เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 557 แมลงเย้ยมังกร

ตอนที่ 557 แมลงเย้ยมังกร

 

เยี่ยจงกำลังขมวดคิ้วอยู่ แทบจะไม่ได้คาดคิดมาก่อนเลย ที่มาถึงยังสถานที่แห่งนี้ได้ก่อนเป็นคนแรก นึกไม่ถึงว่าจะเป็นคู่อริที่น่าตายอย่างหุบเขาหมื่นปีศาจได้ อีกทั้ง นึกไม่ถึงยังเป็นถึงปีศาจมหาราชันอีก ยังมีหุบเขาหมื่นปีศาจบุตรศักดิ์สิทธิ์ในยุคนี้อีก

 

“เอาเถอะ เจ้าเด็กน้อย ” มหาราชันปีศาจทุนเทียนจ้องมองไปยังบนร่างของเยี่ยจง ทอสีหน้าประหลาดใจอย่างมาก เขาก็เพียงแต่มองไปที่เยี่ยจงเช่นนี้ กล่าวออกมาอย่างเย็นชา “ในเมื่อได้พบเจอกันในสถานที่แห่งนี้ เช่นนั้นเจ้าก็ยังได้หนีอีกแล้ว เจ้าเตรียมพร้อมอัตวินิบาต หรือว่าจะรอให้ข้าลงมือกัน ? ”

 

เยี่ยจงหัวเราะเสียงเย็นชา ยกมุมปากไปมา มองก็ไม่แต่จะมองไปที่มหาราชันปีศาจทุนเทียนและราชานกยูงน้อยบุตรศักดิ์สิทธิ์หมื่นปีศาจแม้สักครา เพียงแต่เคลื่อนไหวร่างกายคราหนึ่ง พริบตานั้นก็ได้ใช้ออกด้วยวิชาดำดินรุกคืบ มุ่งหน้าเข้าไปใกล้ยังบริเวณของหลุมฝังศพโบราณ

 

ทว่า ต่อให้ขณะนี้ใช้ออกด้วยวิชาดำดินรุกคืบ ระดับความเร็วของเขาก็ไม่ถือว่าเร็วแม้แต่น้อย เพียงแต่เข้าไปยังเบื้องหน้าของหลุมฝังศพโบราณอย่างเชื่องช้า ในช่วงเวลาที่เมื่อได้ยืนอยู่ในระยะทางที่ห่างจากหลุมฝังศพโบราณเพียงแค่คืบเดียว เยี่ยจงพบว่า พลังลมปราณภายในร่างกายของตนเองราวกับว่าถูกกดดันจนถึงขั้นที่เหมือนกับไม่มีการคงอยู่อีกต่อไป หากว่าฝืนใช้ออกมาแล้วละก็ เกรงว่าคงจะต้องจ่ายออกมาด้วยค่าชดเชยที่มหาศาลเป็นอย่างมากแน่นอน

 

และเมื่อได้เดินมาจนถึงขั้นนี้ เยี่ยจงจึงค่อยได้หันกาย จ้องมองไปยังบริเวณทางด้านหลังอย่างเมินเฉย

 

“เยี่ยจง เมื่อครั้งก่อนหากมิใช่ว่ามีพลังฝีมือแข็งแกร่งจนเกินไป มิอาจที่จะเข้าไปยังภายในตำหนักสวรรค์เก้าชั้นได้ แต่ว่าในครั้งนี้ เจ้ากลับมิอาจที่จะมีโชคเฉกเช่นเมื่อครั้งก่อนได้อีกต่อไปแล้ว ” ราชานกยูงน้อยบุตรศักดิ์สิทธิ์หมื่นปีศาจกล่าววาจาข้างๆ คูๆ ออกมา เดินเข้ามาใกล้ทีละก้าว เห็นได้ชัดว่า ในสายตาของเขา เยี่ยจงก็เหมือนกับคนที่ได้ตายไปแล้ว

 

บนใบหน้าอันอ่อนเยาว์ของมหาราชันปีศาจทุนเทียนก็ได้ปรากฏสีหน้าอันเยียบเย็นเอาไว้ เขาลูบไปที่มือทั้งสองข้างเดินเข้ามาใกล้อย่างไม่ค่อยที่จะเป็นธรรมชาติ จดจ้องไปที่เยี่ยจง เอ่ยขึ้นมาอย่างเย็นเยียบ : “เจ้าหนูเยี่ย คุกเข่าลงด้วยตนเองเถอะ บางทีมหาราชันเช่นข้าอาจจะให้โอกาสแก่เจ้าอีกสักครา ”

 

“อาจารย์อาไยต้องกล่าววาจาไร้สาระกับเขาด้วย หรือว่าให้ข้าลงมือด้วยตัวเอง จัดการฟาดเขาให้ตายไปเสีย เช่นนี้ก็จะถือได้ว่ามีวาจาว่ากล่าวกลับไปต่อหยู่หยูแล้ว ” ราชานกยูงน้อยบุตรศักดิ์สิทธิ์หมื่นปีศาจแฝงเอาไว้ความเมินเฉยเอ่ยปากขึ้นมา เพียงก้าวเดียวก็ได้เข้ามาจนถึงบริเวณทางด้านหน้าของเยี่ยจง ใจกลางฝ่ามือก็ได้ปรากฏหอกยาวด้ามหนึ่งที่เป็นเครื่องมือต้องห้าม มุ่งหน้ากวาดเข้าไปยังบริเวณทางด้านของเยี่ยจง

 

“อ๋อ ที่แท้สตรีศักดิ์สิทธิ์ของพวกเจ้าก็เรียกว่าหยู่หยูงั้นหรือ ? เป็นชื่อที่ไม่เลวเลย ช่างเหมาะกับใบหน้าที่เรียบเนียนของนางที่สมควรที่จะทำให้เกิดริ้วรอยบนหยก (如玉ดุจหยก) เสียจริง ” เยี่ยจงยิ้มขึ้นมา บนใบหน้าก็ได้แฝงเอาไว้ด้วยความเยาะเย้ยออกมาสายหนึ่ง ในเวลาเดียวกันที่มือข้างซ้ายของเขาก็ได้เปล่งเป็นประกายแสงสีทองขึ้นมา ตราแห่งราชาแดนมนุษย์สายหนึ่งก็ได้ปรากฏขึ้นมาในนิ้วมือบนฝ่ามืออย่างหนาแน่น จากนั้นฝ่ามือก็ได้มุ่งหน้าฟาดออกไปบริเวณทางด้านหน้า

 

ในสถานที่แห่งนี้ คิดที่จะหยิบยืมใช้พลังลมปราณจากภายนอกเรียกได้ว่าไม่อาจที่จะเป็นไปได้เลย ได้แต่เพียงพึ่งพาพลังความแข็งแกร่งอย่างวิชาเทวะเป็นเป็นต้นเท่านั้น เยี่ยจงเมื่อคราก่อนตอนที่อยู่ภายในสมรภูมิฮวงกู่ก็ได้กระทำเรื่องราวต่างๆ มากมายนับไม่ถ้วนมาก็มาก ขณะนี้ย่อมต้องมีความคุ้นเคยต่อพลังเช่นนี้อยู่แล้ว ฝ่ามือเมื่อได้ฟาดออกไป พลังทำลายอันน่ากลัวก็ได้บังเกิดขึ้นมา

 

ราชานกยูงน้อยบุตรศักดิ์สิทธิ์หมื่นปีศาจหัวเราะเสียงเย็นชาติดต่อกัน เขาเองก็มีพลังฝีมือในระดับชนชั้นราชันพลังเทวะขั้นที่ห้า กับเพียงแค่เยี่ยจงที่พึ่งจะเข้าสู่ระดับราชัน เขาย่อมไม่เห็นอยู่ในสายตาอยู่แล้ว วินาทีนั้น หอกยาวใจกลางฝ่ามือของเขาก็ได้ปะทุประกายแสงห้าสีขึ้นมา มุ่งหน้ากดทับลงไปทางด้านล่าง เห็นได้ชัด เขาเตรียมพร้อมที่จะใช้กระบวนท่าต่อไปในการสังหารเยี่ยจงแล้ว

 

“ฉึก——”

 

การโจมตีของทั้งสองฝ่ายพริบตานั้นก็ได้ปะทะกัน วินาทีนั้น ก็ได้ยินเสียงแตกระเบิดดังขึ้นมา เครื่องมือต้องห้ามในมือของราชานกยูงน้อยบุตรศักดิ์สิทธิ์หมื่นปีศาจนึกไม่ถึงว่าจะถูกทำลายไปในทันที กลายเป็นเพียงชิ้นๆ อยู่สามส่วน และความเคลื่อนไหวของเยี่ยจงก็มิได้เชื่องช้าเลย ฟาดออกไปอีกหนึ่งฝ่ามือติดต่อกัน หมายที่จะฆ่าสังหารราชานกยูงน้อยบุตรศักดิ์สิทธิ์หมื่นปีศาจลงในที่แห่งนี้

 

ราชานกยูงน้อยบุตรศักดิ์สิทธิ์หมื่นปีศาจก็ได้เกิดอาการตกใจขึ้นมา ในที่สุดก็ค่อยที่จะเข้าใจได้ขึ้นมา สถานที่แห่งนี้มีความเกี่ยวข้องกับแรงกดดันที่มีต่อพลังลมปราณอย่างมากมายมหาศาล ต่อให้เป็นเขาที่ได้ถือครองเครื่องมือต้องห้าม ก็ไม่อาจที่จะใช้ออกมาได้ด้วยพลังฝีมือถึงหนึ่งในสิบเสียด้วยซ้ำ และในสถานที่แห่งนี้เยี่ยจงก็ประดุจดั่งเช่นเมื่อวันก่อนที่อยู่ภายในใจกลางของตำหนักสวรรค์เก้าชั้นก็มิปาน หยิบยืมพลังแรงกดดันวิถีเซียนนี้ เขาจึงจะสามารถที่จะใช้ออกมาด้วยพลังการต่อสู้อันแข็งแกร่งขึ้นมาได้ เพราะว่าเขาได้มีความสำเร็จในพลังกายาทองไม่สูญสลายไปแล้ว

 

“ถอยเร็ว——”

 

บริเวณทางด้านหลัง มหาราชันปีศาจทุนเทียนขมวดคิ้วตะโกนขึ้นมา ก้าวมุ่งหน้าเข้าไปใกล้บริเวณทางด้านหน้า เห็นได้ชัดว่าเขาก็มองออกในสภาพการณ์เช่นนี้ ในขณะนี้ราชานกยูงน้อยบุตรศักดิ์สิทธิ์หมื่นปีศาจถูกจำกัดพลังจนมากเกินไป นอกเสียจากใช้อาวุธศักดิ์สิทธิ์ขั้นบรรลุออกมา มิเช่นนั้นเขาก็คงไม่อาจที่จะต้านทานพลังกายาทองไม่สูญสลายความสำเร็จเล็กของเยี่ยจงได้ !

 

เยี่ยจงหัวเราะเสียงเย็นชา เพิ่มระดับความเร็วขึ้น ในขณะที่มหาราชันปีศาจทุนเทียนกำลังรวมพลังเพื่อก้าวขึ้นมาทางด้านเพื่อมุ่งหน้าเข้ามาใกล้ยังบริเวณทางด้านหน้า ประกายแสงสีทองบนฝ่ามือนั้นในขณะนี้ก็ประดุจดั่งแสงอาทิตย์ที่เผาไหม้กระทั่งท้องฟ้าได้ก็มิปาน แฝงเอาไว้ด้วยพลังทำลายที่ไม่อาจที่จะต้านทานเอาไว้ได้ชนิดหนึ่ง พริบตานั้นก็ได้มุ่งหน้าเข้าไปยังบริเวณเบื้องหน้าราชานกยูงน้อยบุตรศักดิ์สิทธิ์หมื่นปีศาจกดลงไปเรื่อยๆ

 

“สุนัขน้อยเยี่ย ! ”

 

ราชานกยูงน้อยบุตรศักดิ์สิทธิ์หมื่นปีศาจตะโกนออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว สีหน้าปั้นยากขึ้นมาอย่างถึงขีดสุด เห็นได้ชัดเขาเองก็คิดไม่ถึง ด้วยศักดิ์ศรีของเขา นึกไม่ถึงจะเป็นเพราะพลังแรงกดดันวิถีเซียนนี้กลับต้องมาตกเป็นเบี้ยล่างเยี่ยจงได้ ในขณะนั้นเอง ความเชื่อมั่นและความทระนงของเขาก็ได้ทำให้เขาไม่อาจที่จะถอยไปได้ ได้แต่เพียงใช้ทั้งสองมือฟาดออกไปในเวลาเดียวกัน ต้านทานกระบวนท่าของเยี่ยจงอย่างแลกชีวิต

 

“ฉึก——”

 

คนแรกที่มีการตอบสนองภายในพริบตา ทั้งสองแขนของราชานกยูงน้อยบุตรศักดิ์สิทธิ์หมื่นปีศาจก็ได้แตกกระจุย ประดุจก้อนน้ำแข็งที่ได้แตกกระจายไปอย่างรวดเร็ว เป็นถึงบุตรศักดิ์สิทธิ์ที่มีพลังเทวะขั้นที่ห้า ภายใต้สถานที่แห่งนี้ นึกไม่ถึงจะไม่อาจที่จะเป็นแม้แต่คู่ต่อสู้ของเยี่ยจงได้เลย

 

บริเวณทางด้านหลัง ผู้คนทั้งหมดต่างก็ตกตะลึงลานขึ้นมา ฉากนี้แทบจะอยู่นอกเหนือความคาดคิดไปทั้งหมด ทุกผู้คนต่างก็คิดไม่ถึง นึกไม่ถึงว่าสภาพการต่อสู้จะเปลี่ยนจนกลายเป็นเช่นนี้ได้

 

ในขณะนั้น มหาราชันปีศาจทุนเทียนในที่สุดก็ได้ก้าวเข้ามาถึง ระเบิดฝ่ามือออกมา ต้านทานการโจมตีของเยี่ยจงเอาไว้

 

“ครืน——”

 

แล้วก็ได้มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา เยี่ยจงถอยหลังไปครึ่งก้าว และมหาราชันปีศาจทุนเทียนเพียงแต่โบกมือคราหนึ่ง อุ้มราชานกยูงน้อยบุตรศักดิ์สิทธิ์หมื่นปีศาจเอาไว้ถอยไปอย่างรวดเร็ว

 

“อา——”

 

ราชานกยูงน้อยบุตรศักดิ์สิทธิ์หมื่นปีศาจกรีดร้องออกมา ราวกับกำลังบ้าคลั่ง เขาที่เป็นถึงบุตรศักดิ์สิทธิ์ นึกไม่ถึงเพียงแค่พริบตาจะถูกทำให้พิการไปทั้งสองแขน ควรทราบว่า ด้วยพลังการต่อสู้ที่แท้จริงของเขา คิดที่จะสังหารเยี่ยจงก็เหมือนกับฆ่าไก่สังหารสุนัขเท่านั้น แต่ว่าก็ช่วยไม่ได้ พลังแรงกดดันวิถีเซียนของสถานที่แห่งนี้มีความสามารถในการจำกัดพลังลมปราณเอาไว้อย่างแข็งแกร่ง พลังฝีมือทั่วร่างของเขาย่อมไม่อาจที่จะใช้ออกมาได้สำเร็จ จนได้รับความอัดอั้นราวกับกระอักโลหิตออกมา

 

เขาเดิมทีคิดที่จะสังหารเยี่ยจงลงภายในกระบวนท่าเดียว เพื่อที่จะนำเอาวันคืนแห่งความอับอายของหุบเขาหมื่นปีศาจกลับคืนมา แต่กลับคิดไม่ถึงว่าผลลัพธ์จะกลายเป็นเฉกเช่นนี้ หากมิใช่มหาราชันปีศาจทุนเทียนลงมือออกมาในช่วงเวลาที่คับขันแล้วละก็ เกรงว่าเขาก็คงจะต้องถูกเยี่ยจงฟาดจนตายไปในทันทีแล้ว

 

สภาพการณ์เช่นนี้ขอเพียงคิดสักครู่ ก็พอที่จะทำให้ราชานกยูงน้อยบุตรศักดิ์สิทธิ์หมื่นปีศาจขนลุกชูชันขึ้นมา เพราะว่าความน่ากลัวของเยี่ยจงถือได้ว่าอยู่นอกเหนือจากความคาดคิดมากจนเกินไป ทำให้ผู้คนยากที่จะคาดคิดได้

 

มหาราชันปีศาจทุนเทียนก็ได้ทอสีหน้าหนักแน่นดุจวารีที่สงบ แม้แต่เขาก็ยังคิดไม่ถึง ท้ายที่สุดนึกไม่ถึงว่าจะเกิดสภาพการณ์เฉกเช่นนี้ได้ ในขณะนั้นเอง เส้นผมดำขวับบนศีรษะของเขาก็ได้ลอยพลิ้วไหวขึ้นมา บนใบหน้าที่ประดุจเด็กหนุ่มอายุสิบหกสิบเจ็ดปีเช่นนี้ กลับแฝงเอาไว้ด้วยพลังแรงกดดันที่ยากจะกล่าวออกมาได้ชนิดหนึ่ง ภายในดวงตาของเขาเย็นเยียบดุจสายฟ้าแลบ ก้าวออกไปทีละก้าว มุ่งหน้าเข้าไปใกล้ยังบริเวณทางด้านที่เยี่ยจงอยู่

 

“ซวบ——”

 

เยี่ยจงเพิ่มความเร็วขึ้น ก้าวติดต่อกันถึงเก้าครา แล้วก็ได้ย่างกรายเข้าไปจนถึงยังหลุมฝังศพโบราณในทันที เพื่อที่จะทำความเข้าใจอย่างกระจ่างจากพลังแรงกดดันวิถีเซียนที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในขณะนี้

 

ในเวลาเดียวกัน พลังมหาสมุทรตะวันผลาญก็ได้ค่อยๆ ปรากฏขึ้นมาบริเวณทางด้านหลังของเยี่ยจง แม้ว่าจะเป็นเพียงภาพมายา มิได้เกิดทะเลปราณที่แท้จริงแต่อย่างไร แต่ว่ายังคงพอที่จะแสดงร่างของเขาประดุจดั่งเทพราชันเยาว์วัยก็มิปาน กลายเป็นที่จับตาของทุกคน ในสถานที่แห่งนี้ พลังปราณแม้ว่าจะไม่อาจที่จะใช้ออกมาได้ เปลี่ยนแปลงเทวะกลับยังแสดงพลังมายาออกมาได้

 

“พลังลมปราณเปลี่ยนแปลงเทวะ ! ”

 

มหาราชันปีศาจทุนเทียนทอสีหน้าเปลี่ยนไปอีกครา ความเคลื่อนไหวของเยี่ยจงในแต่ละครั้ง ไม่ว่าจะเป็นครั้งใดต่างก็ถือได้ว่าอยู่นอกเหนือความคาดหมายของเขาไปอย่างมากมายในแต่ละครั้ง พลังลมปราณเปลี่ยนแปลงเทวะเมื่อได้ออกมา พลังสภาวะตลอดทั่วทั้งร่างกายของเขาก็ได้เกิดความเปลี่ยนแปลงไปอีกระดับในทันที !

 

“ตูม——”

 

ในขณะนั้นเอง มหาราชันปีศาจทุนเทียนก็ได้เกิดจิตสังหารขึ้นมา ฟาดฝ่ามืออันแข็งแกร่งออกไป คิดที่จะทลายสภาวะของเยี่ยจงจนตายตกลง

 

“ตูม——”

 

บนฝ่ามือของเยี่ยจงก็ได้ปรากฏพลังตราแห่งราชาแดนมนุษย์ขึ้นมาอีกครั้ง กวาดวาดฝ่ามือออกไป และก็ได้เข้าปะทะกันด้วยกันกับการโจมตีของมหาราชันปีศาจทุนเทียน ในครั้งนี้ ร่างกายของเขาก็ได้ถอยหลังไปอีกถึงสามก้าว ทอสีหน้าที่ถึงกับซีดขาวขึ้นมาเล็กน้อย แต่ว่าบนร่างกายของเขากลับไม่มีอาการบาดเจ็บแต่อย่างไร

 

มหาราชันปีศาจทุนเทียนในขณะนั้นเอง ก็ได้ทอสีหน้าเย็นเยียบหนักแน่นยิ่งขึ้นมากกว่าเดิม ควรทราบว่า เขาซึ่งถือได้ว่าเป็นระดับมหาราชันยอดฝีมืออย่างแท้จริง เนื่องจากในขณะนี้ถูกปิดกั้นพลังลมปราณเอาไว้ หากกล่าวกันตามหลักเหตุและผลย่อมต้องสามารถที่จะจัดการกับเยี่ยจงประดุจสุกรสุนัขจึงจะถูกต้อง แต่ว่า นึกไม่ถึงกลับไม่อาจที่จะฟาดอีกฝ่ายให้ตายได้ ?

 

“บุตรศักดิ์สิทธิ์หมื่นปีศาจก็แค่สวะเท่านั้น คิดไม่ถึงกับเป็นถึงมหาราชันปีศาจทุนเทียนก็ยังไม่มีข้อยกเว้น ! ” เยี่ยจงก้าวถอยไปอีกเก้าครา สภาวะประกายสีทองบนร่างกาย กายเนื้อของเขากลับมิได้รับผลกระทบใดจากสถานที่แห่งนี้แม้แต่เงา เพียงแต่ยังคงคงเดินเหินได้อย่างอิสระ ขณะนี้เขาก็ได้จ้องมองไปยังมหาราชันปีศาจทุนเทียนที่อยู่ทางด้านล่าง ทอสีหน้าเย้ยหยันออกมา

 

ภายในจิตใจของมหาราชันปีศาจทุนเทียนเป็นครั้งแรกที่เกิดความรู้สึกถึงความโหดเหี้ยมออกมา เขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนถึงพลังแรงกดดันวิถีเซียนของสถานที่แห่งนี้นั้นมีความหนาแน่นถึงเพียงใด ต่อให้เขาที่เป็นถึงชนชั้นมหาราชัน ก็ยังไม่อาจมีวิธีที่จะต่อกรได้เลย แต่ว่า มหาราชันปีศาจทุนเทียนเองก็มีความเชื่อมั่นต่อความแข็งแกร่งของตน เดิมทีก็มิได้เอาเยี่ยจงเก็บมาใส่ใจ แต่ว่าเขาไม่ว่าจะอย่างไรก็ดีก็คาดคิดไม่ถึงว่า กายเนื้อของเยี่ยจง เหมือนกับว่ายังแข็งแกร่งกว่าปีศาจมหาราชันอย่างเขาเสียด้วยซ้ำ อีกทั้งยังอยู่ในระดับที่ห่างไกลจนเขาไม่อาจที่จะคาดคิดขึ้นมาได้

 

ในสถานที่แห่งนี้ ยิ่งเข้าไปใกล้ยังโลงศพหยกที่อยู่ทางด้านบนของหลุมฝังศพโบราณ ความรุนแรงในแรงกดดันลมปราณก็ยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ หากเป็นไปตามความคาดการณ์ของมหาราชันปีศาจทุนเทียน หากว่าขึ้นไปยังบริเวณด้านบนของหลุมฝังศพโบราณ เกรงว่าต่อให้ชนชั้นมหาราชัน ก็ยังถึงกับต้องถูกกดดันจนไม่อาจที่จะใช้พลังลมปราณออกมาได้แม้แต่น้อย และเมื่อมาจนถึงขั้นนี้ เกรงว่าความแข็งแกร่งของกายเนื้อที่ถูกครอบครองเอาไว้อยู่เท่านั้นถึงจะแสดงออกมาได้ ในเวลาเช่นนี้ ทั้งสองฝ่ายหากต่อสู้กันอีกครา ก็ยากที่จะคาดเดาความเป็นความตายได้แล้ว

 

“เจ้านกน้อย คิดที่ตาย ก็ไสหัวขึ้นมาด้วยตัวเองเถอะ ! ” เยี่ยจงจ้องมองไปที่มหาราชันปีศาจทุนเทียน จากนั้นก็ได้ยื่นนิ้วชี้ข้างขวาออกมา ค่อยๆ เคาะเข้าไป

 

สีหน้าของมหาราชันปีศาจทุนเทียนก็ได้เปลี่ยนจนปั้นยากขึ้นมาอย่างไร้ที่เปรียบภายในพริบตา เขามีศักดิ์สถานะในระดับใด นึกไม่ถึงกลับต้องมาถูกคนรุ่นหลังเพียงคนหนึ่งดูถูกดูแคลนถึงเพียงนี้ นี้ย่อมต้องเป็นการกระตุ้นจิตสังหารภายในจิตใจของเขาปะทุขึ้นมา ในขณะนั้นเอง เขาไม่ว่าอันใดก็มิได้กล่าวออกมา เพียงแต่ก้าวออกไปทีละก้าวขึ้นไปยังด้านบนของบันไดหิน เห็นได้ชัดคิดที่จะใช้กำลังเข้าสังหารเยี่ยจงแล้ว

 

“เสี่ยวเยี่ยจงผู้นี้ ที่แท้……ช่างอยู่นอกเหนือความคาดคิดไว้ได้แล้ว……แม้แต่อาจารย์ปู่อย่างข้าจะต้องเจอกับตาเฒ่าทุนเทียนผู้นี้ ก็ยังไม่ถึงกับอาจหาญกระทำถึงเพียงนี้เลย ” แม้แต่ไต๋ซือหวู่โหวต่างก็อ้าปากตาค้าง อดไม่ได้ที่เอ่ยปากขึ้นมา

 

ในส่วนของคนที่ยังหลงเหลือก็เรียกได้ว่าอยู่ในอาการอึ้งไปจนหมดสิ้นก็ว่าได้ ชนชั้นมหาราชันเป็นถึงการคงอยู่ที่สูงล้ำถึงระดับใด แต่ว่าเยี่ยจงกลับดูถูกเย้ยหยันเช่นนี้ หากดูจากพลังฝีมืออย่างชนชั้นราชันพลังเทวะขั้นที่หนึ่งของเขา ก็รู้สึกเหมือนกับแมลงตัวน้อยกำลังเย้ยมังกรก็ว่าได้

 

แต่ว่าในขณะนั้นเอง ผู้ใดก็ไม่อาจที่จะแน่ใจได้ ว่าสถานการณ์ในท้ายที่สุดจะเป็นเช่นไร เพราะว่าเยี่ยจงเองก็ได้ใช้ออกมาด้วยพลังฝีมือของเขาเองออกมาแล้ว เพื่อเป็นที่ประจักษ์ถึงความแข็งแกร่งของเขา

 

“เจ้าสุนัขน้อย——”

 

บริเวณทางด้านหลัง ราชานกยูงน้อยบุตรศักดิ์สิทธิ์หมื่นปีศาจก็ได้กระอักโลหิตออกมาคำโต จนเกือบที่จะเกิดอาการวิงเวียนล้มลงไปกับพื้น เพราะว่าฉากนี้ถือเป็นการเหยียดหยามมากจนเกินไปแล้ว เนื่องจากหากมองว่าพวกเขาที่เป็นสายโลหิตจากแห่งหุบเขาหมื่นปีศาจ นี้ถือได้ว่าเป็นการหยามเกียรติอย่างถึงที่สุด ราวกับไม่อาจที่จะทำให้เขาทนทานรับไว้ได้

 

“เกิดอะไรขึ้น ? ทุนเทียน แม้แต่เจ้าก็พลาดท่าเสียทีในสถานที่แห่งนี้งั้นหรือ ? ” แล้วก็ได้มีเสียงที่ดังสนั่นดังขึ้นมา จากนั้นก็ได้พบเห็นเงาร่างที่ตลอดทั่วทั้งร่างได้ปกคลุมเอาไว้ด้วยเส้นขนสีทองตนหนึ่งเดินกอดอกเข้ามา แท้จริงแล้วก็คือมหาราชันปีศาจลิ่วเอ่อ บริเวณทางด้านหลังของเขาก็ยังมีหญิงสาวที่งดงามติดตามมาผู้หนึ่ง แท้จริงแล้วก็คือสตรีศักดิ์สิทธิ์หมื่นปีศาจหยู่หยูเอง

 

“อาจารย์อา ศิษย์น้องหญิง พวกท่านในที่สุดก็มาแล้ว ! ” ราชานกยูงน้อยบุตรศักดิ์สิทธิ์หมื่นปีศาจก็ได้ร่ำร้องออกมาคำหนึ่ง ในที่สุดสีหน้าก็ดีขึ้นมาอีกหลายส่วน

 

และในเวลาเดียวกันนี้เอง สายตาของมหาราชันปีศาจลิ่วเอ่อในที่สุดก็ได้มองขึ้นไปยังทางด้านบน ในช่วงเวลาขณะนี้ที่ได้พบเห็นเยี่ยจงก็นึกไม่ถึงจะกำลังยั้งเชิงกับมหาราชันปีศาจทุนเทียนอยู่ เขาเองก็เกิดความงงงันขึ้นมาเล็กน้อย ภายในดวงตาก็ได้ปรากฏสีหน้ายากที่จะเชื่อขึ้นมา แมลงที่เพียงแค่ใช้มือบดบี้ลงไป ขณะนี้นึกไม่ถึงว่าจะหาญกล้าเย้ยมังกรงั้นหรือ ?

.

.

.

.

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset