เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 373 ความแข็งแกร่งของขอบเขตไม่สูญสลาย

ตอนที่ 373 ความแข็งแกร่งของขอบเขตไม่สูญสลาย

 

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า……”มีคนหัวเราะขึ้นมาเบาๆ บนใบหน้าก็ได้ทอแววความเย้ยหยันชนิดหนึ่ง “เจ้าถือได้ว่าแข็งแกร่งมาก นับได้ว่าเป็นที่สุดของรุ่น ไร้พ่ายในหมู่คนวัยเดียวกัน ทว่าเจ้าคิดจะท้าทายพวกเราที่ทั้งหมดทุกคนอย่างงั้นหรือ ? ช่างเหิมเกริมจนไม่ทราบว่าสถานการณ์ต่อไปเป็นอย่างไรเสียแล้ว เจ้าทราบหรือไม่ ?”

 

“มีคนมากมายต่างก็คิดว่าตนเองมีความสามารถอย่างถึงที่สุด เป็นสุดยอดรุ่นเยาว์ ไม่ธรรมดาอย่างไร้ข้อกังขา กลับไม่ทราบว่านี้คือการมาหาที่ตาย จนต้องตายก่อนวัยอันควร”

 

เด็กสาวที่มีใบหน้าสวยงามสดใสเอ่ยปากขึ้นมา นางมีสีหน้าเย็นเยียบ หางทั้งสามที่ด้านหลังของนางก็ได้ขยับไปมาเบาๆ เห็นได้ชัดเป็นผู้ที่มาจากเผ่าหมาป่าสวรรค์ มีความแข็งแกร่งเต็มสิบส่วน

 

“นั้นก็ได้แต่โทษที่พวกเจ้าอ่อนแอกันจดเกินไป”เยี่ยจงกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ยืนมือไพล่หลังเผชิญหน้าต่อผู้คนทั้งหมด ราวกับเป็นดั่งที่เขากล่าวออกมาทั้งหมด

 

“แม้ว่าข้าจะเทียบเจ้าไม่ได้ ทว่า เจ้าคิดจริงหรือว่าเจ้าจะสามารถรับมือพวกเราทั้งหมดทุกคนได้งั้นหรือ ? นามแห่งสุดยอดรุ่นเยาว์ มีแต่จะทำให้เจ้าหลงลืมตัวตนของพวกข้า !”เด็กหนุ่มที่มีเขาข้างเดียวงอกอยู่บนศีรษะก็ได้เอ่ยปากขึ้นมา ทอสีหน้าเย็นชาขึ้นมา

 

“ช่างเถอะ ในเมื่อท่านเยี่ยจงมีความขอร้องเช่นนี้ พวกเราก็จะลงมือฆ่าสังหารพร้อมกันก็แล้วกัน รวมไปทั้งเรื่องราวหลังจากนี้จะเป็นเช่นไร พวกเราค่อยปรึกษากันอีกครา”อีกทางด้านหนึ่ง ก็ได้มีชายหนุ่มผู้นี้เอ่ยปากขึ้นมา เขามีนัยน์ตาสีเขียวเข้ม เห็นได้ชัดเขาได้สืบทอดสายโลหิตมาจากเผ่าอสรพิษ แข็งแกร่งอย่างไร้ที่เปรียบ อีกทั้งยังทำให้ผู้คนหวาดกลัวได้

 

เยี่ยจงจ้องมอไปยังบนร่างของคนเหล่านี้อย่างเย็นชา คนเหล่านี้ต่างก็ไม่ธรรมดาอย่างถึงที่สุด คนกลุ่มนี้โดยส่วนมากต่างก็ถือได้ว่ามีพลังฝีมือในระดับชั้นราชัน ส่วนที่เหลือโดยส่วนมากแล้วต่างก็เป็นยอดฝีมือในระดับพลังขั้นก่อฟ้าขอบเขตพลังปราณสูงสุดกันแล้ว พอดีกับที่พวกเขาต่างก็เป็นยอดฝีมือในระดับเช่นนี้ ในตอนนี้จึงต่างก็มีความสามารถเฉกเช่นนี้

 

เห็นได้ชัด อัจฉริยะเหล่านี้มีความแข็งแกร่งเต็มสิบส่วน มีความน่าหวาดกลัวที่ไม่ธรรมดา แทบจะมิใช่สิ่งที่บุคคลปกติธรรมดาจะสามารถต่อกรได้

 

“เยี่ยจง ข้าไม่ต้องการจะฆ่าเจ้า ในเมื่อเจ้าก็ยังเป็นสุดยอดแห่งเผ่ามนุษย์ เผ่าปีกข้าและเผ่ามนุษย์กระนั้นยังถือได้ว่ามีความสัมพันธ์กันทางสายโลหิต นำสิ่งของมอบออกมาอย่างว่าง่ายเถอะ แล้วข้าก็จะปล่อยเจ้าไป”ยวีจิงหลุนเอ่ยขึ้นมาเสียงเบา สีหน้าทั้งเย็นชาและสงบ ราวกับกำลังพูดถึงความเป็นจริงที่เกิดขึ้นอยู่ก็มิปาน

 

“จำเป็นที่จะต้องกล่าวถึงคำพูดเหล่านี้ด้วยงั้นหรือ ฆ่าสังหารก็พอแล้ว ทว่าก็แค่ยอดฝีมือพลังยุทธ์ขั้นก่อฟ้าขอบเขตพลังปราณเท่านั้น ต่อให้มีพลังของกายเนื้อไม่สูญสลายแล้วจะเป็นอย่างไร ? คิดจะท้าทายพวกข้า ? หาที่ตายเองละสิ ?”คนผู้หนึ่งที่ร่างกายเต็มเปี่ยมไปด้วยรังสีกระบี่ เป็นเด็กหนุ่มที่อุ้มไว้ด้วยกระบี่เล่มหนึ่งเอ่ยปากขึ้นมา เขามีสีหน้าเย็นเยียบอย่างถึงที่สุด ภายในดวงตาแฝงไว้ด้วยความคมกล้าระดับสูงสุดก็มิปาน เขานั้นมาจากสำนักร้อยยุทธ์ มีความเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของตนเองอย่างเต็มเปี่ยม

 

“ยังคงให้ข้าก่อนเถอะ?เขาคิดจริงหรือว่าตนเองจะพ่ายเหมือนดั่งเจ้าขยะไร้ประโยชน์ทั้งสองคนนั้น ถ้าหากมีความสามารถสูงสุดในระดับเดียวกันจริงเช่นนั้นจริงงั้นหรือ ? ไร้เดียงสา !”เด็กหนุ่มที่ทางด้านหลังมีปีกของนกกระสาอยู่ทางด้านหลังก็ได้เอ่ยปากขึ้นมา เขาถือได้ว่าแข็งแกร่งอย่างถึงที่สุด เห็นได้ชัดได้มาจากหุบเขาหมื่นปีศาจ มีความเชื่อมั่นต่อตนเองอย่างไม่แปรเปลี่ยน

 

“ข้ามาแล้ว”เด็กหนุ่มที่มีเขาอยู่บนศีรษะก็ได้ก้าวเดินออกมา เขามีพลังปราณไหลเวียนทั่วทั้งร่างกาย แทบจะประทุออกมาได้เลย ราวกับจะสามารถสังหารผู้คนได้เลยก็มิปาน

 

“ข้าบอกแล้ว พวกเจ้าเข้ามาทั้งหมด ข้ากำลังรีบ”เยี่ยจงยิ้มขึ้นมาเบาๆ เหมือนกับกำลังอยู่ความเร่งรีบ แต่ว่าภายในความพูดได้แฝงเอาไว้ด้วยสีหน้าที่บ้าคลั่งแปรเปลี่ยนไปมา

 

“บังอาจ !”

 

เด็กหนุ่มเขาเดียวหัวเราะอย่างเย็นชา พริบตานั้นเองเขาก็ได้พุ่งเข้าสังหารออกมา เขาบนศีรษะก็ได้ปะทุประกายแสงคมกล้าสาดออกมา ดุจดั่งเงาของกระบี่อันคมกล้าก็มิปาน

 

อัจฉริยะทั้งหมดต่างก็ตกใจขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าเด็กหนุ่มเขาเดียวผู้นี้ได้อยู่ในระดับขั้นราชันไปแล้ว พลังฝีมือมีความน่าหวาดกลัวอย่างแข็งแกร่ง คนโดยส่วนมากแล้วแทบจะมิอาจที่จะต่อกรได้เลย

 

“โครม——”

 

พื้นดินในตอนนี้ก็ได้เกิดรอยแตกขึ้นมา จนปรากฏรอยแยกออกมาเป็นสาย เห็นได้ชัด เด็กหนุ่มเขาเดียวผู้นี้ได้ลงมือในแบบเดียวกัน แต่ว่ากลับมีพลังที่มากกว่าชางเฟยไป่และเด็กหนุ่มตำหนักอัสนีลี้ลับไปมาก การโจมตีของกระบวนท่านี้ได้ปะทะติดต่อกัน ราวกับลูกศรที่หลุดออกจากแหล่งเข้าปะทะเป้าหมายทุกเวลาก็มิปาน

 

เยี่ยจงหัวเราะอย่างเย็นชา ปรากฏอักขระสีม่วงบนแขนขวาของเขาก็ได้สั่นไหวไปมา จากนั้นก็ได้ปล่อยหมัดเข้าปะทะกันออกไป ดุจดั่งฝนดาวตกก็มิปาน กระจ่างชัดอย่างถึงที่สุด

 

“ซูม——”

 

พลังการโจมตีอันน่ากลัวทั้งสองสายก็ได้เข้าปะทะกัน ในขณะนั้น ก็ได้เกิดการสั่นไหวขึ้นท่ามกลางอากาศ นั้นก็เพราะว่าความแข็งแกร่งของทั้งสองคน ผู้หนึ่งเป็นยอดฝีมือที่อยู่ในระดับราชัน อีกคนนั้นสำเร็จพลังกายเนื้อศักดิ์สิทธิ์ มีพลังแห่งการไม่สูญสลายอย่างถึงที่สุด

 

“กร๊อบ——”

 

หลังจากนั้นเอง ประกายแสงก็ได้ดับลง เยี่ยจงยังคงยืนอยู่กับที่ไม่ขยับเคลื่อนไหว แต่ว่าเด็กหนุ่มเขาเดียวนั้นกลับโซซัดโซเซถอยไปทางด้านหลังนับสิบก้าว เขาบนศีรษะก็ได้เกิดโลหิตไหลรินออกมาเป็นสายในทันที

 

“อะไรกัน ! ? อัจฉริยะที่มาจากเขาหุบเขาจิตจันทร์ครึ่งเสี้ยวผู้นั้น ถึงกับพ่ายแพ้ไปภายในกระบวนท่าเดียว ! นี้ถือได้ว่าอยู่ในระดับราชันได้เลยนะ !”พอถึงช่วงเวลานี้ อัจฉริยะทั้งหมดต่างก็เกิดอาการตื่นตกใจขึ้นมาไม่หยุด หากว่ากล่าวถึงความพ่ายแพ้ของชางเฟยไป่และเด็กหนุ่มตำหนักอัสนีลี้ลับในความคิดของพวกเขา เรียกได้ว่ามิได้ส่งผลอะไรมากมายนัก แต่ว่าเด็กหนุ่มเขาเดียวกลับพ่ายแพ้ลงภายในกระบวนท่าเดียว นี้ถือได้ว่าส่งผลกระทบจนพวกเขาตื่นตกใจขึ้นมาได้

 

เด็กหนุ่มเขาเดียวในตอนนี้ก็ทอประกายภายในดวงตาปรากฏขึ้นมา เขาของเขาถือได้ว่าเป็นพรสวรรค์ที่ติดตัวมาแต่กำเนิด มีความแข็งแกร่งอย่างเต็มเปี่ยม ร่วมไปถึงการโจมตีต่างก็ถือได้ว่าสามารถที่จัดการกับยอดฝีมือในระดับขอบเขตเดียวกันได้อย่างง่ายดาย แต่ว่าที่คิดไม่ถึงก็คือเยี่ยจงยังถึงสามารถใช้เพียงกระบวนท่าง่ายๆเพื่อต้านทานการโจมตีของตนเองเอาไว้ได้ อีกทั้งยังทำให้ตนเองได้รับบาดเจ็บ นี้ถือได้ว่าอยู่เกินกว่าที่จะเชื่อได้ลงแล้ว

 

เยี่ยจงในตอนนี้ก็ได้ขมวดคิ้วขึ้นมาเบาๆ เขาได้สังหารยอดฝีมือระดับราชันมามากมาย ความรู้การรับกระบวนท่าเมื่อครู่นี้ จะสามารถใช้จัดการจนเด็กหนุ่มเขาเดียวลอยกระเด็นออกไปได้ แต่ที่เขาคิดไม่ถึงก็คือเขาเพียงแค่ได้รับบาดเจ็บเท่านั้น

 

“เจ้าไม่เลวเลย ถึงกับต้านทานข้าได้ถึงหมัดหนึ่ง น้อยนักที่จะจบเจอ”เยี่ยจงกล่าวออกมาเสียงราบเรียบ ด้วยความยกย่อง

 

จากนั้น เด็กหนุ่มเขาเดียวผู้นั้นก็เกือบที่จะกระอักโลหิตออกมาคำหนึ่ง ในเผ่าพันธุ์สำนักของเขาถือได้ว่าตัวเขาเองเป็นอัจฉริยะที่แท้จริงเลยก็ว่าได้ ไร้ผู้ต้านในผู้วัยเดียวกัน แต่ก็คิดไม่ถึงว่า ในตอนนี้กลับถูกเยี่ยจงวิจารย์เช่นนี้ นี้ถ้ากล่าวในมุมมองของเขาแล้ว ถือได้ว่าเป็นการดูแคลนอีกอย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้

 

“เจ้าทำเกินไปแล้ว !”เด็กหนุ่มเขาเดียวร้องชิออกมาอย่างเย็นชา พริบตานั้นเอง เขาก็ได้ฟาดออกมาทั้งสองมือ แล้วก็ได้โจมตีออกไปอีกครั้งหนึ่ง

 

เยี่ยจงขมวดคิ้ว พริบตานั้นเอง ทั่วทั้งร่างกายก็ได้ทอประกายปะทุแสงสีทองออกมา กวาดฟาดฝ่ามือออกไป บนแขนของเขาก็ได้ปรากฏเกล็ดสีม่วงขึ้นมาเป็นสาย จนกลายเป็นอักขระกิเลนห้อมล้อมเอาไว้

 

“เคร้ง——”

 

การโจมตีของทั้งสองฝ่ายได้เข้าปะทะกัน แต่ว่าเพียงพริบตาเดียวนั้นเอง เด็กหนุ่มเขาเดียวนั้นก็ได้กระอักโลหิตออกมาคำโต ร่างกายก็ได้ลอยกระเด็นออกไป แขนขวาของเขาในตอนนี้ก็ได้เกิดอาการชาขึ้นมาก็มิปาน จนเกือบที่จะทอดกายลงในทันที

 

ความแข็งแกร่งในระดับไม่สูญสลายของเยี่ยจง ได้เกินเลยความคาดคิดของเขาไปมากแล้ว

 

“อะไรกัน ! ?”อัจฉริยะมากมายเหล่านี้ก็ได้แตกตื่นขึ้นมาในเวลา เด็กหนุ่มเขาเดียวผู้นี้ถีงแม้ว่าจะมิได้แข็งแกร่งที่สุดในหมู่ของพวกเขา แต่แน่นอนว่าก็จัดได้ว่าอยู่ในอันดับแนวหน้าได้ แต่ว่ายังถึงกลับไม่สามารถรับมือแม้เพียงกระบวนท่าเดียวของเยี่ยจงได้ เรียกได้ว่ายากที่จะทำให้ผู้คนเชื่อได้ลงได้อย่างง่ายดาย

 

“ทุกท่าน ลงมือพร้อมกันเถอะ ในหมู่ของพวกเราไม่มีใครที่พ่ายแพ้ได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้อยู่แล้ว รีบๆจัดการให้เสร็จ เพื่อที่จะได้มั่นใจได้ยิ่งกว่าเดิม”ยวีจิงหลุนมีสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากมาย จากนั้นก็ได้เอ่ยปากขึ้นมาอย่างเย็นชา เห็นได้ชัดว่าพอถึงเวลานี้แล้วเขาไม่อาจที่จะไม่ยอมรับได้ หากว่าไม่ร่วมมือกัน แน่นอนว่าย่อมไม่อาจที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของเยี่ยจงได้

 

“เข้าไปพร้อมกัน หากต่อกรตัวต่อตัวกับเขา พวกเขาต่างก็มิใช่คู่ต่อสู้ของเขา กายเนื้อไม่สูญสลาย ที่แท้ก็เหนื่อยความคาดเดาถึงเพียงนี้ !”เด็กสาวหมาป่าสวรรค์ก็ได้เอ่ยขึ้นมาอย่างเย็นชา บนใบหน้าปกคลุมไว้ด้วยรังสีสังหาร

 

“ความจริงแล้ว ทุกท่านลงมือพร้อมกันเถอะ ในครั้งนี้ความเคลื่อนไหวของขุมกำลังนับสิบสายของข้า ที่มาก็เพื่อเจ้า ไม่จำเป็นที่จะต้องว่ากล่าวอันใดอีก วันนี้เจ้าไม่ตาย วันข้างหน้าแน่นอนว่าย่อมต้องกลายเป็นขวากหนามอย่างแน่นอน”เด็กหนุ่มที่อุ้มไว้ด้วยกระบี่ก็ได้เอ่ยปากขึ้นมา ทอสีหน้าเย็นชาขึ้นมา

 

“ต่อให้เป็นสุดยอดรุ่นเยาว์แล้วจะเป็นอย่างไร ? ก็ยังมีเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น ใช่ว่าจะสามารถต้านทานพวกเราที่ร่วมมือกันนับสิบคนได้ ฆ่าไปได้ยิ่งดี !”มีคนกล่าวออกมาด้วยเสียงทุ่มต่ำ เต็มไปด้วยความเชื่อมั่นในตนเอง

 

ความแข็งแกร่งตามความเป็นจริงของพวกเขา หากว่ามิใช่เป็นเพราะเยี่ยจงอยู่ในขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลาย แล้วอยู่ภายใต้ระดับขอบเขตเดียวกันที่ต่ำกว่า อย่างมากก็ไม่สามารถที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของพวกเขาได้

 

“ลงมือเถอะ อย่าได้เสียเวลาอีกต่อไปเลย !”อัจฉริยะหุบเขาหมื่นปีศาจก็ได้ลงมือออกมาเป็นคนแรก เขาพลิกมือทั้งสองข้างวาดกวาดออกไป พลังปราณก็ได้ก่อรวมตัวกันจนกลายเป็นปีกขนาดใหญ่มหึมา ทางด้านบนปกคลุมไว้ด้วยอักขระวนเวียนไปมา มุ่งหน้าเข้ากดดันเข้าไปยังบริเวณที่เยี่ยจงอยู่เข้าไป

 

“ตูม——”

 

เยี่ยจงโบกฝ่ามือออกมาหนึ่งฝ่ามือ พลังฝ่ามือมังกรสายรุ้งก็ได้ฟาดออกไป แผ่ปกคลุมเอาไว้ด้วยพลังความน่าหวาดกลัวเอาไว้ วินาทีนั้น สีหน้าจของอัจฉริยะของหุบเขาหมื่นปีศาจเปลี่ยนไปอย่างรุนแรง จนแตกกระจายกลายเป็นรอยแตกหักไป

 

“ตูม——”

 

เด็กสาวเผ่าหมาป่าสวรรค์ก็ได้ผนึกรอยตราบนฝ่ามือขึ้น แล้วก็ได้พุ่งฆ่าสังหารออกไป จนก่อเกิดเงาหมาป่าสายหนึ่งโพยพุ่งออกไป ทั้งยังเต็มไปด้วยเสียงที่น่าหวาดกลัวพวยพุ่งออกมา

 

“ตูม——”

 

เยี่ยจงพลิกมือ พลังกระบี่ตราประทับชั้นที่สี่สิบเก้าก็ได้ถูกซ้อนทับขึ้นมาในเวลาเดียวกันในทันที ก่อรวมอยู่บนคมหมัดแล้วก็แผ่พุ่งปะทะฆ่าสังหารออกไป หมัดนี้ได้พุ่งเข้าสู่การโจมตีที่เข้ามาเด็กสาวหมาป่าสวรรค์อย่างรุนแรง จนทำให้นางกระอักโลหิตถอยออกไป ด้วยอาการบาดเจ็บอย่างถึงที่สุด

 

เพียงแค่การโจมตีอย่างมิตั้งใจสองกระบวนท่า ก็ได้ทำลายการโจมตีของอัจฉริยะทั้งสองคนจะกลบหายลงไปจนหมดสิ้น เยี่ยจงในตอนนี้ ก็ได้อยู่ในท่าทีไร้พ่ายแห่งแดนเทพดุจดั่งเมื่อครั้งที่อยู่ภายในสมรภูมิฮวงกู่ เต็มเปี่ยมไปด้วยความกดดันอย่างมากมาย

 

“เป็นทักษะเซียนทั้งหมด เจ้ายอดมาก !”เด็กหนุ่มเขาเดียวหัวเราะอย่างเย็นชา นัยน์ตาก็ได้แผ่พุ่งความเย็นชาออกมา

 

“ในเมื่อเจ้าชมชอบ ข้าก็จะได้มอบให้แก่เจ้าอีกกระบวนท่าหนึ่งดีหรือไม่ ! ?”เยี่ยจงพลิกทั้งสองมือฟาดออกไป แล้วก็ได้ก่อเกิดพระราชลัญจกรสีทองปกคลุมไปทั่วทั้งผืนนภา มุ่งหน้าเข้ากดดันสังหารยังบริเวณที่เด็กหนุ่มเขาเดียวอยู่เข้าไป จนก่อเกิดอักษรขนาดใหญ่ทั้งสี่(ศรัทธา สวรรค์ สดุดี โชคลาภ)ไหลเวียนไปมา จนปรากฏพลังทำลายแห่งเทพอันไร้ขีดจำกัดออกมา

 

“บรึม——”

 

เด็กหนุ่มเขาเดียวเพียงแค่ได้รับพลังความกดดันเท่านั้น ก็ได้กระอักโลหิตออกมาคำโต บนใบหน้าก็ได้ปรากฏแววตาแห่งความหวาดกลัวขึ้นมา

 

“ตราแห่งราชาแดนมนุษย์ เป็นตราแห่งราชาแดนมนุษย์ที่เล่าขานกันอย่างแท้จริง”

 

“ซวบ——”

 

คมกระบี่สูงสุดขนาดใหญ่ก็ได้กวาดออกไป เพื่อที่จะต้านทานตราแห่งราชาแดนมนุษย์ เอาไว้ ในเวลาเดียวทางด้านหลัง ก็ได้มีปีกขนาดใหญ่กวาดออกมา โจมตีเข้ากดทับลงไป ในเวลาเดียวกัน เด็กสาวเผ่าหมาป่าสวรรค์ อัจฉริยะเผ่าอัสนีพิษโลหิตและพวก ต่างก็ได้ลงมือในเวลาเดียวกัน เข้าต้านทานกระบวนท่านี้ของเยี่ยจงเอาไว้

 

ในขณะนี้เอง อัจฉริยะเหล่านี้ต่างก็มีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาอย่างเต็มสิบส่วน พวกเขาต่างก็ถือได้ว่าเข้าใจเป็นอย่างดี ระดับความแตกต่างห่างชั้นของตนเองและเยี่ยจง หากว่ายังไม่ประสานพลังกันแล้วละก็ อย่างน้อยก็คงจะต้องถูกฆ่าสังหารไปอย่างแน่นอน

 

เยี่ยจงทอประกายดวงตาเย็ฯเยียบขึ้นมา แล้วก็ได้ก้าวออกไปอีกหนึ่งก้าว แล้วเขาก็ได้ใช้วิชาดำดินรุกคืบออกมา ร่างกายของเขาก็ได้ปรากฏขึ้นมาทางด้านหลัง ด้วยพลังความรวดเร็วสูงสุด ในช่วงระหว่างนั้นเอง ก็ได้หลบรอดจนพ้นการโจมตีของผู้คนทั้งหมดไป

 

และในเวลาเดียวกันนี้เอง มือขวาของเขาก็ได้กำขึ้นมาเหมือนกับกำลังใช้ออกมาด้วยเคล็ดวิชาบางอย่าง จนกระบี่สายหนึ่งก็ได้พวยพุ่งออกไปบริวเณทางด้านหน้าออกไป

 

“เชอะ——”

 

สำนึกกระบี่ตัดความว่างเปล่าในตอนนี้ก็ได้พวยพุ่งออกมา กระบี่นี้มีความดุดันอย่างไร้ที่เปรียบ สามารถตัดเดือนผ่าตะวันได้ ฟาดฟันกระบี่สังหารออกไป คมกระบี่ได้รวมเอาไว้ด้วยพลังความน่าหวาดกลัวที่จัดได้ว่าอยู่ในระดับจุดสูงสุดชนิดหนึ่ง จนทำให้อัจฉริยะทั้งหมดต่างก็เกิดอาการตื่นตกใจขึ้นมา

 

การที่จะสามารรถเป็นสุดยอดในหมู่รุ่นเยาว์ได้ พลังสายตาย่อมไม่ด้อยไปถึงไหนอย่างแน่นอน พลังกระบี่ที่เยี่ยจงได้ฟาดฟันออกมา เรียกได้ว่าตัดผ่าได้ทุกสรรพสิ่ง ถึงกับทำให้พวกเขาก่อเกิดพลังความรู้สึกที่ยากจะต้านทานเอาไว้ได้ชนิดหนึ่งเข้ามา

 

“ตูม——”

 

อัจฉริยะสำนักร้อยยุทธ์ก็ได้ใช้ออกด้วยฟาดฟันกระบี่ออกไป ในเวลาเดียวกันก็ได้ควบคุมเอาไว้ด้วยพลังคมกระบี่ แต่ว่าก็ไม่มีประโยชน์ คมกระบี่ของเขานั้นได้ถูกสำนึกกระบี่ของเยี่ยจงตัดผ่าออกไปในทันที แล้วก็ได้แตกกระจายออกไปในทันที

 

“อะไรกัน ! ?”

 

อัจฉริยะมากมายในตอนนี้ ก็ได้ลงมือในเวลาเดียวกัน บริเวณทางด้านหลัง ก็ได้ก่อเกิดการลงมือขึ้นมาด้วยสีหน้าที่หวาดหวั่นขึ้นมาอย่างไร้ที่เปรียบ ความแข็งแกร่งของเยี่ยจง ถือได้ว่าอยู่นอกเหนือความคาดเดาของนางไปจนหมดสิ้น ไม่ว่าผู้ใดก็คงคิดไม่ถึง ว่าเขาจะสามารถพึ่งพาพลังของตนเองเพียงคนเดียว เข้าปะทะสังหารอัจฉริยะมากมายได้ถึงเพียงนี้ ?

 

หากว่าเปลี่ยนจนกลายเป็นอัจฉริยะธรรมดาแล้วละก็ อย่างน้อยก็คงจะตายตกลงไปแล้ว เยี่ยจงในตอนนี้ ได้แข็งแกร่งจนนอกเหนือความธรรมดาสามัญไปมากแล้ว

.

.

.

.

กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่นพิเศษ เข้ากลุ่ม 4/5/6/7/8/9/10/11 ราคา 500 [โปรหมดเขต 15/04/19]

VIP4 https://goo.gl/ESwaou

VIP5 https://goo.gl/ekcF7V

VIP6 https://goo.gl/4rqw89

VIP7 https://goo.gl/qrQ7GA

VIP8 https://goo.gl/Uzqf2x

VIP9 https://goo.gl/1jPZtn

VIP10 https://goo.gl/L8awva

VIP11 https://goo.gl/rojEiG

ช่องทางการโอนเงิน https://goo.gl/MnYB81

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset