เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 416 พ่ายแพ้ติดต่อกัน

ตอนที่ 416 พ่ายแพ้ติดต่อกัน

 

 

“ตูม——”

 

ปีกคู่สีทองในตอนนี้ก็ได้ร่ายรำเคลื่อนไหว ค่อยๆสั่นไหวไปมา จนเกิดคมกระบี่ขึ้นท่ามกลางอากาศขึ้นมานับไม่ถ้วนประดุจสายรุ้งยาวก็มิปาน ในตอนนี้ก็ได้พวยพุ่งออกมา มุ่งหน้าเข้าสังหารไปบริเวณทางด้านของเยี่ยจง…….คมกระบี่สายทุกๆสายถือได้ว่าแฝงเอาไว้ด้วยพลังความน่ากลัวเอาไว้ จนพอที่จะสามารถสะบัดกายเนื้อของยอดฝีมือระดับราชันได้อย่างง่ายดายเลยทีเดียว

 

โลหิตราชันเผ่าปีก น่าหวาดกลัวถึงเพียงนี้เชียว !

 

เยี่ยจงทอสีหน้าสงบนิ่งเหม่อมองไปยังการโจมตีที่ได้พวยพุ่งเข้ามา จิตใจของเขาในตอนนี้สงบอย่างยิ่ง สภาพจิตใจดูราวกับมีครุ่นคิดบางอย่างอยู่ ตนเองนับตั้งแต่สำเร็จขั้นราชัน ท้ายที่สุดก็ได้พลังลมปราณเปลี่ยนแปลงเทวะมา ตลอดมานี้เขารู้สึกได้ถึงความแปลกประหลาดอยู่ชนิดหนึ่ง วกับว่าตนเองสมควรทราบเกี่ยวกับบางอย่างอยู่ก็มิปาน

 

แต่ว่าจนกระทั่งหลังจากที่ได้ปะทะเข้ากับบุตรมารอัสนี เขาจึงได้ค่อยครุ่นคิดถึงเรื่องนี้ แสงจันทร์ส่องผิวสมุทร ความแข็งแกร่งของพลังลมปราณเปลี่ยนแปลงเทวะนี้ ไม่เพียงแต่แค่ในตอนนี้ที่มันได้ปรากฏขึ้นมาเท่านั้น นับแต่ตั้งเริ่มจากพลังลมปราณเปลี่ยนแปลงเทวะ มันก็เหมือนดั่งมโนภาพของวิทยายุทธ์ขึ้นมาโดยตลอด

 

ความเปลี่ยนแปลงเทวะ กลับมิได้เป็นเพียงแค่พลังลมปราณเท่านั้น เพียงแต่เกิดความหมุนเวียนที่ใกล้ชิดอย่างยิ่ง รวมไปจนถึงความเปลี่ยนแปลงภายนอก จากเดิมที่มีความเปลี่ยนแปลงเพียงเพิ่มระดับขึ้นอย่างเดียว เพียงแต่ว่า ท่ามกลางการต่อสู้ครั้งใหญ่ กลับทำให้เหมือนเกิดความเปลี่ยนแปลงแจ้งเตือนขึ้นมา ต่อให้เป็นเยี่ยจงเอง ตอนนี้ก็ยังไม่ทราบว่าที่แท้แล้วเกิดความเปลี่ยนแปลงในแบบใดกันแน่

 

ในขณะนี้เอง เยี่ยจงก็ได้หมุนเวียนพลังอักขระโบราณของคัมภีร์กฎแห่งสวรรค์ขึ้นมาในห้วงสมองอย่างรวดเร็ว แล้วก็ได้เกิดเสียงคำสวดดังขึ้นมาเป็นสาย ในช่วงระหว่างความเป็นตาย เยี่ยจงถึงกับมาเข้าสู่ภายในสัจธรรมแห่งความคิดที่เต็มไปด้วยความน่าประหลาดภายในจิตใจของเยี่ยจงเอง

 

ขณะนั้นเอง เยี่ยจงก็ได้เคลื่อนไหว เขาพลิกใช้ออกมาด้วยพลังดัชนีทางด้านของมือขวา จนก่อเกิดพลังอักขระจูเชวียนขึ้นมาในตอนนี้อย่างพวยพุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าเข้าโจมตีไปยังคมกระบี่ที่มาจากทางด้านบนท้องนภา

 

“ติง——”

 

เกิดเสียงสดใสดังขึ้น คมกระบี่ก็ได้แตกสลาย และในเวลาเดียวกันนี้ ก็ได้เกิดคมกระบี่มากมายนับไม่ถ้วนขึ้นมาแปรเปลี่ยนจนไร้สภาพขึ้นมาในเวลาเดียวกัน ในระหว่างที่ใช้พลังของเยี่ยจงเข้าปะทะ จนกระทั่งพบเห็นภาพไร้ลักษณ์ขึ้น จนสลายกระบวนท่าจากต้นตอเดิมของกระบวนท่าปีกทองนี้ เรียกได้ว่าเป็นการสลายกระบวนท่าได้อย่างสมบูรณ์แบบ

 

“อะไรกัน ? ถูกกับมีการรับมือที่ง่ายดายได้ถึงเพียงนี้เชียว ถึงกับสลายกระบวนท่าสังหารปีกทองคำได้ด้วยงั้นหรือ ? ”

 

“น่าแปลกอย่างยิ่ง เพียงแต่ว่าเป็นเพียงอักขระเรียบง่ายเท่านั้นเอง แต่ว่ากลับมีมีความสามารถในการสลายได้อย่างสมบูรณ์แบบยิ่งนัก、ผลลัพธ์เทวะจากพลังหนึ่งสองแปรเป็นพันชั่ง ช่างน่าหวาดหวั่นเสียจริง ! ”

 

“อีกทั้ง ท่าทางของซิงดูน่าแปลกอย่างยิ่ง เขาราวกับกำลังท่องบทสวดอยู่งั้นหรือ ! ? ”มีคนกล่าวออกมาด้วยความตกใจอย่างกะทันหัน อีกทั้งยังทอสีหน้าประหลาดขึ้นมาอย่างถึงที่สุด

 

ในขณะนี้เอง ก็ได้มีอัจฉริยะผู้โดดเด่นนับไม่ถ้วนแต่ละคนต่างก็ทอสีหน้าประหลาดขึ้นมา เหม่อมองเข้าไปในการต่อสู้ที่ไม่มีการลงมือต่อ เพียงแต่จดจ่อสภาพที่ปรากฏขึ้นมาท่ามลกางอากาศของ“ซิง” จนเกิดความหวั่นไหวขึ้นมาภายในใจ

 

การแสดงการไหลเวียนของอักขระของ“ซิง”ในตอนนี้、กลับมิได้มีความแปลกประหลาดที่น่าแปลกใจแต่อย่างไร แต่ว่าเมื่อมองอย่างดีแล้ว ภายในร่างกายของเขากลับได้เริ่มต้นที่จะแผ่กระจายบรรยากาศชนิดหนึ่งออกมา จนทำให้อัจฉริยะเหล่านี้มองดูจนไม่กล้าที่จะกระพริบตา

 

“ซิงผู้นี้ คงจะไม่ใช่กำลังสัมผัสสู่เส้นทางแห่งพลังของตนเองอยู่หรอกนะ ? ”มีคนร้องเสียงหลงออกมา ภายในน้ำเสียงแฝงเอาไว้ความแตกตื่น “ซิง”เบื้องหน้าสายตา ถือได้ว่ามีพลังฝีมือในระดับเดียวกับพวกเขา ต่างก็อยู่ในระดับราชัน ถึงแม้อายุจะไม่ต่างกันมากนัก แต่ว่าถึงกับกำลังสัมผัสสู่เส้นทางแห่งพลังของตนเองอยู่งั้นหรือ ? นี้เป็นไปได้อย่างไรกัน ? ควรทราบว่า มีเฒ่าประหลาดโบร่ำโบราณอยู่ไม่น้อย ต้องลำบากลำบนนับร้อยปีเพื่อเข้าสู่การสัมผัส แต่ก็ใช่ว่าจะสามารถค้นหาหนทางของตนเองได้

 

ท่ามกลางอากาศ ภายในดวงตาของจินยี่ก็ได้ทออาการแปลกใจขึ้นมา บนร่างกายของเยี่ยจงในตอนนี้ก็ได้แผ่กระจายพลังออกมา จนทำให้เขามีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้น นั้นก็เพราะว่า เมื่อครู่เยี่ยจงได้ใช้พลังฝีมืออันน่าประหลาดอย่างมากในการสลายพลังของเขา ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งความเที่ยงแท้

 

“บุคคลเช่นนี้ หากว่าปล่อยให้ผงาดขึ้นมา จะต้องกลายเป็นวีรบุรุษผู้กอบกู้ของเผ่าพันธุ์มนุษย์อย่างแน่นอน หากมองในมุมมองของข้าแล้ว ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ไม่ดีนัก ”จินยี่กล่าวออกมาเสียงแผ่วเบา กระนั้นเขาก็ยังคงขยับทั้งสองมือขึ้น ขยับสยายปีกทางด้านหลังปีกคู่สีทองอย่างรวดเร็ว จนก่อเกิดประกายเพลิงกาฬขึ้นท่ามกลางอากาศเป็นสาย เปลี่ยนแปรกลายเป็นปีกกระบี่ขนาดยักษ์ขึ้นมาด้ามหนึ่ง มุ่งหน้าเข้าสังหารไปบริเวณทางด้านหน้าออกไป เข้ากดดันออกไป

 

“เบิกให้ข้าซะ ! ”

 

เยี่ยจงในขณะนี้เองก็ได้ลืมตาขึ้นมาในพริบตา แต่ว่าภายในดวงตาของเขากลับทอแววตาสุกใสขึ้นมาเป็นสาย ถึงแม้เพียงแต่ว่าจะเป็นเพียงชั่วขณะเท่านั้น แต่ว่าเขาได้แตกต่างจากเมื่อครู่โดยสิ้นเชิง ในตอนนี่เขาก็ได้ผสานรอยตราบนฝ่ามือทั้งคู่ขึ้น มุ่งหน้าฟาดออกไปท่ามกลางท้องนภาสูง

 

“ซูม——”

 

แล้วก็ได้ปรากฏจูเชวียนพวยพุ่งออกไป จนกลายเป็นนกกระสาสีแดงเพลิงตนหนึ่งพวยพุ่งขึ้นไปสู่ท้องฟ้า แล้วก็ได้เข้าปะทะกันเข้าปีกทองเข้าด้วยกันอย่างรุนแรง ระหว่างวินาทีนั้นเอง ที่ข้างใบหูก็ได้มีเสียงดังลอดออกมา จนก่อเกิดอักขระมากมายนับไม่ถ้วนแตกกระจายอยู่ท่ามกลางอากาศ จนทำให้ทั่วทั้งฟ้าดินในตอนนี้เกิดการสั่นสะเทือนขึ้นมาเล็กน้อย อัจฉริยะผู้โดดเด่นนับไม่ถ้วนต่างก็เกิดอาการตกใจขึ้นมาในเวลาเดียวกัน บนใบหน้าก็ได้แสดงออกมาถึงอาการแตกตื่นขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ

 

การปะทะกันเช่นนี้ถือได้ว่าน่าหวาดกลัวอย่างมากแล้ว ทั้งสองฝ่ายต่างก็มิได้อ่อนข้อให้แก่กันแม้แต่น้อย ในการลงมือครั้งแรก ต่างก็ใช้ออกมาด้วยพลังฝีมือที่น่ากลัวที่สุดของตนเองออกมา การปะทะกันด้วยกระบวนท่าเช่นนี้ราวกับสามารถแบ่งผลแพ้ชนะออกมาได้ในทันทีก็มิปาน

 

ในขณะหลังจากนั้นเอง ท่ามกลางบนอากาศก็ได้เกิดการแตกแยกออกมา การโจมตีทั้งสองสายก็ได้แตกสลายไปท่ามกลางอากาศในเวลาเดียวกัน แต่ว่าในขณะนี้เอง ร่างกายของจินยี่ก็ได้สั่นเทาขึ้นมาเล็กน้อย จากนั้นเขาก็ได้ยกฝ่ามือขึ้นมา แล้วก็ได้พบว่าบริเวณใจกลางฝ่ามือของเขาก็ได้ปรากฏคราบโลหิตสีทองสดขึ้นมา ค่อยๆที่จะหยดลงมา

 

และเยี่ยจงยังคงมือไพล่หลังอยู่กับที่ด้วยสีหน้าเย็นเยียบ มิได้มองเข้าไปที่จินยี่อีก

 

“จินยี่เผ่าปีก กระนั้นถึงกลับพ่ายแพ้ไปครึ่งกระบวนท่างั้นหรือ ? ”หลังจากที่ผ่านไปอย่างยาวนาน ผู้คนมากมายต่างก็ถอนหายใจออกมาด้วยอาการตกใจคำหนึ่ง มองออกถึงความข้อนี้ การปะทะกันเมื่อครู่นี้เป็นที่แน่ชัดได้ว่าได้ปรากฏผลแพ้ชนะออกมาแล้ว แต่ว่าก็เห็นได้ชัดอย่างยิ่ง จินยี่ได้พ่ายแพ้ไปครึ่งกระบวนท่า ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงครึ่งกระบวนท่า แต่ว่ายังไงการพ่ายแพ้ก็ยังคงเป็นการพ่ายแพ้

 

จินยี่ทอสีหน้าซับซ้อนขึ้นมาอย่างยิ่ง หลังจากนั้นเขาก็ได้จ้องมองไปที่เยี่ยจง แล้วจึงค่อยหันกายจากไป กลายออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาออกมา:“ซิง เจ้ายอดมาก ในการพบกันครั้งหน้า ข้าคงต้องขอคำชี้แนะอีกครั้งแล้ว ”

 

หลังจากที่เงียบงัน อัจฉริยะผู้โดดเด่นไม่น้อยต่างก็สีหน้าเปลี่ยนไปในเวลาเดียวกัน สีหน้าได้ทอความประหลาดใจขึ้นมาอยู่หลายส่วน จินยี่ถึงกับยินยอมถอยไปเช่นนี้ เช่นนั้นก็มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว นั้นก็คือระหว่างการปะทะกันเมื่อครู่นี้ เขาถึงกับได้พ่ายไปแล้ว แต่ว่าก็ยังคงรักษาพลังสภาวะเอาไว้ส่วนหนึ่ง ตอนนี้แน่นอนว่าย่อมต้องเสาะหาสถานที่เก็บตัวเพื่อฝึกปรือ เพื่อที่จะรักษาเวลาพลังให้สู่ระดับสูงสุด ย่อมไม่มีผู้ใดย่อใพลาดไปอย่างแน่นอน

 

“อัจฉริยะแห่งยุคได้พ่ายแพ้แล้วสองคนติดกัน ซิงผู้นี้ นี้เหนือความคาดหมายไปมากจนเกินไปแล้ว ? ”ทางด้านบนพื้นดิน ก็ได้มีส่งเสียงพร้อมถอนหายใจออกมา ถึงแม้ว่าทุกผู้คนต่างก็ถือได้ว่าเป็นบุคคลที่โดดเด่นของในสำนักหนึ่งเผ่าพันธุ์ แต่ว่าในขณะนี้เอง กลับมีความรู้สึกที่เหมือนกับระยะห่างอยู่ช่วงหนึ่ง และภายในระยะห่างเหล่านี้ก็เป็นเสมือนดั่งเป็นเพียงเส้นทางที่ต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ว่าต่างกันยังไงเสียก็ยังเป็นความต่างกัน

 

“เจ้าไม่เลวเลยอย่างยิ่ง ต่อจากนี้ก็ให้ข้าได้ลองดูบ้างละกัน ”แล้วก็ได้มีเส้นผมดำโบกสยายไปมา แล้วก็ได้เผยยอดฝีมือเยาว์วัยที่มีผิวพรรณดั่งเหล็กโบราณเดินเข้ามา บนร่างกายของเขาปกคลุมไปด้วยพลังอักขระ พลังอักขระเหล่านี้เปรียบเสมือนดั่งรอยสักบนร่างกายก็มิปาน อยู่ตามเนื้อตัวของเขาในขณะนี้เอง

 

เยี่ยจงมิได้จากไป เขาเหม่อมองไปยังยอดฝีมือที่เดินเข้ามาผู้นี้ แล้วก็ได้ค่อยๆขมวดคิ้วขึ้นมา อัจฉริยะผู้โดดเด่นท่ามกลางสถานที่แห่งนี้ต่างก็มีความเชื่อมั่นอย่างยิ่ง ว่าตนเองจะต้องจัดการเขาลงได้ ตอนนี้ถึงกับมิได้ร่วมมือกัน เพียงแต่เตรียมตัวที่จะหลั่งไหลกันเข้ามาทีละคน ทำให้กับว่าตนเองกับกำลังพบเจอกับศิลาทองเพื่อทดสอบก็มิปาน ?

 

ในขณะนี้เอง ภายในดวงตาของเยี่ยจงก็ได้ปรากฏความเย็นชาขึ้นนา เขาจ้องมองเข้าไปยังบริเวณทางด้านล่างอย่างเยียบเย็น กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา:“พวกเจ้ายังคิดจริงหรือว่า ข้าจะเพียงทำให้เพียงบาดเจ็บเหมือนกับทั้งสองครั้ง ไม่กล้าที่จะฆ่าสังหารงั้นหรือ ? ไม่มีครั้งต่อไปอีกแล้ว หากว่าผู้ใดลงมืออีก ก็เตรียมตัวให้ข้าสังหารได้ดี ”

 

ชายหนุ่มผมดำก็ได้หยุดร่างกายลงท่ามกลางอากาศ เขาเงยหน้าจ้องมองไปทางด้านของเยี่ยจง บนใบหน้าก็ได้ปรากฏรอยยิ้มเย็นชาขึ้นมา จากที่เขามองดูแล้ว ก็เป็นเพียงแค่การข่มขู่เท่านั้น เป็นที่ชัดเจนว่าเพื่อหันเป้ามาทางเขา

 

“ซิง ที่เจ้ากล่าวออกมาต่อข้าเช่นนี้ ? ใช่กำลังข่มขู่ข้ามิให้เข้าหาอย่างงั้นหรือ ? ”ชายหนุ่มหัวเราะขึ้นมาเสียงเบา กล่าวออกมาอย่างเย็นชา ภายในน้ำเสียงของเขาแฝงเอาไว้ด้วยความท้าทายเต็มสิบส่วน บนร่างกายก็ได้แผ่กระจายพลังขนาดใหญ่ออกมา อีกทั้งยังมีความเชื่อมั่นเต็มสิบส่วน จ้องมองไปทางด้านของเยี่ยจงอย่างเย็นชา ท่ามกลางสีหน้ามิได้มีอารมณ์ใดๆปรากฏออกมามากนัก

 

“ข้าไม่ได้ข่มขู่ผู้ใด ข้าเพียงแต่บอกกล่าวต่อพวกเจ้า ผู้ใดหากขึ้นมา ในครั้งนี้ ข้าจะไม่ไว้ไมตรีอีก ”เยี่ยจงยิ้มขึ้นมาเบาๆ ตอบกลับไปอย่างเย็นชา

 

“หอะ——”พลังสภาวะของรอยสักบนร่างกายของงชายหนุ่มผมดำก็ได้เกิดการไหลเวียนของพลังอักขระขึ้นมาในตอนนี้อย่างช้าๆ เขามีสีหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า เพียงแต่ว่า รอยยิ้มนี้ไม่ว่าจะมองอยางไร ต่างก็เหมือนกับเต็มเปี่ยมไปด้วยลักษณะที่ไร้อารมณ์โดยสิ้นเชิง “สุดยอดฝีมืออันดับหนึ่ง ซิง ก็เพียงเป็นได้แต่เพียงเท่านี้เท่านั้น……เจ้าคงจะยืนยันเช่นนี้ ว่าเจ้าสามารถสังหารข้างั้นหรือ ? เจ้าไม่เกรงว่าวันข้างหน้าจะยากที่จะหยัดยืนเข้าสักวันงั้นหรือ เผ่ามนุษย์ได้สูญเสียวีรบุรุษผู้กอบกู้ผู้นี้ไป คงจะน่าเสียดายอยู่ไม่น้อย ”

 

“ข้าจะสามารถมีชีวิตอยู่ในวันข้างหน้าหรือไม่ มิจำเป็นที่จะต้องให้เจ้าเป็นห่วง เพียงแต่ว่า ยังมีคนส่วนหนึ่งที่ยังไม่ทราบว่า ความน่ากลัวของไม่อาจที่จะมีชีวิตอยู่ในขณะนี้ ”เยี่ยจงตอบกลับ เพื่อเป็นการตอกกลับไป

 

“ฮาฮาฮา ดูเหมือนว่าเจ้าจะได้เตรียมที่จะสังหารข้าจริงแล้ว……ถึงแม้ว่านามของข้าจะมิได้เลื่องลือเท่าบุตรมารอัสนี、จินยี่เป็นอย่างที่ชัดเจน แต่ว่าถึงกับกล้าสามหาวต่อหน้าข้างั้นหรือ ? มิสู้ช่วยส่งเสริมเจ้าไปหาที่ตายจะเป็นอย่างไร ! ”ชายหนุ่มผมดำฮาฮาออกมาอย่างบ้าคลั่ง ในครั้งนี้ รอยอักขระบนร่างกายของเขาทั้งหมดก็ได้ราวกับลอกออกมาจากร่างในทันที แทงออกมาท่ามกลางอากาศ จนเกิดบรรยากาศอันน่าหวาดกลัวแผ่กระจายออกมา ทำให้ทั่วทั้งพื้นที่แห่งนี้ราวกับว่าเกิดการศึกขึ้นมามากมายนับไม่ถ้วนก็มิปาน

 

“มีคนที่ไม่เกรงกลัวความตายมากมายถึงเพียงนี้เชียวงั้นหรือ ? หรือจะกล่าวว่า การลงมือของข้าอ่อนโยนจนเกินไป ถึงได้มีคนมากมายคอยจะรังแกข้าเช่นนี้ ? ”เยี่ยจงยื่นมือปาดเข้าไปที่จมูก กล่าวกับตนเอง เขาคิดว่าหากเป็นสถานะที่แท้จริงของตนเอง นับตั้งแต่ออกเดินทางในสถานะ“ซิง”ในดินแดนแห่งนี้ ก็ยากนักที่จะลงมือสังหาร แต่ว่าถ้าหากมีบุคคลมาหาที่ตายด้วยตนเองเช่นนี้หากว่าตนเองปล่อยให้พลาดไปแล้วละก็ เช่นนั้นคงจะไม่มีอะไรมาชดเชยได้แล้ว

 

พริบตานั้นเอง เยี่ยจงก็ได้ยิ้มขึ้นมา เขามีท่าทีที่สง่างาม แล้วก็ได้จ้องมองเข้าไปเช่นนี้ไปทางด้านของชายหนุ่มผมดำที่อยู่เบื้องหน้าสายตา เผยรอยยิ้มอันสดใสอย่างมากขึ้นมา เพราะว่าในขณะนี้เอง เขาสัมผัสได้ถึงรังสีสังหารมาจากบนร่างกายของอีกฝ่ายที่ไร้ความหวาดกลัวได้

 

“คิดที่จะฆ่าข้างั้นหรือ ? เยี่ยมมาก……”

 

เขาหัวเราะขึ้นเบาๆ พริบตานั้นเอง ก็ได้พลิกรอยตราทั้งสองมือแปรเปลี่ยนอย่างช้าๆ จนก่อเกิดอักขระจูเชวียนเป็นสายไหลเวียนออกมา วินาทีนั้นเอง พลังการเปลี่ยนแปลงไท่กู่จูเชวียนขั้นที่สามก็ได้ถูกเยี่ยจงใช้ออกมา ก่อเกิดพลังอันน่าหวาดกลัวของจูเชวียนปรากฏขึ้นมาอยู่บริเวณใจกลางฝ่ามือ จากนั้นเขาก็ได้ฟาดฝ่ามือออกไปอย่างรวดเร็ว

 

“ตูม——”

 

ในขณะนี้เอง ท่ามกลางธาราเพลิงก็ได้เดือดปะทุขึ้นมานับหมื่นสาย เพลิงกาฬทั้งหมดราวกับถูกดูดซับเข้าไปก็มิปาน ในตอนนี้ราวกับอยู่ในสภาวะเอิ่มอิ่ม บ่อเพลิงไฟทางด้านล่างนั้นที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังมรรคไฟเทวะก็ได้พลิกผลันกลับกลายขึ้นมา ประดุจดั่งมีปราณอยู่ก็มิปาน

 

“วิชามรรคไฟขั้นสูงสุด ? เป็นวิชาจูเชวียนจริงอย่างงั้นหรือ ? ”ชายหนุ่มผมดำหัวเราะออกมาเสียงดัง “เยี่ยมมาก วันนี้ไม่เพียงแต่ต้องสังหารเจ้า ยังต้องล้วงความทรงจำของเจ้า ว่าถึงกับมีวิชาที่สะเทือนฟ้าดินถึงขั้นนี้เชียว ! จากนั้นก็ค่อยส่งเจ้าสู่เส้นทางนรกเอง ! ”

 

“ซิง ข้านั้นมาจากดินแดนทางเป่ยฮวง เพียงสังหารอัจฉริยะ วันนี้เจ้าตายภายใต้น้ำมือข้า ก็ถือได้ว่าตายได้อย่างคุ้มค่าแล้ว ! ”ชายหนุ่มผมดำมีความเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยม เขาขยับร่างกายคราหนึ่ง ทันใดนั้นเองก็ได้หลุดรอดออกมาจากวงล้อมที่ปกคลุมมาจากทางด้านของเยี่ยจงในตอนนี้ ถือได้ว่ามีระดับความเร็วที่สูงล้ำอย่างยิ่ง พริบตานั้นก็ได้มาถึงยังบริเวณเหนือศีรษะของเยี่ยจง จากนั้นเขาก็ได้เหยียบลงไป ทันใดนั้นเท้าขวาข้างนั้นประดุจดั่งพยัคฆ์กางกรงเล็บขนาดใหญ่ขึ้นมา มุ่งหน้าเข้าสังหารลงไปทางด้านล่างอย่างดุดัน !

.

.

.

.

กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ

โปรโมชั่น กลุ่ม 5-12 ราคา 600

VIP5 https://goo.gl/ekcF7V

VIP6 https://goo.gl/4rqw89

VIP7 https://goo.gl/qrQ7GA

VIP8 https://goo.gl/Uzqf2x

VIP9 https://goo.gl/1jPZtn

VIP10 https://goo.gl/L8awva

VIP11 https://goo.gl/rojEiG

VIP12 https://1th.me/o9CD

ช่องทางการโอนเงิน https://goo.gl/MnYB81

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่

INBOX m.me/ZuiQiangWuShen

#####Fanpage#####

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset