เทพศึกมังกรหวนคืน – ตอนที่ 166 เรื่องเล่าที่หายไปนาน

“ถ้าฉันไม่ให้ แล้วจะทำไม?”

ฉินเฟิงค่อยๆลุกขึ้นยืน

“ไม่ให้ เหอะ”

ชายต่างหูยิ้มแสยะ คิดในใจว่า ในที่สุดเรื่องราวครั้งนี้ก็ถูกต้องซะที เจอกับเหตุการณ์แบบนี้แล้วไม่ให้ จากนั้นก็ถูกพวกเขารุมทำร้าย แล้วจากนั้นก็ค่อยให้

ที่ผ่านมาก็ทำแบบนี้มาตลอด

ที่เหลือก็แค่ตีจนมันยอมก็พอแล้ว

“ไม่ให้ งั้นก็คือหาเรื่องโดนตี”

ชายต่างหูรู้สึกสนุกขึ้นมา ในมือถือไม้เบสบอลไว้ แล้วก็เหวี่ยงไปมา ทำตัวอวดเก่ง จากนั้นก็ยืดเส้นคอ พูดว่า “ฉันถามนาย ให้หรือไม่ให้?”

“อืม”

วินาทีต่อมา ชายต่างหูก็อึ้งไป เพราะว่าเขาเห็นว่าฉินเฟิงมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเขา ขณะเดียวกันก็ได้ยื่นมือมาข้างหนึ่ง บีบคอเขาไว้ แล้วก็ยกตัวเขาขึ้น

วินาทีนั้น หายใจลำบาก สองตาถลน

“เพราะงั้น ห้าแสน ให้ไม่ให้?”

มืออีกข้างของฉินเฟิงไขว้ไว้ด้านหลัง มืออีกข้างบีบคอชายต่างหูไว้

“ลูกพี่”

คนรอบข้างชะงักไป ต่างก็เรียกชื่อออกมา

แต่ว่าพวกเขานั้นไม่กล้าเข้าไป เพราะว่าชายต่างหูเป็นลูกพี่ของพวกเขา สูงร้อยเก้าสิบกว่าเซนติเมตร รูปร่างสูงใหญ่ ร่างใหญ่บึกบึน น้ำหนักมากถึงแปดสิบกิโล

ปกติแล้วพวกเขาทั้งหมดรวมกัน ยังสู้เขาไม่ไหวเลย

แต่ว่าในตอนนี้ กลับถูกไอ้หนุ่มตรงหน้า ยกขึ้นด้วยมือข้างเดียว แล้วยังดูสบายๆด้วย เพราะงั้นพวกเขาเข้าใจดี ว่าครั้งนี้เจอปัญหาแล้ว

แล้วยังเป็นปัญหาใหญ่ด้วย

“อ๊าก…ปล่อย….ฉัน…”

ชายต่างหูดิ้นรนไม่หยุด

“โอ๊ะ ไม่ให้งั้นหรอ?”

ฉินเฟิงเพิ่มกำลังมากขึ้น

“อ๊าก…ปล่อยฉัน….ฉันให้…ให้….ให้….”

จนถึงที่สุดแล้ว สองตามองบน เกือบจะหมดลมหายใจไปแล้ว

ปัก

ฉินเฟิงปล่อยมือ ชายต่างหูก็ตกลงพื้นทันที ดวงตามีจิตวิญญาณขึ้นมาอีกครั้ง เหมือนกับว่าได้โอกาสมีชีวิตอยู่อีกครั้ง แล้วหายใจเข้าลึกๆ “อ๊า..อ๊า…”

“อยากจะเอาอีกครั้ง?”

ฉินเฟิงนั่งย่อลงมา แล้วเอียงหัว

“ให้ครับ…ลูกพี่…พวกผมให้…”

ชายต่างหูสะดุ้งในทันที วินาทีต่อมาดวงตาก็หดลง ในสายตาปรากฏความหวาดกลัวขึ้น เขาสงสัยอย่างหนักมาก ว่าเมื่อกี้ปีศาจตรงหน้าของเขานี้กล้าฆ่าเขาทิ้งจริงๆ

ปีศาจจริงๆ

“ลูกพี่ครับ ที่พวกเรานี้มีแค่สามแสน เป็นเงินเก็บทั้งหมดแล้วครับ ครั้งหน้าผมค่อยให้คุณ ได้มั้ยครับ?”

ชายต่างหูคืนบัตรธนาคารของฉินเฟิงให้กับฉินเฟิง จากนั้นก็ค้นตัวจนทั่ว แล้วก็ค้นตัวลูกน้องคนอื่นดูอีก สุดท้ายก็รวมออกมาได้สามแสน เมื่อเผชิญหน้ากับฉินเฟิง ก็มีสีหน้าเศร้าสลด

เขากลัวว่าเงินไม่พอ จะถูกฉินเฟิงทำร้ายอีกครั้ง เขากลัวแล้ว

“ที่เหลือก็ติดไว้ ไปซะ”

เมื่อได้ยินคำพูดของฉินเฟิง ชายต่างหูก็ล้มลุกคลุกคลาน ยืนก็ยืนไม่ตรง แล้วก็รีบวิ่งไปอย่างเร็ว บนใบหน้ายังมีความหวาดกลัวอยู่ ลูกน้องด้านหลังพวกนั้นเองก็รีบตามไป

จากนั้น ฉินเฟิงก็มาตรงหน้าของชายคนนั้น ก้มหน้ามองชายวัยกลางคนที่น่าเวทนา แล้วถอนหายใจทีหนึ่ง “นายพล ตอนนี้นายจะฆ่าฉันไม่ได้”

“ฆ่านาย? หวางเถ่ ฉันจะฆ่านายทำไม”

“นายไม่ได้สืบพบฉัน แล้วตั้งใจมาฆ่าฉันงั้นหรอ?”

ชายวัยกลางคนนั่นก็คือหวางเถ่ ชะงักไป และพูดพึมพำ

“ฉันมีเวลาว่างนั้นที่ไหนกันละ”

ฉินเฟิงกลอกตาทีหนึ่ง

จากนั้นก็เก็บกวาดร้านขายมันเทศ หันไปมองทางหวางเถ่ “ดื่มหน่อยมั้ย?”

“ฉันไม่มีเงิน”

หวางเถ่ล้วงกระเป๋า กระเป๋าทั้งสองข้างว่างเปล่า

“ฉันเลี้ยง”

ฉินเฟิงเอือมระอาเล็กน้อย อะไรกัน นักฆ่าในบัญชีดำ ที่มีชื่อเสียงมากระดับโลก ตอนนี้กลับมาขายมันเทศ แล้วยังดูจนมาก มีชีวิตอยู่ได้แย่กว่าตัวเขาเองอีก

ทั้งสองคนหาที่วางชั้นวางมันเทศไว้ จากนั้นก็หาร้านอาหารข้างทาง ฉินเฟิงพูดว่า “เถ้าแก่ ไตหมูสามไม้ เนื้อวัวสิบไม้ ซี่โครงห้าไม้ แล้วก็เบียร์สองขวด เย็นนะครับ”

“รสชาติที่ชอบไม่ได้เปลี่ยนใช่มั้ย ของพวกนี้กินได้ใช่มั้ย?”

หลังจากที่ฉินเฟิงตะโกนบอกเสร็จ ค่อยหันหน้าไปมองหวางเถ่

“……” หวางเถ่

นายตะโกนเรียบร้อยแล้ว ค่อยมาถามฉันว่ารสชาติที่ชอบไม่เปลี่ยนใช่มั้ย ฉันจะพูดอะไรได้ แต่ที่บังเอิญคือ ความชอบของเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนไปจริงๆ จึงส่ายหัว “ไม่”

“งั้นก็ดี”

ฉินเฟิงมองหวางเถ่ ชีวิตเร่ร่อนนี้ เสื้อผ้าขาดๆ และรอยเท้าที่คนเมื่อกี้เหยียบ น่าเวทนาเป็นที่สุด ดูไม่ออกถึงการเป็นลูกน้องคนเก่งของฉินเฟิงเลย

ใช่แล้ว

เดิมที หวางเถ่ที่หวังจะฆ่าฉินเฟิง ใช้เวลาปีกว่าในการลอบเข้าอีสเตอร์แลนด์ และเพื่อการเลื่อนตำแหน่งขึ้นที่สูง และยิ่งสู้รบมามากมายเพื่อประเทศต้าหวา ฆ่าคนมานับไม่ถ้วน เครดิตดีมาก

เป็นหนึ่งในสิบนายพลที่เก่งมากของฉินเฟิง

ดังนั้นฉินเฟิงจึงคุ้นเคยกับคนๆนี้มาก รสชาติที่ชอบก็รู้ บางเวลาฉินเฟิงก็ดุด่าในฐานะนายพล บางเวลาก็สนิทสนมกันอย่างพี่น้อง บางเวลาก็เมาด้วยกัน

ในตอนนั้น มีทั้งความสง่างามและน่าเกรงขาม เวลาสั้นๆเพียงหนึ่งปีก็ได้อยู่ในตำแหน่งสิบนายพล ได้รับการจับตามองจากทั่วทิศ

เพียงแต่ว่า ยังไงซะหวางเถ่ก็เป็นนักฆ่า ตั้งแต่เริ่มจนถึงสุดท้ายก็ยังไม่ถึงภารกิจที่ต้องฆ่าฉินเฟิง แต่น่าเสียดายที่ท้ายที่สุดแล้วก็พ่ายแพ้ เทพสงครามแห่งอีสเตอร์แลนด์น่ากลัวมากเกินไป

“นายไม่ฆ่าฉัน?”

หลังจากที่เงียบไปสักพัก หวางเถ่ก็เริ่มบทสนทนาขึ้น และมองฉินเฟิง

“ทำไมจะต้องฆ่านาย?”

“ในตอนนั้นฉันเกือบจะฆ่านาย รอยแผลเป็นที่หน้าอกนั้นก็ฉันเป็นคนทำ ถ้าไม่ใช่เพราะว่านิสัยความระมัดระวังของนายดีมากเกินไป ไม่แน่ฉันก็อาจจะทำสำเร็จไปแล้ว และถ้าฉันทำสำเร็จ ประเทศต้าหวาก็ใกล้จะเข้าสู่การล่มสลาย”

หวางเถ่พูดความจริง

เดิมทีประเทศต้าหวาก็ไม่นับว่าแข็งแกร่งในโลก ภายในประเทศยังมีการต่อสู้กันเองไม่หยุด ถ้าไม่ใช่เพราะมีฉินเฟิงที่แตกต่างคนนี้ มาทำการฟื้นฟู ทำการจัดระเบียบพรมแดนใหม่ ฆ่าทำลายประเทศอื่นให้พ่ายแพ้ ตายราบ

ไม่แน่ ตั้งแต่หลายปีก่อน ประเทศต้าหวาก็คงจะไม่มีอยู่แล้ว

“พูดตามจริง ความรู้สึกของการถูกพี่น้องหักหลังนั้นรู้สึกไม่ดีจริงๆ”

ฉินเฟิงลูบแผลเป็นที่ลากยาวตั้งแต่คอถึงท้องน้อยนั้น นายพลของหลากหลายประเทศยังไม่สามารถทำให้เขาตายไปได้ แต่หวางเถ่เกือบจะเอาชชีวิตเขาได้แล้ว

ครั้งนั้นอันตรายมากจริงๆ

แต่ว่า ในขณะนี้พนักงานก็เดินเอาเบียร์มาสองขวด “มาแล้วครับ สองขวด เย็น”

“มา ที่ผ่านไปแล้วมันก็ผ่านไปแล้ว”

ฉินเฟิงยกขวดเบียร์ขึ้นหนึ่งขวด ไม่ได้โกรธแค้นอะไร

“นายใจกว้างมากกว่าที่ฉันคิดนะ นายพล” หวางเถ่เองก็ยกขวดเบียร์ขึ้นหนึ่งขวด ปรากฏรอยยิ้มที่หายไปนานออกมา เหมือนกับแรงงานข้ามชาติที่ทำงานอยู่ในไซต์งานมานาน ยิ้มออกมา

ที่จริงแล้ว นี่คือนักฆ่าที่ทำให้ทั้งโลกต่างหวาดกลัว

เคร้ง

ทั้งสองคนชนขวดกัน จากนั้นฉินเฟิงก็ดื่มหนึ่งอึก แล้ววางลงพูดว่า “ที่จริง เดิมทีในใจของฉันก็ยังมีความโกรธอยู่ ฉันในตอนนั้นให้ความสำคัญกับนายมาก แต่เมื่อเห็นขานายแล้ว ฉันก็รู้ว่า บาดแผลที่ถูกฉันทำร้ายในตอนนั้น ก็ยังไม่หายดี ไม่เพียงแต่ไม่หาย แล้วยังทำให้แผลเก่าในร่างกายเจ็บปวดขึ้นมาอีก นายพิการไปแล้ว ดังนั้นจึงวางใจนิดหน่อย”

“แต่ว่า…ทำไมถึงได้เป็นอย่างนี้ แต่งงานแล้ว?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset