เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 491 อับจน

 

เพลิงกาฬลำดับที่สี่ก็ได้เริ่มต้นขึ้นด้วยลักษณะที่มีสีเป็นสีดำทมิฬปรากฏขึ้นมา แม้จะกล่าวไปได้ว่าน่าประหลาด เมื่อครู่ท่ามกลางเพลิงกาฬสีม่วง ก็ได้ทำให้เหล่าศิลาได้มีลักษณะถูกเผ่าผลาญขึ้นมา แต่ว่าท่ามกลางพื้นที่เพลิงกาฬที่เป็นพื้นที่สีดำทมิฬ หินภูเขากลับมิได้มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ราวกับพลังเพลิงกาฬสีดำทมิฬมีอุณหภูมิที่น้อยยิ่งกว่าก็มิปาน

 

แต่ว่า พึ่งจะได้เข้าไปยังท่ามกลางเพลิงกาฬสีดำทมิฬผืนนี้ พริบตานั้นเยี่ยจงก็ได้รู้สึกได้ถึงความรู้สึกที่แปลกประหลาดอยู่ชนิดหนึ่ง ก็ได้เกิดอาการเจ็บปวดขึ้นมาภายในบริเวณหัวใจขึ้นมา ราวกับว่าเพลิงกาฬสีดำทมิฬเหล่านี้อยู่ในสภาวะไร้ซึ่งการมองเห็นเข้าไปยังเลือดเนื้อตนเอง จู่โจมเข้าไปยังภายในดวงวิญญาณของตนเองก็มิปาน

 

เยี่ยจงก้าวเท้าออกมาก้าวหนึ่ง ตลอดทั่วทั้งร่างกายก็ได้ไหลเวียนไปด้วยประกายแสงสีทอง กายาทองไม่สูญสลายก็ได้ถูกใช้ออกมาทั้งหมด ในเวลาเดียวกันก็ได้เพิ่มพลังการคุ้มครองเข้าไปยังบริเวณหัวใจของตนเองเพิ่มขึ้นอีกมาก ความรู้สึกเช่นนี้จึงได้ลดน้อยถอยลง

 

แต่ว่าต่อให้เป็นเช่นนี้ ขณะนี้เยี่ยจงก็ได้เริ่มที่จะรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมา เห็นได้ชัดว่า เพลิงกาฬสีดำทมิฬเหล่านี้ ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือความคาดหมายจากที่ตนเองรู้จัก

 

บริเวณทางด้านหลัง เด็กน้อยกลุ่มนั้นที่ไล่ล่าเข้ามาแต่ละคนก็แสดงสีหน้าเปลี่ยนไป เมื่อพบว่าเยี่ยจงถึงกับเข้าไปยังภายในเพลิงกาฬลำดับที่สี่ ทุกคนต่างก็ทอสีหน้าปั้นยากขึ้นมาอยู่หลายส่วน เห็นได้ชัดว่า ตามความคาดหมายแต่แรกของพวกเขา เยี่ยจงย่อมไม่อาจที่จะเข้าไปยังส่วนลึกได้ไกลมากนะ

 

“ชิ——”

 

ชิงหญิงขยับเคลื่อนไหวอย่างช้าช้า เตาหลอมเหนือศีรษะก็ได้ทอเป็นประกายคมกล้าขึ้นมา ไปใต้การปกคลุมของประกายคมกล้านี้ ก็ได้ทำให้นางเคลื่อนไหวดุจนางเซียนก็มีปาน ให้ความรู้สึกที่น่าดึงดูดอยู่ชนิดหนึ่ง

 

นางยิ่งเข้ามาใกล้เรื่อย แล้วก็ได้มีเพลิงกาฬสีดำปรากฏขึ้นมา จ้องมองไปที่เยี่ยจงอย่างเงียบเชียบ จากนั้นก็ส่งเสียงออกมา : “ท่านเยี่ยจง อย่าได้ฝืนอีกต่อไปเลย ข้าทราบว่าท่านสำเร็จกายาทองไม่สูญสลายความสำเร็จเล็ก ไม่ธรรมดาเป็นอย่างยิ่ง จนสามารถที่จะทำให้ท่านอยู่ในบริเวณนี้ได้ เพียงแค่นี้ก็เป็นที่ประจักษ์ของพลังได้แล้ว ! ขณะนี้ท่านติดตามข้าไปเถอะ แดนปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของท่านแล้ว ! อีกทั้งภายในลัทธิของข้ายังมีการคงอยู่ที่อยู่เหนือกว่าระดับมหาราชัน ท่านติดตามข้ากลับไป ไม่ว่าจะเป็นขุมกำลังใดก็ไม่อาจที่จะแตะต้องท่านได้ ! ”

 

“เหนือกว่าระดับมหาราชัน ! ” เยี่ยจงทอสีหน้าหวั่นไหว ภายในดวงตาก็ได้สาดเป็นประกายประหลาดขึ้นมา ทั่วทั้งสี่แดนทั้งฟ้าดินมีการคงอยู่ของกฎเกณฑ์ แก่นแท้นั้นมีอย่างจำกัด หากกล่าวกันตามเหตุผล การคงอยู่ของยอดฝีมือเหนือกว่าระดับมหาราชันเป็นสิ่งที่ไม่สมควรมีอยู่ อีกทั้งหากมีคนที่อยู่ในระดับพลังระดับจริงแล้วละก็ เช่นนั้นก็คงจะมีแต่ข้ามแดนเป็นอย่างน้อย

 

“เป็นเหนือกว่าระดับมหาราชัน อาจจะเป็นสิ่งที่จะไม่อาจที่จะเข้าใจได้ แต่ว่าก็ยังถือได้ว่าเป็นสิ่งที่มีความแข็งแกร่งอย่างมากที่ยากนักจะมีคนต้านทานได้” ชิงหญิงที่มีผิวพรรณขาวผ่อง ขณะนี้ก็ได้เผยรอยยิ้มอันน่าดูขึ้นมาเป็นอย่างยิ่ง ประดุจดั่งทุ่งดอกไม้บาน แล้วก็เป็นเหมือนกับแสงจันทร์ที่สาดทอลงมายังดอกบัว “ข้าได้ให้ตัวเลือกที่ดีที่สุดแก่แล้วไปแล้ว เพราะว่าสถานที่แห่งนี้เจ้าแทบจะไม่อาจที่จะหลบหนีไปได้ ต่อให้เป็นยอดฝีมือผู้อาวุโสมาถึงยังสถานที่แห่งนี้ ก็ยังไม่อาจที่จะไม่ถอยร่นไป ต่อให้เจ้าทนทานรับเพลิงกาฬสีดำนี้เอาไว้ได้ในระยะเวลาหนึ่ง แต่ว่าเจ้าจะทนทานได้นานแค่ไหนกัน อย่าได้ทระนงตนเองจนเกินไป ! ”

 

“ข้ายังคงยืนยันคำเดิม” เยี่ยจงครุ่นคิด จากนั้นก็ได้ยิ้มน้อยๆ ขึ้นมา “ขอเพียงนางเซียนชิงหญิงยินยอมที่จะอยู่เคียงคู่เคียงข้างกับข้าเยี่ยจง ฝึกพลังคู่ธาตุหยินหยางร่วมกัน เพื่อให้ข้ากลายเป็นเขยขวัญของแดนปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์แล้วละก็ เช่นนั้นติดตามเจ้าไปแล้วจะเป็นไรไป ? ต่อให้ต้องนำคัมภีร์กฎแห่งสวรรค์มาเป็นของหมั่นหมาย ก็ยังถือว่าคุ้มค่า ! ”

 

“เรื่องนี้มิใช่ว่ามิได้ถูกคาดคิดมาก่อน แต่ว่าขอเพียงเจ้าทุ่มเทแรงกาย เอาชนะสามบุตรศักดิ์สิทธิ์ใหญ่คนอื่นๆ ก่อน ไม่แน่ว่าท่านจ้าวแดนจะยอมรับคำขอของเจ้า” ชิงหญิงยิ้มขึ้นเบาๆ มิได้เกิดโทสะขึ้นมาแม้แต่น้อย อีกทั้งยังอยู่ในท่วงท่าที่งดงาม “ด้วยความสามารถอย่างเจ้า กับเรื่องเพียงนี้เท่านั้น สามบุตรศักดิ์สิทธิ์จะขวางรั้งเส้นทางของเจ้าได้ซักกี่ปีกัน ? รีบตามข้าไปเถอะ”

 

เยี่ยจงสีหน้าดำคล้ำ จากนั้นก็ได้ส่ายหน้าไปมา : “ท่ามกลางสามบุตรศักดิ์สิทธิ์ ที่อ่อนโทรมที่สุดสมควรที่จะอยู่ในระดับพลังเทวะขั้นที่หนึ่งกระมั่ง ? นางเซียนก็กล่าวได้เกินไปแล้ว ข้าว่าช่างเถอะ ยังคงรอให้ข้าหลังจากที่สำเร็จระดับมหาราชันแล้ว จะไปร่วมมือด้วยกันกับจื่อจุนเทียน เข้าไปเข่นฆ่าชิงตัวคนจากแดนปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ ข้าคิดว่าเขาก็คงจะสนใจเป็นอย่างยิ่ง ! ”

 

หลังจากที่สิ้นเสียง ร่างกายเยี่ยจงก็ได้ถอยหลังออกไปบริเวณทางด้านหลังภายในพริบตา หมายที่จะสลัดชิงหญิงให้หลุด

 

ชิงหญิงขมวดคิ้วดกดำชนกันเล็กน้อย หลังจากนั้นก็ได้ก้าวอยู่บนดอกบัวอยู่หลายก้าว เร่งความเร็วติดตามไป เตาหลอมเล็กเหนือศีรษะยังคงทอเป็นประกายคมกล้าปกคลุมเอาไว้อยู่ ประดุจมีแสงจันทร์สาดทอลงมายังร่างของนางเซียนก็มิปาน

 

บริเวณทางด้านหลัง ยอดฝีมือมากมายเมื่อได้เห็นฉากเบื้องหน้า หลังจากที่เกิดความสงสัย แต่ละคนจึงค่อยได้ทะยานเข้ามา ไล่ล่าเยี่ยจงต่อไป

 

เพราะว่า เกี่ยวกับพื้นที่ราบเสี่ยวหนานพวกเขาต่างก็พอเข้าใจอยู่หลายส่วน ว่าเพลิงกาฬดำทมิฬระดับที่สี่นั้นอันตรายอย่างถึงที่สุด ด้วยไพ่ตายที่พวกเขาได้ตระเตรียมเอาไว้ หากว่าพลั้งเผลอเข้าไปแล้วละก็ หากไม่ระมัดระวังก็คงจะกลายเป็นเข้าไปอย่างไม่มีทางหวนกลับมาได้ แต่ว่าขณะนี้เยี่ยจงยังคงเป็นเหมือนมิได้เกิดอะไรขึ้นก็มิปาน จนทำให้พวกเขาไม่อาจที่จะไล่ล่าต่อไปได้ นั้นก็เพราะว่าคนกลุ่มนี้นั้นย่อมเข้าใจได้เป็นอย่างดีอย่างยิ่ง เยี่ยจงไม่ว่าจะมีโอกาสพรสวรรค์อันน่าตกใจมากถึงเพียงไหน ในครั้งนี้หากว่าปล่อยให้ความหลบหนีไปได้อีกแล้วละก็ วันข้างหน้าเติบใหญ่ขึ้นมา ย่อมต้องส่งผลกระทบต่อขุมกำลังของพวกเขาเหล่านี้ จนถึงขั้นดับสูญก็เป็นได้

 

เยี่ยจงเพิ่มระดับความเร็วมากยิ่งขึ้นจนถึงขีดสุด ไม่นานนัก เพลิงกาฬสีดำเหล่านี้ก็ได้ไล่ตามมาบริเวณทางด้านหลัง ไม่นานนัก บริเวณทางด้านหน้าก็ได้มีเพลิงกาฬสีทองเป็นประกายขึ้นมา

 

เมื่อได้พบเห็นเพลิงกาฬสีทองเหล่านี้ ภายในจิตใจของเยี่ยจงก็ได้เกิดอาการขนลุกขึ้นมาเป็นสาย เพลิงกาฬสีดำเขาเรียกได้ว่าเริ่มที่จะไม่อาจที่จะทานเอาไว้ได้อยู่ ประดุจดั่งได้เข้าสู่ภายในเพลิงกาฬสีทอง เยี่ยจงก็ได้รับรู้ได้ถึงบางอย่าง ต่อให้ตนเองที่สำเร็จพลังกายาทองไม่สูญสลายความสำเร็จเล็ก อย่างน้อยก็คงจะไม่อาจที่จะทนทานอยู่ได้นานนัก

 

ในขณะหลังจากที่เกิดความลังเล เยี่ยจงก็มิได้เข้าไปใกล้ยังเพลิงกาฬสีทอง เพียงแต่พยายามเดินหลบเลี่ยงมัน มุ่งหน้าเคลื่อนไหวออกไปจากอีกทางด้านหนึ่ง

 

“เยี่ยจง จำเป็นที่จะต้องทำเช่นนี้งั้นหรือ หากว่ายังเข้าไปต่อไปแล้วละก็ เจ้าคงจะต้องมอดไหม้อย่างแน่นอน มิสู้เก็บทุกสิ่งเอาไว้แก้แค่นในวันหน้า ? ยิ่งไปกว่านั้น ข้อเสนอที่ตัวข้าเองที่เป็นตัวแทนของแดนปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ที่เสนอให้แก่เจ้าก็ยังถือได้ว่าไม่เลวเลยทีเดียว หากว่าเป็นขุมกำลังอื่น อย่างน้อยก็คงต้องจัดการให้เจ้าพิกลพิการไปแล้ว” ชิงหญิงยิ้มขึ้นน้อยๆ ส่งเสียงออกมาติดต่อกัน มิได้เร่งรีบลงมือ เพียงแต่พยายามที่จะกดดันเข้าไปใกล้ไม่หยุด

 

“เสี่ยวเยี่ยจง ดูเหมือนว่านางเซียนชิงหญิงจะให้ความสนใจต่อเจ้าเป็นอย่างมากเลยนะ ทว่าแดนปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ได้มีบุตรศักดิ์สิทธิ์ถึงสามคนแล้ว จะอย่างไรก็คงยากที่จะถึงรอบของเจ้าได้ ยังคงกลับหุบเขาจิ้งจอกไปพร้อมกับข้าไม่ดีกว่าหรอกหรือ ? ไม่ว่าผลสุดท้ายจะเป็นอย่างไร ก็ยังดีเสียกว่าตายตกลง มิใช่หรือ ? ” ซูม่อหยงก็ได้ฆ่าสังหารมาจากบริเวณทางด้านหลัง แสดงรอยยิ้มอันหวานหอมออกมา นางก็ได้กรีดมืออันขาวผ่องออกมา จนก่อเกิดพลังความน่าหวาดกลัวสายหนึ่งพุ่งเข้าไปยังบริเวณศีรษะของเยี่ยจง

 

“น้องชาย ยังคงมาเผ่าซือข้าเถอะ การเดินทางไกลมากใช่ว่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเจ้าไม่ ! ” หลิงม๋งก็ได้ไล่ตามขึ้นมา บนใบหน้าของนางก็ได้มีรอยยิ้มทรงเสน่ห์ขึ้นมา แต่ว่าเมื่อมองเข้าไปแล้วก็ยิ่งทำให้เยี่ยจงเกิดอาการขนลุกขนพองขึ้นมา

 

“ทั้งสามท่าน วันหน้าข้าย่อมต้องไปเยี่ยมเยียนถึงที่ด้วยตัวเองอย่างแน่นอน ตอนนี้ยังไงก็ขอเชิญพวกเจ้ากลับไปก่อนเถอะ ! ” เยี่ยจงเหม่อมองไปยังสาวงามอันชดช้อยทั้งสามนาง ทอสีหน้าดำคล้ำ หญิงสาวทั้งสามไม่ว่าจะเป็นคนใดคนหนึ่งต่างก็ย่อมไม่ธรรมดาอย่างถึงที่สุด ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ยังเอ่ยปากขึ้นมาเช่นนี้ เยี่ยจงย่อมทำใจเชื่อไม่ลงอย่างแน่นอน พริบตานั้นเอง เขาก็ได้หันกายไป ขบเคี้ยวเขี้ยวฟันมุ่งหน้าเข้าไปยังใจกลางของเพลิงกาฬสีทอง

 

ในขณะนั้นเอง เยี่ยจงก็ได้สัมผัสได้อย่างกระจ่าง กายาทองไม่สูญสลายตนเองในขณะนี้ก็ได้อยู่ในสภาวะที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่หลายส่วน ตลอดทั่วทั้งร่างกายก็ได้เริ่มที่จะลุกไหม้ขึ้นมา พร้อมที่จะถูกเผาผลาญไปได้ทุกเวลา

 

“เสี่ยวหลุน เจ้าตัวพึ่งพาไม่ได้จะไม่ช่วยลงมืออะไรหน่อยเลยหรือไง ? ” เยี่ยจงส่งเสียงดังขึ้นมาภายในใจ

 

“เจ้าจึงเป็นตัวพึ่งพาไม่ได้ หนีมายังสถานที่แห่งนี้ทำอะไรกัน ถึงกับหนีเข้ามายังพื้นที่ราบเสี่ยวหนาน หาที่ตายก็ไม่มีผู้ใดหาที่ตายเช่นเจ้าหรอกนะ ! ” เสี่ยวหลุนส่งเสียงออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ แต่ว่าขณะนั้น มันก็ยังคงทอประกายแสงออกมาห่อหุ้มในขณะที่กำลังด่าทออยู่ ปกคลุมอยู่ตลอดทั่วทั้งร่างกายของเยี่ยจง

 

และภายใต้การปกคลุมของประกายแสงเช่นนี้ เยี่ยจงจึงค่อยรู้สึกดีขึ้นมาส่วนหนึ่ง มิได้เกิดความเจ็บปวดเฉกเช่นเมื่อครู่นี้

 

“รีบหนีออกไปให้เร็วเข้า ข้าคงไม่อาจที่จะทนอยู่ได้นานนักหรอกนะ ภายในสถานที่แห่งนี้ข้าก็ไม่ถูกด้วยอยู่แล้ว ข้ายังไม่ต้องการถูกหล่อหลอมไปหรอกนะ ! ” เสี่ยวหลุนขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน เห็นได้ชัดว่า การลงมือออกมาในสถานที่เช่นนี้ แม้แต่มันเองก็ยังไม่อาจที่จะทนทานอยู่ได้นานนัก

 

เยี่ยจงพยักหน้าตอบรับ นั้นก็เพราะจำเป็นที่จะต้องออกไปให้เร็วที่สุด ทว่าในเวลาเช่นนี้เขากลับไม่มีวิธีที่จะทำอะไรได้มากนัก ขอเพียงสามารถที่จะออกไปจากส่วนลึกของสถานที่สายนี้ สลัดหลุดจากเด็กน้อยเหล่านี้แล้วจึงค่อยว่ากล่าวกันถึงเรื่องอื่นอีกครา

 

ท่ามกลางเพลิงกาฬสีดำ ผู้คนทั้งหมดก็ได้เหม่อมองไปยังฉากเบื้องหน้าด้วยความสงสัย พวกเขานั้นมิได้ติดตามขึ้นมา แต่ว่าก็เห็นได้ชัดว่าคิดไม่ถึงว่า เยี่ยจงถึงกับสามารถที่จะเข้าไปยังท่ามกลางเพลิงกาฬสีทองนี้เอาไว้ได้ อีกทั้งยังถือได้ว่าอยู่นอกเหนือความคาดหมายของพวกเขาไปมาก

 

มีผู้คนไม่น้อยต่างก็พอที่จะมองออกว่า เยี่ยจงสมควรที่จะใช้ออกมาด้วยไพ่ตายที่ตนเองมีอยู่ออกมาในขณะนี้ ไม่เช่นนั้น เขาต่อให้สำเร็จพลังกายาทองไม่สูญสลายความสำเร็จเล็ก อย่างน้อยก็คงจะไม่อาจที่จะต้านทานเอาไว้ได้

 

“เขาจะทนได้อีกนานซักแค่ไหนกัน แต่ว่าช่างน่าเสียดายคัมภีร์กฎแห่งสวรรค์และสายทางแห่งดวงตะวันเสียจริง ! ” ชิงยี่จ้องมองไปยังฉากเบื้องหน้า กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ ในมุมมองของเขา เยี่ยจงได้เข้าสู่หนทางแห่งความตายไปแล้ว

 

“สายทางแห่งดวงตะวันสามารถที่จะไม่เอาได้ แต่ว่าคัมภีร์กฎแห่งสวรรค์ ขอเพียงเขาตายลง เหล่ามหาราชันก็คงจะต้องหาวิธีที่จะเสาะหาสิ่งของเหล่านี้ภายในพื้นที่ราบเสี่ยวหนานได้อยู่แล้ว ! ” ราชันวานรตนนั้นก็ได้ทอสีหน้าเยียบเย็นขึ้นมา พริบตานั้นเอง เขาและยอดฝีมือจากหุบเขาหมื่นปีศาจทางด้านหลังก็ได้สบตามองกัน ในเวลาเดียวกันก็ได้ตัดสินใจขึ้นมา

 

“เปรี้ยง——”

 

กระบองเงินในมือราชันวานรก็ได้แปรเปลี่ยนจนมีขนาดใหญ่ขึ้นมาหลายเท่าจนนับไม่ถ้วน ประดุจดั่งเสาแห่งสวรรค์ก็มิปาน ระหว้างนั้นราชันวานรและยอดฝีมือมากมายจากหุบเขาหมื่นปีศาจก็ได้เคลื่อนไหว ไปพร้อมกับกระบองเงินที่ได้กวาดออกไป มุ่งหน้ากวาดเข้าไปยังบริเวณทางด้านที่เยี่ยจงอยู่

 

กระบองเงินก็ได้หมุนวนเข้าไปอยู่ภายในของเพลิงกาฬสีทองอยู่ครู่หนึ่ง ผิวนอกของกระบองเงินก็ได้สลายลงจนร่วงหล่นลงไป แต่ว่าต่อให้เป็นเช่นนี้ก็ตาม ส่วนที่หลงเหลืออยู่นั้นก็ยังคงกวาดเข้าไปยังบนร่างกายของเยี่ยจงอย่างหนักหน่วง

 

เยี่ยจงขณะนี้ได้พยายามใช้พลังทั้งหมดเพื่อที่จะต้านทานเพลิงกาฬสีทองเหล่านี้เอาไว้ ในขณะนี้ สีหน้าของเขาก็ได้แปรเปลี่ยนเป็นบ้าคลั่งขึ้นมา จนแทบลงมือออกมาได้ไม่ทันกาล

 

“เปรี้ยง——”

 

ร่างกายของเยี่ยจงก็ได้สั่นไหวไปมา จนเกิดเสียงดังสนั่นออกมา ประดุจดั่งถูกกระแทกเข้าไปอย่างรุนแรงก็มิปาน ถูกกระบองของราชันวานรนี้ซัดกระเด็นออกไป ร่างกายก็ได้พุ่งเข้าไปยังส่วนลึกของพื้นที่ราบเสี่ยวหนาน

 

เพียงแต่ว่าทันใดนั้นเอง ก็ไม่อาจที่จะพบเห็นร่องรอยของเงาร่างใดๆ อีก แล้วก็ได้เข้าไปยังผืนทะเลเพลิงสายนี้เอาไว้

 

ยอดฝีมือมากมายต่างก็เหม่อมองไปยังฉากเบื้องหน้านี้ ในเวลาเดียวกันก็ได้หันหน้ากลับไปมองไปทางด้านของราชันวานรและยอดฝีมือหุบเขาหมื่นปีศาจคราหนึ่ง แต่ละคนนั้นทอสีหน้าแปลกใจขึ้นมา หุบเขาหมื่นปีศาจนี้ถึงกับเกลียดชังเยี่ยจงมากถึงเพียงนี้เชียว ถึงกับมิได้มีความเสียดายต่อคัมภีร์กฎแห่งสวรรค์แต่อย่างไร ขอเพียงสังหารเขาได้ก็เพียงพอแล้ว

 

“ช่างน่าเสียดาย หากว่ากระบวนท่านี้แฝงไว้ด้วยพลังที่หนักหน่วงจนเกินไปแล้วละก็ พวกเขาอย่างน้อยก็คงจะไม่อาจที่จะได้สิ่งของแล้วละ” ซูม่อหยงถอนหายใจ รอยยิ้มบนใบหน้าก็ได้เลือนหายไป

 

“มิได้ลงมือหนักมากหรอก ตัวข้าเองก็ได้ยับยั้งพลังเอาไว้บางส่วนแล้ว” ราชันวานรหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา “เขาอย่างน้อยก็คงจะต้องตกอยู่ภายในเพลิงกาฬชั้นที่หกแล้ว คงจะต้องมอดไหม้ไปภายในพริบตา แต่ว่าคัมภีร์กฎแห่งสวรรค์นั้นเป็นวัตถุแห่งฟ้าดิน ย่อมไม่เลือนหายไปแน่ และท่ามกลางเพลิงกาฬรลำดับที่หกนั้น ขอเพียงให้ชนชั้นมหาราชันลงมือด้วยตัวเอง ย่อมต้องเสาะหาสิ่งของกลับมาได้เอง ! ขณะนี้ เขาต้องตายไปแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย ! ”

 

“ไปเถอะ โชคชะตาของเขานับแต่นี้เป็นต้นไป ได้ถูกตัดสินเอาไว้แล้ว เขาไม่มีความหวังที่จะไปถึงระดับมหาราชันได้อย่างแน่นอนแล้ว ความหวังของเผ่ามนุษย์ ได้ตายลงไปในขณะนี้แล้ว ! ” ราชันวานรหัวเราะขึ้นมาเสียงเย็นชา ก้าวยาวๆ ถอยจากไป

.

.

.

.

กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ

โปรโมชั่น กลุ่ม 6-12 ราคา 550

VIP5 https://goo.gl/ekcF7V

VIP6 https://goo.gl/4rqw89

VIP7 https://goo.gl/qrQ7GA

VIP8 https://goo.gl/Uzqf2x

VIP9 https://goo.gl/1jPZtn

VIP10 https://goo.gl/L8awva

VIP11 https://goo.gl/rojEiG

VIP12 https://1th.me/o9CD

ช่องทางการโอนเงิน https://goo.gl/MnYB81

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่

INBOX m.me/ZuiQiangWuShen

#####Fanpage#####

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset