ตอนที่ 450 การมาถึงอีกครั้งของหุบเขาหมื่นปีศาจ
ต่อมา ทั่วทั้งรัฐเหยียนก็ได้มีบรรยากาศที่ตื่นเต้นยิ่งขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นผู้ใดปรากฏตัวขึ้นมา ต่างก็ถูกตรวจสอบที่มาที่ไปโดยละเอียดจวบจนพลังภายใน
จากปากเหล่ายอดฝีมือรุ่นเยาว์จำนวนมาก ยอดฝีมือที่แต่ละขุมกำลังออกหน้ามาเช่นนี้ต่างก็ถือได้ว่ามีการคงอยู่ที่ยากจะต่อกรได้ โดยส่วนมากแล้วทุกๆ คนต่างๆ ก็อยู่ในโอวาทอย่างว่าง่าย
แน่นอนว่า แต่ก็ยังมียอดฝีมือส่วนน้อยไม่ยอมรับ ต่างก็จะถูกจัดการในทันที จากนั้นก็โยนทิ้งไปยังคุกสวรรค์ขังเอาไว้ด้วยกัน ค่อยสอบสวนกันอีก
ตอนนี้ ก็ได้มีชนชั้นราชันกว่าสิบคนโกรธเกรี้ยวขึ้นมา เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาข้อนี้ นอกเสียจากว่าจะพบกับอัจฉริยะที่มาจากแดนลับแลพวกเขาต่างก็จะสอบถามอยู่ชั่วครู่เอาไว้ ก็ยังพบได้กับยอดฝีมือรุ่นเยาว์คนอื่นๆ พวกเขาต่างก็สอบสวนโดยละเอียด เห็นได้ชัดว่าไม่ต้องการที่จะปล่อยให้เยี่ยจงจากไป
“ยิ่งมาก็ยิ่งจะยุ่งยากขึ้นมาแล้ว ! ” ท่ามกลางกลุ่มผู้คน เยี่ยจงขมวดคิ้ว หากว่าในตอนนี้ถูกจับผิดอะไรขึ้นมาได้แล้วละก็ ตนเองต่อให้มีปีกก็ยังยากที่จะหลบหนีไปได้
ไม่นานนัก เยี่ยจงที่กลายเป็นเด็กน้อยเดินออกผ่านออกมาจากช่องว่างของอากาศ เข้ามาจนถึงท่ามกลางรัฐเหยียน เขาตอนนี้เหม่อมองไปยังการปรากฏตัวของชนชั้นราชันนับสิบ วินาทีนั้นก็เกิดอาการขนลุกขึ้นมาเป็นสาย ต่อให้มิต้องเสแสร้งแกล้งทำ ตลอดทั่วทั้งกายก็ยังต้องชุ่มไปด้วยเหงื่ออันเย็นเยียบ
แต่ว่าลักษณะเช่นนี้ของเขา ถือได้ว่ามีลักษณะของเด็กน้อยผู้หนึ่งอย่างชัดเจน ตอนนี้เขาก็ได้จงใจแกล้งอ้าปากค้างขึ้นมา ราวกับกล่าวอะไรไม่ออกก็มิปาน
“เป็นเด็กน้อยที่มาจากที่ใดกัน บอกมา เจ้าเป็นคนจากที่ใดกัน” ยอดฝีมือระดับ อีกครึ่งก้าวสู่ระดับราชันผู้หนึ่งก็ได้เดินเข้ามา นำเยี่ยจงไปอยู่ทางด้านข้าง ทอใบหน้าเย็นเยียบกล่าวออกมา
นี้คือพระยาปีศาจจากเผ่าวานรตนหนึ่ง ตอนนี้มันก็ได้ขยับจมูกไปมา ทอสีหน้าเย็นเยียบและรำคาญ
“ข้า……ข้าเป็นคนของรัฐเหยียน มาจากตระกูลเล็กๆ แห่งหนึ่ง หรือไม่ก็ พี่ใหญ่ลิงท่านนี้จะไปนั่งที่บ้านข้าด้วยกันสักครา ? ดื่มน้ำชาซักถ้วย ? ” เยี่ยจงกล่าวออกมาอย่างระมัดระวัง หาวิธีที่ทำให้เปิดการเปิดเผยตัวตนที่ง่ายออกมา
พระยาปีศาจตนนี้มองไปที่ใบหน้าที่เสแสร้งปั้นออกมาของเยี่ยจงในตอนนี้ หลังจากนั้น จึงได้หัวเราะออกมาอย่างเย็นชาและกล่าว : “คนของรัฐเหยียนถึงกับเข้าไปเพื่อชมความคึกคักอย่างงั้นหรือ ไม่ทราบว่าเป็น เด็กน้อยจากที่ แต่ก็ยังไม่รีบไสหัวไปซะ ! ”
หลังจากที่สิ้นเสียง พระยาปีศาจตนนี้ก็ได้เข้าไปสอบสวนคนอื่นๆ ต่อไปทีละคน
เยี่ยจงหันกายไปในทันที ร่างกายไม่นานนักก็ได้หายเข้าไปยังภายในฝูงชน มุ่งหน้าที่จะออกไปยังภายนอก การกระทำในครั้งนี้ถือได้ว่าอาจหาญจนเกินไปแล้ว พึ่งพาแต่เพียงสถานะท่ามกลางคนของรัฐเหยียน เดิมทีเรียกได้ว่าไม่อาจที่จะตรวจสอบได้อยู่แล้ว แต่ก็เห็นได้ชัดอย่างยิ่ง พระยาปีศาจตนนั้นก็คาดเดาไม่ถึง ว่าเยี่ยจงถึงกับสามารถที่จะใช้ออกมาด้วยพลังฝีมือเช่นนี้ จึงได้ถูกเขาขับไล่ออกมาเช่นนี้
“เกรงว่าอีกไม่นานก็คงต้องมีคนที่มีปฏิกิริยากลับมาได้ ในครั้งนี้ การจะไปยังค่ายกลส่งตัวในครั้งนี้ แทบจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ไม่อาจที่จะไปหาที่ตายด้วยตัวเอง ” เยี่ยจงจากไปด้วยความรวดเร็ว หายออกไปจากภายในรัฐเหยียน จากนั้นก็ได้ใช้ออกมาด้วยวิชาดำดินรุกคืบอย่างบ้าคลั่ง มุ่งหน้าไปยังอีกทางด้านหนึ่ง
เขานั้นได้เตรียมใจเอาไว้ ทราบว่าทราบว่าพลังฝีมืออันน้อยนิดของตนเองย่อมไม่อาจที่จะปิดบังยอดฝีมือชนชั้นราชันมหาราชันเอาไว้ได้นาน ดังนั้นจึงได้ใช้ออกมาด้วยวิชาดำดินรุกคืบจนถึงขีดสุด แล้วก็ได้ดำเนินต่อไปเช่นนี้ถึงสามวัน เยี่ยจงจึงค่อยถอนหายใจออกมาคำหนึ่ง เห็นว่าทางด้านหลังมิได้มีคนติดตามมา
แต่ว่า หากเขาใช้พลังได้เชื่องช้ากว่านี้ซักหลายส่วน คงจะต้องเกิดความวุ่นวายขึ้นมาแน่ เขาสัมผัสได้ถึงพลังสังหารอันมหาศาลได้
แล้วก็ได้มีเสียงอันเย็นเยียบอยู่หลายส่วนดังกระทบเข้ามายังโสตประสาท : “ร่างศักดิ์สิทธิ์ไท่กู่ของเผ่ามนุษย์ จำเป็นที่จะต้องหนีเร็วถึงเพียงนี้เชียวงั้นหรือ ? ในเมื่อไม่ว่าเจ้าจะหนีไปอย่างไร ก็ไม่มีหนทางรอดอยู่แล้ว จำเป็นที่จะสิ้นเปลืองเรี่ยวแรงไปทำไมกัน”
ตามเสียงที่ได้ดังขึ้นมา บริเวณทางด้านหน้า เยี่ยจงก็ได้พบกับพระยาปีศาจเผ่าวานรที่ดูคุ้นเคยตนหนึ่งยืนอยู่ในที่แห่งนั้น ขวางทางเขาเอาไว้อยู่ พระยาปีศาจตนนี้ประจวบกับเป็นตนนั้นที่รับหน้าที่สอบสวนเยี่ยจงนั้นเอง ตอนนี้มันก็ได้ยืนกอดอกมองไปที่เยี่ยจง ทอสีหน้าเย็นเยียบอย่างยิ่ง
“ที่แท้ก็เป็นเจ้า” เยี่ยจงทอสีหน้าเย็นเยียบขึ้นมา คิดไม่ถึงว่าถึงกับเป็นพระยาปีศาจตนนี้ไล่สังหารตามมา ทว่าพริบตานั้นเขาก็ได้เข้าใจขึ้นมาได้ เมื่อวันก่อนตนเองคงจะเผยอะไรบางอย่างออกมา พระยาปีศาจตนนี้หลังจากที่ครุ่นคิดไปแล้ว จึงคิดได้ว่าไม่ถูกต้อง จากนั้นจึงได้ไล่ฆ่าสังหารออกมา
“เจ้าสมควรที่จะยินดีที่เป็นข้านะ หากมิใช่ว่าข้านั้นมาจากหุบเขาหมื่นปีศาจแล้วละก็ เมื่อวันก่อนเจ้าก็คงหนีไม่รอดแล้วล่ะ เจ้าคิดจริงหรือว่าพลังฝีมืออันน้อยนิดของตัวเอง จะสามารถปิดบังผู้คนทั้งหมดได้ ? ” พระยาปีศาจหัวเราะอย่างเย็นชา ท่อสีหน้าไม่แยแสแม้แต่น้อย
“หุบเขาหมื่นปีศาจ” เยี่ยจงหัวเราะอย่างเย็นชา “หากกล่าวเช่นนี้แล้วล่ะก็ ข้ายังคงต้องกล่าวขอบคุณเจ้าสักคำงั้นหรือ ? ”
“แน่นอนว่าย่อมต้องกล่าวขอบคุณ หากมิใช่ว่ามหาราชันปีศาจริ่วเอ่อมีความสนใจต่อเต้า สั่งให้จับเจ้ากลับไปอย่างมีชีวิตแล้วละก็ ข้ายังจำเป็นที่จะต้องลำบากถึงเพียงนี้งั้นหรือ ? ขอเพียงสังหารเจ้าได้ในทันที ไม่ว่าเจ้าจะเป็นร่างเทวะหรือเป็นร่างศักดิ์สิทธิ์ ก็เป็นเพียงแค่ความว่างเปล่า” พระยาปีศาจทอสีหน้าไม่สนใจมองเข้าไปยังสีหน้าของเยี่ยจง ประดุจกำลังมองแมวสุนัขก็มิปาน
“เจ้าแน่ใจว่า กับแค่การพึ่งพาพลังของพระยาปีศาจน้อยๆ ตนหนึ่งเท่านั้น จะสามารถกับข้าได้อย่างงั้นหรือ ? ” เยี่ยจงทอสีหน้าเย็นเยียบ
“เหอะ เรื่องที่เจ้าทำในดินแดนขนาดเล็ก พวกเราแน่นอนว่าย่อมได้ยินกันมาแล้ว ย่อมต้องเข้าใจว่า หากว่าเป็นเพียงพระยาปีศาจตนหนึ่ง อย่างน้อยก็คงจะไม่อาจที่จะมีวิธีต่อกรกับเจ้าได้ ดังนั้น ข้าจึงไม่อาจที่จะไม่ควบคุมพลังฝีมือของตนเองเอาไว้ก่อนหน้านี้ ดีกว่าให้เจ้าตรวจสอบได้พบ” พระยาปีศาจตนนี้ก็ได้ก้าวออกมา วินาทีนั้นก็ได้มีพลังปีศาจพวยพุ่งขึ้น ก่อเกิดพลังอันน่าหวาดกลัวแผ่กระจายออกมา เห็นได้ชัดว่าเป็นยอดฝีมือระดับราชันตนหนึ่ง ที่ถือได้ว่าได้ฝึกปรือในระดับพลังเทวะ อย่างน้อยก็อยู่ในขั้นระดับพลังขั้นก่อฟ้าขอบเขตพลังปราณสูงสุด สำเร็จจนถึงขั้นราชัน
“ราชาปีศาจ ! ” เยี่ยจงทอสีหน้าปั้นยากขึ้นมาหลายส่วน ถึงแม้ว่าเขาตอนนี้มีความสำเร็จน้อยในพลังกายาทองไม่สูญสลาย ทะลวงเข้าสู่ระดับพลังยุทธ์ขั้นก่อฟ้าขอบเขตพลังปราณความสำเร็จใหญ่ แต่ว่า การเผชิญหน้ากับราชาปีศาจ ยังคงถือได้ว่ากดดันอยู่หลายส่วน นั้นก็เพราะว่า เขาย่อมทราบดีแก่ใจว่า ยอดฝีมือชนชั้นครึ่งก้าวสู่ระดับราชันและระดับราชันที่มาจากแดนลับแลเหล่านี้ นั้นถือได้ว่าแตกต่างจากเหล่าลูกกระเจี๊ยบที่อยู่ภายในดินแดนขนาดเล็กโดยสิ้นเชิง พวกเขาไม่เพียงแต่สำเร็จวิชาที่เป็นระดับตำนาน ในเวลาเดียวกันอย่างน้อยในมีก็ยังครอบครองเอาไว้ด้วยทักษะเซียนที่น่าหวากลัวอยู่ เรียกได้ว่าแตกต่างจากการต่อสู้ภายในดินแดนขนาด ในระดับอีกขั้นหนึ่งเลยก็ว่าได้
“เจ้ายอมรับจำนนเถอะ……นั้นก็เพราะว่ามหาราชันปีศาจริ่วเอ่อเห็นแก่ในความสัมพันธ์ที่มีต่อเจ้า ข้าจะให้โอกาสแก่เจ้าอีกครั้ง ตอนนี้สะบัดพลังฝึกปรือของตน ติดตามข้าไป ไม่แน่ว่าอาจจะยังหลงเหลือหนทางรอดอยู่” ราชาปีศาจเข้ามาใกล้เรื่อยๆ บนสีหน้าก็ได้ทอแววเย็นเยียบขึ้นมา
เยี่ยจงไม่ตอบคำ หันกายหมายจะใช้ออกด้วยวิชาดำดินรุกคืบ ตระเตรียมจากออกไป
“ดูเหมือนว่าเจ้าจะปฏิเสธความหวังดีของหุบเขาหมื่นปีศาจเรานะ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ต่อให้ราชาอย่างค่าส่งเจ้าไปสู่ประตูนรกเถอะ ! ” ราชาปีศาจเผ่าวานรเดินออกมาเก้าหนึ่ง ร่างกายประดุจสายฟ้าพุ่งออกมาก็มิปาน ทั้งรุนแรงและรวดเร็ว มุ่งหน้าเข้าไปยังบริเวณทางด้านที่เยี่ยจงอยู่
ถึงแม้ว่าระดับความเร็วของเขาจะเร็วไม่เท่ากับความเร็วของเยี่ยจงก็ตามที อีกทั้งยังมิใช่วิชาจำเพาะประเภทอย่างดำดินรุกคืบ แต่ว่าตอนนี้พริบตานั้นเขาก็ยังคงสามารถที่จะปรากฏตัวขึ้นบริเวณทางด้านหน้าของเยี่ยจงได้ จากนั้นก็ได้ใช้เท้าเหยียบลงมาจากท่ามกลางอากาศ วินาทีนั้นเอง ตลอดทั่วทั้งฟ้าดินก็ได้เกิดการสั่นสะเทือนขึ้นมาเป็นสาย
ราชาปีศาจเผ่าวานรตนนี้ดูไปแล้วประดุจมีลักษณะเช่นเดียวกันเผ่ามนุษย์ก็มิปาน แต่ว่าความแข็งแกร่งในตอนนี้กลับถือได้ว่าเป็นที่น่าตกใจอย่างยิ่ง มันขยายเท้าข้างนั้นของใหญ่ขึ้นไม่หยุด จนท้ายที่สุดประดุจดั่งปกคลุมอยู่ทั่วทั้งผืนฟ้าก็มิปาน กระแทกลงมาอย่างหนักหน่วง
“โครม——”
เยี่ยจงใช้ออกมาด้วยวิชาดำดินรุกคืบด้วยพลังทั้งหมด ถอยออกไปด้วยสภาวะที่รวดเร็ว แต่ว่าฝ่าเท้าข้างนั้นเมื่อเหยียบลงมายังบนพื้นดิน ระหว่างนั้นก็ได้เกิดเสียงดังสนั่นขึ้นมา ก่อเกิดรอยแตกร้าวขนาดใหญ่แผ่กระจายขึ้นมาไปทั่วทั้งสี่ทิศแปดด้านออกไป จนทำให้พื้นดินเกิดการสั่นไหวขึ้นมา
นี้ถือได้ว่าเป็นความเคลื่อนไหวของชนชั้นราชัน ชนชั้นราชันที่แท้จริง ที่สั่นสะเทือนไปทั้งแผ่นดิน
“เจ้าหนีไม่รอดหรอก จำเป็นที่จะต้องสิ้นเปลืองเรี่ยวแรงหรือ รีบยอมจำนนมาแต่โดยดีเสียจะดีกว่ามิใช่หรือ ? ” ราชาปีศาจเผ่าวานรขยับเคลื่อนไหวกรงเล็บ มุ่งหน้าฟาดเข้าไป ฝ่ามือนั้นประดุจดั่งประทับลงมาก็มิปาน ฟาดออกเข้าปะทะจนเกิดเสียงระเบิดขึ้นมา เป็นที่น่าหวาดกลัวอย่างยิ่ง
“หุบเขาหมื่นปีศาจ มหาราชันปีศาจริ่วเอ่อ เรื่องในวันนี้ ข้าจะจดจำเอาไว้ ! ” เยี่ยจงส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างเย็นเยียบ เปลี่ยนเป็นพุ่งออกไปอีกทางด้านติดต่อกัน เขาตอนนี้ยังไม่แน่ใจได้นักว่าทางด้านหลังนั้นยังมีกองกำลังอีกหรือไม่ ไม่อาจที่จะเปิดศึกกับฝ่ายตรงข้ามเช่นนี้ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ความสำเร็จของเขาถือได้ว่ามีอยู่เพียงน้อยนิด
“จำไว้แล้วจะมีอะไรดีขึ้นมา ในเมื่อวันนี้ในปีหน้า ก็จะเป็นวันครบรอบวันตายของเจ้า เจ้าวางใจเถอะ ทุกๆ ปีข้าจะมาเผากระดาษทองกระดาษเงินให้กับเจ้าเอง” ราชาปีศาจเผ่าวานรหัวเราะเสียงเย็นชา จากนั้นเส้นขนอันคมกริบก็ได้พวยพุ่งออกมา ในขณะนั้นเอง บริเวณใจกลางฝ่ามือก็ได้ปรากฏการณ์ปะทุของอัสนีดังขึ้นมา ราวกับว่าระหว่างนั้นจะซัดเยี่ยจงลอยออกไปในพริบตา
“กระดาษทองกระดาษเงินยังคงเหลือไว้ให้เจ้าเองเถอะ ! เป็นเพียงแค่ลิงตัวหนึ่งเท่านั้น คิดจะเลียนแบบประเพณีของชาวบ้านงั้นหรือ ? ” ร่างของเยี่ยจงก็ได้ทะยานออกไปยังที่ห่างไกล ขณะนี้เองก็ได้ใช้ออกมาด้วยวิชาดำดินรุกคืบจนถึงขีดสุด แต่ว่าราวกับว่าเขาถูกมือขนาดใหญ่รั้งดึงเอาไว้อยู่ก็มิปาน ไม่อาจที่จะใช้ออกมาได้อย่างรวดเร็วนัก
แล้วก็ได้มีขุมพลังอันแปลกประหลาดไหลเวียนมาจากทั่วทั้งสี่ทิศ บนผืนดินขนาดใหญ่ก็ได้ทอเป็นประกายขึ้นท่ามกลางอากาศก็ได้ไหลเวียนไปด้วยพลังอักขระ ใต้ผืนฟ้าผืนดินนี้ประดุจดั่งกรงขังแห่งหนึ่ง ใช้มาเพื่อจัดการกับเยี่ยจงโดยเฉพาะ เพื่อที่จะกุมขังเขา มิให้ฆ่าสังหารออกไปได้
“ไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลืองเรี่ยวแรงแล้ว ในเมื่อทราบว่าเจ้าคือเยี่ยจง ผู้ที่ถือครองวิชาดำดินรุกคืบของเผ่ามนุษย์วิชาดำดินรุกคืบ ราชาเยี่ยงข้ามีหรือที่จะไม่มีการเตรียมการ ? เจ้าหนีไม่รอดหรอก ! ”
ราชาปีศาจเผ่าวานรหัวเราะฮิฮะเสียงเย็นชา ในเวลาเดียวกันเขาก็ได้ยื่นแขนขวาออกมาชี้ออกไป มุ่งหน้ากดเข้าไปยังบริเวณทางด้านของเยี่ยจงโดยแรงลงไป
วินาทีนั้น พลังลมปราณฟ้าดินก็ได้รวมกัน กระทั่งกลายมาเป็นกระบองเงินขนาดใหญ่ด้ามหนึ่ง เกิดเสียงดังเปรี้ยงปัง ปกคลุมไปทั้งฟ้าดิน ทอเป็นประกายแวววับ มุ่งหน้ากวาดเข้าไปยังบริเวณทางด้านของเยี่ยจงลงไป
พลังอันน่าหวาดกลัวและจิตแห่งการฆ่าฟันก็ได้ปกคลุมไปทั่วในตอนนี้ วินาทีนั้นก็ได้ทำให้พื้นดินเกิดการแตกร้าวขึ้น ต้นไม้ใบหญ้าทั้งหมดก็ได้มอดดับสลายลง ก่อเกิดจนกลายเป็นระบำวายุมังกรขึ้นมา
“ที่แท้ก็คือสายเลือดของพวกเจ้านี้เอง ! ” เยี่ยจงเหม่อมองไปยังกระบองเงินนี้ ทอสีหน้าเย็นเยียบอย่างไร้ที่เปรียบขึ้นมาในพริบตา ระหว่างนั้นก็ได้ก้าวออกไปก้าวหนึ่ง หลบเลี่ยงกระบวนท่าสังหารออกไป การต่อสู้เมื่อครั้งที่แล้วที่ลัทธิแห่งดวงดาว ก็ได้มีราชาวานรในมือถือกระบองเงินฆ่าสังหารศิษย์ของลัทธิแห่งดวงดาวไปมากมายนับไม่ถ้วน ถึงแม้ว่ามันจะตายลงไปด้วยฝีมือของเฮ่อตงที่ได้รับบาดเจ็บอยู่ แต่ว่าตอนนี้เยี่ยจงก็ยังคงจดจำออก ราชาปีศาจเบื้องหน้าสายตาตนนี้ ก็คือยอดฝีมือสายโลหิตเดียวกันกับราชาวานรตนนั้นเอง
“เจ้าจดจำออกงั้นหรือ ? ” ราชาปีศาจเผ่าวานรส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา “เมื่อครั้งก่อนพี่ใหญ่ข้าได้ตายตกยังสถานที่บัดซบอย่างลัทธิแห่งดวงดาว ได้แต่เพียงบอกว่าเขานั้นอ่อนแอไปเท่านั้น แต่ว่าจากที่ดูจากสีหน้าของเจ้าในตอนนี้ เมื่อครั้งนั้นมันเองก็คงจะต้องสังหารศิษย์ร่วมสำนักของเจ้าไปไม่น้อยเลยทีเดียว ? หากเป็นเช่นนี้แล้วละก็ มันก็ถือได้ว่าตายได้อย่างคุ้มค่าแล้ว ! ”
“เจ้าวางใจเถอะ” เยี่ยจงขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน สีหน้าเต็มเปี่ยมไปด้วยรังสีฆ่าฟัน “ข้าจะส่งเจ้าไปพบกับเขาเอง สายโลหิตของพวกเจ้านี้ ข้าก็จะจัดการให้สิ้นซากด้วยเช่นเดียวกัน ! ”
“งั้นหรือ น่าเสียดาย แม้แต่สถานการณ์ในวันนี้เจ้าก็ยังไม่อาจที่จะรอดพ้น วันข้างหน้าเจ้าจะสามารถทำอะไรได้กัน ? จะโทษก็ต้องโทษว่าตัวของเจ้าเอง จงตายไปอย่างว่าง่ายเสียเถอะ เกิดเป็นเพียงแค่มนุษย์ คิดที่จะแย่งชิงวาสนางั้นหรือ ท้ายที่สุดก็หาเป็นการรนหาที่ตายด้วยตัวเอง……แต่ว่า เจ้าก็ถือได้ว่าตายอย่างคุ้มค่าแล้ว ! ”
ราชาปีศาจเผ่าวานรหัวเราะเสียงเย็นชาติดต่อกัน เพิ่มพลังสภาวะที่มือขวาอีกครั้ง แล้วก็ได้มีเส้นขนทั้งห้าในขณะนี้พุ่งออกมาราวกับเข็มก็มิปาน จนเกิดเป็นคมหิมะสีฟ้าโบยบินออกมา มุ่งหน้าเข้ากดทับไปยังบริเวณทางด้านพลังปราณฟ้าของเยี่ยจง
.
.
.
.