เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 398 การรวมตัวของเหล่าวีรบุรุษ

ตอนที่ 398 การรวมตัวของเหล่าวีรบุรุษ

 

เยี่ยจงเก็บแผนที่แต่ละชิ้นประกอบเข้าด้วยกัน หลังจากที่ครุ่นคิดใคร่ครวญ แล้วก็ได้นำหนังปีศาจห่อเหล่าเส้นขนของอีกาเก็บเอาไว้ จากนั้นก็ได้พลิกมืออีกคราเพื่อเก็บแผนที่เหล่านั้น แล้วก็เดินเข้าไปยังท่ามกลางสนาม

 

“พี่ท่านนี้ ท่านคงจะมิได้ซื้อแผนที่จากเฒ่าชราผู้นั้นหรอกกระมั่ง ? ผู้คนต่างก็กล่าวออกมา แผนที่ของเขาต่างก็เรียกได้ว่าพรรณนาออกมาอย่างเหลวไหล เพียงเพื่อที่จะนำมาหลอกลวงผู้คนเท่านั้น ท่านคงจะไม่ได้ซื้อไปหรอกจริงไหม ? “มีคนกวาดมองเข้าไปยังแผนที่ที่อยู่ภายในมือของเยี่ยจง หัวเราะฮิฮะออกมาแล้วกล่าว พริบตานั้นก็ได้ทำให้เยี่ยจงกลายเป็นเหมือนดั่งคนโง่เท่านั้น

 

เมื่อได้คว้าแผนที่เอาไว้อยู่ภายในมือ ในตอนนี้ต่อให้เป็นหนังหน้าเยี่ยงเยี่ยจง ก็ยังต้องรู้สึกเสียหน้าผู้คนอยู่ไม่น้อย

 

ทว่า ไม่นานนักก็มีคนจดจำสถานะของเยี่ยจงออก วินาทีนั้น พริบตานั้นผู้คนมากมายต่างก็ได้หุบปากลง

 

“นี้ก็คือสุดยอดอันดับหนึ่ง ซิง ท่ามกลางการแย่งชิงในครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในคนที่มีความหวังมากที่สุดจะได้รับตำนาน ท่านซิงถึงกับซื้อแผนที่เหล่านั้น ไม่แน่ว่าแผนที่เหล่านี้อาจจะต้องเก็บซ่อนความเร้นลับบางอย่างเอาไว้อย่างแน่นอน ! “มีคนกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา อีกทั้งยังแห้งผากอย่างยิ่ง

 

“ดูเหมือนว่าข้ามีตาแต่หามีแววไม่ ท่านซิงถือได้ว่าเหนือผู้คนธรรมดาทั่วไป อยู่เหนืออัจฉริยะทั่วสารทิศ รวมไปทั้งพวกข้า ! “ผู้ที่เริ่มเอ่ยปากมาตั้งแต่แรกในตอนนี้ก็ได้หัวเราะขึ้นมาติดต่อกัน จากนั้นก็ได้ถอยออกไปอย่างรวดเร็ว เห็นได้ชัดว่าเกรงว่าเยี่ยจงจะลงมือต่อเขาอย่างกะทันหัน

 

ฉากที่เกิดขึ้นทำให้เยี่ยจงหัวดำขึ้นมาเป็นสาย เด็กน้อยเหล่านี้มีท่าทีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วอย่างถึงที่สุด ช่างไม่สมควรที่จะเชื่อใจพวกเขาได้แม้แต่คำพูดเลยนิดเดียว

 

จู่ๆ ใบหน้าก็ดำขึ้นมา ร่างกายก็ได้เดินหายเข้าไปภายในกลุ่มฝูงชน เยี่ยจงก็ได้เข้าไปรวมตัวกับท่ามกลางเหล่ายอดฝีมืออีกครั้ง และในครั้งนี้เขาก็ได้เกิดความระมัดระวังขึ้น ไม่ทำให้รังสีภายในร่างกายแผ่พุ่งออกมาสู่ภายนอก เป็นเหมือนดุจดั่งบุคคลธรรมดาก็มิปาน จนมิอาจเป็นที่ดึงดูดอันใด

 

ท่ามกลางสถานที่แห่งนี้ก็ได้เกิดความคึกคักขึ้นมา มีผู้คนมากมายต่างก็ได้เหม่อมองไปทางด้านของศิลาตะวันบริสุทธิ์ เพียงแต่ว่าในขณะนี้ ศิลาตะวันบริสุทธิ์นั้นกลับยังมิได้มีความเปลี่ยนแปลงอันใด แต่ว่าต่อให้เป็นเช่นนี้ก็ตาม ก็ยังมียอดฝีมือของชนเผ่าโบราณปรากฏตัวขึ้นมา

 

สมิงรุ่งโรจน์ พยัคฆ์อสรพิษ ยินเจา (หัวเป็นมนุษย์เป็นพยัคฆ์มีปีกอินทรีย์) รวมไปจนถึงสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งจากแต่ละสารทิศ ต่างก็ได้ปรากฏตัวขึ้นมาอยู่ท่ามกลางสถานที่แห่งนี้ สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ถือได้ว่ามีความแข็งแกร่งมากมายอย่างเต็มสิบส่วน ขณะนี้ถึงแม้ว่าจะอยู่ในร่างของมนุษย์อยู่มากมาย แต่ว่าพลังภายในร่างกายของพวกเขาก็เรียกได้ว่าสามารถทำให้ผู้คนจำแนกออกมาได้อย่างชัดเจน ว่าพวกเขานั้นที่แท้แล้วมาจากเผ่าพันธุ์ใด

 

และสิ่งมีชีวิตเหล่านี้มีความแข็งแกร่งอย่างมากมายเต็มสิบส่วน ร่างกายแต่เดิมของพวกเขานั้นอยู่ในระดับที่เกินกว่าที่เรียกได้ว่าปกติธรรมดา มีความสำเร็จห่างไกลจากเผ่ามนุษย์ ในเวลาเดียวกันต่างก็ถือได้ว่ามีพรสวรรค์ของเผ่าพันธุ์ของตนเอง ที่เรียกได้ว่าแข็งแกร่งอย่างมาก การปรากฏตัวของสิ่งมีชีวิตกลุ่มนี้ ทำให้ผู้ต่างก็รู้สึกเกรงขามเป็นอย่างมาก

 

ทว่า ยอดฝีมืออันดับหนึ่งเหล่านี้ต่างก็ถือได้เป็นระดับชนชั้นแนวหน้า แต่ทว่าก็ยังมิอาจที่จะจัดได้ว่าอยู่ระดับที่โดดเด่นได้ นั้นก็เพราะว่าบุคคลเช่นนั้นถือได้ว่าอยู่เกินกว่าคำว่าธรรมดาไปมาก ถ้าเกิดยังไม่ถึงช่วงเวลาคับขัน ก็ไม่อาจที่จะแสดงตัวออกมาอย่างง่ายดาย

 

“เอ๊ะ นั้นคือชาวชุดเขียวแห่งหุบเขาเทพเมฆาเขียว ถือได้ว่าเป็นชนชั้นโดดเด่นได้อย่างแท้จริง เป็นดั่งผู้กล้าแห่งยุค กล่าวกันว่าอายุยังน้อยๆ กันอยู่ก็อยู่ในระดับราชันได้แล้ว ไม่ธรรมดาอย่างถึงที่สุด ในครั้งนี้กล่าวกันว่าเป็นเพราะมีส่วนเกี่ยวข้องกับสุดยอดรุ่นเยาว์เยี่ยจง คิดไม่ถึงว่าถึงจะมาปรากฏตัวขึ้นมาในสถานที่แห่งนี้ได้”

 

ในระหว่างที่ช่วงเวลาได้ไหลเวียนผ่านไป ก็ได้เริ่มที่จะมีบุคคลที่โดดเด่นขึ้นมาปรากฏขึ้นมา ไม่นานนัก ท่ามกลางกลุ่มคนก็ได้มีคนเอ่ยปากขึ้นมา ภายในน้ำเสียงแฝงเอาไว้ด้วยความประหลาดใจขึ้นมา

 

เยี่ยจงกวาดสายตาจ้องมองไปยังผู้คนมากมาย จนกระทั่งมองเข้าไปยังชายหนุ่มที่สวมเอาไว้ด้วยอาภรสีเขียวผู้หนึ่ง เขาอย่างมากก็มีอายุเพียงแค่ยี่สิบเอ็ดยี่สิบสองปี มีผิวพรรณขาวผ่องประดุจหยก เส้นผมบนศีรษะลอยระบำไปมา ประกายสายตาแฝงเอาไว้ด้วยประกายสายฟ้า ในเวลาเดียวกันใต้เท้าของเขาก็ได้เหยียบอยู่ด้านบนหอกยาวสีเขียวด้ามหนึ่ง หอกยาวนั้นก็ได้แผ่กระจายประกายแสงเย็นเยียบออกมาเป็นสาย เขานั้นได้ลอยอยู่ท่ามกลางอากาศเหนือพื้นผิว สง่างามอย่างไม่อาจปิดบังเอาไว้ได้ ไร้ข้อกังขาอย่างถึงที่สุด

 

“หุบเขาเทพเมฆาเขียว อัจฉริยะอาภรเขียว ! “เยี่ยจงทอสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมา บนร่างกายของเขาในตอนนี้ เขายังพอที่จะสามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่เป็นอันตรายออกมาได้ชนิดหนึ่ง นี้ถือได้ว่าเป็นผู้กล้าที่อยู่ในชนชั้นโดดเด่นได้อย่างแท้จริง อย่างน้อยก็จะต้องเป็นสุดยอดรุ่นเยาว์อันดับหนึ่งแห่งหุบเขาเทพเมฆาเขียว บุคคลเช่นนี้ย่อมต้องมีความมั่นใจในตนเองสูงล้ำอย่างยิ่ง ผู้คนทั่วไปไม่อาจที่จะต่อต้านได้ ต่อให้เยี่ยจงมีความมั่นใจในตนเอง แต่ถ้าหากว่าพบพานบุคคลเช่นนี้ ก็จำเป็นที่จะต้องระวังเอาไว้ ไม่อาจที่จะมองไปเพียงถ่ายเดียว

 

“แล้วนั้นเป็นผู้ใดกัน ! ? “

 

ท่ามกลางอากาศ ก็ได้มีชายหนุ่มผู้หนึ่งสวมไว้ได้ชุดสีเงินค่อยๆ ย่างกรายเข้ามา บนศีรษะของเขาได้เต็มไปด้วยเส้นผมสีเงินยาวไปจนถึงด้านหลัง ดุจดั่งหางม้า บริเวณด้านบนของหางม้าได้ประดับไว้ด้วยกำไรสีเงิน ในช่วงเวลาที่เขาเดิน ก็จะเกิดเสียงดังขึ้น

 

คนผู้นี้เห็นได้ชัดว่าเป็นชายหนุ่มผู้หนึ่ง แต่ขนคิ้วของเขานั้นกลับทอเป็นประกายเย็นเยียบประดุจสตรีเพศชนิดหนึ่ง บนร่างกายสวมเอาไว้ด้วยที่ชุดสีเงินที่มองไม่ออกว่ามีลักษณะที่แตกต่างอันใด จนทำให้ผู้คนมีแววตาประหลาดพิกล

 

บุคคลเช่นนี้ หากว่าปรากฏขึ้นมาตามช่วงเวลาปกติ แน่นอนว่าจะต้องถูกผู้คนนับไม่ถ้วนเย้ยหยัน แต่ว่าในตอนนี้ บรรยากาศรอบตัวของเขานั้นกลับกลมกลืนเข้ากับเหล่าอาภรณ์เขียวขจีเหล่านั้นแห่งหุบเขาเทพเมฆาเขียว จนทำให้ผู้คนไม่กล้าแม้แต่จะสบตามอง

 

“ข้าทราบแล้ว คนผู้นี้สมควรที่จะต้องเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งสำนักหวูหว่างจากดินแดนหนานฮวง หยินหลิงจื่อ มีความแข็งแกร่งอย่างมาก ในตอนนี้อย่างน้อยก็คงจะมาเพื่อซิงผู้นั้นกระมั่ง ? นั้นก็เพราะว่าเหตุการณ์ก่อนหน้าสำนักหวูหว่างได้พลาดท่าครั้งใหญ่ภายใต้น้ำมือของซิงไป แม้แต่อัจฉริยะอันดับสองหยินจวอ

ที่เป็นพี่ชายของเขาเอง กลับถูกซิงฆ่าสังหารลง ! “

 

หลังจากนั้นไม่นาน ก็ได้มีคนคิดขึ้นมาได้ในทันที แล้วก็ได้ระบุสถานะของคนผู้นี้ออกมา นั้นก็เพราะว่าคนผู้นี้นั้นมีสถานะที่พิเศษ อีกทั้งยังอยู่เหนือความสามัญธรรมดาจนมากเกินไป จนถึงบัดนี้ก็ได้มีคนมากมายคิดขึ้นมาได้ไม่น้อย แต่ก็คิดไม่ถึงว่าเขายังถึงกับปรากฏตัวขึ้นมาในบริเวณสถานที่แห่งนี้ได้

 

“ซูม——”

 

ท่ามกลางอากาศ ทันใดนั้นก็ได้ก่อเกิดสายลมบ้าคลั่งขึ้นมา ร่างกายของชายหนุ่มเผ่าปีกผู้หนึ่งที่มีปีกคู่สีทองอยู่บนหลังก็ได้ปรากฏขึ้นมาท่ามกลางอากาศ คนผู้นี้กลับเป็นคนรู้จักของเยี่ยจง แท้ที่จริงแล้วก็คืออัจฉริยะที่มาจากเผ่าปีกแห่งดินแดนตงฮวง จินยี่

 

“จินยี่ คิดไม่ถึงว่าเขาก็มาแล้วเช่นกัน ! ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ค่อยมีชื่อเสียงภายในดินแดนซีฮวงมากนัก แต่ว่าก็เพียงพอที่จะเรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะเผ่าปีกแห่งดินแดนตงฮวงได้ จะอ่อนแอไปได้เช่นไรกัน ? ยิ่งไปกว่านั้น ท่ามกลางเผ่าปีก ยอดฝีมือที่มีปีกทองนั้น เรียกได้ว่าเป็นผู้ที่สืบเชื้อสายจากราชันก็ว่าได้ เพียงแค่ดูในความข้อนี้ก็ทราบได้แล้วว่าไม่ธรรมดาถึงเพียงใด ! กล่าวกันว่าเผ่าปีกในดินแดนซีฮวงได้ตายตกภายใต้น้ำมือของสุดยอดรุ่นเยาว์เยี่ยจงไป ไม่ทราบว่าบุคคลผู้นี้ใช่บุคคลที่พวกเขาเชื้อเชิญมาหรือไม่ เพื่อที่จะจัดการกับสุดยอดรุ่นเยาว์เยี่ยจง ! “

 

“กล่าวได้ยาก ทว่าในครั้งนี้เพราะเหตุใดถึงไม่พบเห็นกับสุดยอดรุ่นเยาว์เยี่ยจงกัน หากกล่าวกันตามเหตุผล และการทำนายทายทักของท่านบัญชาสวรรค์ อย่างน้อยเขาจะต้องปรากฏกายขึ้นมาในที่แห่งนี้แน่ ! “

 

“น่าจะปรากฏตัวขึ้นแล้ว ทว่าเขาก็มิใช่คนโง่เขลา น่าจะสมควรเก็บซ่อนสถานะเอาไว้ นั้นก็เพราะว่าถ้าหากทำเช่นนี้ จึงจะพอที่จะสามารถรักษาความปลอดภัยของเขาเอาไว้ได้ ใช่หรือไม่ ? “

 

“โครม——”

 

ผู้คนมากมายต่างก็กลอกตาขึ้นรอบหนึ่ง ทันใดนั้นเองก็ได้มีประกายแสงอัสนีสายหนึ่งไหลเวียนออกมา จากนั้นก็ได้กลายเป็นตราอักขระสายฟ้าสายหนึ่ง รวมตัวกันไว้อยู่บนท่ามกลางอากาศ อักขระสายฟ้าสทั้งหมดนั้นก็ได้กระจุกอยู่ในบริเวณเดียวกัน จากนั้น ชายหนุ่มที่สวมเอาไว้ด้วยชุดฝึกยุทธ์สีดำผู้หนึ่งก็ได้ค่อยๆ เดินออกมา เขามีประกายสายฟ้าทอเป็นประกายอยู่ตามเส้นผม ทุกๆ แห่งหนที่เขากวาดตาเข้าไป ต่างก็ได้แฝงเอาไว้ด้วยประกายสายฟ้าอันโกรธเกรี้ยวเอาไว้ไม่หยุดนิ่ง มีความไม่ธรรมดาสามัญอย่างเต็มเปี่ยม จนทำให้ผู้คนไม่อาจที่จะคาดคิดเอาไว้ได้

 

“คนผู้นี้ก็คือม่อเหร่ยจื่อแห่งตำหนักอัสนีลี้ลับงั้นหรือ ? ว่ากันว่า คนผู้นี้ได้สำเร็จจนถึงระดับขั้นราชันไปแล้ว ไม่เพียงแค่นั้นเขายังสำเร็จทักษะเซียน มนตราเทพ อีกมีต้นพลังมาจากอัสนีแทบทั้งสิ้น ช่วงเวลาเพียงลัดนิ้วมือ พลังอัสนีก็ได้รวมตัวกันขึ้น มีความน่าหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด แล้วก็ได้มีวิชาอัสนีจากตำหนักอัสนีลี้ลับ

รวมตัวอยู่บนร่างกายของเขาอย่างนับไม่ถ้วน บุคคลเฉกเช่นนี้ นับตั้งแต่ช่วงเวลาที่เขาเก็บตัวไม่ยุ่งเกี่ยวกับโลกภายนอกมาโดยตลอด ดูเหมือนว่า ดินแดนขนาดเล็กของศิลาตะวันบริสุทธิ์ในครั้งนี้ ถือได้ว่าดึงดูดผู้คนเขามาอย่างมากมายนับไม่ถ้วนได้อย่างแท้จริง ! “

 

“แต่ว่า เขาก็มาเพื่อเยี่ยจงเช่นเดียวกันอย่างงั้นหรือ ? ในเมื่อตำหนักอัสนีลี้ลับยังไงเสียก็ย่อมมีส่วนเกี่ยวข้องเกี่ยวกับการล่มสลายของลัทธิแห่งดวงดาว ตอนนี้เยี่ยจงได้หลบหนีไปได้ อีกทั้งก่อนที่จะจากไปยังสังหารอัจฉริยะรุ่นเยาว์ของพวกเขาไป ตำหนักอัสนีลี้ลับคงยากที่จะอยู่อย่างสงบได้ ! “

 

ยอดฝีมือมากมายต่างก็ถกอย่างออกอรรถรส บุคคลที่โดดเด่นเช่นนี้ อีกทั้งยังมีการปรากฏตัวของผู้กล้ามากมาย แน่นอนว่าย่อมต้องเกิดการต่อสู้ที่สั่นสะเทือนไปทั่วฟ้าดินอย่างแน่นอน การเผชิญหน้าครั้งใหญ่ แค่คิดคิดดูก็ตื่นเต้นแล้ว

 

แต่ว่าก็ได้มีผู้คนส่วนหนึ่งขมวดคิ้วขึ้นมา อีกทั้งยังมีสีหน้าที่ปั้นยากขึ้นมาอยู่หลายส่วน การเปิดขึ้นมาของดินแดนขนาดเล็กของศิลาตะวันบริสุทธิ์ในครั้งนี้ อีกทั้งยังมิได้มีข้อจำกัดจนเกินไป ผู้มีพลังฝึกปรือโดยส่วนมากต่างก็สามารถที่จะข้ามผ่านไปได้ เมื่อกล่าวถึงด้านพลังฝีมือ จากการรวมตัวกันของอัจฉริยะอย่างมากมายในครั้งนี้เรียกได้ว่ามิใช่เรียกที่ดีอะไร นั้นก็เพราะว่าทำให้พวกเขาสัมผัสได้ถึงโอกาสที่จะสูญเสียไปอยู่ไม่น้อย อีกทั้งยังมิอาจที่จะเทียบได้กับกลุ่มผู้กล้าเหล่านี้ รวมไปถึงการช่วงชิง

 

แล้วช่วงเวลาก็ได้ผ่านไปยังไม่ถึงหนึ่งถ้วนน้ำชาเดือด ในครั้งนี้ ท่ามกลางอากาศทันใดนั้นก็ได้ปรากฏพระจันทร์เสี้ยวส่องสกาวสว่างวาบขึ้นมา ภายใต้ประกายจากแสงจันทร์ ก็ได้มีหญิงสาวชุดขาวนางหนึ่งปรากฏตัวขึ้นมา ทั่วทั้งร่างกายของรางปกคลุมเอาไว้ด้วยเมฆหมอก จนทำให้ผู้คนไม่อาจที่จะพบเห็นได้ แต่ว่าต่อให้เป็นเช่นนี้ก็ตาม ผู้คนมากมายต่างก็สามารถมองสิ่งที่ซ่อนเร้นเอาไว้ได้ นางมีผิวพรรณประดุจน้ำแข็งขาวประดั่งหยกกระดูก ไม่อาจเป็นที่สองรองใคร

 

“นี้ ราวกับว่าเป็นผู้กล้าหญิงอันดับหนึ่งแห่งเผ่าซือ เยว่จิ่ง ว่ากันว่านางเกิดในวันเดือนเสี้ยว ถือได้ว่าเป็นสุดยอดรุ่นเยาว์อันดับหนึ่งแห่งเผ่าซือ ในเวลาเดียวกันผู้คนที่เคยพบพานโฉมหน้าที่แท้จริงของนาง ต่างก็กล่าวกันว่านางนั้นมีความงดงามเหนือสี่คาบสมุทร ไม่มีสองรองใด ต่อให้เป็นดินแดนซีฮวง ก็น้อยนักที่จะมีผู้คนที่จะสามารถเทียบเคียงได้ ! “มีคนทอสีหน้ายกย่องขึ้นมา กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเลื่อมใส

 

“ผู้ใดกล่าวกัน นางเซียนชิงหญิง หญิงเทพโหยวเหลียน มีคนใดบ้างที่ไม่อาจล้มเมืองล้มรัฐได้กัน ไม่มีสองรองใดอะไรกัน ! ? “

 

“หากมิได้ปรากฏขึ้นมาในเวลาเดียวกัน ก็ยากที่จะแบ่งแยกความสูงต่ำได้ ! “มีคนถอนหายใจออกมา อดไม่ได้ที่จะพิจารณ์ขึ้นมา ในขณะนี้ก็ได้เกิดการรวมตัวกันเพื่อถกถึงเรื่องนี้ขึ้นท่ามกลางสถานที่แห่งนี้ แน่นอนว่าย่อมต้องทำให้เกิดความแตกตื่นตกใจขึ้นมาภายในจิตใจ เพียงแต่น่าเสียดายที่บุคคลโดยทั่วไปไม่อาจที่จะพบเจอได้

 

หลังจากที่ผ่านไปอย่างรวดเร็วแล้ว ยังมีเผ่าต่างๆ บุคคลรุ่นเยาว์ที่โดดเด่นจากแดนลับแล ผู้กล้า อัจฉริยะปรากฏตัวขึ้นมาติดต่อกันโดยมิได้นัดหมาย ไม่ว่าจะเป็นคนใดต่างก็ถือได้ว่ามีความแข็งแกร่งอยู่เต็มสิบส่วน มีบางคนที่บนร่างได้แผ่พลังความน่าหวาดกลัวขึ้นมา เมื่อได้พบเห็นถึงพลังรังสีจากเหล่าชนชั้นราชัน แต่ว่าอีกทางด้านหนึ่งก็ได้เก็บงำประกายเอาไว้ ประดุจดั่งบุคคลชนชั้นธรรมดาก็มิปาน ทำให้ผู้คนยากที่จะล่วงรู้ความลึกซึ้งได้

 

จากการปรากฏตัวติดต่อกันของบุคคลเหล่านี้ ยอดฝีมือโดยส่วนมากของอาณาจักรเหยียนก็เริ่มที่จะหน้าชาขึ้นมา ตอนนี้สามารถกล่าวได้ว่าสุดยอดฝีมืออันดับหนึ่งรุ่นเยาว์จากทั่วทั้งสี่ดินแดนต่างก็มากันเกือบครบแล้ว นั้นก็เพราะว่าการแย่งชิงเช่นนี้ ในครั้งหนึ่งก็ยากที่จะพบเจอได้ในหลายร้อยปี การที่สามารถเข้ามาสัมผัสประสบการณ์เช่นนี้โดยตรงด้วยตนเองเช่นนี้ ก็ถือได้ว่าเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าที่หาได้ยากยิ่งอย่างหนึ่ง

 

“การรวมตัวกันอย่างมากมายของอัจฉริยะเหล่านี้ เรียกได้ว่าเป็นการชุมนุม พบปะของเหล่าผู้กล้า การประชันของผู้โดดเด่น ที่ถือได้ว่ามีความน่าหวาดกลัวนับไม่ถ้วน ยากที่จะคาดคิดเอาไว้ได้ ! “

 

“เจียงซาน (หุบเขาเจียงซาน) ประดุจภาพวาด ชั่วเวลาเพียงครู่เดียวก็ได้ปรากฏผู้กล้ามากมาย ชีวิตคนเราประดุจความฝัน ถามหาผู้ใดที่อยู่เหนือฟ้าดิน ! การแย่งชิงในครั้งนี้ แน่นอนว่าย่อมต้องเป็นที่จับตามอง เล่าขานจากวันนี้ตราบจนกาลนาน ! “

 

“ในขณะที่ดินแดนขนาดเล็กภายในศิลาตะวันบริสุทธิ์เปิดขึ้นมา คนเหล่านี้อย่างน้อยก็คงจะต้องเข้าปะทะกัน ยากที่จะคาดคิดเอาไว้ได้ ภายหลังจากนี้แล้วละก็ จะมีผู้คนหลงเหลืออยู่อีกมากถึงเพียงใดกัน ! “

 

“นี้ก็เป็นเหมือนกับบททดสอบบทหนึ่ง แล้วก็ถือได้ว่าเป็นการแย่งชิงเพียงครั้งหนึ่ง ! ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ผู้ที่สามารถครอบครองชัยชนะในครั้งนี้ได้ วันหน้าย่อมต้องกลายเป็นราชันจักรพรรดิทั่วทั้งสี่ดินแดนอย่างแน่นอน ! “

 

เลือดภายในร่างกายของยอดฝีมือทั้งหมดต่างก็ร้อนระอุขึ้นมา ท่ามกลางการต่อสู้ครั้งใหญ่เช่นนี้ เรียกได้ว่าอยู่นอกเหนือความคาดหมายอย่างถึงที่สุด จนทำให้เขาเองก็เกิดแววตาที่แดงก่ำขึ้นมามิได้ !

 

“เอ๊ะ ? มีอัจฉริยะปรากฏตัวขึ้นมาอีกแล้ว ! คนผู้นี้คงมิใช่เป็นผู้ที่มาจากหุบเขาจิ้งจอกแห่งดินแดนเป่ยฮวงจิ้งจอกเก้าฟ้าเก้าหางซูม่อหยงอย่างงั้นหรอกนะ ? “ท่ามกลางความดุเดือดที่เกิดขึ้นมา เมื่อได้เหม่อมองไปที่การปรากฏตัวของปีศาจสาวทรงเสน่ห์ผู้นี้ขึ้น นางมีดวงตาประดุจภาพวาด แววตาประดุจดวงดาวชั้นฟ้า ร่างกายอ้อนแอ้นชดช้อย เอวเล็กบางได้รูป ไหล่ที่เผยออกมาทั้งสูงได้รูปและขาวเนียน บนร่างกายก็ได้มีกลิ่นหอมหวนอันเย็นเยียบขึ้นมา จนทำให้ผู้คนเพียงแค่มองเข้าไปเพียงคราเดียว ต่างก็รู้สึกได้สัมผัสได้จนดวงตาละลาน มองจนตาค้าง

 

“การรวมตัวของแม่น้ำหลายร้อยสาย ก่อเกิดความคลื่นการแก่งแย่งชิงเอาไว้ ! “

 

ต่อให้ในตอนนี้เยี่ยจงได้ซ่อนเร้นอยู่ท่ามกลางภายในกลุ่มผู้คน ก็ยังอดไม่ได้ที่จะต้องถอนหายใจออกมา การปรากฏตัวของบุคคลเหล่านี้ถือได้ว่ามีความไม่ธรรมดาที่อยู่นอกเหนือความคาดหมายเอาไว้ ทำให้ผู้คนยากที่จะคาดคิดเอาไว้ได้ ไม่อาจที่จะไม่เกิดความหวั่นไหวขึ้นมาได้ นั้นก็เพราะว่าในสถานที่แห่งนี้ไม่ว่าจะเป็นบุคคลใดบุคคลหนึ่งปรากฏตัวขึ้นมา ต่างก็ถือได้ว่าส่งผลกระทบไปทั่วทั้งรัฐได้เลย ยิ่งไปกว่านั้นในตอนนี้ยังถึงกับปรากฏตัวออกมาอย่างมากมายถึงเพียงนี้ !

.

.

.

.

กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น กลุ่ม 5-12 ราคา 650

VIP5 https://goo.gl/ekcF7V

VIP6 https://goo.gl/4rqw89

VIP7 https://goo.gl/qrQ7GA

VIP8 https://goo.gl/Uzqf2x

VIP9 https://goo.gl/1jPZtn

VIP10 https://goo.gl/L8awva

VIP11 https://goo.gl/rojEiG

VIP12 https://1th.me/o9CD

ช่องทางการโอนเงิน https://goo.gl/MnYB81

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset