห่งเผ่าพันธุ์ ย่อมต้องน่าหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด
ตอนนี้ ดวงตาทั้งคู่ของมันก็ได้สาดประกายแสงสีทองออกมา เส้นขนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยแสงสีทองบนอุ้งมือขนาดใหญ่ก็ได้ฟาดออกมา มุ่งหน้ากดดันเข้าไปบริเวณทางด้านหน้า
“ โครม—— ”
มันเพียงแค่ลงมืออย่างสุดกำลัง ทั่วทั้งพื้นดินในตอนนี้ก็ได้แตกกระจายไม่หยุด ต้นไม้และหินศิลาใหญ่ก็กลายเป็นฝุ่นผงไปในทันที และภายในดวงตาของมันก็ได้ปะทุประกายแสงสีทองที่มีพลังแห่งมารอันแปลกประหลาดชนิดหนึ่ง เพียงแค่ผู้คนมองดูเข้าไป ก็จะทำให้หวั่นไหวไม่อาจอยู่นิ่ง
“ เพื่อสมรภูมิฮวงกู่ ราชาอย่างข้าได้วางแผนมาเนิ่นนาน ในท่ายที่สุดก็ได้ถูกรุ่นเยาว์ลัทธิเจ้าจัดการข่มเอาไว้……ไม่ต้องกล่าวไปว่า รุ่นเยาว์ผู้นั้นได้นำสิ่งของของราชาเช่นข้าไป ในเวลาเดียวกัน ลัทธิแห่งดวงดาวพวกเจ้าก็จะกลายเป็นของราชาเช่นข้า……อันหงเจิน ลัทธิแหง่ดวงดาวพวกเจ้าสมควรดับสูญไปตั้งแต่แรก ต่อให้เป็นเจ้าตอนนี้อัญเชิญวิญญาณบรรพบุรุษออกมา มีพลังการต่อสู้อันแข็งกล้า แต่ว่าเจ้าในตอนนี้ก็ดิ้นรนทุรนทุรายไปเถอะ แต่ก็นับว่าเพียงพอแล้ว ต่อจากนี้ไป ก็ตกอยู่ในกำมือของหุบเขาหมื่นปีศาจข้าไปเสียเถอะ ! ”
บริเวณใจกลางฝ่ามือของราชาปีศาจลิ่วเอ่อก็ได้เริ่มทอประกายแสงสีทองออกมาจำนวนมาก พลังแต่ละสายก็เปรียบเสมือนรังสีกระบี่อันน่าหวาดกลัว พลังการไม่ดับสูญได้ถูกใช้มาจนถึงขั้นสูงสุดและแฝงไว้ด้วยพลังเทพ สามารถที่จะฆ่าสังหารยอดฝีมือระดับราชันลงได้อย่างง่ายดาย
“ เจ้าไม่ไหวหรอก—— ”
อันหงเจินทอประกายดวงตาแดงฉานทั้งคู่ พลิกมือขวาออกไป รังสีกระบี่ของอีกฝ่ายเมื่อครู่ก็ได้พวยพุ่งออกไปเข้าหาธาราดาราโลหิตอีกครั้ง มุ่งหน้าเข้าสังหารออกไปทางด้านหน้า ประกายแสงคมกล้าสีทองแต่ละสายก็ได้แตกกระจายออกไป
ราชาปีศาจลิ่วเอ่อส่งเสียงเย็นชาขึ้นมา ร่างกายก็ได้พุ่งเข้าสังหารออกไปอย่างรวดเร็ว เข้าไปยังด้านข้างร่างกายทางเบื้องหน้าของอันหงเจินอย่างระมัดระวัง เขาเปรียบเสมือนเทพสวรรค์ก็ปาน ทุกกระบวนท่าที่ทอดลง ก็ได้แผ่กระจายพลังการต่อสู้อันน่าหวาดกลัวออกมาคล้ายดั่งจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างใต้ผืนฟ้าได้ก็มิปาน
อันหงเจินทอสีหน้าเย็นชาอย่างถึงที่สุด พลิกทั้งสองมือออก ธาราดาราโลหิตนั้นดุจดั่งรังสีกระบี่พวยพุ่งออกไปไม่หยุด จนต้านทานการโจมตีทั้งหมดของราชาปีศาจลิ่วเอ่อทั้งหมดเอาไว้ได้ ในเวลาเดียวกันก็ได้พุ่งสังหารสวนกลับไปอย่างบ้าคลั่ง
“ ครืน—— ”
หลังจากที่ได้ปะทะกันไปแล้วสิบกว่ากระบวนท่า ทันใดนั้นราชาปีศาจลิ่วเอ่อก็ได้กู่ร้องออกมาด้วยเสียงที่เจ็บปวด กรงเล็บของมันก็ได้เกิดรอยแตกร้าวขึ้น กระอักโลหิตสีแดงเข้มก้อนใหญ่ออกมา ทอดทิ้งลงบนพื้นดิน จนก่อเกิดบุษผาขึ้นมา โลหิตบริสุทธิ์ของมันเห็นได้ชัดว่าได้รวมเอาไว้ด้วยพลังแห่งเทพอันแข็งแกร่งเต็มสิบส่วน ตอนนี้ก็ได้ไหลรินออกมา ดุจดั่งพลังแห่งการเสริมสร้างก็มิปาน บริสุทธิ์อย่างถึงที่สุด แต่ว่าสีหน้าของราชาปีศาจลิ่วเอ่อกลับปั้นยากขึ้นมาอย่างถึงที่สุด
ในขณะนี้เอง ต่อให้ราชีนีมังกรวารี ราชาเผ่าปีกเป็นต้นคิดที่จะลงมือก็ได้มีสีหน้าเปลี่ยนไป อันหงเจินผู้นี้มีความน่าหวาดกลัวมากจนเกินไป ถึงกับสามารถทำร้ายบรรพบุรุษวิหคทองและราชาปีศาจลิ่วเอ่อ พลังการต่อสู้เช่นนี้ เพียงพอที่จะสยบไปทั่วทั้งดินแดนซีฮวงได้แล้ว
“ พวกเจ้า ไม่ไหวกันซะเลย วันนี้ เกรงว่าคงจะต้องตายตกไปเป็นเพื่อนข้าแล้วกระมั่ง ” อันหงเจินเงยหน้าขึ้น บนใบหน้าก็ได้ทอประกายความเย็นเยียบขึ้นที่แฝงไว้ด้วยความบ้าคลั่งเอาไว้ แต่ว่าภายในดวงตาของเขากลับยิ่งมีความสงบอย่างถึงที่สุด
“ น่าเสียดาย หากว่าแวลาของเจ้าทั้งหมดเพียงพอต่อการต่อสู้ในครั้งนี้ได้ ในวันนี้พวกข้าก็คงจะไม่บุกฆ่าสังหารถึงที่เช่นนี้หรอก น่าเสียดาย เจ้าที่มีพลังการต่อสู้อันน่าหวาดกลัวเช่นนี้ ถึงแม้จะพึ่งพาพลังจากภายนอกก็ตามที ” ราชาเผ่าปีกถอนหายใจออกมา สีหน้าเปี่ยมไปด้วยความเคร่งเครียด ในเวลาเดียวกันก็ได้ผ่อนคลายลงหลายส่วน ยังดีที่อันหงเจินจะต้องตายลงอย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้นพวกเขาก็คงจะต้องมีศัตรูที่กล้าแข็งผู้หนึ่งแล้ว
“ ทุกท่าน พวกเรายังคงลงมือพร้อมกันเถอะ คิดที่จะสังหารแก่นแท้ของของนั้นแม้จะเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าเพียงอย่างน้อยก็ยังสามารถขัดขวางเขาเอาไว้ได้ ในส่วนของเรื่องอื่นๆนั้น ขุมกำลังนับสิบของพวกเราก็จะร่วมมือกันแล้วยังไม่อาจที่จะจัดการลัทธิแห่งดวงดาวเพียงสำนักเดียวได้แล้วละก็ เช่นนั้นก็จะกลายเป็นเรื่องตลกขบขันไปแล้ว ” ราชีนีมังกรวารีส่งเสียงทรงเสน่ห์ออกมา แต่ว่าภายในน้ำเสียงยังแฝงเอาไว้ด้วยรังสีสังหารอย่างลึกล้ำ
“ พวกเจ้าเหล่านวลรางต่างก็กระทำเรื่องราวได้ดุร้ายเผ็ดร้อยยิ่งนัก ไม่ทิ้งร่องรอบยเลยแม้แต่น้อย ทว่าในวันนี้ข้าชอบอย่างยิ่ง เด็กน้อยผู้นี้ต่อกรได้ยาก ขอเพียงสามารถหยุดเขาเอาไว้ได้ ก็ถือว่าใช้ได้แล้ว ” ราชาปีศาจลิ่วเอ่อหัวเราออกมาอย่างเย็นชา ภายในรอยยิ้มแฝงไว้ด้วยความเย็นเยียบอันเข้มข้น
ตามความเป็นจริงแล้ว ไม่เพียงแต่แค่ราชาปีศาจลิ่วเอ่อ อีกทางด้านหนึ่งของมหาราชันในตอนนี้ต่างก็ได้พยักหน้าไปตามๆกัน พลังการต่อสู้ของอันหงเจินนั้นมีอยู่มากมายเกินกว่าจะคาดคิดเอาไว้ได้ ในตอนนี้สี่สุดยอดมหาราชันไม่ว่าจะเป็นคนใด ต่างก็ไม่คิดที่จะสู้อย่างเอาเป็นเอาตายกับเขา ทุกคนยังคงพุ่งเข้ามาอย่างพร้อมเพรียง
ตอนนี้ถึงแม้ว่าการทำให้อันหงเจินตายลงได้จะถือว่าเป็นวิธีที่ดี แต่แน่นอนว่าคงไม่มีคนใดยินยอมแลกชีวิตด้วยอย่างแน่นอน
“ นี้ก็คือระดับพลังมหาราชันของพวกเจ้าเช่นนั้นหรือ ? ” อันหงเจินหัวเราะขึ้นอย่างเย็นชา จากนั้นเขาก็ได้หันกายไป ใช้ออกด้วยพลังดัชนี วินาทีนั้น ก็ได้พบเห็นธาราดาราโลหิตสายหนึ่งสั่นสะเทือนพวยพุ่งเข้าลงสู่พื้น
“ อา—— ”
เสียงกรีดร้องอันเจ็บปวดก็ได้ดังขึ้นมา ทางด้านของยอดฝีมืออันมากามยที่ได้ขัดขวางเส้นทางเอาไว้ทั่วทั้งหุบเขาลำธารก็ได้กลายเป็นฝุ่นผง เผยให้เห็นเหลือแต่ร่องรอยสายหนึ่ง
“ ซวบซวบซวบ—— ”
ในช่วงเวลาที่สี่สุดยอดราชันทั้งสี่ยังไม่ทันมีปฏิกิริยากลับมาได้ทันก อันหงเจินก็ได้พลิกมือทั้งสองข้างเล็กน้อยทันใดนั้นก็ได้กวาดฆ่าสังหารออกไปจนเกิดร่องรอยขึ้นมานับสิบสาย
“ ตูม—— ”
แล้วก็ได้มีธาราดาราโลหิตกวาดออกไปเป็นสาย ในครั้งนี้ราชีนีมังกรวารีก็ได้ขยับร่างกายคราหนึ่ง เข้าต้านทานกับการโจมตีนี้เอาไว้อย่างเต็มๆ นั้นก็เพราะว่านางเข้าใจเป็นอย่างดีว่า ถ้าหากไม่ขวางรั้งเอาไว้อีก อันหงเจินผู้นี้คงจะต้องฆ่าสังหารเหล่าผู้เยาว์ทั้งหมดที่กำลังขวางเส้นทางอยู่ไปจนหมดแน่นอน
“ เจ้าในตอนนี้ก็ได้มาจนถึงระดับมหาราชันได้แล้ว จะต้องไปยุ่งเกี่ยวกับเหล่าผู้เยาว์ไปทำไมกัน ” ราชีนีมังกรวารีเอ่ยปากขึ้นมา ด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาอย่างยิ่ง
“ พวกเจ้าต่างก็มาจากแดนลี้ลับโดยทั้งสิ้น แล้วจำเป็นที่จะต้องไปกันไม่ได้กับลัทธิแห่งดวงดาวไปทำไมกัน ? ” อันหงเจินหัวเราะอย่างเย็นชาขึ้นมา ภายในรอยยิ้มยังแฝงเอาไว้ด้วยความเย้ยหยันออกมาอย่างถึงที่สุด
คำพูดของเขานี้ได้ทำให้สี่สุดยอดมหาราชันนิ่งเงียบกันเป็นสาย เป็นดั่งที่อันหงเจินกล่าวมาทั้งหมด พวกเขามีคุณสมบัติเอ่ยออกมาเช่นนี้อย่างงั้นหรือ ?
“ ท่านเจ้าลัทธิ การสังหารเด็กน้อยกลุ่มนี้ ยังไงเสียเส้นทางแห่งความตายก็มีคนไปเป็นเพื่อนท่านอยู่แล้ว พวกข้าไม่จำเป็นต้องเงียบเหงาแล้ว ! ฮ่าฮ่าฮ่า—— ” บริเวณทางด้านล่าง ก็ได้มีเจ้าตำหนักอยู่หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง อีกทั้งยังเรียกได้ว่าบ้าคลั่งอย่างถึงที่สุด จนทำให้เหล่ายอดฝีมือที่ขวางเส้นทางเอาไว้อยู่รู้สึกขนลุกขนพองขึ้นมา
กล่าวกันโดยทั่วไปแล้ว สำนักธรรมดาที่ได้พบเจอกับสถานการณ์เช่นนี้ อีกทั้งยังได้พบเจอกันการร่วมมือกันของขุมกำลังแดนลับแลนับสิบสาย หากว่าไม่จัดการอย่างเบ็ดเสร็จตั้งแต่แรก หรือไม่ก็จัดการถอนรากถอนโคนจะไม่หลงเหลือลูกหลาน แต่ว่าลัทธิแห่งดวงดาวนั้นกลับมิได้เป็นเช่นนั้น พวกเขาทั้งหมดยังคงปกปักษ์ปกป้องสำนักเอาไว้ โดยเฉพาะเหล่าเบื้องสูงทั้งหลาย แต่ละคนยิ่งราวกับบ้าคลั่งขึ้นมาก็มิปาน จนทำให้ผู้คนที่อยู่ทางด้านหลังต้องหวาดกลัวขึ้นมา
ขุมกำลังเช่นนี้ หากว่าไม่ตัดรากถอนโคนไปตั้งแต่แรกแล้วละก็ วันข้างหน้าจะต้องกลายเป็นมรสุมแห่งความตายอย่างแน่นอน อีกทั้งยังน่าหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด
“ ท่านเจ้าลัทธิ—— ”
เยี่ยจงยทนอยู่บริเวณท่ามกลางกลุ่มลูกศิษย์ เขาพยักหน้าไปมา สีหน้าเต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกมากมาย แต่ว่าก็ยังคงเกิดความภาคภูมิอยู่ภายในจิตใจ
เขาเมื่อก่อนหน้านี้ก็คือสุดยอดแห่งดินแดน ย่อมต้องเข้าใจเป็นอย่างดี ที่อันหงเจินสามารถมีพลังในการต่อสู้ดังเช่นตอนนี้ได้ จำเป็นที่จะต้องจ่ายค่าตอบแทนไปมากมายขนาดไหน ภายในร่างกายเขาในตอนนี้ต้องแบกรับความรู้สึกมากมายถึงเพียงใด ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ยากจะคาดคิดเอาไว้ได้ การที่อันหงเจินสามารถแบกรับความเจ็บปวดได้มากมายถึงเพียงนี้ย่อมต้องมีความเกี่ยวข้องกับความสามารถในการแบกรับพลังการครอบงำได้ จึงได้แข็งแกร่งขึ้นมาได้ถึงเพียงนี้ในช่วงระยะเวลาหนึ่งได้
“ ท่านเจ้าสำนักเปิดทางให้กับพวกข้าแล้ว อย่าได้ผิดพลาดไปได้ พวกเราไป ! ” ไม่นานนัก ก็ได้มีลูกศิษย์ลัทธิแห่งดวงดาวเอ่ยปากขึ้นมา พวกเขาย่อมเข้าใจว่าอันใดคือการอัญเชิญวิญญาณบรรพบุรุษ แต่ละคนในตอนนี้ก็ได้แต่ขบเคี้ยวเขี้ยวฟันเอาไว้ หันกายจากออกไป
“ เรื่องที่เกิดขึ้นมาวันนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นมาวันนี้…… ” เยี่ยจงสูดลมหายใจลึกๆเข้าคราหนึ่ง ฝืนใจความรู้สึกอัดอั้นที่จะลงมือเอาไว้ ทำให้ตนเองสงบอารมณ์ลง เขาย่อมเข้าใจได้อย่างชัดเจน ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ตนเองหากว่าเปิดเผยตัวออกไปแล้วละก็ อันหงเจิน เจ้าตำหนักและผู้อาวุโสทั้งหมดจะต้องหลั่งโลหิตอย่างสูญเปล่าอย่างแน่นอน
“ ซวบ—— ”
ลูกศิษย์สำนักแห่งดวงดาวมากมายก็ได้รวมตัวกันขึ้นมาอีกครั้ง ในครั้งนี้ได้มุ่งหน้าเข้าไปยังเงาของร่องรอยที่ได้เปิดขึ้นมา นั้นก็เพราะว่าขุมกำลังยอดฝีมือที่ใกล้เคียงในบริเวณนั้นก็พึ่งจะถูกอันหงเจินสังหารลงไป ในช่วงขณะนี้จึงปลอดภัยเป็นอย่างยิ่ง จนทำให้สามารถยิ่งผ่านไปได้เร็วกว่าเดิม
ท่ามกลางอากาศ สี่สุดยอดมหาราชันก็ได้มีสีหน้าปั้นยากขึ้นมา อีกทั้งยังมีความหวาดหวั่นปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าอย่างชัดเจน เรื่องราวในเมื่อได้ดำเนินมาจนถึงขั้นนี้แล้ว อีกทั้งได้อยู่นอกเหนือความคาดคิดของพวกเขาไปมากมายแล้ว เป็นสิ่งที่ไม่ว่าใครก็ไม่อาจที่จะคาดคิดได้
“ เคร่ง—— ”
ทางด้านหลังของราชาเผ่าปีกก็ได้เกิดเสียงดังเคร่งคร้างขึ้นมา ดุจดั่งได้ใช้ออกด้วยพลังที่แท้จริงออกมา เขาไม่คิดที่จะออมพลังเอาไว้อีกต่อไป เตรียมพร้อมที่จะลงมือโดยใช้พลังทั้งหมดออกไป นั้นก็เพราะว่าหากเป็นเช่นนี้แล้วละก็ คงจะทำให้เยี่ยจงหลบหนีไปได้อย่างแน่นอน
ราชาปีศาจลิ่วเอ่อทอสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมา มันยื่นมือออกไปไปที่ใบหูเพื่อนำเข็มเล็กๆเล่มหนึ่งออกมา จากนั้นมันก็ได้เป่าออกไปคราหนึ่ง วินาทีนั้นเข็มเงินนั้นก็ได้แปรเปลี่ยนขนาดเป็นใหญ่ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ดุจดั่งฝ่ามือที่ทอดลงมาจากฟากฟ้า มีพลังความน่าหวาดกลัวอย่างมาก
นี้คือสมบัติเทวะข้างกายของราชาปีศาจลิ่วเอ่อ ที่มีนามเลื่องลือไปทั่วทั้งดินแดนซีฮวง กล่าวกันว่าในตำนานของราชาปีศาจลิ่วเอ่อที่ได้ไปอาลาวาดที่ตำหนักมังกรตงไห่ ก็ได้ช่วงชิงเสาหลักใจกลางตำหนักที่มีนามว่าเข็มเทวะมาเป็นอาวุธข้างกาย มีพลังในการต่อสูจนน่าหวาดกลัวอย่างยิ่ง
ต้องทราบเอาไว้ว่า ถึงแม้ว่าภายในดินแดนในตอนนี้ถึงแม้จะมิได้มีสี่มังกรบรรพกาลไปตั้งแต่แรกแล้ว ตำหนักมังกรตงไห่ถึงแม้ว่าจะถูกเรียกขานได้ว่าเป็นมังกรที่ธรรมดาสามัญในกลุ่ม ทว่าแม้ในช่วงเวลานั้นจะถูกเรียกว่าธรรมดาแต่ก็ยังขึ้นชื่อว่ามังกรที่มีความสัมพันธ์กันในเผ่าพันธุ์ ต่างก็มีความน่าหวาดกลัวอย่างถึงที่สุดอยู่ดี
บรรพบุรุษวิหคทองพ่นประกายไฟออกมาเป็นสาย ทางด้านล่างของเขาก็ได้ค่อยๆปรากฏพิราบสีทองตัวหนึ่งขึ้นมา ดุจดั่งว่ามันมีเท้าที่แหลมเล็กเพิ่มขึ้นมาอีกข้างก็มิปาน แต่ว่า พิราบในตอนนี้ราวกับกำลังกลายเป็นดวงอาทิตย์ขึ้นก็มิปาน ในเวลาเดียวขณะนั้นก็ได้เปล่งประกายแสงเจิดจรัสออกมา ดูไปแล้วน่าหวาดกลัวและลี้ลับอย่างถึงที่สุด
ทางด้านของราชีนีมังกรวารีก็ได้กวาดหางขยับไปมา ทามกลางพื้นดินทันใดนั้นก็ได้ก่อเกิดลำแสงวารีพวยพุ่งขึ้นมา ลำแสงวารีเหล่านี้ก็ได้กลายเป็นมังกรวารีขนาดเล็กขึ้น แล้วก็ได้แยกเขี้ยวกางกรงเล็บขึ้นท่ามกลางอากาศ น่าหวาดกลัวอย่างไร้ที่เปรียบ
“ ลงมือพร้อมกัน ฆ่าสังหารเด็กน้อยผู้นี้ ! ”
สี่สุดยอดมหาราชันตอนนี้ก็ได้ใช้ออกมาด้วยพลังฝีมือที่น่าหวาดกลัวที่สุดออกมาในเวลาเดียวกัน มุ่งหน้าเข้าสังหารในบริเวณที่อันหงเจินอยู่เข้าไป พวกเขาคิดที่จะต้องการสังหารอันหงเจินลงไปในทันที จากนั้นค่อยว่ากันถึงเรื่องอื่น
ภายในดวงตาอันแดงก่ำของอันหงเจินก็ได้ปะทุขึ้นมา เขาฟาดฝ่ามือทั้งคู่ออกไป ธาราดาราโลหิตก็ได้รวมตัวกันขึ้น จนกลายเป็นดั่งตัวอักขระที่ไม่ชัดเจนพุ่งทะลวงออกไป แล้วก็ได้ปรากฏขึ้นที่บริเวณใจกลางฝ่ามือของเขา
“ ขอเพียงมีพวกเจ้าจากออกไปได้แม้แต่คนเดียว ลัทธิแห่งดวงดาวของพวกเราก็จะไม่ขาดผู้สูญ เมื่อวันนั้นมาถึง ก็จะกลับคืนสู่ดินแดนซีฮวงอีกครั้ง พร้อมทั้งเข้าสู่จุดสูงสุดของเผ่าพันธุ์นับหมื่นพัน ! ” อันหงเจินหัวเราะออกมาเสียงดังกังวาน น้ำเสียงบ้าคลั้งเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งยังแฝงไว้ด้วยความหวัง เหมือนดั่งการให้พรที่มีความเอิ่มอิ่มเอาไว้
จากนั้นทันใดนั้นเอง ร่างกายของเขาก็ได้พุ่งเข้าสังหารออกไป พร้อมทั้งเชื้อเชิญสี่สุดยอดมหาราชันเข้ามาสังหาร
ในขณะนี้เอง ทั่วทั้งฟ้าดินก็ได้เกิดการสั่นไหวขึ้นมา
.
.
.
.
.
กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่นพิเศษ เข้ากลุ่ม 4/5/6/7/8/9/10/11 ราคา 500 [โปรหมดเขต 15/04/19]
VIP4 https://goo.gl/ESwaou
VIP5 https://goo.gl/ekcF7V
VIP6 https://goo.gl/4rqw89
VIP7 https://goo.gl/qrQ7GA
VIP8 https://goo.gl/Uzqf2x
VIP9 https://goo.gl/1jPZtn
VIP10 https://goo.gl/L8awva
VIP11 https://goo.gl/rojEiG
ช่องทางการโอนเงิน https://goo.gl/MnYB81
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ
https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/