เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 439 ฉากที่เกิดขึ้นรอบข้าง

ตอนที่ 439 ฉากที่เกิดขึ้นรอบข้าง

 

ต้นไม้มรกตในขณะนี้ก็ได้เริ่มที่จะแผ่กระจายบรรยากาศดั่งเดิมชนิดหนึ่งขึ้นมา ตลอดทั่วทั้งต้นไม้มรกตก็ได้เริ่มที่จะพลิ้วไหวไปมา จากนั้นก็ได้เกิดอาการสั่นไหวของพื้นดินขึ้นประดุจภูผาถล่มทลายแผ่กระจายออกไปก็มิปานในขณะนี้

 

ควรทราบว่า ต้นไม้ใบไม้แต่ละใบของต้นมรกตนี้มีขนาดใหญ่ที่เปรียบได้ประดุจดั่งขุนเขาก็มิปาน ตอนนี้เมื่อต้นไม้โบราณเกิดการพริ้วไหว ภาพทิวทัศน์เช่นนี้ ประดุจดั่งการสั่นคลอนของสวรรค์

 

เมื่อตำหนักโบราณได้ลอยสูงขึ้น ตลอดทั่วทั้งต้นมรกตก็ได้ลอยขึ้นมาตามๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นราชาปีศาจหรือว่าอัจฉริยะ ตอนนี้ต่างก็ไม่อาจที่จะหยุดยั้งอยู่ที่บนต้นมรกตได้ เพียงแต่มีพลังที่เรียกได้ว่าอยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์อยู่ชนิดหนึ่งเคลื่อนไหวอยู่ จากนั้นก็ได้เริ่มที่จะโยกย้ายกลับเข้าไปยังจุดเริ่มต้นที่เป็นบริเวณของชายหาดธาราลาวาทันที

 

ยอดฝีมือทั้งหมดต่างก็อ้าปากตาค้าง เหม่อมองไปยังฉากเบื้องหน้า

 

บริเวณในที่ห่างไกลที่ประดุจดั่งใจกลางของทะเลสาบ ตลอดทั่วทั้งต้นมรกตก็ได้ยกตัวขึ้นสูงอย่างช้าๆ หลังจากนั้นก็โค้งงอลง มุ่งหน้าหายไปจนลับสายตา และตำแหน่งบริเวณของตำหนักโบราณบนยอดของต้นมรกตนั้น ตอนนี้ก็ได้ทอเป็นประกายประดุจดวงตะวันลูกหนึ่งก็มิปาน

 

“เป็นเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?”

 

ยอดฝีมือทั้งหมดต่างก็ต่างก็มองดูจะไม่อาจหาคำตอบได้ ฉากเบื้องหน้าถือได้ว่ามีประดุจความเร้นลับที่ซ่อนเอาไว้อยู่ภายในเทพนิยายก็มิปาน ต้นมรกตนั้นก็ได้หายลับออกไปจากดินแดนแห่งนี้ ซึ่งสามารถที่จะเรียกได้ว่าได้ออกไปจากดินแดนขนาดเล็กแห่งนี้ไปด้วยกลวิธีบางอย่าง

 

จนกระทั่ง กลุ่มหมอกควันสีขาวผืนหนึ่งลอยเข้ามาปกคลุม จนทำให้ไม่อาจที่จะมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ด้วยการใช้ด้วยพลังสายตา ย่อมไม่มีผู้ใดสามารถที่จะมองออกมาได้อย่างชัดเจน ว่าท้ายที่สุดแล้วต้นมรกตนั้นแท้จริงแล้วได้หายออกไปจากดินแดนแห่งนี้ได้อย่างไรกันแน่

 

“ทั้งหมด จบสิ้นลงแล้ว!”

 

ผู้คนทั้งหมดราวกับสูญสิ้นความหวัง การหายไปของต้นไม้มรกต เปรียบเสมือนจุดสิ้นสุดของการแย่งชิงภายใน ดินแดนขนาดเล็กของศิลาตะวันบริสุทธิ์ในตอนนี้ไป

 

“ท่านบรรพบุรุษ! จักรพรรดิฟ้า! เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้! เหตุใดไม่ปกปักรักษาอีกต่อไป เผ่าพันธุ์ของพวกข้าที่ถือได้ว่าอยู่ระดับราชันกันแล้ว ยอดฝีมือระดับมหาราชันปรากฏตัวขึ้นมาจริง! เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้! เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้! นี้กลับกลายเป็นว่ามิได้เป็นดั่งตำนานที่เล่าขานสิ!” ราชาเก้าหงสายกศีรษะขึ้นคำรามก้อง บนใบหน้าเต็มเปี่ยมเอาไว้ด้วยสีหน้าไม่แยแสสนใจ ตำนานเล่าขานที่สืบทอดมาอย่างไม่ขาดสายภายในดินแดนขนาดเล็กแห่งนี้ ผู้ที่มีพลังฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดกลับมีไม่เกินกว่าราชันเท่านั้น เมื่อมาจนถึงขั้นนี้แล้ว ก็เรียกได้ว่าถึงทางตันแล้ว และตำนานจักรพรรดิฟ้าตะวันตกนั้น เป็นดั่งความหวังทั้งหมดของพวกเขาเหล่าราชาปีศาจ ตอนนี้กลับต้องมาดับสูญไปโดยสิ้น จนทำให้เหล่าราชาปีศาจเกิดอาการบ้าคลั่งขึ้นมา

 

“เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้! เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้!” ชายหนุ่มผิวสีเขียวกล่าวออกมาอย่างเจ็บปวด บนใบหน้าก็ได้แฝงเอาไว้ด้วยความเย็นชา ไม่แยแสสนใจอย่างถึงที่สุด

 

“สมุดทองสัมฤทธิ์ทั้งสองเล่มนั้นได้ตกไปอยู่ในมือของพวกเจ้าทั้งสองคน เหตุใดพวกเจ้าถึงเอาแต่มองดูพวกมันหลุดลอยไปได้กัน!” ราชาพยัคฆ์ขาวคำรามก้อง จ้องมองไปยังราชาเก้าหงสาและเผ่าพันธุ์ควาฟู่ ทอสีหน้าปั้นยากขึ้นมาอย่างถึงที่สุด

 

“พวกเราถึงแม้จะสามารถครอบครองสมุดทองสัมฤทธิ์มาได้เล่มหนึ่ง แต่ว่าก็ไม่มีความหมายอันใด ไม่ได้มีทั้งสองเล่มอยู่ด้วยกัน ก็แทบจะไม่เห็นผลอันใดออกมาได้ ” ราชาเก้าหงสาถอนหายใจออกมา ทอสีหน้าเยียบเย็นทั้งใบหน้า

 

เผ่าพันธุ์ควาฟู่ก็ได้ทอสีหน้าปั้นยากขึ้นมาอย่างถึงที่สุด เจ็บปวดจนกล่าวอันใดไม่ออก

 

ราชาปีศาจอื่นๆ ต่างก็เงียบงันแต่ละตนก็ได้คำรามก้องออกมา ในครั้งนี้พวกเขาได้สูญเสียราชาปีศาจในดินแดนขนาดนี้ไป เรียกได้ว่าสูญเสียไปกว่าครึ่ง แต่ว่าท้ายที่สุดถึงกับยังเกิดการสูญเสียไปอย่างมากมายได้ถึงเพียงนี้ ทำให้ผู้คนคิดที่จะทำการอัตวินิบาตตนเองไป

 

“ตำนานจักรพรรดิฟ้าตะวันตก ถึงคราวสิ้นสุดเช่นนี้อย่างงั้นหรือ ” องค์หญิงจื่อหวินถอนหายใจออกมา นางถึงแม้ว่ามิใช่คนของตำนานจักรพรรดิฟ้าตะวันตก แต่ว่าต่อให้เป็นนางเอง ตอนนี้ต่างก็ทอสีหน้าลำบากใจปรากฏขึ้นมา ตำนานแห่งจักรพรรดิฟ้าตะวันตก เป็นเหมือนดั่งเครื่องหมายของการฝึกปรือในระดับสูงสุด คิดไม่ถึงว่าถึงกับจะมีคนสอดมือเข้ามาได้มากมายถึงเพียงนี้

 

“ไม่ทราบว่าต่อจากนี้ต้นมรกตจะเปิดดินแดนขึ้นมาอีกดินแดนหรือไม่ หรือว่าจะเข้าไปยังดินแดนแห่งเทพ (ซานเชียนเซินเจี่ย) ในตำนาน ” นางเซียนชิงหญิงก็ได้ขมวดคิ้วอันดกๆ ขึ้นน้อยๆ ตกอยู่ในการครุ่นคิด ในเวลาเดียวกันนางเงยหน้ามองขึ้นมายังฟากฟ้า คล้ายดั่งกำลังซ่อนเร้นอะไรบางอย่างเอาไว้

 

“คงจะมิใช่ไปปรากฏขึ้นทั้งสี่ดินแดนหรอกกระมั่ง? หากว่าเป็นต้นไม้มรกตปรากฏขึ้นมาในสี่ดินแดนอีกครั้ง เกรงว่าคงจะต้องกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตอันน่าตกใจขึ้นแล้ว!” จินยี่กล่าวกับตนเอง คาดเดาไปต่างๆ นานา เพียงแต่ว่าในการคาดเดาของเขา ยิ่งทำให้เขาทวีความแตกตื่นภายในจิตใจ

 

“มิต้องแล้ว ต่อให้มีการปรากฏขึ้นมาของต้นไม้มรกตอีกครั้ง อย่างน้อยก็คงจะปรากฏขึ้นมาในพื้นที่อันเร้นลับแห่งใดแห่งหนึ่งอย่างแน่นอน สถานที่เหล่านั้นถูกเรียกขานเอาไว้ว่าเขตแดนห้วงห้ามแห่งชีวิต มีแต่เข้าไปมิอาจออกมาได้ ผู้คนที่เข้าไปไม่ทราบว่าตายตกไปมากมายเท่าไหร่แล้ว ต่อให้เป็นชนชั้นระดับมหาราชัน ต่างก็ไม่อาจที่จะรับรองได้ว่าจะถอยออกมาได้อย่างร่างกายครบถ้วน……ทุกสิ่งทุกอย่างในครั้งนี้ อย่างน้อยก็คงจะอยู่ที่ตัวตนของคนชุดทองผู้นั้น ตอนนี้มันยังฝึกปรือไม่ถึงขีดสุด รอคอยจนวันที่เขาปรากฏขึ้นสู่ดินแดน ไม่ทราบว่าจะเกิดหายนะอันน่าตกใจเช่นใดบ้าง!” ชิงยี่กล่าวออกมาเสียงราบเรียบ ภายในน้ำเสียงก็ได้แฝงเอาไว้ด้วยอารมณ์ที่เต็มไปด้วยการถอนหายใจออกมา แล้วก็ยังมีความเคร่งเครียดอยู่อีกชนิดหนึ่ง

 

หลังจากที่เงียบงัน อัจฉริยะไม่น้อยต่างก็ตกใจจนหวาดกลัวขึ้นมา ระดับความน่ากลัวของคนชุดทองนั้น พวกเขาถือได้ว่าพบพานมากับตา บุคคลเช่นนี้ไม่ว่าจะมีที่มาที่ไปเช่นไร หากมองในมุมมองของพวกเขา หากว่ามีการปรากฏขึ้นมาในดินแดนภายนอกแล้วละก็ คงจะต้องกลายเป็นหนามยอกอกชิ้นใหญ่อย่างแน่นอน นอกเสียจากว่าจะมีวันใดที่มีคนที่มีความสามารถมากเกินกว่าเขา ไม่เช่นนั้นแล้วละก็ มีผู้ใดบ้างที่ไม่เกรงกลัวกัน

 

“ที่น่าเสียดายก็คือตำนานจักรพรรดิฟ้าตะวันตก กล่าวไปก็เหมือนดั่งไม่ได้รับตำนานอันใดก็ว่าได้ หากว่าสามารถที่จะรับฟังบทสวดของจักรพรรดิฟ้า อย่างน้อยเกี่ยวกับการฝึกยุทธ์ ก็คงจะต้องมีความล้ำหน้าขึ้นอย่างมาก ” เยว่จิ่งมีทวีความเย็นบนผิวพรรณอันขาวดั่งกระดูกหยก ตอนนี้ก็ได้ถอนหายใจออกมา แต่ว่าทันทีที่ได้สิ้นเสียง นางก็ได้ละสายตาหันไปทันที มองไปที่เยี่ยจง ทอแววตาประหลาดขึ้นมาอยู่หลายส่วน

 

“ดูอะไรกัน? ไม่เคยเห็นชายหนุ่มท่าทางองอาจเช่นนี้มาก่อนหรือยังไง?” เยี่ยจงหัวเราะขึ้นเบาๆ เขาตอนนี้ยังไงเสียก็ถือได้ว่ามีท่าทางที่องอาจ ประดุจดั่งราชาเทพเซียนผู้เยาว์วัยก็มิปาน เพียงแต่ว่าคำพูดเช่นนี้ กลับทำให้ผู้คนไม่น้อยมีใบหน้าที่ดำมืดขึ้นมาเป็นสาย เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่เคยพบเจอผู้ใดที่หน้าด้านหน้าทนได้ถึงขนาดนี้มาก่อน

 

เยว่จิ่งจ้องเขม็งไปที่เยี่ยจง จากนั้นก็ได้ละสายตากลับมา จึงได้กล่าวออกมาด้วยความมืดมน: “ท่านเยี่ยจงไม่เพียงแต่ถูกเรียกขานว่าวีรชนสุดยอดฝีมือรุ่นเยาว์แล้ว ก่อนหน้านั้นในสมรภูมิฮวงกู่ได้รับสิ่งของชิ้นนั้นก็ว่าไปแล้ว คิดไม่ถึงว่าในวันนี้ยังสามารถที่จะรวมเข้ากันเป็นหนึ่งเดียวกับตำนานจักรพรรดิฟ้าตะวันตกได้ ในเวลาเดียวกันก็ได้เข้าไปนั่งวิปัสสนาที่หน้าแท่นบูชา เพื่อรับฟังสัจธรรมได้ สิ่งเหล่านี้แทบทั้งสิ้นต่างก็ถือได้ว่าเป็นประโยชน์ที่เหลือล้นอย่างมากในชีวิตแล้ว กว่าครึ่งต่างก็ถือได้ว่าเป็นของท่านไปแล้วกระมั่ง?”

 

เยี่ยจงทอดวงตาเย็นเยียบขึ้นมาอย่างกะทันหัน เหม่อมองเข้าไปยังภายในดวงตาของเยว่จิ่ง อีกทั้งยังได้เพิ่มเติมไปด้วยรังสีฆ่าฟันสายหนึ่ง หญิงสาวนางนี้ถือได้ว่ามีจิตใจที่ลึกล้ำมากมายยิ่งนัก ไม่ว่าจะแฝงเอาไว้ด้วยความหมายใดก็ตาม ภายในคำพูดที่นางกล่าวออกมา อย่างน้อยก็เพื่อที่จะเหยียบย้ำตนเองให้จมดิ่งลง

 

“เผ่าซือ ยอดมาก!” เยี่ยจงกล่าวออกมาอย่างเย็นชา แต่ว่าประจวบเหมาะกับเป็นการการกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นเยียบขึ้นมาเช่นเดียวกัน กลับทำให้ผู้คนที่พบเจอเกิดอาการเย็นเยียบไปทั่วทั้งร่างกาย

 

“เจ้าหนู! เป็นอย่างที่หนูน้อยผู้นั้นกล่าวมาได้มิผิด ดูเหมือนว่า ในครั้งนี้เจ้าถือได้ว่าเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์มากมายมหาศาลที่สุด! ถึงกับสามารถวิเคราะห์สมุดทองสัมฤทธิ์ทั้งสองเล่มคราหนึ่ง ดูเหมือนว่าตำนานจักรพรรดิฟ้าตะวันตกไม่ว่าจะอย่างไรก็คงจะต้องตกอยู่ในมือของเจ้าแล้วกระมั่ง?” ราชาเก้าหงสาก็ได้หันกายกลับมาอย่างกะทันหัน เนตรสิบแปดดวงเก้าศีรษะก็ได้มองเข้าไปที่เยี่ยจงในเวลาเดียวกัน ทอสีหน้าเยียบเย็นอย่างถึงที่สุด

 

“หากว่าข้าเป็นเจ้า อย่างน้อยข้าก็คงจะนำตำนานจักรพรรดิฟ้าตะวันตกออกมาแล้ว เจ้าหนู นี้ถือได้ว่าเป็นหนทางรอดเพียงสายเดียวที่ข้าให้แล้วนะ หากไม่รับเจ้าก็สมควรตายแล้ว!” เผ่าพันธุ์ควาฟู่ตอนนี้คำรามก้อง มันได้รับบาดเจ็บอยู่ ตอนนี้ก็ได้จ้องมองไปที่เยี่ยจง ปะทุรังสีสังหารเดือดขึ้นมา

 

“งั้นหรือ? มิใช่ว่าข้าได้มอบสมุดให้แก่พวกเจ้าไปแล้วอย่างงั้นหรือไร? เพียงแต่ว่าพวกเจ้าเอาแต่แย่งชิงกัน จนท้ายที่สุดก็ได้หลุดมือไปมิใช่หรือ? เจ้าพวกกลุ่มสวะ ” เยี่ยจงหัวเราะเย้ยหยันออกมา เขาในตอนนี้ไม่มีความกลัวแม้แต่น้อย ยังไงเสียก็ได้เปิดเผยสถานะที่แท้จริงออกมาแล้ว

 

“ทุกท่าน พวกเรายังคงร่วมมือกันจัดการกับเขากันก่อนเถอะ เขาที่ได้ถือครองสมุดทองสัมฤทธิ์ทั้งสองเล่มเอาไว้ ในเวลานี้พวกเรามีแต่ต้องร่วมมือกันเป็นหนึ่งเดียว อย่างน้อยก็คงจะได้รับอันใดมาบ้าง ” ชายหนุ่มผิวสีเขียวกล่าวออกมาอย่างเย็นเยียบ ภายในดวงตาก็ได้เต็มเปี่ยมไปด้วยความยินดี ร่างอสรพิษเดิมของเขา มีประสาทรับรู้ที่ละเอียดอ่อนอย่างยิ่ง ทราบได้ว่าเยี่ยจงได้นับการผนึกรวมกันของสมุดทองสัมฤทธิ์ทั้งสองเล่ม ในเวลาเดียวกันก็ได้รับอะไรบางอย่าง

 

ราชาปีศาจมากมายต่างก็ทอประกายดวงตาขึ้นมา พวกเขานั้นมิได้รับตำนานโบราณอันใด พลังยุทธ์ในการฝึกปรือได้มาจนถึงทางตัน ไม่ว่าตนเองจะใช้วิธีอันใด เมื่อไม่มีตำนานจักรพรรดิฟ้าตะวันตก ก็เหมือนกับเส้นทางยุทธ์ของพวกเขาได้ถูกตัดทอนลงไปแล้ว ตอนนี้ยังถือได้ว่ามีโอกาสอยู่ ทำให้ราชาปีศาจเหล่านี้ปะทุพลังขึ้นมาอย่างช้าๆ

 

“สหายน้อย พวกเราเข้าสู่ภายในตำหนักด้วยกัน แล้วก็ถือได้ว่าร่วมเป็นร่วมตายกันถึงครั้งหนึ่ง ไม่ว่าเจ้าที่แท้ได้รับอะไรมา ก็สมควรที่จะส่งมอบออกมา แบ่งปันให้แก่ทุกคนดีหรือไม่? แน่นอนว่า พวกข้าจะไม่ให้เจ้าเสียเปรียบอย่างแน่นอน แน่นอนว่าจะต้องหาสิ่งที่มีค่าคู่ควรมาแลก ” ราชาปีศาจตนหนึ่งก็ได้กล่าววาจาออกมาอย่างลื่นไหล แท้จริงแล้วก็คือกวางห้าสีตนหนึ่ง มันตอนนี้ได้อยู่ในร่างของมนุษย์ เหนือศีรษะยังคงมีเขากวางอยู่ ทอใบหน้าอย่างเป็นมิตรขึ้นมา

 

เมื่อกล่าวจบ มันก็ได้ก้าวออกมาด้านหน้าก้าวหนึ่ง ราชาปีศาจตนอื่นๆ ก็ได้เข้าใกล้ไปในเวลาเดียวกัน เห็นได้ชัด พวกมันคิดที่จะใช้ทั้งความอ่อนและแข็งพร้อมกัน เพื่อที่จะบีบเยี่ยจง เพื่อส่งมอบสิ่งของออกมา

 

อัจฉริยะมากมายที่มาจากภายนอก ตอนนี้ต่างก็มีสีหน้าที่ประหลาดขึ้นมา มิได้กล่าวอันใดออกมา รวมไปจนถึงยังมีผู้คนอีกหลายสิบคนที่ก่อนหน้านี้มิได้ขึ้นไปจนถึงปลายยอดของต้นไม้มรกต พวกเขาต่างก็ไม่ทราบว่าแท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่ หลังจากที่ได้ฟังอยู่ครู่หนึ่ง จึงได้ถอนหายใจไปออกมาอย่างตกใจขึ้นมา

 

ว่าแท้จริงแล้วซิงผู้นั้นก็คือเยี่ยจง! อีกทั้ง เขาถึงกลับมีความเป็นไปได้อย่างมากที่เป็นไปว่าได้ว่าจะเข้าสู่สภาวะแห่งร่างเทวะในตำนานอีกด้วย เข้าถึงพลังลมปราณเปลี่ยนแปลงเทวะ ในเวลาเดียวกัน เขาก็ได้รับการโชคลาภที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ที่เป็นตำนานจักรพรรดิฟ้าตะวันตก!

 

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวอย่างใดอย่างหนึ่งที่ถูกเล่าขานออกมา ต่างก็ถือได้ว่าเป็นที่ตื่นตระหนกของดินแดนซีฮวง ผู้ใดกันที่พอจะคิดได้ว่า เยี่ยจงที่ถูกขุมกำลังมากมายไล่สังหารนั้น ถึงกับสามารถปรากฏตัวขึ้นมาในจักรวรรดิเหยียนได้อย่างเปิดเผยเช่นนี้ เข้ามายังดินแดนขนาดเล็ก ก่อคลื่นลมมรสุมมากมายได้ถึงเพียงนี้?

 

ในขณะนี้เอง อัจฉริยะเหล่านี้ต่างก็ทอสีหน้าประหลาดขึ้นมาอย่างยิ่ง แต่ว่าก็ยังคงไม่มีผู้ใดคิดที่จะลงมือ เพียงแต่เอาแต่มองดูอยู่ทางด้านข้าง มองดูสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างเงียบเชียบ รวมไปจนถึงเหยียนหลิงหลง、องค์หญิงจื่อหวินที่ถือได้ว่าเป็นผู้ที่มีความสัมผัสที่ดีอันน้อยนิดกับ “ซิง” ตอนนี้ต่างก็ได้ทอสีหน้าซับซ้อนขึ้นมา ซิงก็คือเยี่ยจงในข้อนี้ เพียงพอที่จะทำให้ผู้คนแตกตื่นได้แล้ว ย่อมไม่มีผู้ใดหาญกล้าพอที่จะยืนอยู่ฝ่ายเขาอย่างแน่นอน

 

“พวกเจ้าคงมิได้ไร้เดียงสาจนเกินไปแล้วกระมั่ง ข้าครอบครองสมุดทองสัมฤทธิ์ทั้งสองเล่มยังไม่ถึงหนึ่งถ้วยน้ำชาเดือด จะสามารถที่จะทำอะไรได้กันเล่า? พวกเจ้าคงจะไม่ใช่คิดว่าตำนานจักรพรรดิฟ้าตะวันตก ถูกเก็บผนึกเอาไว้ในสมุดหรอกนะ คิดว่ามองเพียงคราเดียว ก็จะสามารถจดจำเอาไว้ได้งั้นหรือ?” เยี่ยจงยิ้มน้อยๆ ขึ้นมา ภายในรอยยิ้มแฝงเอาไว้ด้วยรสชาติความเย้ยหยันขึ้นมา เขาจดจ้องไปยังเหล่าราชาปีศาจ ภายในดวงตาไม่มีการปรากฏของความหวาดกลัวขึ้นแม้แต่น้อย

 

“ยิ่งไปกว่านั้น ต่อให้ข้ามองอันใดออกขึ้นมาจริง พวกเจ้าคิดว่า ต้องจ่ายออกมาด้วยราคาที่มากแค่ไหนกัน จึงจะสามารถที่จะนำไปแลกเปลี่ยนกับสิ่งของที่เรียกได้ว่าเป็นตำนานจักรพรรดิฟ้าตะวันตกกัน?” เยี่ยจงก็ได้หัวเราะออกมาเย็นชาอีกครั้ง คำพูดที่กล่าวออกมาประดุจดั่งสายอัสนีฟาดจนศิลาที่แตกร้าว

 

ในขณะนี้เอง ราชาปีศาจไม่น้อยต่างก็มีจิตใจที่แตกตื่นขึ้นมา วาจาของชนชั้นรุ่นเยาว์เบื้องหน้าสายตาตอนนี้ เป็นเหมือนดั่งผู้ที่พบเจอเรื่องราวมามากมาย เขาคล้ายกับมิได้รับอันใดจากตำนานจักรพรรดิฟ้าตะวันตกก็มิปาน แต่ว่าอย่างน้อยก็ยังถือได้ว่าได้ว่าได้พบเห็นสิ่งที่อยู่ภายในของสิ่งของชิ้นนี้

 

แต่ว่า มีหรือที่ใช้เพียงคำพูดเพียงไม่กี่คำ หลากหลายตัวอักษร แต่ว่าสิ่งที่จักรพรรดิฟ้าตะวันตกหลงเหลือเอาไว้ ยังไงเสียก็ยังถือได้ว่าเป็นโอกาสวาสนาที่ยากจะพบเจอได้ ในเวลาเดียวกัน ผู้เยาว์ผู้นี้ยังได้เข้าไปนั่งวิปัสสนาลงไปยังเบาะไม้สานเพื่อรับฟังคำสวดเทศนาอยู่ ไม่อาจที่จะไม่บังเกิดความคิดที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงขึ้นมาได้

 

เพียงแต่ว่า ตอนนี้ราชาปีศาจมากมายถึงกับมีความเสนาะสนใจขึ้นมา แต่ว่ากลับไม่มีผู้ใดคิดที่จะรามืออย่างง่ายดาย

 

เมื่อกล่าวถึงคำเล่าขานของร่างเทวะ สภาวะดั่งดวงจันทร์ทอแสงแห่งพลังลมปราณเปลี่ยนแปลงเทวะ รวมไปจนถึงฉากสังหารที่เยี่ยจงได้สู้กับเหล่าราชาปีศาจ เรื่องราวเช่นนี้ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ต่างก็เป็นที่กระจ่างแจ้งถึงความแข็งแกร่งของผู้เยาว์เบื้องหน้าสายตาผู้นี้ หากมิใช่ว่าเป็นเรื่องที่มีความเกี่ยวข้องกับตำนานจักรพรรดิฟ้าตะวันตก ราชาปีศาจเหล่านี้ในตอนนี้ก็คงไม่คิดที่จะมาหาเรื่องวุ่นวายกับเยี่ยจงแน่นอน

 

เพียงแต่ว่า ตอนนี้เมื่อมีความเกี่ยวข้องที่มากมายถึงเพียงนี้ ต่อให้ราชาปีศาจเหล่านี้ไม่ต้องการ ก็ไม่อาจที่จะไม่ลงมือออกมาได้ นั้นก็เพราะว่า หากว่าผิดพลาดไป เกรงว่าจะไม่หลงเหลือโอกาสอีกแล้ว

.

.

.

.

กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น กลุ่ม 5-12 ราคา 600
ช่องทางการโอนเงิน https://goo.gl/MnYB81
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
#####Fanpage#####
Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset