เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 562 เย้ยสังหารปีศาจมหาราชัน

ตอนที่ 562 เย้ยสังหารปีศาจมหาราชัน

 

มหาราชันปีศาจทุนเทียนทอสีหน้าเปลี่ยนไปนับครั้งไม่ถ้วน แต่ว่าด้วยฐานะที่ค้ำคออยู่อย่างเขา ในช่วงเวลาเช่นนี้กลับยิงไม่อาจจะถอยออกไปได้เลยแต่อย่างไร เขาพลิกทั้งสองมือขึ้นมา พลังลมปราณภายในร่างกายก็ได้พยายามที่จะใช้ขึ้นมา แต่ก็แทบจะไม่อาจที่จะฟาดออกไปได้เลย ได้แต่เพียงพึ่งพาพลังแต่เพียงกายเนื้อฟาดออกมาจนเกิดฝ่ามือประกายแสงห้าสีสายหนึ่งเท่านั้น มุ่งหน้าออกไปทางด้านหน้า เขามั่นใจว่าย่อมต้องเพียงพอที่จะต้านทานความแข็งแกร่งของการจู่โจมนี้ของเยี่ยจงได้

 

“ครืน——”

 

ฝ่ามือหนึ่งของเยี่ยจงก็ได้ฟาดเข้าไปยังทางด้านบนของฝ่ามือที่ส่องเป็นประกายนี้ของมหาราชันปีศาจทุนเทียน วินาทีนั้น ประกายคมกล้าอันน่าหวาดกลัวสายหนึ่งก็ได้พัดผ่านขึ้นมา ด้วยการโจมตีที่ปะทะเข้าด้วยกันของทั้งสองคนในบริเวณจุดกึ่งกลาง ร่างกายของทั้งสองคนก็ได้สั่นไหวอยู่ด้านบนเวทีขึ้นมาในเวลาเดียวกัน จากนั้นก็ได้มุ่งหน้าถอยออกไปบริเวณทางด้านหลังอีกหลายก้าว

 

“กล่าวกันว่าตอนนี้พลังกายาทองไม่สูญสลายได้ปรากฏขึ้นมาแล้ว คิดไม่ถึงจะเป็นความจริง ความแข็งแกร่งในร่างเดิมของมหาราชันปีศาจทุนเทียน ต่อให้ขณะนี้ถูกจำกัดพลังลมปราณเอาไว้ อีกทั้งยังเป็นถึงผู้ที่อยู่ในชนชั้นมหาราชัน แต่ว่านึกไม่ถึงว่าเขากลับสามารถที่จะต้านทานเอาไว้ได้ ช่างไม่อาจที่จะนึกถึงภายภาคหน้าได้เลย ! ”

 

ชนชั้นมหาราชันภายในสนามทั้งก็จริงจังขึ้นมา ด้วยความร้ายกาจของสายตาที่คมกล้า พริบตานั้นก็ได้มองออกว่า เยี่ยจงนึกไม่ถึงว่าจะมีกำลังเพียงพอที่จะสามารถเข้าปะทะกับมหาราชันปีศาจทุนเทียนได้ ฉากนี้ถือได้ว่าอยู่นอกเหนือความคาดหมายของผู้คนไม่น้อยเลยทีเดียว

 

“เจ้านกน้อย เหตุใดเจ้าถึงมิได้มีความแตกต่างจากเมื่อครู่นี้เลยเล่า เจ้ายังไม่ได้กินข้าวหรือไง ใส่ใจหน่อยสิ หรือจะให้ข้าต่อให้เจ้าใช้เพียงมือข้างเดียวกัน ? ” เยี่ยจงจ้องมองไปทางมหาราชันปีศาจทุนเทียนปัดมือไปมา ในเวลาเดียวกันก็ได้พาดมือซ้ายไปไว้บริเวณทางด้านหลัง มุ่งหน้าบริเวณเข้าไปทางด้านหน้า

 

“เจ้าเดรัจฉานน้อย ! ” บนใบหน้าอันใสกระจ่างของมหาราชันปีศาจทุนเทียนในขณะนั้นเองก็ได้ดำคล้ำขึ้นมาหลายส่วน ชนชั้นมหาราชันในสถานที่แห่งนี้ ต่างก็ไม่ถือว่าเป็นชนชั้นธรรมดาแม้แต่คนเดียว และด้วยพลังฝีมือของเขา นึกไม่ถึงกลับต้องมาถูกชนชั้นรุ่นหลังพลังเทวะขั้นที่หนึ่งเพียงคนเดียวดูแคลนเช่นนี้ ทำให้เขาเกิดความอัดอั้นขึ้นมาอย่างถึงที่สุด

 

“ตูม——”

 

ในขณะนั้นเอง มหาราชันปีศาจทุนเทียนก็ได้ฝืนไหลเวียนพลังลมปราณขึ้นมา ฝืนจนพลังฝีมือของตนเองเพิ่มสูงขึ้นมา และเครื่องมือต้องห้ามที่อยู่เหนือศีรษะของเขาในขณะนี้ก็ได้ปกคลุมประกายแสงที่บนตัวของเขาขึ้นมา เห็นได้ชัด เขาได้เตรียมพร้อมที่จะลงมือโดยไม่สนใจถึงผลที่จะตามมาทั้งหมดแล้ว

 

“หลิงเฟ่ย คุ้มกันข้าเอาไว้ ! ” ทั่วร่างของเยี่ยจงก็ได้ปกคลุมไปด้วยประกายแสงสีทองคมกล้าขึ้นมา พลังกายาทองไม่สูญสลายในขณะนี้ก็ได้ถูกเขาใช้ขึ้นมาจนถึงระดับขีดสุด เขาขณะนี้ก็ได้เพิ่มพลังสภาวะของพลังในระดับสูงสุดขึ้นมา คิดที่จะใช้พลังจากร่างกายนี้ฆ่าสังหารมหาราชันปีศาจทุนเทียนลง

 

“กร๊อบ——”

 

ในพริบตานั้นมหาราชันปีศาจทุนเทียนเองก็ยังไม่มีปฏิกิริยากลับคืนมา ฝ่าเท้าของเยี่ยจงก็ได้เหยียบย่างออกไปก้าวหนึ่ง ตลอดทั่วทั้งคนก้าวเดินออกมาประดุจสัตว์โบราณเคลื่อนไหว เขาเพียงใช้แค่มือข้างขวาข้างเดียวเท่านั้น แล้วก็ได้ฟาดออกไปเช่นนี้ หมัดฝ่ามือราวกับสามารถที่จะแยกสภาวะอากาศขึ้นมาได้ก็มิปาน ราวกับมีพลังที่จะแยกสายธารได้เลย ถือได้ว่าเป็นพลังที่ไม่อาจที่จะต้านทานเอาไว้ได้

 

เยี่ยจงหลังจากที่ได้เข้ามายังใจกลางของแดนซีฮวง ตลอดรายทางมานี้ก็ได้ถูกมหาราชันปีศาจทุนเทียนและมหาราชันปีศาจลิ่วเอ่อไล่ล่าสังหารมาตลอดทาง ขณะนี้เขาในที่สุดก็มีโอกาสที่จะได้ครอบครองวาสนาที่มีความสามารถที่จะเย้ยสวรรค์แล้ว ย่อมต้องไม่อาจที่จะผิดพลาดไปได้ เพียงแต่คิดที่จะหยิบยืมโอกาสในครั้งนี้สังหารมหาราชันปีศาจทุนเทียนลง เพื่อที่จะเป็นการพลิกสถานการณ์กลับคืนมา

 

“บรึม——”

 

มหาราชันปีศาจทุนเทียนทอสีหน้าปั้นยากขึ้นมา คิดไม่ถึงเยี่ยจงจะลงมือด้วยตัวเอง ขณะนี้ใจกลางฝ่ามือของเขาก็ได้ปรากฏประกายแสงห้าสีขึ้นมา กลายเป็นพลังการโจมตีออกมาสายหนึ่ง เพียงแต่ว่า พลังลมปราณของเขากลับถูกจำกัดเอาไว้โดยส่วนมาก ต่อให้เป็นการฝืนใช้ออกมา ก็ยังไม่อาจที่จะใช้ออกมาได้ถึงพลังทำลายหนึ่งในร้อยตามปกติเลยด้วยซ้ำ

 

“เปรี้ยง——”

 

การโจมตีของทั้งสองฝ่ายเมื่อได้เข้าปะทะกัน บริเวณใจกลางฝ่ามือของมหาราชันปีศาจทุนเทียนพริบตานั้นก็ได้แตกสลายออก และตัวทั่วทั้งร่างกายของเขาก็ได้ถูกซัดจนลอยกระเด็นออกไปภายในทันที แทบจะไม่อาจที่จะต้านทานพลังกายเนื้อของเยี่ยจงในขณะนี้ได้เลย

 

“เฟยเฟย ทำได้ดีมาก วันนี้พวกเราทั้งสองก็ได้เย้ยฟ้าสังหารปีศาจมหาราชันได้แล้ว ! ” เยี่ยจงหัวเราะเสียงเย็นชาติดต่อกัน เพื่อที่จะให้หลิงเฟ่ยคอยตามตนเองให้ดี และภายในนิ้วมือบนฝ่ามือของเขา ก็ได้รวมเอาไว้ด้วยพลังกระบี่เทวะไร้สภาวะ ระหว่างนั้นเขาก็ได้พลิกนิ้วมือข้างขวาออกไป จนรวมเอาไว้ด้วยประกายแสงกระบี่พวยพุ่งออกมาจากบริเวณฝ่ามือของเขา

 

กระบี่เทวะไร้สภาวะ อีกทั้งยังไร้สภาพ ทั้งยังมีพลังไร้ที่เปรียบ ขณะนี้ก็ได้รวมเอาไว้อยู่บริเวณนิ้วของเยี่ยจง ด้วยการใช้ออกมาด้วยพลังกายเนื้อ ก็ได้มีพลังออกมาจากนิ้วมือนี้ภายในพริบตา ทั่วทั้งแขนขวาของเยี่ยจงประดุจไร้สภาพ เพียงแค่เขาชี้นิ้วออกไป ก็ประดุจดั่งก่อเกิดสภาวะที่เหมือนมีกระบี่สายรุ้งแต่ไร้สภาพฝ่าผืนฟ้าออกไป ราวกับลูกศรหลุดออกแหล่งก็มิปาน

 

“เปรี้ยง——”

 

มหาราชันปีศาจทุนเทียนทำสีหน้าเปลี่ยนไป ในขณะนั้นเองเขาก็ได้ถอยจนไม่อาจที่จะถอยไปได้อีก มือขวาของเขาก็ได้ปรากฏตราประทับสีดำทมิฬขนาดใหญ่ขึ้นมาสายหนึ่ง มุ่งหน้าต้านทานออกไปบริเวณทางด้านหน้า แต่ว่าการโจมตีของเขาในขณะนี้กลับเป็นที่ชัดเจนจนมากเกินไป อีกทั้งยังไม่อาจที่จะมีพลังทำลายเทียบเท่ายามปกติ พริบตานั้นก็ได้ฟาดสวนออกไปเช่นนี้

 

พลังจากนิ้วของเยี่ยจงกลับมิได้มีความเปลี่ยนแปลงใด ยังคงมุ่งหน้าเป็นเส้นตรงเข้าไปยังบริเวณใจกลางของฝ่ามือของมหาราชันปีศาจทุนเทียน วินาทีนั้น ก็ได้มีประกายโลหิตฉีดลอยออกมา

 

“อา——”

 

มหาราชันปีศาจทุนเทียนส่งเสียงกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด ถอยไปอย่างรวดเร็ว แขนขวาของเขาในขณะนี้ก็ได้เปลี่ยนแปลงรูปร่างไปในทันที ประดุจจะขาดแหล่มิขาดแหล่จนมีสภาพที่น่าเกลียด หากมิใช่เป็นเพราะภายในร่างกายของเขามีพลังลมปราณดุจมหาสมุทร เกรงว่าภายใต้กระบี่นี้ของเยี่ยจง แม้แต่ร่างกายครึ่งท่อนก็คงจะต้องขาดสะบัดลง

 

“เจ้า……ไม่ไหวเลยนะ ! ”

 

เยี่ยจงก็ได้ก้าวออกมาด้านหน้า ใช้พลังเข้ากดดันโดยที่ไม่สนใจผู้ใด พลิกปลายนิ้วมือข้างขวาใช้ออกมาด้วยสำนึกกระบี่ออกมาไม่หยุด จนเกิดพลังพวยพุ่งออกมาติดต่อกัน คิดที่จะฆ่าสังหารมหาราชันปีศาจทุนเทียนลงในสถานที่แห่งนี้

 

“ฉึก——”

 

มหาราชันปีศาจทุนเทียนในขณะนั้นเองก็ไม่อาจที่จะไม่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันถอยหลังออกไป แต่ว่าต่อให้เป็นเช่นนี้ เขาก็ยังเคลื่อนไหวได้เชื่องช้าลงเล็กน้อย แขนข้างขวาทั้งแขนก็ได้ถูกเยี่ยจงตัดจนขาดลง วินาทีนั้นก็ได้มีโลหิตฉีดพุ่งออกมาดุจสายน้ำ เป็นที่จำตามองของชนชั้นมหาราชันทั้งหมดท่ามกลางสนาม

 

ในขณะนั้นเอง ชนชั้นมหาราชันที่เดิมทีอยู่ในสภาพสงบนิ่งอยู่เหล่านั้นต่างก็ทนเอาไว้ไม่อยู่ ชนชั้นรุ่นหลังผู้นี้ก็โหดเหี้ยมเกินไปแล้ว นึกไม่ถึงด้วยพลังการต่อสู้อย่างพลังเทวะขั้นที่หนึ่งชนชั้นราชัน ยังถึงกับเข้าไปใกล้ลงมือสังหาร ทำให้ชนชั้นมหาราชันตนหนึ่งพิการไปแขนข้างหนึ่งได้อย่างงั้นหรือ ?

 

“เจ้ากล้า——”

 

มหาราชันปีศาจทุนเทียนก็ได้ตะโกนออกมาอย่างเดือดด่าน ในขณะนั้นเองราวกับจะคลุ้มคลั่งขึ้นมา

 

“ผัวะ——”

 

แต่ทว่า ขณะนี้เยี่ยจงก็ได้สะบัดมือขวาออกไป จนก่อเป็นพลังสภาวะพลังเทวะไร้รูปร่างออกมา จากนั้นพลังตราแห่งราชาแดนมนุษย์ก็ได้ปรากฏขึ้นมาบริเวณใจกลางฝ่ามือ ระหว่างความเคลื่อนไหวของเขา พลิกฝ่ามือฟาดออกไปประดุจประกายแสง ฟาดเข้าไปยังด้านบนใบหน้าของมหาราชันปีศาจทุนเทียนเป็นเส้นตรง

 

พริบตานั้นร่างกายของมหาราชันปีศาจทุนเทียนก็ได้ลอยกระเด็นออกไป ใบหน้าครึ่งท่อก็ได้บวมขึ้นมา ก็ได้มีโลหิตหลั่งไหลสูบฉีดออกมา จนทำให้เขาต้องกล้ำกลืนคำพูดอีกครึ่งประโยคลงไปอย่างช่วยไม่ได้

 

ในครั้งนี้ไม่แต่เพียงแค่ชนชั้นมหาราชันเหล่านั้น แม้แต่ไต๋ซือหวู่โหว จงหลี่และพวกต่างก็โง่งมขึ้นมา เยี่ยจงผู้นี้ก็ช่างโหดร้ายเกินไปแล้ว นึกไม่ถึงจะตบกบปากไปที่ชนชั้นมหาราชันตนหนึ่งได้จริง

 

นี้ราวกับเป็นเหมือนกับเป็นเหมือนตำนานบทหนึ่งได้เลยก็มิปาน ควรที่จะทราบว่าชนชั้นมหาราชันตามปกติถือได้ว่าจัดอยู่ในระดับที่สูงส่งลึกล้ำ ภายใต้การกดดันเพียงนิ้วมือเดียว ก็เพียงพอที่จะจัดการกับชนชั้นราชันให้ตายลงไปได้แล้ว ต่อให้เผชิญหน้ากับชนชั้นมหาราชันที่มีระดับพลังชนชั้นราชันพลังเทวะขั้นที่ห้า ก็ยังคงไม่ต่างจากแมลงตัวหนึ่ง

 

แต่ว่า ขณะนี้แมลงตัวนั้นกลับสามารถที่จะกระโดดตบเข้าไปยังด้านบนใบหน้าของมังกรจนสั่นได้เลยอย่างงั้นหรือ ? ฉากนี้ต่างเหมือนดั่งความฝัน ราวกับว่าไม่มีผู้ใดที่จะเชื่อได้ลง

 

แต่ทว่าเรื่องเมื่อได้เป็นเช่นนี้ไปแล้ว ขณะนี้มหาราชันปีศาจทุนเทียนถือได้ว่าอยู่ในสภาพที่น่าอนาจอย่างยิ่ง ราวกับว่าเขานับตั้งแต่เติบใหญ่มาจนถึงปานนี้ แม้แต่บิดาของตนเองก็ยังไม่กล้าที่จะตบตีเขา แต่ว่าขณะนี้กลับต้องมาถูกชนชั้นรุ่นหลังเพียงคนเดียวตบฝ่ามือเอามาเต็มๆ เช่นนี้ได้ จนทำให้แทบจะกลายเป็นตัวโง่งมไปเลยทีเดียว

 

ไม่มีคนใดที่ไม่แตกตื่นตกใจขึ้นมา แทบจะไม่อาจที่จะมีปฏิกิริยากลับมาได้ทันที และการต้องไปพบเจอผู้คนในวันข้างหน้า จะกลายเป็นทำให้ผู้คนกล่าวออกมาเช่นไรได้กัน

 

“เดรัจฉานน้อย……” มหาราชันปีศาจทุนเทียนในที่สุดก็ได้มีปฏิกิริยากลับมากลับคืนมา ขณะนี้เขาก็ได้ทอสีหน้าดุร้ายขึ้นมาอย่างถึงที่สุด มิได้มีใบหน้าที่กระจ่างใสดั่งเช่นตอนแรกอีกต่อไป

 

“เจ้าสวะ ” เยี่ยจงทอสีหน้าเมินเฉย ขยับเข้าไปใกล้อย่างรวดเร็ว ก้าวออกมาใช้ออกด้วยวิชาดำดินรุกคืบ พริบตานั้นมหาราชันปีศาจทุนเทียนแทบจะไม่อาจที่จะมีปฏิกิริยากลับมาได้ทัน แล้วก็ได้ถูกขยับเคลื่อนไหวร่างกายเข้าไปใกล้อีกครั้ง

 

“ผัวะ——”

 

ฝ่ามือของเยี่ยจงก็ได้พลิกฟาดตบเข้าไปอีกคราหนึ่ง บริเวณใจกลางฝ่ามือก็ยังคงทอเป็นประกายพลังตราแห่งราชาแดนมนุษย์ของอักขระและร่องรอยเอาไว้อยู่ แล้วก็ได้ฟาดฝ่ามือกวาดออกไปยังบริเวณฝ่ามืออีกครึ่งซีกของมหาราชันปีศาจทุนเทียน แล้วก็ได้ตบเข้าไปจนตลอดทั่วทั้งร่างกายของเขาลอยกระเด็นออกไปอีกครา

 

มหาราชันปีศาจทุนเทียนแทบจะไม่มีปฏิกิริยากลับมาได้ทัน ได้แต่อ้าปากตาค้าง เขานึกคิดไม่ถึงเลยว่าตนเองจะต้องมาโดนตบเข้ามาเป็นฝ่ามือที่สอง อีกทั้งด้วยอาการที่ใบหน้ายังร้อนผาวอยู่ ก็ได้ทำให้ผู้คนบ้าคลั่งขึ้นมา

 

พริบตานั้นที่มุมปากของมหาราชันปีศาจทุนเทียนก็ได้มีโลหิตไหลออกมา เขาทอสีหน้าดุร้ายขึ้นมา ราวกับบ้าคลั่งขึ้นมา เขาที่เป็นถึงหนึ่งในปีศาจมหาราชันเก้าตนแห่งหุบเขาหมื่นปีศาจ ตามปกติยามเกรี้ยวกราดก็สามารถที่จำพลิกขุนเขามหาสมุทรไปทั้งสิบหมื่นลี้ได้แล้ว แต่ว่าในวันนี้กลับต้องมาได้รับความเสื่อมเสียอับอายจากชนชั้นรุ่นหลังเพียงคนเดียวถึงขั้นนี้เลยอย่างงั้นหรือ ?

 

“บอกไปตั้งแต่แรกแล้ว คิดที่จะตบจะขนเจ้าหลุดลุ่ยออกมาทั้งปาก ! ” เยี่ยจงทอสีหน้าเมินเฉย แล้วก็ได้ก้าวออกมาทางด้านหน้าติดต่อกัน จากนั้นก็ได้ชี้นิ้วมุ่งหน้าออกไปบริเวณทางด้านหน้า

 

กระบี่เทวะไร้สภาวะก็ได้ถูกรวมขึ้นมาอีกครั้งที่บริเวณปลายนิ้วมือของเยี่ยจง กระบี่นี้ของเขาก็ได้ชี้เข้าไปยังใจกลางหน้าอกของมหาราชันปีศาจทุนเทียน คิดที่จะใช้พลังกระบี่นี้ตัดเส้นลมปราณของเขาลง

 

มหาราชันปีศาจทุนเทียนยังไม่ทันที่จะบ้าคลั่งขึ้นมา ทอสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากถอยหลังออกไป ในเวลาเดียวกันก็ได้ใช้มือซ้ายเข้าต้านทานขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เพราะว่าหากว่าต้องมาถูกพลังกระบี่นี้ของเยี่ยจงตัดเข้ามายังภายในใจกลางหน้าอกของตนเองแล้วละก็ ต่อให้เขาที่เป็นถึงปีศาจมหาราชัน อย่างน้อยก็คงจะไม่รอดพ้นจากความตายได้

 

“ฉึก——”

 

เยี่ยจงขยับเคลื่อนไหวไม่หยุด อีกทั้งยังไม่สนใจว่ามหาราชันปีศาจทุนเทียนจะต้านทานเอาไว้หรือไม่ แล้วก็ได้ชี้นิ้วเข้าไปเช่นนี้

 

“ฉึก——”

 

มือข้างซ้ายของมหาราชันปีศาจทุนเทียนก็ได้สั่นไหวขึ้นมา แล้วก็ได้เปลี่ยนรูปร่างกลายเป็นน่าเกลียดขึ้นมาทันที จากนั้นความเจ็บปวดก็ได้ทำให้เขาทอสีหน้าดุร้ายขึ้นมายิ่งกว่าเดิม มีเหงื่อเย็นเยียบหลั่งไหลออกมาจากทั่วทั้งร่างกาย

 

แต่ว่า เขาสูญเสียแขนข้างหนึ่งไปย่อมไม่ส่งผลอันใดได้ นิ้วมือนี้ของเยี่ยจงก็ยังคงกดทับลงไป ด้วยสภาวะของกระบี่ไร้ลักษณ์ไร้ร่องรอย อีกทั้งยังแฝงเอาไว้ด้วยกลิ่นกายที่ไม่อาจจะควบคุมได้อยู่ชนิดหนึ่ง

 

นี้ถือได้ว่าเป็นการปะทะของพลังจากร่างกายที่บริสุทธิ์เป็นอย่างยิ่ง ด้วยการใช้ออกมาด้วยพลังเทวะของพลังกายาทองไม่สูญสลายของเยี่ยจง ในข้อนี้ต่อให้มีความแข็งแกร่งอย่างมหาราชันปีศาจทุนเทียน ขณะนี้ก็ยังไม่อาจที่จะใช้แต่เพียงพลังกายเนื้อบริสุทธิ์ในการต้านทานเอาไว้ได้ ในชั่วขณะที่เขากำลังต่อสู้ แขนซ้ายก็ได้กระจายออกมาจนกลายเป็นเศษเนื้อไปในทันที

 

ควรทราบว่า ร่างกายของมหาราชันปีศาจทุนเทียนถือได้ว่ามีความแข็งแกร่งมากที่สุดตนหนึ่งในหมู่ของชนชั้นมหาราชันมากมาย แต่ว่าเมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับพลังกายาทองไม่สูญสลายของเยี่ยจงก็ยังคงถือได้ว่าไม่น่าดูเป็นอย่างยิ่ง กลับต้องมาถูกเขาจัดการทุบตีเช่นนี้อีก

 

“เดรัจฉานน้อย——” มหาราชันปีศาจทุนเทียนก็ได้ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ร่างกายก็ได้สู้พลางถอยพลาง รวมพลังทั้งหมดเพื่อที่จะหลบเลี่ยงจากนิ้วมือนี้ของเยี่ยจง เพราะว่าหากว่าต้องมาถูกเยี่ยจงจู่โจมเข้ามาเต็มๆ แล้วละก็ ต่อให้เป็นเขาก็ยังคงต้องตายอยู่ดี

 

“อา——”

 

ในที่สุด นิ้วมือข้างหนึ่งนี้ของเยี่ยจงก็ได้เฉียดผ่านศีรษะของมหาราชันปีศาจทุนเทียนไป มหาราชันปีศาจทุนเทียนราวกับบ้าคลั่งขึ้นมาอีกหลายส่วน ในเวลาเช่นนี้ยังหลงเหลือเค้าโครงของชนชั้นมหาราชันได้อย่างไร เขาก็ได้ล้มกลิ้งลงกับพื้นไปในทันที มุ่งหน้าถอยไปบริเวณทางด้านหลังอย่างบ้าคลั่ง

 

“กร๊อบ——”

 

เยี่ยจงยังคงก้าวออกมาทีละก้าว มิได้ใช้ออกมาด้วยพลังกระบี่ไร้สภาพอีกต่อไป เพียงแต่ใช้ขาขวาเตะออกไป กระแทกเข้าไปยังบริเวณหน้าท้องของมหาราชันปีศาจทุนเทียนอย่างรุนแรง

 

เสียงของกระดูกที่แตกหักก็ได้ดังขึ้นมาอย่างไม่น่าฟัง ต่อให้เป็นมหาราชันปีศาจทุนเทียนที่เป็นถึงชนชั้นมหาราชันที่แท้จริง ขณะนี้ก็ยังต้องถึงขั้นกระดูกแตกหัก หากมิใช่ภายในร่างกายของเขานั้นมีพลังลมปราณไหลเวียนอยู่ เท้าข้างนี้ก็คงจะเพียงพอที่จะทำให้เขากลายเป็นคนพิการไปได้แล้ว

 

“อ๊าก——”

 

มหาราชันปีศาจทุนเทียนอ้าปากออกมา กระอักโลหิตออกมาอย่างรุนแรงคำโต อีกทั้งภายในโลหิตยังผสมปนเอาไว้ด้วยชิ้นส่วนอวัยวะภายในอีก ในเวลาเดียวกันสีหน้าของเขาก็ได้ปั้นยากขึ้นมาอย่างถึงที่สุด แทบจะไม่อาจที่จะเชื่อได้ลง เพียงแค่ชนชั้นราชันตัวน้อยๆ เพียงคนเดียว จะถึงกับสามารถที่จะกดขี่เขามาจนถึงขั้นนี้ได้

 

“เปรี้ยง——”

 

เยี่ยจงก็ได้ลงเท้าลงไปอีกก้าวหนึ่ง ในครั้งนี้กลับมุ่งหน้าไปเหยียบลงไปยังบริเวณศีรษะของมหาราชันปีศาจทุนเทียน เห็นได้ชัดย่อมต้องคิดที่จะเหยียบลงไปให้แหลกเละไปในเท้าเดียว สังหารให้ปีศาจมหาราชันตนนี้จบสิ้นลง

 

ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมานั้นถือได้ว่ารวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง รวดเร็วจนกระทั่งชนชั้นมหาราชันตนอื่นๆ ยังไม่อาจที่จะมีปฏิกิริยากลับมาได้ทัน ได้แต่เพียงลืมตามองดูเท่านั้น

 

“หยุดมือซะ ! ”

 

มหาราชันปีศาจลิ่วเอ่อในที่สุดก็ได้มีปฏิกิริยากลับคืนมา เขาก็ได้ร้องตะโกนเสียงเกรี้ยวกราดออกมา เครื่องมือต้องห้ามที่ปรากฏขึ้นมาเหนือศีรษะก็ได้ปะทุประกายแสงสว่างคมกล้าขึ้นมา ตลอดทั่วทั้งคนก็ได้พุ่งออกมาภายในพริบตา หมายจะขวางรั้งเยี่ยจงเอาไว้ ไม่ยินยอมที่จะจ้องมองมหาราชันปีศาจทุนเทียนถูกเหยียบตายลงไปเช่นนี้ เพราะว่านี้ย่อมมีความเกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของหุบเขาหมื่นปีศาจ จึงยากที่จะทำให้เกิดขึ้นมาได้

.

.

.

.

 

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset