เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 456 กดดัน

ตอนที่ 456 กดดัน

เป็นผู้ที่มาจากหุบเขาหมื่นปีศาจ ราชาปีศาจสี่ตนที่เป็นสายโลหิตแห่งมหาราชันปีศาจลิ่วเอ่อ พลังฝีมือลึกล้ำเหลือคนา เกินกว่าที่จะคาดเดา

ราชาปีศาจเหล่านี้มิใช่ราชาปีศาจที่มีพลังฝีมืออย่างเช่นเมื่อกาลก่อนอย่างสมรภูมิฮวงกู่ แล้วก็มิใช่กลุ่มราชาที่ยังเข้าไม่ถึงแม้แต่พลังเทวะภายในดินแดนขนาดเล็กแห่งศิลาตะวันบริสุทธิ์ ต่างก็ถือได้ว่าเป็นราชาปีศาจที่แท้จริง ไม่ว่าจะเป็นตนไหนสักตนต่างก็มีระดับอย่างน้อยที่พลังเทวะขั้นที่หนึ่ง พลังฝีมือน่าหวาดกลัวอย่างยิ่ง ไม่อาจที่จะประมาทได้แม้แต่น้อย

ร่างกายของเยี่ยจงตอนนี้ก็ได้เคลื่อนไหวประดุจดั่งสายฟ้า、ประดุจดั่งภูตพราย、ประดุจดั่งประกายแสงก็มิปาน บริเวณทางด้านหลังของเขา พื้นดินภูเขาสูงใหญ่ต่างก็ค่อยๆ ห่างออกไปไม่หยุด วิชาดำดินรุกคืบที่ถือได้ว่าเป็นวิชาเฉพาะเผ่ามนุษย์ในตอนนี้ ก็ได้ถูกเขาใช้ออกมาในระดับสูงสุดจนน่าหวาดกลัว แต่ว่าต่อให้เป็นเช่นนี้ เขาก็ยังคงไม่อาจที่จะสลัดตอนนี้ราชาปีศาจสี่ตนออกไปได้ อีกทั้ง ระยะห่างของทั้งสองฝ่ายก็เข้าใกล้กันไปเรื่อยๆ ไม่หยุด

เหนือศีรษะของเยี่ยจงก็ได้ปรากฏเส้นสีดำหลายสาย สายตาที่มองเข้าไปยังสถานการณ์เช่นนี้ หากต่อสู้แล้วละคงจะถูกทำให้บานปลายแน่ จะหนีก็หนีไม่รอด เปรียบเสมือนความรู้สึกว่าหนทางข้างหน้าไร้ซึ่งหนทางไปได้อีกอยู่หลายส่วน ทำให้เขาเกิดความหดหู่ขึ้นอย่างถึงที่สุด

หลังจากในขณะที่สมองกำลังแล่นความคิดอยู่นั้น เยี่ยจงก็ทำได้แต่เพียงกัดฟันไปมาเท่านั้น ทะยานออกไปยังผืนป่าเขาเข้าไป มุ่งหน้าไปทะยานออกมาทางด้านของพื้นที่ที่ไร้ซึ่งผู้คน

ดินแดนซีฮวงภาคกลาง ซร่าซวี ถือได้ว่าเป็นจักรวรรดิหนึ่งในเผ่ามนุษย์แห่งรัฐกู่กว่อ เพียงแต่ว่าเมื่อหลายหมื่นปีก่อนหน้านี้รัฐกู่กวอก็ได้สิ้นสลายไปแล้ว คงเหลือไว้แต่จักรวรรดินั้นก็ได้กลายเป็นเพียงซากปรักหักพังไปแล้วเท่านั้น

เพียงแต่ว่าในหลายพันปีมานี้ สถานที่แห่งนี้ก็ได้ตกอยู่ในการครอบครองของตระกูลที่มั่งคั่ง เพราะฉะนั้นจึงได้ถูกแพร่ขยายจนกลายเป็นหัวเมืองขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง

ร่างกายของเยี่ยจงตอนนี้ประดุจดั่งลำแสงสายหนึ่งก็มิปาน มุ่งหน้าเข้าไปยังเมืองโบราณแห่งนี้เข้าไป จนท้ายที่สุดได้มาจนถึงยังประตูของเมืองซร่าซวี จากนั้นเขาก็ได้หันกลับไปมองพบเห็นว่ามีการไล่ติดตามของเงาร่างทั้งสี่มาอย่างกระชัดชิดของราชาปีศาจสี่ตน ในเวลาเดียวกันก็ได้มีเสียงเย็นชาดังออกมา กล่าวออกมาด้วยเสียงเยียบเย็น : “พวกเจ้ามิใช่ต้องการที่จะได้รับตำนานแห่งจักรพรรดิฟ้าตะวันตกอย่างงั้นหรือ? เยี่ยม เช่นนั้นวันนี้ข้าจะมอบตำนานแห่งจักรพรรดิฟ้าตะวันตกให้แก่พวกเจ้าเอง จากนั้นก็จะรีบอัตวินิบาตตนเองไป แน่นอนว่า พวกเจ้าคงจะทราบกันอยู่แล้วว่าข้าจะทำอย่างไร ! ”

ราชาปีศาจสี่ตนก็ได้มีสีหน้าเปลี่ยนไปในเวลาเดียวกัน พริบตานั้นก็ได้หยุดเท้าลง ในเวลาเดียวกันก็กำลังพิจารณาว่าเยี่ยจงกำลังคิดอันใดอยู่ เด็กน้อยเบื้องหน้าสายตาผู้นี้เห็นได้ชัดว่าคิดที่จะแสดงกาลเล่นเล่ห์กลอะไรบางอย่างออกมา หากว่าเขาโยนบางสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ออกมาแล้ว ยกตัวอย่างสิ่งที่มีชื่อว่าตำนานแห่งจักรพรรดิฟ้าตะวันตก จากนั้นก็อัตวินิบาตตนเองแล้วละก็ เช่นนั้นเกรงว่าวันข้างหน้าของหุบเขาหมื่นปีศาจคงจะยุ่งยากขึ้นมาแล้ว

ควรทราบว่า ตำนานแห่งจักรพรรดิฟ้าตะวันตกมีความสำคัญมากเท่าใด เล่าขานกันว่าทั่วทั้งผืนฟ้าผืนดินมีเพียงแค่จักรพรรดิฟ้าห้าองค์เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นตำนานของจักรพรรดิเพียงแค่คนเดียวปรากฏขึ้นมาสู่ดินแดน ต่างก็เพียงพอที่จะทำให้เกิดความเคลื่อนไหวของสี่ดินแดนได้แล้ว แต่ว่า ถ้าหากว่าเยี่ยจงผู้นี้กล่าวออกมาอย่างส่งเดชออกมา แล้วอัตวิบันิบาตตนเอง ปล่อยให้ทั่วทั้งแผ่นดินต่างคนเข้าใจผิดว่าหุบเขาหมื่นปีศาจนั้นได้รับตำนานแห่งจักรพรรดิฟ้าตะวันตกไปแล้วละก็ เช่นนั้นเกรงว่าหุบเขาหมื่นปีศาจคงจะต้องพบกับหายนะในไม่ช้าแล้ว !

เรื่องราวเฉกเช่นนี้ เดิมทีจำเป็นที่จะต้องเก็บซ่อนเอาไว้ให้มิดชิด ไม่อาจที่จะเปิดเผยออกไปได้ และตอนนี้เด็กน้อยผู้นี้ถึงกับคิดที่จะป่าวประกาศทั้งหมดออกมา จนทำให้ราชาปีศาจกลุ่มนี้แต่ละคนต่างก็ขบเคี้ยวเขี้ยวฟันขึ้นมา

“พวกเจ้าหุบเขาหมื่นปีศาจมิใช่ต้องการตำนานแห่งจักรพรรดิฟ้าตะวันตกอย่างงั้นหรือ? ข้ามอบให้แก่พวกเจ้า ! อีกทั้งข้าขอรับรองว่าที่พวกเจ้าได้รับไปนั้นจะต้องเป็นตำนานแห่งจักรพรรดิฟ้าตะวันตกแน่นอน อีกทั้งยังเป็นสายทางแห่งดวงตะวันทั้งเล่ม ด้านในนั้นไม่เพียงแต่เป็นคัมภีร์แห่งหนทางสู่ขั้นมหาราชันได้ อีกทั้งที่ด้านในยังมีคัมภีร์โบราณต้องห้ามอยู่ด้วย พวกเจ้าไม่ต้องการอย่างงั้นหรือ?” เยี่ยจงหัวเราะกล่าวออกมา เสียงนั้นดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วทั้งเมืองซร่าซวี เพียงแต่ว่าวินาทีนั้น ทั่วทั้งเมืองซร่าซวีก็ประดุจหม้อไฟที่แตกออกมา มีกลุ่มผู้คนมากมายออกมาจากแต่หัวมุม แต่ละคนจ้องเขม็งไปยังท่ามกลางอากาศ ภายในดวงตาราวกับกำลังเกิดเพลิงไฟขึ้นมาหลายส่วน

ราชาปีศาจสี่ตนก็ได้กลอกตาไปมาในเวลาเดียวกัน ใบหน้าครุ่นคิดประดุจน้ำไหล พวกมันตอนนี้แทบไม่กล้าที่จะก้าวออกไปด้านหน้า เด็กหนุ่มเบื้องหน้าสายตาผู้นี้แม้แต่คัมภีร์โบราณต้องของสู่ขอบเขตมหาราชันก็ยังกล้าที่จะกล่าวออกมา นี้เป็นที่บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าต้องการที่จะทำให้ทั่วทั้งสี่ดินแดนเกิดความเคลื่อนไหวขึ้นมา ตอนนี้พวกมันหากว่าเดินขึ้นหน้าไปแล้วละก็ เช่นนั้นเกรงว่าวันข้างหน้าคงจะต้องพลาดท่าไปอย่างแน่นอน สิ่งของชนิดนี้ไม่ว่าจะเป็นจริงหรือไม่หากออกสู่ดินแดน ไม่ต้องเกรงว่าจะมีแต่เพียงเสียงครหาเท่านั้น ราวกับเพียงพอที่จะทำให้ชนชั้นมหาราชันทั่วทั้งแผ่นดินออกมาได้ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ หุบเขาหมื่นปีศาจต่อให้มีมหาราชันปีศาจถึงเก้าตนค่อยปกปักอยู่ อย่างน้อยก็คงจะต้องกลายเป็นถูกผู้คนฉีกเป็นชิ้นๆ ได้

ผลลัพธ์เช่นนี้ เพียงแค่คิดในมุมมองนี้ ก็พอที่จะทำให้เกิดความหวาดกลัวได้แล้ว และตอนนี้ ราชาปีศาจสี่ตนแต่ละตนนั้นยิ่งเกิดอาการขนลุกขนพองขึ้นมาอย่างไร้ที่เปรียบ นั้นก็เพราะว่าพวกเขานั้นครุ่นคิดพันครั้งหมื่นตลบก็ยังคิดไม่ถึงว่า เด็กหนุ่มผู้นี้ถึงกับไม่เกรงกลัวความตายอย่างสิ้นเชิง เรียกได้ว่าเกินกว่าสามัญสำนึกปกติไปแล้ว กลับใช้ฝีมือเช่นนี้พวกที่จะกดดันพวกเขาอย่างงั้นหรือ? หรือว่าที่แท้เขาจะไม่ทราบ ต่อให้สามารถกดดันทำให้พวกมันหุบเขาหมื่นปีศาจจากไปได้ เขาเองก็เปรียบเสมือนได้ก้าวเข้าสู่หนทางแห่งความตายด้วยตนเองแล้วมิใช่หรือ?

ราชาปีศาจสี่ตนก็ได้กัดฟันในเวลาเดียวกัน ต่างก็จงเกลียดจงชังต้องการที่จะฟาดเด็กน้อยผู้นี้ให้ตายคามือ แต่ว่าตอนนี้คิดจะจับหนูโดยเกรงกลัวเครื่องมือ จึงแทบจะไม่กล้าพอที่จะขึ้นไปด้านหน้าได้

เยี่ยจงจ้องมองไปทางด้านของพวกเขาอย่างเย็นชา จากนั้นก็ได้ส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างเย็นชาอย่างกะทันหันแล้วกล่าว : “เป็นถึงราชาปีศาจของหุบเขาหมื่นปีศาจ ถึงกับยังมีช่วงเวลาที่หวาดกลัวด้วยอย่างงั้นหรือ พวกเจ้ารีบเข้ามาเถอะ มาเลย ! ข้าตอนนี้จะส่งมอบสายทางแห่งดวงตะวันให้แก่พวกเจ้า ! ถ่ายทอดหมดสิ้นแล้วยังไม่จำเป็นที่จะต้องให้พวกเจ้าลงมืออีก ข้าจะอัตวินิบาตตนเองทันที ! ”

ราชาปีศาจสี่ตนเกิดรสชาติที่ยากจะกล่าวออกมาได้อย่างถึงที่สุด เกลียดชังจนแทบจะกลืนกินเยี่ยจงลงไปทั้งเป็น แต่ว่าตอนนี้ยังคงไม่อาจที่จะลงมือได้

“วานรยังไงก็ยังคงเป็นวานร ไม่อาจที่จะกลายเป็นมนุษย์ได้ แม้แต่ความกล้าอันน้อยนิดก็ยังไม่มี ในเมื่อไม่กล้าที่จะขึ้นมาแล้วละก็ ก็ไสหัวไปซะ ! ” เยี่ยจงร้องเชอะแล้วเอ่ยขึ้นมาอย่างเยือกเย็น ตอนนี้เขาต่อให้ต้องสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง ก็ยังไร้ซึ่งความหวาดกลัว “ไสหัวไปซะ เจ้าพวกสมองลิงเบาปัญญา ! ”

ราชาปีศาจของหุบเขาหมื่นปีศาจ ตามปกติถือได้ว่ามีสถานะสูงส่งถึงเพียงไหน ต่อให้เดินเข้าไปยังรัฐกู่กวอของเผ่ามนุษย์、หรืออย่างไท่กู่หลิงซานเป็นต้น ต่างก็ถูกต้อนรับขับสู้ตามกฎระเบียบ มีฐานะที่สูงส่งอย่างยิ่งยวด แต่ว่าวันนี้กลับถูกเยี่ยจงจงใจดูแคลนเฉกเช่นนี้ จึงทำให้ราชาปีศาจสี่ตนน้แต่ละตนมีสีหน้าที่บิดเบี้ยวขึ้นมา เกลียดชังจนต้องการฟาดเยี่ยจงให้ตายคามือ แต่ว่าต่อให้เป็นเช่นนี้ พวกเขาก็ยังคงอดกลั้นเอาไว้ต่อไป

ไม่นานนัก พระยาปีศาจของหุบเขาหมื่นปีศาจกลุ่มใหญ่ที่อยู่ทางด้านหลังก็ไล่ตามขึ้นมาได้ทัน พระยาปีศาจเหล่านี้ต่างก็ยังคงอยู่ในร่างของวานร แต่ละตนต่างก็สวมเอาไว้ด้วยเกราะหนัง ในมือถือเอาไว้ด้วยพลองเงิน ปรากฏตัวขึ้นมาถี่ยิบ ประดุจดั่งวานรชออกมาทั้งหุบเขาก็มิปาน

“เจ้าพวกวานรทั้งรัง ไสหัวไปซะ ! ” เยี่ยจงหัวเราะออกมาอย่างเย็นชาติดต่อกัน เขาในวันนี้ถูกไล่ล่าสังหารจนเกิดเพลิงแค้นขึ้นมา เกิดความโกรธขึ้นมานับตั้งแต่แรกแล้ว ตอนนี้ยิ่งทวีความไม่หวาดกลัวแม้แต่น้อย ตระเตรียมคิดที่จะพลิกฟ้าทั้งแผ่นดิน ยังมีที่ไหนที่จะเกิดความหวาดกลัวได้กัน?

หลังจากที่เกิดฉากการปรากฏตัวขึ้นนี้ ท่ามกลางเมืองซร่าซวีมีการก็ได้ปรากฏขึ้นมาของแต่ละฝ่ายออกมาอย่างมากมายมหาศาล ทุกๆ คนต่างก็ทอแววตาประหลาดแปลกใจเหม่อมองไปยังท่ามกลางผืนฟ้า ท้ายที่สุด เยี่ยจงถึงกับแสดงท่าทีเฉกเช่นนี้ออกมา วินาทีนี้ก็ได้ทำให้ผู้คนทั้งหมดอ้าปากตาค้างขึ้นมา

“นี้ นี้มิใช่สุดยอดรุ่นเยาว์เยี่ยจงที่ถูกเล่าขานกันอย่างงั้นหรือ? ได้ยินได้ฟังมาตั้งแต่แรกแล้วว่าเขานั้นได้ครอบครองตำนานแห่งจักรพรรดิฟ้าตะวันตกไป ตอนนี้ดูเหมือนว่า จะเป็นเรื่องจริงอย่างงั้นหรอกหรือ ! ?”

“เด็กน้อยผู้นี้ ต่อให้เป็นตำนานที่ยากจะพบพานในรอบล้านปีอย่างร่างศักดิ์สิทธิ์ไท่กู่? มองไม่ออกเลยว่าจะมีจุดใดที่เป็นพิเศษกันแน่?”

“ยังไม่พิเศษงั้นหรือ? นั้นเป็นถึงสี่ราชาปีศาจแห่งหุบเขาหมื่นปีศาจเชียวนะ ปกติเดินเหินไปถึงที่ใด มิใช่มีแต่คนให้ความเคารพนับถือหรอกหรือ วันนี้กลับถูกเยี่ยจงชี้หน้าด่าทอ นี้ยังมิใช่พลังความสามารถของร่างศักดิ์สิทธิ์ไท่กู่อีกงั้นหรือ ! ”

“ทว่า สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไรกันแน่? มิใช่ว่าทุกผู้คนต่างก็หมายตาจะจับกุมเด็กหนุ่มผู้นี้หรอกหรือ ทำจนเหมือนกับเขานั้นเปรียบเสมือนหีบสมบัติที่เคลื่อนไหวได้ก็มิปานอย่างงั้นแหลาะ? เหตุใดตอนนี้หุบเขาหมื่นปีศาจถึงกับไม่กล้าเคลื่อนไหวกันเล่า?”

“เจ้าทราบอะไรกัน? หากว่ามีอะไรภายในป่าเขาลึก คิดจะจับคนก็จับอย่างงั้นหรือ คิดจะกอบโกยประโยชน์ก็กอบโกยอย่างงั้นหรือ มีผู้ใดไม่ทราบกัน? แต่ว่าตอนนี้สายตามากมายที่กำลังมองเข้ามา นั้นก็คือเยี่ยจงผู้นี้กล่าวเอาไว้ว่าจะส่งมอบสายทางแห่งดวงตะวันให้แก่พวกมันพวกมัน แล้วจะอัตวินิบาตตนเองอีก มีอย่างที่ไหนที่หุบเขาหมื่นปีศาจจะกล้ากันเล่า? ถ้าหากพวกมันตอนนี้ได้สายทางแห่งดวงตะวันมา เกรงว่าคงจะต้องกลายเป็นเยี่ยจงคนที่สองอย่างแน่นอนแล้ว ! ”

“อีกทั้งพวกเจ้าฟังเอาไว้ให้ดี เยี่ยจงถูกกล่าวขานว่าเขาได้ครอบครองสายทางแห่งดวงตะวันเอาไว้ อีกทั้งยังมีคัมภีร์โบราณต้องห้ามสู่การขึ้นสู่ระดับมหาราชัน สิ่งของชนิดนี้หากถูกส่งมอบเพียงอย่างเดียวย่อมไม่มีปัญหาอันใด แต่ว่าถ้าหากว่าส่งมอบต่อหน้าผู้คนนับล้านเล่า สถานการณ์เช่นนั้น ต่อให้เป็นหุบเขาหมื่นปีศาจเองก็ยังยากที่ทานรับได้มิใช่หรือ ! ?”

“กล่าวอย่างง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นเผ่ามนุษย์รัฐกู่กวอ ไท่กู่หลิงซาน แดนลับแล เกรงว่าในสภาวะเช่นนี้คงไม่มีผู้ใดหาญกล้าพอที่จะลงมืออย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้หรอก แย่งชิงสายทางแห่งดวงตะวันงั้นหรือ? เพราะว่าวัตถุเช่นนี้ เรียกได้ว่าถือได้ว่ามีค่าอย่างมาก ! ผู้ใดครอบครองผู้นั้นก็มีแต่ตายกับตาย ! ”

“เผ่ามนุษย์ร่างศักดิ์สิทธิ์ไท่กู่ ช่างไม่ธรรมดาอย่างแท้จริง การลงมือเช่นนี้ยังถึงกับคิดขึ้นมาได้ นี้มิใช่เรียกว่าหนูจนตรอกอย่างงั้นหรอกหรือ?”

“ทว่านี้ก็ไม่อาจที่จะโทษเขาได้ ตลอดเวลามานี้ ทั่วทั้งดินแดนซีฮวงภาคกลางต่างก็มีคนค้นหาร่องรอยของเขา เรื่องได้ลุกลามมาจนถึงขั้นนี้แล้วละก็ เกรงว่าต่อให้เป็นเขาก็ไม่อาจที่สลัดหลุดออกไปได้เช่นนี้ ในเมื่อทั้งซ้ายทั้งขวาก็มีแต่ตาย หรือมิสู้ฉุดดึงหุบเขาหมื่นปีศาจลงน้ำด้วยกัน? มิใช่หรือ?”

ยอดฝีมือไม่น้อยต่างก็วิพากษ์วิจารณ์ออกมา ในเวลาเดียวกันแต่ละคนต่างมีแววตาลุกโชนขึ้นมา แฝงเอาไว้ด้วยความโลภอยู่ชนิดหนึ่ง ทว่าภายใต้ความโลภนั้น มีคนมากมายต่างก็มีสีหน้าหวาดกลัวรวมเอาไว้ด้วย

ตอนนี้คำพูดของเยี่ยจงประดุจดั่งการทลายสวรรค์เป็นเสี่ยงๆ ได้ เกรงว่าหลังจากนี้อีกไม่นาน ยอดฝีมือทั้งสี่ทิศก็คงจะต้องรวมตัวกันออกมา ในเวลานี้ ผู้ใดที่คอยหาเรื่องเขาผู้นั้นก็มีแต่ตาย มีความเป็นไปได้ว่ายังไม่อาจที่จะไม่ได้รับประโยชน์ใด ก็ตกกลายเป็นเป้าหมายโจมตีไปแล้ว

ในเวลาเดียวกัน ผู้คนมากมายต่างก็เข้าใจขึ้นมา เรื่องราวในเมื่อดำเนินมาจนถึงขั้นนี้แล้ว เกรงว่าคงจะมีแต่เพียงการปรากฏตัวของชนชั้นมหาราชันที่แท้จริงเท่านั้น จึงจะสามารถที่จะทำให้สงบลงมาได้ คนอื่นๆ นั้นแน่นอนว่าย่อมไม่มีความอาจหาญพอที่จะลงมือเป็นการส่วนตัวได้อย่างแน่นอน

ราชาปีศาจสี่ตนต่างก็กรอกนัยน์ตาไปมาไม่หยุด ตอนนี้ก็ได้ขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน กดดันตนเองเอาไว้มิให้ลงมือ

“ท่านราชาใหญ่ เหตุใดยังมิให้พวกข้าลงมือกันอีก สังหารเข้าทิ้งซะ เพื่อล้างแค้นให้แก่ท่านราชาที่แปด ! ”

กลุ่มพระยาปีศาจในเวลาเดียวกันร่ำร้องออกมา พวกมันย่อมทราบว่าตอนนี้สมควรที่จะทำอย่างไร ดังนั้นตอนนี้ยังมิใช่เรื่องที่สมควรกล่าวถึงสายทางแห่งดวงตะวันอะไรนั้น เพียงแต่ใช้ข้ออ้างในการล้างแค้นให้แก่ราชาแปดออกมา

เยี่ยจงทอสีหน้าเย็นชาขึ้นมา มิได้กล่าวอันใด เพียงแต่ยกมือขึ้นมาชี้ออกไป กดลงไปที่บริเวณใจกลางหว่างคิ้วของตนเอง

กล่าวไปก็น่าขำสิ้นดี นับตั้งแต่โบราณมา การใช้วิธีฆ่าตัวตายเพื่อข่มขู่ศัตรู เยี่ยจงไม่ว่าจะอย่างไรก็ยังถือได้ว่าเป็นอันดับหนึ่ง แม้แต่ตอนนี้ยอดฝีมือแห่งหุบเขาหมื่นปีศาจกลุ่มนั้นก็ยังไม่หาญกล้าพอที่จะทำอันใดต่อเขา ได้แต่เพียงขบเคี้ยวเขี้ยวฟันไปมา

“เยี่ยจง……” หลังจากนั้นสักพัก ราชาปีศาจตนนี้จึงได้กล่าวออกมาเสียงเย็นเยียบ สงบจิตสงบใจขึ้นมาในทันที “เจ้าทราบหรือไม่ว่าตนเองกำลังทำอะไร? จำเป็นที่จะต้องใส่ร้ายตนเองด้วยงั้นหรือ ต่อให้เจ้าส่งมอบสายทางแห่งดวงตะวันให้แก่พวกข้า พวกข้าหลังจากนั้นก็เปิดเผยออกไปก็สิ้นเรื่อง เจ้าคิดว่า เจ้าทำเช่นนี้จริงจะสามารถที่จะกดดันข้าได้อย่างงั้นหรือ?”

“พวกเจ้าไม่เสียดายงั้นหรือ?” เยี่ยจงหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา ในเวลาเดียวกันก็ใช้น้ำเสียงที่มีแต่เพียงคนเพียงห้าคนเท่านั้นที่สามารถได้ยินกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “พวกเจ้าวางใจเถอะ ต่อให้ข้าให้แก่พวกเจ้าจริง ก็เป็นเพียงแค่เศษคัมภีร์ คัมภีร์ที่แท้จริงนั้น พวกเจ้าอย่าได้หวังที่จะได้ไปเลย ”

“เจ้า……”

ราชาปีศาจสี่ตนกลอกตาไปมาอย่างวุ่นวาย ราวกับจนเป็นบ้าขึ้นมา พวกมันต่อให้คาดเดาก็คาดเดาได้ เยี่ยจงต่อให้หมดหวังแล้วละก็เกรงว่าท้ายที่สุดยังไงเสียก็ยังมิได้อันใด คนเพียงคนเดียวกลับยังคงสามารถที่จะนำพาความสูญสลายมาให้แก่กลุ่มชนชั้นมหาราชันแห่งหุบเขาหมื่นปีศาจได้ เพราะฉะนั้น ในตอนนี้พวกมันต่างก็เกิดอาการสั่นเทาไปทั่วทั้งสรรพร่าง ไม่กล้าที่จะก้าวออกไปทางด้านหน้าแม้แต่ก้าวเดียว

.

.

.

.

กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ

โปรโมชั่น กลุ่ม 6-12 ราคา 550

VIP5 https://goo.gl/ekcF7V

VIP6 https://goo.gl/4rqw89

VIP7 https://goo.gl/qrQ7GA

VIP8 https://goo.gl/Uzqf2x

VIP9 https://goo.gl/1jPZtn

VIP10 https://goo.gl/L8awva

VIP11 https://goo.gl/rojEiG

VIP12 https://1th.me/o9CD

ช่องทางการโอนเงิน https://goo.gl/MnYB81

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่

INBOX m.me/ZuiQiangWuShen

#####Fanpage#####

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset