เที่ยงคืน เย่เทียนเฉินพาสิบสามจ้าวสวรรค์ไปทำสงครามครั้งแรก มุ่งหน้าไปยังเกาะทะเลทรายซึ่งเป็นที่ซ่อนตัวของตระกูลเซวียนเยวี๋ยน ต้องการที่จะกำจัดตระกูลเซวียนเยวี๋ยนที่ยโสโอหังไม่เห็นหัวใคร
ในชั่วขณะที่นั่งเรือสปีดโบ๊ทสองลำมาถึงเกาะทะเลสาบ เย่เทียนเฉินก็กางพลังเขตแดนปิดกั้นออกมาครอบคลุมทั่วทั้งเกาะทะเลทรายเอาไว้ ในตระกูลเซวียนเยวี๋ยนมียอดฝีมืออยู่มากมาย นี่จะต้องเป็นการต่อสู้ครั้งใหญ่แน่นอน เย่เทียนเฉินไม่ต้องการให้เกี่ยวพันไปถึงชีวิตคนบริสุทธิ์ ดังนั้นเขาจึงต้องการกำจัดตระกูลเซวียนเยวี๋ยนอย่างเงียบเชียบ ไม่ทำให้คนธรรมดาที่กำลังหลับไหลอยู่บริเวณชายฝั่งต้องสะดุ้งตื่น
ตอนนี้เอง บนเกาะทะเลทราย ท่ามกลางคฤหาสน์ที่สร้างขึ้นของตระกูลเซวียนเยวี๋ยน ในห้องโถงตรงกลาง มีชายชราคนหนึ่งอายุประมาณเจ็ดสิบกว่าปี ในมือถือไม้เท้าอันหนึ่ง มองไปเบื้องหน้าด้วยท่าทางดุดัน เบื้องหลังของเขามีลูกชายเพียงหนึ่งเดียวของเขาอยู่ ชายชราคนนี้ก็คือผู้นำตระกูลเซวียนเยวี๋ยนนามว่าเซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่ ลูกชายของเขาก็คือเซวียนเยวี๋ยนชิว ซึ่งก็คือพ่อของเซวียนเยวี๋ยนเถิงและเซวียนเยวี๋ยนอวี่
ตระกูลเซวียนเยวี๋ยนมีอำนาจแข็งแกร่งมาโดยตลอด เมื่อปีนั้นเซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่สามารถเรียกได้ว่าฆ่าคนเป็นผักปลา ถูกผู้คนในเส้นทางเบื้องหน้าและเบื้องหลังเรียกขานว่าเป็นหัวหน้าปีศาจ ไม่ทราบว่าฆ่าคนไปแล้วมากน้อยแค่ไหน จึงสามารถสร้างอำนาจตระกูลให้แก่ตระกูลเซวียนเยวี๋ยนเช่นนี้ได้ และชื่อเสียงของตระกูลเซวียนเยวี๋ยนทั้งเส้นทางแห่งโลกเบื้องหน้าและเบื้องหลังก็ไม่ค่อยดีมาโดยตลอด เนื่องจากอยู่จนถึงอายุเท่านี้แล้วเซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่ก็ไม่รู้จักการสั่งสมบารมีเลยแม้แต่น้อย เป็นปีศาจเท่าที่ฆ่าคนโดยไม่กระพริบตา เพียงแค่ชาวบ้านธรรมดาทั่วไปจะเป็นคู่มือของเซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่ได้ที่ไหนกัน ทำได้แค่ถูกเขาฆ่าแกงก็เท่านั้น
ในช่วงยุคก่อตั้งประเทศ ต่อให้เซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่คนนี้จะหยิ่งยโสขนาดไหนก็ไม่กล้าต่อต้านประเทศ ด้วยรู้ว่าท่านผู้นำบุกเบิกประเทศเป็นคนที่เกลียดพวกเลวทรามต่ำช้า ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่คุณเป็นแค่เสือกระดาษตัวหนึ่งเลย ต่อให้เป็นเสือจริงๆ ก็จะถูกเขากำจัด ดังนั้นเซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่จึงเลือกที่จะอดกลั้นเอาไว้ รวบรวมอำนาจเอาไว้ที่มณฑลชวน หลายปีมานี้ได้กลายเป็นนายเหนือหัวของโลกเบื้องหน้าเบื้องหลังมณฑลชวน ดูเหมือนจะไม่มีใครกล้ามาหาเรื่อง ผู้ว่าการมณฑลทุกคนที่ได้ขึ้นรับตำแหน่งก็จะต้องมาเยี่ยมเยียนเซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่ มิฉะนั้นตำแหน่งผู้ว่าการมณฑลของคุณก็ไม่มั่นคงแล้ว เห็นได้ชัดว่ายโสโอหังขนาดไหน ใช้อำนาจบาตรใหญ่ขนาดไหน
ทางประเทศเองก็เคยคิดจะกำจัดตระกูลเซวียนเยวี๋ยนมาก่อน แต่ตอนนี้ตระกูลเซวียนเยวี๋ยนพัวพันถึงโลกเบื้องหน้าและเบื้องหลังของมณฑลชวนทั้งหมด หลายปีมานี้ทางประเทศได้ลงทุนเป็นเงินและทรัพย์สินจำนวนมากเพื่อพัฒนามณฑลชวน จึงไม่ต้องการให้เกิดเรื่องราวใหญ่โต ถ้าต่อสู้กันขึ้นมาจริงๆ ก็ไม่ใช่ว่าประเทศจะไม่มีความสามารถที่จะกำจัดตระกูลเซวียนเยวี๋ยน แต่ถ้าหากจะขุดรากถอนโคนตระกูลเซวียนเยวี๋ยน สุดท้ายคนที่ได้รับความลำบากก็เป็นชาวบ้านธรรมดาทั่วไป เชื่อว่าจะต้องส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตอันปลอดภัยของประชาชนแน่นอน นี่เป็นสิ่งที่ประเทศไม่ต้องการเห็น
ประเทศจีนผ่านความยากลำบากมามาเท่าไหร่แล้ว ได้รับความอับอายมากเท่าไหร่กว่าจะเดินมาถึงวันนี้ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนไม่ง่าย จะต้องหวงแหนเอาไว้ให้ดี ดังนั้นทางประเทศจึงไม่ทำให้เรื่องราวใหญ่โต เลือกที่จะใช้วิธีการถ่วงดุล หากไม่ถึงที่สุดก็จะไม่ใช้กำลัง
หลายปีมานี้ ถึงแม้ว่าตระกูลเซวียนเยวี๋ยนจะใช้อำนาจบาตรใหญ่ แต่จะอย่างไรเซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่ก็แก่ชราแล้ว มีลูกชายเพียงคนเดียวก็คือเซวียนเยวี๋ยนชิว และมีหลานชายสองคนก็คือเซวียนเยวี๋ยนเถิงและเซวียนเยวี๋ยนอวี่ ลูกหลานทั้งสามคนนี้ล้วนไม่ได้ความ ไม่มีความกล้าหาญและความทะเยอทะยานอะไร และเป็นการจำกัดการพัฒนาของตระกูลเซวียนเยวี๋ยนไปโดยปริยาย ไม่เช่นนั้นเซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่คงก่อเรื่องพลิกฟ้าไปนานแล้ว และคงให้ตระกูลเซวียนเยวี๋ยนเผยตัวสู่โลกภายนอกไปนานแล้ว
ตอนนี้เอง ดวงตาทั้งสองของเซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่เต็มไปด้วยไฟแห่งความโกรธ เกิดความคิดอยากจะฆ่าคนขึ้นมา ในตอนที่รู้ว่าหลานชายทั้งสองซึ่งก็คือเซวียนเยวี๋ยนเถิงและเซวียนเยวี๋ยนอวี่ตายไปหมดแล้วนั้น เซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่ก็ให้คนไปตรวจสอบที่เมืองหลวงในทันที ข้อมูลทั้งหมดต่างชี้ไปที่เย่เทียนเฉิน ต่อให้ไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด เขาก็ให้คนไปลงมือโหดเหี้ยม ส่งครอบครัวของเย่เทียนเฉินทั้งหมดไปสวรรค์ ทำลายล้างตระกูลเย่ทั้งตระกูล นี่คืออำนาจและความโอหังของตระกูลเซวียนเยวี๋ยน ไม่ว่าเย่เทียนเฉินจะทำหรือไม่ ขอเพียงมีเค้าลางเล็กน้อยก็จะต้องฆ่า หากตระกูลเซวียนเยวี๋ยนของเขาต้องการจะฆ่าก็จะไม่สนใจว่าจะมีหลักฐานหรือไม่ ไม่สนใจกฎหมายอะไรนั่น ต้องการอำนาจที่แข็งแกร่งขนาดไหนก็มีมากเท่านั้น
“ตระกูลเย่ ฉันจะต้องทำให้ตระกูลเย่ไม่เหลือแม้แต่หมาสักตัวให้ได้!” เซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่กำหมัดแน่น ตะโกนออกมาอย่างดุดัน
“พ่อ พ่อจะต้องแก้แค้นให้เถิงเอ๋อร์และอวี่เอ๋อร์นะครับ มือสังหารชุดดำที่พวกเราส่งไปก็ตายไปแล้ว!” เซวียนเยวี๋ยนชิวร้องไห้โอดครวญแล้วพูดออกมา
เซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่จ้องมองเซวียนเยวี๋ยนชิวผู้เป็นลูก รู้สึกโมโหเป็นอย่างมากเช่นเดียวกัน ตนเองมีเซวียนเยวี๋ยนชิวเป็นลูกชายเพียงคนเดียว นับว่าเป็นเส้นเลือดใหญ่สำหรับตระกูลเซวียนเยวี๋ยนมาโดยตลอด นี่เป็นสาเหตุที่ว่าทำไมหลังจากที่เซวียนเยวี๋ยนชิวมีเซวียนเยวี๋ยนเถิงและเซวียนเยวี๋ยนอวี่แล้ว เซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่ถึงได้ประคบประหงมขนาดนั้น เนื่องจากนี่เป็นโอกาสที่จะขยับขยายเลือดเนื้อเชื้อไขของตระกูลเซวียนเยวี๋ยนให้กว้างขวาง ตอนนี้เซวียนเยวี๋ยนเถิงและเซวียนเยวี๋ยนอวี่ก็ตายไปแล้ว เป็นการโจมตีเซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่ที่รุนแรงมาก เขาอดคิดไม่ได้ว่า หรือนี่จะเป็นกรรมของเซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่อย่างตน?
สิ่งที่ทำให้เซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่โกรธเคืองมากที่สุดก็คือ เซวียนเยวี๋ยนชิวลูกชายของตนไม่ร่ำเรียนหนังสือมาโดยตลอด จนถึงตอนนี้หลานชายทั้งสองก็ถูกฆ่าตายไปแล้ว ยังคงไม่มีวิธีการอะไรเลยสักนิด รู้จักแต่ร้องไห้โอดครวญต่อหน้าเขา เป็นเศษสวะจริงๆ
“แต่ไหนแต่ไรตระกูลเซวียนเยวี๋ยนของพวกเราก็ไม่มีใครกล้ามารังแก ตระกูลเย่ถึงกับกล้ามาสังหารหลานชายทั้งสองของฉันเซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่ กำจัดสายเลือดของตระกูลเซวียนเยวี๋ยนของพวกเรา ฉันจะต้องฆ่าล้างตระกูลเย่แน่นอน!” เซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่พูดอย่างโหดเหี้ยม
“พ่อครับ งะ งั้นตอนนี้พวกเราจะทำยังไงดี? ส่งคนไปเมืองหลวง ฆ่าคนตระกูลเย่ทั้งหมดเหรอ?” เซวียนเยวี๋ยนชิวถามด้วยท่าทีไม่เป็นโล้เป็นพาย
“ชิวเอ๋อร์ ใช้สมองของแกซะบ้าง มือสังหารชุดดำที่พวกเราส่งออกไปคนนั้นแข็งแกร่งขนาดไหน แต่ก็ตายไปแล้ว นี่แสดงให้เห็นถึงอะไร? แสดงให้เห็นว่าข่าวลือของเมืองหลวงไม่เป็นเท็จ หลานชายของตระกูลเย่ เย่เทียนเฉิน แข็งแกร่งมาก หากต้องการที่จะฆ่าเขาคงไม่ง่ายขนาดนั้น หากส่งคนไปมั่วซั่ว จะไม่เป็นการรนหาที่ตายหรือไง?” เซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่ตะโกนอย่างไม่สบอารมณ์
“ตะ แต่ไม่ทำแบบนี้ ยะ ยังจะทำยังไงได้อีก?” เซวียนเยวี๋ยนชิวถามออกมาอย่างโง่งม
“ตระกูลเซวียนเยวี๋ยนของฉันเคยได้รับความอับอายแบบนี้เมื่อไหร่กัน? มีคนกล้ามาทำแบบนี้กับตระกูลเซวียนเยวี๋ยนของฉันเมื่อไหร่กัน? พวกเราส่งมือสังหารชุดดำออกไป แต่ก็พ่ายแพ้ ตอนนี้ถ้าส่งคนออกไปแล้วแพ้อีก ฉันคงเงยหน้าขึ้นไม่ได้แล้ว ดังนั้นครั้งนี้ฉันจะต้องล้างบางตระกูลเย่ให้ได้ ให้กลุ่มอำนาจทั้งหมดได้รู้ว่า ฉันเซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่ยังไม่แก่!” เซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่พูดถึงเรื่องฮึกเหิมก็ยืนขึ้นในทันที ดวงตาทั้งสองเต็มไปด้วยความโกรธอันยโสโอหัง
“พ่อครับ คะ ความหมายของพ่อก็คือ…” เซวียนเยวี๋ยนชิวชะงักไปครู่หนึ่ง ถามด้วยดวงตาอันเปล่งประกาย
เซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่ทอดถอนใจ จากนั้นจึงนั่งลงบนเก้าอี้อีกครั้ง เขาคิดไม่ถึงว่าตระกูลเย่ซึ่งตกต่ำไปจนกลายเป็นตระกูลชั้นสามนานแล้ว และดูเหมือนว่าทุกคนจะคิดว่าจะเย่จะต้องตกต่ำลงเรื่อยๆ จนไม่อาจพลิกฐานะขึ้นมาได้ไปตลอดกาล ไหนเลยจะรู้ว่า เมื่อตระกูลเย่มาถึงยุคของเย่เทียนเฉิน จะเกิดสถานการณ์ที่ทำให้ทุกคนคาดไม่ถึง ความอับอายและเศษสวะของตระกูล ในตอนนี้กลับกลายเป็นเสาหลักเพียงหนึ่งเดียวที่สามารถฟื้นฟูครอบครัวได้ การตอบโต้ของเย่เทียนเฉินทำให้หลายคนพูดไม่ออก และทำให้กลุ่มอำนาจและตระกูลใหญ่จำนวนหนึ่งรู้สึกกดดัน จนต้องการกำจัดให้เร็ว
“ไปเรียกอาชูร่ามา!” เซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่พูดอย่างเรียบเฉย
“ครับ…ทราบแล้วครับ!” เซวียนเยวี๋ยนชิวเห็นพ่อให้เขาไปเรียกอาชูร่ามา ทั้งร่างก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มเชื่อมั่น เพราะเขารู้ว่าหากอาชูร่าลงมือ ต่อให้เย่เทียนเฉินจะร้ายกาจขนาดไหน ก็ทำได้เพียงตายไปเป็นเพื่อนลูกชายทั้งสองของตน
เสียงปังดังขึ้น ประตูใหญ่ถูกผลักออก เซวียนเยวี๋ยนชิวเพิ่งจะเดินไปถึงประตู ชายวัยกลางคนอายุประมาณสี่สิบปีคนหนึ่ง อายุพอๆ กับเซวียนเยวี๋ยนชิว ซึ่งก็คือคนที่นั่งขัดสมาธิอยู่ที่ภูเขาด้านหลังของตระกูลเซวียนเยวี๋ยนคนนั้น เขารู้สึกได้ถึงการมาเยือนของพวกเย่เทียนเฉิน และรับรู้ได้ว่าตระกูลเซวียนเยวี๋ยนจะมีภัยพิบัติเกิดขึ้นแล้ว ดังนั้นจึงมาที่นี่ด้วยตัวเอง ชายวัยกลางคนคนนี้ก็คืออาชูร่าที่เซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่พูดถึง
“ไม่ต้องแล้ว ฉันสัมผัสได้ว่ามียอดฝีมือกำลังเดินทางมาที่เกาะ ท่าทางคงจะเป็นคนที่เย่เทียนเฉินพามา!” อาชูร่ายืนพูดอยู่ตรงประตู
“อะไรนะ? แม่งเอ๊ย ไอ้ระยำนั่นฆ่าลูกของฉันไป พวกเรายังไม่ทันได้ฆ่าตระกูลเย่ มันก็มารนหาที่ตายด้วยตัวเองแล้วเหรอ? ดี ดี!” เซวียนเยวี๋ยนชิวตะโกนด้วยใบหน้าดุดัน
“บอดี้การ์ดเหล่านี้ของตระกูลเซวียนเยวี๋ยน ถึงแม้จะมีฝีมืออยู่บ้างแต่ก็ไม่ใช่คู่มือของกลุ่มคนที่บุกเข้ามากลุ่มนี้โดยเด็ดขาด!” อาชูร่าพูดอย่างเรียบเฉย
“อาชูร่า แกหมายความว่ายังไง? ความหมายก็คือคืนนี้ตะกูลเซวียนเยวี๋ยนชิวของฉันจะถูกเย่เทียนเฉินกำจัดงั้นเหรอ? เป็นไปไม่ได้ ด้วยการป้องกันบนเกาะของตระกูลเซวียนเยวี๋ยนของพวกเรา ต่อให้มีเย่เทียนเฉินอีกสิบคนก็ทำไม่ได้ จะต้องตายโดยไม่ต้องสงสัย!” เซวียนเยวี๋ยนชิวมองไปยังอาชูร่าแล้วพูดอย่างดุดัน
“เย่เทียนเฉินสิบคน? ถ้ามีเย่เทียนเฉินสิบคนจริงๆ เกรงว่าตระกูลเซวียนเยวี๋ยนคงหายไปนานแล้ว จะต้องถูกฆ่าล้างแน่นอน!” อาชูร่ายังคงพูดด้วยใบหน้าไร้อารมณ์
“แก…แกมันดูถูกตัวเอง ไอ้คนเลี้ยงเสียข้าวสุก ตระกูลเซวียนเยวี๋ยนของฉันเลี้ยงดูแกแล้วได้อะไร?” เซวียนเยวี๋ยนชิวอดไม่ได้ที่จะตะโกนใส่อาชูร่า
“ไสหัวออกไป!” เซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่ตะโกนขึ้น
“ใช่ ตอนนี้แกไปหัวออกไปให้พวกเราซะ!” เซวียนเยวี๋ยนชิวจ้องมองอาชูร่าแล้วพูดขึ้นเช่นเดียวกัน
“ฉันให้แกไปหัวออกไป ฉันมีเรื่องจะคุยกับอาชูร่า!” เซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่มองไปยังเซวียนเยวี๋ยนชิวผู้เป็นลูกของตัวเองแล้วด่าออกมา
“พ่อ…” เซวียนเยวี๋ยนชิวโง่งมโดยพลัน คิดไม่ถึงว่าพ่อของตนจะให้เขาไสหัวออกไป
“ไป!” เซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่ตะโกนขึ้นแล้วกระทุ้งไม้เท้าที่อยู่ในมือขวาอย่างโกรธเคือง
เซวียนเยวี๋ยนชิวตกใจจนลนลานวิ่งออกไป ในห้องโถงเหลือเพียงเซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่และอาชูร่า บรรยากาศกดดันเล็กน้อย เนื่องจากเซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่คิดไม่ถึงว่าเย่เทียนเฉินจะกล้ามาโจมตีตระกูลเซวียนเยวี๋ยนของเขาด้วยตัวเอง และนี่เป็นครั้งแรกที่อาชูร่าพูดว่าตระกูลเซวียนเยวี๋ยนจะมีภัยพิบัติครั้งใหญ่ ก่อนหน้านี้ในตอนที่มีเรื่องใหญ่ทั้งหลาย ดูเหมือนว่าอาชูร่าจะโจมตีครั้งเดียวก็ฆ่าศัตรูที่แข็งแกร่งไปได้ คอยกำจัดขวากหนามเพื่อตระกูลเซวียนเยวี๋ยน มีเพียงครั้งนี้เท่านั้นที่แสดงท่าทางกังวลออกมา
“อาชูร่า แกมีความมั่นใจกี่ส่วนว่าจะฆ่าเย่เทียนเฉินได้?” เซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่ไม่พูดจามากความ ถามไปตรงๆ ว่าอาชูร่าจะฆ่าเย่เทียนเฉินได้หรือไม่
“ห้าส่วน!” อาชูร่าตอบด้วยท่าทีไรอารมณ์
“เย่เทียนเฉินแข็งแกร่งขนาดนั้นเชียวเหรอ? ฉันไม่เชื่อว่าเขาจะเป็นคู่ต่อสู้ของแกได้ คืนนี้จะต้องฆ่าเย่เทียนเฉินซะ ตระกูลเซวียนเยวี๋ยนของพวกเราไม่เคยมีใครกล้าดูถูกเหยียดหยามแบบนี้มาก่อน ฉันต้องการให้เย่เทียนเฉินและตระกูลเย่ถูกทำลายล้างเป็นค่าตอบแทน!” เซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่พูดด้วยความโกรธแค้น
………….