เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 440 ปะทะราชาปีศาจอย่างโดดเดี่ยว

ตอนที่ 440 ปะทะราชาปีศาจอย่างโดดเดี่ยว

 

ราชาปีศาจมากมายต่างก็รายล้อมเยี่ยจงเอาไว้ ราชาปีศาจทุกคนต่างก็มีสีหน้าเปลี่ยนแปลงกลับกลายอย่างตลอดไม่หยุดนิ่ง ไม่ทราบว่าภายในจิตใจกำลังคิดอะไร ถ้าหากมิใช่เป็นเพราะว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องของตำนานจักรพรรดิฟ้าตะวันตก ต่อให้เป็นราชาปีศาจเหล่านี้ ต่างก็ไม่คิดที่จะมีปัญหาข้องเกี่ยวกับเยี่ยจงในตอนนี้ เมื่อครู่เยี่ยจงได้ใช้ออกมาด้วยพลังฝีมืออันเด็ดขาดเปิดเผยออกมา ทำให้ราชาปีศาจเหล่านี้เกิดความหวาดกลัวอย่างไรที่เปรียบ มิใช่กรณีจำเป็นจริงๆ ก็ไม่คิดที่จะลงมือกับเขา

 

“ทุกท่าน ยังจะรออะไรอีก ใช้พลังฝีมืออันแข็งแกร่งที่สุดลงมือพร้อมกัน กำจัดเจ้าเดียรัจฉานน้อยนี้ เพื่อที่จะได้รับตำนานแห่งจักรพรรดิฟ้าตะวันตก ต่อให้ไม่มีเรื่องของตำนานจักรพรรดิฟ้าตะวันตก สิ่งของที่อยู่บนตัวของเขาในตอนนี้ ก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเราใช้ได้อีกนานแสนนาน ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม พวกเราก็ไม่อาจให้เขาจากไปได้ ไม่เช่นนั้นจะต้องเกิดความเสียใจที่สุดในชีวิตก็เป็นได้” ราชาเก้าหงสาหัวเราะกล่าวออกมาอย่างเย็นชา ภายในสีหน้าได้แฟนเอาไว้ด้วยอารมณ์ที่มีความต้องการอย่างถึงที่สุด

 

ราชาเผ่าพันธุ์ควาฟู่ก็ได้ส่งเสียงหัวเราะอย่างเย็นชาขึ้นมา พร้อมกับรอยยิ้มเย็นเยียบ กล่าวออกมาอย่างช้าๆ : “กายเนื้อของเด็กน้อยผู้นี้น่าประหลาดอย่างถึงที่สุด เป็นเพียงแค่เผ่ามนุษย์ผู้หนึ่ง ยังถึงกับสามารถที่จะฝึกฝนจะมีพลังกายเนื้อได้ถึงเพียงนี้ แน่นอนว่าจะต้องมีความเกี่ยวข้องกับวิชาโบราณส่วนหนึ่งแน่……หากว่าสามารถที่จะกลืนกินเขาได้แล้วละก็ อย่างน้อยก็คงจะสามารถทำให้กายเนื้อของข้าก้าวสูงขึ้นไปอีกก้าวอย่างแน่นอน ”

 

ราชาเก้าหงสาและราชาเผ่าพันธุ์ควาฟู่ทั้งสองตนต่างก็กล่าวออกมา พวกมันก้าวขึ้นมาก่อนเป็นอันดับแรก นั้นก็เพราะว่า พวกมันต่างก็ถือได้ว่าได้รับสมุดทองสัมฤทธิ์ทั้งสองเล่มมาอยู่ในมือ ทราบดีว่าของสิ่งนี้มีความพิเศษอย่างไร อย่าว่าแต่เยี่ยจงสามารถได้รับแม้เพียงปลายขนของมัน ก็เรียกได้ว่าเพียงพอแล้ว

 

“พวกเราจะลงมือกันไหม?” ชิงยี่ที่สะพายหอกยาวเอาไว้บนหลัง สีหน้าของเขาในตอนนี้ดูดีเป็นสง่าอย่างถึงที่สุด เขาก็ได้จ้องมองไปยังบริเวณทางด้านหน้าอย่างเย็นเยียบ เหม่อมองไปที่เยี่ยจง ภายในส่วนลึกแววตาก็ได้เกิดประกายแวววับขึ้นมา

 

“ไม่ต้องรีบร้อน รอกันก่อนเถอะ สุดยอดรุ่นเยาว์เยี่ยจง เขาถือได้ว่ามีพลังฝีมือที่มากมายจนเกินไป เขายังถึงกับคือซิง แล้วยังเป็นเยี่ยจง พลังฝีมือที่มากมายเช่นนี้ อย่าได้กระทำการอย่างบุ่มบ่าม หากว่าไม่ระวัง ไม่แน่ว่าพวกเราอาจจะต้องตายตกภายใต้น้ำมือของเขา รอดูกันก่อนเถอะ ” เยว่จิ่งกล่าวออกมาเสียงแผ่วเบา ภายในส่วนลึกของแววตาก็ได้มีความหวาดกลัวอยู่

 

หุบเขาเทพชิงหวินและเผ่าซือต่างก็เข้าร่วมในศึกของลัทธิแห่งดวงดาว แล้วก็เป็นเพราะศึกในครั้งนั้น ทำให้พวกเขาทราบว่า นี้ถือได้ว่าเป็นบุคคลของสำนักหนึ่งที่มีความบ้าคลั่งและน่าหวาดกลัว ต่อให้ขุมกำลังหลายสิบสำนักลงมือพร้อมกัน พวกเขาก็คงจะต้องได้รับความเสียหายที่หนักหนาสาหัส

 

สิ่งนี้ต่างก็ถือได้ว่าเป็นเรื่องราวที่ยังถือได้ว่ามิได้บานปลายแผ่ขยายใหญ่ขึ้นมามากจนเกินไป ไม่เช่นนั้นศีรษะของพวกเขาแน่นอนว่าต้องถูกสบั่นไปแล้วอย่างแน่นอน

 

“ราชาเก้าหงสา、ราชาเผ่าพันธุ์ควาฟู่ ” บริเวณท่ามกลางสนาม เยี่ยจงทอสีหน้าเย็นชาอย่างยิ่ง เขาสาดสายตาอีนเย็นเยียบกวาดมองเข้าไปยังบริเวณโดยรอบที่มีราชาปีศาจอยู่ใกล้ๆ นับสิบตน ภายในดวงตาก็ได้เกิดอาการประหลาดใจขึ้นมา

 

ต่อให้เป็นพลังฝีมือเฉกเช่นเขา การเผชิญหน้ากับราชาปีศาจนับสิบตน ก็มีแต่เพียงคงสภาวะประสาทสัมผัสที่คมกริบเอาไว้ นี้มิใช่เป็นเพราะว่าพลังฝีมือของเยี่ยจงนั้นไม่แข็งแกร่งพอ แต่เป็นเพราะ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เป็นเหมือนดั่งการถูกกุมรุม แทบจะมิใช่เรื่องที่บุคคลเพียงคนเดียวจะสามารถที่จะทำได้

 

“พวกเจ้าแน่ใจแล้วหรือว่าจะลงมือ? คิดให้ดีละ หากว่าลงมือแล้ว ไม่ตายก็สาหัส ต่อให้พวกเจ้าต่างก็ถือได้ว่าเป็นราชาแห่งเผ่า แต่ว่าคิดที่จะสังหารข้าแล้วละก็ อย่างน้อยจะต้องมีราชาปีศาจสองในสามที่ตายตกลงไป ” เยี่ยจงเย็นชาขึ้นมาอย่างไร้ที่เปรียบ นี้ถือได้ว่าเป็นผลลัพธ์ที่เขาคาดการณ์เอาไว้ ภายใต้สถานการณ์ที่ใช้ออกมาด้วยไพ่ตายทั้งหมด อย่างไรก็คงจะต้องเกิดผลลัพธ์เช่นนี้อย่างแน่นอน

 

“เจ้าทำให้ได้ก่อนแล้วค่อยมาพูด!” ราชาเผ่าพันธุ์ควาฟู่เป็นคนแรกที่พุ่งออกมา ก่อเกิดความเร่าร้อนของเพลิงไฟปรากฏขึ้นมาภายในดวงตา ในขณะนี้ โลหิตภายในร่างกายของเขาก็ได้ปะทุขึ้นมา พลังประกายแสงสีทองก็ได้พวยพุ่งออกมา เห็นได้ชัดว่า ราชาเผ่าพันธุ์ควาฟู่ได้ยินยอมที่จะแตกหักแล้ว คิดที่จะแลกชีวิตกับเยี่ยจงในตอนนี้

 

ควรทราบว่า เผ่าพันธุ์ควาฟู่นั้นถือได้ว่าได้เคยถูกเรียกขานว่าเป็นเผ่าพันธุ์เทพในครั้งโบราณกาลมาก่อน ถึงแม้ว่าตอนนี้ตกต่ำลง แต่ว่าแน่นอนว่าย่อมมีพลังปราณแห่งชีวิตที่เหนือธรรมดาอย่างแน่นอน

 

ในหัวของเยี่ยจงก็ได้มีความคิดที่จะหลบเลี่ยงหรือถอยไปในมุมมองหลายด้าน ในเมื่อสิ่งของก็ได้ตกมาอยู่ในมือแล้ว ในตอนนี้จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องต่อสู้แลกโลหิตกับราชาปีศาจเหล่านี้ นั้นก็เพราะว่าต่อให้ได้ชัย หากว่าอัจฉริยะเหล่านั้นลงมือแล้วละก็ สถานการณ์คงจะย่ำแย่ยิ่งกว่าเดิมอย่างแน่นอน

 

“เจ้าหนู เมื่อครู่เจ้าถือได้ว่าบังอาจจนเกินไปแล้ว? คำพูดในน้ำเสียงแต่ละอย่างก็จะเข่นฆ่าพวกข้ามิใช่หรือ? ตอนนี้จากที่ข้าดูแล้ว เจ้าจะฆ่าสังหารสองในสามในหมู่ของพวกข้าได้อย่างไรกัน ” ราชาเผ่าพันธุ์ควาฟู่ตะโกนออกมาดังก้อง ปะทุพลังโจมตีที่หลงเหลือเพียงแขนขวาในทันที จนก่อเกิดประกายแสงสีทองขึ้นมาเป็นสายพวยพุ่งออกมาก็มิปาน เกิดเสียงแตกร้าวดังขึ้นมาท่ามกลางอากาศ มุ่งหน้าเข้าไปยังบริเวณทางด้านของเยี่ยจง มีพลังอันน่าหวาดกลัวอย่างไร้ที่เปรียบ

 

เยี่ยจงขมวดคิ้วขึ้นมา ในเวลานี้จะถอยก็ไม่อาจที่จะทำได้ มือขวาของเขาได้แปรเปลี่ยนไปมาท่ามกลางอากาศ บริเวณใจกลางฝ่ามือก็ได้ปรากฏพลังกระบี่ตราประทับซ้อนทับชั้นที่เก้าสิบเก้าขึ้นมา ในเวลาเดียวกันก็ได้ฟาดประทับออกไปทางด้านหน้า จากการฝึกปรือมาอย่างเนิ่นนานของเยี่ยจง ย่อมต้องมีความเข้าใจต่อพลังสภาวะของพลังกระบี่ตราประทับ เข้าสู่ขอบเขตที่ล้ำลึกยากคาดเดาไปตั้งแต่แรกแล้ว ตอนนี้เมื่อฝ่ามือได้ฟาดออกไป ก็ได้ปะทุรังสีสังหารแผ่กระจายไปทั่ว

 

“เคร้ง——”

 

การโจมตีทั้งสองสายได้ปะทะเข้าด้วยกัน วินาทีนั้น ท่ามกลางสถานที่แห่งนี้ก็ได้เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นมาเป็นสาย จนทำให้พื้นดีในระแวกนี้เกิดสั่นไหวขึ้นมา สีหน้าของเยี่ยจงก็ได้เปลี่ยนแปลงกลับกลาย ราชาปีศาจก็ไม่อาจที่จะไม่ลงมือด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดได้ มีพลังฝีมืออันน่าหวาดกลัว ต่อให้ตัวเขาเองก็ยังต้องตระหนกในพลังฝีมือในขอบเขตที่สูงล้ำของตนเอง เมื่อต้องพบเจอกับกระบวนท่าสังหารของเด็กน้อยผู้นี้ ก็ยังต้องเกิดอาการชาด้านขึ้นมาทั่วทั้งร่างกาย

 

“เจ้าหนู——”

 

ราชาเก้าหงสาทันใดนั้นก็ได้บ้าคลั่งขึ้นมา ศีรษะทั้งเก้าก็ได้เคลื่อนไหวขึ้นมา ระดับความเร็วของมันเรียกได้ว่าอยู่ในระดับความเร็วที่สูงล้ำยิ่ง จนใช้ออกมาดุจประกายแสงแห่งเทพเซียน มุ่งหน้ากระทบเข้าไปยังบริเวณทางด้านของหน้าอกของเยี่ยจง

 

“ข้าราชาเก้าหงสาตลอดเวลามานี้ไม่เคยหวาดกลัวสิ่งใดมาก่อน นับตั้งแต่ในช่วงที่เจ้ายังไม่กำเนิดเกิดมา! คิดที่จะฆ่าสังหารพวกข้า เจ้าฝันกลางวันอยู่หรือยังไงกัน!”

 

“ตูม——”

 

เยี่ยจงไม่อาจที่จะไม่ถอยกายไปได้ ในเวลาเดียวกันในตอนนี้เขาก็ได้ควบคุมออกมาด้วยสำนึกกระบี่ตัดความว่างเปล่า มุ่งหน้าแตะเข้าไปยังบริเวณทางด้านหน้า และก็ได้เข้าปะทะกับกระบวนท่าการโจมตีอันน่ากลัวของราชาเก้าหงสา

 

“กร๊อบ——”

 

เสียงอันน่าหวาดกลัวก็ได้พวยพุ่งออกมา ประดุจดั่งขุนเขาอันสูงใหญ่ทั้งลูกเข้าปะทะเข้าด้วยกันก็มิปาน ตลอดทั่วทั้งผืนฟ้าก็ได้เกิดแรงระเบิดขึ้นมา การปะทะนั้นก่อเกิดเสียงที่ดังสนั่นหวั่นไหวแผ่กระจายออกมาอย่างไม่ขาดสาย ดังเสียดแก้วหูเป็นอย่างยิ่ง

 

ร่างกายราชาเก้าหงสาในตอนนี้ก็ได้ปะทุถอยออกไป เดิมที่ร่างกายของมันก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่แล้ว ตอนนี้เมื่อเข้าปะทะกับเยี่ยจง ถึงกับได้ยิ่งทวีอาการบาดเจ็บมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ทอสีหน้าปั้นยากขึ้นมาอย่างถึงที่สุด

 

“ซวบซวบ——”

 

ราชาเก้าหงสาเงยหน้าขึ้น หนึ่งในศีรษะทั้งเก้าก็ได้แตกกระจายขึ้น ในเวลาเดียวกันก็ได้กระอักโลหิตออกมาคำโตออกมา เกิดเสียงดังของกระดูกทั่วทั้งร่างกายไม่หยุด สำนึกกระบี่ตัดความว่างเปล่า มีพลังแห่งหยางกังมากมายอย่างไร้ที่เปรียบ เรียกได้ว่าได้เข้าใกล้ระดับเทวะไปแล้ว ถือได้ว่าเป็นกระบวนท่าสังหารที่มีพลังทำลายศัตรูได้อย่างมากมายยิ่งนัก ด้วยสภาวะของราชาเก้าหงสาตอนนี้ แน่นอนว่ายากที่ต้านรับเอาไว้ได้

 

“ก็เพียงแค่สุดยอดรุ่นเยาว์แห่งเผ่ามนุษย์เท่านั้น ถึงกับบังอาจถึงเพียงนี้ ทว่าก็ไร้ประโยชน์!” ราชาพยัคฆ์ขาวกล่าวออกมา มันก็ได้ก้าวออกมาทางด้านหน้า บนฝ่ามือก็ได้พวยพุ่งประกายแห่งกระบี่ขึ้นมาเป็นสาย หมายจะฆ่าสังหารเยี่ยจงลง

 

เยี่ยจงหัวเราะขึ้นมาอย่างเย็นชา มิได้เข้าปะทะขั้นเด็ดขาดกับราชาพยัคฆ์ขาว เพียงแต่ก้าวเท้าออกใช้ด้วยวิชาดำดินรุกคืบ ลอยมุ่งหน้าเข้าไปยังบริเวณทางด้านของราชาเก้าหงสาเข้าไป แน่นอนว่าจะต้องเริ่มสังหารจากราชาเก้าหงสาที่อยู่ในสภาพที่บาดเจ็บสาหัสอยู่แล้วก่อน เพื่อที่จะเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู

 

“ฮูม——”

 

ทันใดนั้น ศีรษะทั้งแปดที่หลงเหลืออยู่ของราชาเก้าหงสาก็ได้งอกเงยขึ้นมาในเวลาเดียวกัน อีกทั้งยังมีเสียงร้องของวิหคหงสาดังขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด จนทำให้เกิดการสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งผืนฟ้า ทั่วทั้งสี่ทิศแปดด้านก็ได้เกิดเสียงร้องดังแผ่กระจายออกมา บริเวณบนพื้นดิน ก็ได้เกิดการพลิกผันประดุจมังกรลอยล่องขึ้นมา

 

เยี่ยจงสูดหายใจเข้าลึกๆ ด้วยอาการตื่นตกใจ กระบวนท่านี้ยังไงก็ต้องหลบเลี่ยง นั้นก็เพราะว่าเขายังไม่อาจที่ฝึกไปถึงขั้นของเทวะหมุนวน (หยวนเซิน元神) หากว่าถูกการโจมตีปะทะเข้าไปเต็มๆ แล้วละก็ ต่อให้เป็นเยี่ยจงเองก็ต้องได้รับบาดเจ็บสาหัส

เทวะหมุนวน (หยวนเซิน元神) : ขอเก็บไว้ก่อนนะครับ ยังไม่แน่ใจ จากที่หาข้อมูลโดยคร่าวๆ จะเป็นเหมือนกับ พลังจุดต่างๆ ในร่างกายที่ต้องค่อยๆ เปิดไปทีละขั้น โดยไม่แน่ชัดว่ามีกี่จุด ต้องหมุนกี่รอบ ยังไม่มีความแน่ชัดว่าเนื้อเรื่องของนิยายเรื่องนี้ อ้างอิงจากเวปจีน https://goo.gl/NtaE1Z

หรือจะมองในเชิงของเกมออนไลน์ของจีนก็ได้ครับ มัน (น่าจะ) หลักการเดียวกันคล้ายๆ กัน

 

และในเวลาเดียวกันนี้ ก็ได้มีเงาร่างสายหนึ่งปรากฏขึ้นมาอย่างกะทันหัน ประดุจนกอินทรีทะยานลงมาจากฟากฟ้าก็มิปาน มุ่งหน้าเข้าปิดตายเส้นทางถอยหนีของเยี่ยจงเอาไว้

 

ในขณะนี้ เยี่ยจงก็มองไม่ออกได้อย่างชัดเจนว่าผู้ที่มานั้นเป็นราชาปีศาจตนใดกันแน่ มีแต่เพียงสัมผัสได้ถึงจิตสังหารอันมหาศาลเท่านั้น

 

“ชิ!”

 

เยี่ยจงส่งเสียงเย็นชาขึ้นมา ร่างกายถึงแม้จะถอยออกไปทางด้านหลัง แต่ว่าบริเวณใจกลางของฝ่ามือขวา ก็ได้ปรากฏพลังอักขระตราผนึกแห่งฟ้าขึ้นมา ไหลไปตามการเคลื่อนไหวของเขา ฝ่ามือนั้นก็ได้ปะทะขึ้นไปยังเหนือศีรษะ

 

ตอนนี้ถือได้ว่ามีราชาปีศาจสี่ตนลงมือออกมาแล้ว นี้ได้ทำให้เยี่ยจงรู้สึกมีโทสะขึ้นมา เขาไม่อาจที่จะรักษาความเยือกเย็นเอาไว้ได้ อีกทั้งยังฝืนลงมือออกไปอีก ต้านทานกลุ่มศัตรูอย่างตื่นตระหนก

 

บรรยากาศทั่วทั้งผืนฟ้าในตอนนี้ก็ได้สลายหายไป ตราผนึก ก็ได้ประทับเข้าไปยังยอดฝีมือที่ยังเข้าไปไม่ถึงตัวของเยี่ยจงในระยะเพียงแค่หนึ่งจังเท่านั้น ทันใดนั้นในระหว่างนั้นเองก็ได้รวมพลังเอาไว้ท่ามกลางอากาศ จากนั้นก็ได้มีเสียงดัง “ผัวะ” ขึ้นมา กลับกลายเป็นฝนโลหิตสาดเทออกมา

 

และในเวลาเดียวกันนี้ เงาร่างทั้งสามสายก็ได้พุ่งเข้าสังหารเข้ามา หมายมั่นที่จะช่วงชิงเวลาเพื่อโอกาสในการสังหาร จัดการกับเยี่ยจงในสถานที่แห่งนี้

 

เยี่ยจงเงยหน้าขึ้นท้องฟ้าแล้วหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง บริเวณมือซ้าย ก็ได้ปรากฏเกราะกิเลนขึ้น ในตอนนี้แขนกิเลนก็ได้ปะทะสังหารออกไป และทางด้านของมือขวาก็ได้ใช้ออกมาด้วยวิชาสายฟ้าฉางโยว (ลิงยักษ์) มุ่งหน้าปะทะออกมาบริเวณทางด้านหน้า

 

“ซูมซูมซูม——”

 

ดอกโลหิตได้ลอยคละคลุ้ง บริเวณท่ามกลางสนาม ประดุจดั่งเกิดหมอกปกคลุมขึ้นมา ดูไปแล้วงดงามอย่างยิ่ง ทั้งสามตนที่ได้ลงมือ มีอยู่สองตนในนั้นได้ถูกแขนกิเลนปะทะจนแตกระเบิดออก กายเป็นเพียงเศษเนื้อ และราชาปีศาจตนสุดท้ายก็ได้ถูกพลังสายฟ้าฟาดมอดไหม้เป็นเถ้าถ่าน ร่วงหล่นลงบนพื้นดิน กระอักโลหิตออกมาคำโต

 

ตายสองบาดเจ็บหนึ่ง นี้ก็คือพลังฝีมืออันแข็งแกร่งของเยี่ยจง

 

ทุกสิ่งทุกอย่างนี้ราวกับเกิดขึ้นเพียงชั่วครู่เดียวของการก่อฟืนไฟเท่านั้น แต่ว่าในช่วงสั่นๆ เพียงพริบตาเดียว ราชาเก้าหงสาก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ราชาเผ่าพันธุ์ควาฟู่วิงเวียนถอยออก แถมราชาพยัคฆ์ขาวยังไม่อาจถอยไปได้ หลงเหลือไว้แต่เพียงแค่ราชาปีศาจอีกสี่ตนที่ลงมือ นอกจากนั้นก็มีแต่ต้องพึ่งพาวาสนาของตัวมันเองแล้ว ที่เหลือก็แทบจะอยู่ในสภาพสูญพลังชีวิตไปกว่าครึ่งแล้ว ส่วนราชาปีศาจที่เหลืออีกสามตนก็ได้ตายตกไปแล้ว ไม่หลงเหลือแม้แต่ร่างกายเอาไว้

 

“ชิ——”

 

บริเวณท่ามกลางสนาม ก็ได้มีเสียงตื่นตกใจดังออกมา อัจฉริยะเหล่านั้นต่างก็มิสียากที่จะเชื่อได้ลง ยังไงเสียราชาปีศาจเหล่านี้ต่างก็ถือได้ว่าอยู่ในระดับราชา มีหรือที่จะไม่มีพลังฝีมือที่เทียบเคียงกับเทพเซียนได้ ยอดฝีมือที่ยังถือได้ว่ายังไม่ถือว่าอยู่ในระดับชนชั้นราชัน แต่ว่าเป็นที่แน่นอนว่าย่อมพอที่จะสามารถจัดการกับเยี่ยจงที่มีพลังฝีมือเพียงแค่ปลายนิ้วได้ แต่ก็คิดไม่ถึงว่า ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ยังอยู่ในระดับที่เรียกได้ว่าราชาปีศาจต่างก็ได้ลงมือโดยพร้อมกัน ยังถึงกับตกอยู่ภายใต้สภาวะเฉกเช่นนี้ได้

 

ท่ามกลางสถานที่แห่งนี้หลงเหลือราชาปีศาจไม่ถึงแปดตนเท่านั้น ตอนนี้ยังเรียกได้ว่ามีอยู่สี่ตนที่ถือได้ว่าสูญเสียสภาวะในการต่อสู้ต่อไปได้ การต่อสู้เช่นนี้ ช่างเรียกได้ว่าเป็นที่น่าตกตะลึงอย่างมาก

 

แต่ว่า เสื้อผ้าของเยี่ยจงในตอนนี้กลับไม่มีแม้แต่คราบโลหิต เขายังคงยืนอยู่ในจุดเดิม ประชันกับกลุ่มราชาปีศาจอย่างเด็ดเดี่ยว หนักแน่นสุดเปรียบปาน ถึงแม้ว่ามุมปากจะมีโลหิตไหลรินออกมาเป็นสาย แต่ว่าเขาก็กลับมิได้มีบาดแผลแม้แต่น้อยออกมา เพียงแต่ยิ้มขึ้นน้อยๆ ภายในรอยยิ้มนั้นเรียกได้ว่าเย็นชาอย่างยิ่งยวด

 

“สุดยอดรุ่นเยาว์เผ่ามนุษย์ นี้คือนามเรียกขานจากกลุ่มผู้ที่มาจากภายนอกแล้วกระมั่ง? เจ้าถือได้ว่าควรค่าที่จะถูกเรียกขานเช่นนั้นแล้ว ต่อให้เป็นแม้แต่ข้าเองเมื่อเยาว์วัย ก็ยังไม่อาจที่จะเทียบเคียงเจ้าได้แม้แต่ปลายนิ้ว ” ราชาเผ่าพันธุ์ควาฟู่กล่าวออกมา ทอสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาอย่างยิ่ง

 

เยี่ยจงยิ้มขึ้นมาอย่างเย็นชา ทอสีหน้าไม่แยแสสนใจ ไม่ได้ตอบกลับไป เห็นได้ชัดว่าแทบจะไม่เห็นราชาเผ่าพันธุ์ควาฟู่ผู้นี้อยู่ในสายตาแทบทั้งสิ้น

 

อีกทางด้านหนึ่ง ร่างกายราชาเก้าหงสาก็ได้มีเสียงดังกึกกึกดังขึ้นมา หนึ่งในศีรษะก็ได้หลุดลอยหายไป แต่ว่าเลือดเนื้อบนร่างกายของมันก็ได้ฟื้นคืนกลับมาโดยทันที ฟื้นฟูกลับคืนมาในสภาวะสูงสุดในทันที เพียงแต่ว่าตอนนี้มันกลับหลงเหลือเพียงแค่แปดศีรษะเท่านั้น กล่าวกันว่าเผ่าเก้าหงสานั้นถือได้ว่ามีทั้งหมดเก้าชีวิต หนึ่งบทหนึ่งชีวิต จากที่ดูในวันนี้ คงจะเป็นเรื่องจริงแล้ว

 

“เจ้าน่ากลัวอย่างยิ่ง เห็นๆ อยู่ว่าแม้แต่ระดับราชันก็ยังไปไม่ถึง แต่ว่ายังถึงกับมีพลังในการต่อสู้ได้ถึงเพียงนี้ แต่ว่าเพียงแค่นี้ก็เป็นที่ชัดเจนได้ว่า เจ้าจะต้องฝึกปรือเคล็ดวิชาที่มีความน่ากลัวบางอย่างมา นี้ถือได้ว่าคุ้มค่ายิ่งนัก ขอเพียงสามารถจัดการสังหารเจ้าลงได้ และเมื่อได้รับพลังฝีมือของเจ้าทั้งหมด ” ราชาเก้าหงสาหัวเราะขึ้นอย่างเย็นชา แต่ว่าสีหน้ายังคงทวีความตื่นเต้นขึ้นมา ตอนนี้เยี่ยจงถือได้ว่าเป็นเสมือนความหวังเดียวของกลุ่มราชาปีศาจนี้

 

“กับอีกแค่ราชาปีศาจห้าตนอย่างพวกเจ้าที่ดื้อด้านอย่างงั้นหรือ?” เยี่ยจงหัวเราะขึ้นอย่างเย็นชา ราวกับไม่ใส่ใจมากนัก

.

.

.

.

กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น กลุ่ม 5-12 ราคา 600
ช่องทางการโอนเงิน https://goo.gl/MnYB81
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
#####Fanpage#####
Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset