เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 541 พ้นพลังสวรรค์ที่ต้องเพิ่มเติมเข้าไป

ตอนที่ 541 พ้นพลังสวรรค์ที่ต้องเพิ่มเติมเข้าไป

 

 

 

“มนุษย์มารกงยี่จวินช่างสมคำเล่าลือจริงๆ ที่มีพรสวรรค์ถึงขั้นที่เข้าใกล้กับความเป็นมาร นึกไม่ถึงว่าเขาจะสามารถที่จะควบคุมพ้นพลังสวรรค์อันนี้หวาดกลัวเช่นนี้ขึ้นมาได้ อีกทั้งราวกับว่ามีการเพิ่มเติมของพ้นพลังสวรรค์เพิ่มขึ้นมาก็มิปาน นี้ก็เพียงพอที่จะเห็นถึงความชัดเจนของพรสวรรค์ของเขาได้ ควรทราบว่า พ้นพลังสวรรค์เช่นนี้ ต่อให้เป็นชนชั้นราชันพลังเทวะขั้นที่ห้าปกติธรรมดาแล้วละก็ ต่างก็มีแต่ต้องตายเพียงถ่ายเดียวเท่านั้น!”

 

“ไม่แปลกใจเลยที่เขาสามารถที่จะท่องไปได้ทั่วทั้งแดนหนานฮวง อีกทั้งยังไร้ผู้ต้านจบแดนอีก ถึงกับมีพลังฝีมือเพื่อใช้พ้นพลังสวรรค์ในการทำลายได้เช่นนี้ จะมีซักกี่คนกันที่จะสามารถต้านทานได้กัน?”

 

“มนุษย์มารกงยี่จวิน ช่างสมคำเล่าลือจริงๆ น่าหวาดกลัวไร้ผู้ใดเทียบ ต่อให้ต้องไปสู้กับเยี่ยจง ข้าเองก็ยังไม่ต้องการที่จะสู้กับเขาเช่นกัน ”

 

“พ้นพลังสวรรค์ผลาญศัตรู พลังฝีมือเช่นนี้ถือได้ว่างดงามหมดจดเกินไปแล้ว เกรงว่าเยี่ยจงต่อให้ช่วงเวลาแห่งความตายได้เข้ามาถึงก็ยังคิดไม่ถึง ว่าตนเองจะต้องมาพบกับพลังสภาวะที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างวิปลาสเช่นนี้ได้อย่างไร ”

 

ยอดฝีมือกลุ่มหนึ่งต่างก็ถอนหายใจ ฉากนี้ช่างน่าหวาดกลัวเกินไปแล้ว มีผู้ใดคิดที่จะโดนลูกหลงกัน? นี้ก็ไม่ต่างอันใดจากการหาที่ตายแต่อย่างไร?

 

“เจ้าคือ——”

 

บริเวณท่ามกลางสถานที่แห่งนี้ กงยี่จวินก็ได้มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างหลากหลาย ขณะนี้เขาก็ได้จ้องไปที่อาภรยุทธ์ก่อฟ้าห้าธาตุของเยี่ยจงที่ถูกถอดออกอย่างเอาเป็นเอาตาย แล้วก็ได้มองไปที่พ้นพลังสวรรค์รอบด้าน ทันใดนั้น เขาก็ได้ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันขึ้น กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เศร้าสร้อย “ที่แท้เจ้าก็เป็นเจ้าเด็กน้อยที่เป็นที่เกลียดชังของใต้หล้านั้นเอง!”

 

กงยี่จวินก็ได้ปะทุการกระโดดขึ้นมาประดุจอัสนี เมื่อเยี่ยจงได้ถอดอาภรยุทธ์ก่อฟ้าห้าธาตุออกแล้ว เขาราวกับว่าพริบตานั้นก็จดจำสถานะที่แท้จริงของเยี่ยจงออก ในขณะนั้นเอง เขาก็ได้ทะยานออกไปอย่างรุนแรง ไม่เช่นนั้นอาจจะต้องถูกเยี่ยจงฟาดตายภายในฝ่ามือเดียวเป็นแน่! ในขณะนั้นเอง เขาก็ได้มีจิตใจที่เป็นเหมือนดั่งบุตรศักดิ์สิทธิ์สตรีศักดิ์สิทธิ์มากมายก่อนหน้านี้ แทบจะไม่อาจที่จะจัดการกับเด็กน้อยผู้นี้ได้เลย

 

“กร๊อบ——”

 

กงยี่จวินก็ได้ทะยานร่างออกไป พลังประกายอัสนีอันน่าหวาดกลัวก็ได้พวยพุ่งเข้ามา ทันทีที่ร่างกายของเขาได้ลอยออกไปไกลกว่าร้อยกว่าลี้ ในเวลาเดียวกันก็ได้มีอสนีบาตธาตุหยินหยางฟาดลงมา เผาผลาญพลังที่อยู่ภายในกายของกงยี่จวินไปจนหมดสิ้น จนทำให้เขาอยู่ในสภาพที่สับสนวุ่นวาย

 

ต่อมา กงยี่จวินขบเขี้ยวเคี้ยวฟันแล้วก็ได้ลุกขึ้นมา แต่ว่าพึ่งจะลุกขึ้นมาก็ได้มีจิตมารอัสนีเข้ามาถึง จนทำให้เขากระอักโลหิตออกมาคำโตและถอยออกไป

 

“เอ๊ะ เหมือนว่าสถานการณ์จะไม่ถูกต้องนะ? นี้มิใช่พ้นพลังสวรรค์ที่ตัวกงยี่จวินควบคุมเองอย่างงั้นหรือ? เหตุใดไต๋ซือน้อยนั้นกลับไม่เป็นไรกัน กลับกันกลับกลายเป็นเขาเองที่เกิดเรื่องขึ้น?”

 

“นอกเสียจาก เขาก่อนหน้านี้ได้สูญเสียพลังไปเป็นอย่างมาก ขณะนี้ก็ได้อยู่ในสภาวะไม่อาจที่จะต้านทานพ้นพลังสวรรค์ได้อย่างงั้นหรือ? หากว่าเป็นเช่นนี้แล้วละก็ กลับมิใช่กลายเป็นเรื่องที่น่าตลกหรืออย่างไรกัน!”

 

“สมควรที่จะมิใช่เรื่องที่น่าอนาถถึงเพียงนั้นหรอกกระมั่ง? หากว่าเป็นเช่นนั้นจริงแล้วละก็ เขาในตอนนี้ยังมีหน้าเรียกขานตนเองว่ายอดยุทธ์ได้อย่างไรกันอีก!?”

 

ไม่นานนัก ผู้คนมากมายต่างก็มองเห็นฉากนี้ที่เกิดขึ้นที่ท่ามกลางสนาม แม้ว่าจะไม่อาจที่จะมองเห็นได้อย่างชัดเจนอยู่หลายส่วน แต่ว่ากงยี่จวินที่ได้ลอยกระเด็นออกมาจากสภาพฉากนี้ก็ได้เข้าใจขึ้นมาได้เป็นอย่างดี ทำให้พวกเขานั้นมองเห็นได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น ขณะนี้กงยี่จวินกระเด็นไปซ้ายทีขวาที ถูกอัสนีบาตรฟาดใส่ไม่หยุด ในเวลาเดียวกันกระอักโลหิตออกมาคำโต ทอสีหน้าจนตรอกอย่างถึงที่สุด

 

“นึกไม่ถึงจะอยู่ในสภาพเช่นนี้ได้ ที่แท้ เรื่องนี้ยังมีความเป็นไปได้อย่างอื่นอีกอย่างงั้นหรือ? เช่นนี้ใช่กลายเป็นว่าได้มีพ้นพลังสวรรค์ถึงสองสายหรอกหรือ คิดที่จะแม้แต่จะก้าวข้ามไปอีกขั้นให้ได้เลยงั้นหรือ?” ยังมีคนที่มีความเชื่อมั่นต่อกงยี่จวินอย่างเต็มเปี่ยมอยู่ ขณะนี้ก็ได้นึกถึงสภาวะความเป็นไปได้ในอีกแบบหนึ่งขึ้นมาได้!

 

“ใช่แล้ว! จะต้องเป็นเช่นนี้แน่นอน ไม่แน่ว่าเขาอาจจะเข้าสู่พ้นพลังสวรรค์อีกระดับ จนไม่อาจที่จะอันใดต่อไต๋ซือน้อยผู้นั้นได้ ขณะนี้เมื่อได้ควบคุมพลังทั้งสองสาย!” ภายในดวงตาของผู้คนก็ได้เริ่มที่จะทอเป็นประกายคล้ายดวงดาวขึ้นมา

 

“เพียงแค่เวลาไม่นานถึงกับสามารถที่จะควบคุมพ้นพลังสวรรค์ได้ถึงสองสาย ช่างเป็นพลังฝีมือที่น่าหวาดกลัวอย่างแท้จริง ช่างเป็นฝีมือที่ดุเดือดยิ่งนัก!” คนมากมายก็ได้ถอนหายใจออกมา ขณะนี้ยอมรับกงยี่จวินขึ้นมาทั้งกายทั้งใจ

 

ท่ามกลางพ้นพลังสวรรค์ กงยี่จวินก็ได้ยินคำพูดเหล่านี้ขึ้นมา จนเกือบที่จะกระอักโลหิตออกมาคราหนึ่งอย่างรุนแรง แต่ว่าขณะนี้เขานั้นได้ถูกจิตมารอัสนีควบคุมเอาไว้จนไม่อาจที่แม้แต่จะเอ่ยปากขึ้นมาได้ จนเกิดความอัดอั้นขึ้นมาอย่างถึงขีดสุด ด้วยความแข็งแกร่งอย่างกงยี่จวิน ก็ได้เกิดสภาวะในการเอาตัวรอดขึ้นมา เพราะว่าการเผชิญหน้ากับเด็กน้อยผู้นี้ถือได้ว่าอยู่นอกเหนือการคาดหมาย นึกไม่ถึงเขาที่ได้ใช้ฝีมือที่ร่ำเรียนเพื่อใช้จัดการกับศัตรูอย่างพ้นพลังสวรรค์จนไร้ผู้ต้าน และในช่วงสถานการณ์คับขัน เขากับนึกไม่ถึงว่าจะสามารถควบคุมพ้นพลังสวรรค์ได้อย่างน่าหวาดกลัวจนถึงขั้นนี้ได้ ที่แม้แต่ตนเองก็ยังไม่อาจที่จะทนทานรับเอาไว้ได้

 

ในระหว่างที่กำลังขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน กงยี่จวินก็ได้เหม่อมองไปที่บริเวณท่ามกลางสถานที่แห่งนี้ สถานที่แห่งนั้นขณะนี้ก็ได้เกิดการรวมตัวของทะเลอัสนีขึ้น จนก่อเกิดพลังอสนีบาตที่ซ้อนทับกันอย่างน่าหวาดกลัวขึ้นมา จนทำลายพื้นที่รอบข้างทั้งหมดไปจนหมดสิ้น ผู้คนทั้งหมดที่อยู่ทางด้านนอกยังคิดว่า ไต๋ซือน้อยนั้นได้ก้าวเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งจุดจบแล้ว แต่ว่ากลับมีแต่เพียงกงยี่จวินที่แทบจะร่ำไห้ออกมาอย่างไร้น้ำตา เพราะว่าเขาเข้าใจได้เป็นอย่างดี อีกฝ่ายขณะนี้แท้จริงแล้วกลับเป็นฝ่ายที่กำลังควบคุมอัสนีเอาไว้อยู่ อีกทั้งยังอยู่ในระดับที่เหนือกว่า!

 

ขณะนี้บริเวณใจกลางของพ้นพลังสวรรค์ ก็ได้เกิดประกายสีขาวขึ้นมาเป็นสาย ทั้งสี่ด้านต่างก็เกิดเสียงประกายอัสนีบาตรดังเสียดหูขึ้นมา จนทำให้กลายเป็นดั่งเกิดอสรพิษมากมายนับไม่ถ้วนร่ายระบำอยู่ จนทุกบริเวณต่างก็กลายเป็นสายฟ้าคม อสนีบาตธาตุหยินหยาง ก็ได้ประทับเข้ามาทั่วทุกดินแดน อสนีบาตจิตมาร ขณะนี้ก็ได้กลายเป็นพ้นพลังสวรรค์ที่ไม่อาจที่จะพบได้ทั้งสามชนิดขึ้นมา จนทำให้สถานที่แห่งนี้อยู่ท่ามกลางทะเลอัสนี ราวกับว่าในเวลาเดียวกันก็ได้เกิดการร่ายระบำอย่างวุ่นวายของสิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนขึ้นมาก็มิปาน

 

ประกายอัสนีทุกสาย ก็ได้เปลี่ยนแปลงจนเหมือนเป็นอสนีบาตที่มีชีวิตขึ้นมา แม้ว่าจะมิได้มีสติสัมปชัญญะ แต่ว่ากลับมีพลังในการทำลายอยู่นอกเหนือจากอสนีบาตปกติธรรมดา อีกทั้งยังถือได้ว่าอยู่เหนือกว่าอีกขั้นหนึ่งก็ว่าได้หรือไรกัน?

 

เยี่ยจงก็ได้นั่งสมาธิอยู่ท่ามกลางอากาศ ทั่วทั้งร่างกายก็ได้ถูกพ้นพลังสวรรค์ปกคลุมจนไม่อาจที่จะพบเห็นได้ แต่ว่าเขาก็ยังคงทอสีหน้าเมินเฉย ตลอดทั่งร่างกายก็ได้ส่องเป็นประกายแสงสีทอง กระนั้นก็ได้อยู่ในสภาวะที่คิดที่จะดึงพ้นพลังสวรรค์หลอมเข้าสู่พลังกายาทองไม่สูญสลายภายในร่างกายของตนเองในเวลาเดียวกัน อีกทั้งยังถือได้ว่าอยู่ในสภาวะขั้นบรรลุ พร้อมที่จะทะลวงได้ทุกเวลา

 

กงยี่จวินขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน แล้วก็ได้กระอักโลหิตออกมาอีกหลายคำ ใช้พลังทั้งหมดเข้าต้านทานพ้นพลังสวรรค์เอาไว้ เขาในขณะนี้ไม่อาจที่จะเรียกได้ว่าพ้นพลังสวรรค์เป็นของตนเองได้อีกแล้ว เพราะว่าเยี่ยจงกลับกำลังควบคุมพลังความสัมพันธ์ของพ้นพลังสวรรค์เอาไว้ เขาเดิมทียังคิดที่จะเปลี่ยนแปลงสภาวะของพ้นพลังสวรรค์ให้อยู่ในความลึกล้ำขึ้นไปอีก ขณะนี้เขาก็แทบจะร่ำไห้อย่างไร้น้ำตาออกมา อีกทั้งยังไม่อาจที่จะถอยหนีไปได้ เพราะว่าขณะนี้เขาหากว่าถอยไปแล้วละก็ ก็เป็นเหมือนกับว่าได้พ่ายแพ้ไปแล้วก็ว่าได้

 

และหากว่าเป็นเขาพ่ายแพ้ภายใต้สถานการณ์ปกติ และเยี่ยจงเข้าสู่ระดับราชันได้สำเร็จแล้วละก็ เช่นนั้นกงยี่จวินเข้าใจได้เป็นอย่างดี สิ่งที่ตนเองกำลังจะเผชิญหน้าอยู่นั้นคืออันใด ในครั้งนี้เขาได้ชักนำพลังทำลายเข้ามา อีกทั้งยังมิให้ผู้คุ้มกันเข้ามาคุ้มกัน หากว่าท้ายที่สุดแล้วสถานการณ์กลับกลายเป็นว่าปล่อยให้เยี่ยจงสำเร็จระดับราชันได้ เขากลับกลายเป็นล้มเหลวขึ้นมาแล้วละก็ เช่นนั้นในครั้งนี้คาดว่าแม้แต่จะหนีก็คงจะหนีไม่พ้นแล้ว

 

“อา——”

 

กงยี่จวินราวกับกู่ร้องขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง ใช้พลังทั้งหมดพุ่งเข้าต้านทานพ้นพลังสวรรค์ แต่ว่าด้วยกายเนื้อของเขาที่ไม่อาจที่จะเทียบได้กับพลังกายาทองไม่สูญสลายที่แข็งแกร่งจนน่ากลัวของเยี่ยจง แม้ว่าจะมีประสบการณ์ในการข้ามพ้นพลังสวรรค์ แต่ว่ากับเขาที่มีพลังเทวะขั้นสามที่ต้องมาเผชิญหน้ากับพ้นพลังสวรรค์ที่ยังมีความน่าหวาดกลัวกว่าพ้นพลังสวรรค์ของเขาขึ้นมาอีกหลายส่วน เขาจึงแทบจะใช้หัวพุ่งชนกำแพงให้ตายจนรู้แล้วรู้รอดกันไป

 

“เยี่ยจง! เจ้าเด็กน้อยที่เป็นศัตรูทั่วหล้าผู้นี้! เหตุใดข้าถึงไม่อาจที่จะทำอันใดเด็กน้อยผู้นี้ได้กัน!”

 

นี้คือเสียงที่ดังขึ้นมาภายในจิตใจของกงยี่จวิน ขณะนี้เขาก็ได้เกิดความเสียใจจนแทบจะตายไปให้รู้แล้วรู้รอด หากว่าทราบแต่แรกว่าไต๋ซือน้อยผู้นี้ก็คือเยี่ยจงแล้วละก็ เขาไม่ว่าจะอย่างไรก็คงจะไม่เข้ามาหาเรื่องอย่างแน่นอน เพราะว่าคนก่อนหน้านี้ต่างก็เป็นบทเรียนให้แก่เขาได้เป็นอย่างดีแล้ว หากอยู่ในสถานการณ์ที่อยู่ในระดับพลังเช่นเดียวกันกับเยี่ยจง จะต้องระมัดระวังให้เป็นอย่างดี อย่าได้ไปหาเรื่องตามอำเภอใจ ขณะนี้อย่าว่าแต่เขาเลย ต่อให้เปลี่ยนเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์อัสนีลี้ลับ บุตรศักดิ์สิทธิ์ชิงหวิน บุตรศักดิ์สิทธิ์หมื่นปีศาจ สือซิ่งเป็นต้นที่ได้เข้ามายังสถานที่แห่งนี้ ต่างก็เคยได้ถูกเยี่ยจงเด็กน้อยผู้นี้จัดการจนเกือบตายกันมาแล้ว

 

บริเวณท่ามกลางพ้นพลังสวรรค์ เยี่ยจงเองก็ได้ค่อยๆ ที่จะลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ จ้องมองเข้าไปยังภายในทะเลอัสนี จนพบเห็นร่างของกงยี่จวินที่ในขณะนี้อยู่ในสภาพร้ำไห้อย่างไร้น้ำตาขึ้นมา จากนั้น เขาก็ได้เกิดความเคลื่อนไหวของจิตใจขึ้นมา แล้วก็ได้ชี้ออกไปบริเวณทางด้านหน้าออกไป

 

“ตูม——”

 

ภายใต้การควบคุมของเยี่ยจง อสนีบาตนับพันก็ได้พวยพุ่งออกมาในเวลาเดียวกัน จนกลายเป็นระฆังยักษ์ชิ้นหนึ่ง มุ่งหน้าเข้าไปกดดันยังบริเวณทางด้านของกงยี่จวิน

 

กระบวนท่านี้ของเยี่ยจงมีความคล้ายคลึงกับการโจมตีของกงยี่จวินก่อนหน้านี้ แต่ว่า เมื่อเทียบกับการโจมตีอันน่าหวาดกลัวของกงยี่จวินก่อนหน้านี้ยังถือว่าน่าหวาดกลัวกว่าหลายส่วน เพราะว่า ด้วยสภาวะของพ้นพลังสวรรค์แห่งนี้นั้นมีความแข็งแกร่งจนน่าหวาดกลัวยิ่งกว่า

 

กงยี่จวินขณะนี้ขนลุกชูชันขึ้นมา ลุกไม่ได้ถอยไม่ออก ได้แต่เพียงหลบเลี่ยงไปอย่างบ้าคลั่ง แต่ว่าเช่นนี้ก็ใช่ว่าจะมีประโยชน์อันใด ทว่าเพียงแค่การปรายตามองเท่านั้น เขาก็แทบจะต้องทนทานรับกับอสนีบาตสายนี้เข้ามา

 

“ตัง——”

 

เสียงของระฆังขนาดใหญ่ก็ได้ดังขึ้น ประดุจดังการสั่นไหวของฟ้าดินก็มิปาน และภายในของระฆังยักษ์ก็ได้ปกคลุมเต็มไปด้วยอสนีบาตอย่างหนาแน่นก็มิปาน

 

บริเวณภายในของระฆังยักษ์ กงยี่จวินก็ได้ถูกทะเลอัสนีปะทะเข้ามาจนร่างกายสั่นเทาไปทั้งร่าง ร่างกายนั้นถูกเผาไหม้จนดำ จนเกือบที่จะกลายเป็นเพียงขี้เถ้าไปได้ในทันที หากมิใช่ว่าเขาในขณะนี้ใช้ออกมาด้วยพลังทั้งหมด เพื่อที่จะใช้พลังเทวะเข้าคุ้มครองร่างแล้วละก็ ก็คงจะต้องตายไปแล้ว

 

“กงยี่จวินก็อึดทนเสียจริง ถึงกับถูกขนานนามว่ามนุษย์มาร ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ นึกไม่ถึงยังสามารถที่จะทำระฆังสายฟ้าขึ้นได้ นี่คือกำลังคุ้มครองร่างอย่างนั้นหรือ?”

 

“กล่าวได้ยาก เขาเองก็ทราบ ต่อจากนี้ยังจำเป็นที่จะต้องหน้ากับพลังอสนีบาตที่มีความน่าหวาดกลัวยิ่งไปกว่านี้? ดังนั้นเขาจึงไม่อาจที่จะไม่ใช้ระฆังสายฟ้าเคลือบคุ้มครองร่างอย่างนั้นหรือ อีกทั้งยังเพื่อต้านทานต๋ซือน้อยผู้นั้น?”

 

“จี๊จี๊ การต่อสู้นี้ยังไม่ทันที่จะดูจนหมดจด พ้นพลังสวรรค์ระหว่างทั้งสองคนได้เข้ามาปะทะกัน ย่อมจะต้องตื่นตาตื่นใจอย่างแน่นอน!”

 

ยอดฝีมือมากมายทางด้านหลังต่างก็เกิดอาการตกใจขึ้นมา ทุกผู้คนยังคิดไว้ว่า ขณะนี้กงยี่จวินใช้พลังคุ้มครองกายเพื่อจัดการกับศัตรู ถึงได้ใช้พลังออกมาจนถึงในระดับสูงสุด

 

กงยี่จวินเมื่อได้ยินคำวิพากษ์วิจารณ์เหล่านี้ ก็แทบจะกระอักโลหิตขึ้นมาอีกครั้ง ขณะนี้เขาที่ได้ถูกเยี่ยจงกดดันสังหารจนต้องจนมุม อีกครั้งอาจจะต้องตายลงได้ในทุกเมื่อ คำพูดเหล่านี้ก็มีได้ต่างไปจากการเย้ยหยันดูถูกก็มิปาน จนทำให้เขาต้องขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน อีกทั้งยังเกือบที่จะรวมสมาธิกลับคืนมามิทัน

 

“ตัง——”

 

ระฆังยักษ์ก็ได้ดังขึ้นมาอีกครั้ง ผู้คนทั้งหมดต่างก็ตระหนกตกใจในพลังฝีมือของกงยี่จวิน แต่ว่าบริเวณที่เป็นส่วนภายใน เขากลับขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน จนเกือบที่จะกระอักโลหิตเก่าออกมาอีกหนึ่งคำ

 

“เด็กน้อยผู้นี้อย่างน้อยก็คงผ่านพ้นพ้นพลังสวรรค์ถึงสามครั้ง ไม่แปลกใจเลยที่สามารถทนได้นานเพียงนี้ ช่างเถอะ รอคอยจนข้าเข้าถึงระดับราชันแล้ว การจัดการด็ดชีวิตเขาด้วยตัวข้าเองอีกครั้ง” เยี่ยจงที่ได้ลงมือไปถึงสองครั้งสองครา แต่ว่าก็ยังทำได้เพียงแค่ทำให้กงยี่จวินได้รับบาดเจ็บหนัก มีได้จัดการเขาจนถึงขั้นที่ตายไปได้ ต่อมาเขาก็ไม่เสียเวลาอีกต่อไป เพียงแต่ทำการตัดสินใจขึ้นมา เพื่อนช่วงชิงโอกาสในการเข้าสู่ระดับราชัน

 

เยี่ยจงนั่งสมาธิอยู่ท่ามกลางทะเลอัสนี บริเวณทางด้านหลังของเขา พลังปราณเปลี่ยนแปลงเทวะก็ได้ปรากฏขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แสงจันทร์ส่องผิวสมุทรและมหาสมุทรตะวันผลาญก็ได้ปรากฏขึ้นมาในเวลาเดียวกัน พลังปราณเปลี่ยนแปลงเทวะทั้งสองชนิดก็ได้ทับซ้อนกันขึ้นมา ประดุจดั่งการพัวพันกันของธาตุหยินหยางก็มิปาน เป็นที่น่าตื่นตาอย่างถึงที่สุด

 

และในระหว่างที่เขาได้ใช้ออกมาด้วยพลังจากคัมภีร์สายทางแห่งดวงตะวัน พลังเทวะขั้นที่หนึ่งก็ได้เกิดขึ้นอยู่ภายในพลังลมปราณเปลี่ยนแปลงเทวด ก็ได้ปรากฏขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าสามารถที่จะสร้างขึ้นมาได้ทุกเวลาก็มิปาน

 

เห็นได้ชัดว่า เกี่ยวกับพลังระดับราชันของเยี่ยจงในขณะนี้ เขาก็ได้สร้างพลังเทวะขั้นที่หนึ่งออกมาได้ พร้อมทั้งเข้าสู่พลังขั้นก่อฟ้าขอบเขตพลังเทวะที่แท้จริง สำเร็จสู่การเข้าสู่ระดับราชันพลังเทวะขั้นที่หนึ่ง

 

พลังเทวะของระดับราชันย์ผู้คนต่างก็ไม่เหมือนกัน ขณะนี้ที่เยี่ยจงก็ได้สร้างภาพมายาพลังเทวะขึ้นมา ประดุจดั่งดอกบัวที่กำลังเบ่งบานจนเผยให้เห็นถึงวิมานขนาดใหญ่ที่อยู่ภายใน ท่ามกลางวิมาณนั้นก็เปรียบเสมือนได้กับดินแดนขนาดเล็กก็มิปาน จนสามารถที่จะพบเห็นหมื่นสรรพสิ่งบนโลกเกิดขึ้นจากภายใน

 

“กร๊อบ——”

 

พลังเทวะเช่นนี้ถือได้ว่าสามารถที่จะพบเห็นได้อย่างชัดเจนได้่ภายในพริบตา บริเวณโดยรอบของท่ามกลางทะเลอัสนี ทันใดนั้นก็ได้เกิดเสียงของสายอสนีบาตฟาดฟันลงมาเป็นสาย วินาทีนั้น ก็ได้พบเห็นถึงมังกรอัสนีทั้งเก้าสายพุ่งออกมา มุ่งหน้าฆ่าสังหารเข้าไปยังบริเวณทางด้านที่เยี่ยจงอยู่

 

ขณะนี้ท่ามกลางทะเลอัสนีเช่นนี้ก็ได้หล่อหลอมสิ่งมีชีวิตอันแข็งแกร่งขึ้นมาอย่างถึงที่สุด มีด้วยทั้งหมดสี่สิบเก้าตน ขณะนี้ก็ได้โจมตีออกมา จนทำให้ผู้คนภายในสถานที่แห่งนี้เกิดอาการขนลุกชูชันขึ้นมา

 

เยี่ยจงก็ได้ลืมตาทั้งสองข้างมองออกไป ภายในดวงตาก็ได้ปรากฏความหนักแน่นขึ้นมา เขาเข้าใจได้เป็นอย่างดี ทั้งหมดก่อนหน้านี้ยังเป็นเพียงแค่ช่วงต้นเท่านั้น มาจนถึงขณะนั้น เมื่อตนเองได้ใช้พลังอสนีบาตด้วยพลังแห่งราชันย์แล้ว จึงค่อยสามารถแสดงพลังที่แท้จริงออกมาได้!

.

.

.

.

กลุ่ม / 100บาทครับ

กลุ่มละ 80ตอน
โปรโมชั่น กลุ่ม 6-13 ราคา 600
VIP5 https://goo.gl/ekcF7V
VIP6 https://goo.gl/4rqw89
VIP7 https://goo.gl/qrQ7GA
VIP8 https://goo.gl/Uzqf2x
VIP9 https://goo.gl/1jPZtn
VIP10 https://goo.gl/L8awva
VIP11 https://goo.gl/rojEiG
VIP12 https://bit.ly/2lRgnUn
VIP13 https://bit.ly/2mkmj8y
ช่องทางการโอนเงิน https://goo.gl/MnYB81
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
INBOX m.me/ZuiQiangWuShen
#####Fanpage#####
https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset