ตอนที่ 445 หลั่งเลือด
การศึกครั้งใหญ่นี้ก็ได้มาจนถึงจุดเดือดแล้ว เยี่ยจงในตอนนี้ก็ได้บ้าคลั่งขึ้นมา ไม่แต่เพียงการลงมือทั้งหมด ที่ปิดล้อมอย่างไม่คิดชีวิต ตลอดทั้งร่างกายเต็มไปโดยโลหิต ราชาปีศาจและพระยาปีศาจมากมายตอนนี้ถูกสังหารจนร่างกายสั่นสะท้านขึ้นมา ~~แน่นอนว่า ตอนนี้เยี่ยจงก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส หากกล่าวถึงพลังฝีมือของเขา การเหตุการณ์เช่นนี้ถือได้ว่ายากที่จะเกิดขึ้นได้ เพียงแค่นี้ก็พอที่จะบอกได้ถึงความโหดร้ายของการต่อสู้นี้ได้แล้ว
“เพล้งเพล้ง——”
การปะทะอันรุนแรงได้ดำเนินต่อไป ทักษะเซียนก็ได้ปะทะกันขึ้นท่ามกลางอากาศ พลังลมปราณเกิดการระเบิดขึ้นมาไม่หยุด โลหิตและเลือดเนื้อลอยกระจายเต็มไปหมด จนทำให้ทั่วทั้งสถานที่แห่งนี้เปรียบเสมือนแดนมิคสัญญี เกิดเสียงระเบิดจากการปะทะออกมาไม่หยุด
ระหว่างนั้นเองเวลาก็ได้ล่วงเลยผ่านไป ระดับการเข่นฆ่าสังหารอันรุนแรงของเยี่ยจงก็ได้ค่อยๆ ลดทอนลงแทบทั้งสิ้น และท่ามกลางในหมู่พระยาปีศาจเหล่านั้นในตอนนี้ต่างก็ลงมือโดยใช้พลังทั้งหมดออกมา เพื่อคิดจะแลกชีวิตกับเขา ทุกๆ การโจมตีของทั้งสองฝ่ายก็ได้ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งฟ้าดิน
“เคร้ง——”
กระบี่กระดูกด้ามหนึ่งก็ได้กวาดออกมา ขวางรั้งกระบี่ไม้ของเยี่ยจงเอาไว้ วินาทีนั้นเองก็ได้เกิดเสียงดังเสียดแก้วหูดังลอดออกมา จนทำให้ผู้คนเกิดขนลุกชูชันขึ้นมา
กระบี่ดำทางด้านมืออีกข้างหนึ่งของเยี่ยจงก็ได้กวาดฟาดฟันออกไป สังหารสวนกลับไป คิดที่จะปะทะสังหารก็อีกฝ่ายที่มุ่งหน้าฆ่าสังหารมาที่ตน โทสะในตอนนี้ก็ได้พุ่งสูงขึ้นมา จนทำให้พระยาปีศาจที่เป็นอีกฝ่ายต้องเกิดอาการตกใจถอยร่นไปทางด้านหลัง
“อา——”
กระบี่ดำฟาดฟันสังหารออกไป แล้วก็ได้มีพระยาปีศาจอีกตนกระอักโลหิตถอยออกไป ภายใต้กระบี่มารประดุจประหลาดด้ามนี้ มีเพียงแค่ไม่กี่คนที่อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ถอยออกไปได้
สถานการณ์ในตอนนี้ก็เกิดการต่อสู้ที่เหี้ยมโหดอย่างไร้ที่เปรียบ เยี่ยจงตอนนี้แทบจะไม่มีทางเลือก จำเป็นที่จะต้องเกิดผลลัพธ์、ทั้งง่ายดาย、จึงได้ใช้พลังฝีมือปะทะเข้าสังหารอีกฝ่ายไปในทันที เช่นนี้เขาจึงจะพอที่จะมีโอกาสในการมีชีวิตรอดไปได้
และพระยาปีศาจที่พอจะสามารถปะทะกับเขาได้ในตอนนี้ต่างก็ถือได้ว่าไม่มีผู้ใดที่ถือได้ว่าอ่อนแอเลยแม้สักคนเดียว คนเหล่านี้ต่างก็ถือได้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตของแต่ละเผ่าพันธุ์ที่จะกลายเป็นราชาในอนาคต ในเวลาเดียวกันนี้ก็ได้ลงมือออกไปพร้อมกัน คล้ายดั่งคนผู้นี้จำเป็นที่จะต้องตายในสภาพเช่นนี้ ดังนั้นต่อให้เยี่ยจงมีพลังฝีมือ ตอนนี้ต่างก็ไม่อาจที่จะต้องลิ้มลองรสชาติของการถอยได้
“อา——”
แล้วก็ได้มีพระยาปีศาจอีกตนถูกกระบี่ดำในมือของเยี่ยจงกวาดเข้าไปทางด้านหน้า ระหว่างนั้นก็ได้ครึ่งศีรษะลอยขึ้นมา ก่อเกิดเรื่องกรีดร้องดังออกมา ซากศพกระจัดกระจายเกลื่อนกลาดเต็มพื้นไปหมด ไม่นานนักการศึกนี้ก็ได้เต็มเปี่ยมไปด้วยเศษซากของเนื้อเต็มไปหมด
“ตายซะ! ข้าจะดูว่าเจ้ายังสามารถทนได้อีกนานแค่ไหน!”
มีพระยาปีศาจหัวเราะขึ้นมาอย่างเย็นชา ร่ำร้องสังหารสะเทือนไปทั่วทั้งฟ้า พวกเขาในตอนนี้กลับไม่คิดที่จะถอย ในทางกลับกันกลับยิ่งทวีความฮึกเหิมมากยิ่งขึ้น
กระบี่คู่ใจกลางฝ่ามือเยี่ยจงก็ได้ฟันออกไปติดต่อกัน และเข้าปะทะโจมตีไปหลายครั้งกับพระยาปีศาจเหล่านี้ ทางด้านหลังก็ได้มีการปรากฏขึ้นมาของพลังลมปราณเปลี่ยนแปลงเทวะที่ได้สลายหายไปอีกครั้ง เขาที่มีระดับความแข็งแกร่งที่มากมายอย่างยิ่ง ตอนนี้พลังกายเนื้อไม่สูญสลายก็ได้เกิดรอยบาดแผลขึ้น กระอักโลหิตออกมาคำโต กระนั้นพระยาปีศาจมากมายและราชาปีศาจที่หลงเหลืออีกเพียงสี่ตนก็ได้ผสานมือกัน ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ถือได้ว่าเป็นการห้ำหั่นกันของยอดฝีมือระดับราชันได้อย่างแท้จริง
โดยเฉพาะพระยาปีศาจอื่นๆ อีกหลายคน พลังฝีมือเดิมทีนั้นถือได้ว่ามากมายกว่าภายในกลุ่ม ถือได้ว่าเป็นอัจฉริยะในระดับสูงสุด พลังในการต่อสู้ย่อมไม่เป็นรองจากราชาปีศาจทั้งหลายเหล่านั้น แต่ว่าพวกมันกลับไม่กล้าลงมือโดยซึ่งๆ หน้า เพียงแต่ว่าในการลงมือในทุกๆ ครั้ง ก็ราวกับหมายจะเอาชีวิตเหมือนกัน
เยี่ยจงฆ่าสังหารฝ่าวงล้อมไปหลายครั้งหลายครา ราวกับว่าคิดที่จะฝ่าวงล้อมออกไป แต่ว่ากลับถูกพระยาปีศาจหลายตนที่มีพลังฝีมือกล้าแกร่งต้านทานเอาไว้กลับมา จนทำให้เขาไม่อาจที่จะไม่สังหารต่อไปได้ จนทำให้สูญเสียพลังไปอย่างมาก กระอักโลหิตออกมาไม่หยุด
เยี่ยจงส่งเสียงไอออกมา กระบี่ดำภายในมือก็ได้หมุนคว้างกวาดออกไปด้วยความโหดเหี้ยม ต่อมาก็ได้ฟาดฟันไปที่หว่างเอวของพระยาปีศาจอีกหลายตน จนตายตกลงไป
“ฮูม——”
และในเวลาเดียวกันนี้ ราชาปีศาจหลายสิบตนก็ได้ลงมือในเวลาเดียวกัน พลังการโจมตีอันน่าหวาดกลัวก็ได้ทอดลงสู่บนร่างกายของเยี่ยจง จนทำให้เขากระอักโลหิตออกมาคำโต ร่างกายก็ได้ลอยกระเด็นออกไป หากมิใช่ว่าเขามีพลังกายเนื้อไม่สูญสลายที่เข้าสู่ขอบเขตกายาเทวะทองคำแล้วละก็ เช่นนั้นเขาในตอนนี้ก็คงจะตายไปแล้ว
“คนผู้หนึ่งต่อกรกับราชาปีศาจ、พระยาปีศาจที่มากมายถึงเพียงนี้ เจ้าถือได้ว่าตายแล้วละ แต่ก็ถือได้ว่าเป็นความเกียรติยศอย่างถึงที่สุด การที่กลายเป็นอาหารของผู้อื่น ไม่แปลกใจเลยที่ราชาแห่งเผ่าพันธุ์ข้าถึงได้ตายด้วยน้ำมือของเจ้า ” ยอดฝีมือเผ่าวานรร้ายเพลิงเทวะตนหนึ่งก็ได้เอ่ยปากกล่าวพร้อมทั้งหัวเราะขึ้นมาอย่างเย็นชา มันตอนนี้ฆ่าสังหารได้อย่างยินดีอย่างยิ่ง สภาวะโลหิตทั่วทั้งร่างก็ได้ถูกรีดออกมา ดวงตาทอเป็นประกายแดงซ่าน เต็มเปี่ยมไปด้วยรังสีสังหาร
พระยาปีศาจตนนี้ที่มีพลังฝีมือเกือบที่จะเทียบเท่าได้กับราชาปีศาจ เยี่ยจงลงมือคิดที่จะสังหารเขาไปหลายต่อหลายครั้ง แต่ว่าก็ล้มเหลวทุกครั้งไป
และคำพูดทั้งหมดที่วานรร้ายเพลิงเทวะตนนี้กล่าวออกมาก็ถือได้ว่าเป็นความสัตย์จริง การต่อสู้ในครั้งนี้ของเยี่ยจงได้เปิดเผยให้ได้รู้ว่าเขานั้นมีพรสวรรค์และพลังฝีมือที่สามารถสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งดินแดนได้อย่างน่าตกใจ และยอดฝีมือที่อยู่ในระดับเช่นเดียวกันกับเขาที่ได้ตายตกลงในสถานที่แห่งนี้ ไม่ทราบว่าได้ตายลงไปแล้วมากน้อยแค่ไหน แต่ว่าในตอนนี้เขาก็ยังไม่มีเค้าโครงของการยอมแพ้แม้แต่น้อย ทำให้ก่อเกิดพลังสภาวะที่สะเทือนไปทั่วทั้งดินแดนได้
“บุคคลเฉกเช่นนี้ หากว่าสังหารไปแล้วละก็ก็ช่างน่าเสียดายเหลือเกิน ความจริงข้าเองนั้นก็อยากที่จะรับเขาเอาไว้ เพื่อที่จะคอยเป็นลูกน้องให้กับข้าเอง!”
พระยาปีศาจที่เป็นเผ่าวัวมารคลั่งก็ได้เดินออกมาหลายก้าว พริบตาที่มันได้ออกมา ก็ได้มีฝ่ามือขนาดใหญ่มุ่งหน้ากดทับลงไปยังทางด้านของเยี่ยจง หมายมั่นที่จะใช้ฝ่ามือที่ตบให้เยี่ยจงสลบลงไป
“เปรี้ยง——”
เยี่ยจงปัดสภาวะพลังฝ่ามือออกไป วินาทีนั้น พระยาปีศาจของเผ่าวัวมารคลั่งก็ได้เข้าปะทะออกมาอีกกระบวนท่า
“อา——”
พระยาปีศาจของเผ่าวัวมารคลั่งส่งเสียงร้องออกมาอย่างเจ็บปวด เส้นขนตลอดทั่วทั้งร่างกายก็ได้กลายเป็นสีดำ ร่างกายก็ได้ปรากฏบาดแผลขึ้นมาเป็นสาย จนเกือบที่จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
“เจ้า ไม่ไหวเลยนะ!”
เยี่ยจงหัวเราะขึ้นมาอย่างเย็นชา ร่างกายก็ได้ติดตามเข้าไป ฟาดฝ่ามือลงไปอีกหนึ่งฝ่ามือ จนกระทั่งกระแทกเข้าไปยังบริเวณใจกลางหน้าอกเผ่าวัวมารคลั่งพระยาปีศาจจนลอยกระเด็นราวกับว่าวสายปานขาด
“อ็อก——”
โลหิตก็ได้ถูกพ่นออกมาอย่างรุนแรง พระยาปีศาจตนนี้ถือได้ว่ามีความเชื่อมั่นในตนเองอย่างถึงที่สุดก็ได้เกิดอาการยากที่จะเชื่อได้ลงบนใบหน้า ในขณะนี้เอง มันก็ได้มีบาดแผลที่ทรวงอกเป็นรูโลหิตอยู่รูหนึ่ง เส้นหัวใจก็ได้ถูกตัดขาดสะบั้น มันค่อยๆ ใช้มือปิดไปที่หน้าอก ในตอนที่เยี่ยจงกำลังทอแววตาเย็นชาขึ้นมา ก็ได้ล้มลงไปกองอยู่บนพื้น ตายอย่างไม่อาจที่จะตายไปได้อีก
ทว่า ทันใดนั้นก็เข้ามายังบนพื้นดิน พริบตานั้นเองเยี่ยจงก็ได้เกิดความหวั่นไหวขึ้นมาในจิตใจ ราวกับมีความคิดที่จะถอยออกไป
“ซูม——”
กระบวนท่าสุดท้ายที่พระยาปีศาจของเผ่าวัวมารคลั่งใช้ออกมา บนเขาวัวนั้นในตอนนี้ก็ได้ลอยออกมา มุ่งหน้าแทงเข้าไปยังเยี่ยจง
เยี่ยจงใช้ออกมาด้วยวิชาดำดินรุกคืบถอยออกไป แต่ว่าก็ยังคงไม่อาจที่จะหลบเลี่ยงไปจากกระบวนท่านี้ที่ล้อมเข้ามาได้ จนไม่อาจที่จะไม่ลงมือฟาดออกมาอย่างหนักหน่วงติดต่อกัน
“ซูม——”
ในที่สุด เยี่ยจงก็ได้ใช้กระบวนท่าหนึ่งฟาดออกไป แต่ว่าตัวเขาเองนั้นก็ได้กระอักโลหิตออกมาคำโต ถึงอย่างไรก็ พระยาปีศาจตนนี้กลับใช้ออกมาด้วยกระบวนท่าที่แลกชีวิตเช่นนี้ รวมไปจนถึงท้ายที่สุดก็ยังแฝงเอาไว้จิตสำนึกฆ่าฟันเอาไว้ ราวกับไม่อาจที่จะต้านทานเอาไว้ได้
ทางด้านของพระยาปีศาจและราชาปีศาจมากมายต่างก็สูดลมหายใจเข้าออกด้วยความตกใจ พระยาปีศาจของเผ่าวัวมารคลั่งถือได้ว่าเป็นหนึ่งในพระยาปีศาจที่มีความแข็งแกร่งมากที่สุดในกลุ่ม แต่ว่าคิดไม่ถึงว่าภายใต้กระบวนท่าแลกชีวิตกลับทำได้เพียงทำให้เผ่ามนุษย์เบื้องหน้าสายตาผู้นี้เพียงแค่กระอักโลหิตออกมาคำโตเท่านั้น ผลลัพธ์เช่นนี้ถือได้ว่าทำให้ผู้คนเกิดอาการขนลุกขนพองขึ้นมาอย่างยิ่ง ราวกับไม่อาจหาญพอที่จะเชื่อได้ลง
การต่อสู้นี้ได้ดำเนินมาจนถึงขั้นนี้ ก็เพียงพอที่ถือได้ว่าเป็นที่สั่นสะเทือนไปทั้งดินแดนแล้ว ราวกับว่าเป็นสิ่งที่เคยอยู่ในสภาวะไร้ผู้ต้านของเยี่ยจงของในวันที่อยู่ท่ามกลางสมรภูมิฮวงกู่ ต่อกรกับอัจฉริยะเพียงโดดเดี่ยวเดียวดายอย่างอาจหาญเช่นนี้
อัจฉริยะจากภายนอกที่ทราบตั้งแต่แรกว่าพลังการต่อสู้ของเยี่ยจงสูงถึงเพียงใดก็ได้ยังมีสีหน้าปกติอย่างมาก นั้นก็เพราะว่า พลังความน่ากลัวเบื้องหน้าสายตานี้ แต่ว่าก็ยังถือเรียกได้ว่ายังอยู่ภายใต้การคาดเดาเอาไว้อยู่
แต่ว่า พระยาปีศาจและราชาปีศาจเหล่านั้น ต่อให้ไม่อาจที่จะเชื่อได้ลง ตอนนี้ก็ไม่อาจที่จะมีความคิดที่จะถอยได้ มนุษย์เบื้องหน้าสายตาผู้นี้ ราวกับว่าพริบตานั้นเองจะล้มลง แต่ว่าพริบตานั้นเอง ไม่ทราบว่าผ่านเลยไปเนิ่นนานแค่ไหน เขาไม่เพียงแต่ไม่ล้มลง อีกทั้งยังคงฆ่าสังหารพระยาปีศาจไม่หยุด จนทำให้พวกมันเกิดอาการขนลุกและสั่นเทาขึ้นมา
หากมิใช่ว่าจักรพรรดินีฟ้าตะวันตกฮวาเพ่ยหยี่กดดันเอาไว้ หากมิใช่มีลายคัดของจักรพรรดิฟ้าตะวันตกดึงดูด เมื่อการต่อสู้ดำเนินมาจนถึงขั้นนี้ เกรงว่าคงจะมีพระยาปีศาจไม่น้อยต่างก็ได้หันกายจากไปแล้ว
ฮวาเพ่ยหยี่ตอนนี้ก็ได้ยินอยู่บนก้อนศิลาใหญ่ก้อนหนึ่ง อยู่ในท่วงท่าที่งดงามและทรงเสน่ห์ มิได้มีรอยยิ้มที่งดงามมาตั้งแต่แรกแล้ว นางมีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างถึงที่สุด เหม่อมองไปยังฉากเบื้องหน้า ภายในดวงตาก็ได้ทอเป็นประกายซับซ้อนขึ้นมาไม่อาจที่จะสลายหายไปได้
บริเวณท่ามกลางสถานที่แห่งนี้ แต่ละแห่งต่างก็เต็มไปด้วยโลหิตและซากกระดูก กลิ่นคาวโลหิตก็ได้แผ่กระจายจนกลายเป็นหมอก การต่อสู้มาจนถึงขั้นนี้ ก็ได้ทำให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นดั่งแดนมิคสัญญี การต่อสู้นี้สามารถกล่าวได้ว่าเหมือนดั่งสังหารภูตผีเทพเซียนร่ำไห้ออกมาได้ เกิดเสียงร้องอันน่าหวาดกลัวขึ้นมาทั่วทั้งฟ้าดิน
ความแข็งแกร่งของเยี่ยจง แน่นอนว่าได้อยู่นอกเหนือความคาดคิดของผู้คนทั้งหมดไปมากแล้ว หลังจากที่ได้ใช้ออกมาด้วยพลังสภาวะของร่างมหัศจรรย์หมื่นโบราณ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับยอดฝีมือที่รายล้อมสังหารมากมายถึงเพียงนี้ เขายังถึงกับสามารถที่จะยืนหยัดได้นานถึงเพียงนี้ ควรทราบว่า ต่อให้เป็นยอดฝีมือชนชั้นราชันที่แท้จริง ไม่แน่อาจจะหมดสภาพไปแล้วก็ได้
“ตำนานเล่าขานของร่างศักดิ์สิทธิ์ไท่กู่ มีความน่าหวาดกลัวถึงเพียงนี้จริงงั้นหรือ? ขนาดชนชั้นราชันที่แท้จริงเองก็น่าจะตายไปแล้ว แต่ว่าเขายังถึงกับสามารถยืนหยัดได้มาจนถึงตอนนี้!” พระยาปีศาจไม่น้อยก็เกิดอาการผวาขึ้นมาภายในจิตใจ มือเท้าเกิดอาการชาขึ้นมา
เยี่ยจงตอนนี้มีโลหิตโชมกาย บนร่างกายก็ได้ปรากฏบาดแผลขึ้นเป็นสาย แต่ว่าเขาถึงแม้จะซวนเซไปมา แต่กลับมิได้ล้มลง ในทางกลับกันนั้นกระบี่ทั้งสองเล่มในมือก็ได้ปะทุประกายอันคมกล้าสาดไปทั่วทั้งฟ้า หนึ่งกระบี่หนึ่งพลังที่มีพลังในการทำลายหมื่นวิธี ฆ่าสังหารพระยาปีศาจชนชั้นผู้นำออกไปไม่หยุด
“ไม่อาจที่ดำเนินต่อไปเช่นนี้ได้ต่อไปแล้ว จำเป็นที่จะต้องฆ่าให้ได้ในทันที!”
ราชาพยัคฆ์ขาวก็อดทนเอาไว้ไม่อยู่ มันอ้าปากขึ้นมา กระบี่กระดูกเก้าสายก็ได้ถูกชักออกมาในเวลาเดียวกัน พัวพันอยู่ตลอดทั่วทั้งร่างกายของมัน มุ่งหน้าลอยเข้าไปยังบริเวณทางด้านที่เยี่ยจงอยู่
ราชาปีศาจเหล่านี้เดิมที่มีความหวาดกลัวต่อเยี่ยจงไม่เสื่อมคลาย นั้นก็เพราะว่าได้มีราชาปีศาจตายตกภายใต้น้ำมือของเยี่ยจงไปมากพอแล้ว แต่ว่าในเวลานี้เอง ราชาพยัคฆ์ขาวก็ไม่อาจที่จะข่มกลั้นต่อไปได้อีก ไม่อาจที่จะไม่ลงมือโดยใช้พลังทั้งหมดได้ หวังพึ่งเพียงกระบวนท่าเดียวในการสังหารเยี่ยจงลง
“เจ้า ไม่ไหวเลยนะ!”
เยี่ยจงหัวเราะขึ้นมาอย่างเย็นชา เขาย่อมให้ความสนใจต่อราชาปีศาจเหล่านี้ในระดับที่สูง ตอนนี้เมื่อพบว่าราชาพยัคฆ์ขาวทุ่มเทสภาวะสังหารออกมา กระบี่ทั้งสองเล่มใจกลางฝ่ามือก็ได้ปล่อยออกมาจากมือในเวลาเดียวกัน จะกลายเป็นประดุจดั่งมังกรพิโรธฟาดฟันออกไป ในเวลาเดียวกันเขาก็ได้แปรเปลี่ยนรอยตราบนฝ่ามือคราหนึ่ง มือหนึ่งชี้ขึ้นฟ้า、มือหนึ่งชี้ลงพสุธา จนก่อเกิดพลังโจมตีอันน่าหวาดกลัวเข่นฆ่าสังหารออกไป รวมไปจนถึงสำนึกแห่งการสังหารนับไม่ถ้วนอีกด้วย
ตราผนึกนภาก็ได้ถูกเยี่ยจงใช้ออกมาอีกครั้ง ตราผนึกนภานี้ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในสิบมนต์ตราเทพโบราณ ในขณะนี้เองก็ได้ถูกใช้ออกมาจนมีพลังทำลายอันน่าหวาดกลัวจนยากที่จะคาดคิดเอาไว้ได้ ถึงแม้ว่าเยี่ยจงจะใช้ออกมาไปแล้วหลายครั้ง แต่ว่าพระยาปีศาจทั้งหมดนั้นเมื่อพบเห็นต่างก็ตัดสินใจถอยออกไปอย่างน้อยก็ครึ่งก้าว นั้นก็เพราะว่าพวกเขาเคยพบพานพลังความแข็งแกร่งของกระบวนท่านี้มากับตนเองมาก่อน
ราชาพยัคฆ์ขาวคำรามก้อง ตอนนี้ภายในดวงตาของมันก็ได้ทอสีหน้าไม่แยแสสนใจขึ้นมา ไม่ยินยอมที่จะถอยออกไปเช่นนี้ เพียงแค่ใช้ออกมาด้วยกระบี่กระดูกทั้งเก้าเล่มออกมาฟาดฟันอย่างบ้าคลั่ง คิดที่จะประลองความเร็วกับเยี่ยจง
“เคร้งเคร้งเคร้ง——”
เยี่ยจงโยนกระบี่ทั้งสองเล่มขึ้นฟ้าไปตั้งแต่แรก คิดที่จะเข้าปะทะกับราชาพยัคฆ์ขาวซักหลายกระบวนท่า ในเวลาเดียวกันพริบตานั้นเอง ตราผนึกนภาก็ได้เข้ามาถึง
ราชาพยัคฆ์ขาวคำรามก้อง ไม่อาจที่จะไม่ยอมรับ ในหมู่ท่ามกลางราชา เขาถือได้ว่ามีความแข็งแกร่งอย่างมาก หากว่ามีวิชาแนวทางในการฝึกปรือแล้วละก็ คงจะกลายเป็นราชาที่แท้จริงได้ตั้งแต่แรกแล้ว ตอนนี้ตลอดทั่วทั้งร่างกายของมันก็ได้มีรังสีกระบี่ขึ้นมา คิดที่จะใช้พลังเช่นนี้เพื่อที่จะคลี่คลายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้
จากนั้น ตราผนึกนภาถูกเรียกขานว่าเป็นหนึ่งในสิบสุดยอดมนต์ตราเทพโบราณ สามารถที่จะผนึกฟ้าดิน หนึ่งสำนึกผนึกหมื่นสรรพสิ่ง ตอนนี้ในเมื่อเยี่ยจงใช้ออกมาด้วยพลังทั้งหมด ก็ได้เกิดพลังผนึกฟ้าดินแผ่กระจายออกไปทั่วทั้งฟ้าดิน จนตลอดทั่วทั้งร่างของราชาพยัคฆ์ขาวประดุจมีคมกระบี่ทุ่มแทงเข้ามาจากท่ามกลางอากาศไม่ขาดสายพร้อมกัน
“ซูม——”
ราชาพยัคฆ์ขาวกระอักโลหิตออกมาคำโต ร่างกายก็ได้สั่นเทาขึ้นมาไม่หยุด ภายในแววตาของมันก็ได้ปรากฏความไม่แยแสสนใจขึ้นมา ได้แต่เพียงลืมตามองไปที่เงาของตราผนึกนภาที่ผนึกตนเองทุ่มแทงเข้ามายังใจบริเวณใจกลางหน้าอกของตนเอง
“ตูม——”
ร่างกายขนาดใหญ่พริบตานั้นก็ได้แตกกระจายจะกลายเป็นฝุ่นผง พลังอักขระนับไม่ถ้วนก็ได้สลายหายไปจากท่ามกลางอากาศ กลับกลายเป็นเพียงความว่างเปล่า
พระยาปีศาจทั้งหมดต่างก็อยู่ในอาการซึมเศร้า ยากที่เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้นในฉากเบื้องหน้าได้
ราชาปีศาจตนที่สอง ได้ตายไปแล้ว!
.
.
.
.